ริโอ้ได้มาส่งซองที่โรงแรม เมื่อมาถึงในห้องนอนที่แสนจะชวนทำอะไรบางอย่าง
"ดึกมากแล้วน่ะ ริโอ้กลับไปก่อนเถอะ"ซองแกล้งทั้งที่ใจอยากให้อยู่ เพราะซองเปิดใจให้ริโอ้เมื่อไม่นาน ยิ่งเห็นความจริงใจของริโอ้ที่มีต่อต้น จนเขารู้สึกอิจฉาในบางครั้ง แต่ถ้าได้คบกับต้นในฐานะคนรัก ริโอ้คงจะดูแลดีขนาดไหน ซองนั่งคิดฝันหวาน
"ก็ได้ผมกลับแล้วนะ"ริโอ้รู้สีึกโกรธ ใจจริงเขาอยากนอนที่นี่
"อยากกลับก็กลับไปเลยไม่ต้องมาอีกนะ"ซองรู้สึกโมโห หวังจะให้ริโอ้มายอกล้อให้คลายอารมณ์เครียด
ที่ริโอ้พูดเช่นนั้น เพราะเขายังกังวลใจ ในเรื่องของต้นอยู่มากพอสมควร เขาจึงไม่มีอารมณ์ที่จะมาพูดเล่น แต่ถ้าทำบางสิ่งเขาก็ไม่มีปัญหา
"ก็ได้ ริโอ้กลับแล้ว" ริโอ้รีบเดินไปที่ประตูอย่างอารมณ์เสีย
ซองเห็นริโอ้โกรธและไม่มีอารมณ์หยอกล้อคุยเล่น เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาริโอ้ แล้วกอดเอวไว้แนบกายอย่างแนบสนิท
"ปล่อยริโอ้นะ จะกลับแล้ว ไม่อยู่ให้ขวางหูขวางตาหรอก"ริโอ้พยายามแกะมือของซองออก โดยใช้แรงเพียงนิดหน่อย เพราะเขามีความรู้สึกที่แปลกในจิตใจและร่างกาย ที่ไม่อยากไปจากที่นี่
"อย่าไปนะ ซองขอโทษ ซองล้อเล่น"ซองรัดอ้อมกอดไว้แน่น เพราะกลัวริโอ้จะไปจริงๆในทันที
"อยากให้ริโอ้ไปไม่ใช่เหรอ"
"เปล่า ซองอยากให้ริโอ้อยู่กับซอง"
"ก็ได้ แต่มีข้อแลกเปลื่ยน"
"อะไร"
"ก็ให้ผมได้...คุณไงยอมไหม"ริโอ้อมยิ้ม คิดไปว่าคืนนี้เสร็จแน่
"ไม่รู้"ซองอายจนลืมตัวคลายแรงกอดริโอ้
"ไม่รู้ ผมกลับนะ"ริโอ้แกะมือของซองออกอย่างง่ายดาย
"ก็ได้"ซองรีบตอบรับในทันที เพราะเขาก็ต้องการเหมือนกัน
ริโอ้หันมาทันที พร้อมยกร่างของซองพาดบ่าไว้ ต่อจากนั้เดินไปยังที่เตียงนอน ริโอ้จับร่างของซองว่างไว้บนที่นอน ส่วนตัวเขาก็ถอดเสื้อผ้าออก พร้อมกระโจนใส่ซองในทันที โดยที่ซองไม่ทันตั้งตัว แต่เขาก็ชอบจึงปล่อยตัวปล่อยกายให้ริโอ้เชยชมอย่างเต็มที่
ริโอ้จูบซองอย่างบ้าคลั่งพรหมทั่วใบหน้า ส่วนซองก็กอดรัดฟัดเหวีี่ยงกับริโอ้ไว้แน่นไม่ยอมให้หลุดจากอ้อมกอด ริโอ้ถอดเสื้อผ้าของซองออกจะหมด เห็นร่างกายที่เปลื่อยเปล่าผิวขาวเนียนอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงไม่รอช้าใช้ริมฝีปากประกบเนินอกของซองอย่างกระหายใคร่รัก เหมือนยังกับเด็กน้อยที่หิวนม ดูดดื่มทั้งสองข้างไม่ว่างเว้น พร้อมใช้มือที่เหลือขย้ำ จับบี้เล่นจนซองกระหายร้กทวีคูณ
ริโอ้ไล่ลงมายังใต้ท้องน้อย จัดการซอนไซรทุกอณูที่ตื่นผงาดพร้อมฟาดฟัน ต่ำลงมาก็ไม่เหลือริโอ้จัดการมอบรักให้ซองจนสุดฝีมือ ดื่มด่ำกับรสชาติที่คุ้นเคย แต่แปลกใหม่ พออิ่มสำราญเปลื่ยนทิศทางเพิ่มรสสวาท
ซองรู้งานเป็นอย่างดี พลิกคว่ำยกสะโพกสูง รอเวลาริโอ้จัดการเผด็จศึก ริโอ้ไม่รอช้าคว้าของมีค่าในกายฝ่าฟันดงไพรเข้าไปในท้ันใด ซองกระตุกนิดด้วยรู้สึกโดนหนามใหญ่ทิ่มแทงจนเจ็บ แต่คราวนี้เจ็บชั่วครู่ชั่วคราวแล้วจางหาย
เมื่อไร้ความเจ็บทางกาย ริโอ้เหมือนรู้ด้วยประสบการณ์ที่ช่ำซอง เขาจึงเร่งขยับของอันล้ำค่าอย่างรวดเร็ว พร้อมสู้ไม่ถอยให้ลึกสุดขั้วเท่าที่ทำได้ จึงสร้างพึงพอใจแกซองอย่างสุดซึ้ง
นานเข้าริโอ้รู้สึกจะทานทนในรสรักที่แสนยากกว่าจะได้มา แต่ในเมืื่อใกล้ที่หมายปลายทาง เขาจึงเร่งความเร็วจนภูเขาไฟระเบิดไหลออกสู่ภายในกายของซอง
ยามนี้ซองยังไปไม่ถึงที่หมาย ริโอ้จึงใช้ฝ่ามือพิชิตรักให้ซองจนสุขทลายกระจายทั่วบริเณลำตัว
โมย่านั่งรถสีล้อแดงมากับซองจนถึงหน้าห้องพักของปัน
"พรุ่งนี้เจอกัน"ปันโบกมือล่ำลาโมย่าแล้วลงรถสี่ล้อแดง พร้อมจ่ายเงินและรอให้รถสี่ล้อแดงวิ่งผ่านไป เพื่อที่จะไดู้โมย่าอีกครั้ง ในที่นั่งผู้โดยสารแต่แล้วเขาก็ต้องแปลกใจ เพราะไม่มีใครอยู่นั้น ปันจึงหันซ้ายแลขวาพอหันหน้ากลับมาจึงเห็นโมย่ายืนอยู่ตรงหน้า
"ลงมาทำไม"ปันยังใจหายอยู่ ถึงแม้จะห็นโมย่าแล้วก็ตามที
"ลืมไปว่าห้องผมอยู่ที่นี่ ใจผมอยู่ไหนห้องผมก็อยู่นั้น" โมย่าเอ่ยขึ้น
"พูดไปเรื่อย"ปันค้อนนิดนหน่อยพอเป็นพิธี แต่ก็รู้สึกดีที่ได้ยินเช่นั้น
"ก็มันเรื่องจริง ขึ้นไปบนห้องกันเลย"โมย่ายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจะแนบชิดใบหน้าปัน
"กลับไปเลย จะมานอนนี่ได้อย่างไงห้องมันแคบ โมย่าตัวอย่างใหญ่"
"คนรักกันเรื่องพื้นที่ไม่ใช่ปัญหา"โมย่าตีหน้าตาย
ปันจึงตัดความรำคาญและยินยอมแต่โดยดี
"จะขึ้นก็ข่ึ้นมา"ภายในใจของปันนั้นเต้นระรัวด้วยความดีใจ
โมย่ารู้สึกงงทำไมปันปากกับใจไม่ตรงกันเลย แต่เขาก็ไม่สนใจอะไรมาก เดินตามปันขึ้นไปยังบนห้องนอนทันที
เมื่อมาถึงห้องนอนปันก็วางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ ส่วนโมย่าเดินตามมาก็โอบกอดเอวทันที พร้อมพรหามจูบทั่วใบหน้าของปัน
"ปล่อย อย่า เราพึ่งรู้จักกันเอง"ปันออกแรงดิ้นพอประมาณ เหมือนโมย่ารู้จึงรุกหนักขึ้นจนปันเริ่มเคลิ้ม เขาจึงคลายกอดปันแล้วซ้อนร่างของปันไว้ใต้วงแขน หลังจากนั้นก็เดินไปยังเตียงที่ผ้ามีคุ้มสีชมพูอ่อน เขาบรรจงวางปันไว้บนเตียงแล้วค่อยๆโน้นร่างเข้าหาปัน
"ไม่เอาอย่าทำนะ"ปันปฏิเสธแต่ไม่ขยับร่างหนี กลับกันนอนแน่นิ่งยังกับก้อนหินดินทราย
โมย่าไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้นไไม่ว่าปันจะพูดอะไรออกมา เขาจึงบรรเลงเพลงรัก ที่ปันขัดขืนเพียงน้อยนิด ก่อนปล่อยกายปล่อยใจไปตามความต้องการของตัวเอง
โมย่าประกบปากของปัน ดูดพัลวันแลกรสชาตแห่งรักที่ทั้งสองต้องการ โมย่าหยุดเริงรักชั่วครู่เพื่อถอดเสื้อผ้าตัวเองและรวมทั้งของปัน
เมื่อทั้งสองอยู่ในภาพเปลื่อยเปล่า โมย่าอดใจไม่ไหว อยากให้ปันเชยชมเรือนร่างของเขาบ้าง
โมย่าจึงไม่รอช้า เขานอนหงายในทันที ชี้มือมาทางส่วนกลางลำตัว ปันแกล้งลังเลชั่วครู่ หลังจากนั้นจึงเลื่อยลงมาหาของสงวน ที่มันใหญ่มหึมาจนปันกลัว แต่ใจของปันก็ยังสู้ไม่ถอยเพราะความชอบยูโรเปี้ยน จึงมอบรสรักให้โมย่าอย่างสุดความสามารถ โมย่ารู้สึกเสียวซ่านทั่วร่างกายอย่างความสุข เขาจึงอยากทำแบบนั้นมั้งกับปัน โมย่าจึงลุกขึ้นจับร่างของปันให้นอนหงาย และเผด็จศึกดั่งที่ปันมอบรสรักให้เขา ปันถึงกับสุขใจโดยที่ผ่านมามีแต่ทำให้คนอื่น
ปันรู้สึกสะท้านไปทั่วร่างจึงยากจะรับไหว จึงสั่งโมย่าให้นอนหงายเพื่อจะสานต่อรสรัก พอโมย่าพลิกร่างของรักของหวงจึงผงาดสู้ฟ้า ปันเห็นแล้วเกิดความอยากได้ เขาจึงรีบลุกขึ้นนั่งทาบทับร่างของโมย่า แต่มันยากเย็นเกินไปที่ปันจะรับไหว เชารู้สึกทรมานมากจึงส่งผลที่มาจิตใจด้วย
ความใหญ่มหึมาที่ปันได้รับนั้น มันแสนปวดสุดจะทานทน และใช้เวลานานพอสมควร ปันจึงเริ่มขยับร่างกาย และเริ่มเคลิ้มไปกับรสรักที่แสนใหญ่ และท้ายสุดความเจ็บจางหายไป กลายเป็นความร้อนสวาทของทั้งคู่ ปันโยกร่างกายเป็นจังหวะ เพราะความเจ็บนั้นหาย เหลือแต่ความใคร่สวาทมาแทนที่ ปันจึงเร่งความเร็วให้ไวขึ้นกว่าเดิม
ด้วยความแรงและเร็ว โมย่าจนสุดทัดทาน ในแต่ละครั้งที่ปันโยกสะโพก เขาแท่บคลั่งพร้อมแอ่นร่างกายตัวเกร็ง จนทำให้โมย่ายับยั้งไม่ไหว จึงทำให้เขาถึงฝั่งก่อนปันในทันที ส่วนปันก็ต้องนั่งจัดการด้วยตัวเอง ให้หายคลายความร้อนสวาท ซึ่งก็ใช้ระยะเวลาไม่นานก็สุขสมดังปราถนา
จางเริ่มรู้สึกมึนศีรษะเวียนหัวเพราะฤทธิ์เบียร์ยังค้างคาอยู่ เขาเลยค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ และรู้สึกตาจะลาย เห็นเป็นเงาคนนอนอยู่ข้างกาย จางจึงขยี้ตาและหันไปมอง เขาถึงกับแปลกประหลาดใจ เพราะคนที่นอนอยู่คือหลันหลัน นอนเปลื่อยกายใต้ผ้าห่มข้างตัวของเขา จางก็มองตัวเองที่ซึ่งไม่แตกต่างจากหลันหลัน เขาก็อยู่ในสภาพไร้อาภรณ์ติดกายเช่นกัน จางพยายามคิดพินิจความจำที่เลือนหายชั่วครู่ เขาจำได้เพียงแต่หลันหลันแย่งขวดเบียร์จากเขาไปใส่ในถังขยะ ต่อจากนั้นจางจำสิ่งใดไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
"หลันหลัน"จางเขย่าร่างกายของหลันหลันที่นอนนิ่งสงบ
หลันหลันเมื่อได้รับสัมผัสจากมือของจาง เธอจึงเริ่มรู้สึกตัวและค่อยๆลืมตาขึ้น ทันได้เห็นจางกำลังขยับตัวนั่งที่หัวเตียง
"มีอะไรจาง"หลันหลันขยับลุกนั่งโดยนำผ้าห่มปิดกายท่อนบนไว้
"หลันหลันมานอนที่นี่ได้อย่างไร"จางพยายามส่ายหน้าไปมาให้ตัวเองได้คลายความมึนงง
"จำไม่ได้จริงๆเหรอ เมื่อคืนเราทำอะไรกัน ในสภาพนี้จะทำอะไรได้ นอกจากจาง..ฮือ ทำให้หลันหลันมีความสุขมาก ไปหิวมาจากไหน"หลันหลันอมยิ้ม
"ผมเมา ผมจำอะไรไม่ได้ ผมคิดว่าไม่ได้ทำอะไรหลันหลัน"จางยังครุ่นคิดอยู่
"จำไม่ได้ก็แล้วไป แต่หลันหลันจำได้ไม่ลืมแน่"หลันหลันยิ้มด้วยสายที่เย้ายวน
"ไม่ลืมอะไร"จางยังมึนงง จับต้นชนปลายไม่ถูก
"ก็เราสองคนเคยทำอะไรกันล่ะ ก็ทำออย่างนั้นนั่นแหล่ะ นั่นแสดงว่าจางยังชอบผู้หญิงอยู่ รู้ไหมหลันหลันระบมไปทั่วตัวเลย"หลันหลันเหล่สายตามองสีหน้าจาง แล้วชี้มาที่ซอกคอที่เป็นรอยซ้ำสีแดง
"ไม่จริง"จางมีสีหน้าบึ่งตึง
"อย่าปฏิเสธความจริงข้อนี้เลยจาง"
จางครุ่นคิดอย่างหนักแต่เขาก็จำอะไรไม่ได้ จนเขาต้องเอามือกุมศีรษะไว้ด้วยความสับสน
"เรื่องนี้เอาไว้ก่อน มีอีกเรื่องที่หลันหลันจะบอกกับจาง"
"เรื่องอะไร"จางหันหน้ามามองหลันหลันทันที
"หลันหลันจองตั๋วเครื่องบินกลับอันเจียสำหรับเราสองคนไว้แล้ว เราจะกลับอันเจียคืนนี้กัน"หลันหลันซ้อนสายตาขึ้นมามองสีหน้าของจาง
"ไหนบอกอีกสามวันล่ะ"จางงง
"ที่่บริษัทมีปัญหา พ่อให้กลับโดยด่วน คืนนี้เลย"
"มันเร็วไป"
"ไม่เร็วหรอก แต่ถ้าจางไปช่วยหลันหลันแก้ปัญหานี้ได้สำเร็จ หลันหลันจะปล่อยจาง จะคบกับผู้ชายคนไหนก็ได้ หลันหลันไม่บอกใครรหรอกเรื่องที่เกิดที่นี่"หลันหลันรู้สึกว่าได้เป็นผู้ชนะที่แท้จริง
จางครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อจากนี้ ไหนจะเรื่องของต้นที่ยังไร้ทางแก้ปัญหา เขายังรักต้นอยู่ไม่อยากจากไปโดยไม่ได้บอกกล่าว แต่ก็ยังหวังว่าต้นจะกลับมาหาเขาโดยที่ไม่ต้องส่งต่อความรู้สึก แต่ก็ยังไร้วี่แว่วว่าจะมา ในความคิดของจางแสนจะสับสนอลหม่านยิ่งนัก
"ไม่ต้องคิดมากหรอก ก็กลับไปกับหลันหลันนี่แหล่ะส่วนเรื่องในไทยก็ปล่อยไปก่อน "หลันหลันย้ำอีกครั้งเพื่อให้จางตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
หลันหลันพูดไปพร้อมใส่เสื้อผ้าที่กองไว้ข้างเตียง จางมองหลันหลันเขาก็รู้สึกแปลกใจ ขนาดหลี่หลงหลงแก้ผ้าเขายังไม่รู้สึกอะไรเลย แล้วเมื่อคืนมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ถึงเขาไม่ต้องรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ก็ยังรู้สึกมันแปลกและทำใจไม่ได้ถ้าเกิิดทำลงไปจริงๆ
หลันหลันเก็บเสื้อผ้าจางใส่กระเป๋าไว้ให้แล้วนะ รอคืนนี้เรากลับอันเจียกัน"หลันหลันแต่งตัวเสร็จพอดี เธอจึงเดินออกจากห้อง เพื่อไปเก็บเสื้อผ้าของเธอเหมือนกัน
"หลันหลันเก็บของที่ห้องก่อนนะ หลี่รงหรงหันหน้ามา
"ตอนเย็นหลันหลันจะมาเรียก เมื่อถึงเวลาที่จะไปสนามบิน"หลันหลันยิ้มให้จางก่อนหันหน้ากลับ ไปเปิดประตูออกจากห้องในที่สุด
จางยังคิดไม่ออกจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อย่างไร เขาอยากจะโทรไปบอกให้ต้นรับรู้ว่าจะกลับอันเจีย เพราะเขาไม่สามารถปฏิเสธได้อีกแล้วว่าจะไม่กลับ แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวไร้การตอบสนองจากต้น สิ่งนี้ที่เขากลัวมากที่สุด แต่เขาก็ยังโกรธต้นไม่หายที่หมางเมินเขาสิ้นดี และคาใจเรื่องปรัชญ์อยู่ไม่น้อย จางขอเพียงให้ต้นมาหาเขา จางก็จะเลิกโกรธในทันที แต่ต้นก็ไม่มาหาเขาจนจางเริ่มใจหวั่นไหว ว่าต้นอาจลืมเขาไปแล้ว
หลังจากวันที่ปรัชญ์ไปก่อเรื่องในห้องของต้น ตั้งแต่วันนั้นเขาก็เทียวมาที่หอพักของต้นอีกหลายรอบ แต่ยามก็ไม่ให้ปรัชญ์เขาเพราะได้รับคำสั่งจากต้น ซึ่งยามก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย
เมื่อหลายวันเข้าปรัชญ์ก็ท้อใจจึงเลิกมาหาต้นอีก แต่เมื่อเขากลับห้องไปยิ่งแย่หนักกว่าเดิม เพราะนนท์ได้ขนเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ที่มีราคาได้หนีหายจากเขาไปแล้ว หลังจากแผนการณ์ที่ทั้งสองร่วมหัวกันทำลายต้น และไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยความกลัวนนท์จึงหลีกหนีหายไปจากชีวิตปรัชญ์
"ไอ้นนท์"ปรัชญ์โมโหอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติเขาจะเป็นฝ่ายทิ้ง แต่ครั้งนี้นนท์เป็นฝ่ายหนึจากเขาไปก่อน จึงทำให้โกรธแค้นแคืองอย่างมาก เพราะไม่มีคนรับผิดชอบค่าห้อง ค่าเลี้ยงดูเขา ปรัชญ์จึงเตะถังขยะกระเด็นกระจายทั่วบริเวณห้อง
แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ปรัชญจึงกลั้นใจรับโทรศัพท์ทั้งที่ยังมีอารมณ์โกรธอยู่มาก
"ฮัลโหล"
"เราเบียร์นะ"ปรัชญ์นึกอยู่พักแล้วก็จำได้ เบียร์ที่ทำงานบาร์โฮสต์ ที่ปรัชญ์รู้จักเพราะเคยไปทำงานที่นั่น แค่สองถึงสามวันก็เลิกทำ เพราะเขาไม่ชอบเอาใจใครและขี้เกียจปั้นยิ้ม
"มีอะไรเหรอ"
"มีงานให้ทำเอาไหม"
"งานอะไร"
"ก็งานอย่างที่เคยทำนั่นแหล่ะ"
"ได้ซิ ที่ไหนส่งโลเคชั่นมาก"
เมื่อปรัชญ์ได้โลเคชั่นที่เบียร์ส่งเขา เขาจึงกดดูและไปตามที่อยู่นั้น ส่วนงานที่ปรัชญ์ทำ มันคืองานถนัดที่เขาทำอยู่บ่อยคร้้ง ยามที่ขัดสินเรื่องเงินทอง เขาจึงไม่ปฏิเสธที่จะทำเพราะแค่บำเรอกามให้ลูกค้าเท่านั้น
ต้นหลับแล้วตื่นอยู่หลายรอบ จนเริ่มตื่นช่วงเวลาตอนเย็น ที่เขาเริ่มนอนไม่หลับ เพราะได้รับการพักผ่อนที่เกินพอดี เขาจึงลุกขึ้นนั่งแต่ก็รู้สึกหน้ามืด จึงนั่งลงพักสักครู่แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ต้นจึงพาร่างที่อ่อนปวกเปียกเดินไปเปิดประตู เพียงเปิดประตูเท่านั้นต้นก็หน้ามืดขึ้นมาอีกครั้ง เขาแท่บจะล้มลงนอนกองกับพื้น คิมที่มาหาต้น ได้รับร่างของเขาไว้ได้ทัน และประครองเดินมายังเตียงนอน
"เป็นอะไรหรือเปล่าต้น"คิมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงและมีสีหน้าวิตกกังวลพอสมควร
"ไม่เป็นไรหรอกแค่หน้ามืดนิดหน่อย"ต้นนั่งหลับตาชั่วครู่และถอนหายใจ
"แต่หน้าตาของต้นไม่ค่อยสู้ดีเลย"คิมยังมีสีหน้าที่วิตกังวล
"ไม่เป็นไรจริงๆแค่ต้นนอนนานไปหน่อย เลยทำให้หน้ามืดได้ พักสักครู่เดียวก็คงดีขึ้นแล้ว"ต้นยิ้มอย่างคนหมดแรงให้คิม
คิมเห็นต้นแล้วรู้สึกสงสารและเห็นใจอย่างมาก เขาอยากจะช่วย ให้ต้นพ้นจากเหตุปัญหาที่คาใจในครั้งนี้ เขาจะมาสมานแผลในใจต้นให้หายขาด และจะทำลืมจางให้จงได้
"แล้วเรื่องของจางต้นจะทำอย่างไร"คิมถาม เพื่ออยากรู้คำตอบและจะได้สานรอยร้าวให้สมานดังเดิ่ม และนี่เป็นโอกาสของเขาเอง ที่เขาต้องไขว่คว้าไว้หลังจากแพ้ทางรัก ให้แกจางในครั้งที่แล้ว"ต้นย้งไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี" ใจหนึ่งต้นอยากจะไปหาเจาง เพราะเขาก็ยังรักจางอยู่ไม่เปลื่ยนแปลง แต่อีกใจหนึ่งเขาเริ่มท้อกับปัญหาที่ตามมาไม่หยุดหย่อน พร้อมกับปัญหาที่จิตใจของจางที่ไม่มั่นคงเหมือนคิม"จะไม่ไปหาจางแล้วเหรอครับ"คิมลุ้นคำตอบที่จะได้รับฟัง ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกออกมาชัดเจน"คงไม่ไปแล้วแหล่ะ เพราะไม่เห็นจางโทรมาเลย"ต้นรู้สึกเสียใจ เพราะส่วนหนึ่ง ใจของเขาอยากให้จางโทรมา เพียงแค่นี้เขาก็จะไปหาจางทันที แต่ก็รอมาร่วมสองวันยังไร้วี่แววของจาง"คิดว่าทำใจได้แล้วใช่ไหม"คิมถาม"คงยังไม่ได้หรอก ถ้านานไปคงจะทำใด้เอง"ต้นรู้สึกใจหายวับหลังจากได้ยินคำถามนี้ ที่แสนจะแทงใจเขาจนสุดขั้ว"ไม่ว่าต้นจะตัดสินใจอย่างไร โยฮันยินดีอยู่เป็นเพื่อน และพร้อมดูแลต้นตลอดไป"คิมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วจ้องมองหน้าของต้นอย่างเว้าวอน ให้เห็นใจความรักที่เขามีให้ต้น"ขอบใจนะโยฮัน ต้นเข้าใจดีทุกอย่าง แต่ตอนนนี้ต้นขอเวลาให้กับตัวเองซักระยะ"ต้นห
จางรอต้นจนใกล้จะถึงเวลา ที่ต้องเข้าไปข้างในสนามบิน เขาหมดหวังแล้วที่ต้นจะมาหาเขา จางจึงพยายามทำใจก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งหลันหลันก็สังเกตเห็นจางดูซึมลง แต่เธอก็ไม่แคร์ขอแค่จางกลับไปด้วยกันเป็นพอ"รอแฟนใหม่อยู่เหรอ เขาไม่มาหรอกอย่าหวังเลย"หลันหลันยิ้มเยาะ"ผมไม่ได้รอ และก็ไม่ได้หวังหรอกว่าต้นจะมา"จางมีสีหน้าที่ซึมลงกว่าเก่าอีก"คิดได้ก็ดี ได้เวลาแล้วไปกัน"หลันหลันลุกขึ้นยืน และแอบชำเลืองมองจาง"ฮือ"จางรับคำ และเขาก็ยังไม่อยากกลับอันเจียอยากอยู่ที่เชียงใหม่ต่อ แต่ในเมื่อต้นไม่สนใจเขา จางจำใจต้องจากไปพอรถมอเตอร์ไซค์จอด ต้นลงจากรถยืนนิ่งครุ่นคิด สักพักคิมโยอันก็ลงตาม ต่อจากนั้นก็เก็บหมวกกันน็อคทั้งสองใบไว้ที่หน้ารถ"เข้าไปข้างในกัน เดี๋ยวไม่ทันจาง"คิมพูดอย่างจริงใจ และหวังว่าทั้งสองจะปรับความเข้าใจกัน"คือ ต้น เอ่อ"ต้นอ้ำอึ่ง"ไปเหอะอย่าเสียเวลาเลย ทำตามใจที่เราต้องการ"ต้นยืนคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจไปหาจางี่ย เพราะอย่างน้อยจางก็ยังบอกเขาเมื่อจะกลับอันเจีย ถ้าเกิดจางยังจะกลับอันเจียหลังจากเจอเขา ต้นก็พร้อมที่จะปล่อยจางจากไปเช่นกันต้นและคิมเดินมาอย่างรวดเร็ว และหยุดวนรอบตัวเองมองหาจา
ต้นหนุ่มตกงานประจำรักคุด รีบเดินอย่างว่องไวเพื่อมาทำอาชีพเสริม เขายิ่งรีบเหมือนยิ่งช้าเพราะผู้คนเดินกันควักไข่ว ในบริเวณถนนคนเดินที่เชียงใหม่ ต้นใช้เวลาเดินทางราวสามสิบนาที ก็มาถึงร้านนวดฝ่าเท้าข้างทาง"มาเร็วเข้าประจำที่เลย ลูกค้านั่งรอเต็มไปหมดแล้ว" ป้าทองคำตะโกนเสียงดัง พร้อมกับจัดที่ให้ลูกค้า และต้นหมอนวดหนุ่มวัยยี่สิบสาม"ครับป้า"ต้นรีบนำกระเป๋าไปเก็บไว้และมานั่งประจำตำแหน่ง ซึ่งลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียนั่งรออยู่"สวัสดีครับ"ต้นทักทายเป็นภาษาอังกฤษ เขาพอพูดได้บ้างเพราะจบชั้น ม.6 มา ลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียยิ้มให้ต้น และมองต้นนิ่งชั่วครู่ จนทำให้ต้นเริ่มรู้สึกเขินอาย"นวดกี่ชั่วโมงครับ"ต้นรีบถามเพราะจะได้เริ่มทำงาน" 1 ชั่วโมงครับ"เมื่อได้รับคำตอบแล้ว ต้นจึงจัดแจงนำผ้าชุ่มน้ำ บรรจงเช็ดเท้าอย่างช้าๆจนสะอาด หลังจากนั้นต้นก็ชะโลมน้ำมันนวดคลึงเบาๆบริเวณเท้าทั้งสองข้าง"นวดหนักๆหน่อย"หนุ่มอันเจียพูดขึ้น"ยังไม่ได้นวดครับ แค่เริ่มต้นชะโลมน้ำมันก่อน"ต้นฝืนยิ้มให้ลูกค้าแถมคิดในใจว่า โดนงานหินอีกแล้ว ถึงว่าทำไมป้าทองคำไม่นวดเองหลังจากชะโลมน้ำมันที่ฝ่ามือเสร็จ ต้นจึงเริ่มออกแรงห
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พอร์ทไท้แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้าน
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พาร์ทไทม์แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้านเอ
หลังแยกจากสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้นก็เข้ามาภายในห้องของเขา ที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเพียงพัดลมที่ทำให้คลายร้อนแค่นั้นต้นนั่งลงบนเตียง ที่มีเพียงหมอนหนุนและหมอนข้าง แต่ก่อนมีหมอนหนุนสองอัน พอปรัชญ์แฟนหนุ่มได้หนีจากไป ต้นจึงนำไปเก็บไว้ในตู้อย่างมิดชิด สายตาของต้นสอดส่ายทั่วห้อง และหยุดมองรูปของปรัชญ์แฟนหนุ่มที่เขายังไม่ได้เก็บ เพราะยังอยากเห็นใบหน้าของแฟนหนุ่มอยู่ ต้นจ้องมองดูอยู่ไม่นาน หลังจากนั้นจึงเดินไปนำรูปแฟนหนุ่ม ใส่ไว้ในลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งต้นทั้งรักทั้งเกลียดปรัชญ์ในระดับเดียวกัน รักมากจนยอมใช้หนี้ก้อนโตแทน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นแท่บหมดตัว ซึ่งเป็นจังหวะเดียว ที่โดนปลดจากร้านอาหารฝรั่ง เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดเคืองรายได้ไม่เข้าเป้าต้นจึงเป็นหนึ่งตัวเลือก ที่โดนขอร้องให้ออกจากงาน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นหันมาเป็นหมอนวด เพราะได้เงินดีและได้ทุกวันส่วนปรัชญ์แฟนหนุ่มนั้น พอรู้ว่าต้นหมดตัว จึงหนีจากไปอย่างไม่บอกลาสักคำ จนทำให้ต้นนั้นสุดซ้ำใจอย่างหนัก แต่ต้นก็ใจแข็งตัดใจไม่ตามหา ต้นล้มตัวลงนอนคิดถึงอดีตที่แสนหวานกับปรัชญ์แฟนหนุ่ม ครั้งแรกที่เจอกันในร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งต้นกับริโอ้
สี่ทุ่มเศษต้นได้กลับมาทึ่ห้องพัก โดยนั่งรถสีล้อแดงให้มาส่งที่หน้าห้องพัก แต่แล้วต้นกับต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นสองหนุ่มต่างเชื้อชาติยืนประจันหน้ากัน พร้อมจ้องจะกินเลือดกินเนื้อซึ่งกันและกันได้ในทันที เมื่อจางและคิมเห็นต้น ทั้งสองจึงรีบเดินเข้ามาหาต้นในทันที“มาดึกจัง กินข้าวมาหรือยัง”คิมถามไถ่“ถ้ายังไม่ได้กินเดี๋ยวผมพาไป”จางชิงพูดตัดหน้า“กินแล้วครับ”ต้นรีบพูดตัดบท“กินข้าวแล้วก็ดี ถ้าอย่างงั้นเราไปเที่ยวกัน ผมจะพาไปดื่มเบียร์”จางรีบพูด ด้วยไหวพริบดี“ใช่”คิมสนับสนุนความความคิดจาง เพราะเขาก็คิดเช่นนั้น ตอนแรกกะชวนกินข้าว แต่เมื่อต้นกินมาแล้ว จึงเปลื่ยนทิศทางการชวน และสนับสนุนความคิดของจาง ถึงแม้จะเป็นคู่แข่งต้นยืนคิดชั่วครู่ มีความรู้สึกอยากไปเหมือนกัน เพราะจะได้คลายเครียดจากการทำงาน ที่หามรุ่งหามค่ำ ไหนจะเรื่องปรัชญ์อดีตแฟนหนุ่มอีก ต้นจึงตัดสินใจรับปากจะไป“ก็ได้ แต่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ”ต้นพูดจบจำเป็นต้อง พาสองหนุ่มนั้นมาที่ห้องซึ่งแค่บพอสมควร หลังจากทั้งสองนั่งที่เก้าอี้ ต้นจึงจัดแจงเทน้ำให้สองหนุ่มดื่มส่วนต้นนั้นก็ขอตัวเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งคู่กัน แต่ไร้การพูดคุยได้แต่นิ่ง
เมื่อมาถึงห้องพักในโรงแรมของจาง ต้นก็มองไปรอบๆห้องที่ดูใหญ่พอสมควร“นั่งลงก่อนซิ”จางเชื้อเชิญ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกตื่นเต้นใจคึกครื้น เมื่อต้นนั่งลงข้างๆ“จะอาบน้ำหรือว่านอนเลย”จางถาม“อาบซิ เหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว”ต้นเอ่ยขึ้นด้วยความงง จะให้นอนโดยไม่อาบน้ำ เลยสงสัยจางคงทำบ่อยจนชิน“งั้นผมเอาผ้าเช็ดตัวให้”จางเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ มายื่นให้ต้นผลัดเปลื่ยน ต้นรับมาไว้พาดบ่าหลังจากนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที จางอดเสียดายไม่ได้เห็นเรือนร่างของต้นอีกครั้งจางสลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพื่อเอาเวลาไปหาเสื้อกับกางเกงในต้นใส่นอนในคืนนี้ แต่อีกใจหนึ่งคิดว่าต้นอาจไม่ใส่ เพราะมาอ่อยถึงห้องขนาดนี้จางเดินไปค้นเสื้อผ้ามาสองชุด ที่เหมาะสำหรับใส่นอน มาวางไว้บนเตียงนอนเพื่อรอให้ต้นมาสวมใส่ ต้นนั้นใช้เวลาไม่นานนักก็อาบน้ำเสร็จ เขาจึงเดินออกมาในสภาพเปลื่อยกายท่อนบน จางเห็นถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความกระหาย"จางเตรียมเสื้อกับกางเกงไว้ให้ต้น"จางชี้มือไปที่กองเสื้อผ้าที่วางไว้"ขอบใจมากนะจาง"ต้นยิ้มให้พร้อมเดินไปหยิบเสื้อมาใส่"มองอะไรจาง รีบไปอาบน้ำจะได้มานอน"ต้นรู้สึกเขินที่เห็นสายตาจาง มองอย่างกับอยากกลืนกิ