จางยังไม่สามารถลดอคติในใจที่มีต่อต้นกับปรัชญ์ได้ เขาจึงมองไม่เห็นในข้อนี้
"มันเป็นเรื่องของผมคุณจะมายุ่งอะไรด้วย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย
"ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ที่มาก็เพราะต้นไม่ใช่คุณ"คิมพยายามสงบจิตใจให้แน่นิ่ง
"นั่นไงคุณยอมรับมาแล้ว ว่ายังคิดอะไรกับต้นอยู่"จางมองหน้าคิมด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ
"คุณนี่มันพาลจริงๆ แถมเมาอีกด้วยผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว"
"ไม่อยากคุยหรือพูดแทงใจดำ ถึงผมจะมีปัญหากับต้น คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเป็นห่วงต้นสงสารต้น เพราะยังไม่ได้เลิกกันสักหน่อย"
"ตามสบาย"คิมพูดได้แค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่มีสิทธิ์ข้อนี้
"ฝากบอกต้นด้วยให้มาหาผม ถ้าไม่มาอีกสองวันผมจะกลับอันเจีย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งอยู่
"ทำไมไม่ไปบอกเอง"คิมพูดขึ้น
"เรื่องของผม คุณไม่ต้องรู้"จางอยากพิสูจน์ใจของต้น เขาต้องการรู้ว่าต้นจะยังรักเขาอยู่ไหม ถ้าเกิดต้นไม่มาแสดงว่าต้นหมดรักเขาแล้ว จางคิดไปไกลถึงขั้นนั้นทีเดียว
"ผมไม่บอกหรอก ดีผมจะได้จีบต้นต่อถ้าเลิกกับคุณ"คิมยิ้มเยาะ
"คุณนี่มัน ออกไปจากห้องผมเลย"จางชี้มือไปที่ประตูห้อง
"ผมไปแน่ แล้วจะไปหาต้นด้วย ปล่อยให้คุณเมาเหล้าอยู่อย่างนี้แหล่ะ"พูดจบคิมก็เดินออกไปจากห้อง ในทันที ปล่อยให้จางโกรธจนหน้าแดง
ตอนแรกคิมกะจะไปหาต้นที่ห้อง แต่ในเมื่อต้นหลับอยู่เขาจึงไม่อยากไปรบกวน และกำลังสองจิตใจว่าจะบอกต้นดีไหมว่าจางให้ไปหา เพราะเขาก็อยากจะรักษาแผลใจให้ต้น แต่อีกใจก็ทำร้ายต้นไม่ได้ คิมคงทนไม่ไหว ถ้าเห็นต้นต้องปวดใจกับความรักในครั้งนี้
คิมยังไม่ติดสินใจว่าจะทำเช่นไร เขาจึงเปลื่ยนความคิดกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน ตั้งแต่เขากลับมาจากภูเก็ตก็ไปหาต้นในทันที เขาจึงรู้สึกเพลียพอสมควร
ในร้านนวดของกันวันนี้เงียบเหงา ไม่ใช่เพราะไม่มีลูกค้าแต่รู้สึกเศร้าใจเรื่องของต้นกับจาง ไม่ว่าจะเป็นกันเจ้าของร้านรู้สึกผิดพอสมควร ที่แนะนำให้ต้นมีแฟนใหม่ ส่วนริโอ้ก็เสียใจที่ไม่สามารถจะช่วยต้นได้ และเพื่อนใหม่อย่างปันก็รู้สึกเห็นใจต้นพอสมควร แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก ให้ตัวต้นเป็นคนติดสินใจเองว่าจะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้
ทั้งปันและริโอ้ได้นัดกันไว้ว่าจะไปหาต้นที่ห้อง และอยู่เป็นเพื่อนต้นในยามที่ทุกข์ใจ สองหนุ่มรอจนค่ำหมดลูกค้ากำลังเตรียมตัวจะออกไป ก็มีลูกวีไอพีมาคนละทางแต่มาพร้อมกันในเวลาที่เหมาะสม
"ปันผมมาชวนคุยไปเที่ยว"โมย่าเดินเข้ามาหาปันในระหว่างกำลังจะออกจากร้าน
"ริโอ้ ซองจะมาชวนริโอ้ไปเที่ยวด้วยกัน"ซองเข้ามาจับมือของริโอ้
ปันหันมาเห็นพอดี แต่ใจของปันตอนนี้กลับรู้สึกเฉยๆไม่ได้หึงหวงน้อยใจอย่างแต่ก่อน
"โมย่าคืนนี้ผมคงไปไม่ได้ เพราะเพื่อนผมไม่สบายต้องไปเยื่อมสักหน่อย ขอโทษด้วนะ"ปันก็รู้สึกเสียดายแต่เพื่อนต้องมาก่อน โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ต้นต้องการกำลังใจมากที่สุุด
"ไม่เป็นไรครับ เพื่อนปันก็เหมือนเพื่อนผม เราไปเยื่อมเพื่อนคุณด้วยกันก็ได้ครับ"ปันรู้สึกดีใจที่ได้ยินคำนี้จากปากของโมย่า เขาจึงคิดไปว่าเลือกคนไม่ผิดจริงๆ
"ดีจังเลยไปพร้อมกันก็ได้"ซองยิ้ม
"จะไปกันอย่างไงรถมีคันเดียว"ซองพูด
ริโอ้จ้องมองซองและอดขำไม่ได้
"เดี่๋ยวเราจะขึ้นรถสี่ล้อแดงไป ริโอ้กับซองก็ล่วงหน้าไปก่อนก็ได้
"อยากไปกันสองคนนี่เอง"ริโอ้แซว
"ไม่ต้องมาพูดดีเลยริโอ้"ถึงจะไม่ได้มีความรู้สึกดีดีกับริโอ้ก็จริง แต่ความแค้นในเรื่องปากของริโอ้ยังคงอยู่
"ไปแล้วนะ"ริโอ้จูงมือซองไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขา
ส่วนปันกับโมย่าขึ้นรถสี่ล้อแดงหน้าร้านนวดตามไปทีหลัง
"ซองกับริโอ้คู่นี้เขาน่ารักดีนะ"โมย่าทลายความเงียบที่เกิดขึ้่น เพราะเขาไม่ค่อยชอบบรรยากาศเช่นนี้
"ฮือ"ปันพยักหน้า
"คู่ของเราจะเป็นแบบนั้นได้ไหม"โมย่าพยายามสังเกตสีหน้าของปัน
"ไม่รู้ซิ"ปันหันหน้าไปทางอื่นด้วยความเขินอาย
โมย่าเอื่อมมือไปจับมือของปันแล้วมากุมไว้ หลังจากนั้นยกขึ้นมาหอมที่หลังมือ
"บ้า ทำอะไรมันบนรถนะ"ปันรีบดึงมือออก
"ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ไม่มีคนอยู่ ถึงมีผมก็ไม่สนนะ คนรักกันมันก็ต้องแสดงออกกันบ้าง"โมย่าดึงมือของปันกลับมาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ไม่ได้เอามาหอม แต่กุมไว้บนต้นขาอย่างกลัวจะหลุดหายไปไหน
"ใครเขาบอกว่ารัก ยังไม่ได้บอกซักหน่อย"คราวนี้ปันไม่ดึงมือออกปล่อยให้โมย่าจับไว้ดั่งเดิม
"ทำไมคุณตอบอย่างใจอย่างครับ ผมว่าคุณก็ต้องรักผมแน่นอน ทำไมไม่บอกมาตรงๆ ถ้าผมไม่รู้ก็นึกว่าคุณไม่รักผม ที่คุณพูดแบบนี้แสดงว่าไม่รักผมใช่ไหม ถ้าอย่างงั้นผมลงตรงนี้แหล่ะ ไปด้วยกันก็ไม่มีประโโยชน์"โมย่าทำท่ากดกริ่งให้รถหยุด
"อย่าพึ่งกด ผมก็รักคุณนะโมย่า"ปันรีบพูดขึ้นในทันที เพราะกลัวเสียโมย่าไป เพราะฝรั่งงานดีแบบนี้หายาก ปันอดเสียดายไม่ได้ ถ้าโมย่าจากไปเพราะความปากแข็งและเล่นตัวเกินงาม
"ก็แค่เนี้ย บอกตั้งแต่ทีแรกก็สิ้นเรื่องเล่นตัวอยู่ได้ เดี๋ยวนี้มันต้อง รักก็บอกไม่รักก็บอก"โมย่าดึงร่างของปันมากอดไว้ข้างกาย ปันก็ไม่ขัดขืนสมยอมเพราะกลัวอดได้แฟน
ริโอ้กับซองมาถึงก่อนโมย่ากับปัน เพราะขับมอเตอร์ไซค์มาเลยค่อนข้างเร็วพอสมควร ส่วนโมย่ากับปันตามมาทีหลัง เมื่อทั้งสี่คนมาถึงก็เห็นปันนอนร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม
เมื่อต้นเห็นสี่หนุ่มหลายเชื้อชาติมาหาที่ห้อง เขาจึงต้องรีบเช็ดน้ำตาให้แห้งและทำการต้อนรับ หาน้ำมาให้ทั้งสี่ดื่มแก้กระหาย พอต้นทำทุกอย่างเสร็จ ก็เดินไปนั่งบนเตียงนอนต่อ ด้วยสีหน้าที่บอกได้ในทันทีว่า โลกใบนี้กลั่นแกล้งเขา
"ต้นใจเย็นๆค่อยๆคิด เมื่อกี้ได้ความคิดดีจากโมย่า มีอะไรควรพูดออกไปตรงๆ ผลที่เกิดมาเป็นอย่างไรเราจะได้รู้และจะได้แก้ไขต่อไป ต้นมัวนั่งอมทุกทข์อยู่อย่างนี้ไม่มีประโยชน์หรอก"ปันมีสีหน้าที่ดูเศร้า ถึงจะพึ่งโดนบอกรักมาก่อนหน้านี้
"ริโอ้เห็นด้วยกับปันนะ ไปคุยกับจางให้รู้เรื่อง แฟนเก่าจางอาจจะพูดไม่จริงก็ได้ อย่าไปเชื่อมากนักเลย เหมือนปรัชญ์ไง ที่พูดให้จางคลางแคลงใจต้นน่ะ"ริโอ้พร้อมสนับสนุนความคิดนี้ และเริ่มรู้สึกว่าปันคิดอะไรที่ซับซ้อนมากขึ้น หลังไปไหนมาไหนกับโมย่าเป็นประจำในระยหลังมานี้
"เรื่องนั้นแค่เรื่องรองแต่เรื่องใหญ่ ที่เขาไม่เชื่อใจต้น"ต้นน้ำตาจะไหลอีกครั้งแต่พยายามกลั้นไว้ เพราะมีคนอยู่เยอะ
ริโอ้กับปันพูดหลายอย่าง ให้ไปหาจาง แต่ต้นก็ยืนกรานปฏิเสธและตัดสินใจจะเลิกจาง เพราะเหตุผลหลายอย่างที่มาในห้วงความคิดคิดของเขา จึงเป็นเหตุผลที่เหมาะที่สุดที่จะร้างลากันไป ก่อนที่จะเจ็บมากไปกว่านี้ทั้งสองฝ่าย
"แล้วแต่ต้นนะ ริโอ้แค่พูดแนวความคิดให้ฟัง ถ้าต้นจะเลิกท่าเดียวริโอ้ก็ตามใจต้น พร้อมอยู่เคียงข้างต้นนะ"ริโอ้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ในความรั้นของต้น
ส่วนปันนั้นก็สุดปัญญา ในการเกลี่ยกล่อมให้คืนดีกับจาง ที่ทั้งสองอยากให้ต้นทำความเข้าใจกับจาง ก็เพราะเห็นแล้วว่าต้นนั้นรักจางมาก ถ้าผิดหวังซ้ำสองรอบติดกันต้นจะรับไม่ไหว พวกเขาจึงอยากให้ต้นคืนดีกับจาง ส่วนอนาคตจะเป็นอย่าไรค่อยว่ากันอีกที ขอให้ปัจจุบันได้มีความสุขสมหวังไปก่อน ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆอย่างน้อยเราก็เคยมีความสุข
ทั้งพ้องเพื่อนได้คุยกับต้นร่วมสองชั่วโมงก็ขอตัวกลับ เพราะอยากให้ต้นได้พักผ่อน และอีกอย่างด้วยเวลามันก็เนิ่นนานมาพอสมควร ที่พวกเขามาหาต้น
"พวกเรากลับก่อนนะต้น เดี่๋ยววันหลังเราจะมาหาใหม่"ริโอ้ลุกขึ้นยืนก่อนและที่เหลือก็ลุกขึ้นพร้อมกัน แล้วทั้งหมดก็ล่ำลากลับ
เมื่อบรรดาเพื่อนและแฟนเพื่อนได้กลับกันหมด ความเหงาก็เริ่มเข้ามาเยือนต้นอีกครา ครั้งนี้น่าจะหนักกว่าปรัชญ์ เพราะปรัชญ์ไม่ได้ดีกับต้นซักเท่าไร ยามเมื่อเขาจากไปต้นจึงมีสองอารมรมณฺ์ ทั้งรักทั้งเกลียดปนเปผสมกันไป แต่กลับจางไม่ใช่อย่างนั้น จางดีกลับต้นและต้นก็มีความสุขยามอยู่กับจาง มากกว่าปรัชญ์หลายเท่า
ต้นยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไร กับเรื่องของจาง ปากของต้นก็บอกว่าจะไม่ไปหา แต่ใจของเขาลอยไปที่โรงแรมจางอาศััยอยู่ เขาครุ่นคิดอย่างหนัก ใจหนึ่งก็อยากเลิกกับจางเพราะดูหลายเหตุการณ์ ที่จะตามมาในอนคต น่าจะยุ่งพอสมควร แต่ก็อดสงสารตัวเองและจางไม่ได้ ที่ต้องจากลาทั้งที่ยังรักกันอยู่ ต้นไม่สามารถตัดสินใจได้เด็ดขาด เขาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วล้มนอนลงบนเตียงด้วยความกลัดกลุ้ม
ใจของต้นคิดถึงจากเจีี่ยมากแค่ไหน ในขณะเดียวกันจางก็ไม่ได้แตกต่างกันซักเท่าไร ในเหตุการณ์รักสะบั้นใจครั้งนี้ก็เช่นกัน จางเริ่มเมาแต่ก็ยังไม่เลิกดื่ม เบียร์ขวดต่อขวดจนสภาพร่างกายย่ำแย่ อย่างเห็นได้ชัดในช่วงระยะเวลาที่ไม่ได้นานเลย
ในช่วงเวลาที่กำลังจะลืมทุกข์ เพราะเมาอย่างหนัก จางก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขารู้สึกรำคาญเพราะนึกไปว่าเป็นคิม ที่เขาแสนชังเมื่อกลางวันที่ผ่านมา พอเขาไปเปิดประตูก็พบหน้า หลันหลันที่เขาก็ไม่ค่อยสบอารมณ์เช่นเดียวกัน
"อะไรกัน ยังไม่เลิกดื่มเบียร์อีกเหรอจาง สภาพดูไม่ได้แล้วนะ"หลันหลันแสนจะหงุดหงิด และรำคาญนัยน์ลูกตาอย่างมาก
"มันเรื่องของผมหลันหลันอย่ามายุ่ง"จางเดินโซซัดโซเซไปยังเตียงพร้อมถือขวดเบียร์ไปด้วย
หลันหลันเดินตามไป และคว้าขวดเบียร์ที่จางกำไวแน่นอย่างกับของล่ำค่าที่หากินยาก หลันหลันออกแรงพอสมควรถึงกระชากหลุดมาจากมือของจาง หลังจากนั้นเธอก็นำไปทิ้งในถังขยะ
"หลันหลัน ทำอย่างงั้นไม่ได้นะมันเบียร์ของผม"จางจะลุกขึ้น หลีหลันหลันจึงผลักจางจนล้ม ที่หลี่หรหงหรงกล้าผลัก ก็เพราะทราบดี ถ้าจางเมาเรี่ยวแรงจะหายหมด
"เลิกดื่มได้แล้ว พรุ่งนี้หลันหลันจะกลับอันเจีย"หลันหลันคิดดีแล้ว เพราะเขาได้จองตั๋วเครื่องบินไว้สองที่่นั่ง หลันหลันเห็นสภาพจาง ที่ดูแย่ขืนอยู่ต่อ เขาอาจจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ และเหตุผลหนึ่งที่เธอเร่งเวลากลับ เพราะกลัวต้นกับจาง จะกลับมาทำความเข้าใจกัน
"ผมยังไม่กลับ"จางพูดเสียงริ่มอ่อย เมื่อเขาไม่ได้ดื่มเบียร์ เขาจึงล้มตัวลงนอนบนเตียง
"ต้องกลับถ้าไม่กลับเห็นดีกัน เพราะหลันหลันจะบอกทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในทัน ให้พ่อแม่ญาติพี่น้องของจางฟังให้หมด รวมทั้งบรรดาเพื่อนของจาง และหลันหลันด้วย กล้าไหมจาง"หลันหลันยิ้มเยาะ
"หลันหลัน เธอมันร้ายมาก ผมไม่น่าเคยไปรักคนอย่างคุณเลย"จางพลิกตัวนอนคว่ำทุบที่เตียงนอนหลายครั้ง
"แล้วแต่จางจะคิด หลันหลันไม่สน ถ้าสิ่งที่ต้องการจะแลกด้วยอะไรหลันหลันก็ยอม"
หลันหลันเห็นอาการจางแน่นิ่ง และไม่ยอมพูดจาตอบโต้เธออีก หลันหลันจึงใจคอหวั่นเกรงเกิดเรื่องไม่ดี เธอจึงเดินไปที่ร่างของจาง และสิ่งทีเห็นกับได้ยิน คือเสียงลมหายใจของจาง หลันหลันจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันที หลังจากนั้นเก็บเสื้อผ้า ข้าวของใช้ซอยของจาง ที่เกลื่อนห้องจนดูรกและไม่สะอาดตา
เหตุผลหลักที่หลันหลันเก็บของใช้ส่วนตัวของจาง ก็เพื่อใส่กระเป๋าเดินทางกลับอันเจียคืนพรุ่งนี้ ไม่ใช่เพราะทำความสะอาดห้องแต่อย่างใด
ริโอ้ได้มาส่งซองที่โรงแรม เมื่อมาถึงในห้องนอนที่แสนจะชวนทำอะไรบางอย่าง"ดึกมากแล้วน่ะ ริโอ้กลับไปก่อนเถอะ"ซองแกล้งทั้งที่ใจอยากให้อยู่ เพราะซองเปิดใจให้ริโอ้เมื่อไม่นาน ยิ่งเห็นความจริงใจของริโอ้ที่มีต่อต้น จนเขารู้สึกอิจฉาในบางครั้ง แต่ถ้าได้คบกับต้นในฐานะคนรัก ริโอ้คงจะดูแลดีขนาดไหน ซองนั่งคิดฝันหวาน"ก็ได้ผมกลับแล้วนะ"ริโอ้รู้สีึกโกรธ ใจจริงเขาอยากนอนที่นี่"อยากกลับก็กลับไปเลยไม่ต้องมาอีกนะ"ซองรู้สึกโมโห หวังจะให้ริโอ้มายอกล้อให้คลายอารมณ์เครียดที่ริโอ้พูดเช่นนั้น เพราะเขายังกังวลใจ ในเรื่องของต้นอยู่มากพอสมควร เขาจึงไม่มีอารมณ์ที่จะมาพูดเล่น แต่ถ้าทำบางสิ่งเขาก็ไม่มีปัญหา"ก็ได้ ริโอ้กลับแล้ว" ริโอ้รีบเดินไปที่ประตูอย่างอารมณ์เสียซองเห็นริโอ้โกรธและไม่มีอารมณ์หยอกล้อคุยเล่น เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาริโอ้ แล้วกอดเอวไว้แนบกายอย่างแนบสนิท"ปล่อยริโอ้นะ จะกลับแล้ว ไม่อยู่ให้ขวางหูขวางตาหรอก"ริโอ้พยายามแกะมือของซองออก โดยใช้แรงเพียงนิดหน่อย เพราะเขามีความรู้สึกที่แปลกในจิตใจและร่างกาย ที่ไม่อยากไปจากที่นี่"อย่าไปนะ ซองขอโทษ ซองล้อเล่น"ซองรัดอ้อมกอดไว้แน่น เพราะกลัวริโอ้จะไปจริงๆใน
"แล้วเรื่องของจางต้นจะทำอย่างไร"คิมถาม เพื่ออยากรู้คำตอบและจะได้สานรอยร้าวให้สมานดังเดิ่ม และนี่เป็นโอกาสของเขาเอง ที่เขาต้องไขว่คว้าไว้หลังจากแพ้ทางรัก ให้แกจางในครั้งที่แล้ว"ต้นย้งไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี" ใจหนึ่งต้นอยากจะไปหาเจาง เพราะเขาก็ยังรักจางอยู่ไม่เปลื่ยนแปลง แต่อีกใจหนึ่งเขาเริ่มท้อกับปัญหาที่ตามมาไม่หยุดหย่อน พร้อมกับปัญหาที่จิตใจของจางที่ไม่มั่นคงเหมือนคิม"จะไม่ไปหาจางแล้วเหรอครับ"คิมลุ้นคำตอบที่จะได้รับฟัง ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกออกมาชัดเจน"คงไม่ไปแล้วแหล่ะ เพราะไม่เห็นจางโทรมาเลย"ต้นรู้สึกเสียใจ เพราะส่วนหนึ่ง ใจของเขาอยากให้จางโทรมา เพียงแค่นี้เขาก็จะไปหาจางทันที แต่ก็รอมาร่วมสองวันยังไร้วี่แววของจาง"คิดว่าทำใจได้แล้วใช่ไหม"คิมถาม"คงยังไม่ได้หรอก ถ้านานไปคงจะทำใด้เอง"ต้นรู้สึกใจหายวับหลังจากได้ยินคำถามนี้ ที่แสนจะแทงใจเขาจนสุดขั้ว"ไม่ว่าต้นจะตัดสินใจอย่างไร โยฮันยินดีอยู่เป็นเพื่อน และพร้อมดูแลต้นตลอดไป"คิมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วจ้องมองหน้าของต้นอย่างเว้าวอน ให้เห็นใจความรักที่เขามีให้ต้น"ขอบใจนะโยฮัน ต้นเข้าใจดีทุกอย่าง แต่ตอนนนี้ต้นขอเวลาให้กับตัวเองซักระยะ"ต้นห
จางรอต้นจนใกล้จะถึงเวลา ที่ต้องเข้าไปข้างในสนามบิน เขาหมดหวังแล้วที่ต้นจะมาหาเขา จางจึงพยายามทำใจก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งหลันหลันก็สังเกตเห็นจางดูซึมลง แต่เธอก็ไม่แคร์ขอแค่จางกลับไปด้วยกันเป็นพอ"รอแฟนใหม่อยู่เหรอ เขาไม่มาหรอกอย่าหวังเลย"หลันหลันยิ้มเยาะ"ผมไม่ได้รอ และก็ไม่ได้หวังหรอกว่าต้นจะมา"จางมีสีหน้าที่ซึมลงกว่าเก่าอีก"คิดได้ก็ดี ได้เวลาแล้วไปกัน"หลันหลันลุกขึ้นยืน และแอบชำเลืองมองจาง"ฮือ"จางรับคำ และเขาก็ยังไม่อยากกลับอันเจียอยากอยู่ที่เชียงใหม่ต่อ แต่ในเมื่อต้นไม่สนใจเขา จางจำใจต้องจากไปพอรถมอเตอร์ไซค์จอด ต้นลงจากรถยืนนิ่งครุ่นคิด สักพักคิมโยอันก็ลงตาม ต่อจากนั้นก็เก็บหมวกกันน็อคทั้งสองใบไว้ที่หน้ารถ"เข้าไปข้างในกัน เดี๋ยวไม่ทันจาง"คิมพูดอย่างจริงใจ และหวังว่าทั้งสองจะปรับความเข้าใจกัน"คือ ต้น เอ่อ"ต้นอ้ำอึ่ง"ไปเหอะอย่าเสียเวลาเลย ทำตามใจที่เราต้องการ"ต้นยืนคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจไปหาจางี่ย เพราะอย่างน้อยจางก็ยังบอกเขาเมื่อจะกลับอันเจีย ถ้าเกิดจางยังจะกลับอันเจียหลังจากเจอเขา ต้นก็พร้อมที่จะปล่อยจางจากไปเช่นกันต้นและคิมเดินมาอย่างรวดเร็ว และหยุดวนรอบตัวเองมองหาจา
ต้นหนุ่มตกงานประจำรักคุด รีบเดินอย่างว่องไวเพื่อมาทำอาชีพเสริม เขายิ่งรีบเหมือนยิ่งช้าเพราะผู้คนเดินกันควักไข่ว ในบริเวณถนนคนเดินที่เชียงใหม่ ต้นใช้เวลาเดินทางราวสามสิบนาที ก็มาถึงร้านนวดฝ่าเท้าข้างทาง"มาเร็วเข้าประจำที่เลย ลูกค้านั่งรอเต็มไปหมดแล้ว" ป้าทองคำตะโกนเสียงดัง พร้อมกับจัดที่ให้ลูกค้า และต้นหมอนวดหนุ่มวัยยี่สิบสาม"ครับป้า"ต้นรีบนำกระเป๋าไปเก็บไว้และมานั่งประจำตำแหน่ง ซึ่งลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียนั่งรออยู่"สวัสดีครับ"ต้นทักทายเป็นภาษาอังกฤษ เขาพอพูดได้บ้างเพราะจบชั้น ม.6 มา ลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียยิ้มให้ต้น และมองต้นนิ่งชั่วครู่ จนทำให้ต้นเริ่มรู้สึกเขินอาย"นวดกี่ชั่วโมงครับ"ต้นรีบถามเพราะจะได้เริ่มทำงาน" 1 ชั่วโมงครับ"เมื่อได้รับคำตอบแล้ว ต้นจึงจัดแจงนำผ้าชุ่มน้ำ บรรจงเช็ดเท้าอย่างช้าๆจนสะอาด หลังจากนั้นต้นก็ชะโลมน้ำมันนวดคลึงเบาๆบริเวณเท้าทั้งสองข้าง"นวดหนักๆหน่อย"หนุ่มอันเจียพูดขึ้น"ยังไม่ได้นวดครับ แค่เริ่มต้นชะโลมน้ำมันก่อน"ต้นฝืนยิ้มให้ลูกค้าแถมคิดในใจว่า โดนงานหินอีกแล้ว ถึงว่าทำไมป้าทองคำไม่นวดเองหลังจากชะโลมน้ำมันที่ฝ่ามือเสร็จ ต้นจึงเริ่มออกแรงห
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พอร์ทไท้แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้าน
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พาร์ทไทม์แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้านเอ
หลังแยกจากสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้นก็เข้ามาภายในห้องของเขา ที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเพียงพัดลมที่ทำให้คลายร้อนแค่นั้นต้นนั่งลงบนเตียง ที่มีเพียงหมอนหนุนและหมอนข้าง แต่ก่อนมีหมอนหนุนสองอัน พอปรัชญ์แฟนหนุ่มได้หนีจากไป ต้นจึงนำไปเก็บไว้ในตู้อย่างมิดชิด สายตาของต้นสอดส่ายทั่วห้อง และหยุดมองรูปของปรัชญ์แฟนหนุ่มที่เขายังไม่ได้เก็บ เพราะยังอยากเห็นใบหน้าของแฟนหนุ่มอยู่ ต้นจ้องมองดูอยู่ไม่นาน หลังจากนั้นจึงเดินไปนำรูปแฟนหนุ่ม ใส่ไว้ในลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งต้นทั้งรักทั้งเกลียดปรัชญ์ในระดับเดียวกัน รักมากจนยอมใช้หนี้ก้อนโตแทน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นแท่บหมดตัว ซึ่งเป็นจังหวะเดียว ที่โดนปลดจากร้านอาหารฝรั่ง เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดเคืองรายได้ไม่เข้าเป้าต้นจึงเป็นหนึ่งตัวเลือก ที่โดนขอร้องให้ออกจากงาน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นหันมาเป็นหมอนวด เพราะได้เงินดีและได้ทุกวันส่วนปรัชญ์แฟนหนุ่มนั้น พอรู้ว่าต้นหมดตัว จึงหนีจากไปอย่างไม่บอกลาสักคำ จนทำให้ต้นนั้นสุดซ้ำใจอย่างหนัก แต่ต้นก็ใจแข็งตัดใจไม่ตามหา ต้นล้มตัวลงนอนคิดถึงอดีตที่แสนหวานกับปรัชญ์แฟนหนุ่ม ครั้งแรกที่เจอกันในร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งต้นกับริโอ้
สี่ทุ่มเศษต้นได้กลับมาทึ่ห้องพัก โดยนั่งรถสีล้อแดงให้มาส่งที่หน้าห้องพัก แต่แล้วต้นกับต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นสองหนุ่มต่างเชื้อชาติยืนประจันหน้ากัน พร้อมจ้องจะกินเลือดกินเนื้อซึ่งกันและกันได้ในทันที เมื่อจางและคิมเห็นต้น ทั้งสองจึงรีบเดินเข้ามาหาต้นในทันที“มาดึกจัง กินข้าวมาหรือยัง”คิมถามไถ่“ถ้ายังไม่ได้กินเดี๋ยวผมพาไป”จางชิงพูดตัดหน้า“กินแล้วครับ”ต้นรีบพูดตัดบท“กินข้าวแล้วก็ดี ถ้าอย่างงั้นเราไปเที่ยวกัน ผมจะพาไปดื่มเบียร์”จางรีบพูด ด้วยไหวพริบดี“ใช่”คิมสนับสนุนความความคิดจาง เพราะเขาก็คิดเช่นนั้น ตอนแรกกะชวนกินข้าว แต่เมื่อต้นกินมาแล้ว จึงเปลื่ยนทิศทางการชวน และสนับสนุนความคิดของจาง ถึงแม้จะเป็นคู่แข่งต้นยืนคิดชั่วครู่ มีความรู้สึกอยากไปเหมือนกัน เพราะจะได้คลายเครียดจากการทำงาน ที่หามรุ่งหามค่ำ ไหนจะเรื่องปรัชญ์อดีตแฟนหนุ่มอีก ต้นจึงตัดสินใจรับปากจะไป“ก็ได้ แต่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ”ต้นพูดจบจำเป็นต้อง พาสองหนุ่มนั้นมาที่ห้องซึ่งแค่บพอสมควร หลังจากทั้งสองนั่งที่เก้าอี้ ต้นจึงจัดแจงเทน้ำให้สองหนุ่มดื่มส่วนต้นนั้นก็ขอตัวเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งคู่กัน แต่ไร้การพูดคุยได้แต่นิ่ง