คุณหมอหนุ่มแอบรักเด็กหนุ่มวัยมัธยม แต่ยังไม่กล้าทำอะไรเพราะน้องยังเด็ก รอให้โตก่อนเถอะ ค่อยๆ เลี้ยงไว้ทีละนิดค่ะ “พี่หมออย่าเปลี่ยนเรื่อง ตอบผมมาก่อนว่าชอบไหม” “อือ ชอบ” “ก็แค่นั้น” “อะไรก็แค่นั้น” “ก็แค่พูดว่าชอบ มันไม่เห็นอยากตรงไหน” “หวาน ขอกินอีกได้ไหม” “กินช็อกแลตหรือกินผม” ถามออกไปแล้วก็หน้าแดงลามไปถึงใบหู “ใครสอนให้พูดแบบนี้” “ไม่มีใครสอน แค่พูดเพราะอยากพูด” “อย่าพูดกับใครอีก” “แล้วถ้าพูดกับพี่หมอได้ไหมครับ” “พูดแล้วก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองพูด คิดว่ารับผิดชอบได้ไหม” “คิดว่าได้” “งั้นก็ต้องพิสูจน์” “ผมก็รออยู่” “ยั่วดีนัก”
Lihat lebih banyakอคิราห์ไปส่งไทธัชเสร็จแล้วก็กลับมาที่คอนโด ขณะกำลังเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นก็เห็นไอแพดที่อีกคนลืมไว้เขาถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู ก็เห็นข้อความที่เพื่อนของไทธัชส่งเข้ามาหลังจากอ่านแล้วก็รู้สึกกังวลเพราะดูเหมือนว่าตอนนี้ไทธัชกำลังถูกคนในคณะเข้าใจผิด เนื่องจากมีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาพูดทำนองว่าไทธัชเป็นเกย์และตอนนี้กำลังมีเสี่ยใหญ่คนหนึ่งคอยช่วยเหลือเรื่องการเงินอยู่อคิราห์เปิดเข้าไปตามลิงค์ต้นเรื่องก็เห็นคนมาแสดงความคิดเห็นต่อจากเจ้าของโพสต์กันสนุกปาก บ้างก็ว่าเสี่ยที่ดูแลไทธัชอยู่นั้นภรรยาอยู่แล้ว บ้างก็ว่าไทธัชทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินก้อนโต แต่ทำให้อคิราห์โมโหที่สุดก็คือคนที่บอกว่าเสี่ยของไทธัชนั้นทั้งแก่ทั้งอ้วนและยังหัวล้านอีกด้วยแต่ก็มีบางความคิดเห็นที่บอกว่าเป็นเกย์ไม่ผิด แต่ผิดที่ไม่รู้จักเลือกคนให้ดี ๆ หน่อยไม่ใช่เห็นแก่เงินจนลืมนึกถึงหน้าตาและอายุ แม้จะมีหลายคนบอกว่าไทธัชไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะเคยเห็นแฟนของไทธัชแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเท่าไหร่ เพราะน้อยคนนักที่จะได้เห็นไทธัชกับแฟนอยู่ด้วยกันอคิราห์ไม่รู้ว่าไทธัชเห็นโพสต์นี้แล้วจะเป็นยังไงบ้างชายหนุ่มรีบโทรไปถามเพราะกลัวว่าอีกคนจะรู
หลังเลิกเรียนอคิราห์ก็มารับไทธัชตามที่นัดไว้ พอชายหนุ่มเห็นรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาก็รีบเดินไปขึ้นรถทันที“รอพี่นานไหม” อคิราห์ถามพร้อมกับยื่นชาเขียวให้กับคนรัก“ขอบคุณครับ รอไม่นานเพิ่งลงมาไม่ถึงห้านาที”รถเคลื่อนออกมาได้สักระยะไทธัชก็ถามขึ้น“พี่ซันทำไมไม่บอกผมเรื่องเงิน 25 ล้าน”“พี่นึกว่าแม่บอกไทแล้วนะ เพราะตอนนั้นพี่ไม่ได้อยู่เมืองไทย”“อยู่ที่ไหนก็บอกได้เหมือนกันนะครับ ผมว่าพี่ตั้งใจปิดมากกว่า”“พี่จะปิดได้ยังไง นั่นมันบัญชีของไทนะ”“แต่ก็น่าจะบอกรู้ไหม ว่าเอาเงินนั้นไปฝากประจำจะได้ดอกเบี้ยเยอะเลย”“ที่ผ่านมาไม่เคยเอาสมุดบัญชีไปปรับเลยใช่ไหม”“ครับ บัญชีนี้ไม่มีในแอปธนาคารด้วยก็เลยไม่รู้ว่ามีเงินเข้า พอดีวันนี้คุณธีรธรเขาโอนเงินค่ามัดจำเขาก็เลยลองเอาไปปรับดู”“พี่อยากให้ไทเก็บไว้ใช้จ่าย”“ไม่หรอกครับ ผมว่าจะขออนุญาตเอาไปเปิดบัญชีฝากประจำได้ไหมครับ ถ้าได้ดอกเบี้ยค่อยเอามาใช้”“จะขอพี่ทำไท นั้นเงินของไท”“แต่แม่พี่บอกว่าให้พี่ แต่พี่ยกให้ผม”“นั้นไง ก็ยกให้แล้ว ไทจะเอาไปทำอะไรก็ได”“ขอบคุณนะครับ เงินมากขนาดนั้นทั้งชาติผมคงไม่มีโอกาสหาได้”“บอกแล้วไงไทเป็นเด็กดี มีอะไรที่พี่ให้ได้พี่
ไทธัชถูกประคองเดินมาที่เตียงในเวลาเกือบตีสอง ขาเขาสั่นจนแทบเดินไม่ไหว แต่ก็ไม่อยากให้อคิราห์อุ้ม เพราะดูแล้วอีกคนก็หมดแรงไม่ต่างจากตัวเองมากนักจากที่คิดจะไปอาบน้ำให้สดชื่น แต่คนพี่ก็อาสาเป็นคนทำความสะอาดช่องทางรักที่เต็มไปด้วยน้ำสีขาวขุ่น แต่เพราะคนทำความสะอาดช่ำชองจนเกินไปไทธัชจึงตื่นตัวอีกครั้งและบทรักก็บรรเลงใต้ฝักบัวอยู่อีกเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนทั้งสองจะปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองถึงจุดสุดยอดไปกี่ครั้ง รู้แต่ทุกครั้งมันเต็มไปด้วยความสุข อคิราห์ส่งผ่านความรักความคิดถึงผ่านทุกสัมผัสจนไทธัชลืมเรื่องน้อยใจไปจนหมดสิ้น“ไทครับ เรียนกี่โมงนะ”“สิบโมงครับ ตอนนี้กี่โมงแล้ว” ไทธัชยังไม่ยอมออกจากผ้าห่ม เขายังคงกอดอคิราห์ไว้อย่างนั้น กลัวเหลือเกินว่าที่ผ่านมาเมื่อคืนมันจะเป็นเพียงความฝัน“แปดโมงครับ นอนต่ออีกหน่อยก็ได้ เดี๋ยววันนี้พี่ขับรถไปส่ง”“ผมไปเองได้ครับ นั่งรถไฟฟ้าไปแป๊บเดียวก็ถึงหรือโหนรถเมล์ไปก็ได้”“อย่าดื้อครับ ลองลุกมาก่อนไหม แล้วลองเดินดูว่าตัวเองจะเดินขึ้นบันไดสถานีรถไฟฟ้าได้ไหมหรือจะยืนเบียดคนอื่นบนรถเมล์ไหวไหม” อคิราห์มองคนที่นอนจมอยู่บนเตียงนอนแล้วก็รู้สึกสงสา
ก่อนกลับคอนโดไทธัชไลน์ไปถามอคิราห์ว่าเย็นนี้เขาจะทานอะไรแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่อ่าน ชายหนุ่มเลยแวะซื้อข้าวสวยและกับข้าวที่อคิราห์ชอบกลับไปด้วยเขากลับมาถึงห้องก็ปิดไฟมืด เขาคิดว่าอคิราห์คงนอนอยู่ที่ห้องนอนเล็กเหมือนเดิม แต่เปิดเข้าไปห้องก็ว่างเปล่า ไทธัชเริ่มกังวลหรือว่าภาพเหตุการณ์เมื่อเช้าเป็นสิ่งที่เขาคิดไปเอง ชายหนุ่มรีบเดินมาดูที่ห้องนอนใหญ่แล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคืออคิราห์จริงไทธัชไม่อยากกวนเวลานอนจึงกลับมาอาบน้ำที่ห้องของตัวเอง คิดว่าให้อคิราห์นอนต่อ แต่ก็ทนใจแข็งได้ไม่นานเพราะอยากพูดคุยกับเขาให้หายคิดถึงชายหนุ่มเปิดเข้าไปในห้องอีกครั้งก็ไม่คนที่นอนอยู่เมื่อครู่ เขาได้ยินเสียงอาบน้ำ จึงรีบออกมาเตรียมอาหารไว้รอพอทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินไปตามอคิราห์อีกครั้งก๊อก ก๊อก ก๊อก“พี่ซันครับ ผมเข้าไปได้ไหม”เงียบ..“ผมเข้าไปแล้วนะ”ไทธัชถามอีกครั้งแต่คนในห้องก็ยังไม่ตอบ เขาจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ออกจากห้องน้ำก็เลยนั่งรออยู่บนเตียง“ผมมาตามไปกินข้าวครับ ผมไปรอข้างนอกนะครับ” ไทธัชรีบบอกเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ“ทำไมต้องไปรอข้างนอก ไหนว่าคิดถึง
ไทธัชรู้สึกว่าเวลาของตัวเองจะเดินช้ากว่าของคนอื่น ตั้งแต่ปีใหม่ครั้งนั้นอคิราห์ก็ยังไม่กลับมาเมืองไทยเลยสักครั้ง เขารู้ว่าอีกคนยุ่งทั้งเรียนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ปีใหม่ครั้งที่ผ่านมาเขาต้องนอนร้องไห้อยู่คอนโดเพราะคิดถึงความทรงจำที่เคยมีด้วยกันกับคนรัก ไหนจะช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมาถึงสองครั้งเขาก็เคยได้มีโอกาสฉลอง มีแต่ของขวัญที่ส่งมาทั้งปีใหม่ วาเลนไทน์รวมไปถึงวันเกิด แต่ใครบอกว่าเขาอยากได้ของขวัญมีราคาพวกนั้นแม้จะวิดีโอคอลคุยกันทุกวัน บอกรักกันทุกวันแต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับอ้อมกอดที่อบอุ่นของผู้ที่ชื่ออคิราห์เลยสักนิด“ไท เหนื่อยเหรอท่าทางไม่ดีเลย”“นิดหน่อยครับ วันนี้มีกิจกรรมรับน้องผมเป็นพี่ปีสามก็เลยเหนื่อยหน่อย พี่ซันล่ะครับ ดูเหมือนช่วงนี้จะร่าเริงเป็นพิเศษนะครับ มีอะไรดีหรือเปล่า”“ก็แค่วันนี้อาจารย์ให้พี่ได้ลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างแล้วพี่ก็ทำออกมาได้ดี”“พี่ซันเก่งอยู่แล้ว ผมว่าถ้ากลับมาครั้งนี้คงยุ่งจนไม่มีเวลาให้ผมแน่ ๆ เลย”“ถ้ากลับไปพี่คงพักสักระยะแล้วค่อยเริ่มงาน พี่จะให้เวลาไทเต็มที่เลยดีไหม”“อือ ถ้าพี่กลับมาเราไปเที่ยวทะเลกันไหมครับ ผมอยากพาแม่กับยายไ
หลังจากที่ส่งหลักฐานให้กับทนายแล้วไทธัชก็หมดหน้าที่ แต่เขาก็คอยติดตามความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาทางอคิราห์อยู่ทุกวันเรื่องหย่าจบไปตั้งแต่สัปดาห์แรก เพราะคุณตรีวุฒิกลัวว่าเรื่องที่เขาพาเด็กผู้ชายเข้ามานอนในบ้านจะรู้ถึงหูคนอื่น และจะทำให้เขาเสียชื่อเสียง เขาจ่ายค่าเลี้ยงดูคุณอรณีถึง 25 บาท แต่เขาไม่รู้เลยว่าหลังจากเซ็นใบหย่าแล้ว เรื่องราวมันจะรุนแรงขึ้นในแบบที่เขาแทบจะไม่มีที่ยืนในสังคมมารดาของอคิราห์ร้องไห้จนเป็นลมเมื่อทราบเรื่องที่ลูกชายโดนพ่อเลี้ยงกระทำชำเรา เธอโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ดูแลลูกไม่ดี และยังพาคนชั่วอย่างตรีวุฒิเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่เธอก็ไม่ได้โดดเดี่ยวเพราะได้คุณอรรณพอดีตสามีคอยอยู่ข้าง ๆพอตั้งสติได้คุณอรณีก็เข้มแข็งขึ้น เธอและคุณอรรณพนำคลิปหลักฐานที่นายตรีวุฒิทำกับลูกชาย ภาพถ่าย และคำขู่ที่ฝ่ายนั้นส่งมาคุกคามลูกชายของเขาให้กับตำรวจ เธอก็บอกให้จัดการทุกอย่างตามกฎหมายโดยไม่ต้องห่วงว่าเธอจะรู้สึกยังไง จะเสียชื่อเสียงไหม เธออยากให้ผู้ชายคนนั้นรับโทษจากการกระทำของตัวเองโดยเร็วที่สุดพอมีข่าวว่าตรีวุฒิถูกจับ ก็มีเด็กหนุ่มอีกหลายคนซึ่งตกเป็นเหยื่อทางอารมร์ของตรีวุฒิเข้ามาแจ้
ไทธัชตื่นนอนมาช่วยมารดาและยายตั้งแต่เช้า พอทั้งสองคนออกไปขายของชายหนุ่มก็รีบอาบน้ำแต่งตัวไปรับมารดาของอคิราห์ที่บ้าน เขาพาเธอไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งตามที่คุณอรรณพแนะนำพอไปถึงก็ต้องแปลกใจ เพราะตอนนี้บิดาของอคิราห์รออยู่ก่อนแล้ว เขามาพร้อมกับทนายความไทธัชยกมือไหว้ผู้อาวุโสทั้งสอง ก่อนเดินเลี่ยงออกไปอีกทางเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้คุยกัน หน้าที่ของเขาคือพาคุณอรณีมาส่งโรงพยาบาลเพราะหลังจากนั้นทนายความจะเป็นคนจัดการทั้งหมด แต่เขาจะยังกลับไม่ได้เพราะอคิราห์สั่งไว้ว่าจะต้องคอยดูแลไม่ให้บิดากับมารดาของเขาทะเลาะกันเองจนเสียเรื่อง“คุณสบายดีนะครับคุณอรณี”“ถ้าฉันสบายดีจะมาโรงพยาบาลไหมล่ะ ถามอะไรไม่คิด”คุณอรรณพไม่ได้ตอบเขาเพียงแต่ยิ้ม ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนคุณอรณีก็ยังไม่เปลี่ยน นิสัยชอบพูดประชดและชอบเอาชนะซึ่งเขาชินเสียแล้ว“ผมว่าเชิญทางนี้ดีกว่านะครับคุณผู้หญิง” คุณทนายรีบเชิญอดีตภรรยาของเจ้านายไปยังห้องตรวจพอคุณอรณีเดินไปกับทนายแล้วบิดาของอคิราห์ก็ชวนไทธัชคุย“ไท พ่อปรึกษาทนายเรื่องนั้นแล้วนะ”“ครับ เขาว่ายังไงบ้าง”“เขาแนะนำให้เราเอาข้อความที่คิวคุยกับเพื่อนให้ทางตำรวจดู จากนั้นตำรวจจะเรียกเขามาสอ
“ไม่ต้องเยอะหรอกครับยาย แม่พี่ซันเขากินคนเดียวนะครับ”“แล้วสามีเขาไม่กินด้วยเหรอ” ยายมาลัยรู้ว่ามารดาของหมออคิราห์นั้นเลิกกับบิดาของเขาแล้วอยู่กับสามีคนใหม่ที่บ้านหลังใหญ่“พี่ซันบอกว่าเขาไม่ค่อยกลับบ้านครับ”“เอาไปเผื่อหน่อยก็ดีนะไท เอาไปน้อยมันกูน่าเกลียด” มัทนาบอกลูกชาย“งั้นก็ได้ครับ ผมเอาไปให้เขาแล้วจะเอารถไปเก็บแล้วคืนนี้จะกลับมานอนที่บ้านนะครับแม่”“ได้สิ ว่าแต่มีตังเติมน้ำมันหรือเปล่า”“ไม่ต้องเติมหรอกครับ ตั้งแต่พี่ซันไปผมก็ไม่เคยขับไปไหน แต่พี่ซันเขาให้ช่วยขับสักอาทิตย์ละครับ ผมเลยคิดว่าจะขับไปที่บ้านเขา เพราะบ้านพี่ซันอยู่ในซอยลึกมาก”“ดีแล้วล่ะ ช่วยพี่เขาดูแลแม่ ดูแลรถ แล้วคอนโดก็อย่าลืมทำความสะอาด”“ครับแม่”ไทธัชขับรถมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ที่มารดาของอคิราห์อาศัยอยู่ รถเคลื่อนมาจอดหน้ารั้ว ประตูก็เปิดออกทันที ลุงสมคิดคงจะรออยู่แล้วเพราะก่อนเข้ามา เขาก็โทรมาบอกลุงไว้ว่าจะขับรถของอคิราห์มาที่บ้านไทธัชเคยเจอลุงสมคิดอยู่หลายครั้ง เพราะตอนที่อคิราห์ยังอยู่เมืองไทยเขาก็มักจะตามที่บ้านด้วยอยู่เสมอ“สวัสดีครับลุงผมซื้อผลไม้มาฝาก สบายดีไหมครับ” ไทธัชยกมือไว้ผู้อาวุโสพร้อมกับส่งถุง
อีกไม่กี่ชั่วโมงอคิราห์ก็จะต้องแยกจากคนรักอีกครั้ง แต่ความรู้สึกมันต่างจากครั้งก่อนมาก เพราะตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าอีกคนที่อยู่ทางนี้คิดยังไงจะรอเขาไหม แต่ครั้งนี้เขารู้ว่าไทธัชรอเขาอยู่ มันทำให้คุณหมอหนุ่มมีความมุ่งมั่นมากขึ้นและมีกำลังใจมากขึ้นเมื่อคืนเขากับไทธัชนอนคุยกันจนเกือบเช้า เขาแปลกใจไม่น้อยที่ตัวเองสามารถนอนคุยกับใครคนหนึ่งได้นานขนาดนั้น เขาชอบที่จะฟังอีกคนเล่าเรื่องราวในแต่ละวันที่ผ่านมา ไทธัชถามเขากลับบ้าง มันทำให้รู้สึกว่าต่างฝ่ายต่างพยายามเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกันมากขึ้น การได้นอนกอด ได้พูดคุยโดยไม่มีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้องมันอบอุ่นหัวใจจนแทบอยากจะหยุดเวลาเอาให้นานที่สุดเขาตื่นนอนตั้งแต่เช้าทำตัวเหมือนปกติ ชวนไทธัชทานข้าวจากนั้นก็ตรวจสอบทุกอย่างให้เรียบร้อยอีกครั้ง“พี่ซันครับ ผมจะปิดกระเป๋าแล้วจะเอาอะไรใส่อีกไหมครับ” ไทธัชมองกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ใส่ของไว้เพียงครึ่งก็ถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง“เอาตัวเองใส่ลงไปได้ไหมล่ะ”“ถ้ามันใส่ได้ผมก็คงลงไปตั้งนานแล้วครับ”“แต่ถ้าหั่นเป็นชิ้นก็คงใส่ได้พอดี”“กล้าหั่นเหรอครับ”“ตอนนี้ไม่กล้า แต่ในอนาคตไม่แน่นะครับ ถ้าไททำใ
เสียงร้องเพลงชาติดังไปทั่วทั้งบริเวณของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง แม้ว่าเด็กที่มาเรียนในวันนี้จะมีจำนวนเพียงครึ่งเดียวก็ตาม เนื่องจากเป็นวันสอบปลายภาคเรียนวันแรกชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่ง กำลังเดินขึ้นไปบนอาคารเรียนแห่งนี้ด้วยความคุ้นเคย แม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ความทรงจำก็ยังไม่จางหาย ภาพที่ตัวเองเคยวิ่งบนระเบียงอาคารจนถูกอาจารย์ดุอยู่เกือบทุกวันยังฉายชัด ขายาวก้าวไปตามระเบียงทางเดินชั้นสองซึ่งมีห้องเรียนเรียงอยู่นับสิบห้อง ก่อนจะหยุดที่หน้าล็อกเกอร์เก็บของที่อยู่ด้านในสุดของตัวอาคารมือเรียวยาวหยิบกุญแจหมายเลข 10 ขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตสีขาวราคาแพง จากนั้นไขกุญแจตามหมายเลขที่ตรงกับลูกกุญแจในมือของตัวเองด้านในล็อกเกอร์มีอุปกรณ์การเรียน หนังสือเรียน ของใช้ส่วนตัวอีกเล็กน้อย แต่ที่สะดุดตาก็คงจะเป็นรองเท้าผ้าใบราคาแพงที่เขาจำได้ว่าเพิ่งจะซื้อให้กับเจ้าของล็อกเกอร์นี้ได้ไม่ถึงเดือนชายหนุ่มเก็บทุกอย่างลงไปในลังกระดาษที่เตรียมมาด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องเป็นคนมาเก็บของออกจากล็อกเกอร์ของน้องชาย ในวันที่เจ้าตัวนั้นลาโลกไปแล้วพอตรวจสอบว่าไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่แล้วเขาก็ปิดล...
Komen