"แล้วเรื่องของจางต้นจะทำอย่างไร"คิมถาม เพื่ออยากรู้คำตอบและจะได้สานรอยร้าวให้สมานดังเดิ่ม และนี่เป็นโอกาสของเขาเอง ที่เขาต้องไขว่คว้าไว้หลังจากแพ้ทางรัก ให้แกจางในครั้งที่แล้ว
"ต้นย้งไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี" ใจหนึ่งต้นอยากจะไปหาเจาง เพราะเขาก็ยังรักจางอยู่ไม่เปลื่ยนแปลง แต่อีกใจหนึ่งเขาเริ่มท้อกับปัญหาที่ตามมาไม่หยุดหย่อน พร้อมกับปัญหาที่จิตใจของจางที่ไม่มั่นคงเหมือนคิม
"จะไม่ไปหาจางแล้วเหรอครับ"คิมลุ้นคำตอบที่จะได้รับฟัง ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกออกมาชัดเจน
"คงไม่ไปแล้วแหล่ะ เพราะไม่เห็นจางโทรมาเลย"ต้นรู้สึกเสียใจ เพราะส่วนหนึ่ง ใจของเขาอยากให้จางโทรมา เพียงแค่นี้เขาก็จะไปหาจางทันที แต่ก็รอมาร่วมสองวันยังไร้วี่แววของจาง
"คิดว่าทำใจได้แล้วใช่ไหม"คิมถาม
"คงยังไม่ได้หรอก ถ้านานไปคงจะทำใด้เอง"ต้นรู้สึกใจหายวับหลังจากได้ยินคำถามนี้ ที่แสนจะแทงใจเขาจนสุดขั้ว
"ไม่ว่าต้นจะตัดสินใจอย่างไร โยฮันยินดีอยู่เป็นเพื่อน และพร้อมดูแลต้นตลอดไป"คิมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วจ้องมองหน้าของต้นอย่างเว้าวอน ให้เห็นใจความรักที่เขามีให้ต้น
"ขอบใจนะโยฮัน ต้นเข้าใจดีทุกอย่าง แต่ตอนนนี้ต้นขอเวลาให้กับตัวเองซักระยะ"ต้นหลบตาต่ำลงไม่สามรถสบตาคิมได้ เพราะเขารู้สีึกสงสารและเห็นใจ ในความรักที่คิมมีมาให้ แต่คนเราไมสามารถบังคับจิตใจให้ชอบใครได้ ถ้าเป็นไปได้ต้นก็อยากจะรักคิม เพราะจิตใจเขาเด็ดเดี่ยวเหนียวแน่นมากกว่าจาง
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขี้น
"เดี๋ยวผมไปเปิดประตูเองครับ"คิมปล่อยมือที่จับไหล่ของต้นไว้ หลังจากนั้นเดินไปที่ประตูและเปิดออก
"คิมมาก่อนซองอีก"ซองชิงพูดก่อนใคร เพราะยังมี ริโอ้ ปัน และโมย่า หนุ่มร่วมแกงค์คนใหม่มาด้วย
"เปลื่ยนเจ้าของแล้วเหรอ เจ้าของห้องอีกคนไปไหนเนี้ย"ริโอ้แกล้งมองไม่เห็นต้น
"ยังมีอารมณ์มาเล่นอีกเนาะ ไอ้ริโอ้"ปันได้ทีใส่ไม่ยั้ง พร้อมยิ้มด้วยความสะใจ
มีเพียงโมย่าที่ยืนงง ในห้องที่ดูแคบไปถนัดตา เมื่อมีคนอยู่ในห้องถึงหกคน แต่ต้นก็ยินดีเพราะทำให้เขาได้คลายเหงาลงบ้าง
ใกล้ได้เวลาที่จางต้องไปสนามบินแล้ว เขายังกังวลเรื่องของต้นไม่หาย เพราะในความคิดและความรู้สึกยังปั่นป่วนว่าจะทำอย่างไรดี
"จางได้ส่งข้อความไปหาต้น เพื่อบอกว่าจะกลับวันนี้ แต่ก็ยังไร้การตอบกลับ เขารออยู่ครุู่ใหญ่ ก็ยังไร้วี่แววเสียงไลน์ เพราะจางกังวล เขายังไม่ได้สมัครเมาท์แชทให้ต้น และไอดีของเขาก็ยังไมได้ให้ต้น เขาจึงส่งไปในไลน์อีกครั้ง และถ้าต้นยังไม่ติดต่อมาหาเขา จางก็จะกลับไปกับหลันหลันในทันที
จางดูเหมือนไม่สมหวัง เพราะไร้การตอบกลับจากต้น เขาจึงอยากโทรไปหาต้นบอกกล่าวเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ทันโทรเพราะหลันหลันมาเคาะประตูห้อง จางจำเป็นต้องออกไปเปิดประตูให้เธอเข้ามาภายในห้อง
"ไปได้แล้ว มัวแต่เล่นมือถืออยู่นั่นแหล่ะ"จางเรีบเก็บโทรศัพท์เขากระเป๋า ต่อจากนั้นไปหยิบกระเป๋าเดินทางเพื่อจะได้กลับอันเจีย
ส่วนเรื่องการโทรหาต้น จางคิดว่าจะไปโทรที่สนามบินก็น่าจะทันอยู่ ถึงเขาจะไม่อยากไป แต่จำใจและต้องการข้อเสนอที่หลันหลันให้ไว้นั้นน่าสนใจ
ก่อนจางออกจากห้อง เขาได้มองไปรอบๆ บริเวณที่หลายครั้งเขาเคยมีความสุขกับต้น
"ไป๊"หลันหลันเรียก เขาจึงเดินตามหลันหลันออกจากห้องไปในทันที เพื่อไปยังสนามบินรอเวลาเครื่องบินออก
ส่วนฟากฝั่งของต้นก็แย่งกันคุย จนเสียงดังกลบข้อความไลน์ที่จางส่งมาให้ต้น ถึงแม้คนจะเยอะเพียงใดแต่ต้นก็ยังรู้สึกเหงา เศร้า ปวดใจ คิดถึงจาง แต่ก็พยายามหักห้ามใจ ถึงอย่างนั้นความรู้สึกนั่นก็ผ่านเข้ามาเป็นระรยะๆ ต้นพยายามสลัดศีรษะให้คลายหายคิดถึงห่วงหา แต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งก็ไม่พ้นสายตาคิมที่สังเกตเห็น
คิมรู้สึกสงสารไม่อยากเห็นต้นเป็นแบบนี้ เขาจึงไม่ค่อยแน่ใจ ในเวลานี้เขาจะเดินตามความคิดเดิมได้หรือไม่ คือการเข้าแทรกกลางระหว่างต้นกับจาง เพราะถ้าทำอย่างนั้นเขาก็ต้องเห็นต้นซ้ำใจอยู่อย่างนี้ เป็นเวลานานมากแน่นอน ส่วนเขาก็จะทำใจไม่ได้เช่นกัน ที่เห็นคนที่รักซ้ำใจวันแล้ววันเล่า เขาจึงลังเลและดูท่าทีของต้นอีกที
"ต้นเป็นอะไร นั่งเงียบเลย"คิมมองด้วยสายตาที่ห่วงใหญ่
"ไม่มีอะไรหรอก"ต้นแสร้างยิ้มแห้งๆ เพื่อให้ทุกคนสบายใจ แต่ดูเหมือนจะไร้ผล บรรดาพ้องเพื่อนต่างนิ่งเงียบและหันมามองต้นเป็นตาเดียว
"เราว่าต้นเคลียร์เรื่องจางเดี่๋ยวนี้เลย"ริโอ้พูดขึ้น
"เห็นด้วย จะเอาอย่างไงก็ว่ามาเลย จะได้ไม่เสียเวลาไปวันๆหนึ่ง" ปันสนับสนุนความคิดของริโอ้ด้วยเช่นกัน
"ใช่ครับ โยฮันเห็นด้วย โยฮันพร้อมซับพอร์ตต้นทุกอย่างขอเพียงแค่บอกมา"คิมตัดสินใจแล้ว ถ้าต้นจะกลับไปกับหาจางเขาก็ยินดี พร้อมช่วยเหลือทุกทาง เพื่อให้ทั้งคู่ได้สมหวังในรักนี้
"คือต้น"
"ไม่ต้องคือแล้ว ต้นยังรักจางอยู่ใช่ไหม"ริโอ้ถาม
"ฮือ"ต้นพยักหน้า
คิมเพียงได้ยินคำพูดนี้ ใจเขาแท่บสลายหายไปในทันที และคงหมดหวัง จะเข้าแทรกใจและกายของต้น
"ถ้างั้น ต้นมีปัญหาอะไรคาใจกับจางบอกมา"ริโอ้จ้องมองต้น เพื่อต้องการ ให้ได้คำตอบที่มาจากความรู้สีึก
"ก็จางเขาไม่เชื่อใจต้น ไหนจะแฟนเก่าเขาอีก เรื่องภายใจครอบครัวของจางอีก มันหลายเรื่องจนต้นท้อใจมากเหมือนกัน" ต้นถอนหายใจเฮือกใหญ่
"แค่นี้เอง ต้นไปถามจางเลย ว่าจะเอาอย่างไรค่อยมาตัดสินใจอีกที แค่เจอแฟนเก่าเขาหน้าห้องเอง ไม่ได้เข้าไปคุยกับจางไม่ใช่เหรอ"ริโอ้ยังไม่ยอมแพ้พูดต่อไม่หยุด ด้วยสีหน้าที่เป็นจริงเป็นจัง
"ทำไมเขาไม่โทรมาหาต้นล่ะ มาก็ไม่มา เขาคงคืนดีกับแฟนเก่าเขาไปแล้วมั้ง คนมันเคยมีความรักให้กันมาก่อน"ต้นยังคาใจเรื่องนี้อยู่มาก
"ถ้าจางไม่โทรมา ต้นก็ไม่โทรกลับ"ต้นตั้งความคิดนี้อย่างแน่วแน่
"สมมุติถ้าเขาโทรมาล่ะ"ปันถาม
"ต้องคิดดูก่อน"ต้นพูดยังไม่ทันจบ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"สงสัยโทรมาแล้วมั้ง"ริโอ้ลุ้นหนัก
ส่วนคิมในส่วนลึกของจิตใจ เขาขอให้ไม่ใช่จางเป็นพอ แต่ถ้าใช่เขาก็ยินดี ที่จะถอยหลังอีกครั้งซ้ำรอยเดิม
ต้นหยุดมองที่เบอร์โทรศัพท์ และเขาก็ต้องประหลาดใจนั่นคือเบอร์โทรของจาง ริโอ้เห็นต้นถือโทรศัพท์มือถืิอว้นิ่งไม่ยอมกดรับ เขาจึงชะโงกหน้าไปดูว่าเป็นใครด้วยความสงสัย
"รับซิ จางโทรมา"ริโอ้คะยั้นคะยอทันที
ส่วนคิม ในความรู้สึกของเขาตอนนี้ ลุ้นหนักมากที่จะให้ต้นไม่รับโทรศัพท์
อีกฟากฝั่ง จางี่ยนั่งรอขึ้นเครื่อง พร้อมกดโทรศัพท์หาต้นซึ่งก็ยังไม่รับ ในจังหวะเดียวกันนั้นหลันหลันเดินมาหาจางพอดี เขาจึงกดปิดวางสายทันที
"โทรหาใคร"หลันหลันถามทั้งที่แน่ใจว่าเป็นต้น
"เพื่อน"จางพูดห้วนๆ
"ไป ใกล้ถึงเวลาแล้ว อ๋อ ไม่ต้องโทรแฟนใหม่จาง หรอก เขาคงไม่มาแล้วเชื่อเหอะ" หลันหลันถึงบอกไม่เชื่อ แต่ใจของเธอหวั่นไม่น้อยทีเดียว
จางก็เริ่มเอนเอียงไปทางหลันหลัน เขาค่อนข้างมั่นใจว่าต้นคงจะเลิกกับเขาแน่นอนแล้ว
จางจึงนำโทรศัพท์มือถือยัดใส่กระเป๋าไว้ดังเดิม และเดินตามหลันหลันเข้าไปข้างในที่ให้ผู้โดยสารนั่งรอ
ต้นยืนมองโทรศัพท์ที่มีชื่อจางขึ้นหน้าจอ ต้นยังไม่ทันกดรับ โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายทันที
"โทรกลับเลย ชักช้าทำไม"ริโอ้พูดด้วยความโมโห ที่ต้นทำอะไรไม่ได้ดั่งใจซ้กอย่าง
ส่วนคิมลึกๆเขาดีใจ แต่ถ้าต้นโทรหาจาง เขาก็พร้อมจะที่จะช่วยเหลือทุกทาง
ต้นครุ่นคิดอย่างหนัก ใจหนึ่งอยากจะโทรกลับ อีกใจหนึ่งอยากจะตัดใจ แต่ลึกๆอยากให้จางโทรมาเขาจะได้รับ ต้นยืนนิ่งซักพัก และยังไม่แสดงท่าทีจะโทรหาจาง เมื่อต้นก้มดูมือถือ ก็เห็นข้อมความไลน์ที่จางส่งมา เขาก็ยังลังเลที่จะเปิดดู
"โทรไปเลยต้น เผื่อจางเขามีธุรอะไรน่ะต้น"ริโอ้ย้ำอีกครั้ง
ส่วนโมย่ากับซองเป็นผู้ฟังที่ดี และพร้อมเป็นกำลังเสริม เพื่อช่วยกันได้อย่างเต็มที่
"จางส่งไลน์มา"ต้นเอ่ยขึ้นมาลอยๆ
"เปิดเลย เผื่อมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเขา"ริโอ้คะยั้นคะยอต่อ พยายามหาเหตุที่ชวนเชื่อ ให้ต้นเปิดข้อมความไลน์ให้ได้
ส่วนคิมก็อยากให้เปิด จะได้จบๆไม่ต้องมาคาราคชัง เพราะเขาไม่อยากจะลุ้นอะไรอีกแล้ว ทั้งตื่นเต้น ทรมานจิตใจทุกคร้ั้งที่ลุ้นเรื่องราวของต้น
"ก็ได้"เพราะต้นก็อยากรู้เหมือนกัน
เพียงต้นกดเปิดอ่านข้อความในไลน์ เขาอ้าปากค้างตาโต ทำอะไรไม่ถูกมืออ่อนแรงชั่วขณะ พร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่ล่วงล่นลงกับพื้น
ไม่ใช่ต้นที่รีบเก็บแต่เป็นปันที่ก้มเก็บมาดู เขาอยากรู้ว่าข้อมความในนั้นเขียนว่าอะไร พอปันเก็บมาดูต้องตกใจมากกว่าต้นเสียอีก เพราะหน้าจอมือถือแต่เป็นรอยร้าวทั่วหน้าจอ ปันจึงยื่นให้ต้นดู
"ร้าวหมดแล้วกดอะไรก็ไม่ได้เลย"ปันพูดเสียงอ่อยๆ
"ต้น จางเขียนว่าไงบ้าง"ริโอ้เร่งเร้าคำตอบ
"จางจะกลับอันเจียคืนนี้"ต้นตายังลอย เพราะกะทันหันเกินไปที่จะทันตั้งตัว
"แค่นี้เหรอ"ริโอ้ถาม
"มีอีกแต่ไม่ทันอ่าน"ต้นน้ำตาเริ่มไหล
เป็นครั้งทึ่สำคัญที่คิมจะทำเพื่อต้น ถึงแม้เขาจะเจ็บเพียงใด แค่ได้เห็นน้ำตาที่ปริ่มออกมา ใจเขาแท่บจะขาดในเเฉียบพลัน เขาไม่สามารถทนเห็นภาพนี้ได้ คิมยอมเจ็บ ขอเพียงให้ต้นได้ยิ้มออกอย่างมีความสุข
"เราไปที่สนามบินกันดีกว่า จางพึ่งโทรมาคงมีเวลาอีกพอสมควรที่เราจะไปหา"คิมนำผ้าเช็ดหน้ายื่นให้ต้น เป็นอีกครั้งที่คิมทำเช่นนี้ ในเวลาที่ใกล้เคียงกัน
ต้นรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาืที่หลั่งใหลออกมาไม่ขาดสาย ดั่งน้ำตกที่ไหลเรื่อยลงมาเรืีอยๆ
จางแอบเข้ามาที่ห้องน้ำและได้โทรหาต้น แต่โทรศัพท์ของต้น เสียหายไม่สามารถติดต่อได้ เขาโทรอยู่หลายครั้งจนเริ่มมีอารมณ์ ที่ไม่ค่อยพอใจต้นขึ้นมาอีก เขาจึงกดปิดและจะไม่โทรอีก และพร้อมจบกับต้นเขาแน่ใจว่าต้นต้องอยู่กับปรัชญ์แน่ ถึงปิดเครื่องไม่ยอมรับ
จางยืนนิ่งคิดชั่ววครู่ หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องน้ำ เพื่อไปหาหลันหลัน จางรู้สึกน้อยใจเศร้าใจที่มีแฟน เป็นผู้ชายคนแรกก็โดนหักอก เขาตั้งใจไว้ว่าจะเลิกคบผู้ชายอีกต่อไปในอนาคต
ต้นใช้ความคิดอย่างหนัก ว่าจะจัดการปัญหานี้อย่างไรดี จะไปตามหาจางที่สนามบิน หรือตัดขาดไปในทันทีจะได้จบในคราเดียวเจ็บหนเดียว ไม่ต้องมาเจ็บซ้ำหลายครั้งจนใจจะรับไหว
"ว่าไงต้น ตัดสินใจเร็วๆ พวกเราพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างต้นนะ ริโอ้ถาม
"ต้น ทำตามที่ใจต้องการ ถ้าต้นยังรักจางอยู่ก็ไปหาเขาซะ ที่เขาโทรมาก็เพื่ออยากให้ต้นไปหามั้ง เมื่อวานโยฮันไปหาจาง เขาบอกให้ต้นไปหาเขาเหมือนกัน นั่นแสดงว่าเขายังรักต้นอยู่ ส่วนเรื่องเข้าใจผิดค่อยมาเคลียร์กันทีหลัง จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย" โยฮันพูดยาวมากหลังจากที่เงียบไปนาน
"นะ ต้น"ปันออกแรงสนับสนุน
"แล้วทำไมจางไม่มาหาต้น นอนอยู่กับหลันหลันหรือเปล่าก็ไม่รู้"ต้นพยายามหาเหตผลพันแปดประการ มาหักล้างทุกครั้ง
"แล้วทำไมต้นไม่ไปหาเขาล่ะ"คิมถามกลับ
"ก็ต้น เอ่อ เขาก็ต้องมาหาต้นก่อนซิ จางเจ่ี่ยเขาผิดต้องมาง้อต้น"ต้นมีท่าทีไม่พอใจ
"จางเขาก็คิดแบบเดียวกับต้นนั่นแหล่ะ"คิมย้อนกลับ เพื่อให้ต้นได้เห็นภาพได้ชัด
"จางเขาผิด ต้นไม่ผิด จะไปง้อทำไม"ต้นไม่ยอมแพ้ทางคำพูด แต่จิตใจตอนนี้ หน้าของจางลอยมาในห้วงคำนึงตลอดวเวลา
"โอ๊ย เถียงกันอยู่นั่นแหละ ป่านนี้จางขึ้นเครื่องบินไปแล้วมั้ง"ริโอ้ตัดบทด้วยความโมโห ที่ยึดเยื้อทางคำพูดไม่จบสิ้นซักที
"เอาแบบนี้ ต้นไปถามจางที่สนามบินเลย ถ้าเขาไปก็จบ ถ้าเขายังจะอยู่ต่อทก็คบกันต่อ"คิมสุดทนความรั้นของต้นจนอดรนทนไม่ไหว
คิมจึงรีบจับมือของต้น ออกจากห้องไปในทันที ต้นขืนเพียงเล็กน้อย ใจหนึ่งก็อยากไปแต่ก็มีอะไรมาเหนี่ยวใจไว้ห้ามไป เขาก็ไม่รู้ความคิดเช่นนี้มาได้อย่างไร
ส่วน ริโอ้ ปันก็ดันร่างของต้นพร้อมกันไปในตัว ในท้ายที่สุดก็ออกพ้นประตูห้อง และทั้งหมดก็ฉุด ลาก ต้น จนไปถึงที่รถมอเตอร์ไซค์ของริโอ้
"โยฮันขับมอเตอร์ไซค์เป็นไหม"ริโอ้ถาม
"ขับได้อยู่"คิมโยอันพยักหน้า
"ฮ่ะ"ริโอ้ยื่นกุญแจให้คิมโยโฮัน
คิมรับไว้และเสียบไว้ที่จุดสตาร์ทรถ หลังจากนั้นก็นำหมวกกันน็อคมาใส่ให้ต้น ทีแรกขัดขืนนิดหน่อยแต่พอเห็นสายตาคิมก็ยอมแต่ด้วยดี เมื่อใส่ของของต้นเสร็จแล้ว โยฮันจึงใส่หมวกกันน็อคของเขาต่อในทันที และขึ้นคร่อมมอเตอร์เพื่อเตรียมไปสนามบิน
"ชักช้านะ ขึ้นรถไป"ริโอ้กับปันดันร่างดันต้นไปที่รถมอเตอร์ไซค์ ต้นจึงขึ้นนั่งซ้อนท้ายแต่โดยดี และเอามือจับที่บ่าของคิมไว้ หลังจากจากนั้นคิมก็เร่งเครื่องรถอออกไป
จังหวะเดียวกันรถตุ๊กๆมาพอดี ริโอ้จึงเรียกตุ๊กๆพร้อมนั่่งไปกับซอง เพื่อตามคิมกับต้นไปสนามบิน
ส่วนปันกับโมย่าก็รอรถสักพัก แต่ไม่ใช่ตุ๊กๆเป็นสี่ล้อแดงปันจึงโบกรถให้จอด ก่อนขึ้นรถปันก็บอกคนขับให้ไปสนามบิน และทั้งสองก็นั่งคู่กันอีกครั้งบนรถสี่ล้อแดง
จางรอต้นจนใกล้จะถึงเวลา ที่ต้องเข้าไปข้างในสนามบิน เขาหมดหวังแล้วที่ต้นจะมาหาเขา จางจึงพยายามทำใจก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งหลันหลันก็สังเกตเห็นจางดูซึมลง แต่เธอก็ไม่แคร์ขอแค่จางกลับไปด้วยกันเป็นพอ"รอแฟนใหม่อยู่เหรอ เขาไม่มาหรอกอย่าหวังเลย"หลันหลันยิ้มเยาะ"ผมไม่ได้รอ และก็ไม่ได้หวังหรอกว่าต้นจะมา"จางมีสีหน้าที่ซึมลงกว่าเก่าอีก"คิดได้ก็ดี ได้เวลาแล้วไปกัน"หลันหลันลุกขึ้นยืน และแอบชำเลืองมองจาง"ฮือ"จางรับคำ และเขาก็ยังไม่อยากกลับอันเจียอยากอยู่ที่เชียงใหม่ต่อ แต่ในเมื่อต้นไม่สนใจเขา จางจำใจต้องจากไปพอรถมอเตอร์ไซค์จอด ต้นลงจากรถยืนนิ่งครุ่นคิด สักพักคิมโยอันก็ลงตาม ต่อจากนั้นก็เก็บหมวกกันน็อคทั้งสองใบไว้ที่หน้ารถ"เข้าไปข้างในกัน เดี๋ยวไม่ทันจาง"คิมพูดอย่างจริงใจ และหวังว่าทั้งสองจะปรับความเข้าใจกัน"คือ ต้น เอ่อ"ต้นอ้ำอึ่ง"ไปเหอะอย่าเสียเวลาเลย ทำตามใจที่เราต้องการ"ต้นยืนคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจไปหาจางี่ย เพราะอย่างน้อยจางก็ยังบอกเขาเมื่อจะกลับอันเจีย ถ้าเกิดจางยังจะกลับอันเจียหลังจากเจอเขา ต้นก็พร้อมที่จะปล่อยจางจากไปเช่นกันต้นและคิมเดินมาอย่างรวดเร็ว และหยุดวนรอบตัวเองมองหาจา
ต้นหนุ่มตกงานประจำรักคุด รีบเดินอย่างว่องไวเพื่อมาทำอาชีพเสริม เขายิ่งรีบเหมือนยิ่งช้าเพราะผู้คนเดินกันควักไข่ว ในบริเวณถนนคนเดินที่เชียงใหม่ ต้นใช้เวลาเดินทางราวสามสิบนาที ก็มาถึงร้านนวดฝ่าเท้าข้างทาง"มาเร็วเข้าประจำที่เลย ลูกค้านั่งรอเต็มไปหมดแล้ว" ป้าทองคำตะโกนเสียงดัง พร้อมกับจัดที่ให้ลูกค้า และต้นหมอนวดหนุ่มวัยยี่สิบสาม"ครับป้า"ต้นรีบนำกระเป๋าไปเก็บไว้และมานั่งประจำตำแหน่ง ซึ่งลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียนั่งรออยู่"สวัสดีครับ"ต้นทักทายเป็นภาษาอังกฤษ เขาพอพูดได้บ้างเพราะจบชั้น ม.6 มา ลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียยิ้มให้ต้น และมองต้นนิ่งชั่วครู่ จนทำให้ต้นเริ่มรู้สึกเขินอาย"นวดกี่ชั่วโมงครับ"ต้นรีบถามเพราะจะได้เริ่มทำงาน" 1 ชั่วโมงครับ"เมื่อได้รับคำตอบแล้ว ต้นจึงจัดแจงนำผ้าชุ่มน้ำ บรรจงเช็ดเท้าอย่างช้าๆจนสะอาด หลังจากนั้นต้นก็ชะโลมน้ำมันนวดคลึงเบาๆบริเวณเท้าทั้งสองข้าง"นวดหนักๆหน่อย"หนุ่มอันเจียพูดขึ้น"ยังไม่ได้นวดครับ แค่เริ่มต้นชะโลมน้ำมันก่อน"ต้นฝืนยิ้มให้ลูกค้าแถมคิดในใจว่า โดนงานหินอีกแล้ว ถึงว่าทำไมป้าทองคำไม่นวดเองหลังจากชะโลมน้ำมันที่ฝ่ามือเสร็จ ต้นจึงเริ่มออกแรงห
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พอร์ทไท้แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้าน
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พาร์ทไทม์แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้านเอ
หลังแยกจากสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้นก็เข้ามาภายในห้องของเขา ที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเพียงพัดลมที่ทำให้คลายร้อนแค่นั้นต้นนั่งลงบนเตียง ที่มีเพียงหมอนหนุนและหมอนข้าง แต่ก่อนมีหมอนหนุนสองอัน พอปรัชญ์แฟนหนุ่มได้หนีจากไป ต้นจึงนำไปเก็บไว้ในตู้อย่างมิดชิด สายตาของต้นสอดส่ายทั่วห้อง และหยุดมองรูปของปรัชญ์แฟนหนุ่มที่เขายังไม่ได้เก็บ เพราะยังอยากเห็นใบหน้าของแฟนหนุ่มอยู่ ต้นจ้องมองดูอยู่ไม่นาน หลังจากนั้นจึงเดินไปนำรูปแฟนหนุ่ม ใส่ไว้ในลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งต้นทั้งรักทั้งเกลียดปรัชญ์ในระดับเดียวกัน รักมากจนยอมใช้หนี้ก้อนโตแทน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นแท่บหมดตัว ซึ่งเป็นจังหวะเดียว ที่โดนปลดจากร้านอาหารฝรั่ง เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดเคืองรายได้ไม่เข้าเป้าต้นจึงเป็นหนึ่งตัวเลือก ที่โดนขอร้องให้ออกจากงาน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นหันมาเป็นหมอนวด เพราะได้เงินดีและได้ทุกวันส่วนปรัชญ์แฟนหนุ่มนั้น พอรู้ว่าต้นหมดตัว จึงหนีจากไปอย่างไม่บอกลาสักคำ จนทำให้ต้นนั้นสุดซ้ำใจอย่างหนัก แต่ต้นก็ใจแข็งตัดใจไม่ตามหา ต้นล้มตัวลงนอนคิดถึงอดีตที่แสนหวานกับปรัชญ์แฟนหนุ่ม ครั้งแรกที่เจอกันในร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งต้นกับริโอ้
สี่ทุ่มเศษต้นได้กลับมาทึ่ห้องพัก โดยนั่งรถสีล้อแดงให้มาส่งที่หน้าห้องพัก แต่แล้วต้นกับต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นสองหนุ่มต่างเชื้อชาติยืนประจันหน้ากัน พร้อมจ้องจะกินเลือดกินเนื้อซึ่งกันและกันได้ในทันที เมื่อจางและคิมเห็นต้น ทั้งสองจึงรีบเดินเข้ามาหาต้นในทันที“มาดึกจัง กินข้าวมาหรือยัง”คิมถามไถ่“ถ้ายังไม่ได้กินเดี๋ยวผมพาไป”จางชิงพูดตัดหน้า“กินแล้วครับ”ต้นรีบพูดตัดบท“กินข้าวแล้วก็ดี ถ้าอย่างงั้นเราไปเที่ยวกัน ผมจะพาไปดื่มเบียร์”จางรีบพูด ด้วยไหวพริบดี“ใช่”คิมสนับสนุนความความคิดจาง เพราะเขาก็คิดเช่นนั้น ตอนแรกกะชวนกินข้าว แต่เมื่อต้นกินมาแล้ว จึงเปลื่ยนทิศทางการชวน และสนับสนุนความคิดของจาง ถึงแม้จะเป็นคู่แข่งต้นยืนคิดชั่วครู่ มีความรู้สึกอยากไปเหมือนกัน เพราะจะได้คลายเครียดจากการทำงาน ที่หามรุ่งหามค่ำ ไหนจะเรื่องปรัชญ์อดีตแฟนหนุ่มอีก ต้นจึงตัดสินใจรับปากจะไป“ก็ได้ แต่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ”ต้นพูดจบจำเป็นต้อง พาสองหนุ่มนั้นมาที่ห้องซึ่งแค่บพอสมควร หลังจากทั้งสองนั่งที่เก้าอี้ ต้นจึงจัดแจงเทน้ำให้สองหนุ่มดื่มส่วนต้นนั้นก็ขอตัวเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งคู่กัน แต่ไร้การพูดคุยได้แต่นิ่ง
เมื่อมาถึงห้องพักในโรงแรมของจาง ต้นก็มองไปรอบๆห้องที่ดูใหญ่พอสมควร“นั่งลงก่อนซิ”จางเชื้อเชิญ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกตื่นเต้นใจคึกครื้น เมื่อต้นนั่งลงข้างๆ“จะอาบน้ำหรือว่านอนเลย”จางถาม“อาบซิ เหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว”ต้นเอ่ยขึ้นด้วยความงง จะให้นอนโดยไม่อาบน้ำ เลยสงสัยจางคงทำบ่อยจนชิน“งั้นผมเอาผ้าเช็ดตัวให้”จางเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ มายื่นให้ต้นผลัดเปลื่ยน ต้นรับมาไว้พาดบ่าหลังจากนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที จางอดเสียดายไม่ได้เห็นเรือนร่างของต้นอีกครั้งจางสลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพื่อเอาเวลาไปหาเสื้อกับกางเกงในต้นใส่นอนในคืนนี้ แต่อีกใจหนึ่งคิดว่าต้นอาจไม่ใส่ เพราะมาอ่อยถึงห้องขนาดนี้จางเดินไปค้นเสื้อผ้ามาสองชุด ที่เหมาะสำหรับใส่นอน มาวางไว้บนเตียงนอนเพื่อรอให้ต้นมาสวมใส่ ต้นนั้นใช้เวลาไม่นานนักก็อาบน้ำเสร็จ เขาจึงเดินออกมาในสภาพเปลื่อยกายท่อนบน จางเห็นถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความกระหาย"จางเตรียมเสื้อกับกางเกงไว้ให้ต้น"จางชี้มือไปที่กองเสื้อผ้าที่วางไว้"ขอบใจมากนะจาง"ต้นยิ้มให้พร้อมเดินไปหยิบเสื้อมาใส่"มองอะไรจาง รีบไปอาบน้ำจะได้มานอน"ต้นรู้สึกเขินที่เห็นสายตาจาง มองอย่างกับอยากกลืนกิ
เมื่อทุกอย่างสงบลง หลายอย่างก็เริ่มเข้าที่ ในที่สุดต้นก็ได้ห้องเช่า แต่อยู่ไกลพอสมควร ไม่สามารถเดินทางด้วยเท้าได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาสามารถขึ้นรถรับจ้างไปมาสะดวก ก่อนหน้านี้ต้นก็มีรถมอเตอร์ไซค์ แต่ได้ขายเพื่อนำเงินมาช่วยปรัชญ์ ในหลายๆเรื่องย้ายห้องครั้งนี้ได้คิม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยย้าย ส่วนตอนค่ำมีริโอ้ ซอง เพื่อนของคิมมาสมทบ ซึ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว"เสียดายจังมาไม่ทัน เสร็จพอดีเลย"ริโอ้พูดติดตลก"มาช้าดีกว่าไม่มา แค่มาก็ดีใจมากแล้ว"ต้นไม่ได้หันมองริโอ้ แต่มองคนข้างๆที่ยืนงง"อ๋อ ผมลืมแนะนำ นี่ซอง เพื่อนผมเอง พอดีเมื่อเช้าผมพาไปนวดได้คิวปัน ผมเลยได้นั่งคุยกับริโอ้ เรื่องของต้น ผมเป็นห่วงเลยไปหาต้นที่ห้อง"คิมแนะนำและอธิบายเหตุการณ์เมื่อเช้า"ส่วนนี่ ต้น"ต้นยิ้มให้ซองซองยื่นมือเพื่อจะจับมือกับต้น เป็นการแสดงไมตรีจิต"ไม่ต้องจับมือกันก็ได้"คิมหึง"นี่แน่"ริโอ้ตีมือซอง"ตีทำไมผมเจ็บ นี่ไงแฟนเพื่อนยังจะจับมืออีก""อ๋อ คนนี้เองที่โยฮันบอกว่าชอบ กำลังจีบอยู่ " ซองพูดอย่างซื่อ"ฮึ ฮึ"ริโอ้แอบหัวเราะ"จริงไหมโยฮัน"ริโอ้ก็ถาม"จริง"คิมมองตาของต้น ส่วนต้นหลบตาและเฉไฉ พูดเรื่องอื่น"ร