จางนั่งมองโทรศััพท์มือถือ เพื่อดูข้อความที่ส่งมาซึ่งเขายังอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่หลันหลันยังไม่ได้บอกเรื่องราวของเขาให้กับคนรอบข้างฟัง จางคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะไปข้อร้อง หลันหลันอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งกว่าจะไปจางก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ มันเป็นอะไรที่ยากเย็นมากที่จะเอ่ยปากขอร้องหลันหลัน แต่เขาต้องรีบไปไม่งั้นชีวิตของเขาคงวุ่นวายแน่ จางจึงเดินออกจากห้องไปหาหลันหลัน
จางเคาะประตูสักพักหลันหลันก็เปิดประตูออกมา หลันหลันมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก
"มีอะไรจาง"หลันหลันใช้สายตาเย็นชามองจาง
"เข้าไปคุยข้างในได้ไหม"
"ทีคุยกับผู้หญิงหน้าห้องอายเหรอ ทำไมเมื่อวานกอดกับผู้ชายไม่อาย"
"ผมอยากคุยธุระกับคุณ"จางมีสายตาที่เศร้าจนหลันหลันใจอ่อนขึ้นมาบ้าง ในฐานะคนเคยรักกันแต่เธอก็ยังไม่หายโกรธจางอยู่ดี
จางเดินเข้ามาในห้องของหลันหลันแล้วนั่งลง ส่วนหลันหลันก็นั่งลงช้างๆ
"มีอะไรว่ามา"หลันหลันถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว การมาของจางนั้นมาเพื่ออะไร
"คือ ผมอยากให้หลันหลันอย่าบอกเรื่่องนี้กับใคร"พูดจบจางก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ
"รู้ตัวมานานหรือยังว่าชอบ เอ่อ แบบนั้น"หลันหลันเริ่มอ่อนลง
"ผมรู้ตัวที่นี่แหล่ะ"จากก้มหน้าจางเงยหน้าขึ้น
"หลันหลันก็เสียใจนิดหน่อยที่เห็นภาพแบบนั้น มันยากที่จะทำใจได้"ความจริงหลันหลันแท่บจะหมดรักจางไปนานแล้ว หลังจากติดพันลูกนักธุรกิจกำมะลอ แต่ที่กลับมาหาจางเพราะเธอไม่มีใครแล้วต่างหาก
"ผมขอโทษครับ"
"อย่างที่บอกหลันหลันไม่ได้โกรธแค่เสียใจ"
"รับปากผมได้ไหมอย่าพึ่งบอกใคร ผมยังไม่พร้อมที่จะให้คนอื่นรับรู้"
"จางจะปิดบังต่อไป ทั้งทีใจของจางไม่ได้รักผู้หญิงนี่เหรอ"
"จางกลัวพ่อแม่รับไม่ได้ ส่วนเพื่อนๆผมไม่สนใจอะไรหรอกครับ"จางงหันหน้ามามองหลันหลัน
"ก็ได้แต่"หลันหลันกำลังวางแผนการณ์ร้ายในใจ
"อะไร"สายตาไคร่รู้ของจางเป็นประกาย
"อยากแรกจางห้ามลาออกจากงานที่บริษัท"สาเหตุที่หลันหลันไม่อยากให้จางลาออก เพราะส่วนหนึ่งที่บริษัทของหลี่หรงเติบโต จางมีส่วนช่วยอย่างมาก จนพ่อแม่ของเธอเริ่มยอมรับหลังจากลูกนักธุรกิจกำมะลอ มาเป็นข้อมเปรียบเทียบและข้อสำคัญ หลังจากที่จางมาที่ไทย บริษัทของเธอทำอะไรติดขัดไปหมด
จางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ถ้าเขายังทำงานอยู่ที่อันเจียโอกาสที่จะเจอต้นก็จะน้อยลง
"ถ้าจะมาหาแฟนปีละครั้งก็ได้แค่ช่วงพักร้อน มีเวลาเป็นเดือนหรือถ้ากล้าก็พาไปที่อันเจียก็ได้"หลันหลันรู้จักจางดีว่าไม่กล้าหรอก เพราะที่อันเจียยังไม่เปิดยอมรับเรื่องนี้มากนัก แต่สำหรับเธอไม่มีปัญหาอะไร
"ก็ได้ มีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า"
"มีี จางต้องกลับอันเจียพร้อมหลันหลัน"หลันหลันมองจางทันใดที่พูดจบ
"หลันหลันจะกลับวันไหน"
"สองสามวันยังไม่แน่ แต่หลันหลันไม่รีบเอาคำตอบหรอก"
"จะให้ผมกลับไปด้วยทำไม ในเมื่อหลันหลันก็รู้ความจริงแล้วนี่"
"หลันหลันมาที่ไทยเพราะมาง้อจาง ถ้าให้หลันหลันกลับคนเดียวคนอื่นเขาจะคิดอย่างไร หรือจะให้หลันหลันบอกว่าจางมีแฟนใหม่เป็นผู้ชายเหรอ"หลันหลันยิ้มเยาะในท่าที แผนการณ์ของเธอเมื่อพาจางกลับไปได้ หลังจากนั้นอาจจะแค่คบกันหลอกๆแล้วค่อยแกล้งเลิก เมื่อเธอมีใครคนใหม่ที่คิดว่าคู่ควร เธอกลัวการเสียหน้ามากที่สุด
"ผมขอคิดดูก่อนนะ ผมขอกลับห้อง"จางลุกขึ้นทั้งๆที่คาใจหลายเรื่อง แต่เขาก็ไม่อยากคุยต่อแล้ว เพราะยิ่งคุยเขายิ่งพบปัญหาใหญ่มากขึ้นเป็นทวีคูณ จางจึงเดินออกจากห้องหลันหลันโดยที่ไม่มองหน้าเธอแม้แต่น้อย
เมื่อจางมาถึงที่ห้องเขา ก็เกิดความคิดที่จะไปอยู่ที่ห้องต้นซักคืน เพราะไม่อยากเจอหลันหลัน และจะสะดวกถ้าไปปรึกษากับต้นเรื่องที่หลี่หงหรงเสนอมา จางจึงโทรหาต้นแต่เขาก็ไม่รับโทรศัพท์ โทรไปที่ทำงานกันเจ้าของร้านก็บอกว่าออกไปตั้งนานแล้ว จางรู้สึกเป็นห่วงเพราะที่ร้านนวดมาถึงโรงแรมใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที
จางจึงตัดสินไปดูต้นที่ห้อง ถ้าเจอจะได้อยู่ที่นั่นด้วย ถ้าไม่เจอจะได้ตามหาต่อไป เขาจึงรีบออกจากโรงแรมในทันที และเหมาตุ๊กตุ๊กไปยังห้องเช่าของต้น
ต้นหลังเลิกงานเขาก็รีบกลับห้อง ช่วงเวลาที่จางโทรมาหาเขาไม่ได้ยิน เพราะอยู่ในระหว่างขับรถซึ่งเสียงจะดังมาก
เมื่อต้นมาถึงห้องก็รีบเข้าไปในทันที โดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครตามมาตลอดทาง พอต้นกำลังจะก้าวเข้าห้อง ก็มีร่างชายหนุ่มวิ่งมาผลักร่างต้นเข้าห้อง และชายหนุ่มนั้นก็เข้าตามไปด้วย
ต้นเซพอตั้งหลักได้จึงหันหน้ามอมอง
"ปรัชญ์ ต้นอุทานด้วยความตกใจ
ปรัชญ์ยืนยิ้มเขาต้องใช้ความพยายามมาก กว่าจะเข้ามาที่ห้องพักต้นได้ เนื่องจากต้องใช้วิธีตีเนียนกับ รปภ ว่าเป็นเพื่อนต้น และด้วยความเร่งรีบของต้นจึงไม่ทันระวังตัว นึกว่าเป็นคนเช่าห้องอื่นเดินตามมา
"เจอแฟนเก่าถึงกับตกใจเลยหรอ"ปรัชญ์ใช้มือลูบปลายคางของต้น
"มาที่นี่มีอะไร"ต้นปัดมือของปรัชญ์ออก
"คิดถึงมาหาไม่ได้เหรอ"ปรัชญ์เดินเข้ามาใกล้ๆ
"อย่ามายุ่ง เราเลิกกันแล้ว"
"แต่ปรัชญ์ไม่เลิกจะทำไม มีปัญหาอะไร ปรัชญ์จะมาอยู่นี่"
"หน้าด้าน"ต้นด่าด้วยความโมโหสุดที่จะยับยั้ง
"ต้นก็รู้นี่ปรัชญ์หน้าด้าน"ปรัชญ์หัวเราะชอบใจ
"มานี่ต้องการอะไรพูดมาตรงๆเลย"
"เปล่า ไม่ต้องการอะไรแค่อยากกับมาอยู่กับต้น คนมันเคยรักกัน อดคิดถึงไม่ได้หรอกใช่ไหม"ปรัชญ์เดินวนไปทั่วห้องก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงแล้วล้มตัวลงนอน
"ออกจากห้องต้นเดี่๋ยวนี้ ถ้าไม่ออกต้นจะแจ้ง รปภ ให้มาลากตัวปรัชญ์ไป"เสียงของต้นเข้มขึ้น
"เดี๋ยวปรัชญ์ก็กลับแค่มาหาต้นเฉยๆคิดถึงน่ะ"
"ไม่ต้องมาคิดถึงต้นหรอกปรัชญ์ พี่นนท์รออยู่ไปหาพี่เขาโน้น"
"ปรัชญ์ไม่สนหรอกนนท์น่ะ ปรัชญ์ชอบต้นมาากว่า"
ต้นแสยะยิ้มด้วยความชังอย่างที่สุด แล้วพลันคิดไปได้ว่าเมื่อวานเจอพี่นนท์ที่ร้าน หรือจะเป็นแผนการณ์อะไรสักอย่างที่ทั้งสองต้องการ ต้นคิดได้เพียงอย่างเดียวที่ปรัชญ์กลับมาเพราะเรื่องเงินมากกว่า
"เอาน่าไม่ต้องคิดมากปรัชญ์กลับแล้ว พรุ่งนี้ปรัชญ์จะมาหาใหม่"ปรัชญ์ลุกขี้นจากเตียงนอนและเดินไปหาต้น ยื่นหน้าจะไปหอมแก้มต้น แต่ต้นหลบหลีกไม่อยากให้มาถูกเนื้อต้องตัวแม้แต่น้อย
"หวงตัวซะด้วย "ปรัชญ์หัวเราะยิ้มร่าเดินออกไปที่ประตู เพราะเขาคิดว่าต้องค่อยๆซึมซับความหลังไปทีละน้อย พร้อมกับขู่ไปในตัว
พอปรัชญ์เปิดประตูออกไปเขาตกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นจางในสภาพผมยุ่งเหยิง
"หวัดดี"ปรัชญ์ทักในทันที
"มาทำไมที่นี่"จางจ้องมองปรัชญ์
"มาหาแฟนไม่ได้เหรอ แล้วคุณมาทำไม ผมก็มาอย่างนั้นแหล่ะ"ปรัชญ์ยิ้มใส่จาง
ก่อนออกไปจากห้องของต้น ปรัชญ์กระซิบข้างหูของจาง
"ก่อนที่ต้นจะเป็นของคุณเขาเป็นของผมมาก่อน"ต้นหัวเราะแล้วเดินจากไป
พอปรัชญ์ออกไป ต้นรีบเดินมาหาจางในทันที พร้อมจับแขนของจางไว้
"ไม่จริงนะอย่าไปเชื่อที่ปรัชญ์"ต้นมีสีหน้าตื่นตระหนกตกใจกลัวใจจางหวาดระแวงในตัวเอง
"จะให้ผมเชื่ออย่างนั้นเหรอ"จางนิ่งสับสน ใจหนึ่งอยากเชื่อ แต่ด้วยความที่มีความหลังที่โดนหักอกมาก่อน จางจึงไม่ค่อยแน่ใจนัก และไม่มั่นใจว่าต้นจะลืมปรัชญ์ได้ รวมทั้งมีเรื่องของหลันหลันเข้ามา จางยิ่งเอนเอียงไปทางเชื่อปรัชญ์มากกว่า
ในระหว่างนั้นริโอ้และซองรีบเข้ามาในทันที เพราะทราบจากกันว่าจางตามหาต้นไม่เจอ และก่อนขึ้นมาริโอ้ได้เจอกับปรัชญ์ด้วย แล้วยิ่งมาเจอจางในสภาพหน้าบอกบุญไม่รับ ริโอ้จึงพอจะคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นได้
"ต้น ปรัชญ์มันทำอะไรต้นหรือเปล่า"ริโอ้เดินเข้ามาหาต้นแล้วมองไปที่จาง
"เปล่า"
"ก็ดีแล้ว"ริโอ้จึงหันไปมองจาง
"ไม่มีอะไรหรอก เชื่อใจต้นได้ ต้นไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน"ริโอ้พยายามสร้างความมั่นใจให้จาง
แต่ไม่ค่อยจะได้ผลด้วยความหวาดระแวง เขาจึงยืนนิ่งๆด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่
"ผมกลับก่อนนะ บางทีสองสามวันผมจะกลับอันเจีย"จางหันหลังกลับพร้อมเดินออกไปจากห้อง
"จางอย่าไป"ต้นวิ่งเข้าไปกอดเอวของจางไว้
"ผมยังทำใจไม่ได้ ให้เวลากับผมบ้างได้ไหม"จางแกะมือของต้นออก แล้วเดินจากไปโดยไม่หันหน้ากลับมา
"จาง"ต้นตะโกนอย่างดัง
ริโอ้จึงต้องเข้ามาดึงมือของต้นไว้ ในขณะที่เขากำลังจะตามจางไป
"รอให้จางใจเย็นก่อนก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยไปหาแต่เช้า"
ต้นสะอึกสะอื้นอยากไปวันนี้ใจจะขาด แต่ก็เห็นด้วยกับริโอ้รอให้จางใจเย็นกว่านี้ก่อน เขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า
"เอาน่า อย่าคิดมากพรุ่งนี้ริโอ้จะไปเป็นเพื่อน คืนนี้ริโอ้กับซองก็จะนอนที่นี่ด้วย"
"อ่ะ"ซองไม่คาดคิดว่าจะได้นอนที่นี่ แต่เขาก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนต้น ในขณะเดียวกันก็ส่งข้อความถึงคิม
"กลับด่วน ต้นกับจางทะเลาะกัน"
ตอนนี้ซองเริ่มทำใจเรื่องคิมได้แล้ว เขาจึงอยากให้กลับมาสานสัมพันธ์ต่อกับต้นมากกว่าจาง ที่ใจไม่หนักแน่เหมือนคิม ที่เคยเจอเหตุการณ์เดียวกัน แต่คิมเชื่อใจต้น
ถึงริโอ้จะเห็นใจจางแต่ก็รับไม่ได้ เมื่อเทียบกับคิมโยอันที่ไม่เคยมีท่าทีแบบนี้ต่อต้น เขาจึงมีความคิดขึ้นมาแว่บหนึ่งอย่างให้ต้นเลิกกับจาง แต่เขาก็ต้องเลิกคิดเพราะริโอ้คิดว่าต้องแล้วแต่ต้น
จางไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะคิดวนแต่เรื่องของต้น ข้อสำคัญต้นไม่โทรมาหาเขาเลย ทุกครั้งที่ผิดใจกันต้นจะโทรมาหาตลอด เขาจึงจะรอต้นถึงตอนเย็น ถ้าต้นไม่มาหาหรือโทรมาเขาจะกลับอันเจียพร้อมหลันหลัน ส่วนภาพที่เห็นจางจะพยายามทำใจให้ได้ ขอเพียงต้นมาหาเขาภายในสองสามวันนี้
ต้นมาหาจางที่โรงแรมแต่เช้า เขามาเพียงคนเดียวเพราะเห็นริโอ้กับซองหลับอยู่ ต้นเลยไม่อยากรบกวน เมื่อต้นเดินมาถึงหน้าห้องของจาง หลันหลันก็ออกมาจากห้องพอดีและเห็นต้น เธอจึงเดินเข้าไปหาต้นเพื่อคุยอะไรบางอย่าง
"หยุดก่อน"ต้นกำลังจะเคาะประตูเรียกจางแต่ต้องหยุดชะงัก เพราะเสียงเรียกจากหลันหลัน
"มีอะไร"ต้นหันหน้ามามองหลันหลันด้วยความสงสัยในท่าทีที่ดูไม่เป็นมิตร
"มีเรื่องจะคุยด้วย"
"เรื่องอะไร"
"ก็เรื่องของจาง"หลันหลันยืนกอดอกมองหน้าต้นพร้อมยิ้มน้อยๆ
"ว่ามาเลยเรื่องอะไร"ต้นหันมาประจันหน้ากับหลันหลัน"
"ถ้ารักจางก็เลิกกับจางซะ"
"ทำไมต้องเลิก คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง"ต้นมีน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ในคำพูดและท่าทีของหลันหลัน และรู้สึกเสียเวลาที่มายืนคุยกับเธอ
"ความรักของเธอกับจางไม่มีวันเป็นไปได้ เธอก็อาจจะรู้มาบ้างนี่ ที่อันเจียยังไม่ค่อยยอมรับเรื่องนี้ เธอก็คิดดูซิ ถึงจะยังคบกันอยู่ จางก็มาหารเธอได้แค่ปีละครั้งแค่เดือนกว่าๆ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จางจะพาเธอไปอันเจียด้วย ถึงพาไปก็อยู่แบบหลบๆซ่อนๆ"หลันหลันเบิกตาขึ้นบนแล้วหันมามองต้น
"จางรับปากแล้ว จางจะมาทำงานที่ไทย"ต้นตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ
"เหรอ แต่จางรับปากฉันไว้แล้ว จะกลับไปกับฉันภายในสองสามวันนี้"หลันหลันใช้สองมือประสานกันแล้วเอียงคอมามองต้นด้วยสายตาผู้ชนะ
เมื่อต้นได้ยินสองสามวันจางจะกลับอันเจีย ใจของเขาหายวับไปในทันที กว่าจะเรียกคืนมาได้ก็เพราะเสียงหลันหลัน
"เงียบไปเลยเหรอ เมื่อรู้ความจริง เมื่อคืนจางมาปรับความเข้าใจกับฉันแล้ว ทั้งคืน"หลันหลันย้ำคำว่าทั้งคืน
"เธอมันก็แค่ชั่วคราวส่วนฉันนั้นของจริง และอีกอย่างฉันจะบอกความจริง กับครอบครัวของจางทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ ถ้าเธอรักจางก็ไปซะ"หลันหลันถลนตาใส่ต้น
หลันหลันวัดใจกับต้น ด้วยสีหน้าเธอดูมั่นใจแต่ก็ลุ้นหนักมาก
"ถ้าเธอไม่เชื่อก็ลองดูภายในสามวัน ถ้าจางไม่ติดต่อเธอไป ก็แสดงว่าเขาเลือกฉันไม่ใช่เธอ"
"เอ้า คืนจางด้วย"ต้นยื่นกุญแจรถให้หลันหลัน
ต้นหลับตาหยุดคิดชั่วครู่ เขาก็เดินจากไปปล่อยให้หลันหลันยิ้มอย่างผู้ได้รับชััยชนะ หลันหลันยิ้มที่มุมปาก พร้อมยกมือที่ถือกุญแจควงไปมา แล้วเคาะประตูห้องของจาง
หลันหลันเคาะประตูเพียงครั้งเดียว จางก็เปิดประตูออกมาทันที และเขาก็มีสีหน้าที่ผิดหวังที่ไม่ใช่ต้น"มองหาแฟนหรอ""ต้นมาเหรอ"จางถาม"เขาฝากกุญแจไว้"หลันหลันยื่นกุญแจรถให้จาง เขาจึงรับไว้"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ"จางเดินออกจากห้องรีบมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา"จะมองอะไรแค่เขาไม่เข้าห้องก็น่าบอกได้แล้วนะว่า เขาเลิกกับจางแล้ว"หลันหลันยักไหล่เหล่สายตามองจาง ในท่าทีเย้ยหยัน"ทำใจซะ คงคิดได้คบกับจางต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร "หลันหลันหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ"ไม่จริง"จางใช้ที่เสียงหนักแน่น แต่เริ่มแผ่วในช่วงท้าย"ทำไมจะไม่จริง จางก็ลองดูซิถ้าอีกสามวันเขาไม่มาหาจาง แสดงว่าเขาคงอยากเลิกกับจาง"เมื่อจางเจอหลันหลันย้ำ เขาถึงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางคิดไปว่าต้นคงกลับไปคบกับปรัชญ์เหมือนเดิม เพราะทั้งคู่เคยรักใคร่ต่อกันมาก่อนเขา"เขาคงคิดได้ล่ะมั้ง ถ้าอยู่กับจางก็แค่มีความสุขในไทย แต่ไม่สามารถไปที่อันเจียได้ จางก็รู้ดีนี่ ที่นั้นเขายังไม่ยอมรับเรื่องนี้ จางกล้าที่จะเผชิญความจริงเหรอ"หลี่่หลันหลันพยายามสังเกตสีหน้าของจาง ซึ่งก็เป็นผลดั่งที่เธอคาดไว้ หลันหลันจึงใส่ไฟต่อไม่พอแค่นี้"ถ้า
จางยังไม่สามารถลดอคติในใจที่มีต่อต้นกับปรัชญ์ได้ เขาจึงมองไม่เห็นในข้อนี้"มันเป็นเรื่องของผมคุณจะมายุ่งอะไรด้วย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย"ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ที่มาก็เพราะต้นไม่ใช่คุณ"คิมพยายามสงบจิตใจให้แน่นิ่ง"นั่นไงคุณยอมรับมาแล้ว ว่ายังคิดอะไรกับต้นอยู่"จางมองหน้าคิมด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ"คุณนี่มันพาลจริงๆ แถมเมาอีกด้วยผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว""ไม่อยากคุยหรือพูดแทงใจดำ ถึงผมจะมีปัญหากับต้น คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเป็นห่วงต้นสงสารต้น เพราะยังไม่ได้เลิกกันสักหน่อย""ตามสบาย"คิมพูดได้แค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่มีสิทธิ์ข้อนี้"ฝากบอกต้นด้วยให้มาหาผม ถ้าไม่มาอีกสองวันผมจะกลับอันเจีย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งอยู่"ทำไมไม่ไปบอกเอง"คิมพูดขึ้น"เรื่องของผม คุณไม่ต้องรู้"จางอยากพิสูจน์ใจของต้น เขาต้องการรู้ว่าต้นจะยังรักเขาอยู่ไหม ถ้าเกิดต้นไม่มาแสดงว่าต้นหมดรักเขาแล้ว จางคิดไปไกลถึงขั้นนั้นทีเดียว"ผมไม่บอกหรอก ดีผมจะได้จีบต้นต่อถ้าเลิกกับคุณ"คิมยิ้มเยาะ"คุณนี่มัน ออกไปจากห้องผมเลย"จางชี้มือไปที่ประตูห้อง"ผมไปแน่ แล้วจะไปหาต้นด้วย ปล่อยให้คุณเมาเหล้าอยู่อย่างนี้แหล่ะ"พูดจบคิมก็เดิน
ริโอ้ได้มาส่งซองที่โรงแรม เมื่อมาถึงในห้องนอนที่แสนจะชวนทำอะไรบางอย่าง"ดึกมากแล้วน่ะ ริโอ้กลับไปก่อนเถอะ"ซองแกล้งทั้งที่ใจอยากให้อยู่ เพราะซองเปิดใจให้ริโอ้เมื่อไม่นาน ยิ่งเห็นความจริงใจของริโอ้ที่มีต่อต้น จนเขารู้สึกอิจฉาในบางครั้ง แต่ถ้าได้คบกับต้นในฐานะคนรัก ริโอ้คงจะดูแลดีขนาดไหน ซองนั่งคิดฝันหวาน"ก็ได้ผมกลับแล้วนะ"ริโอ้รู้สีึกโกรธ ใจจริงเขาอยากนอนที่นี่"อยากกลับก็กลับไปเลยไม่ต้องมาอีกนะ"ซองรู้สึกโมโห หวังจะให้ริโอ้มายอกล้อให้คลายอารมณ์เครียดที่ริโอ้พูดเช่นนั้น เพราะเขายังกังวลใจ ในเรื่องของต้นอยู่มากพอสมควร เขาจึงไม่มีอารมณ์ที่จะมาพูดเล่น แต่ถ้าทำบางสิ่งเขาก็ไม่มีปัญหา"ก็ได้ ริโอ้กลับแล้ว" ริโอ้รีบเดินไปที่ประตูอย่างอารมณ์เสียซองเห็นริโอ้โกรธและไม่มีอารมณ์หยอกล้อคุยเล่น เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาริโอ้ แล้วกอดเอวไว้แนบกายอย่างแนบสนิท"ปล่อยริโอ้นะ จะกลับแล้ว ไม่อยู่ให้ขวางหูขวางตาหรอก"ริโอ้พยายามแกะมือของซองออก โดยใช้แรงเพียงนิดหน่อย เพราะเขามีความรู้สึกที่แปลกในจิตใจและร่างกาย ที่ไม่อยากไปจากที่นี่"อย่าไปนะ ซองขอโทษ ซองล้อเล่น"ซองรัดอ้อมกอดไว้แน่น เพราะกลัวริโอ้จะไปจริงๆใน
"แล้วเรื่องของจางต้นจะทำอย่างไร"คิมถาม เพื่ออยากรู้คำตอบและจะได้สานรอยร้าวให้สมานดังเดิ่ม และนี่เป็นโอกาสของเขาเอง ที่เขาต้องไขว่คว้าไว้หลังจากแพ้ทางรัก ให้แกจางในครั้งที่แล้ว"ต้นย้งไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี" ใจหนึ่งต้นอยากจะไปหาเจาง เพราะเขาก็ยังรักจางอยู่ไม่เปลื่ยนแปลง แต่อีกใจหนึ่งเขาเริ่มท้อกับปัญหาที่ตามมาไม่หยุดหย่อน พร้อมกับปัญหาที่จิตใจของจางที่ไม่มั่นคงเหมือนคิม"จะไม่ไปหาจางแล้วเหรอครับ"คิมลุ้นคำตอบที่จะได้รับฟัง ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกออกมาชัดเจน"คงไม่ไปแล้วแหล่ะ เพราะไม่เห็นจางโทรมาเลย"ต้นรู้สึกเสียใจ เพราะส่วนหนึ่ง ใจของเขาอยากให้จางโทรมา เพียงแค่นี้เขาก็จะไปหาจางทันที แต่ก็รอมาร่วมสองวันยังไร้วี่แววของจาง"คิดว่าทำใจได้แล้วใช่ไหม"คิมถาม"คงยังไม่ได้หรอก ถ้านานไปคงจะทำใด้เอง"ต้นรู้สึกใจหายวับหลังจากได้ยินคำถามนี้ ที่แสนจะแทงใจเขาจนสุดขั้ว"ไม่ว่าต้นจะตัดสินใจอย่างไร โยฮันยินดีอยู่เป็นเพื่อน และพร้อมดูแลต้นตลอดไป"คิมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วจ้องมองหน้าของต้นอย่างเว้าวอน ให้เห็นใจความรักที่เขามีให้ต้น"ขอบใจนะโยฮัน ต้นเข้าใจดีทุกอย่าง แต่ตอนนนี้ต้นขอเวลาให้กับตัวเองซักระยะ"ต้นห
จางรอต้นจนใกล้จะถึงเวลา ที่ต้องเข้าไปข้างในสนามบิน เขาหมดหวังแล้วที่ต้นจะมาหาเขา จางจึงพยายามทำใจก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งหลันหลันก็สังเกตเห็นจางดูซึมลง แต่เธอก็ไม่แคร์ขอแค่จางกลับไปด้วยกันเป็นพอ"รอแฟนใหม่อยู่เหรอ เขาไม่มาหรอกอย่าหวังเลย"หลันหลันยิ้มเยาะ"ผมไม่ได้รอ และก็ไม่ได้หวังหรอกว่าต้นจะมา"จางมีสีหน้าที่ซึมลงกว่าเก่าอีก"คิดได้ก็ดี ได้เวลาแล้วไปกัน"หลันหลันลุกขึ้นยืน และแอบชำเลืองมองจาง"ฮือ"จางรับคำ และเขาก็ยังไม่อยากกลับอันเจียอยากอยู่ที่เชียงใหม่ต่อ แต่ในเมื่อต้นไม่สนใจเขา จางจำใจต้องจากไปพอรถมอเตอร์ไซค์จอด ต้นลงจากรถยืนนิ่งครุ่นคิด สักพักคิมโยอันก็ลงตาม ต่อจากนั้นก็เก็บหมวกกันน็อคทั้งสองใบไว้ที่หน้ารถ"เข้าไปข้างในกัน เดี๋ยวไม่ทันจาง"คิมพูดอย่างจริงใจ และหวังว่าทั้งสองจะปรับความเข้าใจกัน"คือ ต้น เอ่อ"ต้นอ้ำอึ่ง"ไปเหอะอย่าเสียเวลาเลย ทำตามใจที่เราต้องการ"ต้นยืนคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจไปหาจางี่ย เพราะอย่างน้อยจางก็ยังบอกเขาเมื่อจะกลับอันเจีย ถ้าเกิดจางยังจะกลับอันเจียหลังจากเจอเขา ต้นก็พร้อมที่จะปล่อยจางจากไปเช่นกันต้นและคิมเดินมาอย่างรวดเร็ว และหยุดวนรอบตัวเองมองหาจา
ต้นหนุ่มตกงานประจำรักคุด รีบเดินอย่างว่องไวเพื่อมาทำอาชีพเสริม เขายิ่งรีบเหมือนยิ่งช้าเพราะผู้คนเดินกันควักไข่ว ในบริเวณถนนคนเดินที่เชียงใหม่ ต้นใช้เวลาเดินทางราวสามสิบนาที ก็มาถึงร้านนวดฝ่าเท้าข้างทาง"มาเร็วเข้าประจำที่เลย ลูกค้านั่งรอเต็มไปหมดแล้ว" ป้าทองคำตะโกนเสียงดัง พร้อมกับจัดที่ให้ลูกค้า และต้นหมอนวดหนุ่มวัยยี่สิบสาม"ครับป้า"ต้นรีบนำกระเป๋าไปเก็บไว้และมานั่งประจำตำแหน่ง ซึ่งลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียนั่งรออยู่"สวัสดีครับ"ต้นทักทายเป็นภาษาอังกฤษ เขาพอพูดได้บ้างเพราะจบชั้น ม.6 มา ลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียยิ้มให้ต้น และมองต้นนิ่งชั่วครู่ จนทำให้ต้นเริ่มรู้สึกเขินอาย"นวดกี่ชั่วโมงครับ"ต้นรีบถามเพราะจะได้เริ่มทำงาน" 1 ชั่วโมงครับ"เมื่อได้รับคำตอบแล้ว ต้นจึงจัดแจงนำผ้าชุ่มน้ำ บรรจงเช็ดเท้าอย่างช้าๆจนสะอาด หลังจากนั้นต้นก็ชะโลมน้ำมันนวดคลึงเบาๆบริเวณเท้าทั้งสองข้าง"นวดหนักๆหน่อย"หนุ่มอันเจียพูดขึ้น"ยังไม่ได้นวดครับ แค่เริ่มต้นชะโลมน้ำมันก่อน"ต้นฝืนยิ้มให้ลูกค้าแถมคิดในใจว่า โดนงานหินอีกแล้ว ถึงว่าทำไมป้าทองคำไม่นวดเองหลังจากชะโลมน้ำมันที่ฝ่ามือเสร็จ ต้นจึงเริ่มออกแรงห
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พอร์ทไท้แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้าน
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พาร์ทไทม์แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้านเอ