ต้นหนุ่มตกงานประจำรักคุด รีบเดินอย่างว่องไวเพื่อมาทำอาชีพเสริม เขายิ่งรีบเหมือนยิ่งช้าเพราะผู้คนเดินกันควักไข่ว ในบริเวณถนนคนเดินที่เชียงใหม่ ต้นใช้เวลาเดินทางราวสามสิบนาที ก็มาถึงร้านนวดฝ่าเท้าข้างทาง
"มาเร็วเข้าประจำที่เลย ลูกค้านั่งรอเต็มไปหมดแล้ว" ป้าทองคำตะโกนเสียงดัง พร้อมกับจัดที่ให้ลูกค้า และต้นหมอนวดหนุ่มวัยยี่สิบสาม
"ครับป้า"ต้นรีบนำกระเป๋าไปเก็บไว้และมานั่งประจำตำแหน่ง ซึ่งลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียนั่งรออยู่
"สวัสดีครับ"ต้นทักทายเป็นภาษาอังกฤษ เขาพอพูดได้บ้างเพราะจบชั้น ม.6 มา
ลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียยิ้มให้ต้น และมองต้นนิ่งชั่วครู่ จนทำให้ต้นเริ่มรู้สึกเขินอาย
"นวดกี่ชั่วโมงครับ"ต้นรีบถามเพราะจะได้เริ่มทำงาน
" 1 ชั่วโมงครับ"
เมื่อได้รับคำตอบแล้ว ต้นจึงจัดแจงนำผ้าชุ่มน้ำ บรรจงเช็ดเท้าอย่างช้าๆจนสะอาด หลังจากนั้นต้นก็ชะโลมน้ำมันนวดคลึงเบาๆบริเวณเท้าทั้งสองข้าง
"นวดหนักๆหน่อย"หนุ่มอันเจียพูดขึ้น
"ยังไม่ได้นวดครับ แค่เริ่มต้นชะโลมน้ำมันก่อน"ต้นฝืนยิ้มให้ลูกค้าแถมคิดในใจว่า โดนงานหินอีกแล้ว ถึงว่าทำไมป้าทองคำไม่นวดเอง
หลังจากชะโลมน้ำมันที่ฝ่ามือเสร็จ ต้นจึงเริ่มออกแรงหนักขึ้น จนเป็นที่พอใจของหนุ่มอันเจีย ส่วนต้นก็รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ก็อดทนเพราะต้องทำเพื่อเงิน มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ต้นนวดฝ่าเท้าไปเรื่อยๆและไม่ได้มองหนุ่มอันเจียเลย ถึงจะเห็นครั้งแรกว่าหล่อ ขาว ตี๋ แต่มาสดุดกับคำว่าหนักๆ และต้องออกแรงพอสมควร โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่มือต้องรีดทั้งฝ่าเท้า หน่อง แต่ก็มีบ้างที่เขาใช้ไม้กดจุด แต่จางหนุ่มอันเจียไม่รู้สึกเจ็บอะไร กลับกันเขารู้สึกสบายเท้า
จางเหม่อมองผู้คน ที่เดินไปมาบริเวณตรงหน้าเขา มีทั้ง อันเจีย ฝรั่ง และคนไทยที่มากที่สุด เขามองด้วยความเพลิดเพลินใจ สบายเท้าและกาย เมื่อต้นเริ่มมานวด คอ บ่า ไหล่ ให้เขา จางหลับตาพริ้มด้วยรู้สึกว่ามันคลายเมื่อยได้ลงเยอะ แต่แล้วความเพลิดเพลินก็ได้หายไป
"เสร็จแล้วครับ" ต้นบอกกล่าว แล้วยืนรอรับเงิน
"เท่าไรครับ" จางหยิบกระเป๋าเงินออกมา
"150 บาท ครับ"
จางควักเงินในกระเป๋าให้ 200 บาทแล้วยื่นให้ต้น
"ไม่ต้องทอน ทิป"
"ขอบคุณครับ"ต้นยกมือไหว้แล้วยิ้ม
จางก็เช่นกันยิ้มให้ต้น แล้วเขาก็เดินจากไปในท่ามกลางฝูง ส่วนต้นก็ยืนมองจนจางจนลับสายตา
"ไอ้ต้นยืนเหม่อหาอะไรมาทำงานต่อ เห็นไหมลูกค้าฝรั่งนั่งรออยู่" ป้าทองคำยืนท้าวเอวบ่นแล้วถอนหายใจ
"ครับป้า" ต้นรับคำแล้วรีบเก็บผ้าที่ใช้เสร็จไปวางไว้ หลังจากนั้นล้างมือแล้วมานั่งที่เดิม ส่วนลูกค้าก็เป็นฝรั่งหญิงสูงอายุ
"ทำไมวันนี้มาช้าจัง"นารีเพื่อนสาววัยใกล้เคียงถามอย่างสงสัย
"ติดงานที่ร้านออกมาไม่ได้เลย"ต้นหันมามองหน้านารี
"ดีแล้วนึกว่าติดผู้"นารีพูดพลางยิ้มติดตลกเพื่อเบี่ยงความรู้สึกของต้น
"บ้าจะติดได้ไง พึ่งอกหัก" ต้นค้อนนิดหน่อย
"ให้มานวดนะ ไม่ได้ให้มาคุยกัน เสียงดังรบกวนลูกค้า" ป้าทองคำตะโกนสุดเสียงเพราะอยู่ไกล
เมื่อทั้งสองได้ยินเช่นนั้นเลยหยุดชะงัก มองตากันนิดนึงแล้วอมยิ้ม แล้วทำการนวดฝ่าเท้ากันต่อไป ไม่คุยกันแม้แต่น้อย
" ว่าไง ต้น วันนี้ได้กั่ชั่วโมงแล้ว " นนท์หนุ่มวัยยี่สิบหก ซึ่งมาช้ากว่าต้นอีก มานั่งใกล้ๆเพื่อมานวดลูกค้ารายใหม่ ที่พึ่งมาเป็นฝรั่งหนุ่มใหญ่
"สี่ชั่วโมงครับพี่"ต้นหันมาพูดด้วย ทั้งๆที่พึ่งโดนว่าเมื่อครู่
" อ๋อ เหรอ พี่นวดที่ร้านได้ 5 ชั่วโมง นี่ชั่วโมงที่หกนะ"
" ครับ"ต้นแค่พยักหน้าและไม่พูดต่อ ด้วยความรำคาญที่นนท์ชอบคุยทับ และเกรงใจป้าทองคำเดี๋ยวตะโกนด่าอีก
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆในความคิดหมอนวดทั้งหลาย จนถึงห้าทุ่มหมดเวลางาน บรรดาหมอนวดต่างช่วยกันเก็บเก้าอี้สิ่งของเข้าที่เข้าทาง หลังจากนั้นรับเงินแล้วแยกย้ายกันไป
"ไปไหนต่อต้น"นารีเพื่อนสาวตะโกนถามแล้วเดินมาหา
"ว่าจะไปกินข้าวแล้วกลับห้องเลย ไปด้วยกันไหมช่วงนี้เหงาอยู่คนเดียว"ต้นชวน และ ตีสีหน้าเศร้า
"เราก็อยากไป แต่โน้น"นารีโบ้ยปาก
"อ๋อ ผัวมารอนี่เอง"ต้นอมยิ้ม
"วันหลังเดี๋ยวจะไปหาที่ร้านนะ บ่าย" นารียกมือขึ้นแล้วรีบวิ่งไปหาสามีที่นั่งรออยู่บนมอเตอร์ไซค์
"ไปแล้วนะต้น ลูกค้านัด"นนท์เดินมาบอกและจากไป
ต้นมองตามแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ส่วนต้นก็เดินไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งมีผู้คนไม่มากเท่าไร ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้ากำลังเก็บข้าวของ ต้นเดินมาเรื่อยๆจนถึงประตูเชียงใหม่ และขึ้นไปบนลานที่ขายอาหาร ต้นเลือกร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ
"วันนี้กินอะไรจ๊ะต้น"วาสสาวใหญ่รีบถามทันที
"หมี่เหลืองเกี้ยวครับพี่"ต้นเดินไปตักน้ำใส่แก้ว แล้วมานั่งที่โต๊ะ ซึ่งเหลืออยู่ที่เดียว
สักพักตาลสามีของวาสก็นำก๋วยเตี๋ยวมาเสริฟ พร้อมกับถามไถ่
"วันนี้เป็นไงบ้าง"
"ก็พอได้นะพี่"ต้นพลางเติมเครื่องปรุง ใส่น้ำตาลเยอะหน่อย ส่วนพริกไม่ใส่เพราะไม่กินเผ็ด
"ตาลมารับออเดอร์ลูกค้าหน่อย "วาสตะโดนเรียก
ตาลเลยรีบเดินไปในทันที เพราะเขาค่อนข้างกลัวเมียพอสมควร
เมื่อต้นปรุงรสเสร็จ จึงจัดการหมี่เกี้ยวตรงหน้าในทันที ด้วยความหิวเขาจึงมุ่งแต่กิน ไม่ได้สนใจอะไรรอบข้าง แต่แล้วเขาต้องหยุดกินเพราะเสียงคุ้นหูเรียก
"ต้น ฝากลูกค้านั่งด้วย ไม่มีที่ว่างเลย"ตาลพาลูกค้าชาวอันเจียมาอยู่ตรงหน้าด้วย
ต้นเงยหน้าขึ้น และเขาก็ประหลาดใจ เพราะคนที่อยู่ตรงหน้า คือหนุ่มอันเจียที่เขาพึ่งนวดให้เมื่อหัวค่ำ
"ได้ครับ"ต้นยิ้มให้จาง ส่วนจางก็ตอบรับไมตรีโดยการยิ้มกลับ
เมื่อจางนั่งลงเขาก็ไม่ปรุงอะไรเลย กินในทันทีโดยไม่สนต้นที่มองด้วยความแปลกใจ เพราะมันจืดมากๆ ถ้าให้ต้นกินเขาก็ไม่สามารถกินได้
ในระหว่างที่จางกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย ต้นก็อิ่มพอดีเขาจึงลุกขึ้นเดินไปจ่ายเงินให้วาส
"อิ่มมากเลยพี่ เดี๋ยวมาอุดหนุนใหม่"
"จร้า ขอบใจมาก"
หลังจากจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้นจึงข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อกลับห้อง ที่ไม่มีใครอยู่รอการกลับมาของต้น ในขณะที่เขากำลังเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงตะโกนจากด้านหลัง
"รอด้วย หยุดก่อน"
ต้นหยุดชะงักทันทีและหันไปมอง และนั่นก็คือหนุ่มอันเจียคนเดิมอีก เขาครุ่นคิดว่าหนุ่มอันเจียคนนี้จะเรียกให้หยุดดทำไม
"มีอะไร"ต้นมีสีหน้าสงสัย
"โรงแรมที่ผมอยู่ไปทางนี้ เราจะได้ไปด้วยกัน"จางยิ้มให้และเดินมาหยุดตรงหน้าต้น
"ก็ได้"ต้นยิ้มและงงงวยพอสมควร จู่ๆหนุ่มอันเจียมาขอเดินไปด้วยกัน
"งั้นไปเลย"จางพยักหน้าชวนและเดินนำไป
ส่วนต้นก็ก้าวเท้าเดินตามให้คู่กัน ต่างคนต่างเงียบมองข้างทางที่ผับบาร์ยังเปิดอยู่
"คุณชื่ออะไร"จู่ๆจางก็ถามขึ้น
"ต้น"
"ด้วน"จางพยายามเลียนสำเนียงให้เหมือน
ต้นแอบยิ้มแล้วคิด ชื่อต้นอยู่ดีๆกลายเป็นด้วนซะแล้ว
"ไม่ใช่ ต้น"ต้นพยายามพูดช้าๆ
"ต้วน"
"ต้น"
"ต้น ต้น ต้น"ในที่สุดจางก็พูดได้ชัดขึ้น
"ใช่เลย ออกเสียงแบบนี้แหล่ะ"ต้นยิ้มให้
"ผมชื่อจางนะ"
"จาง"ต้นพูดตามอย่างชัดถ่อยชัดคำ
"โอ้ว ต้นเก่งจัง ว่าจะสอนซักหน่อย"จางมีสีหน้าประหลาดใจ
"ไม่ได้เก่งหรอก ต้นดูซีรี่อันเจียบ่อย ดูแบบซับไทย"
"ต้นชอบดูซีรี่เหมือนผมเลย แล้วชอบเรื่องอะไร"จางได้เรื่องที่จะคุยต่อ
ส่วนต้นไม่รู้จะบอกชื่อเรื่องเป็นภาษาอันเจียว่าอะไรดี เพราะเขาจำได้แต่ชื่อไทย รักไม่มีข้อแม้ ถ้าบอกไปจางก็คงไม่รู้จัก และในทันใดต้นก็คิดออก ถ้าบอกชื่อดาราไปจางต้องรู้จักแน่ๆ
"จำชื่อเรื่องไม่ได้ แต่จำดาราได้ ชื่อ มงมงกับหยันหยัน"
จางอมยิ้ม เพราะเขาก็ดูเรื่องนี้แบบผ่านๆ และได้ยินได้ฟังมาสมควร
"อันเจียอง "
"อันเจียอง พอได้ไหม"ต้นหันมาถาม
"พูดได้อีกแหล่ะ ผมพูดภาษาไทยได้คำเดียวเอง"
"คำอะไรเหรอ"ต้นถามด้วยท่าทีสงสัย
"ก็ต้นไง ชัดไหม"จางพูดอย่างหน้าตาย
"เอ่อ"ต้นพูดไม่ออกได้แต่หันหน้าไปทางอื่น
"วันหลังต้นต้องสอนผมพูดหลายๆคำนะ"
"จะสอนอย่างไง เราไม่ได้อยู่กัน"ต้นหันมามองไหม
"ก็นี่ไงเราเริ่มอยู่ด้วยกันแล้ว เดี๋ยวก็เจอกันบ่อยๆ แลกเบอร์ ไลน์ กันก่อน มาที่ไทยใช้ไลน์ได้ ถ้าผมกลับอันเจีย ต้นก็สมัครเมาท์แชท เราก็คุยกันได้แล้วเห็นไหม"
จางพูดจบ ต้นถึงกับอึ้งไปไม่ถูก คิดไม่ออกจะบอกอย่างไรดี ต้นเริ่มงงจากลูกค้าอยู่ดีๆมาขอเป็นเพื่อน
"ว่าไง ไม่อยากเป็นเพื่อนผมเหรอ เงียบไปเลย"จางหน้าเศร้า
"เปล่า"
"งั้นเรามาสาบานเป็นเพื่อนกัน จนวันตายเลยนะ"
"ฮือ ไม่ต้องถึงสาบานหรอก"ต้นถึงกับอึ้งอีกครั้ง
"ดีจัง ผมมีเพื่อนคนไทยแล้ว เพราะผมมาสองวันแล้วเหงามาก จะได้มีเพื่อนคุย"จางยิ้มไม่หุบ
ทั้งสองเดินเลาะตามไหล่ทาง พูดคุยกันจนถึงหน้าโรงแรมที่จางอยู่
"ถึงแล้ว นี่ไงโรงแรมที่ผมอยู่"จางชี้ไปที่ทางโรงแรม
ต้นมองเข้าไปข้างในโรงแรม ซึ่งมองจากข้างนอกความหรูก็ระดับกลางๆค่อนไปทางหรู
"ขึ้นไปคุยกันข้างบนไหม"จางยืนจ้องหน้า
"พรุ่งนี้ต้องไปทำงานนะ "ต้นปฏิเสธทันที
"ใช่ด้วย ถ้าอย่างนั้นเราขอเบอร์หน่อย พรุ่งนี้จะได้โทรหา ว่าอยู่ที่ไหน เราจะได้ไปนวดตัว เพราะรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว" จางหยิบมือถือขึ้นมาพร้อมเมมเบอร์
ต้นก็บอกแต่โดยดีเพราะอย่างน้อยก็ได้ลูกค้า ส่วนวันพรุ่งนี้ต้นก็ไม่สามารถบอกได้เช่นกัน ว่าจะมีงานให้ทำหรือเปล่า จึงเป็นเรื่องราวดีๆที่ต้นเจอคืนนี้
เมื่อต้นบอกเสร็จ จางก็โทรทันที เพราะกลัวต้นแกล้งบอกเบอร์ผิด หลังจากนั้นเสียงมือถือของต้นก็ดังขึ้น จางจึงกดปิดและเมมเบอร์
"ต้นเมมเบอร์ผมด้วย เดี๋ยวลืมถ้าเราโทรไปต้นจำไม่ได้ ต้นใช้เบอร์นี้สมัครไลน์หรือเปล่า"
"ฮือ ใช่"ต้นหยิบมือถือออกมาพร้อมบันทึกชื่อว่าจางเป็นภาษาไทย
ส่วนจางบันทึกเป็นภาษาอังกฤษ ton หลังจากนั้นเขาก็ค้นหาไลน์ทางเบอร์ ก็เห็นชื่อและหน้าต้นเป็นภาษาอังกฤษ
"ขึ้นแล้ว ต้น ต้น"จางยิ้มระรื่น
"ถ้าอย่างนั้นต้นกลับก่อนนะ"ต้นเอ่ยขึ้น
"ห้องต้นไกลไหมเราเดินไปส่งได้นะ"
"ไม่ต้องหรอกส่งกันไปกันมาไม่ถึงซักที แล้วมันก็ไม่ไกลหรอก"
"ถ้างั้นคืนนี้ต้นนอนนี่ พรุ่งนี้ค่อยกลับแต่เช้า เดี๋ยวเราเดินไปส่ง"จางยิ้มและเบิกตาขึ้นมองต้น
"ไม่เป็นไรหรอกกลับได้ชินได้"ต้นก็ค้องใจอยู่เหมือนกัน ไม่ได้ไม่ดีก็ชวนขึ้นห้อง ซึ่งต้นก็ไม่อยากจะคิดในแง่ไม่ดี ซึ่งต้นกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ แต่แล้วเสียงของจางก็ดังขึ้น
"ก็ได้ ถ้างั้นพรุ่งนี้เจอกัน บ่าย"จางโบกมือให้ แล้วเดินเข้าไปในโรงแรม บางครั้งแอบหันมามองต้น จางรู้สึกถูกชะตากับต้น อยากอยู่ใกล้ๆต้น จางอดแปลกใจไม่ได้ ทั้งๆที่ก่อนมาประเทศไทย จางก็มีแฟนเป็นผู้หญิง แต่พึ่งเลิกลากันไป
ส่วนต้นก็เดินไปเรื่อยๆพลางคิดถึงรักเก่าที่จากกันไป โดยไม่ได้บอกลาหายไปเป็นเดือน ซึ่งต้นก็พยายามหักห้ามใจไม่ให้คิด เพราะแฟนเก่าของต้นไม่ได้แสนดีจนน่าจดจำ มีแต่สร้างเรื่องให้ต้นแก้ปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พอร์ทไท้แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้าน
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พาร์ทไทม์แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้านเอ
หลังแยกจากสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้นก็เข้ามาภายในห้องของเขา ที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเพียงพัดลมที่ทำให้คลายร้อนแค่นั้นต้นนั่งลงบนเตียง ที่มีเพียงหมอนหนุนและหมอนข้าง แต่ก่อนมีหมอนหนุนสองอัน พอปรัชญ์แฟนหนุ่มได้หนีจากไป ต้นจึงนำไปเก็บไว้ในตู้อย่างมิดชิด สายตาของต้นสอดส่ายทั่วห้อง และหยุดมองรูปของปรัชญ์แฟนหนุ่มที่เขายังไม่ได้เก็บ เพราะยังอยากเห็นใบหน้าของแฟนหนุ่มอยู่ ต้นจ้องมองดูอยู่ไม่นาน หลังจากนั้นจึงเดินไปนำรูปแฟนหนุ่ม ใส่ไว้ในลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งต้นทั้งรักทั้งเกลียดปรัชญ์ในระดับเดียวกัน รักมากจนยอมใช้หนี้ก้อนโตแทน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นแท่บหมดตัว ซึ่งเป็นจังหวะเดียว ที่โดนปลดจากร้านอาหารฝรั่ง เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดเคืองรายได้ไม่เข้าเป้าต้นจึงเป็นหนึ่งตัวเลือก ที่โดนขอร้องให้ออกจากงาน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นหันมาเป็นหมอนวด เพราะได้เงินดีและได้ทุกวันส่วนปรัชญ์แฟนหนุ่มนั้น พอรู้ว่าต้นหมดตัว จึงหนีจากไปอย่างไม่บอกลาสักคำ จนทำให้ต้นนั้นสุดซ้ำใจอย่างหนัก แต่ต้นก็ใจแข็งตัดใจไม่ตามหา ต้นล้มตัวลงนอนคิดถึงอดีตที่แสนหวานกับปรัชญ์แฟนหนุ่ม ครั้งแรกที่เจอกันในร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งต้นกับริโอ้
สี่ทุ่มเศษต้นได้กลับมาทึ่ห้องพัก โดยนั่งรถสีล้อแดงให้มาส่งที่หน้าห้องพัก แต่แล้วต้นกับต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นสองหนุ่มต่างเชื้อชาติยืนประจันหน้ากัน พร้อมจ้องจะกินเลือดกินเนื้อซึ่งกันและกันได้ในทันที เมื่อจางและคิมเห็นต้น ทั้งสองจึงรีบเดินเข้ามาหาต้นในทันที“มาดึกจัง กินข้าวมาหรือยัง”คิมถามไถ่“ถ้ายังไม่ได้กินเดี๋ยวผมพาไป”จางชิงพูดตัดหน้า“กินแล้วครับ”ต้นรีบพูดตัดบท“กินข้าวแล้วก็ดี ถ้าอย่างงั้นเราไปเที่ยวกัน ผมจะพาไปดื่มเบียร์”จางรีบพูด ด้วยไหวพริบดี“ใช่”คิมสนับสนุนความความคิดจาง เพราะเขาก็คิดเช่นนั้น ตอนแรกกะชวนกินข้าว แต่เมื่อต้นกินมาแล้ว จึงเปลื่ยนทิศทางการชวน และสนับสนุนความคิดของจาง ถึงแม้จะเป็นคู่แข่งต้นยืนคิดชั่วครู่ มีความรู้สึกอยากไปเหมือนกัน เพราะจะได้คลายเครียดจากการทำงาน ที่หามรุ่งหามค่ำ ไหนจะเรื่องปรัชญ์อดีตแฟนหนุ่มอีก ต้นจึงตัดสินใจรับปากจะไป“ก็ได้ แต่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ”ต้นพูดจบจำเป็นต้อง พาสองหนุ่มนั้นมาที่ห้องซึ่งแค่บพอสมควร หลังจากทั้งสองนั่งที่เก้าอี้ ต้นจึงจัดแจงเทน้ำให้สองหนุ่มดื่มส่วนต้นนั้นก็ขอตัวเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งคู่กัน แต่ไร้การพูดคุยได้แต่นิ่ง
เมื่อมาถึงห้องพักในโรงแรมของจาง ต้นก็มองไปรอบๆห้องที่ดูใหญ่พอสมควร“นั่งลงก่อนซิ”จางเชื้อเชิญ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกตื่นเต้นใจคึกครื้น เมื่อต้นนั่งลงข้างๆ“จะอาบน้ำหรือว่านอนเลย”จางถาม“อาบซิ เหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว”ต้นเอ่ยขึ้นด้วยความงง จะให้นอนโดยไม่อาบน้ำ เลยสงสัยจางคงทำบ่อยจนชิน“งั้นผมเอาผ้าเช็ดตัวให้”จางเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ มายื่นให้ต้นผลัดเปลื่ยน ต้นรับมาไว้พาดบ่าหลังจากนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที จางอดเสียดายไม่ได้เห็นเรือนร่างของต้นอีกครั้งจางสลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพื่อเอาเวลาไปหาเสื้อกับกางเกงในต้นใส่นอนในคืนนี้ แต่อีกใจหนึ่งคิดว่าต้นอาจไม่ใส่ เพราะมาอ่อยถึงห้องขนาดนี้จางเดินไปค้นเสื้อผ้ามาสองชุด ที่เหมาะสำหรับใส่นอน มาวางไว้บนเตียงนอนเพื่อรอให้ต้นมาสวมใส่ ต้นนั้นใช้เวลาไม่นานนักก็อาบน้ำเสร็จ เขาจึงเดินออกมาในสภาพเปลื่อยกายท่อนบน จางเห็นถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความกระหาย"จางเตรียมเสื้อกับกางเกงไว้ให้ต้น"จางชี้มือไปที่กองเสื้อผ้าที่วางไว้"ขอบใจมากนะจาง"ต้นยิ้มให้พร้อมเดินไปหยิบเสื้อมาใส่"มองอะไรจาง รีบไปอาบน้ำจะได้มานอน"ต้นรู้สึกเขินที่เห็นสายตาจาง มองอย่างกับอยากกลืนกิ
เมื่อทุกอย่างสงบลง หลายอย่างก็เริ่มเข้าที่ ในที่สุดต้นก็ได้ห้องเช่า แต่อยู่ไกลพอสมควร ไม่สามารถเดินทางด้วยเท้าได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาสามารถขึ้นรถรับจ้างไปมาสะดวก ก่อนหน้านี้ต้นก็มีรถมอเตอร์ไซค์ แต่ได้ขายเพื่อนำเงินมาช่วยปรัชญ์ ในหลายๆเรื่องย้ายห้องครั้งนี้ได้คิม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยย้าย ส่วนตอนค่ำมีริโอ้ ซอง เพื่อนของคิมมาสมทบ ซึ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว"เสียดายจังมาไม่ทัน เสร็จพอดีเลย"ริโอ้พูดติดตลก"มาช้าดีกว่าไม่มา แค่มาก็ดีใจมากแล้ว"ต้นไม่ได้หันมองริโอ้ แต่มองคนข้างๆที่ยืนงง"อ๋อ ผมลืมแนะนำ นี่ซอง เพื่อนผมเอง พอดีเมื่อเช้าผมพาไปนวดได้คิวปัน ผมเลยได้นั่งคุยกับริโอ้ เรื่องของต้น ผมเป็นห่วงเลยไปหาต้นที่ห้อง"คิมแนะนำและอธิบายเหตุการณ์เมื่อเช้า"ส่วนนี่ ต้น"ต้นยิ้มให้ซองซองยื่นมือเพื่อจะจับมือกับต้น เป็นการแสดงไมตรีจิต"ไม่ต้องจับมือกันก็ได้"คิมหึง"นี่แน่"ริโอ้ตีมือซอง"ตีทำไมผมเจ็บ นี่ไงแฟนเพื่อนยังจะจับมืออีก""อ๋อ คนนี้เองที่โยฮันบอกว่าชอบ กำลังจีบอยู่ " ซองพูดอย่างซื่อ"ฮึ ฮึ"ริโอ้แอบหัวเราะ"จริงไหมโยฮัน"ริโอ้ก็ถาม"จริง"คิมมองตาของต้น ส่วนต้นหลบตาและเฉไฉ พูดเรื่องอื่น"ร
ริโอ้ขับรถมอเตอร์ไซค์คันโปรด พาซองซ้อนท้าย ร่อนทั่วเมืองเชียงใหม่ ทีแรกริโอ้จะพาซองเข้าผับ แต่ซองปฏิเสธเพราะไม่ชอบคนเยอะ เหม็นเหล้าบุหรี่ ขาแดนซ์อย่างริโอ้เกิดอาการเซ็ง เขาจึงจอดรถบนลานประตูท่าแพ เพื่อนเคลียร์ความเยอะของซอง"ซองอยากไปเที่ยวไหนบอกริโอ้มา"ริโอ้แอบเซ็งความเยอะของซอง ยังดีที่หน้าหวานตรงสเป็คจึงยอมให้"ซอง อยากไปเที่ยวน้ำตก พรุ่งนี้ริโอ้พาไปได้ไหม""คืนนี้ก่อนว่าจะไปไหน พรุ่งนี้ไม่ว่าง"ริโอ้เสียงเข้ม"ซองอยากไปตลาดกลางคืน หาของอร่อยๆกินกัน""โอเค เดี๋ยวพาไปขึ้นรถมาเลย""จะไปกาดหลวงก็ไม่บอกแต่ทีแรก ให้ขับรถวนมาวนไป เปลืองน้ำมันจะตาย" ริโอพูดเป็นภาษาไทย"ริโอ้บ่นซองเหรอ ถ้าอย่างงั้นซองไม่ไปแล้ว"ซองคาดเดาจากน้ำเสียง"ไม่ได้บ่น แค่เป็นห่วงต้น ไม่รู้ตอนนี้เป็นอย่างไงบ้าง""คงเสร็จโยฺฺฮันแล้วมั้ง""อะไรนะ"ริโอ้มีท่าทีตกใจ"เป็นอะไร ตกใจทำไม ผู้ชายกับผู้ชายอยู่ด้วยกันสองคน มันต้องมีอะไรกันบ้างนั่นแหล่ะ""แล้วผมกับซองล่ะ""ต้องดูกันยาวๆ""ผมไม่ชอบดูยาวๆ มันช้าไป เจอปุ๊บติดปั๊บ""ถ้าถูกใจก็ได้ แต่ตอนนี้ซองหิว ถ้าหิวมากๆซองจะกินริโอ้แล้วนะ""โอเค"ริโอ้ใช้เวลาขับรถไม่นานนัก ก็มาถึงก
ต้นขึ้นรถสี่ล้อแดงมาจากห้องเช่าใหม่ กว่าจะมาถึงก็สายพอสมควร เนื่องด้วยต้องไปส่งคิมที่ห้องก่อนเมื่อมาถึงก็เห็นริโอ้ยืนอยู่หน้าร้าน กำลังครุ่นคิดเรื่องของซองว่าจะเดินต่อหรือถอยหลัง"มายืนทำอะไรตรงนี้"ต้นถาม"ก็ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่ต้นนั่นแหล่ะ เมื่อคืนเป็นไงบ้าง"ริโอ้จ้องหน้าด้วยความอยากรู้"ไม่มีอะไรหรอก หลับสบายดี"ต้นยิ้ม"จริงเหรอ"ริโอ้ไม่ค่อยอยากเชื่ิอ"เข้าไปข้างในกันเถอะ"ต้นรีบเปลื่ยนเรืี่อง ไม่อยากคุยเรื่องนี้ริโอ้หันหลังกำลังจะเดินเข้าไปในร้าน พร้อมกับต้นแต่แล้วต้องหยุดชะงัก"ต้น"เสียงเรียกมาจากด้านหลังต้นและริโอ้หันไปพร้อมกัน ซึ่งคนที่เรียกต้น ก็คือนนท์ หมอวิ่งร้านป้าทองคำ"อ้าวพี่นนท์มีอะไร"ต้นยิ้มให้"ปรัชญ์อยู่ไหน"นนท์พูดเสียงห้วน"ต้นจะไปรู้ได้ไง""เมื่อคืนก่อนมีคนเห็น ปรัชญ์ไปที่ห้องพักต้น"ในระหว่างนั้น กัน ปัน และสามหน่อ ได้ออกมาดูเหตุการณ์"เมื่อคืนก่อนต้นไม่ได้นอนห้อง""ไม่ได้นอนห้องแล้วไปนอนที่ไหน"นนท์มีสีหน้าไม่เชื่อ"คือ ต้น "ต้นอ้ำอึ้ง"ไปนอนที่ไหนก็บอกพี่นนท์ไปซิ"ริโอ้พูด"เมื่อคืนก่อนต้นเจอปรัชญ์ที่ร้านอาหาร แต่เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก เพราะต้นไปกับจาง"" ฮ่า"ท