ซองเข้ามาในห้องของคิม ตั้งแต่เช้าก็ยังเห็นคิมซึมอยู่ ในความคิดของซองยังมีสองอย่างสงสารกับแอบดีใจ ที่ต้นนั้นเลือกจาง
แต่ถ้าเทียบความรู้สึกกันแล้วจะสงสารมากกว่า เพราะซองก็รู้สึกเศร้าตามคิมไปด้วย ซองจึงพยายามหาทางคุยเรื่องอื่น เพื่อที่จะให้คิมได้คลายความเศร้าได้ลงบ้าง
"วันนี้เราไปเที่ยวไหนกันดี" ซองถามพร้อมมองหน้าคิมว่ามีอาการเช่นไร แต่ก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิม
"โยฮัน เป็นอะไร”ซองต้องย้ำอีกรอบคิมจึงรู้สึกตัว
"ฮ่ะ”คิมหันมามองหน้าซอง
"วันนี้จะไปไหนไหม"
"ไปนวดเหมือนเดิม”เมื่อพูดจบคิมลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำ
"ไปที่ไหน"ซองอยากรู้มาก
"ที่เดิม"คิมพูดอย่างเย็นชาไร้อารมณ์
ซองไม่เข้าใจทำไมต้องไปที่เดิม แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และนั่งรอคิมที่พึ่งเข้าไปอาบน้ำ คิมเปิดน้ำฝักบัวเพื่อชำระร่างกาย ที่เปื้อนคราบสวาทจากซอง เขาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่ซองทำให้เขาเจ็บซ้ำสองต่อ แต่เขาก็ไม่ปริปากพูด เพื่อมิตรภาพที่ดีจะได้อยู่ต่อไป เจาหลับตาปล่อยสายน้ำชำระร่างกายให้สะอาด ก่อนออกจากห้องน้ำเพื่อไปปั้นหน้าพบแทนซอง
ซองนั่งรอคิมอยู่พักใหญ่ โยฮันก็ออกมาจากห้องน้ำ ในชุดผ้าเช็ดตัวพันกายผืนเดียว จึงทำให้เกิดภาพในเมื่อคืนลอยมาตรงหน้า ที่เขาแอบลักหลับคิม
ซึ่งเขาก็เห็นคิมถอดเสื้ิอบ่อย แต่ใจของเขาก็ร้อนลุ่มทุกครั้ง เพราะรูปร่างของคิม มีแต่มัดกล้ามที่ชวนมอง ซองกลัวคิมเห็นอาการ เขาจึงหันหน้าไปทางอื่น และหาเรื่องคุยกันต่อ จะได้ไม่เงียบงันจนเกินไป
"ทำใจได้เหรอที่จะไปนวดที่ร้านเดิม อาจเจอต้นกับจางก็ได้ ซองว่าไปนวดที่อื่นก็ได้ มีร้านนวดตั้งมากมายที่เชียงใหม่"
"ผมอยากเจอต้น อยากจะคุยกับต้นอีกซักครั้ง”คิมพูดไปด้วยพร้อมใส่เสื้อและกางเกงจนเรียบร้อย
"เราไปกัน" คิมชวนซองให้ไปด้วยกัน
เมื่อทั้งสองไปถึงร้านนวดก็ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง เมื่อต้นได้ลางาน คิมเริ่มปวดใจอีกเขาเลยตัดสินใจที่จะไปรอต้นที่ห้องพัก
"เดี่ยวเราจะไปทำธุระที่อื่นนะ ซองอยู่นวดที่นี่แหล่ะ”คิมรีบเดินจากไปในทันที
ซองรู้จักนิสัยของคิมดี ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะทำอะไร เขาก็จะไปให้สุด
ซองจึงไม่ห้ามปรามถึงจะรู้ว่าคิมโยอัน จะไปหาต้นที่ห้องพัก ซองเลยตัดสินใจนวดน้ำมันต่อ
เพื่อคลายความเครียดทั้งเรื่องของคิมและตัวเอง ซองจึงเดินไปหาริโอ้ ซึ่งกำลังรอลูกค้าอย่างใจจดจ่อ เพราะเมื่อคืนไปเปย์เด็กบาร์โฮสต์อยู่หลายตังค์
"นวดน้ำมันหนึ่งชั่วโมง”ซองบอกริโอ้
"เชิญทางนี้ครับ"ริโอ้ลุกขึ้นยืน
ริโอ้พาซองเข้ามาที่ห้องนวด และจัดแจงเตรียมอุปกรณ์การนวดให้พร้อม แล้วออกไปรอซองด้านนอก เมื่อริโอ้กะเวลาได้พอดีกับซองเปลื่ยนเสื้อผ้าเสร็จ
ริโอ้จึงเข้ามาก็เห็นซองในท่านอนคว่ำ รอพร้อมนวด ก่อนที่ริโอ้จะนวด ซองได้ยกศีรษะขึ้น เพื่อพูดคุยอะไรบางอย่าง
"วันนี้ต้นไปไหนหรอถึงไม่มาทำงาน"
"ไม่รู้เหมือนกัน”ริโอ้พูดน้อยจนผิดสังเกต ซองเลยแน่ใจได้ว่าริโอ้ต้องรู้แน่ๆว่าไปไหน ส่วนซองก็มั่นใจว่าต้นต้องอยู่กับจาง เพราะเมื่อเย็นวานเห็นไปด้วยกัน
ปกติริโอ้กับซองจะพูดคุยยอกล้อกัน แต่วันนี้กับนิ่งเฉยกันทั้งคู่ เนื่องด้วยเพื่อนของตัวเองทั้งสองฝ่ายต่างมีปัญหาเรื่องความรัก
เมื่อริโอ้ได้นวดซองเสร็จแล้ว เขายังนั่งอยู่ต่อเพื่อสอบถามเรื่องของคิม
"โยฮันเป็นไงบ้าง เห็นเงียบๆไป"
"ก็คนมันอกหักจะมีอะไรนอกจากเศร้า ใครจะมีความสุขเหมือนต้นล่ะ"
"เรื่องแบบนี้เราไปฝืนใจใครไม่ได้ ซองเคยบอกริโอ้ว่ายังชอบโยฮันอยู่นี่"
ซองหันมามาองหน้าริโอ้ หนึ่งด้วยความโกรธที่พูดแทนใจดำ อีกใจหนึ่งก็มันเป็นเรื่องจริงของอย่างนี้เราไม่สามารถที่จะบังคับจิตใจใคร
แต่ก็ไม่ชอบที่ริโอ้พูดเช่นนี้ จึงเก็บอาการไว้ แต่ก็ไม่พ้นสายตาริโอ้ที่แอบเห็น เขาจึงรู้สึกสงสารและเห็นใจ จึงพยายามปลอบใจให้หายเคือง แต่ริโอ้ยังไม่ทันได้พูดอะไร ซองก็พูดขึ้นมาก่อน
"คืนนี้พาเราไปเที่ยวคลายเครียดได้ไหม รู้สึกเหงาบอกไม่ถูก”ซองหันมามองหน้าริโอ้
ริโอ้ครุ่นคิดชั่วครู่ เพราะคืนนี้เขามีนัดกับปัน ว่าจะไปดูหนังกัน นัดกันอย่างดิบดีเมื่อเช้าก่อนมาทำงาน
ริโอ้จึงชั่งความสำคัญอย่างไหนสำคัญกว่ากัน ในที่สุดเขาก็คิดดได้ ต้องซองเพราะกำลังอยู่ในห้วงของความทุกข์ ส่วนปันนั้นสามารถไปดูหนังวันหลังได้ แค่หนังหนึ่งเรื่องในความคิดของริโอ้
"ก็ได้ครับ ริโอ้จะพาตะลอนเชียงใหม่ให้ลืมโยอันเลย"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ซองก็อดยิ้มไม่ได้
"คงไม่ได้นัดกับใครเขานะ ถ้ามีนี่เดี่ยวเขาจะมาแหกอกซองแย่เลย"
"ไม่มี”ริโอ้เสียงสูง แต่แอบคิดในใจปันจะว่าอย่างไรบ้าง
เมื่อทั้งคู่ได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว จึงออกไปข้างนอก เมื่อซองออกไปจากนอกร้าน ริโอ้จึงเดินเข้ามาหาปัน และทำใจอยู่พักหนึ่งจึงพูดขึ้น
"พอดีริโอ้มีธุระไปดูหนังกับปันไม่ได้แล้วน่ะ"ริโอ้ตีสีหน้าเศร้า
"ไม่เป็นไรหรอก เราเข้าใจคนเรามันก็ต้องมีธุระเร่งด่วนกันบ้าง" แต่ปันก็แอบคิดนะว่า ต้องนัดซองแน่เลย
"ปันไม่โกรธเราใช่ไหม"
"จะโกรธทำไมเราไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่เพื่อนร่วมงานกัน”ปันแกล้งยิ้มอย่างมีความสุข แต่ในส่วนลึกรู้สึกแปล้บในใจ
"ถ้าใครได้ปันเป็นแฟนโชคดีมากเลย เข้าใจอะไรง่ายมาก”ริโอ้เริ่มมีความรู้สึกดีดีกับปันขึ้นมาบ้าง
"ไม่ต้องมาปากดีเลย ตบหัวแล้วลูบหลัง" ปันหันหน้าไปทางอื่นไม่อยากมองหน้าริโอ้
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ริโอ้รีบขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปในทันที ปันได้แต่มองแล้วรู้สึกใจหาย แต่เขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพราะสเปคของปันคือ ยูโรเปี้ยน เขาเลยตัดสินใจไปดูหนังคนเดียว
แต่ยังเดินไปไม่ถึงไหนก็ได้ยินเสียงเรียกขาน จากด้านหลังซึ่งคุ้นๆมาก
"ร้านปิดแล้วหรอครับ"
ปันรีบหันไปก็พบกับโมย่าลูกค้าฝรั่งนวดเท้าสองชั่วโมง แล้วนัดนวดไทยเมื่อวานแต่ไม่มาตามนัด
"ปิดแล้วครับ ค่อยมาวันพรุ่งนี้" ปันยิ้มหวานให้ ถ้าเป็นฝรั่งมาพูดคุยปันจะลืมทุกสิ่ง
"แล้วคุณจะไปไหนครับ”โมย่าถาม
"ไปดูหนังครับ"
"ไปดูหนังคนเดียวไม่เหงาแย่หรอครับ แถมน่าเบื่ออีก"
"ชินแล้วครับ ผมก็ไปดูคนเดียวบ่อยๆ"ปันสงสัยว่าฝรั่งคนนี้ทำไมชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น
"ถ้าไม่อยากไปดูคนเดียว ผมไปดูเป็นเพื่อนได้นะครับ ผมก็เหงาๆมาเที่ยวคนเดียว อยากหาเพื่อนเที่ยวด้วยเหมือนกัน”โมย่าทำสายตาเว้าวอนอยากไป
ปันยืนครุ่นคิดชั่วครู่ เพราะเขาไม่เคยไปดูหนังกับใครสองคน จะมีครั้งแรกกับริโอ้ แต่ก็เปลื่ยนใจกะทันหัน แล้วปันก็รู้สึกเหงาๆอยู่พอดี จึงตัดดสินใจร่วมทางเดินในโลกภาพยนตร์กับเพื่อนใหม่
"ก็ได้ครับ"
"ผมรู้สึกดีใจที่คุณไม่รังเกียจผม"
ปันยิ้มแล้วคิดไปว่าใครจะรังเกียจลูกค้าได้ไงล่ะ ยิ่งเป็นยูโรเปี้ยนเขายิ่งชอบมากเป็นพิเศษ
เมื่อตกลงปลงใจจะไปดูหนังด้วยกัน ทั้งสองจึงโบกรถแดงไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อดูหนังกันสองคน
ต้นกลับมาจากห้องจางคนเดียว เนื่องด้วยถ้าจะให้ซ้อนมอเตอร์ไซค์จางกลับมา ต้นคิดว่าอาจเจ็บมากกว่าน่อง จึงตัดสินใจขึ้นรถตุ๊กๆมาคนเดียว
ทีแรกจางจะมาด้วยแต่ต้นไม่ให้มา เพราะส่งกันไปส่งกันมา ไม่ถึงห้องซักที และข้อสำคัญถ้าจางมา ก็คงอีกนานกว่าต้นจะได้พักผ่อน
เพราะเมื่อกลางวันก็ไม่ได้ออกไปไหนกัน อยู่แต่ในห้องจางรบกวนตลอดเวลา ต้นก็ชอบนะแต่ตอนนี้เขาเจ็บน่องจึงไม่อยากทำอะไร นอกจากนอนพักผ่อน แต่ดูเหมือนจะไม่ได้พักผ่อนดังที่หวัง
เมื่อต้นเดินมาถึงที่หน้าทางเข้า เขาก็เจอคิมนั่งรออยู่ ต้นถึงกับตกใจพร้อมประหลาดใจ และอึดอัดใจขึ้นมาทันที เพราะคนที่ต้นเลือกแล้วคือจาง
"โยฮันมานานหรือยัง”ต้นเดินเข้ามายืนใกล้ๆ
"มาตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วครับ”คิมลุกขึ้นยืนคุยกับต้น
"มีอะไรหรือเปล่า”ต้นถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามีเรื่องอะไร
"มีครับ ผมขอขึ้นไปคุยในห้องได้ไหม รับรองผมไม่ทำอะไรต้นหรอก คุยตรงนี้ไม่สะดวกเท่าไรครับ"
ต้นมองหน้าคิมแล้วรู้สึกผิด ที่เคยแอบให้ความหวังแล้วปฎิเสธภายหลัง
"ได้ ขึ้นไปบนห้องกัน"
เมื่อต้นและคิมมาถึงที่ห้อง ต้นจึงนำน้ำใส่แก้วมาให้คิมได้ดื่ม ซึ่งเขาก็กำลังรู้สึกกระหายน้ำอยู่พอดี คิมจึงดื่มจนหมดแก้วแล้ววางลง
"กินอะไรมาหรือยัง ถ้ายังเดี๋ยวต้นจะต้มมาม่าให้กิน”ต้นสังเกตเห็นได้ชัดว่าคิมนั้นหิว
"ก็ได้ครับ"คิมที่จะกินมาม่าไม่ใช่เพราะหิวอย่างเดียว ที่คิมอยากกิน เพราะอาจเป็นมื้อสุดท้ายที่เขาจะได้กินฝีมือต้มมาม่าของต้น
คิมมีแผนที่จะลงใต้ ไปที่ภูเก็ตและอาจจะไม่กลับมาเชียงใหม่ คิมวางแผนไว้ว่าจะไปมาเลเซีย สิงค์โปรต่อ หลังจากนั้นจึงกลับโปเกีย เดิมที่คิมวางแผนไว้ด้วยว่า ถ้าจีบต้นติดจะพาไปด้วย
"รออยู่นี่ก่อนนะเดี๋ยวต้นไปต้มมาม่าให้"
เมื่อต้นพูดจบก็เข้าไปในห้องครัวที่แสนเล็ก ตั้งน้ำร้อนพร้อมแกะถุงมาม่าใส่ถ้วยไว้ ยืนรอน้ำเดือดจะได้เทใส่ สาเหตุที่ยืนรอจนน้ำเดือด เพราะต้นรู้สึกอึดอัดใจถ้าอยู่ต่อหน้าคิม
ไม่นานน้ำก็เดือด ต้นจึงกดใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ และหาอะไรมาปิดพร้อมหยิบช้อนตะเกียบ แล้วเดินมาหาคิม พอมาถึงก็เอาถ้วยวางไว้ที่โต๊ะ ที่อยู่ตรงหน้าคิม
"น่าจะกินได้แล้วนะ "ต้นวางถ้วยมาม่าไว้บนโต๊ะ
คิมหิวเลยใช้ตะเกียบคีบมาม่ากิน เพราะเริ่มหิวมากขึ้น เนื่องจากไม่ได้กินอะไรมาเกือบครึ่งวัน
ต้นนั่งมองคิม เพื่อรอคำถามจากคิมว่าจะถามอะไร และเตรียมคำตอบพร้อมคำขอโทษ
เมื่อคิมกินเสร็จจึงวางถ้วยไว้ พร้อมดื่มน้ำจนเกือบหมดแก้ว หลังจากนั้นวางไว้ แล้วมองต้นด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย
"ผมมีเรื่องจะบอกต้นครับ"
"เรื่องอะไร”ต้นถาม
"พรุ่งนี้ผมจะไปภูเก็ตครับ"
ต้นแอบคิดในใจ หรือว่าคิมจะมาชวนเขาไปเที่ยวด้วย แต่คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้ในใจของต้นมีจางเข้าไปอยู่เต็มหัวใจ
"ผมมาบอกลาต้นครับ เพราะผมอาจจะเลยไปมาเลเซียและสิงค์โปร ต่อจากนั้นคงกลับเกาหลเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วครับ”คิมก้มหน้าลงต่ำและหลบสายตาของต้น เพราะเขารู้สึกเศร้าใจอย่างมากที่ต้องจากต้นไปทั้งที่ยังรัก ทั้งที่ยังอยากอยู่ด้วยกันได้
ต้นก็รู้สึกใจหายเพราะเคยไปไหนมาไหนด้วยกัน เคยเผลอใจให้เป็นบางครั้ง ก็เลยยังมีความผูกพันที่ไร้ความรัก
"เราเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอโทษโยฮันด้วย" ต้นก้มหน้าลงต่ำไม่กล้าสู้หน้า
คิมเลยลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาใกล้ๆต้น จับบ่าต้นไว้
"อย่าคิดเช่นนั้น มันเป็นเรื่องของความรัก ไม่มีใครสามารถบังคับจิตใจใครได้หรอกครับ "
"อะไรที่ผ่านมาแล้วให้มันผ่านไปอย่าเก็บมาคิดให้เรารู้สึกไม่ดีเลย" คิมก้มลงต่ำมองหน้าต้นที่ตาเริ่มแดง และหลังจากนั้น น้ำตาก็ไหลพรูออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ด้วยความรู้สึกผิดและสงสารคิมคิมจนจับใจ
"อย่าร้องไห้เลย ถึงเราจะไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้อยู่นี่”คิมเดินไปหยิบทิชชูมาเช็ดน้ำตาให้ต้นจนเหือดแห้ง
"ขอบใจมากนะที่โยฮันเข้าใจต้น”ต้นเม้มปากพร้อมถอนหายใจ แล้วหันมายิ้มให้คิม
ก่อนไปผมขออะไรสักอย่างหนึ่งได้ไหมต้น"
"อะไร"ต้นถามด้วยความสงสัย
"ผมขอกอดต้นเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม"
ต้นนิ่งชั่วครู่ก่อนตัดสินใจ เพราะอย่างไงก็เป็นครั้งสุดท้ายที่จะไม่ได้เจอกันแล้ว
"ได้”
คิมรีบถลากอดต้นไว้แน่น จนต้นรู้สึกอึดอัดแท่บหายใจไม่ออก
"โยฮันรักต้น รักมาก โยฮันไม่อยากจากต้นไปเลย "คิมเกือบกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เป็นครั้งแรกที่เขาแทนตัวเองด้วยชื่อโยฮันกับต้น
ต้นก็แปลกใจเหมือนกันที่คิมแทนชื่อตัวเอง ต้นพูดอะไรไม่ออกได้แต่ยืนนิ่งให้คิมกอดได้ตามใจของเขา
คิมคลายกอดต้น พร้อมใช้มือสองข้างจับที่ไหล่ของต้น
"ถ้าวันใดที่จางทำร้ายต้น โยฮันจะกลับมา"
"แน่นอน”ต้นยิ้มให้คิมแล้วพยักหน้า
"โยฮันจะรอวันนั้น"คิมยิ้มกลับแต่เป็นยิ้มที่เศร้าสร้อย
คิมยังไม่อยากกลับ แต่เห็นต้นห้าวนอนหลายครั้งเขาจึงเกรงใจ
"ดึกมากแล้วโยฮันกลับก่อนนะครับ"
"เดี๋ยวต้นไปส่งที่หน้าทางเข้านะ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ต้นนอนพักเถอะดูอิดโรย ลาก่อนนะต้น ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันไม่ว่าด้วยในฐานะอะไรก็ตาม บ่าย"
"บ่าย"
ต้นออกไปเปิดประตูห้องให้คิม แล้วมองตามคิมจนลับตา
ส่วนคิมก็เดินจากไปโดยไม่หันหลังมามอง ด้วยใบหน้าร้อยล้านอารมณ์
หลังจากดูหนังจบ ปันกับโมย่าก็เดินออกมา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มทั้งคู่ โมย่ารู้สึกว่าปันนั้นน่ารักน่าคบหา ไว้เป็นเพื่อนตอนอยู่ในประเทศไทย ส่วนปันนั้นรู้สึกผ่อนคลายความเครียด และเจ็บนิดๆ ที่ริโอ้ไปกับซองไม่ยอมมาดูหนังกับตัวเอง"ปันรู้ไหมผมมีความสุขมากเลยคืนนี้ ถึงดูหนังจะเป็นเรื่องปกติ "โมย่าหันมามองปันที่กำลังอมยิ้มอยู่"ผมก็เช่นกันครับ"ปันรีบเดินนำหน้าด้วยความเขินอายนิดหน่อย ส่วนโมย่าก็ก้าวเท้าแค่ก้าวเดียวก็ทันปันแล้ว เพราะฝรั่งขาจะยาว"แล้วเราจะไปไหนต่อกันดี"โมย่าเดินมาเคียงคู่ปันแล้วเริ่มเอ่ยชวน"คงกลับห้องน่ะครับ""ปันไม่ชอบเที่ยวกลางคืนหรอครับ""ก็มีบ้างครับ แต่วันนี้ค่อนข้างดึกแล้วเลยอยากกลับห้องไปพักผ่อน""ก็ดีครับ พรุ่งนี้จะได้มีแรงนวดผม"โมย่ายิ้ม"จะมานวดจริงหรือเปล่า เดี๋ยวเหมือนครั้งที่แล้วอีก"ปันชำเลืองมอง"ครั้งที่แล้วผมมีธุระนิดหน่อยเลยไม่ได้มา แต่ครั้งนี้รับรองไปแน่นอนครับ""จะลองเชื่ออีกซักครั้ง" ปันเร่งฝีเท้าเดินไปยังที่รถตุ๊กๆ"จะไปพร้อมกันหรือว่าจะไปคนละคัน"ปันถามโมย่า"คนละคันก็ได้ครับ"โมย่ามีแผนจะไปต่อที่ผับเลยปฎิเสธไปคันเดียวกัน"ก็ได้ครับนั้นแยกกันตรงนี้ บ่าย" ปัน
หลังจากที่ได้วางแผนจับผิดจางกันมาแล้ว โดยมี ต้น นำทีม มีริโอ้เป็นทัพเสริม คราวนี้มีพี่นารีเป็นตัวช่วยอีกคนพอเลิกงานต้นจึงมาหาจางที่ห้อง จางจะชวนออกไปข้างนอกอต่ ต้นก็ไม่ไปเพราะว่าจะสืบเรื่องราวแฟนเก่าจางให้ได้ ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"ต้นอยากรู้จังว่าจางอยู่ที่อันเจียทำงานอะไร" ต้นช้อนตามองจาง"ทำงานบริษัทเอกชน""แล้วลางานมานานๆไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม""ผมลาพักร้อนสองเดือน วันหยุดผมเยอะ เพราะไม่ค่อยได้ลา ทำงานอย่างเดียว"จางเกิดความสงสัย ทำไมวันนี้ต้นมาแปลก"เมื่อก่อนต้นก็ไม่ได้เป็นหมอนวดหรอกนะ เป็นพนักงานเสริฟอยู่ที่ร้านอาหารฝรั่ง""ทำไมออกล่ะ"จางสงสัย"ร้านมีปัญหาด้านการเงิน ต้นเลยโดนให้ออก""แล้วต้นมาเป็นหมอนวดได้อย่างไรล่ะ""ริโอ้เป็นอยู่ก่อนแล้ว เห็นต้นตกงาน ริโอ้เลยชวนมาเป็นหมอนวด""ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยนะ""ใช่ ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลย" ต้นมาผิดแผนลืมตัว แทนที่จะถามจาง แต่จางมาเหนือเมฆ ต้นเลยชิงถามก่อน"จางอยู่แถวไหนของประเทศอันเจียหรอ"ต้นถามไปอย่างนั้นแหล่ะ"ผมอยู่เจ้อเจียงแต่มาทำงานที่กวางตุ้ง""อ่อ แล้วอยู่คนเดียวหรอที่กวางตุ้ง""อยู่คนเดียว""แล้วแฟนเก่าที่เลิกล่ะ"เริ่
ปันเดินไปยังโต๊ะของฝรั่งเพื่อขอเก้าอี้มาหนึ่งตัว ซึ่งฝรั่งก็ให้ปันมาแต่โดยดี ปันจึงเอามาถึงที่โต๊ะและตั้งแทรกกลางระหว่างต้นกับจาง"นั่งเลยจีจี้"นารีช้อนตามองจีจี้แล้วขยิบตาส่วนจางก็เขยิบเก้าอี้ถอยห่างเพื่อให้จีจี้นั่งสะดวกขึ้น ข้อสำคัญเขาไม่ค่อยไว้วางใจผู้หญิงคนนี้ ถึงจางจะเคยผ่านผู้หญิงมาเพียงคนเดียว แต่เขาก็ดูออกว่าผู้หญิงคนนี้มาไม่ดีแน่ และสิ่งที่เขาห่วงมากที่สุดคือต้นจะเข้าใจผิด เพราะต้นรู้แล้วว่าแฟนเก่าเขาเป็นผู้หญิงจีจี้พยายามใช้มารยาจับจุออ่อนของจาง"ชนแก้ว"จีจี้ชนแก้วกับทุกคน และคนสุดท้ายก็คือจาง เขาจึงชนแก้วในทันที เพราะโดยส่วนตัวจางชอบดื่มเบียร์ ไม่ใช่เพราะจีจี้แม้แต่น้อย แต่คนในกลุ่มไม่คิดเช่นนั้นเพราะบางที่ก็ชนแก้วกันแค่สองคน ข้อสำคัญจางขอชนแก้วเองอีกต่างหาก พอจีจี้ดื่มหมดชนต่ออีก ทำเช่นเดิมอยู่หลายครั้งจนสร้างความไม่พึ่งพอใจแก่ต้นและพรรคพวก จางก็สังเกตเห็นแต่ก็จะแกล้งต่อไปอีก"จางแฟนของต้นคอแข็งเป็นบ้าเลย จีจี้ยอมแพ้จีจี้เมาเบียร์"จีจี้ทำท่าจะเล่อแต่พยายามกลืนลงไป"จีจี้ ชนอีครั้งกผมกำลังได้ที่เลย"จางยื่นแก้วพร้อมชน"พอแล้วจาง"จีจี้โบกมือ แต่จางคะยั้นคะยอจนจีจี้ยอมอีกแ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จางรู้สึกยากที่จะไปเปิดประตู ไม่ว่าจะเป็นหลันหลันหรือต้น เขาก็รู้สึกจะรับในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นจางก็หาหลีกเลี่ยงได้ เขาจึงแง้มประตูเปิดออกอย่างลุ้น แล้วชะงักงันชั่วครู่“เป็นอะไรจาง”ต้นสงสัยในท่าทีที่แปลกไป ทั้งหน้าตาที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก“จางรักต้น”จางจับร่างของต้นดึงมาในอ้อมกอด“จาง”ต้นงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่จางทำอย่างกะทันกัน“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ต้นสัญญากับผมได้ไหมว่าจะไม่โกรธผม”จางดันร่างต้นออกห่างแล้วมองหน้าต้นด้วยสายตาแห่งความหวังต้นสับสนจิตใจยังไม่สามารถสัญญาได้ในทันที“จางบอกต้นก่อนได้ไหมมันเรื่องอะไร”“เรื่องมันยาวรับปากจางก่อนนะ”จางดึงร่างต้นเข้ามากอดอีดครั้งตรงหน้าประตู เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก็พบกับหลันหลันยืนมองดูด้วยสีหน้าหลากหลายอารมณ์ ที่ไม่สามารถบ่งบอกได้ทั้งตกใจ ประหลาดใจ ผิดหวัง เป็นห้วงลึกของจิตใจของหลันหลันจางนั้นพอเห็นหลันหลัน เขาถึงกับตะลึง ร่างกายชาชั่วขณะทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่นานเขาก็ดึงสติกับมาดันร่างของต้นออกห่างต้นแปลกใจพฤติกรรมของจาง จึงมองหน้าเขาเพื่อให้คลายสงสัย แต่สิ่งที่ต้นเห็นนั้นคือสายต
จางนั่งมองโทรศััพท์มือถือ เพื่อดูข้อความที่ส่งมาซึ่งเขายังอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่หลันหลันยังไม่ได้บอกเรื่องราวของเขาให้กับคนรอบข้างฟัง จางคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะไปข้อร้อง หลันหลันอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งกว่าจะไปจางก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ มันเป็นอะไรที่ยากเย็นมากที่จะเอ่ยปากขอร้องหลันหลัน แต่เขาต้องรีบไปไม่งั้นชีวิตของเขาคงวุ่นวายแน่ จางจึงเดินออกจากห้องไปหาหลันหลันจางเคาะประตูสักพักหลันหลันก็เปิดประตูออกมา หลันหลันมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก"มีอะไรจาง"หลันหลันใช้สายตาเย็นชามองจาง"เข้าไปคุยข้างในได้ไหม""ทีคุยกับผู้หญิงหน้าห้องอายเหรอ ทำไมเมื่อวานกอดกับผู้ชายไม่อาย""ผมอยากคุยธุระกับคุณ"จางมีสายตาที่เศร้าจนหลันหลันใจอ่อนขึ้นมาบ้าง ในฐานะคนเคยรักกันแต่เธอก็ยังไม่หายโกรธจางอยู่ดีจางเดินเข้ามาในห้องของหลันหลันแล้วนั่งลง ส่วนหลันหลันก็นั่งลงช้างๆ"มีอะไรว่ามา"หลันหลันถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว การมาของจางนั้นมาเพื่ออะไร"คือ ผมอยากให้หลันหลันอย่าบอกเรื่่องนี้กับใคร"พูดจบจางก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ"รู้ตัวมานานหรือยังว่าชอบ เอ่อ แบบนั้น"หลันหลันเริ่มอ่อนลง"ผมรู้ตัวที่นี
หลันหลันเคาะประตูเพียงครั้งเดียว จางก็เปิดประตูออกมาทันที และเขาก็มีสีหน้าที่ผิดหวังที่ไม่ใช่ต้น"มองหาแฟนหรอ""ต้นมาเหรอ"จางถาม"เขาฝากกุญแจไว้"หลันหลันยื่นกุญแจรถให้จาง เขาจึงรับไว้"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ"จางเดินออกจากห้องรีบมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา"จะมองอะไรแค่เขาไม่เข้าห้องก็น่าบอกได้แล้วนะว่า เขาเลิกกับจางแล้ว"หลันหลันยักไหล่เหล่สายตามองจาง ในท่าทีเย้ยหยัน"ทำใจซะ คงคิดได้คบกับจางต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร "หลันหลันหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ"ไม่จริง"จางใช้ที่เสียงหนักแน่น แต่เริ่มแผ่วในช่วงท้าย"ทำไมจะไม่จริง จางก็ลองดูซิถ้าอีกสามวันเขาไม่มาหาจาง แสดงว่าเขาคงอยากเลิกกับจาง"เมื่อจางเจอหลันหลันย้ำ เขาถึงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางคิดไปว่าต้นคงกลับไปคบกับปรัชญ์เหมือนเดิม เพราะทั้งคู่เคยรักใคร่ต่อกันมาก่อนเขา"เขาคงคิดได้ล่ะมั้ง ถ้าอยู่กับจางก็แค่มีความสุขในไทย แต่ไม่สามารถไปที่อันเจียได้ จางก็รู้ดีนี่ ที่นั้นเขายังไม่ยอมรับเรื่องนี้ จางกล้าที่จะเผชิญความจริงเหรอ"หลี่่หลันหลันพยายามสังเกตสีหน้าของจาง ซึ่งก็เป็นผลดั่งที่เธอคาดไว้ หลันหลันจึงใส่ไฟต่อไม่พอแค่นี้"ถ้า
จางยังไม่สามารถลดอคติในใจที่มีต่อต้นกับปรัชญ์ได้ เขาจึงมองไม่เห็นในข้อนี้"มันเป็นเรื่องของผมคุณจะมายุ่งอะไรด้วย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย"ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ที่มาก็เพราะต้นไม่ใช่คุณ"คิมพยายามสงบจิตใจให้แน่นิ่ง"นั่นไงคุณยอมรับมาแล้ว ว่ายังคิดอะไรกับต้นอยู่"จางมองหน้าคิมด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ"คุณนี่มันพาลจริงๆ แถมเมาอีกด้วยผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว""ไม่อยากคุยหรือพูดแทงใจดำ ถึงผมจะมีปัญหากับต้น คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเป็นห่วงต้นสงสารต้น เพราะยังไม่ได้เลิกกันสักหน่อย""ตามสบาย"คิมพูดได้แค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่มีสิทธิ์ข้อนี้"ฝากบอกต้นด้วยให้มาหาผม ถ้าไม่มาอีกสองวันผมจะกลับอันเจีย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งอยู่"ทำไมไม่ไปบอกเอง"คิมพูดขึ้น"เรื่องของผม คุณไม่ต้องรู้"จางอยากพิสูจน์ใจของต้น เขาต้องการรู้ว่าต้นจะยังรักเขาอยู่ไหม ถ้าเกิดต้นไม่มาแสดงว่าต้นหมดรักเขาแล้ว จางคิดไปไกลถึงขั้นนั้นทีเดียว"ผมไม่บอกหรอก ดีผมจะได้จีบต้นต่อถ้าเลิกกับคุณ"คิมยิ้มเยาะ"คุณนี่มัน ออกไปจากห้องผมเลย"จางชี้มือไปที่ประตูห้อง"ผมไปแน่ แล้วจะไปหาต้นด้วย ปล่อยให้คุณเมาเหล้าอยู่อย่างนี้แหล่ะ"พูดจบคิมก็เดิน
ริโอ้ได้มาส่งซองที่โรงแรม เมื่อมาถึงในห้องนอนที่แสนจะชวนทำอะไรบางอย่าง"ดึกมากแล้วน่ะ ริโอ้กลับไปก่อนเถอะ"ซองแกล้งทั้งที่ใจอยากให้อยู่ เพราะซองเปิดใจให้ริโอ้เมื่อไม่นาน ยิ่งเห็นความจริงใจของริโอ้ที่มีต่อต้น จนเขารู้สึกอิจฉาในบางครั้ง แต่ถ้าได้คบกับต้นในฐานะคนรัก ริโอ้คงจะดูแลดีขนาดไหน ซองนั่งคิดฝันหวาน"ก็ได้ผมกลับแล้วนะ"ริโอ้รู้สีึกโกรธ ใจจริงเขาอยากนอนที่นี่"อยากกลับก็กลับไปเลยไม่ต้องมาอีกนะ"ซองรู้สึกโมโห หวังจะให้ริโอ้มายอกล้อให้คลายอารมณ์เครียดที่ริโอ้พูดเช่นนั้น เพราะเขายังกังวลใจ ในเรื่องของต้นอยู่มากพอสมควร เขาจึงไม่มีอารมณ์ที่จะมาพูดเล่น แต่ถ้าทำบางสิ่งเขาก็ไม่มีปัญหา"ก็ได้ ริโอ้กลับแล้ว" ริโอ้รีบเดินไปที่ประตูอย่างอารมณ์เสียซองเห็นริโอ้โกรธและไม่มีอารมณ์หยอกล้อคุยเล่น เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาริโอ้ แล้วกอดเอวไว้แนบกายอย่างแนบสนิท"ปล่อยริโอ้นะ จะกลับแล้ว ไม่อยู่ให้ขวางหูขวางตาหรอก"ริโอ้พยายามแกะมือของซองออก โดยใช้แรงเพียงนิดหน่อย เพราะเขามีความรู้สึกที่แปลกในจิตใจและร่างกาย ที่ไม่อยากไปจากที่นี่"อย่าไปนะ ซองขอโทษ ซองล้อเล่น"ซองรัดอ้อมกอดไว้แน่น เพราะกลัวริโอ้จะไปจริงๆใน