ปันเดินไปยังโต๊ะของฝรั่งเพื่อขอเก้าอี้มาหนึ่งตัว ซึ่งฝรั่งก็ให้ปันมาแต่โดยดี ปันจึงเอามาถึงที่โต๊ะและตั้งแทรกกลางระหว่างต้นกับจาง
"นั่งเลยจีจี้"นารีช้อนตามองจีจี้แล้วขยิบตา
ส่วนจางก็เขยิบเก้าอี้ถอยห่างเพื่อให้จีจี้นั่งสะดวกขึ้น ข้อสำคัญเขาไม่ค่อยไว้วางใจผู้หญิงคนนี้ ถึงจางจะเคยผ่านผู้หญิงมาเพียงคนเดียว แต่เขาก็ดูออกว่าผู้หญิงคนนี้มาไม่ดีแน่ และสิ่งที่เขาห่วงมากที่สุดคือต้นจะเข้าใจผิด เพราะต้นรู้แล้วว่าแฟนเก่าเขาเป็นผู้หญิง
จีจี้พยายามใช้มารยาจับจุออ่อนของจาง
"ชนแก้ว"จีจี้ชนแก้วกับทุกคน และคนสุดท้ายก็คือจาง เขาจึงชนแก้วในทันที เพราะโดยส่วนตัวจางชอบดื่มเบียร์ ไม่ใช่เพราะจีจี้แม้แต่น้อย แต่คนในกลุ่มไม่คิดเช่นนั้น
เพราะบางที่ก็ชนแก้วกันแค่สองคน ข้อสำคัญจางขอชนแก้วเองอีกต่างหาก พอจีจี้ดื่มหมดชนต่ออีก ทำเช่นเดิมอยู่หลายครั้งจนสร้างความไม่พึ่งพอใจแก่ต้นและพรรคพวก จางก็สังเกตเห็นแต่ก็จะแกล้งต่อไปอีก
"จางแฟนของต้นคอแข็งเป็นบ้าเลย จีจี้ยอมแพ้จีจี้เมาเบียร์"จีจี้ทำท่าจะเล่อแต่พยายามกลืนลงไป
"จีจี้ ชนอีครั้งกผมกำลังได้ที่เลย"จางยื่นแก้วพร้อมชน
"พอแล้วจาง"จีจี้โบกมือ แต่จางคะยั้นคะยอจนจีจี้ยอมอีกแก้วและเป็นแก้วสุดท้าย
จางพยายามมอมเหล้าให้จีจี้เมา เพื่อทุกอย่างจะได้จบ เพราะจางก็ไม่ชอบผู้หญิงดื่มเหล้าเบียร์
ต้นเริ่มมองค้อนจาง และรู้สึกว่าแผนนางนกต่อจะสำเร็จ ก็หุ่นจีจี้สะบึ้มซะขนาดนั้นใครเห็นจะอดใจไว้
"จางไม่ต้องมอมเหล้าจีจี้อีก จีจี้เลิกอ่อยจางแล้วนะ จีจี้จะกลับบ้านไปนอนกับผัว"จีจี้พยายามลุกกขึ้นยืน แต่ก็เซจะล้ม แล้วเริ่มสับสนทางความคิดความจำ
จางกำลังตั้งใจฟังจีจี้บอกเล่าเรื่องราว แต่ยังฟังไม่ทันจบก็มีหมัดใหญ่ใส่ไปที่เบ้าตาของจาง จนล้มฟุบคาโต๊ะ
จางนอนหันหลังให้ต้น หลังจากกลับจากโรงพยาบาลไปหาหมอให้ดูดวงตา ซึ่งก็ไม่เป็นอะไรมากแค่ฟกซ้ำ จางรู้สึกเจ็บใจต้นที่ไม่เชื่อใจเขา มากกว่า ที่โดนสามีจีจี้ชกเข้าที่เบ้าตา
"จางต้นขอโทษนะ ต้นผิดไปแล้ว"ต้นขยับตัวในท่านั่งเข้าไปใกล้ๆจาง แต่เขากลับนิ่งเฉยเพราะยังโกรธอยู่นิดหน่อย
"พูดอะไรกับต้นบ้างซิ"ต้นชะโงกหน้าไปมองบริเวณใบหน้าของจาง เมื่อเขาเห็นต้นมองมาจึงรีบหลับตาในทันที
"จะให้ต้นทำอย่างไรที่จะหายโกรธ"ต้นบีบนวดต้นแขนของจางเพื่อเอาใจ
"หายโกรธต้นนะ นะ นะ จาง"
จางอยากจะให้อภัยเร็วขึ้นแต่ก็ต้องเล่นตัวบ้าง เพราะถ้าให้อภัยง่ายๆเดี่ยวต้นก็จะได้ใจ เขาจึงแกล้งไม่ได้ยิน
"จางยังโกรธต้นอยู่ ถ้างั้นต้นกลับห้องก่อนนะ เดี่ยวพรุ่งนี้ต้นจะมาแต่เช้ามืด"ต้นค่อยๆขยับตัวออกไปและลงจากเตียงเตรียมแกล้งกลับ ในขณะเดียวกันก็แอบมองจาง ซึ่งก็ยังนอนนิ่งอยู่เช่นเดิม ต้นแกล้งไปเปิดประตูให้เสียงมันดัง แก็ก
"ใจดำมากเลย จางเจ็บขนาดนี้ไม่คิดจะคอยดูแล ยังจะกลับไปห้องอีก ไปเลยพรุ่งนี้จางจะกลับอันเจียแล้ว"จางลุกขึ้นนั่งด้วยความน้อยใจ
ต้นอมยิ้มแล้วเดินมาหาจางที่เตียง แล้วยืนมองจางหนุ่มแสนงอน
"มาทำไม" จางหันหน้าหนี
"ก็มาหาจางไง"
"ไม่ต้องมาหรอก พรุ่งนี้จางจะกลับอันเจียแล้ว"
ต้นถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะถ้างอนกันทีไรก็จะกลับอันเจียท่าเดียว นี่ก็รอบที่สองแล้วที่จะกลับ
"ไม่กลับได้ไหม"ต้นนั่งลงข้างๆจางแล้วโอบกอดซบไหล่
จางแอบดีใจอยากให้เป็นแบบนี้นานๆ แต่ก็ยังแสร้งบึ้งตึงอยู่
"จะให้ต้นทำอะไรก็ได้ที่ให้จางหายโกรธ" ต้นยังซบไหล่จางอยู่
จางหายโกรธนานแล้ว แถมรู้สึกดีใจนิดหน่อยที่ต้นมาง้อให้ความสำคัญกับเขา
"ก็ได้ หอมแก้มจางหนึ่งที่"จางหันหน้ากลับมาเพื่อยื่นแก้มให้ต้นหอม
"ได้"ต้นเลิกซบไหล่ แล้วยืนริมฝีปากลงที่แก้มของจางหลายครั้งติดๆกัน
"หายโกรธหรือยัง"
"หายแล้ว"จางหันหน้ามาแล้วหอมแก้มต้นกลับอีกหลายครั้งเช่นกัน ต้นจึงผลักร่างของจางล้มลง ส่วนจางก็ดึงร่างของต้นมานอนกอดแนบกาย
ต้นอยากเอาใจจาง จึงประกบปากจางแลกสัมผัสรัก พันกันพัลวันอย่างดูดดื่มจนสมอุรา ต้นถอนริมฝีปากออก พร้อมดึงเสื้อจางออกเหนือศีรษะ
ไล่ลงมาสัมผัสเนินอก ไซร้ดูดขบเบาๆ จนจางต้องส่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา ต้นซุกซ่อนคลึงไม่หยุดหย่อน เลื่อนไล้สัมผัสผิวกายจางลงมา อยู่เหนืออาวุธคู่กายที่เต็มไปด้วยพงหญ้า ที่ดกดำไม่ได้ตกแต่งให้สวยงาม แต่ต้นชอบแบบนี้ดูเป็นธรรมชาติ
ต้นซุกซอนรอบอาวุธคู่กาย ไม่ยอมสัมผัสสิ่งนั้นปล่อยให้ผ่านไปหลายครั้ง จนจางรู้สึกหงุดหงิดจนอยากบอกกล่าว แต่อดใจไว้คอยดูต้นจะทำอะไรต่อ จางต้องพบกับความประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อต้นสัมผัสพวงสวรรค์ที่หย่อนยาน เขาถึงกับสะท้านซ่านทั่วร่าง เพียงต้นใช้ริมฝีปากสัมผัส จางพึ่งรู้สิ่งนี้ก็สร้างความสุขสมอย่างน่าประหลาด แต่สิ่งที่จางอยากให้ต้นทำมากที่สุด คือสัมผัสรักอาวุธคู่กายของเขามากที่สุด
ท้ายสุดจางก็สมหวัง ต้องสัมผัสอาวุธคู่กายของเขา เพียงสัมผัสแรกจางสะท้านทั่วเรือนร่าง ยิ่งต้นสัมผัสโดยใช้ริมฝีปากจางนั้นแท่บจะพ่นพิษในกายออกมาในทันที ต้นผู้ประสบการณ์มากกว่าจางก็รู้ทันที เขาจึงหยุดทุกอย่างเพื่อให้คลายความหฤหรรษ์
เมื่ออาวุธคู่กายจางสงบนิ่ง ต้นจึงปลดอาภรณ์ที่ติดกายออกจนหมด เผยเห็นร่างกายที่เปลื่ิอยเปล่า เพียงจางเห็นแว่บแรกก็อยากสัมผัส แต่ยังไม่กล้าเวลานี้ต้องรอให้ต้นจัดการทุกอย่าง
ต้นนั่นขึ้นนั่งคร่อมหันหน้าเข้าหาร่างจาง จับอาวุธคู่กายของจางจ่อช่องแคบทางผ่านสุขสมของเขา ต้นค่อยๆให้อาวุธคู่กายของจางผ่านเข้าไปทีละนิด ถึงมีอุปสรรคความคับแคบก็ไม่ย่อท้อ จดจ่อให้อาวุธคู่กายจางผ่านทางไปให้ได้ ในที่สุดต้นก็ประสบความสำเร็จ โดยมีจางนอนเฉยๆเอาใจช่วย
เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางในควรที่จะเป็น ต้นจึงเริ่มขยับร่างโยกส่ายสะโพกขึ้นลงไม่ขาดระยะ จางอยากช่วยต้นจึงเอื่อมมือจับยอดปทุมถันกระจิดริดสีชมพู ถึงจะไม่เต็มไม้เต็มมืิอเขาก็ภูมิใจ ที่ใช้มือบดขยี้ช่วยสร้างอารมณ์ให้ต้น ส่วนหนอนน้อยสีน้ำตาลของต้น จางยังไม่สามารถทำใจจับได้ เพียงแค่มองมันดิ้นกระดุกกระดิกตลอดเวลา ในยามที่ต้นโยกย้ายส่ายสะโพก ต้นรู้สึกล้าจึงก้มนอนทาบทับร่างของจาง
จางเริ่มรู้งานขยับขาให้กว้างงอขาเล็กน้อย ก่อนที่จะดันบั้นท้ายขึ้นสูงเพียงครั้งแรกต้นถึงสะดุ้ง จางเริ่มรับรสสวาทจากการทำสิ่งนี้ มันเป็นสิ่งดีดีที่จางค้นพบ เขาจึงยกบั้นท้ายขึ้นไม่ยั้งไม่หยุด ออกแรงสุดกำลังใช้ให้เป็นประโยชน์
ต้นรู้สึกได้ว่าจางทำได้ดีถึงจุดต่อมสวรรค์ เขาสุขได้ใจดั่งคิดไม่ผิดเพี้ยน ลีลาจางหลังจากรู้งานต้นให้ผ่านไม่ติดใจอะไร ยิ่งจางยกบั้นท้ายขึ้นแรงเท่าไร จนต้นเกือบสุขสมก่อนจาง แต่แล้วจางก็หยุดชะงักอยากสนุกต่อ จึงต้องเปลื่ยนลีลาท่าทาง
ต้นจึงพยุงร่างขึ้นในท่านั่ง จางขยับร่างตามมานั่งเช่นกัน จางกอดต้นและขยับร่างกายมาข้างเตียง ต้นรู้ทันทีแต่เขาแกล้งไร้เดียงสา จางกำลังจะจัดท่า โดยถอนอาวุธคู่กายออก ลุกขึ้นขยับตัวลงข้างเตียงนอน จับร่างต้นพลิกคว่ำดึงบั้นท้ายมาหน้าอาวุธคู่กายเขา ต้นลุกขึ้นใช้มือยันพื้นยกสะโพกขึ้นตามแรงมือจาง
จางจัดท่าได้ลงตัว เขาจึงจับอาวุธคู่กายจ่อช่องแคบที่ขยายพอดี เพียงเสี้ยววินาทีก็ผ่านอย่างง่ายดาย เพราะต้นนำร่องไว้อย่างไม่บกพร่อง จางไม่รอช้าโยกสะโพกกระทบเนื้อเสียงดังสนั่นลั่นห้อง พร้อมเสียงต้นที่ร้องเหมือนโดนหนามใหญ่ตำ จนเจ็บปวดแสนทรมานที่ยังไม่ได้สุขสม
จางออกแรงโยกสะโพกอย่างเร่งรีบ เพราะเขาเริ่มรู้ตัวว่าภูเขาไฟจะระเบิดในไม่ช้า ต้นนั้นก็พอจะรู้จึงเอื่อมมือจับหนอนน้อยขยับตามจังหวะ ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานหนอนตัวนั้นก็ปล่อยพิษร้ายออกมาจนหมดสิ้น
จางออกแรงครั้งสุดท้ายโยกสะโพก พร้อมภูเขาไฟระเบิด จนลาวาไหลออกมาเข้าภายในช่องแคบทางผ่านประตูสุขสม
เช้าวันใหม่คิมกำลังจะบินไปภูเก็ต ในอีกไม่กี่ชั่วโมง เขานั่งรอเวลาเช็คอินโดยมีซองเพื่อนรักมาส่ง
"จะให้ซองตามไปทีหลังไหมโยฮัน"
"ไม่ต้องหรอก โยฮันอยากไปคนเดียว พักผ่อนจิตใจน่ะ"
"ก็ได้แล้วแต่คิม"
"ซอง โยฮันฝากดูต้นด้วยได้ไหม"โยฮันหันหน้ามาเพื่อของร้องซอง
"จะดูอะไรเขาก็มีความสุขดี เพื่อนเขาก็เยอะแยะ โยอันไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงตัวเองดีกว่า"ซองไม่ค่อยพอใจต้นเพิ่มขึ้นมาอีก
"จริงด้วย แต่ถ้าเกิด เอ่อ คือ ถ้าจางทิ้งต้นหรือทำร้ายต้นก็บอกโยฮันทันทีนะ"
"ก็ได้ถ้ามีอะไรจะโทรไปหาก็แล้วกัน"ซองตัดความรำคาญรับปากส่งๆไปอย่างนั้นแหล่ะ
"ขอบใจมากนะซอง"
"ไม่เป็นไรหรอกเราเพื่อนกัน"
ช่วงที่คิมกับซองกำลังนั่งคุยกันอยู่นั้น ต้นและริโอ้เดินมาถึงด้านหลังของทั้งสอง
"โยฮัน"
พอสิ้นเสียงของต้นปุ๊บ คิมหันหน้ามาทันที พร้อมยิ้มจนเห็นไรพัน
"โยฮันดีใจมากเลยที่ต้นมาส่ง ต้นยังไม่ลืมโยฮัน"
ต้นยิ้มตอบกลับโยฮันอย่างจริงใจ เพราะอย่างน้อยคิมก็เป็นทั้งเพื่อนและลูกค้า
"คำว่าเพื่อนมันมีค่ามากนะ"ต้นพูดขึ้น
"ใช่ แฟนเลิกกันแล้วก็เป็นคนอื่น"โยฮันนึกเสียใจเสียดายวันเวลาที่อยู่กับต้น ถึงแม้จะเพียงไม่กี่วันก็ตามที
คิมคุยกับต้นด้ไม่กี่ประโยคก็ได้เวลาที่จะต้องขึ้นเครื่อง
"โชคดีนะโยฮัน"ทัั้งสามเสียงประสานกัน พร้อมใจกันอวยพรให้คิมโยอัน
"เช่นกัน"คิมโบกมือให้ทั้งสามคนและหันหลังกลับไป แล้วเดินต่อไปเพื่อจะขึ้นเครื่อง
ต้นกับกับซองมองคิมจนลับตา
"ซองมาอย่างไง"ริโอ้ถาม
"ขึ้นรถแดงมา"ซองตอบห้วนๆ
"ไปกับเราไหม เดี่๋ยวไปส่ง"
"แล้วต้นล่ะ"ซองหันไปมองต้น
"ต้นเอามอเตอร์ไซค์ของจางมา ซองกับริโอ้กลับด้วยกันเลย”
"ไป๊ อย่าเล่นตัว"ริโอ้ดึงข้อมือของซองให้เดินตาม
ต้นมองแล้วอมยิ้มคู่นี้เป็นคู่ที่เหมาะสมกันดี แต่ก็แอบคิดถึงปันขึ้นมาทันที ต้นไม่รู้ความสัมพันธํ์ทั้งสามเป็นแบบไหน แต่ที่รู้แน่ๆความรักของต้นกับจางน่าจะลงตัวแล้ว
ในระหว่างต้นกำลังจะเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ ก็มีผู้หญิงชาวอันเจียเดินมาชน เพราะมัวแต่กดโทรศัพท์มือถือ
"ขอโทษค่ะ"หญิงชาวอันเจียพูดจบก็รีบเดินจากไปในทันที โดยไม่ได้มองหน้าของต้นเลยแม้แต่น้อย แต่ต้นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
จางเปิดโทรศัพท์มือถือดู เพราะเสียงข้อความเมาท์แชทดังขึ้น
"ตอนนี้หลันหลันกำลังจะไปโรงแรมที่จางอยู่"
จางวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ แล้วยืนครุ่นคิดด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ จางไม่ได้กลัวต้นหึงหรือน้อยใจ แต่กลัวหลันหลันมากกว่า เพราะจางไม่รู้เลยว่าหลันหลันมาหาเพราะเหตุใด และแอบโกรธเพื่อนของเขา จางค่อนข้างแน่ใจบรรดาเพื่อนของเขาคงจะบอกหลันหลันแน่ว่าเขาอยู่ไหน
นี่คือสิ่งที่จางกลัวที่สุด ถึงแม้เวลานี้เขาะจะลืมหลันหลันไปแล้วก็ตามที เขานั่งนิ่งอยู่นานพยายามคิดที่จะแก้ปัญหาครั้งใหญ่นี้ให้ได้ แต่แล้วจางยังคิดไม่ทันได้ หลันหลันก็โทรเมาท์แชทมาหาเขา จางไม่อยากรับแต่ก็กลัวจะมีปัญหาตามมาท เพราะที่เขามีกินมีใช้ส่วนหนึ่งก็เพราะหลันหลัน จางจึงจำเป็นต้องรับโทรศัพท์ในครั้งนี้
"ฮัลโหล"
"จางหลันหลันมาถึงหน้าโรงแรมแล้วน่ะ ลงมารับหลันหลันที"
"ครับ”จางกดวางโทรศัพท์และรีบเดินไปเปิดประตูเพื่อจะไปหาหลันหลันหน้าฟร้อน
เมื่อจางไปถึงก็เห็นหลันหลันนั่งที่โซฟากดโทรศัพท์มือถือเล่นอยู่ เขาจึงกลั้นใจเดินไปหาเธอ
"หลันหลัน”จางเรียกเธอ เพราะหลันหลันยังไม่เงยหน้ามองอะไรเลยนอกจากเล่นโทรศัพท์มือถือ
"ว้าวจาง หลันหลันคิดถึงจางมากเลย" หลันหลันจะเข้ามาจับแขน แต่จางขยัยแขนหนี เพราะตอนนี้เขารู้สึกไม่อยากถูกเนื้อต้องตัวหลันหลัน
"จางยังไม่หายโกรธหลันหลันอีกเหรอ”หลันหลันทำท่าทางน้อยใจเล็กน้อย
"ไป๊ อยู่ห้องไหนเดี๋ยวจางจะพาไปส่ง"
"อยู่ห้องข้างๆจางนั่นแหล่ะ หลันหลันรอให้ห้องว่างก่อนถึงมาที่นี่ แต่จางร้ายมากจะมาก็ไม่บอกหลันหลันเลย หลันหลันต้องบังคับให้เพื่อนจางบอก”หลันหลันยิ้มอย่างภูมิใจในความมีอิทธิพลในที่ทำงานและครอบครัวจาง
จางถอนหายใจพร้อมเบิกตาขึ้น เป็นอย่างที่เขานึกไว้ไม่มีผิดจริงๆ
"ถ้าอย่างนั้นก็ไปกัน”จางเดินนำหน้า
เมื่อมาถึงห้องที่หลันหลันจองไว้ หลันหลันรีบจับแขนจางแล้วซบที่ไหล่ทันที
"อย่าโกรธหลันหลันเลยนะ ที่หลันหลันบอกเลิกจางทั้งทียังรักจางอยู่นั้น มันมีสาเหตุมาจากพ่อแม่ของหลันหลันที่กดดัน จางก็รู้ดีนี่”
"มันผ่านมาแล้วอย่าไปพูดถึงมันอีกเลย”จางหันหน้าไปทางอื่นไม่สนใจหลันหลันแม้แต่น้อย
ในความรู้สึกของจางในขณะนี้ไม่ได้โกรธหลันหลัน แต่เป็นความรู้สึกที่ไม่ชอบผู้หญิงต่างหาก ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขายังมีความรู้สึกเช่นนั้น ในส่วนของจีจี้เขาแกล้งทำเพื่อมอมเหล้าจีจี้
"อย่าอย่างนั้นเรากลับมาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม"หลันหลันยังไม่เลิกซบที่ไหล่ของจาง
"มันจบแล้วผมไม่ได้รักหลันหลันล้ว"
หลันหลันเลิกซบที่ไหล่ของจางทันทีแล้วหันหน้ามามอง
"หรือว่าจางมีคนใหม่แล้ว"
"ใช่”จางพูดจาหน้กแน่นจริงจัง
"ผู้หญิงไทยหรอ"
"เอ่อ "จางพูดไม่ออกได้แต่นิ่ง
"ไม่เนียนเลยจาง ไปเรียนการแสดงมาใหม่นะ ถ้ามีแฟนจริงก็ต้องบอกได้ในทันทีซิ”หลันหลันหัวเราะ
"ผมจะมีใครหรือไม่มีมันเรื่องของผม"
"โอเคร เราเป็นเพื่อนกันไปก่อน เดี่ยวหลันหลันจะทำให้จางกลับมารักหลันหลันอีกครั้ง"
หลันหลันเดินไปที่กระเป๋าเพื่อจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ เพราะเธอแน่ใจแล้วจางไม่มีใคร ด้วยความมั่นใจในลูกคุณหนู สวย รวย เลือกได้ เธอคิดว่าสักวันหนึ่งจางก็ต้องกลับมารักเธอ
"ผมกลับห้องก่อนนะ"จางกำลังจะหันตัวกลับเพื่อออกจากห้องหลันหลัน
"เย็นนี้พาหลันหลันไปกินข้าวหน่อยได้ไหม"หลันหลันพูดโดยไม่ได้มองหน้าจาง
"ผมไม่ว่างมีนัด"
"นัดกับใคร”
"เพื่อนคนไทย"
"ผู้หญิงหรือผู้ชาย”หลันหลันวางเสื้อผ้าแล้วเดินมาใกล้ๆจาง
จางสะดุ้งกับคำพูดคำนี้อีกครั้ง เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อได้แต่ยืนนิ่งๆพยายามคิดหาคำพูด
"เงียบอีกแล้ว โกหกก็ไม่เนียน แค่เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชายแค่ตอบมาก็จบแล้ว หลันหลันก็เชื่อแล้วแต่นี่ยืนนิ่ง เอาเป็นว่าหลันหลันจะไปหาที่ห้องตอนหนึ่งทุ่ม”หลันหลันเดินย้อนกลับไปจัดเสื้อผ้าเหมือนเดิม ส่วนจางก็เดินออกไปจากห้องแบบเครียดมาก เพราะตอนเย็นต้นจะเอารถมอเตอร์ไซค์ที่ไปส่งคิม มาคืน
เมื่อจางออกไปจากห้องแล้ว หลันหลันก็ครุ่นคิดเรื่อรงราวในอดีตที่บอกเลิกจาง สำหรับหลันหลันจางคือรักแรกรักเดียว แต่ที่บอกเลิกกับจาง พ่อแม่บังคับเหตุผลรองแท่บจะไม่มีผล สาเหตุหลักหลันหลันเจอหนุ่มคนใหม่ ที่หล่อ รวย คู่ควรกับเธอและเป็นคู่ค้าทางธุรกิจ หลันหลันจึงหลงใหลได้ปลื้มเลยบอกเลิกจาง
แต่แล้วมันก็ไม่ได้เป็นดั่งหวัง เพราะรวยไม่จริงหวังมาเกาะหลันหลันเพื่อพยุงธุรกิจ เธอเลยซิ่งทิ้งหนีมาที่ไทยชั่วคราว และมาขอคืนดีกับจาง เพราะอย่างน้อยจางก็ไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอนอนกจากความรักที่มีให้
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จางรู้สึกยากที่จะไปเปิดประตู ไม่ว่าจะเป็นหลันหลันหรือต้น เขาก็รู้สึกจะรับในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นจางก็หาหลีกเลี่ยงได้ เขาจึงแง้มประตูเปิดออกอย่างลุ้น แล้วชะงักงันชั่วครู่“เป็นอะไรจาง”ต้นสงสัยในท่าทีที่แปลกไป ทั้งหน้าตาที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก“จางรักต้น”จางจับร่างของต้นดึงมาในอ้อมกอด“จาง”ต้นงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่จางทำอย่างกะทันกัน“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ต้นสัญญากับผมได้ไหมว่าจะไม่โกรธผม”จางดันร่างต้นออกห่างแล้วมองหน้าต้นด้วยสายตาแห่งความหวังต้นสับสนจิตใจยังไม่สามารถสัญญาได้ในทันที“จางบอกต้นก่อนได้ไหมมันเรื่องอะไร”“เรื่องมันยาวรับปากจางก่อนนะ”จางดึงร่างต้นเข้ามากอดอีดครั้งตรงหน้าประตู เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก็พบกับหลันหลันยืนมองดูด้วยสีหน้าหลากหลายอารมณ์ ที่ไม่สามารถบ่งบอกได้ทั้งตกใจ ประหลาดใจ ผิดหวัง เป็นห้วงลึกของจิตใจของหลันหลันจางนั้นพอเห็นหลันหลัน เขาถึงกับตะลึง ร่างกายชาชั่วขณะทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่นานเขาก็ดึงสติกับมาดันร่างของต้นออกห่างต้นแปลกใจพฤติกรรมของจาง จึงมองหน้าเขาเพื่อให้คลายสงสัย แต่สิ่งที่ต้นเห็นนั้นคือสายต
จางนั่งมองโทรศััพท์มือถือ เพื่อดูข้อความที่ส่งมาซึ่งเขายังอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่หลันหลันยังไม่ได้บอกเรื่องราวของเขาให้กับคนรอบข้างฟัง จางคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะไปข้อร้อง หลันหลันอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งกว่าจะไปจางก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ มันเป็นอะไรที่ยากเย็นมากที่จะเอ่ยปากขอร้องหลันหลัน แต่เขาต้องรีบไปไม่งั้นชีวิตของเขาคงวุ่นวายแน่ จางจึงเดินออกจากห้องไปหาหลันหลันจางเคาะประตูสักพักหลันหลันก็เปิดประตูออกมา หลันหลันมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก"มีอะไรจาง"หลันหลันใช้สายตาเย็นชามองจาง"เข้าไปคุยข้างในได้ไหม""ทีคุยกับผู้หญิงหน้าห้องอายเหรอ ทำไมเมื่อวานกอดกับผู้ชายไม่อาย""ผมอยากคุยธุระกับคุณ"จางมีสายตาที่เศร้าจนหลันหลันใจอ่อนขึ้นมาบ้าง ในฐานะคนเคยรักกันแต่เธอก็ยังไม่หายโกรธจางอยู่ดีจางเดินเข้ามาในห้องของหลันหลันแล้วนั่งลง ส่วนหลันหลันก็นั่งลงช้างๆ"มีอะไรว่ามา"หลันหลันถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว การมาของจางนั้นมาเพื่ออะไร"คือ ผมอยากให้หลันหลันอย่าบอกเรื่่องนี้กับใคร"พูดจบจางก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ"รู้ตัวมานานหรือยังว่าชอบ เอ่อ แบบนั้น"หลันหลันเริ่มอ่อนลง"ผมรู้ตัวที่นี
หลันหลันเคาะประตูเพียงครั้งเดียว จางก็เปิดประตูออกมาทันที และเขาก็มีสีหน้าที่ผิดหวังที่ไม่ใช่ต้น"มองหาแฟนหรอ""ต้นมาเหรอ"จางถาม"เขาฝากกุญแจไว้"หลันหลันยื่นกุญแจรถให้จาง เขาจึงรับไว้"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ"จางเดินออกจากห้องรีบมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา"จะมองอะไรแค่เขาไม่เข้าห้องก็น่าบอกได้แล้วนะว่า เขาเลิกกับจางแล้ว"หลันหลันยักไหล่เหล่สายตามองจาง ในท่าทีเย้ยหยัน"ทำใจซะ คงคิดได้คบกับจางต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร "หลันหลันหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ"ไม่จริง"จางใช้ที่เสียงหนักแน่น แต่เริ่มแผ่วในช่วงท้าย"ทำไมจะไม่จริง จางก็ลองดูซิถ้าอีกสามวันเขาไม่มาหาจาง แสดงว่าเขาคงอยากเลิกกับจาง"เมื่อจางเจอหลันหลันย้ำ เขาถึงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางคิดไปว่าต้นคงกลับไปคบกับปรัชญ์เหมือนเดิม เพราะทั้งคู่เคยรักใคร่ต่อกันมาก่อนเขา"เขาคงคิดได้ล่ะมั้ง ถ้าอยู่กับจางก็แค่มีความสุขในไทย แต่ไม่สามารถไปที่อันเจียได้ จางก็รู้ดีนี่ ที่นั้นเขายังไม่ยอมรับเรื่องนี้ จางกล้าที่จะเผชิญความจริงเหรอ"หลี่่หลันหลันพยายามสังเกตสีหน้าของจาง ซึ่งก็เป็นผลดั่งที่เธอคาดไว้ หลันหลันจึงใส่ไฟต่อไม่พอแค่นี้"ถ้า
จางยังไม่สามารถลดอคติในใจที่มีต่อต้นกับปรัชญ์ได้ เขาจึงมองไม่เห็นในข้อนี้"มันเป็นเรื่องของผมคุณจะมายุ่งอะไรด้วย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย"ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ที่มาก็เพราะต้นไม่ใช่คุณ"คิมพยายามสงบจิตใจให้แน่นิ่ง"นั่นไงคุณยอมรับมาแล้ว ว่ายังคิดอะไรกับต้นอยู่"จางมองหน้าคิมด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ"คุณนี่มันพาลจริงๆ แถมเมาอีกด้วยผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว""ไม่อยากคุยหรือพูดแทงใจดำ ถึงผมจะมีปัญหากับต้น คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเป็นห่วงต้นสงสารต้น เพราะยังไม่ได้เลิกกันสักหน่อย""ตามสบาย"คิมพูดได้แค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่มีสิทธิ์ข้อนี้"ฝากบอกต้นด้วยให้มาหาผม ถ้าไม่มาอีกสองวันผมจะกลับอันเจีย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งอยู่"ทำไมไม่ไปบอกเอง"คิมพูดขึ้น"เรื่องของผม คุณไม่ต้องรู้"จางอยากพิสูจน์ใจของต้น เขาต้องการรู้ว่าต้นจะยังรักเขาอยู่ไหม ถ้าเกิดต้นไม่มาแสดงว่าต้นหมดรักเขาแล้ว จางคิดไปไกลถึงขั้นนั้นทีเดียว"ผมไม่บอกหรอก ดีผมจะได้จีบต้นต่อถ้าเลิกกับคุณ"คิมยิ้มเยาะ"คุณนี่มัน ออกไปจากห้องผมเลย"จางชี้มือไปที่ประตูห้อง"ผมไปแน่ แล้วจะไปหาต้นด้วย ปล่อยให้คุณเมาเหล้าอยู่อย่างนี้แหล่ะ"พูดจบคิมก็เดิน
ริโอ้ได้มาส่งซองที่โรงแรม เมื่อมาถึงในห้องนอนที่แสนจะชวนทำอะไรบางอย่าง"ดึกมากแล้วน่ะ ริโอ้กลับไปก่อนเถอะ"ซองแกล้งทั้งที่ใจอยากให้อยู่ เพราะซองเปิดใจให้ริโอ้เมื่อไม่นาน ยิ่งเห็นความจริงใจของริโอ้ที่มีต่อต้น จนเขารู้สึกอิจฉาในบางครั้ง แต่ถ้าได้คบกับต้นในฐานะคนรัก ริโอ้คงจะดูแลดีขนาดไหน ซองนั่งคิดฝันหวาน"ก็ได้ผมกลับแล้วนะ"ริโอ้รู้สีึกโกรธ ใจจริงเขาอยากนอนที่นี่"อยากกลับก็กลับไปเลยไม่ต้องมาอีกนะ"ซองรู้สึกโมโห หวังจะให้ริโอ้มายอกล้อให้คลายอารมณ์เครียดที่ริโอ้พูดเช่นนั้น เพราะเขายังกังวลใจ ในเรื่องของต้นอยู่มากพอสมควร เขาจึงไม่มีอารมณ์ที่จะมาพูดเล่น แต่ถ้าทำบางสิ่งเขาก็ไม่มีปัญหา"ก็ได้ ริโอ้กลับแล้ว" ริโอ้รีบเดินไปที่ประตูอย่างอารมณ์เสียซองเห็นริโอ้โกรธและไม่มีอารมณ์หยอกล้อคุยเล่น เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาริโอ้ แล้วกอดเอวไว้แนบกายอย่างแนบสนิท"ปล่อยริโอ้นะ จะกลับแล้ว ไม่อยู่ให้ขวางหูขวางตาหรอก"ริโอ้พยายามแกะมือของซองออก โดยใช้แรงเพียงนิดหน่อย เพราะเขามีความรู้สึกที่แปลกในจิตใจและร่างกาย ที่ไม่อยากไปจากที่นี่"อย่าไปนะ ซองขอโทษ ซองล้อเล่น"ซองรัดอ้อมกอดไว้แน่น เพราะกลัวริโอ้จะไปจริงๆใน
"แล้วเรื่องของจางต้นจะทำอย่างไร"คิมถาม เพื่ออยากรู้คำตอบและจะได้สานรอยร้าวให้สมานดังเดิ่ม และนี่เป็นโอกาสของเขาเอง ที่เขาต้องไขว่คว้าไว้หลังจากแพ้ทางรัก ให้แกจางในครั้งที่แล้ว"ต้นย้งไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี" ใจหนึ่งต้นอยากจะไปหาเจาง เพราะเขาก็ยังรักจางอยู่ไม่เปลื่ยนแปลง แต่อีกใจหนึ่งเขาเริ่มท้อกับปัญหาที่ตามมาไม่หยุดหย่อน พร้อมกับปัญหาที่จิตใจของจางที่ไม่มั่นคงเหมือนคิม"จะไม่ไปหาจางแล้วเหรอครับ"คิมลุ้นคำตอบที่จะได้รับฟัง ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกออกมาชัดเจน"คงไม่ไปแล้วแหล่ะ เพราะไม่เห็นจางโทรมาเลย"ต้นรู้สึกเสียใจ เพราะส่วนหนึ่ง ใจของเขาอยากให้จางโทรมา เพียงแค่นี้เขาก็จะไปหาจางทันที แต่ก็รอมาร่วมสองวันยังไร้วี่แววของจาง"คิดว่าทำใจได้แล้วใช่ไหม"คิมถาม"คงยังไม่ได้หรอก ถ้านานไปคงจะทำใด้เอง"ต้นรู้สึกใจหายวับหลังจากได้ยินคำถามนี้ ที่แสนจะแทงใจเขาจนสุดขั้ว"ไม่ว่าต้นจะตัดสินใจอย่างไร โยฮันยินดีอยู่เป็นเพื่อน และพร้อมดูแลต้นตลอดไป"คิมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วจ้องมองหน้าของต้นอย่างเว้าวอน ให้เห็นใจความรักที่เขามีให้ต้น"ขอบใจนะโยฮัน ต้นเข้าใจดีทุกอย่าง แต่ตอนนนี้ต้นขอเวลาให้กับตัวเองซักระยะ"ต้นห
จางรอต้นจนใกล้จะถึงเวลา ที่ต้องเข้าไปข้างในสนามบิน เขาหมดหวังแล้วที่ต้นจะมาหาเขา จางจึงพยายามทำใจก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งหลันหลันก็สังเกตเห็นจางดูซึมลง แต่เธอก็ไม่แคร์ขอแค่จางกลับไปด้วยกันเป็นพอ"รอแฟนใหม่อยู่เหรอ เขาไม่มาหรอกอย่าหวังเลย"หลันหลันยิ้มเยาะ"ผมไม่ได้รอ และก็ไม่ได้หวังหรอกว่าต้นจะมา"จางมีสีหน้าที่ซึมลงกว่าเก่าอีก"คิดได้ก็ดี ได้เวลาแล้วไปกัน"หลันหลันลุกขึ้นยืน และแอบชำเลืองมองจาง"ฮือ"จางรับคำ และเขาก็ยังไม่อยากกลับอันเจียอยากอยู่ที่เชียงใหม่ต่อ แต่ในเมื่อต้นไม่สนใจเขา จางจำใจต้องจากไปพอรถมอเตอร์ไซค์จอด ต้นลงจากรถยืนนิ่งครุ่นคิด สักพักคิมโยอันก็ลงตาม ต่อจากนั้นก็เก็บหมวกกันน็อคทั้งสองใบไว้ที่หน้ารถ"เข้าไปข้างในกัน เดี๋ยวไม่ทันจาง"คิมพูดอย่างจริงใจ และหวังว่าทั้งสองจะปรับความเข้าใจกัน"คือ ต้น เอ่อ"ต้นอ้ำอึ่ง"ไปเหอะอย่าเสียเวลาเลย ทำตามใจที่เราต้องการ"ต้นยืนคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจไปหาจางี่ย เพราะอย่างน้อยจางก็ยังบอกเขาเมื่อจะกลับอันเจีย ถ้าเกิดจางยังจะกลับอันเจียหลังจากเจอเขา ต้นก็พร้อมที่จะปล่อยจางจากไปเช่นกันต้นและคิมเดินมาอย่างรวดเร็ว และหยุดวนรอบตัวเองมองหาจา
ต้นหนุ่มตกงานประจำรักคุด รีบเดินอย่างว่องไวเพื่อมาทำอาชีพเสริม เขายิ่งรีบเหมือนยิ่งช้าเพราะผู้คนเดินกันควักไข่ว ในบริเวณถนนคนเดินที่เชียงใหม่ ต้นใช้เวลาเดินทางราวสามสิบนาที ก็มาถึงร้านนวดฝ่าเท้าข้างทาง"มาเร็วเข้าประจำที่เลย ลูกค้านั่งรอเต็มไปหมดแล้ว" ป้าทองคำตะโกนเสียงดัง พร้อมกับจัดที่ให้ลูกค้า และต้นหมอนวดหนุ่มวัยยี่สิบสาม"ครับป้า"ต้นรีบนำกระเป๋าไปเก็บไว้และมานั่งประจำตำแหน่ง ซึ่งลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียนั่งรออยู่"สวัสดีครับ"ต้นทักทายเป็นภาษาอังกฤษ เขาพอพูดได้บ้างเพราะจบชั้น ม.6 มา ลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียยิ้มให้ต้น และมองต้นนิ่งชั่วครู่ จนทำให้ต้นเริ่มรู้สึกเขินอาย"นวดกี่ชั่วโมงครับ"ต้นรีบถามเพราะจะได้เริ่มทำงาน" 1 ชั่วโมงครับ"เมื่อได้รับคำตอบแล้ว ต้นจึงจัดแจงนำผ้าชุ่มน้ำ บรรจงเช็ดเท้าอย่างช้าๆจนสะอาด หลังจากนั้นต้นก็ชะโลมน้ำมันนวดคลึงเบาๆบริเวณเท้าทั้งสองข้าง"นวดหนักๆหน่อย"หนุ่มอันเจียพูดขึ้น"ยังไม่ได้นวดครับ แค่เริ่มต้นชะโลมน้ำมันก่อน"ต้นฝืนยิ้มให้ลูกค้าแถมคิดในใจว่า โดนงานหินอีกแล้ว ถึงว่าทำไมป้าทองคำไม่นวดเองหลังจากชะโลมน้ำมันที่ฝ่ามือเสร็จ ต้นจึงเริ่มออกแรงห