กาแฟแก้วเมื่อเช้ายังวางอยู่ที่เดิมตั้งแต่รับมาจากมือของไทธัชเมื่อเช้า ส่วนเจ้าของห้องนั้นยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัด
เมื่อเช้าอคิราห์จิบกาแฟไปไม่ถึงครึ่งแก้วก็ถูกตามตัวเข้าไปในห้องผ่าตัดเพราะต้องเข้าไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์หมอในการผ่าตัดเคสที่ค่อนข้างซับซ้อนและต้องใช้หมอศัลยกรรมหลายคนกว่าเขาจะออกมาจากห้องกาแฟแก้วนั้นก็เย็นชืดไปหมดแล้ว
แก้วกาแฟถูกยกขึ้นมาจิบแม้มันจะเย็นชืดแต่อคิราห์ก็ไม่คิดจะทิ้งเพราะกาแฟแก้วนี้ไทธัชเป็นคนเลี้ยง เขาจิบทีละนิดจนหมดแก้ว ขณะที่กำลังทิ้งแก้วเปล่าลงถังขยะก็เห็นว่าตรงปลอกแก้วมีอะไรเขียนอยู่
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหลอเหลาของคุณหมอวัยเกือบจะสามสิบปีเมื่อเห็นข้อความ
พี่ซันสู้ๆ
ด้านหลังข้อความยังมีรูปดวงอาทิตย์กับรูปชูนิ้วมือสองนิ้ววาดด้วยปากกาทำให้คนมองรู้สึกมีกำลังใจในการทำงานขึ้นอีกมาก
เขาถึงปลอกแก้วออกมาเก็บไว้ในลิ้นชักแล้วทิ้งแค่เพียงแก้วลงไปในถังขยะ
พอได้รับกำลังใจมาแล้วอคิราห์ก็มีแรงเริ่มต้นทำงานในตอนบ่ายอีกครั้ง
กว่าจะได้กลับไปยังคอนโดก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว อคิราห์สั่งอาหารเย็นยังแอปพลิเคชั่นสีเขียวให้ไปส่งที่คอนโด เพราะขี้เกียจจะแวะซื้อ
ชีวิตประจำวันของอคิราห์วนเวียนอยู่อย่างเดิมแบบนี้มานานหลายปีแล้ว บางคนอาจมองว่ามันน่าเบื่อแต่สำหรับคนรักสันโดดอย่างเขาแล้วมันไม่ได้มีปัญหาเลย แต่ใช่ว่าเขาจะเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหนุ่มโสดอย่างเขาก็มักจะออกไปหาความสุขใส่ตัวบ้างในเวลาที่เครียดจากการทำงานหรือในเวลาที่ร่างกายต้องการระบายออก
แต่ก่อนนั้นอคิราห์ก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงแต่เวลาผ่านไปเขากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุข เขาคิดว่าตัวเองมีปัญหาด้านสุขภาพ ชายหนุ่มจึงใช้วันลาพักร้อนไปตรวจร่างกายที่ต่างประเทศเพราะไม่อยากให้ใครรู้ ผลการตรงร่างกายทุกอย่างปกติ หมอที่นั่นเลยแนะนำให้เขาไปพบจิตแพทย์ อคิราห์ทำใจอยู่สองวันก่อนที่จะเข้าไปปรึกษากับจิตแพทย์ เขาเปิดใจคุยกับคนแปลกหน้าอยู่เกือบสองชั่วโมง
จนในที่สุดจิตแพทย์ก็ค้นพบสาเหตุว่าที่เขาเบี่ยงเบนทางเพศนั้นเป็นเพราะปัญหาทางครอบครัว เขาเห็นบิดาและมารดาทะเลาะกันมาตั้งแต่จำความได้ ทำให้จิตใต้สำนึกต่อต้านความสัมพันธ์ใบแบบชายหญิง
กว่าเขาจะยอมรับตัวเองได้กับเรื่องนี้ก็ใช่เวลาเกือบครึ่งปี ระหว่างนั้นเขาก็ศึกษาพฤติกรรมคู่รักที่เป็นผู้ชายด้วยกัน เรียนรู้จากการอ่านงานวิจัยของต่างประเทศอยู่หลายฉบับ
เวลาผ่านไปจนครบปีอคิราห์ลาพักร้อนอีกครั้ง ชายหนุ่มไปเที่ยวในสถานที่ซึ่งไม่มีใครรู้จัก เมื่อเขาไปสัมผัสบรรยากาศในบาร์แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยคนที่มีรสนิยมเดียวกัน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนแปลก เขากลับรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขอย่างประหลาด
เขาไปในบาร์แห่งนั้นทุกคืนตลอดทั้งสัปดาห์ จนกระทั่งคืนสุดท้ายเขาตัดสินใจซื้อบริการจากที่นั่น ความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เกิดขึ้นกับผู้ชายด้วยกันในครั้งแรก ทำให้อคิราห์มีความสุขมากกว่าครั้งไหน และนับจากนั้นอคิราห์ก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย
แต่เพราะยังไม่เจอคนถูกใจอคิราห์จึงยังไม่คบหากับใครเป็นแฟน แต่เขาก็มีคู่นอนชั่วคราวที่มักจะเรียกใช้บริการจากบาร์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นแห่งเดียวกับที่ไทธัชจะไปทำงาน
เพราะรู้ว่าเด็กหนุ่มหน้าตาดีอย่างไทธัช เจ้าของร้านคงไม่รับไว้แค่เป็นเด็กเสิร์ฟเพียงอย่างเดียวเท่านั้น วันที่รู้ว่าไทธัชจะไปทำงานที่นั่น เขายอมรับว่าโกรธมาก กลัวว่าไทธัชจะไปทำงานแบบนั้น ถึงแม้จะไม่ได้ผิดอะไรแต่เพราะมองไทธัชเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่งอคิราห์จึงไม่อยากให้เขาต้องไปทำงานแบบนั้นโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
ถ้าวันนั้นไทธัชตอบว่าเคยไปที่ร้านมาแล้ว อคิราห์จะไม่ห้ามเลยสักนิดเพราะถือว่าเจ้าตัวนั้นเต็มใจ แต่หลังจากคุยกันก็รู้ว่าเด็กหนุ่มน่าจะโดนหลอกมากกว่า ยิ่งพอเห็นสีหน้าตอนที่รู้ว่าบาร์ที่ตัวเองจะไปทำนั้นเป็นบาร์แบบไหน เขาก็มั่นใจว่าไทธัชไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองอาจตกเป็นเหยื่อที่เดินเข้าไปติดกับโดยไม่รู้ตัว
พอนึกถึงเรื่องเด็กหนุ่มอคิราห์ก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วขึ้นทั้งๆ ที่นั่งอยู่เฉยๆ ซึ่งอาการแบบนี้มันไม่เคยเกินขึ้นมาก่อน
เช้าวันใหม่
อคิราห์แวะไปที่ร้านกาแฟก่อนไปทำงานอย่างเคย เขาไม่ได้โทรมาสั่งไว้เหมือนคนอื่นเพราะอยากมาดูให้แน่ใจว่าคนที่ชงกาแฟให้กับตัวเองนั้นเป็นคนเดียวกับที่คิดไว้หรือเปล่า
“สวัสดีครับพี่ซัน วันนี้รับอะไรครับ” ไทธัชทักทายทันทีเมื่อประตูร้านเปิดออก ส่วนเจ้าของร้านนั้นกำลังง่วนอยู่กับการชงกาแฟให้ลูกค้าประจำที่โทรมาสั่ง
ยังไม่ทันจะตอบไทธัชก็ถูกเจ้าของร้านเรียกให้เอากาแฟไปส่งที่รถ
“ว่าไงซัน เช้านี้จะรับอะไร” พีรพลถามลูกค้าประจำที่เขามองเป็นน้องชายคนหนึ่ง
คุณหมอหนุ่มไม่ตอบ แต่มองไปยังนอกร้านซึ่งเด็กหนุ่มกำลังยืนรอลูกค้าอยู่ที่ริมทางเท้า
“เฮ้อ มันน่าน้อยใจนัก ชงกาแฟให้กินมาหลายปี เขากลับมองไม่เห็นหัว” พีรพลพูดพร้อมกับหัวเราะ
“ผมอยากช่วยให้เด็กพี่ได้ฝึกไงครับ เลยช่วยเป็นหนูทดลองให้ยังไม่พอใจอีกเหรอ”
“แน่ใจนะว่านั่นเด็กพี่”
“ก็เห็นอยู่ว่าทำงานในร้านพี่”
“ทำงานในร้านพี่ก็ใช่จะเป็นเด็กพี่เสมอไปที่ไหน ดูก็รู้ว่าเป็นเด็กของนาย”
“พี่เอาอะไรมาพูด”
“แกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริง ไม่เคยสังเกตเหรอว่าเด็กนั่นมองนายด้วยสายตาแบบไหน”
“แล้วมันแบบไหนล่ะ” เขาแกล้งถามไปอย่างนั้น เพราะตัวเองก็สังเกตเห็นว่าแววตาที่ไทธัชมองเขานั้นมันต่างจากวันแรกที่มองอย่างหวาดระแวง แต่ตอนนี้เขาพอมองออกว่าไทธัชนั้นมองเหมือนเขาเป็นคนสำคัญคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่ามันจะสำคัญมากแค่ไหนเท่านั้นเอง
“โต ๆ แล้วคิดเองนะ แต่บอกก่อนนะไม่ใช่แค่คนรู้จักธรรมดาอย่างแน่นอน อย่าลืมนะน้องมันยังเด็กอยู่จะทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังให้ดี”
“ก็เพราะน้องมันยังเด็กอยู่นะสิ ผมถึงไม่ได้คิดอะไร”
“หมายความว่าถ้าน้องมันโตกว่านี้นายจะคิดงั้นสิ”
อคิราห์เงียบเพราะไม่รู้จะตอบคำถามของพีรพลยังไง
“พี่สองคนคุยอะไรกันอยู่หน้าเครียดเชียว”
“เรื่องทั่ว ๆ ไปไม่เครียดอะไร พี่คงง่วงมากกว่า รีบชงกาแฟให้พี่เลย เอาเหมือนเดิมเมื่อวาน”
“ครับ”
ได้กาแฟพร้อมกับปลอกแก้วที่คนชงวาดรูปดวงอาทิตย์กับรูปมือชูสองนิ้วแล้วอคิราห์ก็ไปสแกนชำระค่ากาแฟบวกกับทิปอีกจำนวนหนึ่งให้กับเด็กหนุ่ม ก่อนที่ตัวเองจะรีบออกจากร้านดูนาฬิกาแล้วขายาวก็รีบก้าวเท้าอย่างรวดเร็วเพราะเขาคุยเพลินจนเกือบลืมดูเวลา
“สวัสดีค่ะหมอซัน” พยาบาลสาวหน้าห้องตรวจทักทาย
ในทุกวันถ้าไม่มีเคสด่วนที่ต้องไปดูแลหรือเข้าห้องผ่าตัด อคิราห์จะต้องตรวจอยู่ที่แผนกผู้ป่วยนอกในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายก็จะตรวจผู้ป่วยที่นัดไว้ และถ้าวันไหนมีนัดผ่าตัดที่ไม่ด่วนมากเขาก็จะนัดผู้ป่วยมาในช่วงบ่าย
“สวัสดีครับ วันนี้คนไข้เยอะไหมครับ”
“ไม่เยอะค่ะ คงไม่เกิน 11 โมง ช่วงบ่ายคุณหมอมีผ่าตัดไหมคะ”
“ไม่มีครับ ถ้าคนไข้นัดช่วงบ่ายมาก่อนเวลาก็ให้เขาตรวจต่อได้เลยนะ”
“ได้ค่ะ”
พอพูดคุยทำความเข้าใจกันแล้วอคิราห์ก็เริ่มตรวจคนไข้จนกระทั่งถึงเวลาพักกลางวัน
ขณะที่กำลังจะไปทานอาหารที่โรงอาหารอย่างเคย ชลกรก็เข้ามาชวนเขาไปทานข้าวข้างนอก
“นึกยังไงชวนออกมากินข้าวข้างนอก”
“อยากพามาดูอะไรสักหน่อย” ชลกรกระซิบ
“กะแล้วเชียวว่าต้องมีอะไรถึงได้ชวนมา”
“นั้นไง มาแล้วคนนั้น” ชลกรชี้ให้เพื่อนดูนักศึกษาพยาบาลคนหนึ่งซึ่งดูโดดเด่นกว่าทุกคนในกลุ่มเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน
“เฮ้ย ยังเด็กอยู่เลย ระวังข้อหาพรากผู้เยาว์นะ” เขาเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี
“ไม่เด็ก อยู่ปี 4 แล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จบ”
“รู้ดีนัก ไปสืบมาแล้วเหรอ”
“เปล่าก็แค่เจอกันที่วอร์ด น้องเขาน่ารักดี”
“อือ ก็น่ารักดี แต่ไม่คิดเหรอว่าตัวเองแก่ไปสำหรับน้องเขา” พูดไปแล้วก็คิดถึงตัวเองเพราะอายุก็ไม่ได้ต่างกับชลกรเลยสักนิด มิหนำซ้ำคนที่ตัวเองสนใจอยู่นั้นเพิ่งจะอยู่ ม.6
“ใครเขาดูที่อายุกัน ชอบก็คือชอบ”
“ไม่คิดถึงช่องว่าระหว่างวัยเหรอ”
“คิดทำไมให้ปวดหัว ถ้ามันใช่เรื่องวัยมันก็ไม่เกี่ยว”
“จะเอาจริงเหรอ”
“อือ เอาจริงสิ นานแล้วไม่เคยมีใครทำให้ใจเต้นแรงแบบนี้ เห็นหน้าน้องเขาแล้วมีแรงทำงานขึ้นมาทันทีเลย”
“งั้นก็ขออวยพรให้โชคดีนะ” อคิราห์อยากเห็นเพื่อนมีความสุข เพราะที่ผ่านมาเวลาคบกับใครก็มักจะคบกันไม่ยืดเพราะแต่ละคนที่ผ่านมาไม่ค่อยเข้าใจเนื้องานของหมออย่างพวกเขาสักเท่าไหร่
ไทธัชมาทำงานที่ร้านกาแฟได้ครบสัปดาห์แล้วโดยทางบ้านรู้แค่เพียงว่าเขาออกมาอ่านหนังสือเท่านั้น เรื่องนี้กวนใจเด็กหนุ่มอยู่มากเขาไม่อยากโกหกต่อไปอีกแล้วเมื่อตัดสินใจที่จะบอกความจริงเด็กหนุ่มก็มองหาตัวช่วยเพราะกลัวว่าท่านทั้งสองจะไม่เชื่อว่าตอนนี้เขากำลังแก้ปัญหานั้นอยู่ไทธัชก็นึกถึงอคิราห์เพราะเขาน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้ ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงส่งข้อความถามว่าเขาพอจะว่างคุยเรื่องนี้ไหม เมื่อเห็นข้อความตอบกลับจากคุณหมอหนุ่มเขาก็เลยมารอที่หน้าโรงพยาบาล“สวัสดีครับพี่ซัน” ไทธัชทักทายพร้อมกับส่งยิ้มอย่างประจบ“มีอะไร” อคิราห์รู้สึกหวั่นไหวกับรอยยิ้มและท่าทางของเด็กหนุ่ม เจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันน่ารักแค่ไหนในสายตาของหมอหนุ่มอย่างเขา“ผมมีเรื่องจะปรึกษาครับ พี่ต้องไปทำงานต่อไหม”“พี่เลิกงานแล้ว ไปหาอะไรกินก่อนคุยได้ไหม หิวมากเลย”“ได้ครับ”เด็กหนุ่มเดินตามเขาไปยังรถคันหรูที่จอดอยู่ในที่จอดประจำ“เหนื่อยมากไหมครับ” เห็นท่าทางของเขาแล้วไทธัชก็รู้สึกเกรงใจ ไม่อยากจะรบกวนเขา“อือ ก็เหนื่อยอย่างนี้ทุกวัน พี่ชินแล้วล่ะ แล้วนายมีอะไรจะคุยว่ามาเลยรถคงติดอีกนาน”ไทธัชบ
“ซันเย็นนี้ไปดื่มกันหน่อยไหม” ชลกรตะโกนขณะที่วิ่งตามหลังเพื่อนมาที่ลานจอดรถ“ไม่ไปหาน้องเนยเหรอ” อคิราห์เอ่ยแซวเพราะรู้ว่าตอนนี้เพื่อนกับน้องพยาบาลคนนั้นได้เริ่มคบหากันแล้ว“เย็นวันศุกร์น้องเขากลับบ้าน” ชลกรตอบพร้อมสีหน้าเบื่อโลก“พอสาวไม่ว่างเลยนึกถึงเพื่อนนะ”“แล้วจะไปไหมละ”“ไม่ดีกว่า อยากพัก”“อะไรวะ งั้นซื้อเบียร์ไปกินที่ห้องนายก็ได้”“ไม่ได้” เขารีบบอกด้วยความตกใจ“เฮ้ย ทำไมต้องตกใจ หรือแอบซ่อนใครไว้ที่ห้อง บอกมานะ ผู้หญิงหรือผู้ชาย”“จะซ่อนใครที่ไหน ไม่มีหรอก”“นายเป็นคนโกหกไม่เก่งบอกมา แอบมีแฟนเหรอ ไหนว่าไม่อยากมีใครไง”“ก็ไม่มีไง” ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงแข็ง“ไม่เป็นไรงั้นฉันไปดูเองก็ได้”“กร ขอร้องอย่าไป”“งั้นบอกมาก่อน”“ไม่ได้ซ่อนใครไว้หรอก พอดีช่วงนี้ช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งไว้ เขามาอ่านหนังสือที่ห้องก็เลยไม่อยากกวน”“แค่นั้นเอง ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแน่นะ แล้วชายหรือหญิงเล่ามาถ้าไม่อยากให้ฉันบุกไปที่ห้อง”“งั้นไปดื่มก็ได้ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ไปรอที่ร้านก่อนเลยขอโทรบอกน้องมันก่อน”ชลกรมองท่าทางของเพื่อนก็พอจะเดาออกว่าอคิราห์กำลังคิดอะไรกับเด็กคนที่บอกอย่างแน่นอน“ไท พี่จะออกไปดื่มกับเพื
กล่องขนาดใหญ่ที่วางอยู่มุมห้องมีทั้งหมดสามกล่อง ทั้งสองคนช่วยกันแกะและนำของข้างในออกมาวางบนโต๊ะ ซึ่งมีทั้งเคสคอมพิวเตอร์สีดำ จอมอนิเตอร์ขนาด 24 นิ้วนอกจากนั้นยังมีเมาส์ แผ่นรองเมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง รวมไปถึงจอยสติ๊กและกล้องอีกหนึ่งตัวกว่าจะจัดทุกอย่างให้เข้าที่ก็เล่นเอาเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่“คิดว่าสเปกแค่นี้พอไหวไหม” อคิราห์ยื่นใบเสร็จรับเงินซึ่งในนั้นระบุสเปกของอุปกรณ์แต่ละชิ้นไว้ด้วย“สุดยอดเลยครับพี่ซัน ซีพียู Ryzen 9 RAM DDR5 32 Gb การ์ดจอ RTA3080Ti 12 Gb แค่ราคาการ์ดจอก็หลายหมื่นแล้ว”“รู้เรื่องคอมพ์เยอะเหมือนกันนะ”“แน่สิ ก็ผมอยากเรียนกราฟิกนี่ครับ ว้าว มีชุดน้ำระบายความร้อนด้วย เจ๋งสุดอะ” เขาหมายถึงระบบระบายความร้อนจากการทำงานของคอมพิวเตอร์ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นเพียงพัดลมธรรมดาที่แถมมาในกล่องซีพียูเท่านั้น การเพิ่มชุดน้ำระบายความร้อนการเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องหลายชั่วโมง ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จะร้อนแม้จะเปิดใช้งานโดยไม่พักเลยก็ตาม“ถูกใจไหมล่ะ”“มากครับ แต่ผมไม่กล้าใช้ กลัวมันพัง ไม่อยากเป็นหนี้เพิ่มแล้วครับ” ไทธัชมองตาละห้อย เพราะราคาของคอมพิวเตอร์ชุดนี้มันเกื
ไทธัชเรียนการใช้โปรแกรม illustrator กับอาจารย์ท่านหนึ่งผ่านทางโปรแกรมซูมโดยใช้โน้ตบุ๊กของตัวเอง และเปิดคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะของอคิราห์ทำตามที่อาจารย์สอนไปด้วยเด็กหนุ่มพอมีพื้นฐานมาบ้างแล้ว จึงเรียนรู้ได้อย่างไม่ติดขัดอะไรแม้จะเป็นเพียงแค่การเรียนครั้งแรกก็ตามเวลาสองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไทธัชชัดดาวน์คอมพิวเตอร์และเดินไปปลุกเจ้าของห้องตามที่เขาสั่งไว้ห้องนอนของอคิราห์ตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยโทนสีเทา บนเตียงกว้างตอนนี้มีร่างสูงของคุณหมอหนุ่มนอนหลับสนิทและดูเหมือนว่าเขากำลังฝันดีเพราะสังเกตจากปากรูปกระจับที่มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย“พี่ซันครับ” เขาเรียกเบา ๆ เพราะกลัวคนที่หลับอยู่จะตกใจ“อือ เรียนเสร็จแล้วเหรอ”“ครับ”“ขอนอนต่ออีกนิดได้ไหม ง่วงมาก”“ตามสบายครับผมออกไปก่อนนะ”“อย่าเพิ่งไปรอก่อน ขอสิบนาทีนะ” ชายหนุ่มพลิกตะแคงตัวหันหน้ามาทางคนที่เดินมาปลุก มือเรียวยาวคว้าข้อมือของไทธัชไว้ ก่อนที่จะหลับลงไปอีกครั้งไทธัชไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวจะรบกวนเวลาสิบนาทีตามที่อคิราห์ขอ เขามองใบหน้าของคุณหมอหนุ่มแล้วก็ยิ้มอย่างชื่นชม นอกจากอคิราห์จะเป็นคนจิตใจดีแล้วยังเป็นผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลา ด
“พี่ซันครับ”“ว่าไง” เสียงของเด็กหนุ่มทำให้อคิราห์ออกจากภวังค์“ช่วยผมเลือกได้ไหม” เขาชูรองเท้ากีฬามือข้างหนึ่งถือรองเท้าดำพื้นขาว ส่วนอีกข้างสีเทา“ถ้าให้พี่เลือกพี่จะเอาสีอะไรครับ”“สีเทา”“ทำไมครับ สีดำก็สวยนะ” ไทธัชนั้นชอบทั้งสองสีแต่พอเขาบอกว่าสีเทาสวยเจ้าตัวเลยคิดว่าสีดำก็สวยเหมือนกัน“งั้นก็เอาสีที่นายชอบ”เด็กหนุ่มมองรองเท้าในมือทั้งสองข้างสลับไปมา เพราะรู้ว่าราคามันแพงและคงไม่มีโอกาสเลือกซื้อให้ตัวเองแน่ ๆ เขาเลยตัดสินใจค่อนข้างยาก“น้องครับเอาสองคู่เลยครับ” อคิราห์พูดตัดบทแล้วส่งเครดิตการ์ดให้กับพนักงานซึ่งรับไปพร้อมด้วยรอยยิ้ม เพราะลูกค้าตัดสินใจเลือกรองเท้าทั้งสองคู่ ราคารวมกันแล้วก็เกือบจะหนึ่งหมื่นบาท“เดี๋ยว ๆ ผมเอาสีดำครับ” เพราะไม่อยากให้อคิราห์ต้องเสียเงินมากเกินไป เด็กหนุ่มจึงรีบบอกพนักงานอย่างรวดเร็ว“ได้ค่ะ” พนักงานหันมายิ้มกับรู้สึกขำกับท่าทางของเด็กหนุ่ม“น้องครับ เอาสีดำเบอร์ 43 ให้พี่คู่หนึ่งครับ” อคิราห์บอกพนักงาน“พี่ก็จะซื้อเหรอครับ”“อือ พี่เล็งสีดำไว้แล้ว”“อ้อ”ได้รองเท้าคนละหนึ่งคู่ กางเกงและเสื้อกีฬาอีกคนละสองชุด จากนั้นก็มานั่งอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นที่
“ไทวาดเป็นเหรอ” อคิราห์หันมาถามอย่างแปลกใจเพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นไทธัชวาดรูปมาก่อนเลยสักครั้ง“ก็พอได้ครับ แต่ก่อนก็เคยรับงานวาดอยู่ แต่มันต้องใช้เวลาเยอะมาก ผมก็เลยไม่ได้รับมานานแล้ว”“พี่ขอดูผลงานของน้องหน่อยได้ไหม” ธีรธรตื่นเต้น เขาเริ่มมีความหวัง เพราะคิดว่าถ้าผลงานของเด็กคนนี้คล้ายกับอคินทร์ก็คงจะพูดกันไม่ยากเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนเด็กคนนี้จะสนิทกับลูกชายอีกคนของคุณอรณีไทธัชส่งโทรศัพท์ให้กับนักเขียน ในนั้นมีภาพที่เขาวาดเก็บไว้รวมถึงภาพที่เคยทำให้กับนักเขียนคนอื่นอยู่หลายภาพแล้วคนที่นั่งหน้าเครียดก็ยิ้มขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นลายเส้นของไทธัช“ใช้ได้เลย ลายเส้นคล้ายกันมาก”“เคยเห็นผลงานคิวมาก่อนไหม” เขาถามเพราะดูผลงานแล้วเหมือนกับทั้งสองคนมีอาจารย์คนเดียวกัน“ครับ ผมเคยปรึกษาคิวอยู่หลายครั้ง เราปรึกษาอาจารย์คนเดียวกัน”“หนูรู้จักกันด้วยเหรอลูก” คุณอรณีซึ่งตอนแรกดูเหมือนไม่พอใจที่ไทธัชนั่งอยู่ในห้องด้วยก็ตาลุกวาวเมื่อได้ยินว่าเด็กหนุ่มที่ลูกชายคนโตพามาด้วยนั้นรู้จักกับลูกชายคนเล็ก“ครับ เราเรียนห้องเดียวกัน”“ถ้าพี่จะให้น้องวาดต่อ แต่ขอเครดิตให้คิว น้องจะโอเคไหม” ธีรธรถามออกไปแล้วก็รอค
ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ไทเปิดประตูให้แม่หน่อย”ไทธัชรีบวางไอแพดในมือแล้วลุกเดินไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว“ทำอะไรอยู่ลูก”“วาดรูปอยู่ครับแม่” เมื่อเห็นมารดามีสีหน้าแปลกใจไทธัชก็เลยต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟัง“ลูกชายแม่โตขึ้นมากเลย แม่ดีใจที่ลูกทำงานต่อให้เพื่อนแล้วไม่คิดจะเอาผลงานมาเป็นชื่อของตัวเอง”“ผมสงสารเขาครับแม่ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรคิวถึงต้องตัดสินใจจากไปแบบนั้น ครอบครัวของเขาก็ดูอบอุ่นดี”“เขาก็คงมีปัญหาที่บอกใครไม่ได้ ถ้าหมอซันไม่เจอกับไทวันนั้น ไทของแม่ก็อาจจะตัดสินใจแบบนั้นลงไปก็ได้”“นั่นสิครับ พี่ซันเป็นฉุดผมขึ้นมา พอมีโอกาสผมก็เลยอยากทำอะไรให้พี่ซันบ้าง”“คิดดีแล้วล่ะ แล้วไปทำความสะอาดห้องให้พี่เขาดีหรือเปล่า ไม่ใช่ทำแบบลวก ๆ นะลูก”“ผมทำเต็มที่เลยครับมารับรองได้ว่าสะอาดกว่าจ้างแม่บ้านอีก”“ดีแล้ว เขามีน้ำใจกับเรา ช่วยเหลือเรา เราก็ควรตอบแทนบ้าง แต่ใช่ว่าทำงานแค่นี้แล้วเราจะไม่ชดใช้เงินเขานะ มันคนละเรื่องกัน”“ผมรู้ครับแม่ แต่ถ้าให้เงินตอนนี้พี่ซันก็ไม่รับอยู่ดี เขาบอกจะรอตอนผมเรียนจบก่อน”“เงินแค่นี้มันคงเล็กน้อยสำหรับเขา แต่สำหรับเราแล้วมันก็ถือว่าเยอะอยู่มาก เพราะฉะนั้นอะไรท
“ทำไมวันนี้ยายทำกับข้าวเยอะจังคะ” มนัสสรถามอย่างแปลกใจเพราะตอนนี้โต๊ะทานอาหารที่คิดว่าใหญ่กลับขนาดเล็กลงไปในพริบตาเมื่อบนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารหลากชนิด“วันนี้หมอซันเขาจะมาทานข้าวด้วย”“ใครคือหมอซันค่ะยาย”“หมอซันเขาเป็นรุ่นพี่ของไทจ้ะฝ้าย” มัทนารีบบอก เธอกลัวยายมาลัยจะเผลอเล่าเรื่องราวของไทธัชให้กับหญิงสาวฟัง มัทนาไม่อยากให้เรื่องของลูกชายรู้ไปถึงหูคนอื่น แม้ว่าจะเป็นญาติก็ตามรถยนต์คันหรูจอดที่หน้าบ้านหลังเล็ก ไทธัชเป็นคนเปิดประตูลงมาก่อนจากนั้นคนที่ตามมาก็คืออคิราห์“สวัสดีครับยาย สวัสดีครับแม่”“สวัสดีจ้ะ หิวกันหรือยังยายทำกับข้าวไว้เยอะเลย”“หิวนิดหน่อยครับ”“งานหมอซันยุ่งหรือเปล่า แม่กลัวว่าเจ้าไทจะไปกวนเวลางาน”“ยุ่งเป็นปกติครับแม่ ไทไม่ได้กวนอะไรผมหรอกครับ ดีเสียอีกไปช่วยทำความสะอาดห้อง ผมสบายเลยไม่ต้องจ้างแม่บ้าน”“ใช้งานได้ตามสบายเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”“ครับแม่”อคิราห์ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าบนโต๊ะอาหารมีคนที่เขาไม่รู้จักนั่งรวมอยู่ด้วย เขาหันมามองไทธัชพร้อมกับเลิกคิ้วสูงเชิงถาม“นี่พี่ฝ้าย เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมครับพี่ซัน”“สวัสดีค่ะ พี่ซัน” หญิงสาวทักทายอย่างเป็นกันเอง“สวัส