เมื่อมาถึงห้องพักในโรงแรมของจาง ต้นก็มองไปรอบๆห้องที่ดูใหญ่พอสมควร
“นั่งลงก่อนซิ”จางเชื้อเชิญ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกตื่นเต้นใจคึกครื้น เมื่อต้นนั่งลงข้างๆ
“จะอาบน้ำหรือว่านอนเลย”จางถาม
“อาบซิ เหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว”ต้นเอ่ยขึ้นด้วยความงง จะให้นอนโดยไม่อาบน้ำ เลยสงสัยจางคงทำบ่อยจนชิน
“งั้นผมเอาผ้าเช็ดตัวให้”จางเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ มายื่นให้ต้นผลัดเปลื่ยน ต้นรับมาไว้พาดบ่าหลังจากนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที จางอดเสียดายไม่ได้เห็นเรือนร่างของต้นอีกครั้ง
จางสลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพื่อเอาเวลาไปหาเสื้อกับกางเกงในต้นใส่นอนในคืนนี้ แต่อีกใจหนึ่งคิดว่าต้นอาจไม่ใส่ เพราะมาอ่อยถึงห้องขนาดนี้
จางเดินไปค้นเสื้อผ้ามาสองชุด ที่เหมาะสำหรับใส่นอน มาวางไว้บนเตียงนอนเพื่อรอให้ต้นมาสวมใส่ ต้นนั้นใช้เวลาไม่นานนักก็อาบน้ำเสร็จ เขาจึงเดินออกมาในสภาพเปลื่อยกายท่อนบน จางเห็นถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความกระหาย
"จางเตรียมเสื้อกับกางเกงไว้ให้ต้น"จางชี้มือไปที่กองเสื้อผ้าที่วางไว้
"ขอบใจมากนะจาง"ต้นยิ้มให้พร้อมเดินไปหยิบเสื้อมาใส่
"มองอะไรจาง รีบไปอาบน้ำจะได้มานอน"ต้นรู้สึกเขินที่เห็นสายตาจาง มองอย่างกับอยากกลืนกินเขาทั้งตัว
จางได้สติจึงรีบหยิบผ้าเช็ดตัว เข้าไปในห้องน้ำทันที เพราะเขาคิดว่าต้นให้รีบอาบน้ำ จะได้มานอนกันเขายิ่งคิดยิ่งฮึกเหิม
ต้นเปลื่ยนเสื้อเสร็จก็ล้มตัวลงนอนทันที ซักพักก็ได้เห็นจางเดินตัวปลิวออกมาจากห้องน้ำ หลังจากนั้นจางก็ขึ้นมาบนเตียงทันที
"ใส่เสื้อผ้าก่อนซิ"ต้นดุ เพราะเขาไม่ชินถ้านอนกับผู้ชายทีี่ร่างกายเปลื่อยเปล่า นอกจากแฟนเท่านั้นที่จะนอนคู่กันได้
"ใส่ทำไม เดี๋ยวก็ถอด"จางมีสีหน้างงนิดหน่อย เพราะเขาคิดว่าเดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี
"ถ้าจางอยู่คนเดียวไม่ใส่ก็ได้ แต่นี่เรานอนกันสองคนอย่างไงก็ต้องใส่"ต้นแกล้งไขสือ เพราะรู้ว่าจางแอบคิดล่วงเกินเขาเป็นแน่
"ก็ได"จางใส่เสื้อกางเกงแบบงงๆ
เมื่อจางใส่เสื้ิอผ้าเสร็จ เขาจึงขึ้นไปนอนบนเตียง แต่ห่างกับต้นพอสมควร เพราะต้นเขยิบร่างห่างออกไปอีก
“มานอนใกล้ๆกัน”จางตบตรงที่นอน
“นอนตรงนี้ก็ได้เตียงออกจะใหญ่”ต้นใจเต้นระรัว
“เป็นแฟนกันต้องนอนใกล้กัน จะได้กอดแทนหมอนข้าง”
“ไม่ ต้นจะนอนตรงนี้”ต้นไม่ยอมเข้าไปใกล้
“ก็ได้ เดี๋ยวผมจะไปนอนใกล้ๆต้นเอง”จางขยับร่างเข้ามาใกล้ต้น
ขณะนั้นต้นนอนหงายอยู่ เมื่อจางขยับมานอนใกล้มากขึ้น ต้นจึงรีบนอนตะแครงหันหลังให้ แต่ต้องรีบหันกลับทันที พลันคิดไปว่ามันอยู่ในท่าที่ล่อแหลม ต้นจึงพลิกร่างกลับมาในท่าหันหน้ามาหาจาง แต่มันยิ่งเสี่ยงหนักกว่าเดิม เพราะปากแท่บจะชนกันอยู่แล้ว และสัมผัสได้ถึงเสียงลมหายใจ ส่วนสายตานั้นก็ดันประสานกันโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งสองต่างจ้องตากัน จนในที่สุดต้นต้องหลบหนีพลิกร่างนอนหงายอีกครั้ง ด้วยความหวั่นวิตกกลัวจางฉวยโอกาส
“ขยับไปหน่อยต้นหายใจไม่ออก"ต้นนั้นนอนแท่บจะตกเตียง เพราะหมิ่นเหมามาก
“ก็ได้ แต่ต้นต้องขยับตามมานะ”จางขยับตัวไปกลางเตียง ส่วนต้นก็ขยับตาม จนได้นอนคู่กันตรงกลางเตียงนอน
“ผมดีใจมากเลยที่ได้เจอต้น ไม่งั้นผมคงเหงา
“จริงเหรอ”
“จริงซิ ต้นดีใจไหมที่เจอผม”จางขยับหน้าเข้าหาต้น
“ดีใจซิ”ต้นยิ้ม
“ผมชอบต้นนะถึงเราจะรู้จักกันได้ไม่กี่วัน”จางเผลอใจกลายเป็นคำพูดที่ออกมาจากความรู้สึก
“ฮือ”ต้นไม่สามารถที่จะสานต่อคำพูดนี่ได้ เขาจึงได้แต่นอนนิ่งและยิ้มให้จาง
ในความรู้สึกของต้น ณ ตอนนี้ยังสองจิตสองใจ ว่ามันเป็นความรักหรือความสัมพันธ์ฉันเพื่อน และข้อสำคัญมันไวไป ที่จะบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกมาเป็นคำพูด
“ผมแค่บอกความรู้สึกที่มีกับต้น ผมยังไม่ต้องการรู้หรอกว่าต้นคิดอย่างไรกับผม”แท้จริงแล้วจางแอบคิดมาตลอดทาง กลัวว่าต้นจะกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า ส่วนคิมนั้นจางคิดว่าพอรับมือได้
“นอนเถอะดึกแล้ว”ต้นหลับตา เพื่อหลีกเลี่ยงการสานต่อคำพูดกับจาง เพราะเขาก็ยังไม่แน่ใจใน ตัวเองเหมือนกันแต่ก็เอียงเอนมาสมควร
จางขยับร่างนอนตะแครงหันหน้าเข้าหาต้นที่นอนหงาย ด้วยใจที่เต้นระรัว
“ผมขอกอดหน่อยนะ”จางโอบกอดต้นที่นอนอยู่ แต่ยังไม่หลับ ส่วนใจของต้นนั้นเต้นแรงขึ้น เมื่อลำแขนของจางโอบกอดไว้ และแอบกลัวจางจะทำอะไรเกินเลยต่อจากนี้
เมื่อจางเห็นต้นไม่ขัดขืน เขาจึงขยับหน้ามาใกล้ต้นมากขึ้นจนเกือบถึงบริเวณแก้ม
“รู้สึกดีจังที่ได้กอดต้น”จางรัดแน่นหนักขึ้น และรู้สึกถึงความต้องการต่อจากนี้ แต่จางก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า เขาไม่รู้ต่อจากนี้ต้องทำอะไรบ้าง จางเลยพยามเบิกตามองต้น ที่ยังนอนนิ่งแต่หายใจแรง และครุ่นคิดหลายอย่าง
จางรอดูว่าต้นจะตอบสนองอย่างไรต่อจากนี้ แต่ก็ยังไร้วี่แว ที่ต้นจะขยับร่าง สานต่ออ้อมกอดของเขา จางแอบคิดตั้งแต่หน้าโรงแรม ที่ต้นขอมานอนด้วยอาจมาจากความต้องที่ตรงกันกับตัวเอง
ส่วนต้นนั้นก็แอบคิดเหมือนกัน อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้ ถ้ามันจะเกิดขึ้นจริง ต้นก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ตอบสนองหรือขัดขืนดี เพราะต้นก็แอบมีความรู้สึกดีดีกับจางนิดนึง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงแค่จางโอบกอดเฉยๆ
จางก็เช่นเดียวกันรออยู่สองนาน ก็ไม่เห็นต้นมีปฏิกิริยาอะไรแม้แต่น้อย เขารอให้ต้นส่งสายสัมพันธ์ทางกายต่อจากนี้ก่อน เพราะจางไม่สามารถจะสานสัมพันธ์ก่อนได้ เนื่องจากไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายที่เกินเลยมากกว่านี้ แค่กอดต้นนี่ก็ครั้งแรกทีเดียว เมื่อเห็นต้นไม่ตอบสนองอารมณ์ที่เขาส่งให้ก่อน จางจึงหลับตาลงและไม่นานก็เผลอหลับไปในท่านอนกอดต้น และฝันหวานจินตนาการความต้องการ ที่เขาปราถนาจนไม่สามารถยั้งใจได้จนเก็บไปฝัน
จางรู้สึกตัวตกใจตื่นซ้อนในภวังค์ เขาเห็นภาพลวงตาของต้น ที่กำลังเล่นแกนกลางของเขา ความรู้สึกของจางเสียวสะท้านแกนกลาง เพียงต้นขยับริมฝีปากขึ้นลงใจของเขาแท่บจะแดดิ้นในทันที จางเผลอครางแผ่วเบาในลำคอ เขารู้สึกสุขสมจนอดใจไม่ไหว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้ต้นเล่นจนอิ่มอุรา จางแอ่นสะโพกขึ้นจนต้นแท่บสำลัก เขาเห็นต้องถอนริมฝีปากจากแกนกลางอย่างน่าเสียดาย แต่นั้นไม่ใช่สิ่งสุดท้ายที่ต้นทำ เพราะจางเห็นต้นปลดกางเกงออก แล้วนั่งคร่อมทับร่างเขา พร้อมกันนั้นจับแกนกลางแทรกเข้าร่างกาย ตรงส่วนกลางด้านหลัง จางเห็นต้นค่อยๆขยับร่างลงต่ำจนสุดแกนกลาง
จางจ้องมองตาไม่กระพริบ เพียงแกนกลางของเขาจมหายไปในร่างของต้น เขารู้สึกถึงความสะท้านในแกนกลาง เพียงต้นขยับร่างขึ้นลงใจของเขาหายไปในทันที ช่วงแรกนั้นเนิบนาบชักช้าไม่ได้ดั่งใจ เพียงเวลาต่อมาต้นเร่งความถี่จางนั้นพอใจอย่างหาใดเปรียบ
จางนอนนิ่งๆ รับสัมผัสแรงกระทบเนื้อที่ต้นขยับขึ้นลง อย่างสบายอุราที่ไม่เคยพานพบที่ใด ยิ่งต้นเร่งความเร็วและแรงจางยิ่งใกล้ถึงเวลาชวนฝัน ไม่นานนักจางเกือบถึงจุดหมายปลายสวรรค์ เขาเห็นต้นเร่งความเร็วรัวอย่างหนักหน่วง เพียงชั่วอึดใจเดียวจางเริ่มทนไม่ไหว ปล่อยสายน้ำไหลผ่านสู่กายของต้น
ส่วนต้นนั้นลืมตาขึ้น หันมามองจางที่นอนกอดเขาอยู่ เพราะรู้สึกมีของแข็งมากระทบบั้นท้ายสามสี่ครั้ง ต้นพลิกร่างลุกนั่งมองจาง ก็เห็นว่าจางหลับ ต้นจึงมองไปส่วนของแข็งที่โดนบั้นท้ายของเขา และสิ่งที่ต้นเห็นคือของแข็งนูนแท่บปริออกมาจากกางเกง พร้อมสิ่งที่ทำให้เปียกแฉะและมีกลิ่นคาว ต้นอมยิ้มแต่ไม่ปลุกปล่อยให้จางฝันหวานต่อไป ส่วนเขาตอนนอนขยับร่างให้ห่างเพราะกลัวเปื้อนคราบไม่พึงประสงค์
ต้นนั้นพลางคิดไปจางคงเพลียและเหนื่อย จึงไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ มากกว่าแค่นอนกอดและฝันหวานต้นจึงหลับตาอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่นานก็หลับตามจางไป
เกือบรุ่งสางต้นได้สะดุ้งตื่นด้วยฝันแปลก เขาจึงรีบลุกขึ้นและมองเวลา ซึ่งก็ใกล้สว่างเขาจึงรีบลงจากเตียงนอน เพื่อเปลื่ยนเสื้อผ้า จะได้กลับห้องไปทำกุญแจใหม่ ด้วยกลัวปรัชญ์จะตามมารังควาน
เมื่อเปลื่ยนเสื้อผ้าเสร็จต้นจึงไปปลุกจางเพื่อบอกลากลับห้อง
“จาง”ต้นเขย่าร่าง
“ฮือ”จางลืมตาขึ้นแบบสะลึมสะลือ
“เรากลับก่อนนะ มีธุระน่ะ”ต้นเอ่ยขึ้น
“ยังไม่อยากให้กลับเลย”
“อย่างไงก็ต้องกลับมีธุระ”ต้นยิ้มหวานให้
จางรีบลุกแล้วกอดลำตัวต้น ที่นั่งปลุกเขาจากข้างเตียง หลังจากนั้นจัดการหอมแก้มซ้ายขวาของต้น หลายครั้งติดๆกัน สาเหตุที่ทำเช่นนี้เพราะหลังจากหลับใหล จางได้ฝันว่าต้นทำให้เขาทุกอย่างดั่งใจปราถนา เพราะเเขาต้องการต้นมากจนเก็บไปฝันเป็นเรื่องราว
“พอก่อนต้นจะกลับแล้ว”ต้นพยายามดิ้นจนหลุดแล้วลุกขึ้น หยิบหมอนที่วางอยู่ยื่นให้จาง
“เอ้า หอมกอดหมอนไปก่อนเถอะ”ต้นยิ้มพร้อมหัวเราะอย่างเริงร่า และรีบเดินออกจากห้องไปในทันที ส่วนจางนั่งกอดหมอนอมยิ้ม เพราะเขารู้แล้วว่าต้องทำอย่างไรกับต้น ถ้าคราวหน้ามานอนด้วยกันอีก เขาจะทำตามอย่างที่ฝันไว้ จึงทำให้จางหลับตาพริ้มคิดถึงความฝันเมื่อคืน
ผิดกับต้นที่ฝันว่าโดนปรัชญ์ทำร้ายร่างกาย จึงทำให้ต้นใจคอไม่ดี รีบกลับห้องเพื่อเปลื่ยนกุญแจใหม่ ต้นจึงกลับอย่างเร่งรีบ ต้นนั้นเรียกตุ๊กๆให้ไปส่งที่ห้องอย่างรวดเร็ว พร้อมโทรบอกกันเจ้าของร้านลาหนึ่งวัน
เมื่อต้นมาถึงห้องพักจึงแวะไปหาเจ๊นา เจ้าของห้องที่ใจดีต่อเขามาก ต้นได้บอกกล่าวเรื่องทำกุญแจใหม่ เจ๊นาก็จะให้ช่างตามขึ้นไปทำตอนสาย หลังจากนั้นต้นจึงรีบขึ้นไปที่ห้อง พอเปิดประตูเท่านั้นแหล่ะต้นถึงกับผงะ เพราะสิ่งที่ต้นเห็นคือปรัชญ์นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง
“ปรัชญ์”ต้นตะโกนเสียงดัง และก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้ เพราะถ้าปรัชญ์โมโหอาจทำร้ายร่างกายเขาได้ ปรัชญ์นั้นเป็นคนโมโหร้ายพอสมควร
“เมื่อคืนไปนอนไหนมา ปรัชญ์นอนรอทั้งคืน”
“เรื่องงต้น แล้วมาทำไม”
“ก็มาหาแฟนไม่ได้เหรอ”
“เราเลิกกันแล้ว จำไม่ได้เหรอ หนีหายไปเป็นเดือน”ต้นมองตาขวาง
“ใครเลิก ปรัชญ์แค่ไปหลบคนที่จะทำร้ายแค่นั้น เพียงแต่ไม่ได้บอกต้น”
“โธ่ มันรีบน่ะ แล้วปรัชญ์ก็ทำมือถือหาย ติดต่อต้นไม่ได้เลย”
“แน่ใจนะ”ต้นไม่เชื่อแถมพูดประชด
“เชื่อปรัชญ์เถอะนะ”ปรัชญ์ลุกขึ้นจากเตียงเดินมากอดเอวของต้น พร้อมหอมแก้มอย่างคนคุ้นเคย ต้นพยายามสลัดให้หลุด แต่สู้แรงของปรัชญ์ไม่ไหว ปรัชจึงอุ้มร่างของต้นเดินไปยังเตียงนอน ต้นพยายามดิ้นแล้วทุบที่หน้าอกของปรัชญ์ แต่ปรัชญ์ก็ฝืนทน เพื่อรื้อฟื้นความหลังจะได้มาเกาะต้นอีกครั้ง เมื่อมาถึงบริเวณเตียงนอนปรัชญ์วางร่างของต้นไว้บนที่นอน ต้นพยายามหนีแต่ไม่ทัน
ปรัชญ์จับร่างของต้นไว้ แล้วเลื่อนไปจับที่มือของต้นออกแรงกดจนดิ้นไม่หลุด
“ปล่อยเรานะปรัชญ์”ต้นตะโกนสุดเสียง
"ถ้าให้ปล่อยต้องมีข้อแลกเปลื่ยน"ต้นยิ้มอย่างมีเลศนัย
"ไม่มีข้อแลกเปลี่ยนอะไรทั้งนั้น อย่ามายุ่งกับต้นเลยขอร้อง"
"ก็ไม่อยากยุ่งหรอก พอดีปรัชญ์เดือดร้อนเรื่องเงิน"
"เราจะเอาที่ไหนมาให้ ตอนนี้เรายังใข้หนี้แทนปรัชญ์อยู่เลย"
"ปรัชญ์เข้าใจ แต่คราวนี้ปรัชญ์เดือดร้อนจริงๆ ถ้าต้นไม่ช่วยปรัชญ์ อาจถึงตายได้"
"ถ้าต้นไม่ช่วย แล้วปรัชญ์จะทำอะไรต้น"
"ก็จะทำอย่างที่ปรัชญ์เคยทำไง"
"ทำอะไร"
"ก็อย่างนี้ไง"ปรัชญ์พูดจบก็ก้มหน้าลง ประกบริมฝีปากต้น ซึ่งต้นก็ยอมแต่โดยดี ไม่ดิ้นไม่หนีไม่ร้องนอนนิ่ง จนปรัชญ์คิดว่าต้นสมยอมเพราะยังมีเยื่อใยอยู่ แต่ความจริงไม่ใช่อย่างที่ปรัชญ์คิด ต้นยอมเพื่อหาโอกาสหนี หรือถ้าหนีไม่ได้ก็ปล่อยให้มันผ่านไป
ซึ่งปรัชญ์ยังไม่ได้ทำอะไรมากที่กว่าเป็นอยู่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ต้นเห็นโอกาสจึงบิดหน้าหนี แล้วตะโกน
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย”ต้นตะโกนสุดเสียง ทั้งที่ไม่รู้ว่าข้างนอกเป็นใคร รู้เพียงแต่ว่าไม่ได้ล็อคห้อง เนื่องจากตกใจที่เจอปรัชญ์ ก็ถือเป็นความโชคดีของต้น
เมื่อต้นจะตะโกนอีกครั้งทปรัขญ์จึงใช้มือปิดปากต้นไว้ และทันใดนั้นประตูก็เปิดเข้ามา คนที่เปิดประตูคือ คิม เขายืนตะลึงอ้าปากค้างตัวแข็งทื่อ ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนนิ่ง
“เรื่องของผัวเมีย อย่ามายุ่ง ออกไป”ปรัชญ์สังเกตอาการของหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ก็พอจะคาดเดาได้ว่าไม่ใช่คนไทย และได้ยินข่าวมาจากนนท์ ที่รับรู้มาจากสามหนุ่มขี้อิจฉาในร้านนวดของกัน ว่ามีหนุ่มอันเจียกับโปเกียมาติดพลันต้น ปรัชญ์จึงสันนิฐานได้คร่าวๆว่านี่คือหนุ่มโปเกียแน่ๆ
“เรื่องของผัวเมีย อย่ามายุ่ง ออกไป”ปรัชญ์พูดเป็นภาษาอังกฤษ”
“ขอโทษด้วยที่เข้ามาขัดจังหวะ” คิมได้ยินเช่นนั้นจึงหันหลังกลับ ด้วยความปวดใจผิดหวัง เศร้าใจและกำลังเดินออกจากห้องของต้น
ต้นนั้นเมื่อเห็นคิม กำลังจะเดินจากไปเขาจึออกแรงเฮือกสุดท้าย ถีบไปที่เป้าของปรัชญ์ ด้วยความปวดจุก ปรัชญ์จึงปล่อยมือคุมเป้าตัวเอง
“ โอ้ย”ปรัชญ์ร้องเสียงดัง
เป็นจังหวะเดียวที่คิมหันมา ขณะนั้นต้นก็หลุดออกมาจากเงื้อมมือของปรัชญ์พอดี ต้นจึงรีบลงจากเตียงวิ่งมาหาคิมที่หันหน้ามาได้จังหวะ
“ช่วยต้นด้วย มันไม่ใช่อย่างที่เขาพูด เชื่อต้นเถอะ”ต้นถึงกับน้ำตาไหลพราก
คิมปวดใจยิ่งนักที่เห็นต้นร้องไห้ และหันหน้าไปมองปรัชญ์ที่มือกุมเป้า ด้วยความปวดทรมานแสนสาหัส
“ทำไมขาทำกับต้นแบบนั้น”คิมเอ่ยขึ้น
“เรื่องมันยาว โยฮัน ช่วยต้นก่อนนะ”
“ก็ได้”คิมยืนนิ่ง และจ้องมองปรัชญ์อย่างกับกินเลือดกินเนื้อ
เมื่อปรัชญ์หายจุกปวด จึงเดือนมาหาต้นและจะจับมือ แต่ต้นสะบัดหนีไปยืนหลังคิม
“ถอยไป”ปรัชญ์จ้องหน้าคิม
“ไม่ถอย”คิมเสียงเข้ม
“ผัวเมียเขาจะคุยกัน”ปรัชญ์มีสีหน้าที่ดุและจริงจัง
“ไม่ใช่นะเราเลิกกันแล้ว”ต้นหันไปมองหน้าคิมอย่างเว้าวอนให้เชื่อ
“ในเมื่อเลิกกันแล้ว ก็เป็นคนอื่น ส่วนผมเป็นแฟนใหม่ของต้น คุณนั่นแหล่ะ ออกไป”
“โอ้ย แฟนใหม่ โง่สิ้นดี แล้วไอ้หนุ่มอันเจียนั่นล่ะ เห็นไปเที่ยวด้วยกัน พึ่งกลับมาเมื่อเช้านี่เอง ”ปรัชญ์ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายให้พังกันเป็นแถบ โดยพูดตามความจริงดั่งที่เห็น
“อ๋อ เขาเพื่อนกัน ผมรู้จักจาง ผมก็รู้ว่าเขาไปเที่ยวด้วยกัน”
“แล้วทำไมพึ่งกลับมาตอนเช้า”ปรัชญ์แสยะยิ้ม
“ต้นมานอนที่ห้องผมทั้งคืน”คิมตอบทันควัน
ต้นหันหน้ามามองคิม ส่วนคิมก็จับมือของต้นไว้แน่น ส่วนใบหน้าเขานิ่งเฉย แต่ใจตอนนี้สับสนเต้นระรัว คิดไม่ออกบอกไม่ถูก
“จะออกไปดีๆหรือจะให้ผมหิ้วออกไป”คิมเสียงเข้มปรัชญ์เห็นท่าไม่ดีจึงยอมถอย
“วันนี้แค่นี้ก่อนนะต้น วันหลังผมไม่ยอมแน่”ปรัชญ์หันมามองต้นและคิมพร้อมยิ้มเยาะ สาเหตุที่ปรัชญ์ยอมไปแต่โดยดี เพราะเมื่อเข้าไปใกล้คิมตัวเขาเล็กไปเลย ขืนอยู่ต่อและมีเรื่องอาจสู้ไม่ได้ ปรัชญ์จึงเดินออกจากห้องไปในทันที
“เป็นไงบ้างต้น”คิมจับไหล่ของต้นให้หันหน้ามาทางตัวเอง แล้วโอบกอดอย่างทะนุถนอม
“ไม่ต้องร้องไห้นะคนเก่ง”คิมปลอบใจต้น แต่ใจก็สับสนอลหม่านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต้นออกจากอ้อมกอดของคิม พร้อมเช็ดน้ำตาที่นองให้เหือดแห้ง เมื่อต้นเริ่มหายตกใจ จึงพร้อมที่จะเล่าความจริงทุกอย่าง
“เขาคือแฟนเก่าต้น แต่เลิกกันไปแล้ว จู่ๆเขาก็หายไป และกลับมาอีกครั้งเมื่อคืน เจอกันที่ร้านอาหารที่ต้นไปกับจาง”ต้นถอนหายใจ
“แล้วเหตุการณ์เมื่อกี้ คือ”คิมจึงเอาสองนิ้วของเขาปิดปากต้นไว้
“อะไรที่มันเจ็บไม่ต้องพูด ผมเข้าใจต้นเกือบทุกอย่าง แต่ยกเว้นเรื่องเดียว ”
“อ่ะ อะไร”ต้นงง
“เมื่อคืนต้นไปนอนกับจางหรอ”
“ใช่ คือ”
“ไม่ต้องพูดต่อ ผมจะพยามยามทำความเข้าใจ เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจะไปเคลียร์กับจางเอง”
“แล้วจางได้ทำ เอ่อ ทำ เอ่อ”คิมอ้ำอึ้ง
“ไม่ได้ทำอะไรแค่ไปนอนเฉยๆ เพราะกลัว แฟนเก่าตามมารบกวน”ต้นก็ไม่เข้าใจตัวเองต้องอธิบายทำไม
“ถ้าอย่างนั้นคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า ถ้าแฟนเก่าต้นมาอีกจะทำอย่างไร”
“ตอนแรกกะจะเปลื่ยนกุญแจใหม่ แต่คงไม่ได้แล้ว ต้นคงต้องหาที่พักใหม่”ต้นถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ไปอยู่กับผมก่อนไหม พอหาที่พักได้แล้วค่อยไปอยู่ที่ใหม่”
อ่า เอ่อ”ต้นไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
ที่“ไปนอนกับจางได้ ทีกับผมอ้ำอึ้ง” คิมรู้สึกน้อยใจ
“ไม่ใช่ ต้นจะไปนอนกับริโอ้ก่อน”
“เหรอ ผมพึ่งไปที่ร้านมาเจอริโอ้ด้วย เขาบอกว่าต้นลาหยุด ผมก็เป็นห่วงก็เลยมาหา
“อ่อ”ต้นพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ทีแรกก็แอบสงสัยอยู่คิมรู้ได้ไงว่าอยู่ห้อง
“ริโอ้เล่าเรื่องของต้นกับแฟนเก่าต้นด้วย ผมสงสารต้นมาก ถ้าเป็นผมจะไม่มีวันทำอย่างนั้นเด็ดขาด”คิมเข้าไปลูบศีรษะของต้น และโอบกอดอีกครั้ง
“รู้ไหมที่ผมเข้ามาแล้วเห็นต้นอยู่กับแฟนเก่า ผมโกรธมาก ทำอะไรไม่ถูก เขาบอกเป็นผัวต้น ผมเลยไม่ได้ช่วยต้น พอตอนนี้ผมใจเย็นขึ้น ผมจึงคิดได้ว่าต้นไม่ใช่คนแบบนั้น และผมเข้าใจผิดไปเอง”
คิมคิดได้ทันทีเมื่อได้ยินชื่อริโอ้ เพราะริโอ้เล่าความจริงทุกอย่างของต้นให้คิมฟัง
“ไม่เป็นไรต้นเข้าใจ ถ้าใครเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ก็คิดเหมือนโยฮันทั้งนั้นแหล่ะ”ต้นถอนหายใจแล้วส่ายหน้า
คิมหยุดกอดต้นและมองหน้าต้นอย่างเอ็นดู ถึงคิมจะคลายใจเรื่องแฟนเก่าแต่กับจางยังคาใจอยู่
“ผมว่าต้นไม่ต้องไปนอนห้องริโอ้หรอก รวมทั้งจาง และห้องผมด้วย เราไปหาห้องใหม่กันดีกว่าไหม”ที่คิมคิดเช่นนั้น เพราะถ้าต้นไปนอนกับริโอ้ ในส่วนตัวเขาก็จะไปหาต้นไม่สะดวก
ต้นครุ่นคิดขั่วครู่ก็เห็นด้วยกับคิม เพราะริโอ้มีกิ๊กเยอะ มันคงไม่สะดวกถ้าต้นไปนอนด้วย
“ก็ดี ถ้างั้นต้นขออาบน้ำก่อนนะ แล้วค่อยไปหาห้องพักกัน
คิมยิ้มแต่อดเสียดายนิดหน่อย ที่ต้นใส่เสื้อเข้าไปในห้องน้ำ เพราะคิมอยากเห็นนมชมพูอีกครั้ง แต่แอบคิดอาจเห็นอีกครั้งหลังออกจากห้อง
เมื่อทุกอย่างสงบลง หลายอย่างก็เริ่มเข้าที่ ในที่สุดต้นก็ได้ห้องเช่า แต่อยู่ไกลพอสมควร ไม่สามารถเดินทางด้วยเท้าได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาสามารถขึ้นรถรับจ้างไปมาสะดวก ก่อนหน้านี้ต้นก็มีรถมอเตอร์ไซค์ แต่ได้ขายเพื่อนำเงินมาช่วยปรัชญ์ ในหลายๆเรื่องย้ายห้องครั้งนี้ได้คิม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยย้าย ส่วนตอนค่ำมีริโอ้ ซอง เพื่อนของคิมมาสมทบ ซึ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว"เสียดายจังมาไม่ทัน เสร็จพอดีเลย"ริโอ้พูดติดตลก"มาช้าดีกว่าไม่มา แค่มาก็ดีใจมากแล้ว"ต้นไม่ได้หันมองริโอ้ แต่มองคนข้างๆที่ยืนงง"อ๋อ ผมลืมแนะนำ นี่ซอง เพื่อนผมเอง พอดีเมื่อเช้าผมพาไปนวดได้คิวปัน ผมเลยได้นั่งคุยกับริโอ้ เรื่องของต้น ผมเป็นห่วงเลยไปหาต้นที่ห้อง"คิมแนะนำและอธิบายเหตุการณ์เมื่อเช้า"ส่วนนี่ ต้น"ต้นยิ้มให้ซองซองยื่นมือเพื่อจะจับมือกับต้น เป็นการแสดงไมตรีจิต"ไม่ต้องจับมือกันก็ได้"คิมหึง"นี่แน่"ริโอ้ตีมือซอง"ตีทำไมผมเจ็บ นี่ไงแฟนเพื่อนยังจะจับมืออีก""อ๋อ คนนี้เองที่โยฮันบอกว่าชอบ กำลังจีบอยู่ " ซองพูดอย่างซื่อ"ฮึ ฮึ"ริโอ้แอบหัวเราะ"จริงไหมโยฮัน"ริโอ้ก็ถาม"จริง"คิมมองตาของต้น ส่วนต้นหลบตาและเฉไฉ พูดเรื่องอื่น"ร
ริโอ้ขับรถมอเตอร์ไซค์คันโปรด พาซองซ้อนท้าย ร่อนทั่วเมืองเชียงใหม่ ทีแรกริโอ้จะพาซองเข้าผับ แต่ซองปฏิเสธเพราะไม่ชอบคนเยอะ เหม็นเหล้าบุหรี่ ขาแดนซ์อย่างริโอ้เกิดอาการเซ็ง เขาจึงจอดรถบนลานประตูท่าแพ เพื่อนเคลียร์ความเยอะของซอง"ซองอยากไปเที่ยวไหนบอกริโอ้มา"ริโอ้แอบเซ็งความเยอะของซอง ยังดีที่หน้าหวานตรงสเป็คจึงยอมให้"ซอง อยากไปเที่ยวน้ำตก พรุ่งนี้ริโอ้พาไปได้ไหม""คืนนี้ก่อนว่าจะไปไหน พรุ่งนี้ไม่ว่าง"ริโอ้เสียงเข้ม"ซองอยากไปตลาดกลางคืน หาของอร่อยๆกินกัน""โอเค เดี๋ยวพาไปขึ้นรถมาเลย""จะไปกาดหลวงก็ไม่บอกแต่ทีแรก ให้ขับรถวนมาวนไป เปลืองน้ำมันจะตาย" ริโอพูดเป็นภาษาไทย"ริโอ้บ่นซองเหรอ ถ้าอย่างงั้นซองไม่ไปแล้ว"ซองคาดเดาจากน้ำเสียง"ไม่ได้บ่น แค่เป็นห่วงต้น ไม่รู้ตอนนี้เป็นอย่างไงบ้าง""คงเสร็จโยฺฺฮันแล้วมั้ง""อะไรนะ"ริโอ้มีท่าทีตกใจ"เป็นอะไร ตกใจทำไม ผู้ชายกับผู้ชายอยู่ด้วยกันสองคน มันต้องมีอะไรกันบ้างนั่นแหล่ะ""แล้วผมกับซองล่ะ""ต้องดูกันยาวๆ""ผมไม่ชอบดูยาวๆ มันช้าไป เจอปุ๊บติดปั๊บ""ถ้าถูกใจก็ได้ แต่ตอนนี้ซองหิว ถ้าหิวมากๆซองจะกินริโอ้แล้วนะ""โอเค"ริโอ้ใช้เวลาขับรถไม่นานนัก ก็มาถึงก
ต้นขึ้นรถสี่ล้อแดงมาจากห้องเช่าใหม่ กว่าจะมาถึงก็สายพอสมควร เนื่องด้วยต้องไปส่งคิมที่ห้องก่อนเมื่อมาถึงก็เห็นริโอ้ยืนอยู่หน้าร้าน กำลังครุ่นคิดเรื่องของซองว่าจะเดินต่อหรือถอยหลัง"มายืนทำอะไรตรงนี้"ต้นถาม"ก็ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่ต้นนั่นแหล่ะ เมื่อคืนเป็นไงบ้าง"ริโอ้จ้องหน้าด้วยความอยากรู้"ไม่มีอะไรหรอก หลับสบายดี"ต้นยิ้ม"จริงเหรอ"ริโอ้ไม่ค่อยอยากเชื่ิอ"เข้าไปข้างในกันเถอะ"ต้นรีบเปลื่ยนเรืี่อง ไม่อยากคุยเรื่องนี้ริโอ้หันหลังกำลังจะเดินเข้าไปในร้าน พร้อมกับต้นแต่แล้วต้องหยุดชะงัก"ต้น"เสียงเรียกมาจากด้านหลังต้นและริโอ้หันไปพร้อมกัน ซึ่งคนที่เรียกต้น ก็คือนนท์ หมอวิ่งร้านป้าทองคำ"อ้าวพี่นนท์มีอะไร"ต้นยิ้มให้"ปรัชญ์อยู่ไหน"นนท์พูดเสียงห้วน"ต้นจะไปรู้ได้ไง""เมื่อคืนก่อนมีคนเห็น ปรัชญ์ไปที่ห้องพักต้น"ในระหว่างนั้น กัน ปัน และสามหน่อ ได้ออกมาดูเหตุการณ์"เมื่อคืนก่อนต้นไม่ได้นอนห้อง""ไม่ได้นอนห้องแล้วไปนอนที่ไหน"นนท์มีสีหน้าไม่เชื่อ"คือ ต้น "ต้นอ้ำอึ้ง"ไปนอนที่ไหนก็บอกพี่นนท์ไปซิ"ริโอ้พูด"เมื่อคืนก่อนต้นเจอปรัชญ์ที่ร้านอาหาร แต่เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก เพราะต้นไปกับจาง"" ฮ่า"ท
ในห้วงเวลามีเพียงสองคน ต้นและจางโบยบิน ปล่อยกายใจ ให้ปลิดปลิวไปกับสายลม สองหนุ่มขับมอเตอร์ไซค์ลัดเลาะไปทั่วเมือง หาจุดเหมาะที่สานความสัมพันธ์จางและต้นจึงแวะไนท์พลาซ่า เพื่อเดินชมหาสิ่งบันเทิงใจ เดินดูอยู่หลายร้านซ้ายขวาแวะหยิบจับมาขึ้นดู พอใจก็ซื้อมายังไม่ถูกใจก่อนจากไปก็ขอโทษแม่ค้าครั้นผ่านร้านเครื่องเงินสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้องหยุดชะงักในทันที"ฮู้ สร้อยเส้นนี้สวยจัง"ต้นอุทาน พร้อมจับมาดู เป็นลายเกลียวคลื่นพันเกี่ยวกัน มีจี้เป็นรูปกระต่ายซึ่งเป็นปีเกิดของต้น""อยากได้ไหมเดี๋ยวผมซื้อให้"จางเหลือบสายตาดูต้น ที่มองสร้อยเส้นนั้นไม่วางตา พลิกกลับไปมาแล้วอมยิ้ม"ป้า เอาเส้นนี้ เท่าไรครับ"ต้นถามพร้อมเตรียมเงินในกระเป๋าออกมาจ๋าย"999บาทค่ะ"ไม่ต้องเดี๋ยวผมจ่ายเองครับ"จางห้ามต้นไว้ และควักเงินแบงก์พันออกมาให้แม่ค้า"เดี๋ยวผมใส่ให้ครับ"จางยื่นมือขอสร้อยจากต้นแต่ต้นไม้ให้ เพราะเห็นแม่ค้ายืนมองต้นเลยรู้สึกเขิน"ไว้ใส่ที่ห้อง""ทำไม่ใส่ที่นี่ไม่ได้""หิวแล้วไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่า"ต้นรีบตัดบทและจับมือจางเดินหนีหาย จนลับสายตาแม่ค้าสร้อยเงินสองหนุ่มเดินชมสินค้าที่มีให้เลือกหลากหลาย จนจางต
ซองเข้ามาในห้องของคิม ตั้งแต่เช้าก็ยังเห็นคิมซึมอยู่ ในความคิดของซองยังมีสองอย่างสงสารกับแอบดีใจ ที่ต้นนั้นเลือกจางแต่ถ้าเทียบความรู้สึกกันแล้วจะสงสารมากกว่า เพราะซองก็รู้สึกเศร้าตามคิมไปด้วย ซองจึงพยายามหาทางคุยเรื่องอื่น เพื่อที่จะให้คิมได้คลายความเศร้าได้ลงบ้าง"วันนี้เราไปเที่ยวไหนกันดี" ซองถามพร้อมมองหน้าคิมว่ามีอาการเช่นไร แต่ก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิม"โยฮัน เป็นอะไร”ซองต้องย้ำอีกรอบคิมจึงรู้สึกตัว"ฮ่ะ”คิมหันมามองหน้าซอง"วันนี้จะไปไหนไหม""ไปนวดเหมือนเดิม”เมื่อพูดจบคิมลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำ"ไปที่ไหน"ซองอยากรู้มาก"ที่เดิม"คิมพูดอย่างเย็นชาไร้อารมณ์ซองไม่เข้าใจทำไมต้องไปที่เดิม แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และนั่งรอคิมที่พึ่งเข้าไปอาบน้ำ คิมเปิดน้ำฝักบัวเพื่อชำระร่างกาย ที่เปื้อนคราบสวาทจากซอง เขาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่ซองทำให้เขาเจ็บซ้ำสองต่อ แต่เขาก็ไม่ปริปากพูด เพื่อมิตรภาพที่ดีจะได้อยู่ต่อไป เจาหลับตาปล่อยสายน้ำชำระร่างกายให้สะอาด ก่อนออกจากห้องน้ำเพื่อไปปั้นหน้าพบแทนซองซองนั่งรอคิมอยู่พักใหญ่ โยฮันก็ออกมาจากห้องน้ำ ในชุดผ้าเช็ดตัวพันกายผืนเดียว จึงทำให้เกิดภาพในเมื่อคืนลอยมา
หลังจากดูหนังจบ ปันกับโมย่าก็เดินออกมา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มทั้งคู่ โมย่ารู้สึกว่าปันนั้นน่ารักน่าคบหา ไว้เป็นเพื่อนตอนอยู่ในประเทศไทย ส่วนปันนั้นรู้สึกผ่อนคลายความเครียด และเจ็บนิดๆ ที่ริโอ้ไปกับซองไม่ยอมมาดูหนังกับตัวเอง"ปันรู้ไหมผมมีความสุขมากเลยคืนนี้ ถึงดูหนังจะเป็นเรื่องปกติ "โมย่าหันมามองปันที่กำลังอมยิ้มอยู่"ผมก็เช่นกันครับ"ปันรีบเดินนำหน้าด้วยความเขินอายนิดหน่อย ส่วนโมย่าก็ก้าวเท้าแค่ก้าวเดียวก็ทันปันแล้ว เพราะฝรั่งขาจะยาว"แล้วเราจะไปไหนต่อกันดี"โมย่าเดินมาเคียงคู่ปันแล้วเริ่มเอ่ยชวน"คงกลับห้องน่ะครับ""ปันไม่ชอบเที่ยวกลางคืนหรอครับ""ก็มีบ้างครับ แต่วันนี้ค่อนข้างดึกแล้วเลยอยากกลับห้องไปพักผ่อน""ก็ดีครับ พรุ่งนี้จะได้มีแรงนวดผม"โมย่ายิ้ม"จะมานวดจริงหรือเปล่า เดี๋ยวเหมือนครั้งที่แล้วอีก"ปันชำเลืองมอง"ครั้งที่แล้วผมมีธุระนิดหน่อยเลยไม่ได้มา แต่ครั้งนี้รับรองไปแน่นอนครับ""จะลองเชื่ออีกซักครั้ง" ปันเร่งฝีเท้าเดินไปยังที่รถตุ๊กๆ"จะไปพร้อมกันหรือว่าจะไปคนละคัน"ปันถามโมย่า"คนละคันก็ได้ครับ"โมย่ามีแผนจะไปต่อที่ผับเลยปฎิเสธไปคันเดียวกัน"ก็ได้ครับนั้นแยกกันตรงนี้ บ่าย" ปัน
หลังจากที่ได้วางแผนจับผิดจางกันมาแล้ว โดยมี ต้น นำทีม มีริโอ้เป็นทัพเสริม คราวนี้มีพี่นารีเป็นตัวช่วยอีกคนพอเลิกงานต้นจึงมาหาจางที่ห้อง จางจะชวนออกไปข้างนอกอต่ ต้นก็ไม่ไปเพราะว่าจะสืบเรื่องราวแฟนเก่าจางให้ได้ ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"ต้นอยากรู้จังว่าจางอยู่ที่อันเจียทำงานอะไร" ต้นช้อนตามองจาง"ทำงานบริษัทเอกชน""แล้วลางานมานานๆไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม""ผมลาพักร้อนสองเดือน วันหยุดผมเยอะ เพราะไม่ค่อยได้ลา ทำงานอย่างเดียว"จางเกิดความสงสัย ทำไมวันนี้ต้นมาแปลก"เมื่อก่อนต้นก็ไม่ได้เป็นหมอนวดหรอกนะ เป็นพนักงานเสริฟอยู่ที่ร้านอาหารฝรั่ง""ทำไมออกล่ะ"จางสงสัย"ร้านมีปัญหาด้านการเงิน ต้นเลยโดนให้ออก""แล้วต้นมาเป็นหมอนวดได้อย่างไรล่ะ""ริโอ้เป็นอยู่ก่อนแล้ว เห็นต้นตกงาน ริโอ้เลยชวนมาเป็นหมอนวด""ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยนะ""ใช่ ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลย" ต้นมาผิดแผนลืมตัว แทนที่จะถามจาง แต่จางมาเหนือเมฆ ต้นเลยชิงถามก่อน"จางอยู่แถวไหนของประเทศอันเจียหรอ"ต้นถามไปอย่างนั้นแหล่ะ"ผมอยู่เจ้อเจียงแต่มาทำงานที่กวางตุ้ง""อ่อ แล้วอยู่คนเดียวหรอที่กวางตุ้ง""อยู่คนเดียว""แล้วแฟนเก่าที่เลิกล่ะ"เริ่
ปันเดินไปยังโต๊ะของฝรั่งเพื่อขอเก้าอี้มาหนึ่งตัว ซึ่งฝรั่งก็ให้ปันมาแต่โดยดี ปันจึงเอามาถึงที่โต๊ะและตั้งแทรกกลางระหว่างต้นกับจาง"นั่งเลยจีจี้"นารีช้อนตามองจีจี้แล้วขยิบตาส่วนจางก็เขยิบเก้าอี้ถอยห่างเพื่อให้จีจี้นั่งสะดวกขึ้น ข้อสำคัญเขาไม่ค่อยไว้วางใจผู้หญิงคนนี้ ถึงจางจะเคยผ่านผู้หญิงมาเพียงคนเดียว แต่เขาก็ดูออกว่าผู้หญิงคนนี้มาไม่ดีแน่ และสิ่งที่เขาห่วงมากที่สุดคือต้นจะเข้าใจผิด เพราะต้นรู้แล้วว่าแฟนเก่าเขาเป็นผู้หญิงจีจี้พยายามใช้มารยาจับจุออ่อนของจาง"ชนแก้ว"จีจี้ชนแก้วกับทุกคน และคนสุดท้ายก็คือจาง เขาจึงชนแก้วในทันที เพราะโดยส่วนตัวจางชอบดื่มเบียร์ ไม่ใช่เพราะจีจี้แม้แต่น้อย แต่คนในกลุ่มไม่คิดเช่นนั้นเพราะบางที่ก็ชนแก้วกันแค่สองคน ข้อสำคัญจางขอชนแก้วเองอีกต่างหาก พอจีจี้ดื่มหมดชนต่ออีก ทำเช่นเดิมอยู่หลายครั้งจนสร้างความไม่พึ่งพอใจแก่ต้นและพรรคพวก จางก็สังเกตเห็นแต่ก็จะแกล้งต่อไปอีก"จางแฟนของต้นคอแข็งเป็นบ้าเลย จีจี้ยอมแพ้จีจี้เมาเบียร์"จีจี้ทำท่าจะเล่อแต่พยายามกลืนลงไป"จีจี้ ชนอีครั้งกผมกำลังได้ที่เลย"จางยื่นแก้วพร้อมชน"พอแล้วจาง"จีจี้โบกมือ แต่จางคะยั้นคะยอจนจีจี้ยอมอีกแ