แชร์

แฟนเก่าแฟนใหม่

เสียงเคาะประตูดังขึ้น จางรู้สึกยากที่จะไปเปิดประตู ไม่ว่าจะเป็นหลันหลันหรือต้น เขาก็รู้สึกจะรับในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นจางก็หาหลีกเลี่ยงได้ เขาจึงแง้มประตูเปิดออกอย่างลุ้น แล้วชะงักงันชั่วครู่

“เป็นอะไรจาง”ต้นสงสัยในท่าทีที่แปลกไป ทั้งหน้าตาที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก

“จางรักต้น”จางจับร่างของต้นดึงมาในอ้อมกอด

“จาง”ต้นงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่จางทำอย่างกะทันกัน

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ต้นสัญญากับผมได้ไหมว่าจะไม่โกรธผม”จางดันร่างต้นออกห่างแล้วมองหน้าต้นด้วยสายตาแห่งความหวัง

ต้นสับสนจิตใจยังไม่สามารถสัญญาได้ในทันที

“จางบอกต้นก่อนได้ไหมมันเรื่องอะไร”

“เรื่องมันยาวรับปากจางก่อนนะ”

จางดึงร่างต้นเข้ามากอดอีดครั้งตรงหน้าประตู เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก็พบกับหลันหลันยืนมองดูด้วยสีหน้าหลากหลายอารมณ์ ที่ไม่สามารถบ่งบอกได้ทั้งตกใจ ประหลาดใจ ผิดหวัง เป็นห้วงลึกของจิตใจของหลันหลัน

จางนั้นพอเห็นหลันหลัน เขาถึงกับตะลึง ร่างกายชาชั่วขณะทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่นานเขาก็ดึงสติกับมาดันร่างของต้นออกห่าง

ต้นแปลกใจพฤติกรรมของจาง จึงมองหน้าเขาเพื่อให้คลายสงสัย แต่สิ่งที่ต้นเห็นนั้นคือสายตามองไปที่ข้างหลังเขาอย่างไม่กระพริบตา ต้นจึงรีบหันหลังไปดูตามสายตาของจาง

เมื่อต้นหันไปก็ไม่ได้เแปลกใจอะไร ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนมองมา ในความคิดของต้นผู้หญิงคนนั้นแค่อาจแปลกใจที่ผู้ชายยืนกอดกัน

แต่ความคิดนั้นเริ่มเปลื่ยนไปทันทีที่หลันหลันเดินเข้ามาใกล้ๆจนประจันหน้า

“ผู้ชายคนนี้หรอแฟนจาง”หลันหลันในใจอยากให้ปฏิเสธ แต่คงป็นไปไม่ได้ เพราะเธอได้ยินชัด “จางรักต้น”เธออยากให้ต้นปฎิเสธ

ช่วงเวลาที่จางที่ต้องเลือกจะพูดความจริงหรือปฏิเสธ

ต้นก็ลุ้นว่าจางจะพูดตามความรู้สึกของตัวเองไหม

จางนิ่งชั่วครู่ เขาจึงตัดสินใจที่จะบอกตามความรู้สึก ถึงแม้ถ้าเขากลับอันเจียทุกคนจะรู้ว่าเขาชอบผู้ชายด้วยกัน แต่นั่นมันยังเทียบไม่ได้ดับความรักที่จางมีให้ต้น

“ใช่ครับ ต้นเป็นแฟนจาง”จางโอบเอวต้นแล้วดึงมาไว้ข้างตัว

หลันหลันตกใจขึ้นเป็นเท่าตัว เธอรับไม่ได้เมื่อนึกถึงความรู้สึก ความรักที่เธอเคยมีให้กับจาง หลันหลันไม่เคยรังเกียจชายรักชายออกจะชอบด้วยซ้ำ แต่นี่มันเกิดขึ้นกับคนที่เธอเคยรักแอบปันใจให้ชายอื่น หลันหลันรู้สึกเสียหน้า ด้วยความเป็นคุณหนูเธอไม่วันยอม

“ยินดีด้วยที่ค้นคบตัวตนที่แท้จริง โชคดี แล้วเจอกันที่อันเจีย”คำพูดเหมือนยินดี แต่แฝงไว้ด้วยความอาฆาต

หลันหลันใช้ปลายสายตามองจางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วกระพริบตาเฉิดหน้าขึ้นหันหลังกลับเดินไปที่ห้องตัวเอง

ต้นสามารถคาดเดาได้ว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นแฟนเก่าของจาง ถึงทั้งสองจะพูดภาษาอันเจียกัน แต่อากัปกิริยาบ่งบอกไปในทางที่ต้นคิด

“เดี๋ยวผมจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง เราเข้าไปคุยกันในห้อง”จางเปลื่ยนจากกอดเอวมาจับมือต้น แล้วพาเดินเข้าไปในห้องด้วยสองอารมณ์สองความรู้สึก

จางพาต้นมานั่งที่เก้าอี้ พร้อมรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความเศร้า ส่วนต้นนั้นรู้สึกสงสารจางจับใจ แต่ก็แอบปลื้มใจที่เขายอมรับตัวตนที่แท้จริง

"ไม่ต้องเล่าอะไรหรอกนะต้นเข้าใจ ไม่ต้องห่วงเรื่องของต้นหรอก"ต้นจับมือจางไว้แน่น

ตอนนี้จางไม่ได้เป็นห่วงเรื่องของต้นแล้ว แต่เป็นห่วงเรื่องทางบ้านที่ทำงานเขามากว่า จางคิดว่าหลันหลันคงต้องเอาเรื่องของเขาไปบอกแน่ๆ ถึงเขาจะยอมรับตัวตนได้แต่คนรอบข้างของเขาคงรับไม่ได้แน่ๆ

ต้นเข้าใจความรู้สึกนี้ดีเขาจึงพยายามปลอบโยน ให้กำลังใจในการต่อสู้อุปสรรคความขัดแย้งทางความคิด

"ขอบใจต้นมากนะที่เข้าใจผม"

"เราเป็นแฟนกันแล้วนี่ก็ต้องคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกันอยู่แล้ว"รอยยิ้มที่ต้นยิ้มให้จางทำให้เขาได้กำลังใจมากขึ้นไปอีก เพื่อที่จะสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จางดึงร่างของต้นมากอดไว้แน่น เขารู้สึกดีใจที่เลือกคนไม่ผิด ต้นก็คิดเช่นเดียวกัน นอกจากปลอบใจจางแล้ว ต้นอยากนวดศีรษะให้จาง เพื่อจะได้คลายความเครียดลงได้บ้าง

“เดี๋ยวต้นจะนวดให้จางนะไปตรงที่เตียงนอนกันเถอะ”

จางคลายกอดต้นแล้วยิ้มด้วยความปลื้มปิติ ก่อนที่จะเดินไปที่เตียงนอน

ต้นให้จางนอนตักและเขาได้นวดศีรษะให้จาง ใช้นิ้วมือกดที่ศีรษะเบาๆแล้วหมุนนิ้วทั่วบริเวณ เพื่อที่จะให้จางคลายความตึงเครียด ได้ผ่อนคลายสบายใจมากขึ้น ต้นกำลังเพลิดเพลินที่สามารถทำให้จางมีความสุขได้ และได้หลับไปในที่สุดแต่ก็ใช้เวลานานพอสมควร

แต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขาจึงกดรับเพราะเป็นสายโทรเข้าของกันเจ้าของร้านนวด

“อยู่ไหนต้นมาช่วยพี่ทำงานหน่อยลูกค้าเยอะมาก พี่หาหมอนวดไมทัน”

“ครับ”

เสียงโทรศัพท์มือถือดังพอสมควรแต่จางก็ไม่มีทีท่าจะตื่น ต้นจึงค่อยๆขยับศีรษะของจางยกสูงขึ้นและเขาค่อยๆเลื่อนขาออกจากศีรษะ หลังจากนั้นจึงวางศีรษะจางไว้ที่หมอน

ก่อนที่ต้นจะไปได้ก้มลงหอมแก้มจาง แล้วมองชั่วครู่ด้วยความสงสารก่อนที่จะออกจากห้องไป

ริโอ้มาส่งซองที่โรงแรม ด้วยท่าทีที่ซองดูเศร้า ริโอ้จึงไม่สามารถที่จะกลับไปได้ เขาจึงอยู่เป็นเพื่อนซองที่โรงแรม ในขณเดียวกันซองก็ขอร้องให้อยู่ต่อ เพราะรู้สึกเคว้งคว้างจนจะรับไหว

"ริโอ้ อยู่เป็นเพื่อนซองนานๆได้ไหม"สายตาของซองมีความเว้าวอนขอความเห็นใจ

"ที่ริโอ้ขึ้นมากับซองก็จะอยู่เป็นเพื่อนซองนี่แหล่ะ"

"จริงหรอ นึกว่าอยากได้ซอง”ซองแกล้งแซวเพราะรู้สึกดีใจเป็นอันมาก

"ริโอ้กลับแล้วนะ"ริโอ้มีทีท่าน้อยใจ พร้อมกำลังจะเดินไปเปิดประตู

"หยุดก่อน ริโอ้ ซองพูดเล่น”ซองดึงมือริโอ้ไว้

"ล้อเล่นแบบนี้ริโอ้ไม่ชอบ”ริโอ้สบัดมือซอง

"ซองขอโทษ”ซองเดินเข้ามาใกล้ริโอ้มากขึ้น

ริโอ้รู้สึกสงสารซองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาจึงใจอ่อนเมื่อเจอลูกอ้อนของซอง ริโอ้จึงหันหลังกลับมามองซอง

"ก็ได้ ริโอ้จะอยู่เป็นเพื่อน"

ซองมองหน้าริโอ้ พร้อมความรู้สึกที่เริ่มเปลื่ยนไปพอสมควร ซองริ่มมีความรู้สึกดีดีขึ้นบ้างกับริโอ้ ด้วยความเอาใจใส่ตัวซองในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ในส่วนริโอ้นั้นเกือบให้หมดทั้งใจ แม้ปันจะเข้ามาในใจบางครั้ง ด้วยความชอบโปเกียเป็นที่ตั้งมาเนิ่นนาน พอเจอซองจึงเอียงเอนมาพอสมควร

"เรามาคุยกันเรื่องคืนก่อนนั้นดีกว่า”ริโอ้จำได้มาทันทีที่ได้มองตาซอง สายตาที่เย้ายวนจิตใจองเขาอย่างมาก

"เรื่องอะไร”ซองเอียงคอนิดหลบตาริโอ้แล้วครุ่นคิด

"ก็เรื่องคืนก่อนที่เราตกลงว่าจะลองคบกันไง"ริโอ้ยิ้มกรุ่มกริ่ม

"ซองจำไม่ได้ซองเมา"ซองเริ่มเขิน

"แต่ผมจำไม่ลืม”ทั้งที่ความจริงก่อนหน้านั้นยังปฏิสเธอยู่เลย

“เราจะเป็นแฟนกันจริงๆใช่ไหม”ซองแกล้งพูด เพราะอยู่ใกล้ๆกับริโอ้เขามีความรู้สึกสนุกกว่าอยู่กับคิม เลยอยากลองดูเผื่อจะได้ลืมคิม

“ถ้าซองยอมริโอ้ก็ไม่ปฏิเสธ”ริโอ้เดินเข้าไปหาซอง

ซองเดินนถอยหลังทีละก้าวอย่างช้าๅ ริโอ้ก็เดินเข้าหาทีละก้าวเช่นกัน จนซองเดินมาชนขอบเตียงแล้วเซลงบนที่นอน ริโอ้จึงหยุดตรงหน้าซองใช้สองมือยันที่นอน พร้อมโน้มร่างลงอย่างช้าๆ แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ริโอ้จึงหยุดทันทีเขาจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าดึงโทรศัพท์มือถือออกมากดรับ

“ฮัลโหล”

“ริโอ้มาที่ร้านด่วนลูกค้าเต็มร้านแล้ว”เสียงกันเจ้าของร้านดังใส่หูริโอ้อย่างดัง

“มีเรื่องทุกทีตอนเข้าได้เข้าเข็ม”ริโอ้รู้สึกหงุดหงิดอีกแล้ว

“มีอะไรหรอ”ซองมีสีหน้าสงสัย

“ริโอ้ต้องไปทำงานลูกค้าเยอะ”ริโอ้ถอนหายใจ แล้วทันใดนั้นเขาก็ขโมยจูบซองหนึ่งที่

“ฮื้อ”ซองส่งเสียงแผ่วเบา

“ผมไปแล้วนะ ถ้าเลิกงานแล้วผมจะกลับมา

ริโอ้รีบออกจากโรงแรมของซองด้วยความเสียดายอีกตามเคย

ปันนั่งนอวดฝรั่งโมย่าอย่างมีความสุข เพราะวันนี้โมย่านวดรวดเดียวสามชั่วโมง นอกจากได้ชั่วโมงเยอะแล้ว เขายังมีความสุขและความรู้สึกดีดี กับโมย่าเพิ่มมากขึ้นทีละน้อย ในขณะที่ปันกำลังมีความสุขในการนวดให้กับคนที่รู้สึกดีๆนั้น ริโอ้ได้เดินผ่านเตียงของเขาและยิ้มให้ ปันแอบชำเลือด้วยปลายสายตา

ด้วยความขี้เล่นของริโอ้เลยพูดเสียงแผ่วข้างๆ

"ถูกใจใช่เลย”แล้วเขาก็รีบเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ปันไม่สนนวดต่อ ส่วนความรู้สึกชั่ววูบกับริโอ้เริ่มจางหายไปพอสมควร หลังจากริโอ้ห่างหายเพื่ิอไปดูแลซอง

หลังจากนั้นไม่นานต้นก็ตามเข้ามาติดๆ แต่คราวนี้ปันยิ้มให้อย่างยินดี แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันด้วยความที่ลูกค้าเยอะมาก ในขณะเดียวกัน นนท์แฟนใหม่ของปรัชญ์ที่ป็นแฟนเก่าของต้นก็มารับงานที่นี่ด้วย แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันจนหมดลูกค้า

หลังร้านปิดเหลือเพียงสองคนทสุดท้าย เมื่อเสร็จงานจึงไม่สามารถหลีกเลียงการเผชิญหน้ากันได้

ในขณที่ต้นกำลังจะขับรถมอเตอร์ไซค์เช่าของจางกลับโรงแรม นนท์ก็รีบเดินมาจนประชิดตัว

จนต้นต้องหันมามองด้วยความกลัวว่าจะโดนทำร้าย เพราะเหลือเพียงสองคนเท่านั้น

"มีอะไรพี่นนท์”ต้นทำใจสู้เสือพร้อมจะสู้ทั้งวาจาและกำลัง

"เดี๋ยวนี้สบายเนาะมีคนเช่ารถให้ขับ”นนท์ปาดสายตามองมอเตอร์ไซต์ของต้น

"ถ้าพี่นนท์จะพูดเรื่องไร้สาระต้นก็จะกลับแล้วนะ”

"เดี๋ยวก่อน"

"มีอะไร"

"เรื่องปรัชญ์"

พอได้ยินชื่อนี้ต้นถึงกับหยุดนิ่ง ไม่ใช่อยากรู้เรื่อง แต่ไม่อยากได้ยินมากกว่า

"ช่วงนี้เขาแย่นะ โดนซ้อมแล้วก็ป่วยด้วย”นนท์มีสีหน้าเศร้าด้วยการแสดง เพราะอยากให้ต้นไปเยื่อม เขาจะได้ผลักภาระให้ต้นอีกครั้ง

"แล้วไง"ต้นยักไหล่แสดงออกชัดเจนว่าไม่สนในปรัชญ์แล้ว

"ก็แค่บอกให้รู้เท่านั้น เผื่อมียื่อใยกันอยู่"

"โอ๊ยพี่ ต้นเเลิกรักปรัชญ์นานแล้ว ต้นมีแฟนใหม่แล้ว ชีวิตเราต้องเดินหน้า ไม่มัวมาจมปลักกับผู้ชายห่วยๆหรอก”ต้นหัวเราะหึๆๆด้วยความสะใจ

"ต้นลืมเขาได้จริงๆหรอ"

"ใช่ คนไม่ดีจำทำไม ว่าแต่พี่เถอะห่วงตัวเองดีกว่า ต้นไปล่ะ"ต้นพูดกระแทกจนกระทบจิตใจนนท์อย่างจัง

"อย่าพึ่งไป พี่มีเรื่องจะถาม พี่จะไม่ทน มีคำแนะนำให้พี่ไหม"ดวงตาของนนท์มีน้ำคลอออกมา คราวนี้ไม่ได้แสดงแต่เป็นความจริง เพราะสิ่งที่นนท์เจอไม่ได้ต่างกับต้นแม้แต่น้อย

ต้นเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกอดสงสารไม่ได้ เพราะห้วงเวลาหนึ่งเขาก็เคยเจอ

“ไม่รู้จะแนะนำอะไร เพราะเขาหนีไปจากต้นเองซึ่งตอนนั้นต้นก็รักเขาอยู่"

"แล้วทำไมเขาถึงหนีต้นล่ะ”สายตาของนนท์มีประกายแห่งความหวังขึ้นมาทันที

"ช่วงนั้นต้น ไม่มีเงินตกงาน มีแต่ตัวที่ให้เขาได้ ต้นบอกได้แค่นี้แหล่ะ ต้นไปแล้วนะ"พูดจบต้นสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ออกไปในทันที โดยไม่สนใจนนท์แม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ต้นเป็นห่วงจางเพียงคนเดียว

นนท์มองต้นขับรถไปจนลับสายตา แล้วก็มีความหวังขึ้นมาทันที แต่ไม่ใช่เรื่องไม่มีเงินตกงาน ในทางกลับกันในเมื่อเดี๋ยวนี้ต้นมีเงิน นนท์จึงคิดแผนการณ์ร้ายได้ในทันที

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status