หลังจากที่ได้วางแผนจับผิดจางกันมาแล้ว โดยมี ต้น นำทีม มีริโอ้เป็นทัพเสริม คราวนี้มีพี่นารีเป็นตัวช่วยอีกคน
พอเลิกงานต้นจึงมาหาจางที่ห้อง จางจะชวนออกไปข้างนอกอต่ ต้นก็ไม่ไปเพราะว่าจะสืบเรื่องราวแฟนเก่าจางให้ได้ ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
"ต้นอยากรู้จังว่าจางอยู่ที่อันเจียทำงานอะไร" ต้นช้อนตามองจาง
"ทำงานบริษัทเอกชน"
"แล้วลางานมานานๆไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม"
"ผมลาพักร้อนสองเดือน วันหยุดผมเยอะ เพราะไม่ค่อยได้ลา ทำงานอย่างเดียว"จางเกิดความสงสัย ทำไมวันนี้ต้นมาแปลก
"เมื่อก่อนต้นก็ไม่ได้เป็นหมอนวดหรอกนะ เป็นพนักงานเสริฟอยู่ที่ร้านอาหารฝรั่ง"
"ทำไมออกล่ะ"จางสงสัย
"ร้านมีปัญหาด้านการเงิน ต้นเลยโดนให้ออก"
"แล้วต้นมาเป็นหมอนวดได้อย่างไรล่ะ"
"ริโอ้เป็นอยู่ก่อนแล้ว เห็นต้นตกงาน ริโอ้เลยชวนมาเป็นหมอนวด"
"ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยนะ"
"ใช่ ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลย" ต้นมาผิดแผนลืมตัว แทนที่จะถามจาง แต่จางมาเหนือเมฆ ต้นเลยชิงถามก่อน
"จางอยู่แถวไหนของประเทศอันเจียหรอ"ต้นถามไปอย่างนั้นแหล่ะ
"ผมอยู่เจ้อเจียงแต่มาทำงานที่กวางตุ้ง"
"อ่อ แล้วอยู่คนเดียวหรอที่กวางตุ้ง"
"อยู่คนเดียว"
"แล้วแฟนเก่าที่เลิกล่ะ"เริ่มเข้าทางต้นแล้ว แต่ต้นกลับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
"ไม่ได้อยู่ด้วยกันไปมาหาสู่กันแค่นั้น"
"เหมือนต้นกับจางเลย"ต้นเริ่มเขยิบเข้าประเด็น พร้อมเหล่ตามองจาง
"ถ้าต้นจะมาอยู่กับจางก็ได้นะ "จางยิ้มถ้าต้นมาอยูด้วยจะดีมากทีเดียว ในความคิดของจาง
"มาอยู่ได้ แต่ถ้าจางกลับไปอันเจียแล้วล่ะ ต้นจะอยู่ที่ไหน"ต้นเริ่มทำเสียงอ่อยๆ
"ต้นก็กลับไปอยู่ที่ห้องต้นน่ะซิ"
ต้นแอบหน้าชา รู้สึกว่าหมดประโยชน์แล้วคงทิ้งคาอยู่ที่ไทย
"แต่ผมจะจ่ายค่าห้องทิ้งไว้ให้ต้นเอง" จางเขยิบร่างเข้ามาจับมือต้นไว้
เจอคำนี้เข้าไปต้นเริ่มใจอ่อนไม่อยากถามอะไรต่อ แต่ก็ตัดใจความดีนี้ทิ้งไป ต้องเดินตามแผนเดิมคือ รู้ให้ได้ว่าแฟนเก่าจางเป็นผู้หญิงหรือเปล่า
"ที่อันเจียมีร้านนวดไหม ต้นอยากไปนวดที่โน้น จะได้อยู่กับจางตลอดเวลา"ต้นทิ้งไพ่ครั้งสำคัญ
จางอ่ำอึ้ง กุกกัก ไม่พูดอะไรได้แต่นั่งนิ่งๆ ไม่ใช่ไม่อยากให้ต้นไป ใจจริงงเขาอยากเอาต้นไปอยู่ด้วย แต่ที่บ้านของเขารวมทั้งเพื่อนสนิท ไม่ใครู้ว่าเขาชอบผู้ชาย ส่วนตัวจางก็พึ่งมาเปิดใจกับต้นเป็นครั้งแรก
ต้นเห็นจางนั่งนิ่งไป เขาเลยหยุดถามเรื่องนี้ต่อ เพราะจริงๆแล้วต้นก็ไม่ได้อยากไปที่อันเจียหรอก แค่จางจะจ่ายค่าห้องให้ต้นก็ดีใจแท่บแย่แล้ว เพราะเงินที่หาได้จะได้เอาไปใช้หนี้ต่างๆให้หมด
"ต้นขอถามอะไรสักอย่างได้าไหม"
"ได้ซิ หลายอย่างก็ได้"จางหันมายิ้มให้ต้นอีกครั้ง
"ทำไมถึงเลิกกับแฟนเก่า"ต้นแอบชำเลืองสายตาของจาง
"เราทัศนคติเริ่มไม่ตรงกัน ไม่พูดแล้วพูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เหมือนเรื่องของต้นกับปรัชญ์"
ร้ายมากในความคิดของต้น นอกจากจะไม่บอกความจริงแล้ว ยังเอาเรื่องของต้นมาเป็นเหตุผลรับรอง
"ฮือ"ต้นพยักหน้า แต่แอบเสียดายเกือบจะได้เรื่องแล้ว
ในขณะที่ต้นกำลังจะหาคำพูดใหม่ เสียงเมาท์แชทขอจางก็ดังขึ้น จางหยิบมาดูแล้วก็กดปิด
ต้นแอบชำเลืองมองแต่เห็นไม่ช้ด ว่าเป็นรูปผู้หญิงหรือผู้ชาย ต้นรู้สึกทรมานจิตใจมาก เขาเลยตังใจจะถามตรงไปในทันว่า แฟนเก่าต้นเป็นผู้หญิงหรือผู้่ชาย
จางเมื่ออ่านข้อความที่หลันหลันส่งมา อีกไม่กี่วันเธอก็จะมาที่เชียงใหม่ สาเหตุที่หลันหลันมาหาจาง เพื่อขอคืนดี
ในวันที่หลันหลันบอกเลิกจาง สาเหตุก็มาจากทางครอบครัวาของหลันหลัน ไม่อยากได้เขาเป็นเขย เพราะถ้าเทียบจากฐานะจางเป็นแค่พนักงานในบริษัทธรรมดาคนหนึ่ง ส่วนหลันหลันเป็นถึงหลานสาวท่านประธาน
ความรักทั้งสองเกิดจากตอนเรียนมหาวิทยาลัย แล้วเกิดชอบพอกันจึงกลายเป็นความรัก เมื่อเรียนจบจางอยากไปทำานที่อื่น แต่หลันหลันไม่ยอม อยากให้ไปทำงานที่บริษัทของท่านตาหลันหลัน ด้วยความรักที่มีต่อหลันหลันมาก จางเลยยอมทำตามทุกอย่างที่หลันหลันต้องการ
กาารเลิกครัังนั้นทำให้จางปวดใจอย่างมาก เพราะเขารักหลันหลันมากแต่หลันหลันอาจรรักเขาไม่มากพอ จางเลยเกิดความเสีบใจอย่างหนัก และมีความคิดว่าถ้ากลับอันเจียคราวนี้เขาจะลาออกจากงาน และไปทำงานที่อื่นเพื่อความบริสุทธิใจ
และสิ่งหนึ่งที่จางเริ่มคิด ว่าจะมาทำงานที่ประเทศไทย แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจเท่าไรนักจึงยังไม่บอกกับต้น
ต้นตัดสินใจเด็ดขาด ว่าจะถามให้ได้ว่าแฟนจางเป็นผผู้หญิงหรือเปล่า
"จางต้นมีอะไรจะถามบอกต้นตรงๆนะต้นไม่โกรธหรอก และอีกอย่างจางก็อยากโกรธต้นะ "
"ได้จะถามอะไรหรอ"จางรู้สึกหวั่นใจ
ต้นถอนหายใจอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่กล้าพูดออกมา
"พูดมาเลยต้น" จางก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องอะไร
"แฟนเก่าจางเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"ต้นจ้องหน้าจางอย่างเขม็ง เพื่อความอยากรู้
จางรู้สึกตกใจ แต่ไม่ประหลาดใจ เพราะเขาคาดคิดไว้แล้วว่า สักวันหนึ่งจะต้องโดนถามเรื่องนี้ เหตุผลหนึ่งคือ ต้นเป็นผู้ชายคนแรกที่มีความสัมพันธ์รัก หลายสิ่งหลายอย่างเลยไม่ราบรื่น ้จาคิดว่าต้นเลยคาในเรื่องนี้ด้วย ในเมื่อปิดไปก็ไม่มีประโยชน์ จางเลยตัดสินใจบอกความจริง
"ผู้หญิงครับ"จางจับดังร่างของต้นมากอดไว้
"จางขอโทษนะที่ไม่ได้บอกต้น แต่จางไม่รู้จะบอกอย่างไรดี"
"คิดมากนะ ต้นแค่อยากรู้เฉยๆ ความสัมพันธ์เรายังเหมือนเดิม "
"จริงนะ ต้นไม่โกรผม "
"จริงซิ" ในใจต้นไม่ได้โกรธจางจริงๆ แต่แอบระแวงเพราะต้นไม่แน่ใจว่า จางอาจกลับไปรักผู้หญิงอีกหรือเปล่า ซึ่งแตกต่างจากต้นที่ไม่มีวันจะไปรักผู้หญิงได้อีกแล้ว เพราะต้นรู้ตัวมาตั้งแต่เด็ก
ตอนเด็กชอบเล่นกับผู้หญิง พอโตมาออยากมีแฟนเป็นผู้ชาย ส่วนผู้หญิงคบเป็นเพื่อนสาว
"ต้นสงสัยว่า จางมาชอบต้นได้อย่างไร" ต้นพยายามดันร่างของจางออก เพื่อรอฟังคำตอบ
"ผมก็ไม่รู้นะ ตอนอยู่ที่อันเจียก็ไม่ได้รู้สึกชอบผู้ชาย พอมาเจอหน้าต้น ความรู้สึกก็เปลื่ยนไป อยากอยู่ใกล้ๆต้น อยากเห็นหน้าต้นทุกๆวัน เมื่อเราได้อยู่ด้วยกัน ไปไหนมาด้วยกัน มันเกิดเป็นความรัก ผมยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ที่ผมแน่ใจได้คือผมรักต้น และจะไม่มีวันเปลื่ยนไปรักผู้หญิงเด็ดขาด"จางจับมือต้นไว้แน่นเป็นการสัญญา
"ผมจะรักต้นจนวันตาย"
ต้นไม่ค่อยอยากจะเชื่อในสิ่งที่จางพูด เพราะต้นเคยเห็นมามากต่อมาก ที่สุดท้ายก็กลับไปอยู่กับผู้หญิงมีครอบครัว อยู่กันอย่างมีความสุขหรือเปล่าเขาไม่แน่ใจ แต่มีแน่นอนที่กลับไปแบบเหมือนเดิม
จางเห็นต้นนิ่งไปก็เลยไม่แน่ใจว่า ต้นจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดหรือเปล่า
"ต้นไม่เชื่อที่ผมพูดหรอ"
จางมองหน้าของต้นไม่วางสายตา
"ไม่ใช่ไม่ได้เชื่อ แต่ต้น.." ต้นหยุดพูุด
จางเห็นไม่ได้การ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ เขาจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า มันเป็นความจริงที่เขารักต้นจนวันตาย จะไม่มีเปลื่ยนใจเด็ดขาด จางเลยตัดสินใจ จับศีรษะของต้นเข้ามาใกล้ๆใบหน้าของเขา แล้วบรรจงใช้ริมฝีปากของเขาประกบริมฝีปากต้นทันที
ต้นไม่ทันตั้งตัวเลยจะพยายามผลักออก แต่ต้านแรงจางไม่ไหว แถมรุกหนักมาขึ้น ในขณะเดียวกันจางก็ลุกขึ้นช้อนร่างต้น ให้อยู่ใต้วงแขนของเขา แล้วยกขึ้นแต่ริมฝีปากของจางก็ยังไม่คลายออกจากต้น จางค่อยๆเดินมายังเตียงนอน และจับร่างของต้นนอนลงบนที่นอน แล้วตัวของเขาก็ลงนอนข้างๆ
จางยังไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอย เขาสานต่อสัมพันธ์รักต่อไป ส่วนต้นรู้สึกรักครั้งนี้ที่จางมอบให้มันไหลลื่นไม่ไร้เดียงสาอย่างครั้งก่อน ต้นนั้นแอบภูมิใจที่จางพยายามทำเพื่อเขา
จางประกบริมฝีปากของต้น ดูดดื่มพัลวันสลับแลกกันอย่างกระหาย จางซุกซอนไซรซอกคอต้นอย่างบ้าคลั่ง สัมผัสทุกอณูไม่ให้ขาด เขาถกเสื้อของต้นออกจนเหนือศีรษะ ใช้มือบี้บีบนมชมพูที่หลงใหล ปากก็ขยับเม้มทั่วบริเวณ เขาสูดดูดดมทั่วเรือนร่าง จนต้นต้องสั่นสะท้านครางออกมา
อารมณ์จางเตลิดไปไกล เขามองท่อนล่างที่มีกางเกงขวางอยู่ จางจึงจัดการถอดออกจนหมดสิ้น เห็นภายในกายของต้นจนไม่มีเหลือ เขาไม่กล้าสัมผัส ต้นเหมือนรู้ จึงห้ันข้างนอนตะแครงให้จาง เขาเห็นแผ่นหลังยาวไปถึงปลายเท้า ที่ขาวนวลผ่องใสดังหยวกกล้วย จางจึงปลดอาภรณ์ทุกชิ้นไม่มีเหลือ จนเหลือเพียงร่างกายที่เปลื่อยเปล่า จางลูบไล้สะโพกของต้น แถมตีดัง เพี้ยะ ต้นถึงกับสะดุ้ง จางนั้นหมั่นเขี้ยวจึงทำเช่นนั้น เขานอนตะแครงตามต้นที่นำทางและซันขาขึ้น จับมังกรคู่กายที่ผงาดพร้อมรบ ค่อยๆบรรจงทีละนิดเพราะกลัวต้นเจ็บ ส่วนมือก็กอดต้นบีบขย้ำเนินอก ใบหน้าของเขาก็ซุกซอนไซร้ซอกคอต้นไม่หยุดหย่อน ปรนเปรอให้ต้นจนอิ่มหนำ
เมื่อมังกรคู่กายไปสุดทาง จางจึงเริ่มขยับสะโพกอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบค่อยๆทำด้วยความใจเย็น จนต้นรู้สึกแปลกใจในลีลาที่เนิบนาน แต่ได้ความรู้สึกสุขซ่านทั่วเรือนร่าง เมื่อเข้าที่เข้าทางจางจึงเพิ่มความเร็ว โยกถี่กระชั้นชิดไม่ขาดช่วง โหมแรงที่มีใส่สุดทุกท่วงท่า ใส่ลีลาที่มีแต่ก่อนให้ถึงใจ
จางดันร่างของต้นพลิกคว่ำ ส่วนตัวเขาค่อยๆตามทาบทับร่างของต้น หลังจากนั้นใช้มือยันเตียง ท่อนล่างแทรกส่วนกลางลำตัวด้านหลังของต้น เมื่อทุกอย่างพร้อมจางจึงเริ่มใช้กำลังกายถาโถมใส่ไม่ยั้ง จนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นลั่นห้อง ต้นถึงกับครางด้วยความสุขสม ท่อนล่างได้เสียดสีผิวผ้าปูที่นอนจนเคลิ้ม ยิ่งจางใส่ไม่หยุดยิ่งสะท้านอารมณ์สุขสม
จางใช้พละกำลังที่มี โหมโยกสะโพกถี่ไม่หยุดค้าง ใส่เต็มหน่วงเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ในไม่ช้าอารมณ์ที่ถวิลหากำลังตามมา จางรู้สึกได้ภายในจะออกสู้โลกภายนอก เขาจึงเร่งความเร็วครั้งสุดท้ายจนทำนบเขื่อนแตก น้ำไหลนองล้นทะลักทั่วด้วยความแรง จางเหนื่อยฟุบพับทับร่างต้น
ต้นผลักร่างจางให้นอนหงาย ส่วนเขาก็จัดการความสุขด้วยตัวเอง จางเห็นเช่นนั้นจึงอยากช่วย ด้วยการไล่สัมผัสนมชมพูเพิ่มรสชาติ ด้วยสองแรงแข็งขันจึงเร่งความสุขสมให้เกิดเร็วขึ้น ไม่ช้าฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมา กระจายทั่วบริเวณเรือนร่างของต้นอยู่หลายห่า
สองร่างนอนคู่กันบนเตียง โดยมีผ้าห่มผืนใหญ่ปิดร่างกายไว้ ต้นอนอยู่บนแขนที่ที่แต่มัดกล้าม พอได้หนุนกับหนุนสบายศีรษะ ต้นหันนอนตะแครงแล้วออกกอดจางที่หน้าอก มีกล้ามที่แน่นมาก
"วันนี้ผมทำดีไหม"จางอมยิ้ม เพราะเขารู้อยูู่แล้วว่าต้นพอใจ
"ฮิอ " ต้นพยักหน้า แต่ก็ยังไม่วางใจ เพราะต้นเป็นเพียงชายคนแรกที่จางได้สัมผัส แต่ถ้าเจอผู้หญิงออดอ้อนอีกเขาอาจเผลอใจ
ต้นจึงเตรียมตัวใช้แผนสองล่อเหยื่อ
"พรุ่งนี้เราไปเที่ยวผับกันไหม ริโอ้กับปันก็ไปนะ แล้วก็มีพี่นารีไปด้วย เราไปคลายเครียดกัน และทำความรู้จักเพื่อนของต้นให้มากขึ้น"
"ไปซิ ต้นชวนไปไหนผมไปหมดนั้นแหล่ะ เพราะทั้งชีวิตผมให้ต้นคนเดียว"
"อยู่ที่อันเจียปากหวานอย่างนี้หรือเปล่า"
"ไม่นะ ปากหวานกับต้นคนเดียว"
"ไม่เชื่อ"ต้นเอื่อมมือไปบี้ปากของจาง
จางเลยจับมือของต้นออก ดึงมือต้นออกห่าง หลังจากนั้นพลิกตัวก้มลงจูบต้นอีกครั้ง พร้อมอีกหนึ่งครั้ง
ยามค่ำคืนต่อแผนสอง ทั้งกลุ่มนัดมารวมตัวกันที่ผับแถวคูเมือง กว่าต้นกับจางออกมา กลุ่มเพื่อนสนิทก็มากันครบ ปัน ริโอ้ นารี ซึ่งมารออยู่ที่โต๊ะข้างในผับแล้ว
"ทำไมพึ่งมา"ริโอ้ถามก่อน
"พ่อสุดหล่อมัวแต่งตัวอยู่นั่นแหล่ะ"ต้นจับแขนจางแล้วเงยหน้ามอง
"ก็หล่อจริงหนอ ไม่เหมือนผัวพี่" นารีพูดด้วยความอิจฉา แต่จริงๆก็ยินดีกับต้นอย่างมากที่เลิกกับปรัชญ์ได้ แล้วมาเจอจางสุดหล่อ แต่ก็แอบหวั่นใจเหมือนกัน ว่าน้องรักคนนี้จะสมหวังในรักหรือเปล่า
นารีจึงต้องมาสานต่อแผนสอง เพื่อจับผิดจางว่ายังชอบผู้หญิงอีกหรือเปล่า
"ลืมแนะนำอย่างเป็นทางการ นี่พี่นารี"
จางยิ้มให้นารี ส่วนนารีก็ยิ้มตอบ
"พวกเราสั่งเบียร์มาแล้วนะ สั่งเผื่อต้นกับจางด้วย นั่งลงดื่มกันเลย"
ต้นจางนั่งลงข้างกัน
"เอ้า ชนแก้ว" ทั้งหมดจึงนำแก้วมาชนกันแล้วหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน แต่หลังจากนี้จะสนุกหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ทั้งกลุ่มเตรียมใจไว้แล้ว
"ปันมองแต่ฝรั่งอยู่นั้นแหล่ะ"ริโอ้ตะโกนใส่หู
"อาหารตา นานนานมาที"ปันมองค้อนริโอ้ ยังเคืองไม่หายที่ไม่ยอมไปดูหนังด้วย
"ไม่ได้เลยนะ"นารีแซวขึ้น
ในระหว่างทั้งกลุ่มกำลังพูดคุย แซวกันไปมาก็มีผู้หญิงสาวสวย ใส่เสื้อรัดรูปเปิดส่วนบนจนเห็นร่องอก ส่วนกระโปรงก็แสนสั้นเลยสะโพกมานิดหน่อย จนเห็นขาอ่อนที่ขาวเป็นยองใย
"สวัสดีทุกคน จำ จีจี้ได้ไหม" สาวสวยที่นารีไหว้วานมาเติมเต็มแผนการณ์
"จำได้แล้วจีจี้หายไปไหนมา"การแสดงขั้นเทพของต้นเริ่มเปล่งประกาย
ต้นจับแขนจางเขย่าๆ เบา จางก็หันมายิ้มให้ต้นแล้วพยักหน้า จีจี้เดินเข้ามาหาต้น แล้วแกล้งเอาร่างกายไปโดนจาง ส่วนจางก็พยายามเขยิบถอยห่าง
"สวยมากเลยไปทำอะไรมา"ต้นถาม
"ทำอะไรที่ไหนสวยธรรมชาติ คนมันสวยอยู่แล้ว แต่งนิดแต่งหน่อยมมันก็สวยแล้วเธอ แต่ใครจะไปสู้เธอได้ สวยน้อยกว่าฉันแต่ดันมีแฟนหล่อด้วย" จีจี้ใช้แขนขยับให้ไปโดนตัวของจางอีก ซึ่งจางยังนิ่งเฉยอยู่
"เราลืมแนะนำไปเลย นี่จางแฟนเรา"
"ยินดีที่รู้จัก"จีจี้เอื้อมมือไปขอจับ เธอเลยต้องก้มตัวลงจนเห็นร่องอกชัดเจน และมันอยู่พอดีกับสายตาของจาง เขาพยายมหลบสายตาไปทางอื่น แต่ก็หวั่นไหวนิดหน่อย
"ยินดีที่รู้จักเช่นกัน"จางเอื่อมมือไปจับด้วย และได้สัมผัสมือที่อ่อนนุ่มกว่าต้นมาก แถมจีจี้ใช้นิ้วหัวแม่หมดลูบตรงฝามือด้านในของจาง จนเขาเริ่มมีความรู้สึก
"จับกันนานไปแล้วนะ"นารีแกล้งพูดขึ้น
จางเลยรีบดึงมือออกในทันที แล้วยกแก้วเบียร์มาดื่มแก้เก้อ ส่วนต้นก็สังเกตุอาการของจาง ในความรู้สึกของต้นก็รู้สึกมีพิรุธนิดหน่อย
"นั่งก่อนซิ เมื่อยแย่เลย "นารีพูดขึ้น
"จะโชว์หุ่นไปถึงไหนจีจี่ "ริโอ้พูดแต่สายตาแอบชำเลืองจาง
"ใช่สาวสวยเมื่อยแย่เลย"นารีก็เช่นกันแอบชำเลือง
"นั่งเก้าอี้ผมก็ได้ เดี่ยวผมยืนเอง"จางกำลังจะลุกขึ้น
ต้นรู้สึกหมั่นไส้ ในความเป็นสุภาพบุรุษของจาง
"จางไม่ต้อง ขยับมาทางพี่นี่ เดี่ยวให้จีจี้นั่งข้างๆต้น " นารีมองไปรอบๆเห็นเก้าอี้ว่างมีอยู่
"ปันไปขอหยิบเก้าอี้ตรงฝรั่งนั่งเหลือตั้งสองตัว" นารีขยิบตาให้ปัน
ปันทำตามอย่างว่าง่าย เพราะจะได้ไปคุยกับฝรั่งหนุ่มหล่อ
ปันเดินไปยังโต๊ะของฝรั่งเพื่อขอเก้าอี้มาหนึ่งตัว ซึ่งฝรั่งก็ให้ปันมาแต่โดยดี ปันจึงเอามาถึงที่โต๊ะและตั้งแทรกกลางระหว่างต้นกับจาง"นั่งเลยจีจี้"นารีช้อนตามองจีจี้แล้วขยิบตาส่วนจางก็เขยิบเก้าอี้ถอยห่างเพื่อให้จีจี้นั่งสะดวกขึ้น ข้อสำคัญเขาไม่ค่อยไว้วางใจผู้หญิงคนนี้ ถึงจางจะเคยผ่านผู้หญิงมาเพียงคนเดียว แต่เขาก็ดูออกว่าผู้หญิงคนนี้มาไม่ดีแน่ และสิ่งที่เขาห่วงมากที่สุดคือต้นจะเข้าใจผิด เพราะต้นรู้แล้วว่าแฟนเก่าเขาเป็นผู้หญิงจีจี้พยายามใช้มารยาจับจุออ่อนของจาง"ชนแก้ว"จีจี้ชนแก้วกับทุกคน และคนสุดท้ายก็คือจาง เขาจึงชนแก้วในทันที เพราะโดยส่วนตัวจางชอบดื่มเบียร์ ไม่ใช่เพราะจีจี้แม้แต่น้อย แต่คนในกลุ่มไม่คิดเช่นนั้นเพราะบางที่ก็ชนแก้วกันแค่สองคน ข้อสำคัญจางขอชนแก้วเองอีกต่างหาก พอจีจี้ดื่มหมดชนต่ออีก ทำเช่นเดิมอยู่หลายครั้งจนสร้างความไม่พึ่งพอใจแก่ต้นและพรรคพวก จางก็สังเกตเห็นแต่ก็จะแกล้งต่อไปอีก"จางแฟนของต้นคอแข็งเป็นบ้าเลย จีจี้ยอมแพ้จีจี้เมาเบียร์"จีจี้ทำท่าจะเล่อแต่พยายามกลืนลงไป"จีจี้ ชนอีครั้งกผมกำลังได้ที่เลย"จางยื่นแก้วพร้อมชน"พอแล้วจาง"จีจี้โบกมือ แต่จางคะยั้นคะยอจนจีจี้ยอมอีกแ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จางรู้สึกยากที่จะไปเปิดประตู ไม่ว่าจะเป็นหลันหลันหรือต้น เขาก็รู้สึกจะรับในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นจางก็หาหลีกเลี่ยงได้ เขาจึงแง้มประตูเปิดออกอย่างลุ้น แล้วชะงักงันชั่วครู่“เป็นอะไรจาง”ต้นสงสัยในท่าทีที่แปลกไป ทั้งหน้าตาที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก“จางรักต้น”จางจับร่างของต้นดึงมาในอ้อมกอด“จาง”ต้นงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่จางทำอย่างกะทันกัน“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ต้นสัญญากับผมได้ไหมว่าจะไม่โกรธผม”จางดันร่างต้นออกห่างแล้วมองหน้าต้นด้วยสายตาแห่งความหวังต้นสับสนจิตใจยังไม่สามารถสัญญาได้ในทันที“จางบอกต้นก่อนได้ไหมมันเรื่องอะไร”“เรื่องมันยาวรับปากจางก่อนนะ”จางดึงร่างต้นเข้ามากอดอีดครั้งตรงหน้าประตู เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก็พบกับหลันหลันยืนมองดูด้วยสีหน้าหลากหลายอารมณ์ ที่ไม่สามารถบ่งบอกได้ทั้งตกใจ ประหลาดใจ ผิดหวัง เป็นห้วงลึกของจิตใจของหลันหลันจางนั้นพอเห็นหลันหลัน เขาถึงกับตะลึง ร่างกายชาชั่วขณะทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่นานเขาก็ดึงสติกับมาดันร่างของต้นออกห่างต้นแปลกใจพฤติกรรมของจาง จึงมองหน้าเขาเพื่อให้คลายสงสัย แต่สิ่งที่ต้นเห็นนั้นคือสายต
จางนั่งมองโทรศััพท์มือถือ เพื่อดูข้อความที่ส่งมาซึ่งเขายังอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่หลันหลันยังไม่ได้บอกเรื่องราวของเขาให้กับคนรอบข้างฟัง จางคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะไปข้อร้อง หลันหลันอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งกว่าจะไปจางก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ มันเป็นอะไรที่ยากเย็นมากที่จะเอ่ยปากขอร้องหลันหลัน แต่เขาต้องรีบไปไม่งั้นชีวิตของเขาคงวุ่นวายแน่ จางจึงเดินออกจากห้องไปหาหลันหลันจางเคาะประตูสักพักหลันหลันก็เปิดประตูออกมา หลันหลันมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก"มีอะไรจาง"หลันหลันใช้สายตาเย็นชามองจาง"เข้าไปคุยข้างในได้ไหม""ทีคุยกับผู้หญิงหน้าห้องอายเหรอ ทำไมเมื่อวานกอดกับผู้ชายไม่อาย""ผมอยากคุยธุระกับคุณ"จางมีสายตาที่เศร้าจนหลันหลันใจอ่อนขึ้นมาบ้าง ในฐานะคนเคยรักกันแต่เธอก็ยังไม่หายโกรธจางอยู่ดีจางเดินเข้ามาในห้องของหลันหลันแล้วนั่งลง ส่วนหลันหลันก็นั่งลงช้างๆ"มีอะไรว่ามา"หลันหลันถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว การมาของจางนั้นมาเพื่ออะไร"คือ ผมอยากให้หลันหลันอย่าบอกเรื่่องนี้กับใคร"พูดจบจางก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ"รู้ตัวมานานหรือยังว่าชอบ เอ่อ แบบนั้น"หลันหลันเริ่มอ่อนลง"ผมรู้ตัวที่นี
หลันหลันเคาะประตูเพียงครั้งเดียว จางก็เปิดประตูออกมาทันที และเขาก็มีสีหน้าที่ผิดหวังที่ไม่ใช่ต้น"มองหาแฟนหรอ""ต้นมาเหรอ"จางถาม"เขาฝากกุญแจไว้"หลันหลันยื่นกุญแจรถให้จาง เขาจึงรับไว้"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ"จางเดินออกจากห้องรีบมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา"จะมองอะไรแค่เขาไม่เข้าห้องก็น่าบอกได้แล้วนะว่า เขาเลิกกับจางแล้ว"หลันหลันยักไหล่เหล่สายตามองจาง ในท่าทีเย้ยหยัน"ทำใจซะ คงคิดได้คบกับจางต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร "หลันหลันหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ"ไม่จริง"จางใช้ที่เสียงหนักแน่น แต่เริ่มแผ่วในช่วงท้าย"ทำไมจะไม่จริง จางก็ลองดูซิถ้าอีกสามวันเขาไม่มาหาจาง แสดงว่าเขาคงอยากเลิกกับจาง"เมื่อจางเจอหลันหลันย้ำ เขาถึงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางคิดไปว่าต้นคงกลับไปคบกับปรัชญ์เหมือนเดิม เพราะทั้งคู่เคยรักใคร่ต่อกันมาก่อนเขา"เขาคงคิดได้ล่ะมั้ง ถ้าอยู่กับจางก็แค่มีความสุขในไทย แต่ไม่สามารถไปที่อันเจียได้ จางก็รู้ดีนี่ ที่นั้นเขายังไม่ยอมรับเรื่องนี้ จางกล้าที่จะเผชิญความจริงเหรอ"หลี่่หลันหลันพยายามสังเกตสีหน้าของจาง ซึ่งก็เป็นผลดั่งที่เธอคาดไว้ หลันหลันจึงใส่ไฟต่อไม่พอแค่นี้"ถ้า
จางยังไม่สามารถลดอคติในใจที่มีต่อต้นกับปรัชญ์ได้ เขาจึงมองไม่เห็นในข้อนี้"มันเป็นเรื่องของผมคุณจะมายุ่งอะไรด้วย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย"ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ที่มาก็เพราะต้นไม่ใช่คุณ"คิมพยายามสงบจิตใจให้แน่นิ่ง"นั่นไงคุณยอมรับมาแล้ว ว่ายังคิดอะไรกับต้นอยู่"จางมองหน้าคิมด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ"คุณนี่มันพาลจริงๆ แถมเมาอีกด้วยผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว""ไม่อยากคุยหรือพูดแทงใจดำ ถึงผมจะมีปัญหากับต้น คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเป็นห่วงต้นสงสารต้น เพราะยังไม่ได้เลิกกันสักหน่อย""ตามสบาย"คิมพูดได้แค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่มีสิทธิ์ข้อนี้"ฝากบอกต้นด้วยให้มาหาผม ถ้าไม่มาอีกสองวันผมจะกลับอันเจีย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งอยู่"ทำไมไม่ไปบอกเอง"คิมพูดขึ้น"เรื่องของผม คุณไม่ต้องรู้"จางอยากพิสูจน์ใจของต้น เขาต้องการรู้ว่าต้นจะยังรักเขาอยู่ไหม ถ้าเกิดต้นไม่มาแสดงว่าต้นหมดรักเขาแล้ว จางคิดไปไกลถึงขั้นนั้นทีเดียว"ผมไม่บอกหรอก ดีผมจะได้จีบต้นต่อถ้าเลิกกับคุณ"คิมยิ้มเยาะ"คุณนี่มัน ออกไปจากห้องผมเลย"จางชี้มือไปที่ประตูห้อง"ผมไปแน่ แล้วจะไปหาต้นด้วย ปล่อยให้คุณเมาเหล้าอยู่อย่างนี้แหล่ะ"พูดจบคิมก็เดิน
ริโอ้ได้มาส่งซองที่โรงแรม เมื่อมาถึงในห้องนอนที่แสนจะชวนทำอะไรบางอย่าง"ดึกมากแล้วน่ะ ริโอ้กลับไปก่อนเถอะ"ซองแกล้งทั้งที่ใจอยากให้อยู่ เพราะซองเปิดใจให้ริโอ้เมื่อไม่นาน ยิ่งเห็นความจริงใจของริโอ้ที่มีต่อต้น จนเขารู้สึกอิจฉาในบางครั้ง แต่ถ้าได้คบกับต้นในฐานะคนรัก ริโอ้คงจะดูแลดีขนาดไหน ซองนั่งคิดฝันหวาน"ก็ได้ผมกลับแล้วนะ"ริโอ้รู้สีึกโกรธ ใจจริงเขาอยากนอนที่นี่"อยากกลับก็กลับไปเลยไม่ต้องมาอีกนะ"ซองรู้สึกโมโห หวังจะให้ริโอ้มายอกล้อให้คลายอารมณ์เครียดที่ริโอ้พูดเช่นนั้น เพราะเขายังกังวลใจ ในเรื่องของต้นอยู่มากพอสมควร เขาจึงไม่มีอารมณ์ที่จะมาพูดเล่น แต่ถ้าทำบางสิ่งเขาก็ไม่มีปัญหา"ก็ได้ ริโอ้กลับแล้ว" ริโอ้รีบเดินไปที่ประตูอย่างอารมณ์เสียซองเห็นริโอ้โกรธและไม่มีอารมณ์หยอกล้อคุยเล่น เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาริโอ้ แล้วกอดเอวไว้แนบกายอย่างแนบสนิท"ปล่อยริโอ้นะ จะกลับแล้ว ไม่อยู่ให้ขวางหูขวางตาหรอก"ริโอ้พยายามแกะมือของซองออก โดยใช้แรงเพียงนิดหน่อย เพราะเขามีความรู้สึกที่แปลกในจิตใจและร่างกาย ที่ไม่อยากไปจากที่นี่"อย่าไปนะ ซองขอโทษ ซองล้อเล่น"ซองรัดอ้อมกอดไว้แน่น เพราะกลัวริโอ้จะไปจริงๆใน
"แล้วเรื่องของจางต้นจะทำอย่างไร"คิมถาม เพื่ออยากรู้คำตอบและจะได้สานรอยร้าวให้สมานดังเดิ่ม และนี่เป็นโอกาสของเขาเอง ที่เขาต้องไขว่คว้าไว้หลังจากแพ้ทางรัก ให้แกจางในครั้งที่แล้ว"ต้นย้งไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี" ใจหนึ่งต้นอยากจะไปหาเจาง เพราะเขาก็ยังรักจางอยู่ไม่เปลื่ยนแปลง แต่อีกใจหนึ่งเขาเริ่มท้อกับปัญหาที่ตามมาไม่หยุดหย่อน พร้อมกับปัญหาที่จิตใจของจางที่ไม่มั่นคงเหมือนคิม"จะไม่ไปหาจางแล้วเหรอครับ"คิมลุ้นคำตอบที่จะได้รับฟัง ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกออกมาชัดเจน"คงไม่ไปแล้วแหล่ะ เพราะไม่เห็นจางโทรมาเลย"ต้นรู้สึกเสียใจ เพราะส่วนหนึ่ง ใจของเขาอยากให้จางโทรมา เพียงแค่นี้เขาก็จะไปหาจางทันที แต่ก็รอมาร่วมสองวันยังไร้วี่แววของจาง"คิดว่าทำใจได้แล้วใช่ไหม"คิมถาม"คงยังไม่ได้หรอก ถ้านานไปคงจะทำใด้เอง"ต้นรู้สึกใจหายวับหลังจากได้ยินคำถามนี้ ที่แสนจะแทงใจเขาจนสุดขั้ว"ไม่ว่าต้นจะตัดสินใจอย่างไร โยฮันยินดีอยู่เป็นเพื่อน และพร้อมดูแลต้นตลอดไป"คิมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วจ้องมองหน้าของต้นอย่างเว้าวอน ให้เห็นใจความรักที่เขามีให้ต้น"ขอบใจนะโยฮัน ต้นเข้าใจดีทุกอย่าง แต่ตอนนนี้ต้นขอเวลาให้กับตัวเองซักระยะ"ต้นห
จางรอต้นจนใกล้จะถึงเวลา ที่ต้องเข้าไปข้างในสนามบิน เขาหมดหวังแล้วที่ต้นจะมาหาเขา จางจึงพยายามทำใจก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งหลันหลันก็สังเกตเห็นจางดูซึมลง แต่เธอก็ไม่แคร์ขอแค่จางกลับไปด้วยกันเป็นพอ"รอแฟนใหม่อยู่เหรอ เขาไม่มาหรอกอย่าหวังเลย"หลันหลันยิ้มเยาะ"ผมไม่ได้รอ และก็ไม่ได้หวังหรอกว่าต้นจะมา"จางมีสีหน้าที่ซึมลงกว่าเก่าอีก"คิดได้ก็ดี ได้เวลาแล้วไปกัน"หลันหลันลุกขึ้นยืน และแอบชำเลืองมองจาง"ฮือ"จางรับคำ และเขาก็ยังไม่อยากกลับอันเจียอยากอยู่ที่เชียงใหม่ต่อ แต่ในเมื่อต้นไม่สนใจเขา จางจำใจต้องจากไปพอรถมอเตอร์ไซค์จอด ต้นลงจากรถยืนนิ่งครุ่นคิด สักพักคิมโยอันก็ลงตาม ต่อจากนั้นก็เก็บหมวกกันน็อคทั้งสองใบไว้ที่หน้ารถ"เข้าไปข้างในกัน เดี๋ยวไม่ทันจาง"คิมพูดอย่างจริงใจ และหวังว่าทั้งสองจะปรับความเข้าใจกัน"คือ ต้น เอ่อ"ต้นอ้ำอึ่ง"ไปเหอะอย่าเสียเวลาเลย ทำตามใจที่เราต้องการ"ต้นยืนคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจไปหาจางี่ย เพราะอย่างน้อยจางก็ยังบอกเขาเมื่อจะกลับอันเจีย ถ้าเกิดจางยังจะกลับอันเจียหลังจากเจอเขา ต้นก็พร้อมที่จะปล่อยจางจากไปเช่นกันต้นและคิมเดินมาอย่างรวดเร็ว และหยุดวนรอบตัวเองมองหาจา