ในห้วงเวลามีเพียงสองคน ต้นและจางโบยบิน ปล่อยกายใจ ให้ปลิดปลิวไปกับสายลม สองหนุ่มขับมอเตอร์ไซค์ลัดเลาะไปทั่วเมือง หาจุดเหมาะที่สานความสัมพันธ์
จางและต้นจึงแวะไนท์พลาซ่า เพื่อเดินชมหาสิ่งบันเทิงใจ เดินดูอยู่หลายร้านซ้ายขวาแวะหยิบจับมาขึ้นดู พอใจก็ซื้อมายังไม่ถูกใจก่อนจากไปก็ขอโทษแม่ค้า
ครั้นผ่านร้านเครื่องเงินสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้องหยุดชะงักในทันที
"ฮู้ สร้อยเส้นนี้สวยจัง"ต้นอุทาน พร้อมจับมาดู เป็นลายเกลียวคลื่นพันเกี่ยวกัน มีจี้เป็นรูปกระต่ายซึ่งเป็นปีเกิดของต้น"
"อยากได้ไหมเดี๋ยวผมซื้อให้"จางเหลือบสายตาดูต้น ที่มองสร้อยเส้นนั้นไม่วางตา พลิกกลับไปมาแล้วอมยิ้ม
"ป้า เอาเส้นนี้ เท่าไรครับ"ต้นถามพร้อมเตรียมเงินในกระเป๋าออกมาจ๋าย
"999บาทค่ะ
"ไม่ต้องเดี๋ยวผมจ่ายเองครับ"จางห้ามต้นไว้ และควักเงินแบงก์พันออกมาให้แม่ค้า
"เดี๋ยวผมใส่ให้ครับ"จางยื่นมือขอสร้อยจากต้น
แต่ต้นไม้ให้ เพราะเห็นแม่ค้ายืนมองต้นเลยรู้สึกเขิน
"ไว้ใส่ที่ห้อง"
"ทำไม่ใส่ที่นี่ไม่ได้"
"หิวแล้วไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่า"ต้นรีบตัดบทและจับมือจางเดินหนีหาย จนลับสายตาแม่ค้าสร้อยเงิน
สองหนุ่มเดินชมสินค้าที่มีให้เลือกหลากหลาย จนจางตาลาย ต้นจึงพาหยุดพักกินข้าวซอยในโซนอาหาร ที่มีอาหารพื้นเมืองหลากชนิดให้ลิ้มลอง
เมื่อสองหนุ่มอิ่มท้องสบายใจจึงเริ่มท้อ เพราะต้องเดินอีกไกลจึงตกลงกันเดินเลี้ยวไปยังที่เดิม เพื่อกลับห้องไปพักผ่อน จางจึงเริ่มวางแผนสานสัมพันธ์รัก
"ผมปวดขามากเลย"จางใช้มารยาอันเจียใส่ต้น
ต้นจึงต้องรีบพาจางกลับโรงแรม เพื่อนวดให้คลายปวด
ส่วน ริโอ้กับปันเดินทางมายังบาร์โฮสต์ ที่ดูธรรมดาบริเวณภายนอก
"จะเข้าดีหรอ "ปันมีสีหน้ากังวลใจ เพราะพึ่งเคยมาครั้งแรก
"มาแล้วก็ต้องเข้าไปซิ เหงาไม่ใช่หรอ พามาคลายเหงาแล้วไง"
"เหงาแล้วเสียเงินนี่มันคุ้มไหม"
"เอาน่าลองก่อน มากับริโอ้ไม่ต้องกลัว"ริโอ้รีบจับมือปันแล้วเดินเข้าไปข้างในทันที
"ไม่ต้องจับมือก็ได้ เดี๋ยวเขาหาว่าเป็นแฟนกัน"
"เหอะน่า"
พอเข้ามาถึงในร้าน ก็มีหนุ่มวัยกลางคนน่าตาดูดี แต่งตัวภูมิฐานเข้ามาต้อนรับ
"หวัดดีครับคุณน้อง เชิญทางนี้ หนุ่มวัยกลางคนพาปันและริโอ้มายังโต๊ะที่เหลืออยู่แต่ไกลหน่อย เพราะมาช้าจนร้านคนเกือบเต็ม
"นี่ครับเมนูสั่งเครื่องดื่มก่อน"
ริโอ้กับปันเปิดดูเมนูเครื่องดื่มและปรึกษากัน ก่อนสั่งเครื่องดื่ม แล้วบอกหนุ่มวัยกลางคน
"ที่นี่ก็เลือกเด็กมานั่งด้วยได้เลยนะครับ เดี๋ยวสักพักจะออกมาโชว์ตัว อุ้ยมาพอดีเลย"
ริโอ้ดูหนุ่มเพลินจนตาลาย ที่ถูกใจริโอ้ก็มีบอร์ 8 หน้าตาโปเกียมาก หุ่นไม่หนามากกำลังดี ริโอ้เลยเล็งไว้
ปันนั้นเล็งเบอร์ 6หนุ่มลูกครึ่ง ซึ่งใกล้เคียงสเปคของปันแถมหุ่นบึกหล่อเข้ม คล้ายโมย่าลูกค้าที่ปันนวดเมื่อตอนกลางวัน
"ตัดสินใจกันได้หรือยังครับ"คนเชียร์แขกกำลังจะนำเสนอ เพราะสังเกตดูปันกับริโอ้แล้วเห็นเริ่มสนใจ
"เบอร์ 8ก็หล่อ หน้าตาอินเทรนต์ โปเกียชัดๆ เรียนมหาลัยปี3 " คนเชียร์ยิ้มให้ริโอ้
"ก็ได้ เอาเบอร์8" คนเชียร์แขกกวักมือเรียก
"คุณน้องสนใจเบอร์ไหน"คราวนี้หันมามองปัน
"เบอร์6 "ริโอ้พูดขึ้นแทนทันที ส่วนปันอมยิ้ม
คนเชียร์แขกเลยเรียกน้องเบอร์ 6 ลงมาหาปัน แต่เดินตามมาทีหลัง เบอร์ 8
"คนนี้ชื่อน้องเบียร์ คุณน้องชื่ออะไรครับ"
" ริโอ้"
"น้องเบียร์อยู่คุยกับคุณน้องริโอ้นะ"น้องเบียร์นั่งลงข้างๆริโอ้แล้วยิ้มให้ ดูแล้ววัยใกล้เคียงกัน
"ส่วนคนนี้น้องบูม เอ๊ะคุณน้องชื่อะไรนะ"
"ปันครับ"
"น้องบูมดูแลคุณน้องปันดีๆนะ"
"เดี๋ยวพี่ไปก่อน เบียร์ บูม เทคแคร์ ลูกค้าให้ดีนะ"พูดจบส่งยิ้มให้ แล้วเดินไปต้อนรับลูกค้าท่านอื่นต่อ
ริโอ้เบิกตามองหนุ่มบาร์โฮสต์ ที่แสนจะดูดีทุกมิติ จึงอดใจไม่ไหว อยากพูดคุยให้รู้จักกันมากกว่านี้ จึงเริ่มพูดขึ้นก่อน
"เราวัยใกล้กันเรียกชื่อเฉยๆก็ได้"ริโอ้มองเบียร์ด้วยสายตาหวานฉ่ำ
" ริโอ้ใครตั้งให้ชื่อเพราะจัง"เบียร์ถาม
"เพื่อนตั้งให้ครับ"
"แล้วเบียร์มาทำงานที่นี่นานหรือยัง"
"สองเดือนครับ"
"ไม่นานเท่าไรนี่"
"ก็ไม่นานครับ ชนแก้วครับ"
"ชน"ริโอ้แอบคิดชนบ่อยๆนี่หมดตัวแน่ แต่ก็ยอมจะได้ผ่อนคลายจิตใจ
อีกฟากฝั่ง
บูม หนุ่มบาร์โฮสต์สังเกตปันนั่งนิ่งเงียบ จึงเริ่มชวนคุยก่อน
"ชื่อปันใช่ไหมครับ"บูมถาม
"ฮือ"
"เคยมาเที่ยวที่นี่ไหมครับ"
"ไม่"
"มีอะไรอยากระบายไหม ผมรับฟังทุกเรื่องนะครับ"
"เคร"
"ก่อนระบาย ชนแก้วกันก่อน"ปันยกแก้วชน แล้วหันหน้าไปทางอื่นด้วยไม่กล้ามองตาบูม
"ขี้อายนิดๆ รู้ไหมน่ารัก"บูมส่งตาหวานไม่ยั้ง
"เหรอ"
" วันนี้ปันทำงานเหนื่อยไหม"
"เหนื่อย"
"ต้องพักบ้างนะ เป็นห่วงรู้ไหม"
"รู้"
บูมรู้สึกจะตันคำพูดที่จะคุยกับปัน แต่ก็พยามยามหาเรื่องราวต่างๆมาคุยด้วยไม่หยุด จนปันรู้สึกคลายความเกร็งไปพอสมควร
กลับมาที่ฝากฝั่งริโอ้
"เบียร์เรียนที่ไหน"ริโอ้ถาม
"มหาลัยเอกชนปี3"
"ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยไม่เหนื่อยหรอ"
"เหนื่อยครับ แต่ก็ต้อง .."ริโอพูดแทรกทันที
"แบ่งเวลาอย่างไง"
"ก็"
"เรียนคณะอะไร"
"บริหารธุระ"ยังไม่จบ กิจ ริโอ้ถามต่อ
"เรียนยากไหม"
"ไม่ยากครับ"
ช่วงแรกคุยเป็นทางการพอสมควร พอจูนติดคุยถูกคอเลยระบายความใจใจให้ฟังกันบ้าง เป็นเหมือนเพื่อนรู้ใจนับปี
ร้านปิดแต่สองหนุ่มไม่อยากกลับ ติดใจหนุ่มบาร์โฮสต์เสน่หแรง
"วันหลังมาอีกนะครับ "เบียร์ร่ำลาริโอ้
"ครับกลับมาแน่นอน" ใจจริงริโอ้ไม่อยากมาแล้ว หมดเป็นหมื่นจับได้แค่แขน
"วันหลังกลับมาอีกนะคะรับ"บูมล่ำลาปัน จริงๆใจปันอยากพากลับห้องคืนนี้
เมื่อล่ำลาหนุ่มบาร์โฮสต์เสร็จ
"มาอีกไหมพรุ่งนี้"ริโอ้กอดคอปัน แล้วพูดใกล้ๆซอกคอ
"ปีละครั้งพอ แค่คุยหมดเป็นหมื่น นวดเป็นร้อยชั่วโมง"ปันหันหน้ามาปากแทบชิดสนิทกัน
"ยี้ ไปห่างๆเลย"ปันผลักร่างริโอ้ออกห่าง
"หวงตัวด้วย"ริโอ้หยิกแก้ม
"ไม่ได้หวง ไม่ชอบ"ปันมองค้อน
"ที่เมื่อกี้ไม่ห่างบูมเลยนะ แท่บจะเป็นเนื้อเดียวกัน"
"ธรรมดากำไรนิดหน่อย"
"ร้ายนะ"
"ไม่ต้องพูดมาก กลับห้อง"ปันเดินไปที่รถ
"ห้องใคร"ริโอ้ถาม
"ห้องใครห้องมัน"
"โอเค เดี๋ยวเราไปส่งปันก่อน"
"ขอบใจนะ"
ปันจึงรีบซ้อนท้ายรถทันที โดยมีริโอ้กำลังจะสตาร์ทเครื่องรถออกไป ปันรู้สึกมึนๆเลยกอดเอวริโอ้ ด้วยกลัวตกรถเพราะริโอ้ขับรถค่อนข้างไว
จางผู้แกล้งเจ็บขานอนรออยู่บนเตียง คิดเมื่อไรหนอต้นจะมานวด มัวนั่งเหม่ออยู่ได้ ใจของเขาร้อนรนดังไฟสุ่ม
"ต้น เมื่อไรจะมานวดขาให้ผม ปวดมากเลย"
"โอเค"
"ตรงไหน"
"น่อง ต้นขา ครับ"
" แบบนี้ต้องเหยียบ"
"สบายมาก เหยียบเลย"
ต้นแปลกใจนิดหนึ่ง แต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะจางนวดหนักพอสมควร
"เอาแล้วนะ นอนคว่ำก่อนเลย" จางนอนคว่ำอย่างว่าง่าย ต้นเริ่มที่เท้าก่อน ไล่เหยียบมาที่น่องจนถึงต้นขา
"ต้นตัวเบามากเลย"ต้นแค่ใช้ขาข้างเดียวเหยียบ อีกข้างหนึ่งจะต้องประครองตัวไม่ให้ล้ม จางจึงรู้สึกว่าตัวเบา
"หายปวดไหม"ต้นถาม
"้เยื่อมดีขึ้นเยอะเลย"ถึงจางจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่ก็รู้สึกสบายที่เส้นยึดตึงคลายลง
ต้นเปลื่ยนไปเหยียบขาอีกข้างหนึ่ง จางก็รู้สึกเช่นเดิม ไม่เจ็บแต่สบายขาหายปวดเมื่อย ต้นจึงพอทันทีและนั่งลงข้างๆจาง
"ต้นก็ปวดขาเหมือนกัน เหยียบให้ต้นได้ไหม"ในส่วนของต้นนั้นปวดจริง
"ก็ได้ นอนคว่ำเลยเดี๋ยวจะเหยียบให้" จางลุกนั่งแล้วยืนเตรียมพร้อม
ต้นจึงล้มตัวลงนอนคว่ำรอการโดนเหยียบ
"เหยียบที่เท้าก่อนนะซักหนึ่งนาที"
"โอเค"
จางขึ้นเหยียบที่เท้าซักหนึ่งนาที
"แล้วเหยียบที่น่องต่อเบาๆนะ"
"ครับ"
จางเปลื่ยนจากเท้ามาที่น่องทันที ด้วยความไม่รู้ใช้แรงแค่ไหนจึงจะพอดี เขาเหยียบในความคิดที่ว่าไม่น่าแรง แต่นั้นเป็นเพียงแค่ความคิดของจาง แต่สำหรับต้นนั้นเจ็บจนต้องร้องออกมา
"โอ๊ย อ่าย เจ็บ เจ็บ เจ็บ"ต้นจึงดึงขาหนี
ช่วงเวลาที่ต้นดึงขาหนี จึงทำให้จางเสียหลัก ล้มทับต้นในขณะนอนคว่ำอยู่
"โอ๊ย ต้นหายใจไม่ออก "ต้นรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจลำบาก
"ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ"จางรีบพลิกร่างนอนหงาย ทั้งที่ยังอยากอยู่ท่าเดิม เพราะมันเป็นสัมผัสที่เขาชอบ แต่สำหรับต้นเจ็บจนจุกแน่นหน้าอกจนหายใจหอบเหนื่อย
จางรีบลุกขึ้นมาลูบคลำที่น่องของต้น ส่วนต้นยังนอนคว่ำด้วยความปวด ส่วนแน่นหน้าอกจุกนั้นหายแล้ว หลังจากจางพลิกร่างออก
"เจ็บมากไหม"
ต้นพลิกร่างนอนหงาย มองหน้าจาง
"เจ็บซิ"
"ผมขอโทษ "จางรู้สึกผิด
ต้นพยุงร่างเพื่อนั่ง ส่วนจางก็ช่วยประะครอง
"ไมเป็นไรหรอก"จางไม่เคยเหยียบเลยกะน้ำหนักไม่ถูก"ต้นยิ้ม
"้เดี่ยวผมใข้มือนวดให้ ผมจำได้ท่าที่ต้นทำให้ผม"
"มันดึกแล้วต้นจะกลับห้อง เอาไว้วันหลัง จางติดต้นไว้นะอย่าลืม"ต้นพยายามขยับร่างไปที่ขอบเตียงเพื่อลงจากเตียง แต่ก็เจ็บที่น่องจึงนั่งลงต่อ
"ไหวไหมต้น"จางถาม
"ไม่ไหวนอนนี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยกลับ นั่นผลพลอยได้ของจาง เขาเลยยิ้มแต่ก็รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนิดนึง
ต้นนั้นก็อยากกลับ แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ต้นก็ไม่ปฏิเสธ แต่ก็แอบกลัวมีอะไรเกินเลย
"ก็ได้" ต้นจึงขยับร่างเขยิบไปกลางเตียงแล้วนอนนอนหงาย
จางจึงล้มตัวลงนอนตามต้นและตะแครงหันหน้ามาทางต้น ใจเขาเริ่มเต้นไร้จังหวะ รัวไม่หยุด เมื่อเห็นใบหน้าที่เรียวงามของต้น จางจึงขยับศีรษะ เข้ามาใกล้ใบหน้าของต้น ส่วนมือที่อยู่ข้างลำตัวโอบร่างของต้นไว้แน่น ส่วนใบหน้าเมื่อขยับเข้าใกล้ขึ้น ริมฝีปากแท่บชนแก้ม จางจึงไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอย
ริมฝีปากจางเข้าชิดแก้มน้อยๆพร้อม พรหมจูบทั่วบริเวณใบหน้า เขายกศีรษะขึ้นบรรจงจุมพิตริมฝีปากของต้น
ต้นนอนนิ่งแต่ใจไม่เคยนิ่ง ระรัวไม่เป็นจังหวะ
"ผมทำมากกว่านี้ได้ไหม"จางอยากลองทำตามความฝัน
"ทำเป็นเหรอ"ต้นอมยิ้มและพร้อมเดินทางรักไปกับจาง
"ลองดูก่อน"จางไม่มั่นใจ
ต้นดูท่าทีจางหยุดชะงัก ต้นจึงพลิกร่างมองหน้าจาง รู้ได้ทันทีไร้เดียงสาต้นจึงจัดแจงเสร็จสรรพไม่ให้เสียเวลา
ต้นลุกขึ้นนั่งดึงกางเกงออกจนสุดปลายเท้า เข้าแทรกกลางระหว่างขาทั้งสอง จ้องมองมังกรน้อยที่ยังไร้พิษสง ต้นใช้มือประครองเขย่าเล่นอย่างมันมือ
"จะทำอะไร"จางรู้สึกวาบวูบ ใจเต้นระรัว
"ทำไม่เป็นก็อยู่เฉยๆ"ต้นใช้เสียงที่เข้ม
มังกรน้อยของจางเริ่มขยับ ขยายผงาดจนคับมือ ต้นขยับมือรูดขึ้นลงเป็นจังหวะช้าๆ พอมังกรน้อยโตเต็มที ต้นจึงก้มลงใช้ริมฝีปากครอบไว้ ตวัดไล้เลียจนทั่วดูดอมดมกลิ่นจนชื่นใจ
จางไม่เคยรับสัมผัสนี้แบบนี้มาก่อน เขารู้สึกตื่นเต้นตื่นตาประหลาดใจ เป็นความสุขที่ได้รับอย่างกระสันต์ยาก จางหลับตาพริ้มเผยอปากเล็กน้อย ด้วยความเสียวมังกรคู่กาย เขาหายใจถี่ระรัวจนเผลอครางออกมา
ต้นมอบความสุขในรสสวาทให้จางจนสุดฝีมือ ซึ่งจางก็ชอบมากในรสชาติแปลกใหม่ ที่ไม่เคยได้รับจากหญิงอื่น เป็นครั้งแรกที่โดนกระทำเช่นนี้ มันเป็นความรู้สึกยากจะอธิบายเป็นคำพูด
เพียงต้นปล่อยเจ้ามังกรออกจากริมฝีปาก จางรู้สึกใจหายที่จะไม่ได้รับสัมผัสนี้
"อย่าพึ่งเลิกทำได้ไหม"จางพชงกศีรษะขึ้นมามองหน้าจาง
"ทำไม"ต้นแกล้งถาม
"ผมชอบมากเลย"จางยิ้มแบบเขินอาย
"ไม่ต้องพูดนอนเฉยๆแค่นั้นพอ"ต้นจัดการถอดเสื้อของตัวเองออก เผยเห็นนมชมพูที่จางเคยเห็น เขาอยากขย้ำจนหนำใจ แต่อดใจไว้ก่อนดูว่าต้นจะทำอะไร
"ถอดเสื้อซิ"ต้นสั่งจาง
จางไม่รอช้าลุกขึ้นนั่งถอดเสื้อในทันที เผยเห็นมัดกล้ามที่สวยงาม ต้นมองพร้อมกลืนน้ำลาย จางนั่งนิ่งดูว่าต้นจะทำอะไรต่อจากนี้
ต้นคร่อมร่างจางขณะนั่งอยู่ จับเจ้ามังกรให้แทรกผ่านประตูรัก ต้นค่อยๆขยับร่างลงทีละนิด เพื่อให้เจ้ามังกรยักษ์เข้าสู่ประตูสวาท ไม่นานนักก็ถึงจุดหมายปลายทางที่ต้นต้องการ และเขาก็หยุดนิ่งอยู่ซักพัก
จางประหลาดใจที่มังกรยักษ์ เข้าสู่ภายในกายของต้น เขาเห็นสีหน้าต้นก็รู้ทันทีว่าเจ็บ แต่เขาก็ปล่อยผ่านเพราะอารมณ์รักเขามีมากกว่า เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใช้มังกรคู่กายในทางผ่านนี้
นมชมพูอยู่ตรงหน้าจาง เขาเห็นแล้วอยากดื่มกิน ถึงมันจะน้อยนิดเท่าเม็ดถั่ว เขาก็อยากลองสัมผัสให้ดูดดื่ม จางใช้ริมฝีปากประกบขบเบาๆ ส่วนอีกข้างหนึ่งใช้มือขย้ำบีบคลึง จนต้นรู้สึกซ่านในอารมณ์ เขาจึงขยับร่างขึ้นลงอย่างช้าๆ ถึงจะรู้สึกเจ็บในช่วงแรก เพียงไม่กี่ครั้งก็จางหาย กลายเป็นความสุขในรสรักมาแทน
เพียงต้นขยับร่าง จางถึงหยุดทำทุกอย่าง เพราะรสรักในครั้งนี้มันแสนสุขกระสันต์อย่างที่สุด ยิ่งต้นขยับเร่งความเร็วเขายิ่งสุขทวีคูณ ต้นนั้นผลักร่างจางให้นอนหงาย เพื่อเขาจะบรรเลงเพลงรักให้ถึงใจจาง
จางล้มตัวลงนอนแผ่หรา กางแขนออกอ้าขากว้างรองรับน้ำหนักตัวที่ต้นถาโถม เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นลั่นห้อง ต้นโยกขึ้นลงเริ่มไม่เป็นจังหวะ เขาจึงหยุดเปลื่ยนท่าไม่ให้เจ้ามังกรหลุดหาย ต้นสลับหันหลังกลับเผยแผ่นหลังให้จาง ส่วนด้านหน้าอยู่ปลายเท้าของจาง
เมื่อต้นขยับจนได้ที่ เขาจึงโยกสะโพกต่อไม่รอช้า จางนอนครางเพราะความสะท้านซ่านภายในกาย ยิ่งต้นขยับขึ้นลงเร็วเท่าไร จางยิ่งเพิ่มความซ่านในอารมณ์มากขึ้น
ต้นรู้สึกเหนื่อยจึงหยุด เพื่อให้จางเริ่มปฏิบัติรสรักต่อจากเขา
"ทำต่อเลย"ต้นสั่ง
"ทำไง"จางสงสัย และเสียดายที่ต้นหยุดภาระกิจรัก
"ลุกขึ้นนั่ง"ต้นสั่ง
จางพยุงร่างลุกขึ้นนั่งทันที ตามคำสั่งของต้นเพราะเขาเริ่มติดใจรสสวาทในท่านี้
"ขยับตัวตามต้นเลยนะ"ต้นค่อยๆขยับร่างเยื้องตัวไปข้างหน้า แต่จางไม่ได้ขยับตามเจ้ามังกรจึงหลุดออกมา จางอดเสียดายไม่ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ถูก เมื่อต้นอยู่ในท่าพร้อมรับศึก เขาจึงออกคำสั่งอีกครั้ง
"ทำต่อเลยที่เดิม"
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติจางก็พอรู้บ้าง เมื่อต้นนำทางมาสมควร จางจึงลุกขึ้นซันเข้าจับเจ้ามังกรแทรกเข้าไปภายในแบบเร่งรีบ
"ค่อยๆหน่อย"ต้นสะดุ้ง
จางไม่พูดอะไรมากความ เพราะเขารับรู้แล้วว่าต้องทำอะไร เขาขยับสะโพกโหมแรงที่มีใส่ไม่ยั้ง
"เบาๆหน่อย ต้น เจ็บ"ต้นส่งเสียงออกมาเพราะจางไม่ปราณี
"ขอโทษครับ"จางลดระดับความเร็วและแรง แต่ความสุขสันต์กลับเพิ่มขึ้นอย่างเท่าตัว เขาไม่เบาและไม่รอช้าๆอีกต่อไป จึงใส่ไม่ยั้งเพื่อถึงให้จุดหมายโดยเร็ว ต้นนั้นแท่บหายใจไม่ทันทั้งเจ็บและสุขสมในคราเดียว ยิ่งจางเร่งเครื่องเขายิ่งใกล้ถึงที่หมายเหมือนกัน ชั่วอึดใจต้นก็ปล่อยอารมณ์สุขสันต์ออกมาทั่วพื้นเตียงนอน
จางตกใจมันเป็นไปได้อย่างไร แต่เขาก็ไม่มีเวลาคิด เพราะอยากรู้รสรักแบบนั้นบ้าง เขาจึงกระแทกสุดแรงไม่กี่ครั้งเจ้ามังกรก็พ่นน้ำออกมาไม่ขาดสาย จางเงยหน้าหลับตาพริ้มด้วยความสุขสมอารมณ์หมาย
เช้าวันใหม่มาเยือนอย่างรวดเร็ว สองร่างหนุ่มกอดกันกลม เสียงหายใจลดใบหน้าซึ่งกัน ปันเริ่มรู้สึกอึดอั้นจึงลืมตา เขาตกใจสุดขีดจึงเปล่งเสียงออกมา ริโอ้ที่นอนข้างกายในท่ากอดปัน ถึงกับสะดุ้งลุกขึ้นพรวดนั่งในทันที
"เป็นบ้าอะไรร้องซะเสียงดัง"ริโอ้มีสีหน้าตกใจ
"เมื่อคืนริโอ้ทำอะไรเรา"ปันจ้องมองริโอ้แล้วหายใจถี่ขึ้น
"ไม่ได้ทำนอนเฉยๆ"ริโอ้พูด
"ถ้าไม่ได้ทำแล้วกอดเราทำไม"ปันมองค้อน
"แม่เนื้อทองกอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได้หรือไง จะห่วงไว้ให้ใคร ที่เมื่อคืนให้ไอ้บูมกอดสั่นระริกๆเลย"
ปันปาหมอนใส่ริโอ้ทันที
"มันไม่เหมือนกัน อันนั้นแค่กอด แต่นี้นี้"
"ยี้อะไร ริโอ้น่ารังเกียจมากหรือไง"
"ก็ไม่น่ารังกียจอะไรหรอก"ปันเริ่มพูดเสียงอ่อย
"ไม่ได้รังเกียจแล้วแคร์ทำไม"
ริโอ้เห็นปันสับสนจึงอดขำไม่ได้
"มีสติหน่อยซิลองสำรวจตัวเองดูก่อน เพราะริโอ้แน่ใจว่าไม่ได้ทำไรเกินเลย เพราะไม่ได้เมาอะไรมากมาย
ปันจึงสำรวจตัวเอง และพบว่าตัวเองยังอยู่ในชุดเมื่อคืน และไม่รู้สึกเจ็บส่วนไหนของร่างกาย และคิดย้อนไปจำได้ลางๆว่าง่วงนอนและเมามาก ริโอ้จึงพยุงร่างพามาที่เตียงแล้วล้มพับทับกัน ด้วยความเพลีย เมาง่วงเลยผล่อยพร้อมกัน
ปันหันไปมองหน้าริโอ้ไม่เต็มตา เพราะรู้สึกอายที่คิดไปเองโดยลืมย้อนเวลาคิดให้ลึก
"หลงตัวเองน่ารักตายล่ะ"ริโอ้เสียงเข้ม ปันโมโหจึงหยิบหมอนอีกใบตีใส่ ริโอ้รีบรับแย่งดึงสุดแรงจนร่างปันเซมาซบอก
ริโอ้จึงกอดรัดแน่น ปันพยามยามดิ้นจนหลุด แล้วจะใช้มือตีไปที่อก ริโอ้จับมือไว้ได้ ปันยังไม่ได้ใช้อีกมือตี ริโอ้จึงจับมือไว้ได้อีกข้าง
มือทั้งสองคนสองข้าง ต่างยื้อยึดฉุดกระชากจึงทำให้ร่างปันล้มลงริโอ้ล้มทับตาม
ริโอ้จึงฉวยโอกาสนี้ พรหมจูบทั่วใบหน้าจนหนำใจ จนปันเริ่มนิ่งริโอ้จึงหยุด แล้วรีบลุกขึ้นพรวดลงจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์
ส่วนปันนอนอึ้ง โกรธ แต่แอบยิ้มเล็กๆ มองตามปันที่เดินเข้าห้องน้ำไป
อีกฝากฝั่งเหลือเพียงต้นนอนคนเดียวหลับสนิท ส่วนจางออกไปข้างนอกแต่เช้าตรู่ เพื่อหาอาหารของกินและยาทานวด เอามาให้ต้นสุดที่รักได้กินและทารักษาแก้อาการปวด
ต้นสะดุ้งตื่นแล้วรีบมองเวลา ซึ่งก็กินเวลาสายมากจนต้องรีบลุกลงจากเตียง แต่ก็ยังเจ็บมากอยู่ ต้นก้มลงมองที่น่องผิวเนื้อซ้ำเขียวระบม ต้นจงนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง
แต่กลับรู้สึกเจ็บบางส่วนนิดๆ เลยแอบคิดผิดหรือถูกที่ยอมใจกายให้จาง ในขณะที่ต้นกำลังคิดอะไรเพลินๆ จางก็เข้ามาพอดี
"ตื่นพอดีเลย จางซื้อของกินมาเยอะเลย มียาทานวด แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เอาไว้ให้ต้น"
"ขอบใจนะ"ต้นยิ้มและให้อภัยเรื่องเมื่อคืนที่ทำให้เจ็บตัวสองครั้ง
"ต้นซื้อกางเกงใหม่มาให้ต้น มีเสื้อด้วย ที่ตลาดประตูเชียงใหม่มีขาย ผมเลยซื้อมาให้ต้น"
"ซื้อมาทำไมเยอะแยะ เดี๋ยวก็กลับแล้ว"
"จะรีบกลับไปไหน"
"ทำงานซิ"
"ไม่ทำได้ไหม อยากให้อยู่กับผมนานๆ "
"ไม่ทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้"
"เดี๋ยวผมเอาให้ใช้"จางมีสีหน้าที่จริงจัง
"ถ้าจางกลับประเทศอันเจียล่ะ"ต้นเริ่มคิดเขาจะอยู่ได้อย่างไร
เช่นกันกับจาง จะทำอย่างไรกับต้นถ้าเขากลับประเทศอันเจีย
"หรือว่าจางจะเอาต้นกลับด้วย"ต้นลองเชิงดูสีหน้าของจาง
"เอ่อ"จางพูดไม่ออก
"เดี๋ยวต้นเข้าไปอาบน้ำนะ"ต้นตัดบทเห็นจางอ้ำอึ้ง
ต้นจึงเดินช้าๆเพราะเจ็บหลายส่วน
"เดี๋ยวผมพาไป"จางเข้าไปประคอง
"เจ็บมากไหม"จางถามอีกครั้ง
"ก็เจ็บแต่ไม่เท่าเมื่อคืน พรุ่งนี้ก็น่าจะหายแล้ว "
"ดีจัง จะได้ทำต่อ"จางยิ้มแล้วคิดไปไกล
"ไม่เอาแล้ว"ต้นคิดว่าเรื่องเหยียบน่อง เลยบอกไปเช่นนั้น
"ฮ่า จางขอโทษพึ่งเคยครั้งแรก"จางรู้สึกผิดแถมติดใจในรสชาตแปลกใหม่ ถึงจะขลุกขลักไปบ้างแต่ก็ดีที่เดียว
"ทีหลังก็เหยียบเบาๆหน่อย"ต้นย้ำ
"เอ่อ ครับ "จางดีใจที่ไม่ใช่เรื่องที่คิด
ซองเข้ามาในห้องของคิม ตั้งแต่เช้าก็ยังเห็นคิมซึมอยู่ ในความคิดของซองยังมีสองอย่างสงสารกับแอบดีใจ ที่ต้นนั้นเลือกจางแต่ถ้าเทียบความรู้สึกกันแล้วจะสงสารมากกว่า เพราะซองก็รู้สึกเศร้าตามคิมไปด้วย ซองจึงพยายามหาทางคุยเรื่องอื่น เพื่อที่จะให้คิมได้คลายความเศร้าได้ลงบ้าง"วันนี้เราไปเที่ยวไหนกันดี" ซองถามพร้อมมองหน้าคิมว่ามีอาการเช่นไร แต่ก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิม"โยฮัน เป็นอะไร”ซองต้องย้ำอีกรอบคิมจึงรู้สึกตัว"ฮ่ะ”คิมหันมามองหน้าซอง"วันนี้จะไปไหนไหม""ไปนวดเหมือนเดิม”เมื่อพูดจบคิมลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำ"ไปที่ไหน"ซองอยากรู้มาก"ที่เดิม"คิมพูดอย่างเย็นชาไร้อารมณ์ซองไม่เข้าใจทำไมต้องไปที่เดิม แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และนั่งรอคิมที่พึ่งเข้าไปอาบน้ำ คิมเปิดน้ำฝักบัวเพื่อชำระร่างกาย ที่เปื้อนคราบสวาทจากซอง เขาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่ซองทำให้เขาเจ็บซ้ำสองต่อ แต่เขาก็ไม่ปริปากพูด เพื่อมิตรภาพที่ดีจะได้อยู่ต่อไป เจาหลับตาปล่อยสายน้ำชำระร่างกายให้สะอาด ก่อนออกจากห้องน้ำเพื่อไปปั้นหน้าพบแทนซองซองนั่งรอคิมอยู่พักใหญ่ โยฮันก็ออกมาจากห้องน้ำ ในชุดผ้าเช็ดตัวพันกายผืนเดียว จึงทำให้เกิดภาพในเมื่อคืนลอยมา
หลังจากดูหนังจบ ปันกับโมย่าก็เดินออกมา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มทั้งคู่ โมย่ารู้สึกว่าปันนั้นน่ารักน่าคบหา ไว้เป็นเพื่อนตอนอยู่ในประเทศไทย ส่วนปันนั้นรู้สึกผ่อนคลายความเครียด และเจ็บนิดๆ ที่ริโอ้ไปกับซองไม่ยอมมาดูหนังกับตัวเอง"ปันรู้ไหมผมมีความสุขมากเลยคืนนี้ ถึงดูหนังจะเป็นเรื่องปกติ "โมย่าหันมามองปันที่กำลังอมยิ้มอยู่"ผมก็เช่นกันครับ"ปันรีบเดินนำหน้าด้วยความเขินอายนิดหน่อย ส่วนโมย่าก็ก้าวเท้าแค่ก้าวเดียวก็ทันปันแล้ว เพราะฝรั่งขาจะยาว"แล้วเราจะไปไหนต่อกันดี"โมย่าเดินมาเคียงคู่ปันแล้วเริ่มเอ่ยชวน"คงกลับห้องน่ะครับ""ปันไม่ชอบเที่ยวกลางคืนหรอครับ""ก็มีบ้างครับ แต่วันนี้ค่อนข้างดึกแล้วเลยอยากกลับห้องไปพักผ่อน""ก็ดีครับ พรุ่งนี้จะได้มีแรงนวดผม"โมย่ายิ้ม"จะมานวดจริงหรือเปล่า เดี๋ยวเหมือนครั้งที่แล้วอีก"ปันชำเลืองมอง"ครั้งที่แล้วผมมีธุระนิดหน่อยเลยไม่ได้มา แต่ครั้งนี้รับรองไปแน่นอนครับ""จะลองเชื่ออีกซักครั้ง" ปันเร่งฝีเท้าเดินไปยังที่รถตุ๊กๆ"จะไปพร้อมกันหรือว่าจะไปคนละคัน"ปันถามโมย่า"คนละคันก็ได้ครับ"โมย่ามีแผนจะไปต่อที่ผับเลยปฎิเสธไปคันเดียวกัน"ก็ได้ครับนั้นแยกกันตรงนี้ บ่าย" ปัน
หลังจากที่ได้วางแผนจับผิดจางกันมาแล้ว โดยมี ต้น นำทีม มีริโอ้เป็นทัพเสริม คราวนี้มีพี่นารีเป็นตัวช่วยอีกคนพอเลิกงานต้นจึงมาหาจางที่ห้อง จางจะชวนออกไปข้างนอกอต่ ต้นก็ไม่ไปเพราะว่าจะสืบเรื่องราวแฟนเก่าจางให้ได้ ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"ต้นอยากรู้จังว่าจางอยู่ที่อันเจียทำงานอะไร" ต้นช้อนตามองจาง"ทำงานบริษัทเอกชน""แล้วลางานมานานๆไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม""ผมลาพักร้อนสองเดือน วันหยุดผมเยอะ เพราะไม่ค่อยได้ลา ทำงานอย่างเดียว"จางเกิดความสงสัย ทำไมวันนี้ต้นมาแปลก"เมื่อก่อนต้นก็ไม่ได้เป็นหมอนวดหรอกนะ เป็นพนักงานเสริฟอยู่ที่ร้านอาหารฝรั่ง""ทำไมออกล่ะ"จางสงสัย"ร้านมีปัญหาด้านการเงิน ต้นเลยโดนให้ออก""แล้วต้นมาเป็นหมอนวดได้อย่างไรล่ะ""ริโอ้เป็นอยู่ก่อนแล้ว เห็นต้นตกงาน ริโอ้เลยชวนมาเป็นหมอนวด""ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยนะ""ใช่ ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลย" ต้นมาผิดแผนลืมตัว แทนที่จะถามจาง แต่จางมาเหนือเมฆ ต้นเลยชิงถามก่อน"จางอยู่แถวไหนของประเทศอันเจียหรอ"ต้นถามไปอย่างนั้นแหล่ะ"ผมอยู่เจ้อเจียงแต่มาทำงานที่กวางตุ้ง""อ่อ แล้วอยู่คนเดียวหรอที่กวางตุ้ง""อยู่คนเดียว""แล้วแฟนเก่าที่เลิกล่ะ"เริ่
ปันเดินไปยังโต๊ะของฝรั่งเพื่อขอเก้าอี้มาหนึ่งตัว ซึ่งฝรั่งก็ให้ปันมาแต่โดยดี ปันจึงเอามาถึงที่โต๊ะและตั้งแทรกกลางระหว่างต้นกับจาง"นั่งเลยจีจี้"นารีช้อนตามองจีจี้แล้วขยิบตาส่วนจางก็เขยิบเก้าอี้ถอยห่างเพื่อให้จีจี้นั่งสะดวกขึ้น ข้อสำคัญเขาไม่ค่อยไว้วางใจผู้หญิงคนนี้ ถึงจางจะเคยผ่านผู้หญิงมาเพียงคนเดียว แต่เขาก็ดูออกว่าผู้หญิงคนนี้มาไม่ดีแน่ และสิ่งที่เขาห่วงมากที่สุดคือต้นจะเข้าใจผิด เพราะต้นรู้แล้วว่าแฟนเก่าเขาเป็นผู้หญิงจีจี้พยายามใช้มารยาจับจุออ่อนของจาง"ชนแก้ว"จีจี้ชนแก้วกับทุกคน และคนสุดท้ายก็คือจาง เขาจึงชนแก้วในทันที เพราะโดยส่วนตัวจางชอบดื่มเบียร์ ไม่ใช่เพราะจีจี้แม้แต่น้อย แต่คนในกลุ่มไม่คิดเช่นนั้นเพราะบางที่ก็ชนแก้วกันแค่สองคน ข้อสำคัญจางขอชนแก้วเองอีกต่างหาก พอจีจี้ดื่มหมดชนต่ออีก ทำเช่นเดิมอยู่หลายครั้งจนสร้างความไม่พึ่งพอใจแก่ต้นและพรรคพวก จางก็สังเกตเห็นแต่ก็จะแกล้งต่อไปอีก"จางแฟนของต้นคอแข็งเป็นบ้าเลย จีจี้ยอมแพ้จีจี้เมาเบียร์"จีจี้ทำท่าจะเล่อแต่พยายามกลืนลงไป"จีจี้ ชนอีครั้งกผมกำลังได้ที่เลย"จางยื่นแก้วพร้อมชน"พอแล้วจาง"จีจี้โบกมือ แต่จางคะยั้นคะยอจนจีจี้ยอมอีกแ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จางรู้สึกยากที่จะไปเปิดประตู ไม่ว่าจะเป็นหลันหลันหรือต้น เขาก็รู้สึกจะรับในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นจางก็หาหลีกเลี่ยงได้ เขาจึงแง้มประตูเปิดออกอย่างลุ้น แล้วชะงักงันชั่วครู่“เป็นอะไรจาง”ต้นสงสัยในท่าทีที่แปลกไป ทั้งหน้าตาที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก“จางรักต้น”จางจับร่างของต้นดึงมาในอ้อมกอด“จาง”ต้นงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่จางทำอย่างกะทันกัน“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ต้นสัญญากับผมได้ไหมว่าจะไม่โกรธผม”จางดันร่างต้นออกห่างแล้วมองหน้าต้นด้วยสายตาแห่งความหวังต้นสับสนจิตใจยังไม่สามารถสัญญาได้ในทันที“จางบอกต้นก่อนได้ไหมมันเรื่องอะไร”“เรื่องมันยาวรับปากจางก่อนนะ”จางดึงร่างต้นเข้ามากอดอีดครั้งตรงหน้าประตู เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก็พบกับหลันหลันยืนมองดูด้วยสีหน้าหลากหลายอารมณ์ ที่ไม่สามารถบ่งบอกได้ทั้งตกใจ ประหลาดใจ ผิดหวัง เป็นห้วงลึกของจิตใจของหลันหลันจางนั้นพอเห็นหลันหลัน เขาถึงกับตะลึง ร่างกายชาชั่วขณะทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่นานเขาก็ดึงสติกับมาดันร่างของต้นออกห่างต้นแปลกใจพฤติกรรมของจาง จึงมองหน้าเขาเพื่อให้คลายสงสัย แต่สิ่งที่ต้นเห็นนั้นคือสายต
จางนั่งมองโทรศััพท์มือถือ เพื่อดูข้อความที่ส่งมาซึ่งเขายังอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่หลันหลันยังไม่ได้บอกเรื่องราวของเขาให้กับคนรอบข้างฟัง จางคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะไปข้อร้อง หลันหลันอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งกว่าจะไปจางก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ มันเป็นอะไรที่ยากเย็นมากที่จะเอ่ยปากขอร้องหลันหลัน แต่เขาต้องรีบไปไม่งั้นชีวิตของเขาคงวุ่นวายแน่ จางจึงเดินออกจากห้องไปหาหลันหลันจางเคาะประตูสักพักหลันหลันก็เปิดประตูออกมา หลันหลันมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก"มีอะไรจาง"หลันหลันใช้สายตาเย็นชามองจาง"เข้าไปคุยข้างในได้ไหม""ทีคุยกับผู้หญิงหน้าห้องอายเหรอ ทำไมเมื่อวานกอดกับผู้ชายไม่อาย""ผมอยากคุยธุระกับคุณ"จางมีสายตาที่เศร้าจนหลันหลันใจอ่อนขึ้นมาบ้าง ในฐานะคนเคยรักกันแต่เธอก็ยังไม่หายโกรธจางอยู่ดีจางเดินเข้ามาในห้องของหลันหลันแล้วนั่งลง ส่วนหลันหลันก็นั่งลงช้างๆ"มีอะไรว่ามา"หลันหลันถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว การมาของจางนั้นมาเพื่ออะไร"คือ ผมอยากให้หลันหลันอย่าบอกเรื่่องนี้กับใคร"พูดจบจางก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ"รู้ตัวมานานหรือยังว่าชอบ เอ่อ แบบนั้น"หลันหลันเริ่มอ่อนลง"ผมรู้ตัวที่นี
หลันหลันเคาะประตูเพียงครั้งเดียว จางก็เปิดประตูออกมาทันที และเขาก็มีสีหน้าที่ผิดหวังที่ไม่ใช่ต้น"มองหาแฟนหรอ""ต้นมาเหรอ"จางถาม"เขาฝากกุญแจไว้"หลันหลันยื่นกุญแจรถให้จาง เขาจึงรับไว้"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ"จางเดินออกจากห้องรีบมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา"จะมองอะไรแค่เขาไม่เข้าห้องก็น่าบอกได้แล้วนะว่า เขาเลิกกับจางแล้ว"หลันหลันยักไหล่เหล่สายตามองจาง ในท่าทีเย้ยหยัน"ทำใจซะ คงคิดได้คบกับจางต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร "หลันหลันหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ"ไม่จริง"จางใช้ที่เสียงหนักแน่น แต่เริ่มแผ่วในช่วงท้าย"ทำไมจะไม่จริง จางก็ลองดูซิถ้าอีกสามวันเขาไม่มาหาจาง แสดงว่าเขาคงอยากเลิกกับจาง"เมื่อจางเจอหลันหลันย้ำ เขาถึงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางคิดไปว่าต้นคงกลับไปคบกับปรัชญ์เหมือนเดิม เพราะทั้งคู่เคยรักใคร่ต่อกันมาก่อนเขา"เขาคงคิดได้ล่ะมั้ง ถ้าอยู่กับจางก็แค่มีความสุขในไทย แต่ไม่สามารถไปที่อันเจียได้ จางก็รู้ดีนี่ ที่นั้นเขายังไม่ยอมรับเรื่องนี้ จางกล้าที่จะเผชิญความจริงเหรอ"หลี่่หลันหลันพยายามสังเกตสีหน้าของจาง ซึ่งก็เป็นผลดั่งที่เธอคาดไว้ หลันหลันจึงใส่ไฟต่อไม่พอแค่นี้"ถ้า
จางยังไม่สามารถลดอคติในใจที่มีต่อต้นกับปรัชญ์ได้ เขาจึงมองไม่เห็นในข้อนี้"มันเป็นเรื่องของผมคุณจะมายุ่งอะไรด้วย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย"ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ที่มาก็เพราะต้นไม่ใช่คุณ"คิมพยายามสงบจิตใจให้แน่นิ่ง"นั่นไงคุณยอมรับมาแล้ว ว่ายังคิดอะไรกับต้นอยู่"จางมองหน้าคิมด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ"คุณนี่มันพาลจริงๆ แถมเมาอีกด้วยผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว""ไม่อยากคุยหรือพูดแทงใจดำ ถึงผมจะมีปัญหากับต้น คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเป็นห่วงต้นสงสารต้น เพราะยังไม่ได้เลิกกันสักหน่อย""ตามสบาย"คิมพูดได้แค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่มีสิทธิ์ข้อนี้"ฝากบอกต้นด้วยให้มาหาผม ถ้าไม่มาอีกสองวันผมจะกลับอันเจีย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งอยู่"ทำไมไม่ไปบอกเอง"คิมพูดขึ้น"เรื่องของผม คุณไม่ต้องรู้"จางอยากพิสูจน์ใจของต้น เขาต้องการรู้ว่าต้นจะยังรักเขาอยู่ไหม ถ้าเกิดต้นไม่มาแสดงว่าต้นหมดรักเขาแล้ว จางคิดไปไกลถึงขั้นนั้นทีเดียว"ผมไม่บอกหรอก ดีผมจะได้จีบต้นต่อถ้าเลิกกับคุณ"คิมยิ้มเยาะ"คุณนี่มัน ออกไปจากห้องผมเลย"จางชี้มือไปที่ประตูห้อง"ผมไปแน่ แล้วจะไปหาต้นด้วย ปล่อยให้คุณเมาเหล้าอยู่อย่างนี้แหล่ะ"พูดจบคิมก็เดิน