หลังจากดูหนังจบ ปันกับโมย่าก็เดินออกมา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มทั้งคู่ โมย่ารู้สึกว่าปันนั้นน่ารักน่าคบหา ไว้เป็นเพื่อนตอนอยู่ในประเทศไทย ส่วนปันนั้นรู้สึกผ่อนคลายความเครียด และเจ็บนิดๆ ที่ริโอ้ไปกับซองไม่ยอมมาดูหนังกับตัวเอง
"ปันรู้ไหมผมมีความสุขมากเลยคืนนี้ ถึงดูหนังจะเป็นเรื่องปกติ "โมย่าหันมามองปันที่กำลังอมยิ้มอยู่
"ผมก็เช่นกันครับ"
ปันรีบเดินนำหน้าด้วยความเขินอายนิดหน่อย ส่วนโมย่าก็ก้าวเท้าแค่ก้าวเดียวก็ทันปันแล้ว เพราะฝรั่งขาจะยาว
"แล้วเราจะไปไหนต่อกันดี"โมย่าเดินมาเคียงคู่ปันแล้วเริ่มเอ่ยชวน
"คงกลับห้องน่ะครับ"
"ปันไม่ชอบเที่ยวกลางคืนหรอครับ"
"ก็มีบ้างครับ แต่วันนี้ค่อนข้างดึกแล้วเลยอยากกลับห้องไปพักผ่อน"
"ก็ดีครับ พรุ่งนี้จะได้มีแรงนวดผม"โมย่ายิ้ม
"จะมานวดจริงหรือเปล่า เดี๋ยวเหมือนครั้งที่แล้วอีก"ปันชำเลืองมอง
"ครั้งที่แล้วผมมีธุระนิดหน่อยเลยไม่ได้มา แต่ครั้งนี้รับรองไปแน่นอนครับ"
"จะลองเชื่ออีกซักครั้ง" ปันเร่งฝีเท้าเดินไปยังที่รถตุ๊กๆ
"จะไปพร้อมกันหรือว่าจะไปคนละคัน"ปันถามโมย่า
"คนละคันก็ได้ครับ"โมย่ามีแผนจะไปต่อที่ผับเลยปฎิเสธไปคันเดียวกัน
"ก็ได้ครับนั้นแยกกันตรงนี้ บ่าย" ปันโบกมือให้โมย่าก่อนขึ้นรถ ส่วนโมย่าก็โบกมือให้เช่นกัน
ซองเริ่มเมาจนเริ่มคุมสติไม่อยู่ในผับ ริโอ้เลยจำเป็นต้องดื่มเบียร์ให้น้อยลง เพื่อจะได้ดูแลซองในยามเมามายขนาดหนัก
"ริโอ้เคยแอบรักใครไหม"
"ไม่เคยนะ เพราะริโอ้จะถอยทันทีถ้ารู้ว่าเขาไม่มีใจ มันเลยยังไม่ได้เริ่มรัก แค่คิดจะจีบหรือคิดจะรักแค่นั้น"
"กับต้นหรอ"ซองหันมามองริโอ้
"ไม่ใช่ ริโอ้กับต้นแค่เพื่อนกันจริงๆ ไม่เคยคิดแบบนั้น ถ้าจะคบเพื่อนก็จะเป็นแบบนั้นตลอดไปไม่มีวันเปลื่ยนเป็นอย่างอื่นได้หรอก"
"ดีจัง ริโอ้ทำใจได้ แต่ซองทำใจแบบนั้นไม่ได้ซะที ว่าจะให้คิดคิมแบบเพื่อน"
"ก็ซองยังไม่มีใครนี่ ลองมีใครเข้ามาในชีวิตซอง ความคิดที่มีให้คิมก็จะหมดไปเอง"
"ถ้าอย่างนั้นริโอ้เข้ามาในชีวิตซองได้ไหม ซองจะได้ลืมคิมซะที"
ริโอ้ถึงกับคิดหนัก เพราะการเข้าไปในชีวิตใครสักคน มันเป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะถ้าเราตกหลุมรักเขา ถ้าเขารักตอบมันก็สมหวังในความรัก ถ้าไม่ มีแต่เจ็บกับเจ็บอย่างที่ซองเจออยู่ทุกวันนี่ และเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะรักซองได้หรือเปล่า ถ้ารักได้ก็ดีกันทั้งสองฝ่าย ถ้ารักกันไม่ได้ ซองจะเจ็บซ้ำสองรอบ
"ว่าไงริโอ้ ตกลงเขามาในชีวิตซองได้ไหม"ซองจ้องตาอย่างเว้าวอน
"ตอนนี้ก็อยู่ในชีวิตซองอยู่แล้วนี่ ไม่งั้นจะมานั่งเป็นเพื่อนหรอ"ริโอ้พยายามเฉไฉ
"มันไม่ใช่อย่างนั้น เราลองมาคบกันดู ข้ามขั้นตอนจีบกันไปเลย เราเป็นแฟนกันเลยแบบนี้ เข้าใจไหมริโอ้"
"ริโอ้เข้าใจแต่จะให้ทำอย่างนั้นได้อย่างไร เรายังไม่ได้รักกันเลย"
"ทำไมจะทำไม่ได้ ยังไม่ทันลองเลย"
ริโอ้เริ่มหงุดหงิดในความดื้อรั้นของซอง และเริ่มเสียงดังมากขึ้นจนโต๊ะข้างๆเริ่มหันมามาอง ริโอ้เลยตัดสินใจว่าจะพาซองกลับห้อง
"กลับห้องกันเถอะซอง"
"ซองไม่กลับจนกว่าริโอ้จะรับปากเป็นแฟนซอง"
"ก็ได้"ริโอ้รับปากส่งๆไปอย่างนั้น เพื่อที่จะได้พาซองกลับ หลังจากซองส่างเมาค่อยว่ากันใหม่
เมื่อริโอ้รับปากซองแล้ว จึงทำให้ซองเชื่อฟังริโอ้ เขาจึงออกจากผับเพื่อกลับไปที่โรงแรมของตัวเอง
ซองเมามายมากจนไม่ได้สติ เมื่อมาถึงที่โรงแรม จึงล้มตัวนอนลงในทันทีโดยมีริโอ้ประคองมาไม่ให้ล้ม แต่แล้วร่างริโอ้ก็ต้องล้มทับซองบนเตียงนอน
ริโอ้พยายามดันร่างตัวเองขึ้น แต่ซองกอดคอไว้แน่น
"จะไปไหนริโอ้"
"กลับห้องน่ะซิ"
"จะกลับไปทำไมในเมื่อเราเป็นแฟนกันแล้ว"
"คืนนี้ริโอ้ต้องนอนกับซองทั้งคืน" ซองดึงหน้าของริโอ้มาพรหมจูบ ริโอ้พยายามผลักร่างหนี ในที่สุดก็หลุดออกมาจากวงแขนที่คล้องคอไว้
"ริโอ้เกียจซองใช่ไหมถึงปฎิเสธซอง" ซองเริ่มน้ำตาไหล รู้สึกน้อยใจ คิดไปว่าใครๆก็ไม่รักแม้แต่ริโอ้
ในส่วนของริโอ้ไม่ได้รังเกียจซอง ครั้งหนึ่งยังต้องการตัวซอง แต่เกิดความผิดพลาดครั้งนั้นจึงกินแห้ว ด้วยนิสัยของริโอ้จะเจ้าชู้ก็ตามที เมื่อเห็นซองเมามายขนาดนี้เขาก็ไม่อยากทำอะไรเกินเลย ถึงซองจะหน้าตาสเปคของเขาก็ตามที
"เปล่าผมไม่ได้รังเกียจซอง" ริโอ้เข้าไปเช็ดน้ำตาให้ซอง โดยใช้นิ้วชี้ปาดน้ำตาที่เริ่มไหลออกมา
"ถ้าไม่ได้รังเกียจซองก็ต้องจูบซอง"
เนื่องด้วยซองร้องไห้ไม่หยุด ริโอ้เลยติดสินใจบรรจงจูบไปที่ริมฝีปากซอง ซองก็โอบกอดริโอ้ไว้แน่ไม่ให้หลุด ริโอ้ประกบริมฝีปากอยู่นานจนอารมณ์เตลิดไปไกล เขาเริ่มหักห้ามใจในตัวเองไม่ได้ ยิ่งเห็นหน้าตาซอง ที่ขาวใสน่ารัก
"หอมแก้มซองอีกซิ" ซองนำทางเห็นริโอ้จูบปากค้าง
ริโอ้ทำตามอย่างว่าง่าย บรรจงจูบทั่วใบหน้าอันอวบอิ่มขาวใสไร้สิวฝ้า อย่างกระหายรักและตัดสินใจในทันที ว่าเป็นไงเป็นกันพรุ่งนี้ว่ากันใหม่ แต่แล้วความฝันก็พังทะลาย ซองหลับ
"ซอง ซอง ซอง" ริโอ้เรียกอยู่หลายครั้ง พร้อมเขย่าตัวก็ไม่มีท่าทีจะตื่น
ริโอ้เลยพลิกร่างนอนหงายข้างซองเอามือก่ายหน้าผาก คิดหนักจนหลับตามซองไปในที่สุด
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จนทำให้ริโอ้รู้สึกตัว ด้วยความเผลอนึกว่าเป็นห้องตัวเอง เขาจึงออกไปเปิดประตู และได้เห็นคนตรงหน้า คือ คิม ต่างฝ่ายต่างตกใจ แต่คิมได้สติก่อน
"ริโอ้มาที่นี่ได้อย่างไง ซองอยู่ไหน" คิมรีบเดินเข้าไปในห้องเพื่อหาซองด้วยความเป็นห่วงแบบเพื่อน โดยมีริโอ้เดินตามมาและพูดตามหลัง
"เมื่อคืนซองเมามาก ผมเลยพามาส่งห้องแล้วเผลอหลับไป ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้"
คิมจ้องมองร่างซองที่อยู่ในชุดพร้อมเที่ยว คงเป็นจริงดั่งริโอ้ว่านั้นแหล่ะ น่าจะไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้ ถึงจะมีก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร จะเป็นการดีกับคิมเสียอีก เพราะในใจของคิมก็อยากให้ซองมีแฟน เพื่อที่จะได้ลืมเขาในที่สุด
"ผมไม่ได้ว่าอะไร ถึงจะมีอะไรกัน ก็ไม่เกี่ยวกับผมคิมกล่าวอย่างจริงใจ
"โยฮันมาก็ดีแล้ว นั้นผมขอตัวกลับ จะรีบไปทำงาน"
คิมหันหน้ามามองต้น
"ขอบใจมากนะ ที่ดูแลซอง"
"ไม่เป็นไร" ริโอ้ยิ้มให้แล้วเดินออกไปจากห้อง
คิมนั่งมองหน้าเพื่อนและอดสงสารไม่ได้ แต่เขาก็ทำใจไม่ได้ ที่จะให้มารักเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก
"ซอง"คิมเขย่าร่าง
คิมเขย่าร่างซองอยู่สองสามครั้งซองก็ตื่นขึ้นมา เมื่อลืมตามองเป็นคิม ซองถึงกับตกใจรีบลุกขึ้นนั่งในทันที แล้วมองไปรอบๆ ห้อง คิมจึงคาดเดาว่ามองหาริโอ้
"ริโอ้กลับไปแล้ว"
"ฮือ ซองพยักหน้าแบบงง เพราะยังมึนหัวอยู่ คิมเห็นอาการของซองมึนๆงงๆ เขาจึงไปเอาน้ำร้อนมาให้ซองดื่ม และบอกให้ซองไปอาบน้ำ จะได้ออกมาคุยกันในเรื่องที่คิมจะไปจากเชียงใหม่ เมื่อซองทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมานั่งข้างๆ คิม
"มีอะไรหรือเปล่า”ซองหันไปมองหน้าคิม
"มีเรื่องจะมาบอก คืนนี้โยฮันจะไปภูเก็ตสักสามสี่วันหลังจากนั้นก็จะกลับโปเกียเลย”คิมก้มหน้าต่ำลง แต่ก็ช้อนตามองซอง
ซองรู้สึกใจหาย และปวดใจยิ่งนัก สาเหตุที่เขามาเชียงใหม่ เพื่อมาเจอคิม ที่เป็นเพื่อนรักแต่เขาดันแอบรัก ซองคิดจะตามไปด้วย
"เดี๋ยวซองจะรีบไปจองตั๋วจะทันไหมเนี่ย"ซองมีสีหน้าตื่นตระหนก
"โยฮันจะไปคนเดียว ซองอยู่นี่แหล่ะ โยฮันอยากอยู่เงียบๆ สงบ จะได้คิดอะไรได้บ้าง" คิมมีสีหน้าเศร้าสร้อย
"ทำไมไม่ให้ซองตามไปด้วย”ซองก็เช่นเดียวกันมีสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้
"โยฮันยังมีอีกเรื่องที่อยากบอก คือ เรื่องของเรามันไม่มีทางเป็นไปได้ โยฮันไม่สามารถเปลื่ยนความรู้สึกจากเพื่อนเป็นอย่างอื่นไปได้ ซองต้องเข้าใจโยฮันนะ"
"โยฮันรู้ด้วยหรอ”ซองมีสีหน้าตกใจ
"ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมันเป็นไปไม่ได้ก็ทำใจ เหมือนโยฮันไงที่พยายามทำใจ ให้ลืมต้นให้ได้ ถึงแม้นมันจะเจ็บปวดเพียงใด”คิมถอนหายใจ
"แต่เราไปกันในฐานะเพื่อนก็ได้นี่”ซองเว้าวอน
"ถ้าเป็นอย่างนั้น ซองจะลืมโยฮันได้อย่างไรกัน ในเมื่อต้องเจอหน้ากันทุกวัน"
"ซองฟังโยฮันนะลืมโยฮันซะ สักวันหนึ่งจะมีคนดีดีเข้ามาหาซอง"คิมลุกขึ้นยืน
"โยฮันต้องไปเตรียมตัวแล้ว โชคดีนะซองแล้วเราไปเจอกันที่โปเกีย”คิมตบบ่าของซองเบาๆ
"ก็ได้" ซองเม้มปากเหลือกตาแล้วถอนหายใจ ซองคิดว่าถ้าคิมไม่อยู่เขาอาจทำใจได้ง่ายขึ้น
คิมยืนมองเพื่อนผู้แสนดีสักพัก ก็หันหลังเดินจากไปในทันที ทิ้งความผิดหวังไว้ให้ซองที่ยังไม่ลืมการแอบรัก
คิมรู้สึกเศร้าใจอย่างที่สุด หลังจากต้องล่ำลาเพื่อนรักที่แอบรักเขา ไหนจะต้องบอกลาการอกหักที่แสนเจ็บปวด เมื่อเขามาถึงที่ห้องก็หยิบมือถือขึ้นมาดู ภาพความทรงจำที่แอบถ่ายต้นไว้ เพราะทั้งคู่ไม่เคยได้ถ่ายรูปคู่กันไว้เลย เขาจึงอยากเก็บความทรงจำนี้ไว้ และอีกอย่างที่เขาจะไม่ลืม คือลีลาการนวดของต้น เพราะหลังจากนี้คงไม่ได้รับการสัมผัสแบบนั้นอีกแล้ว ถึงเขาอาจได้กลับมาที่เชียงใหม่ ก็ไม่สามารถให้ต้นมานวดเขาได้อีก
ต้นมานั่งเหม่อลอยที่หน้าร้านไม่ได้คุยกับใครเลย หลังจากเมื่อคืนที่คิมได้มาล่ำลา ต้นเสียอาการหนักเพราะรู้สึกเสียใจ ในสิ่งที่เกิดขึ้น จนริโอ้เกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ต้นถึงได้นั่งนิ่งเงียบ เหมือนคนไร้ชีวิตจิตใจ
"เป็นอะไรต้นนั่งเงียบไปเลย"ริโอ้เขยิบร่างเข้ามานั่งใกล้ๆ
"เมื่อคืนโยฮันมาหาเรานะ มาบอกว่าจะไปภูเก็ตและรวดกลับโปเกีย มันทำให้ต้นรู้สึกไม่ดีเลยว่ะ"
ต้นก้มหน้าลงมองพื้นอย่างไร้ความรู้สึก
"ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจเรา จะไปบังคับให้รักคนโน้นคนนี้ไม่ได้หรอก หรือว่าต้นอยากรักสองคน"ริโอ้ชำเลืองมองต้น
"บ้า จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไรกัน"
"ก็ใช่นะซิ ต้นไม่ต้องคิดมากหรอก คิดเรื่องจางดีกว่า"
ต้นหันหน้ามาทันที แล้วมองริโอ้อย่างไคร้สงสัย ทำไมพูดจาแบบนี้ หรือว่ารู้อะไรดีดีมาแล้วไม่บอก
"เรื่องอะไรหรอ"ต้นมีสีหน้าที่ไคร้อยากรู้
"ก็ไม่มีอะไรหรอก ต้นเคยถามเรื่องราวส่วนตัวในอันเจียของเขาบ้างไหม"
"ไม่เคย แล้วไม่เห็นเขาจะพูดอะไรนี่"
"ก็นั่นแหล่ะปัญหา"
พอได้ยินเช่นนี้ต้นเริ่มครุ่นคิดแล้ว รู้แต่เพียงว่า จางอกหักแล้วมารักษาแผลใจที่เชียงใหม่
"จางเราให้ฟังเรื่องเดียว เขาอกหักเลยมาทำใจที่เชียงใหม่"ต้นพยายามคิดเรื่องอื่นอีก แต่ก็คิดไม่ออกว่าจางได้เล่าเรื่องอะไรบ้าง ที่คิดได้มีแต่คำหวานที่มาไม่เว้นแต่และวัน
"แฟนน่ะผู้หญิงหรือผู้ชายจางได้บอกไหม"ริโอ้หันหน้ามาเพื่อฟังคำตอบ
ต้นรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก ทำไมริโอ้พูดแบบนี้ แต่ต้นก็ไม่เคยสงสัยอะไรในตัวจาง
"ผู้ชายน่ะซิจะเป็นผู้หญิงไปได้อย่างไร"แต่ต้นทำหน้าครุ่นคิด
"ถ้าเป็นผู้ชายก็ดี แต่ถ้าเป็นผู้หญิงล่ะ"
"ริโอ้พูดไปเรื่อย"ต้นเริ่มใจคอไม่ค่อยดี
ต้นเลยคิดย้อนกลับไปคิดหลายเรื่องราวที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเรื่องบนเตียงที่ทำอะไรไม่ค่อยเป็น ดูเขอะเขินไปหมด จนบางครั้งต้นรู้สึกหงุดหงิด ไม่เหมือนอย่างปรัชญ์ที่เต็มที่กับต้น และมีความสุขทั้งสองคน หรือแม้แต่คิมที่ดูจะไหลลื่นเรื่องบนเตียง ถึงแม้จะไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันมากมาาย
"ต้น"ริโอ้เรียก
"อ่อ มีอะไร"ต้นรีบหันมามองริโอ้
"นิ่งไปเลยนะพูดเรื่องนี้ มีอะไรหรือเปล่า ไม่ต้องปิดบังริโอ้นะ มีอะไรบอกมาให้หมด"ริโอ้อยากช่วยเพื่อนและอยากรู้ด้วย
ต้นจึงเล่าเรื่องราวต่างให้ริโอ้ผู้ช่ำชองเรื่องแบบนี้ ให้ฟัง
"ว่าแล้วเชียวต้องใช่แน่ๆ"ริโอ้เม้มปากพยักหน้า
ต้นรู้สึกกังวลนิดหน่อย เพราะถ้าจางรักเขาแล้ว เรื่องราวอดีตต้นไม่สน แต่ที่ต้นกลัวคือจางยังไม่ลืมรักเก่า ที่อาจเป็นผู้หญิงก็ได้
หลังจากที่ได้วางแผนจับผิดจางกันมาแล้ว โดยมี ต้น นำทีม มีริโอ้เป็นทัพเสริม คราวนี้มีพี่นารีเป็นตัวช่วยอีกคนพอเลิกงานต้นจึงมาหาจางที่ห้อง จางจะชวนออกไปข้างนอกอต่ ต้นก็ไม่ไปเพราะว่าจะสืบเรื่องราวแฟนเก่าจางให้ได้ ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"ต้นอยากรู้จังว่าจางอยู่ที่อันเจียทำงานอะไร" ต้นช้อนตามองจาง"ทำงานบริษัทเอกชน""แล้วลางานมานานๆไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม""ผมลาพักร้อนสองเดือน วันหยุดผมเยอะ เพราะไม่ค่อยได้ลา ทำงานอย่างเดียว"จางเกิดความสงสัย ทำไมวันนี้ต้นมาแปลก"เมื่อก่อนต้นก็ไม่ได้เป็นหมอนวดหรอกนะ เป็นพนักงานเสริฟอยู่ที่ร้านอาหารฝรั่ง""ทำไมออกล่ะ"จางสงสัย"ร้านมีปัญหาด้านการเงิน ต้นเลยโดนให้ออก""แล้วต้นมาเป็นหมอนวดได้อย่างไรล่ะ""ริโอ้เป็นอยู่ก่อนแล้ว เห็นต้นตกงาน ริโอ้เลยชวนมาเป็นหมอนวด""ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยนะ""ใช่ ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลย" ต้นมาผิดแผนลืมตัว แทนที่จะถามจาง แต่จางมาเหนือเมฆ ต้นเลยชิงถามก่อน"จางอยู่แถวไหนของประเทศอันเจียหรอ"ต้นถามไปอย่างนั้นแหล่ะ"ผมอยู่เจ้อเจียงแต่มาทำงานที่กวางตุ้ง""อ่อ แล้วอยู่คนเดียวหรอที่กวางตุ้ง""อยู่คนเดียว""แล้วแฟนเก่าที่เลิกล่ะ"เริ่
ปันเดินไปยังโต๊ะของฝรั่งเพื่อขอเก้าอี้มาหนึ่งตัว ซึ่งฝรั่งก็ให้ปันมาแต่โดยดี ปันจึงเอามาถึงที่โต๊ะและตั้งแทรกกลางระหว่างต้นกับจาง"นั่งเลยจีจี้"นารีช้อนตามองจีจี้แล้วขยิบตาส่วนจางก็เขยิบเก้าอี้ถอยห่างเพื่อให้จีจี้นั่งสะดวกขึ้น ข้อสำคัญเขาไม่ค่อยไว้วางใจผู้หญิงคนนี้ ถึงจางจะเคยผ่านผู้หญิงมาเพียงคนเดียว แต่เขาก็ดูออกว่าผู้หญิงคนนี้มาไม่ดีแน่ และสิ่งที่เขาห่วงมากที่สุดคือต้นจะเข้าใจผิด เพราะต้นรู้แล้วว่าแฟนเก่าเขาเป็นผู้หญิงจีจี้พยายามใช้มารยาจับจุออ่อนของจาง"ชนแก้ว"จีจี้ชนแก้วกับทุกคน และคนสุดท้ายก็คือจาง เขาจึงชนแก้วในทันที เพราะโดยส่วนตัวจางชอบดื่มเบียร์ ไม่ใช่เพราะจีจี้แม้แต่น้อย แต่คนในกลุ่มไม่คิดเช่นนั้นเพราะบางที่ก็ชนแก้วกันแค่สองคน ข้อสำคัญจางขอชนแก้วเองอีกต่างหาก พอจีจี้ดื่มหมดชนต่ออีก ทำเช่นเดิมอยู่หลายครั้งจนสร้างความไม่พึ่งพอใจแก่ต้นและพรรคพวก จางก็สังเกตเห็นแต่ก็จะแกล้งต่อไปอีก"จางแฟนของต้นคอแข็งเป็นบ้าเลย จีจี้ยอมแพ้จีจี้เมาเบียร์"จีจี้ทำท่าจะเล่อแต่พยายามกลืนลงไป"จีจี้ ชนอีครั้งกผมกำลังได้ที่เลย"จางยื่นแก้วพร้อมชน"พอแล้วจาง"จีจี้โบกมือ แต่จางคะยั้นคะยอจนจีจี้ยอมอีกแ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จางรู้สึกยากที่จะไปเปิดประตู ไม่ว่าจะเป็นหลันหลันหรือต้น เขาก็รู้สึกจะรับในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นจางก็หาหลีกเลี่ยงได้ เขาจึงแง้มประตูเปิดออกอย่างลุ้น แล้วชะงักงันชั่วครู่“เป็นอะไรจาง”ต้นสงสัยในท่าทีที่แปลกไป ทั้งหน้าตาที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก“จางรักต้น”จางจับร่างของต้นดึงมาในอ้อมกอด“จาง”ต้นงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่จางทำอย่างกะทันกัน“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ต้นสัญญากับผมได้ไหมว่าจะไม่โกรธผม”จางดันร่างต้นออกห่างแล้วมองหน้าต้นด้วยสายตาแห่งความหวังต้นสับสนจิตใจยังไม่สามารถสัญญาได้ในทันที“จางบอกต้นก่อนได้ไหมมันเรื่องอะไร”“เรื่องมันยาวรับปากจางก่อนนะ”จางดึงร่างต้นเข้ามากอดอีดครั้งตรงหน้าประตู เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก็พบกับหลันหลันยืนมองดูด้วยสีหน้าหลากหลายอารมณ์ ที่ไม่สามารถบ่งบอกได้ทั้งตกใจ ประหลาดใจ ผิดหวัง เป็นห้วงลึกของจิตใจของหลันหลันจางนั้นพอเห็นหลันหลัน เขาถึงกับตะลึง ร่างกายชาชั่วขณะทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่นานเขาก็ดึงสติกับมาดันร่างของต้นออกห่างต้นแปลกใจพฤติกรรมของจาง จึงมองหน้าเขาเพื่อให้คลายสงสัย แต่สิ่งที่ต้นเห็นนั้นคือสายต
จางนั่งมองโทรศััพท์มือถือ เพื่อดูข้อความที่ส่งมาซึ่งเขายังอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่หลันหลันยังไม่ได้บอกเรื่องราวของเขาให้กับคนรอบข้างฟัง จางคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะไปข้อร้อง หลันหลันอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งกว่าจะไปจางก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ มันเป็นอะไรที่ยากเย็นมากที่จะเอ่ยปากขอร้องหลันหลัน แต่เขาต้องรีบไปไม่งั้นชีวิตของเขาคงวุ่นวายแน่ จางจึงเดินออกจากห้องไปหาหลันหลันจางเคาะประตูสักพักหลันหลันก็เปิดประตูออกมา หลันหลันมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก"มีอะไรจาง"หลันหลันใช้สายตาเย็นชามองจาง"เข้าไปคุยข้างในได้ไหม""ทีคุยกับผู้หญิงหน้าห้องอายเหรอ ทำไมเมื่อวานกอดกับผู้ชายไม่อาย""ผมอยากคุยธุระกับคุณ"จางมีสายตาที่เศร้าจนหลันหลันใจอ่อนขึ้นมาบ้าง ในฐานะคนเคยรักกันแต่เธอก็ยังไม่หายโกรธจางอยู่ดีจางเดินเข้ามาในห้องของหลันหลันแล้วนั่งลง ส่วนหลันหลันก็นั่งลงช้างๆ"มีอะไรว่ามา"หลันหลันถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว การมาของจางนั้นมาเพื่ออะไร"คือ ผมอยากให้หลันหลันอย่าบอกเรื่่องนี้กับใคร"พูดจบจางก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ"รู้ตัวมานานหรือยังว่าชอบ เอ่อ แบบนั้น"หลันหลันเริ่มอ่อนลง"ผมรู้ตัวที่นี
หลันหลันเคาะประตูเพียงครั้งเดียว จางก็เปิดประตูออกมาทันที และเขาก็มีสีหน้าที่ผิดหวังที่ไม่ใช่ต้น"มองหาแฟนหรอ""ต้นมาเหรอ"จางถาม"เขาฝากกุญแจไว้"หลันหลันยื่นกุญแจรถให้จาง เขาจึงรับไว้"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ"จางเดินออกจากห้องรีบมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา"จะมองอะไรแค่เขาไม่เข้าห้องก็น่าบอกได้แล้วนะว่า เขาเลิกกับจางแล้ว"หลันหลันยักไหล่เหล่สายตามองจาง ในท่าทีเย้ยหยัน"ทำใจซะ คงคิดได้คบกับจางต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร "หลันหลันหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ"ไม่จริง"จางใช้ที่เสียงหนักแน่น แต่เริ่มแผ่วในช่วงท้าย"ทำไมจะไม่จริง จางก็ลองดูซิถ้าอีกสามวันเขาไม่มาหาจาง แสดงว่าเขาคงอยากเลิกกับจาง"เมื่อจางเจอหลันหลันย้ำ เขาถึงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางคิดไปว่าต้นคงกลับไปคบกับปรัชญ์เหมือนเดิม เพราะทั้งคู่เคยรักใคร่ต่อกันมาก่อนเขา"เขาคงคิดได้ล่ะมั้ง ถ้าอยู่กับจางก็แค่มีความสุขในไทย แต่ไม่สามารถไปที่อันเจียได้ จางก็รู้ดีนี่ ที่นั้นเขายังไม่ยอมรับเรื่องนี้ จางกล้าที่จะเผชิญความจริงเหรอ"หลี่่หลันหลันพยายามสังเกตสีหน้าของจาง ซึ่งก็เป็นผลดั่งที่เธอคาดไว้ หลันหลันจึงใส่ไฟต่อไม่พอแค่นี้"ถ้า
จางยังไม่สามารถลดอคติในใจที่มีต่อต้นกับปรัชญ์ได้ เขาจึงมองไม่เห็นในข้อนี้"มันเป็นเรื่องของผมคุณจะมายุ่งอะไรด้วย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย"ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ที่มาก็เพราะต้นไม่ใช่คุณ"คิมพยายามสงบจิตใจให้แน่นิ่ง"นั่นไงคุณยอมรับมาแล้ว ว่ายังคิดอะไรกับต้นอยู่"จางมองหน้าคิมด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ"คุณนี่มันพาลจริงๆ แถมเมาอีกด้วยผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว""ไม่อยากคุยหรือพูดแทงใจดำ ถึงผมจะมีปัญหากับต้น คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเป็นห่วงต้นสงสารต้น เพราะยังไม่ได้เลิกกันสักหน่อย""ตามสบาย"คิมพูดได้แค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่มีสิทธิ์ข้อนี้"ฝากบอกต้นด้วยให้มาหาผม ถ้าไม่มาอีกสองวันผมจะกลับอันเจีย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งอยู่"ทำไมไม่ไปบอกเอง"คิมพูดขึ้น"เรื่องของผม คุณไม่ต้องรู้"จางอยากพิสูจน์ใจของต้น เขาต้องการรู้ว่าต้นจะยังรักเขาอยู่ไหม ถ้าเกิดต้นไม่มาแสดงว่าต้นหมดรักเขาแล้ว จางคิดไปไกลถึงขั้นนั้นทีเดียว"ผมไม่บอกหรอก ดีผมจะได้จีบต้นต่อถ้าเลิกกับคุณ"คิมยิ้มเยาะ"คุณนี่มัน ออกไปจากห้องผมเลย"จางชี้มือไปที่ประตูห้อง"ผมไปแน่ แล้วจะไปหาต้นด้วย ปล่อยให้คุณเมาเหล้าอยู่อย่างนี้แหล่ะ"พูดจบคิมก็เดิน
ริโอ้ได้มาส่งซองที่โรงแรม เมื่อมาถึงในห้องนอนที่แสนจะชวนทำอะไรบางอย่าง"ดึกมากแล้วน่ะ ริโอ้กลับไปก่อนเถอะ"ซองแกล้งทั้งที่ใจอยากให้อยู่ เพราะซองเปิดใจให้ริโอ้เมื่อไม่นาน ยิ่งเห็นความจริงใจของริโอ้ที่มีต่อต้น จนเขารู้สึกอิจฉาในบางครั้ง แต่ถ้าได้คบกับต้นในฐานะคนรัก ริโอ้คงจะดูแลดีขนาดไหน ซองนั่งคิดฝันหวาน"ก็ได้ผมกลับแล้วนะ"ริโอ้รู้สีึกโกรธ ใจจริงเขาอยากนอนที่นี่"อยากกลับก็กลับไปเลยไม่ต้องมาอีกนะ"ซองรู้สึกโมโห หวังจะให้ริโอ้มายอกล้อให้คลายอารมณ์เครียดที่ริโอ้พูดเช่นนั้น เพราะเขายังกังวลใจ ในเรื่องของต้นอยู่มากพอสมควร เขาจึงไม่มีอารมณ์ที่จะมาพูดเล่น แต่ถ้าทำบางสิ่งเขาก็ไม่มีปัญหา"ก็ได้ ริโอ้กลับแล้ว" ริโอ้รีบเดินไปที่ประตูอย่างอารมณ์เสียซองเห็นริโอ้โกรธและไม่มีอารมณ์หยอกล้อคุยเล่น เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาริโอ้ แล้วกอดเอวไว้แนบกายอย่างแนบสนิท"ปล่อยริโอ้นะ จะกลับแล้ว ไม่อยู่ให้ขวางหูขวางตาหรอก"ริโอ้พยายามแกะมือของซองออก โดยใช้แรงเพียงนิดหน่อย เพราะเขามีความรู้สึกที่แปลกในจิตใจและร่างกาย ที่ไม่อยากไปจากที่นี่"อย่าไปนะ ซองขอโทษ ซองล้อเล่น"ซองรัดอ้อมกอดไว้แน่น เพราะกลัวริโอ้จะไปจริงๆใน
"แล้วเรื่องของจางต้นจะทำอย่างไร"คิมถาม เพื่ออยากรู้คำตอบและจะได้สานรอยร้าวให้สมานดังเดิ่ม และนี่เป็นโอกาสของเขาเอง ที่เขาต้องไขว่คว้าไว้หลังจากแพ้ทางรัก ให้แกจางในครั้งที่แล้ว"ต้นย้งไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี" ใจหนึ่งต้นอยากจะไปหาเจาง เพราะเขาก็ยังรักจางอยู่ไม่เปลื่ยนแปลง แต่อีกใจหนึ่งเขาเริ่มท้อกับปัญหาที่ตามมาไม่หยุดหย่อน พร้อมกับปัญหาที่จิตใจของจางที่ไม่มั่นคงเหมือนคิม"จะไม่ไปหาจางแล้วเหรอครับ"คิมลุ้นคำตอบที่จะได้รับฟัง ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกออกมาชัดเจน"คงไม่ไปแล้วแหล่ะ เพราะไม่เห็นจางโทรมาเลย"ต้นรู้สึกเสียใจ เพราะส่วนหนึ่ง ใจของเขาอยากให้จางโทรมา เพียงแค่นี้เขาก็จะไปหาจางทันที แต่ก็รอมาร่วมสองวันยังไร้วี่แววของจาง"คิดว่าทำใจได้แล้วใช่ไหม"คิมถาม"คงยังไม่ได้หรอก ถ้านานไปคงจะทำใด้เอง"ต้นรู้สึกใจหายวับหลังจากได้ยินคำถามนี้ ที่แสนจะแทงใจเขาจนสุดขั้ว"ไม่ว่าต้นจะตัดสินใจอย่างไร โยฮันยินดีอยู่เป็นเพื่อน และพร้อมดูแลต้นตลอดไป"คิมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วจ้องมองหน้าของต้นอย่างเว้าวอน ให้เห็นใจความรักที่เขามีให้ต้น"ขอบใจนะโยฮัน ต้นเข้าใจดีทุกอย่าง แต่ตอนนนี้ต้นขอเวลาให้กับตัวเองซักระยะ"ต้นห