Home / รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 26 ความรักคือสิ่งใด

Share

ตอนที่ 26 ความรักคือสิ่งใด

last update Last Updated: 2025-02-15 11:00:30

ในวันต่อมาหลินซีเวยยังคงปฏิบัติกับอู๋เยว่ชิงเหมือนเดิม ทั้งพูดจาไม่เข้าหู ปัดถ้วยโอสถกระเด็น และอีกสารพัดที่นึกอยากจะทำเพื่อให้อีกฝ่ายไปให้พ้นหน้า

ทว่า อู๋เยว่ชิงยังคงอดทนทำให้เขาตามที่นักพรตชราสั่งเอาไว้ไม่ขาดตกบกพร่องจนกระทั่งผ่านพ้นวันต้องห้าม

“องค์ชาย ทรงเป็นอย่างไรบ้าง” ฮองเฮาเข้ามาเยี่ยมบุตรชายทันทีที่พ้นฤกษ์ยาม เวลานี้สีหน้าของหลินซีเวยดีขึ้นเล็กน้อย นางจึงเชื่อว่าการทำพิธีแต่งงานกับอู๋เยว่ชิงจะช่วยปัดเป่าไอมารปีศาจจากองค์ชายสามได้

“ข้าไม่เป็นอันใด” เขาตอบอย่างขอไปที “รีบให้นางออกไปจากตำหนักของข้าได้แล้ว”

“เจ้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกน้องสาม” ไท่จื่อส่ายหน้าแล้วอธิบายว่า “ท่านนักพรตบอกว่าดวงชะตาของพวกเจ้าผูกพันกัน เพราะมีนางอยู่ข้างกาย เจ้าจึงไม่ถูกไอมารปีศาจครอบงำ”

“เสี่ยวเยว่ชิงตั้งใจดูแลองค์ชายเป็นอย่างดี พ่อว่าไม่มีใครเหมาะสมกับเจ้าไปมากกว่านางอีกแล้ว” ฮ่องเต้พูดขึ้นมา สีหน้าพึงพอใจและกำลังคิดบางอย่างอยู่ “เจ้าและนางก็ถึงวัยออกเรือนทั้งคู่ แถมมีดวงชะตาสมพงศ์กัน วันใดที่เจ้าหายดีแล้ว ข้าจะจัดงานแต่งอย่างยิ่งใหญ่ให้สมเกียรติ”

“องค์ชายอย่าทรงคิดอันใดให้มากนักเลย พระวรกายขององค์ชายสำคัญที่สุด” ฮองเฮาทั้งกังวลและเป็นห่วงเขายิ่งกว่าสิ่งใด “เมื่อหายดีแล้วทรงประสงค์สิ่งใด แม่จะจัดการให้ทุกอย่าง”

หลินซีเวยมองหน้าอู๋เยว่ชิงพลางนึกถึงช่วงเวลาเจ็ดวันที่ผ่านมา เขาแอบเห็นนางหลบไปร้องไห้อยู่มุมหนึ่งเพราะถูกเขาต่อว่าและพ่นคำพูดเกลียดชังนาง

สีหน้าเศร้าสร้อยของนางดูจะเป็นเรื่องสนุกสำหรับเขาไม่น้อย ในเมื่อนางเสนอตัวเอง หลินซีเวยจึงอยากสงเคราะห์ความปรารถนาดีกลับให้

ปรารถนาดีที่ว่านางจะต้องเจ็บปวดที่ต้องอยู่กับเขาไปชั่วชีวิตหรือจนกว่าหัวใจของนางจะรับไม่ไหวแล้วเปิดโอกาสให้เขากำจัดนางในที่สุด

“เช่นนั้นย่อมได้” หลินซีเวยพยักหน้ารับปากว่าจะทำตามที่นักพรตสั่งโดยไม่ปริปากบอกว่าทำตรงกันข้ามต่างหาก

เมื่อฮ่องเต้และฮองเฮาได้ยินเช่นนั้นจึงรู้สึกเบาใจขึ้นมา ฝ่ายไท่จื่อแม้จะมองว่าน้องชายของตนยอมง่ายเกินไปแต่ก็ไม่ได้ติดใจอันใดนัก มีเพียงอู๋เยว่ชิงที่ยืนหนักใจกัดปากตัวเองจนเลือดซึม

วันแล้ววันเล่าผ่านไป อู๋เยว่ชิงยังคงดูแลหลินซีเวยตามที่รับปากเอาไว้เป็นอย่างดีแม้จะต้องอดทนกับคำพูดว่าร้ายต่าง ๆ นานาทุกวันทุกคืน

บางครั้งนางจะรู้สึกสลดหดหู่ใจเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้จงเกลียดจงชังนางไม่สิ้นสุด แต่นางเชื่อว่าวันหนึ่งถ้าเขาได้เห็นสิ่งที่นางพยายามทำให้เขาแล้ว หลินซีเวยอาจจะใจอ่อนลงบ้าง ไม่ต้องถึงขั้นรับนางเป็นคนรัก ขอเพียงแค่ไม่เบือนหน้าหนีนางก็พอใจมากแล้ว

ฝ่ายจอมมารเองก็คิดในใจว่าพลังป้องกันของนางคงจะถดถอยลงไปบ้างจึงได้แอบร่ายพลังมารใส่นางอยู่บ่อย ๆ และโดนพลังนั้นสะท้อนกลับมาอย่างเคย ลำบากอู๋เยว่ชิงต้องคอยดูแลประคบประหงมไม่ห่างอยู่แรมเดือน

“ข้าชังน้ำหน้าเจ้านัก ดื่มยาก็รสชาติแย่เต็มทน ยิ่งเห็นเจ้าก็ยิ่งรู้สึกอยากสำรอกมันออกมา” คำพูดของเขายังคงเป็นเช่นเดิมตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้

“ทรงประทานอภัยให้หม่อมฉันด้วยเพคะ” คำพูดเหล่านี้ติดปากจนเป็นนิสัย อู๋เยว่ชิงมักโทษตัวเองอยู่เสมอ

ดังนั้นเวลาที่หลินซีเวยหลับเพราะฤทธิ์ยา นางจึงมักหาที่ว่างนั่งเขียนจดหมายไปหาหลินมู่หลงอยู่เสมอ คอยเล่าเรื่องราวระหว่างนางกับองค์ชายสามให้อีกฝ่ายฟัง

บางครั้งตอนที่ป้อนโอสถให้เขาอยู่ก็จะมีจดหมายจากหลินมู่หลงมาหา รอยยิ้มจึงผุดขึ้นมาบนใบหน้างามชั่วครู่

เนื้อความในจดหมายบอกให้นางอดทนและเชื่อว่าองค์ชายสามจะต้องยอมรับนางในสักวันหนึ่ง

“ยิ้มอันใดนักหนา” หลินซีเวยเอ่ยพึมพำเพราะเห็นนางอมยิ้มอยู่คนเดียว ท่าทางมีความสุขที่อ่านจดหมายฉบับนั้น

“จดหมายจากองค์ชายเจ็ดเพคะ” อู๋เยว่ชิงบอกเขาไปตามตรง

“น่ารำคาญ ไปให้พ้นหน้าข้า” เขาสบถไม่สบอารมณ์แล้วพลิกตัวเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

“เพคะ” อู๋เยว่ชิงตอบเสียงอ่อยแล้วออกมาเดินเล่นนอกตำหนักชั่วคราว

สายตาของนางทอดมองดอกไม้ที่กำลังผลิบานในสวน สูดหายใจรับสายลมเย็นที่พัดผ่านพลางแหงนหน้ามองท้องฟ้าสีครามที่มีกลุ่มก้อนเมฆบาง ๆ เคลื่อนคล้อยอย่างช้า ๆ

เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ทำให้ไท่จื่อที่กำลังเดินมาหาอดเอ็นดูไปไม่ได้

“หนักใจถึงเพียงนั้นเชียวหรือ” เขาเอ่ยปากถามนาง

“เพคะ”

“น้องสามอาจจะดื้อไปหน่อย แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนที่เจ้าเกิดน่ะ เขาตื่นเต้นยิ่งกว่าใครเสียอีก” ไท่จื่อบอกเล่าสิ่งที่เขาเห็นในตอนนั้น “แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอันใดถึงได้มีทีท่าอย่างนั้นไปได้”

“หม่อมฉันไม่ดีตรงไหนหรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงหลุดปากถามเพราะจนใจ “เอ่อ หม่อมฉันไม่ได้จะชมตัวเองแต่ว่า...”

“เจ้าสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว แต่น้องสามสิตาถั่วกระมัง” ไท่จื่อพยายามปลอบใจ

อู๋เยว่ชิงอมยิ้มบาง “ไท่จื่อทรงชมหม่อมฉันเกินไปแล้ว เอ่อ... หม่อมฉันต้องขอตัวก่อน ถึงเวลาที่องค์ชายต้องเสวยพระโอสถแล้วเพคะ”

“ได้สิ รีบไปเถอะ” ไท่จื่อพยักหน้าอนุญาตแล้วนางก็รีบเดินกลับตำหนักทันที

ครั้นมาถึงจึงได้เห็นว่าเจ้าของตำหนักกำลังทำหน้าบูดไม่พอใจดังเดิม “นึกว่าจะไปแล้วไปลับเสียอีก กลับมาทำไมกัน เบื่อหน้าเจ้าจะตาย”

“ถึงเวลาต้องเสวยพระโอสถแล้วเพคะ เรียบร้อยแล้วหม่อมฉันจะกลับจวนเสียหน่อย พระองค์จะได้ทรงประทับที่นี่อย่างสบายใจ” อู๋เยว่ชิงถือถ้วยโอสถเข้ามาใกล้กำลังจะหยิบยื่นให้

“ข้าดื่มเองได้ ไม่ต้องมายุ่ง”

“เข้าใจแล้วเพคะ”

นางถอยห่างออกมาหนึ่งก้าว รอจนเขาดื่มยาถ้วยนั้นจนหมดแล้วเก็บข้าวของทุกอย่างให้เป็นระเบียบก่อนจะกลับจวนแม่ทัพอย่างที่ได้บอกเอาไว้ “หม่อมฉันจะรีบกลับมาเพคะ”

“ไม่ต้องกลับมายิ่งดี ข้าไม่ต้อนรับเจ้า”

“...” อู๋เยว่ชิงได้แต่ก้มหน้ามองพื้นเดินออกไปโดยไม่พูดสิ่งใดเพราะนางไม่อยากได้ยินคำพูดทำร้ายจิตใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว

เมื่อเห็นว่านางเดินออกไปไกลแล้ว หลินซีเวยจึงเรียกลูกน้องของตนเองออกมา สั่งให้โจวเหวินหลงตามไปดูนางไม่ให้คลาดสายตาส่วนเฉินซือหยางให้รายงานเขามาว่าเรื่องที่สั่งตามหาไปถึงไหนแล้ว

“ข้าจะต้องทนอยู่กับนางไปอีกนานเท่าใดกัน”

“แต่ว่านายท่านก็สนุกไม่ใช่หรือขอรับ” เฉินซือหยางเอ่ยปาก “ข้าน้อยเห็นนางห่อเหี่ยวใจอยู่ทุกวันแต่นางกลับไม่ยอมไปจากนายท่าน”

“เพราะเหตุใดเล่า” หลินซีเวยรู้สึกสงสัยเป็นอย่างยิ่งเพราะไม่เข้าใจความรู้สึกของมนุษย์แม้เพียงนิด

“หากนางไม่โง่เง่าก็คงทนเพราะมีผลประโยชน์แอบแฝงกระมังขอรับ” ปีศาจหนุ่มหรี่ตาครุ่นคิดอีกครั้ง ทบทวนจากการจับตาดูนางมาเกือบเดือนแล้วบอกเจ้านายของตนว่า “นอกเหนือจากนี้อาจจะเป็นเพราะนางมีความรักให้นายท่านขอรับ”

“ความรัก...กับข้าน่ะหรือ” หลินซีเวยถามเสียงสูงไม่เข้าใจว่าความรู้สึกรักเป็นอย่างไร

“มนุษย์หลายคนหรือแม้แต่สัตว์อสูรและปีศาจอย่างพวกเราก็มักจะอดทนกับหลายสิ่งหลายอย่างเพราะความรักขอรับ” เขานึกถึงเรื่องของตัวเองในครั้งอดีต “เพื่อคนที่รักแล้ว พวกเราจึงยอมได้แม้จะต้องตาย”

“เฮอะ ไร้สาระ น่ารำคาญ” จอมมารไม่เข้าใจและไม่อยากรับรู้ “เจ้าจะบอกว่าหากนางรักข้านางก็ยอมตายเพื่อข้าได้อย่างนั้นหรือ”

“เป็นเช่นนั้นขอรับ”

“หากข้าบอกให้นางไปตายเล่า เจ้าว่านางจะยอมแต่โดยดีหรือไม่” ความคิดในหัวของจอมมารแล่นฉิว

เฉินซือหยางพยักหน้าแสยะยิ้มเพราะรู้ทัน “ลองดูไม่เสียหายหรอกขอรับ”

Related chapters

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 27 ลองทำดี

    เมื่อได้ยินดังนั้นหลินซีเวยจึงถามต่ออีกว่า “หากนางรักข้า ข้าควรทำเช่นไรให้นางรักจนยอมตายเพื่อข้าได้เล่า”เรียวคิ้วของเฉินซือหยางขมวดชนกัน “ข้าเป็นปีศาจอาจจะไม่สามารถล่วงรู้ความรู้สึกของมนุษย์ได้แน่ชัด นายท่านลองอ่านหนังสือพวกนั้นดูเถิดขอรับ”เขาชี้ไปที่ตู้ไม้มุมห้อง ในนั้นมีหนังสือเขียนเกี่ยวกับมนุษย์มากมายให้ค้นหา หลินซีเวยกวาดสายตามองแต่ไกลเพื่อเลือกหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง“ไม่เห็นจะมีอันใดน่าสนใจ” เขาส่ายหน้าแล้วร่ายพลังเผามันทิ้งอย่างไม่ใยดีเฉินซือหยางคิดหนักกว่าเดิมแล้วบอกให้เจ้านายรออยู่ครู่หนึ่งก่อนกลับมาพร้อมหนังสือกองใหญ่ “นายท่านลองอ่านพวกนี้ดูก่อนขอรับ ข้าเห็นมนุษย์หลายคนชอบอ่านยิ่งนัก”จอมมารผู้อ่อนต่อโลกสุ่มหยิบเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิดอ่าน ในเวลาหนึ่งก้านธูปเขากลับอ่านหนังสือเล่มหนาได้จนจบเล่ม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จึงผุดขึ้นมาในทันทีแล้วหยิบหนังสือเล่มอื่น ๆ มาอ่านต่อโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างคืนนั้น จอมมารอ่านหนังสือกองพะเนินจนครบทุกเล่มโดยไม่หลับไม่นอนพลั

    Last Updated : 2025-02-17
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 28 อธิษฐาน

    ผ่านไปสามวันหลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองดีขึ้นจากแต่เดิมอยู่มาก แม้กระทั่งฮ่องเต้และฮองเฮายังรู้สึกแปลกใจที่จู่ ๆ บุตรชายเปลี่ยนไปมากเพียงนั้นกระนั้นก็ทำให้พวกเขาทั้งคู่พอจะวางใจไปได้บ้างเพราะสุดท้ายแล้วการแต่งงานแก้เคล็ดในครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าแรกเริ่มที่พวกเขาได้ยินจากปากของอู๋ฮูหยินว่าบุตรสาวของนางแอบรักองค์ชายสามมานานแล้วก็ได้แต่คิดว่าอู๋เยว่ชิงช่างน่าสงสารที่ถูกบุตรชายของตนผลักไสไล่ส่งยิ่งต้องให้นางช่วยผูกดวงชะตาเพื่อรักษาอาการของเขาแล้วก็ยังรู้สึกว่าละอายใจไม่น้อยที่ต้องขอให้ช่วยเช่นนี้ แต่อู๋เยว่ชิงกลับรับปากและบอกว่านางจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขาอย่างสุดความสามารถคราวนี้ได้เห็นว่าความรักของนางได้รับการตอบแทนกลับมาบ้างแล้วจึงโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกหากแต่เรื่องราวลับคมคมในนี้มีเพียงแค่ฝ่ายจอมมารเท่านั้นที่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่สักวันหลินซีเวยจะหักหลังอู๋เยว่ชิงและสังหารนางอย่างเจ็บปวดการถูกหักหลังจากคนที่รักและไว้ใจที่สุดจะเป็นอย่างไร หลินซีเวยแทบรอที่จะได้เห็นสี

    Last Updated : 2025-02-19
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 29 ความรู้สึกเปลี่ยนไป

    หนึ่งเดือนผ่านไปราวกับว่ากำลังใจจากอู๋เยว่ชิงเป็นโอสถชั้นดี ร่างกายของหลินซีเวยจึงดีขึ้นเป็นลำดับแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง เวลานี้จึงพอที่จะเดินเล่นนอกตำหนักได้บ้างแล้วนับเป็นครั้งแรกที่เหล่าขันทีและนางในได้เห็นองค์ชายสามและชายาประทับอยู่ในสวนดอกไม้ สายตาทุกคู่เห็นพ้องต้องกันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาราวกับคนรักกันก็มิปานการกระทำของหลินซีเวยไม่มีปิดบัง การแสดงออกของเขาทำให้หลายคนได้ตระหนักว่าองค์ชายสามผู้นี้ก็มีด้านที่อบอุ่นและอ่อนโยนเช่นกัน“เทศกาลชมจันทร์ใกล้เข้ามาแล้ว เจ้าอยากไปเที่ยวชมหรือไม่เยว่ชิง” หลินซีเวยเอ่ยปากชวนนาง สีหน้าคาดคั้นหวังว่านางจะตอบรับคำขอ“เพคะ” รอยยิ้มบางของนางถือเป็นคำตอบ อู๋เยว่ชิงไม่เคยปฏิเสธคำขอของเขาสักครั้ง“เช่นนั้นเจ้าเตรียมตัวไว้ให้ดีเถิด” เขาบอกกล่าวอย่างมีเลศนัยพลางเอื้อมมือมากุมมือสองข้างของนางไว้ “ขอบคุณที่ดูแลข้ามาตลอด”“หม่อมฉันเต็มใจเพคะ” อู๋เยว่ชิงยิ้มให้เขา “หม่อมฉันไม่หวังสิ่งใดไปมากกว่านี้แ

    Last Updated : 2025-02-21
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 0 จุดเริ่มต้นของโชคชะตา

    ความสงบสุขเรียบง่ายหลายหมื่นปีของภพสวรรค์กำลังถูกสั่นคลอนเพราะมารตนหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน ใครเล่าจะคิดว่าสิ่งเล็ก ๆ จากบ่อโคลนของความชั่วร้ายทั้งปวงจะหลอมรวมภัยอันตรายที่สามารถทำลายล้างสวรรค์ให้ราบเป็นหน้ากลองได้ในเวลาไม่นานภพมารแซ่ซ้องสรรเสริญผู้ปกครองดินแดนคนใหม่ ยกขึ้นเป็นนายเหนือหัวที่จะกลายเป็นจอมมารปลดเปลื้องพันธะให้เหล่ามารปีศาจที่ถูกกักขังในหุบเหวดำมืด จบสิ้นการลงทัณฑ์อันยาวนานจากเทพบรรพกาลเสียงอึกทึกกึกก้องคำรามข่มขู่เหล่าเทพเซียนบนฟากฟ้าพร้อมบุกเข้าโจมตีอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนผู้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์วุ่นวายโกลาหลเคราะห์ยังดีที่กองทัพสวรรค์เป่าแตรส่งสัญญาณเตือนภัยได้ทันเวลา เหล่าเทพเซียนจึงผนึกกำลังป้องกันการรุกรานของทัพมารอย่างสุดความสามารถเทพสงครามนำทัพออกมาเผชิญหน้าปกป้องสรรพสิ่งไม่ให้แตกสลายจากมหันตภัยในครั้งนี้ กลยุทธ์มากมายที่เคยใช้กับจอมมารตนอื่นกลับไม่ได้ผลนักไพ่ตายที่ถูกวางไว้สามอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ หวังว่าจะหยุดความเลวร้ายทั้งหมดลงไปได้ก่อนที่จะมีความสูญเสียไปมากกว่านี้เวลานั้นโฉมหน้าของผู้นำทัพมารจึงปรากฏขึ้น รอยยิ้มชั่วร้ายและแววตาเย็

    Last Updated : 2024-10-28
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 1 ทัพมารบุกสวรรค์

    ท่ามกลางความโกลาหลตรงเขตชายแดนระหว่างภพมารและภพสวรรค์ เทพจันทราเร่งหลอมรวมวิญญาณและพลังของตนเองเพื่อผนึกลิขิตสวรรค์ในต้นไม้แห่งโชคชะตาไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้แม้จะต้องสละวิญญาณแต่นั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องสรรพสิ่งจากหายนะที่คืบคลานเข้ามา ชายชรารู้เป็นอย่างดีว่าจอมมารจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชะตาของใครบางคนอย่างแน่นอน และนั่นอาจจะทำให้แผนการที่วางไว้ล่มไม่เป็นชิ้นดีเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังกระหึ่มสร้างความวิตกในใจของเขาเป็นอย่างมาก อีกนิดเดียว ข้าขอเวลาอีกนิดเดียว เขาคิดในใจหวังว่ากองทัพสวรรค์ที่อยู่ด้านนอกจะช่วยต้านทานถ่วงเวลาผู้บุกรุกได้อีกสักเพียงนิด“หยุดนะ!” ปีศาจสาวนามว่าหลิวอิงอิงผู้เป็นมือขวาของจอมมารตะโกนก้อง นางร่ายพลังปีศาจใส่เทพจันทราโดยไม่ยั้งมือ หากแต่ถูกสกัดกั้นโดยกองอารักขาเสียก่อน จึงทำให้นางฉุนเฉียวเพราะไม่ได้ดั่งใจเทพจันทราตั้งสติมั่นพลันขอบข่ายอาคมปรากฏขึ้นหลอมรวมกับจิตวิญญาณอันแกร่งกล้าของชายชราผู้นี้โอบล้อมเป็นม่านคลุมต้นไม้แห่งโชคชะตาเอาไว้ในชั่วขณะหลิวอิงอ

    Last Updated : 2024-11-04
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 2 จุติเป็นมนุษย์

    บทสนทนาระหว่างเทพวายุกับจอมมารและการต่อสู้ของทั้งสองดำเนินไปอย่างดุเดือด สวีต้าเฟิงเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อถ่วงเวลาให้เทพสงครามได้อย่างแนบเนียนจนอีกฝ่ายสามารถหลอมพลังวิญญาณได้เรียบร้อยกลายเป็นหนึ่งเดียวกับดาบคู่กายของตนเองสายตาที่เทพวายุมองสหายเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อร่ำลาทำให้กงจื่อเย่รู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นละครฉากใหญ่จังหวะที่หันไปมองตามนั้น ดาบเทพสงครามอันมหึมาก็พุ่งทะลุผ่านร่างของจอมมารในพริบตาการสละวิญญาณของเทพสงครามได้ผลชะงัดเพราะสามารถผนึกเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตดวงแรกไว้ในแก่นวิญญาณของจอมมารได้ ส่งผลให้พลังมารที่รุนแรงถดถอยลงไปหนึ่งส่วนกงจื่อเย่จะไม่รู้ตัวว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาภายในแก่นวิญญาณของตัวเองเพราะถูกพลังเทพสงครามบดบังเอาไว้แต่เฉลียวได้ว่าผู้นำกองทัพสวรรค์ย่อมไม่สละตนเองเพียงเพื่อทำลายพลังมารของเขาส่วนเดียวจอมมารยืนทื่ออยู่ครู่หนึ่ง พิจารณาว่าร่างมารของตนเองมีสิ่งใดผิดแปลกไปหรือไม่“พวกเจ้าทำอะไรข้า” เขาไม่รู้ว่าเหล่าเทพใช้วิธีใดและนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย

    Last Updated : 2024-11-11
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 3 ขัดขวาง

    ภพสวรรค์เซียนผู้เฝ้าหออาวุธโบราณเพิ่งสังเกตได้ว่าดวงเนตรอำพันหายไปจึงคิดรายงานเทียนจวิน แต่กลับถูกสัตว์อสูรเขาแหลมตัวเขื่องขวิดจนร่างแตกสลายไปเสียก่อนสวีต้าเฟิงเห็นจอมมารยิ้มมุมปากได้แต่นึกสงสัยว่าผู้ที่โดนรุมล้อมสังหารมีเหตุอันใดให้รื่นรมย์ใจถึงเพียงนี้ ทั้งยังแววตาท้าทายที่มองมายังเขาไม่วางตาราวกับบรรลุเป้าหมายบางอย่างครั้นจะปลีกตัวออกมาจากที่แห่งนั้นเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจกลับถูกดาบเขี้ยวอสูรเหวี่ยงเข้ามาขวางทางเอาไว้ในพริบตา“จะหนีไปที่ใดกันเล่า” กงจื่อเย่แสยะพลางเรียกดาบประจำกายกลับมา“...” เทพวายุไม่เอ่ยอันใดแต่หันไปสบตากับเทียนจวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีหน้ากังวลรู้สึกว่าตนเองกำลังตกหลุมพรางของมารเจ้าเล่ห์ผู้นี้“ไปเถิด” เทียนจวินเอ่ยปากบอกแล้วดันพลังของตัวเองมาต้านทานพลังมารของกงจื่อเย่แทนเทพวายุจอมมารเห็นช่องว่างช่วงเปลี่ยนผันไม่รอช้าเขวี้ยงดาบเขี้ยวอสูรใส่ทั้งคู่โดยไม่แยแสเพื่อสลายพลังที่ตรึงกายมารส่วนล่างของเขาเอาไว้กระนั้น เทพอาวุโสอีกคนหนึ่งเห็นท่าไม่ดีหลบ

    Last Updated : 2024-11-18
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 4 ชีวิตใหม่ของสวีลู่ชิง

    แดนมนุษย์เดิมทีเทพดาราจะกลายเป็นดาวตกลงมาเผชิญด่านเคราะห์ทุก ๆ หนึ่งพันปีเพื่อเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตในแดนมนุษย์ นางมีโชคชะตาที่เทพบรรพกาลเลือกสรรให้เป็นผู้สังหารจอมมารที่ถือกำเนิดขึ้นในสามภพตลอดระยะเวลาหลายแสนปีที่ผ่านมา เหล่าเทพเซียนภพสวรรค์ได้รับเลือกจากเทพบรรพกาลมานับไม่ถ้วนเพราะเขาผู้นั้นคือผู้หยั่งรู้โชคชะตาเมื่อจอมมารในแต่ละช่วงเวลาถือกำเนิด หากวิธีที่รับมืออยู่ไม่สามารถต้านทานพลังมารอันชั่วร้ายได้ เมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะผู้ที่สังหารจอมมารตนนั้นต้องสละแก่นวิญญาณของตนเองหลอมรวมอสนีบาตสวรรค์ 19 ครั้ง ผันเปลี่ยนเป็นพลังมหาศาลทำลายจอมมารไปพร้อม ๆ กันเหตุการณ์เหล่านั้นจึงทำให้มีเทพเซียนดับสูญตลอดกาลไปไม่น้อย แต่เพื่อแลกกับความสงบสุขของสามภพแล้ว พวกเขาเหล่านั้นจึงยอมรับในโชคชะตาของตัวเองครั้งนี้สวีลู่ชิงลงมาเกิดเป็นมนุษย์ครั้งที่สองด้วยช่วงเวลาที่ห่างกันจากครั้งแรกเพียงห้าร้อยปี พลังเทพของนางจึงได้รับความเสียหายบางส่วนเด็กทารกดวงตาสีฟ้า เรือนผมขาวแต่กำเนิดราวหิมะปรา

    Last Updated : 2024-11-25

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 29 ความรู้สึกเปลี่ยนไป

    หนึ่งเดือนผ่านไปราวกับว่ากำลังใจจากอู๋เยว่ชิงเป็นโอสถชั้นดี ร่างกายของหลินซีเวยจึงดีขึ้นเป็นลำดับแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง เวลานี้จึงพอที่จะเดินเล่นนอกตำหนักได้บ้างแล้วนับเป็นครั้งแรกที่เหล่าขันทีและนางในได้เห็นองค์ชายสามและชายาประทับอยู่ในสวนดอกไม้ สายตาทุกคู่เห็นพ้องต้องกันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาราวกับคนรักกันก็มิปานการกระทำของหลินซีเวยไม่มีปิดบัง การแสดงออกของเขาทำให้หลายคนได้ตระหนักว่าองค์ชายสามผู้นี้ก็มีด้านที่อบอุ่นและอ่อนโยนเช่นกัน“เทศกาลชมจันทร์ใกล้เข้ามาแล้ว เจ้าอยากไปเที่ยวชมหรือไม่เยว่ชิง” หลินซีเวยเอ่ยปากชวนนาง สีหน้าคาดคั้นหวังว่านางจะตอบรับคำขอ“เพคะ” รอยยิ้มบางของนางถือเป็นคำตอบ อู๋เยว่ชิงไม่เคยปฏิเสธคำขอของเขาสักครั้ง“เช่นนั้นเจ้าเตรียมตัวไว้ให้ดีเถิด” เขาบอกกล่าวอย่างมีเลศนัยพลางเอื้อมมือมากุมมือสองข้างของนางไว้ “ขอบคุณที่ดูแลข้ามาตลอด”“หม่อมฉันเต็มใจเพคะ” อู๋เยว่ชิงยิ้มให้เขา “หม่อมฉันไม่หวังสิ่งใดไปมากกว่านี้แ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 28 อธิษฐาน

    ผ่านไปสามวันหลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองดีขึ้นจากแต่เดิมอยู่มาก แม้กระทั่งฮ่องเต้และฮองเฮายังรู้สึกแปลกใจที่จู่ ๆ บุตรชายเปลี่ยนไปมากเพียงนั้นกระนั้นก็ทำให้พวกเขาทั้งคู่พอจะวางใจไปได้บ้างเพราะสุดท้ายแล้วการแต่งงานแก้เคล็ดในครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าแรกเริ่มที่พวกเขาได้ยินจากปากของอู๋ฮูหยินว่าบุตรสาวของนางแอบรักองค์ชายสามมานานแล้วก็ได้แต่คิดว่าอู๋เยว่ชิงช่างน่าสงสารที่ถูกบุตรชายของตนผลักไสไล่ส่งยิ่งต้องให้นางช่วยผูกดวงชะตาเพื่อรักษาอาการของเขาแล้วก็ยังรู้สึกว่าละอายใจไม่น้อยที่ต้องขอให้ช่วยเช่นนี้ แต่อู๋เยว่ชิงกลับรับปากและบอกว่านางจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขาอย่างสุดความสามารถคราวนี้ได้เห็นว่าความรักของนางได้รับการตอบแทนกลับมาบ้างแล้วจึงโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกหากแต่เรื่องราวลับคมคมในนี้มีเพียงแค่ฝ่ายจอมมารเท่านั้นที่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่สักวันหลินซีเวยจะหักหลังอู๋เยว่ชิงและสังหารนางอย่างเจ็บปวดการถูกหักหลังจากคนที่รักและไว้ใจที่สุดจะเป็นอย่างไร หลินซีเวยแทบรอที่จะได้เห็นสี

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 27 ลองทำดี

    เมื่อได้ยินดังนั้นหลินซีเวยจึงถามต่ออีกว่า “หากนางรักข้า ข้าควรทำเช่นไรให้นางรักจนยอมตายเพื่อข้าได้เล่า”เรียวคิ้วของเฉินซือหยางขมวดชนกัน “ข้าเป็นปีศาจอาจจะไม่สามารถล่วงรู้ความรู้สึกของมนุษย์ได้แน่ชัด นายท่านลองอ่านหนังสือพวกนั้นดูเถิดขอรับ”เขาชี้ไปที่ตู้ไม้มุมห้อง ในนั้นมีหนังสือเขียนเกี่ยวกับมนุษย์มากมายให้ค้นหา หลินซีเวยกวาดสายตามองแต่ไกลเพื่อเลือกหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง“ไม่เห็นจะมีอันใดน่าสนใจ” เขาส่ายหน้าแล้วร่ายพลังเผามันทิ้งอย่างไม่ใยดีเฉินซือหยางคิดหนักกว่าเดิมแล้วบอกให้เจ้านายรออยู่ครู่หนึ่งก่อนกลับมาพร้อมหนังสือกองใหญ่ “นายท่านลองอ่านพวกนี้ดูก่อนขอรับ ข้าเห็นมนุษย์หลายคนชอบอ่านยิ่งนัก”จอมมารผู้อ่อนต่อโลกสุ่มหยิบเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิดอ่าน ในเวลาหนึ่งก้านธูปเขากลับอ่านหนังสือเล่มหนาได้จนจบเล่ม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จึงผุดขึ้นมาในทันทีแล้วหยิบหนังสือเล่มอื่น ๆ มาอ่านต่อโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างคืนนั้น จอมมารอ่านหนังสือกองพะเนินจนครบทุกเล่มโดยไม่หลับไม่นอนพลั

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 26 ความรักคือสิ่งใด

    ในวันต่อมาหลินซีเวยยังคงปฏิบัติกับอู๋เยว่ชิงเหมือนเดิม ทั้งพูดจาไม่เข้าหู ปัดถ้วยโอสถกระเด็น และอีกสารพัดที่นึกอยากจะทำเพื่อให้อีกฝ่ายไปให้พ้นหน้าทว่า อู๋เยว่ชิงยังคงอดทนทำให้เขาตามที่นักพรตชราสั่งเอาไว้ไม่ขาดตกบกพร่องจนกระทั่งผ่านพ้นวันต้องห้าม“องค์ชาย ทรงเป็นอย่างไรบ้าง” ฮองเฮาเข้ามาเยี่ยมบุตรชายทันทีที่พ้นฤกษ์ยาม เวลานี้สีหน้าของหลินซีเวยดีขึ้นเล็กน้อย นางจึงเชื่อว่าการทำพิธีแต่งงานกับอู๋เยว่ชิงจะช่วยปัดเป่าไอมารปีศาจจากองค์ชายสามได้“ข้าไม่เป็นอันใด” เขาตอบอย่างขอไปที “รีบให้นางออกไปจากตำหนักของข้าได้แล้ว”“เจ้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกน้องสาม” ไท่จื่อส่ายหน้าแล้วอธิบายว่า “ท่านนักพรตบอกว่าดวงชะตาของพวกเจ้าผูกพันกัน เพราะมีนางอยู่ข้างกาย เจ้าจึงไม่ถูกไอมารปีศาจครอบงำ”“เสี่ยวเยว่ชิงตั้งใจดูแลองค์ชายเป็นอย่างดี พ่อว่าไม่มีใครเหมาะสมกับเจ้าไปมากกว่านางอีกแล้ว” ฮ่องเต้พูดขึ้นมา สีหน้าพึงพอใจและกำลังคิดบางอย่างอยู่ “เจ้าและนางก็ถึงวั

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 25 แก้เคล็ด

    สายตาของทุกคนหันไปมองอู๋เยว่ชิงอย่างพร้อมเพรียงกัน นึกสงสัยว่าเหตุใดนางจึงมีดวงชะตากำราบมาร ครั้นเมื่อฟังสิ่งที่นักพรตชรากล่าวแล้วจึงเข้าใจในที่สุดแม้วิธีแก้เคล็ดนั้นจะไม่ถูกใจหลินซีเวยแต่เวลานี้เขาไม่มีแรงมากพอที่จะคัดค้านสิ่งใด ทั้งยังไม่สามารถใช้พลังมารบังคับคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นหรือโน้มน้าวตามใจตัวเองได้เพราะเสี่ยงที่นักพรตจะจับได้ในทันทีว่าตัวเขาคือจอมมารที่แฝงอยู่ในร่างของมนุษย์การโดนกำจัดไม่ได้ยุ่งยากหรือลำบากจอมมารนัก อย่างไรเสียเขาสามารถฟื้นคืนขึ้นมาใหม่ทุกครั้งที่พลังมารมากพออยู่แล้ว แต่เป็นเพราะเกรงว่าจะตามหาตัวผู้มีดวงกำราบมารไม่ทันการจนส่งผลเสียต่อตัวเขาเองมากกว่าจึงต้องยั้งมือเอาไว้แล้วค่อยหาทางแก้ในคราวหลัง“ท่านนักพรตหมายความให้ข้าน้อยแต่งงานกับองค์ชายสามหรือเจ้าคะ” อู๋เยว่ชิงไม่เชื่อหูตนเอง สายตาของนางเหลือบมองหลินซีเวยที่หลับนิ่งอยู่บนเตียงเมื่อนักพรตชราพยักหน้า ฮองเฮาจึงเดินมากุมมืออู๋เยว่ชิงไว้พลางขอร้องให้ช่วยบุตรชายของนาง ไม่ว่าจวนแม่ทัพต้องการสิ่งใด นางจะหามาให้ทั้งหมดเพื่อเป็นการ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 24 ดวงชะตากำราบมาร

    ครั้นได้ยินข่าวลือจากในวังหลวงว่าหลินมู่หลงจะต้องอภิเษกกับองค์หญิงต่างเมือง อู๋เยว่ชิงก็รีบวิ่งไปถามความจริงจากอีกฝ่ายในทันทีสายตาของใครบางคนที่แอบอยู่ด้านหลังต้นหลิวมองทั้งคู่ด้วยความเจ้าเล่ห์ ยิ่งเห็นว่านางร้องไห้ฟูมฟาย น้ำตานองหน้าก็ยิ่งสะใจจนอดไม่ได้ยิ้มร้ายออกมาอู๋เยว่ชิงไม่มีโอกาสได้ทำใจมากกว่านั้นเพราะช่วงเวลาที่หลินมู่หลงจะต้องเดินทางไปยังเมืองหมิงเหวินมาถึงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้มาก“เหตุใดจะต้องเร่งไปถึงเพียงนี้ หม่อมฉันยังทำใจจากองค์ชายไปไม่ได้เลย” นางเม้มปากพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้เอ่อไหล“ข้าสัญญาว่าจะเขียนจดหมายมาหาเจ้าบ่อย ๆ” องค์ชายเจ็ดสวมกอดนางปลอบโยนด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่ให้เวลานางได้ทำใจสักหน่อย “เห็นเจ้าร้องไห้เช่นนี้แล้ว ข้าควรทำอย่างไรดีเยว่ชิง”“จะทำอย่างไรได้ รีบไปเสียทีสิ” เสียงของใครบางคนไม่สบอารมณ์ปรายตามองทั้งสองคนอยู่อีกมุมหนึ่งโดยไม่สนว่าบรรยากาศในที่แห่งนั้นกำลังเศร้าสร้อยนับตั้งแต่หลินมู่หลงไม่อยู่ในวังหลวงแห่งนี้แล้ว อู๋เยว

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 23 สาสน์แต่งงาน

    สิบเหมันต์ผันผ่านไปความสัมพันธ์ระหว่างอู๋เยว่ชิงและองค์ชายเจ็ดแน่นแฟ้นขึ้น สายตาของคนนอกต่างมองว่าพวกเขาเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก“บุตรสาวเจ้าถึงวัยออกเรือนแล้ว ข้าเห็นว่านางสนิทสนมกับองค์ชายเจ็ดพอสมควร วันนี้จึงมาปรึกษา” ฮองเฮารับหน้าที่เป็นแม่สื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งอู๋ฮูหยินขมวดคิ้วมีสีหน้าครุ่นคิดแล้วตอบสหายสนิทไปว่า “เรื่องของหัวใจ หม่อมฉันว่าปล่อยให้เด็ก ๆ เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อนจะดีกว่า”“กังวลเรื่องใดอยู่หรือ ข้านึกว่าเจ้าจะตอบตกลงทันทีที่ข้าเอ่ยปากเสียอีก” นางนึกสงสัยว่าเป็นเพราะเหตุใด“หม่อมฉันไม่แน่ใจนัก” สายตาของนางมองไปที่บุตรสาว เวลานี้อู๋เยว่ชิงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลาอีกฝั่งหนึ่งอยู่เพียงลำพังครั้นผ่านไปหนึ่งชั่วยาม อู๋เยว่ชิงจึงออกไปเดินเล่นทางสวนดอกไม้ฝั่งวังหลวงบ้างเหมือนเช่นเคย โดยไม่ลืมถือของฝากไปให้องค์ชายเจ็ดที่ตำหนักของเขาบ่อยครั้งจึงมักสวนทางกับหลินซีเวย แม้นางจะยิ้มให้อีกฝ่ายหรือทำท่าเอ่ยปากทักทายแต่องค์ชายสามผู้เคร่งขรึมก็มักจะเบือนหน้าหนีอย่างไม่ใยดีทำให้นางรู้สึกเศร้าใจโดยไม่รู้ตัวเมื่อมาถึงตำหนักของหลินมู่หลง เขาจึงปลอบใจนางยกใหญ่ ไม่นานนักรอยยิ้มสดใสข

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 22 พลังมารย้อนกลับ

    ความหวังดีของอู๋เยว่ชิงยิ่งทำให้จอมมารน้อยรำคาญมากขึ้น เขาใช้แรงที่มีอยู่ผลักนางออกจนมือข้างซ้ายกระแทกกับก้อนหินแหลมทว่า อู๋เยว่ชิงไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อยแต่มือข้างซ้ายของหลินซีเวยกลับมีรอยบาดจากคมหินแหลมเป็นทางยาวจนได้เลือดเพิ่มขึ้นมาอีก“องค์ชายทรงมีประชวรอีกแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ” เสียงตื่นตกใจของขันทีเอ่ยปากถามพลางสั่งให้นางกำนัลไปตามหมอหลวงแม้ว่าทุกวันนี้พวกเขาจะเห็นว่าองค์ชายสามมักจะมีอาการเช่นนี้บ่อย ๆ แต่ก็กังวลทุกครั้งเพราะเป็นอาการที่หมอหลวงไม่อาจหาสาเหตุได้เคราะห์ยังดีที่ดื่มยาสมุนไพรชั้นดีไปสองสามวัน ร่างกายขององค์ชายสามก็กลับมาเป็นปกติราวกับไม่เคยเจ็บป่วยใด ๆ มาก่อนหลินซีเวยถอนหายใจอีกครั้งแล้วนั่งนิ่งบนเสลียงกลับตำหนักของตน บ่นพึมพำ “ทำไม่สำเร็จอีกแล้ว”อู๋เยว่ชิงมองตามหลังด้วยความเป็นห่วงแล้วถามองค์ชายเจ็ดที่ยืนอยู่ข้าง ๆ &ldq

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 21 หาโอกาส

    เจ็ดปีผ่านไปเมืองไท่หยางจัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองประจำฤดูใบไม้ผลิ บรรยากาศระหว่างนี้จึงมีแต่ความสนุกสนานสดใส ใครต่อใครต่างรอคอยช่วงเวลาค่ำคืนเพื่อที่จะชมดอกไม้ไฟด้วยใจจดจ่ออู๋เยว่ชิงวัยเจ็ดขวบวิ่งหน้ายิ้มแป้นมาแต่ไกลร้องเรียกสหายคนสนิทที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน “องค์ชายเจ็ด คืนนี้ทรงมารอดูดอกไม้ไฟด้วยกันหรือไม่เพคะ”หลินมู่หลง หรือองค์ชายเจ็ด น้องชายต่างมารดาของหลินซีเวยผู้ที่เกิดก่อนนางไม่กี่เดือนกลายมาเป็นเพื่อนรักรุ่นเดียวกันตั้งแต่แรกเกิดเพราะมีนิสัยหลายอย่างคล้ายคลึงกัน“แน่นอนอยู่แล้ว ข้ารอเจ้ามาชวนอยู่พอดีเลย” เขายิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะยื่นขนมหวานที่นางชอบให้อย่างเป็นมิตร “ข้าแอบไปขอมาเพิ่มให้เจ้าเชียว รีบกินเร็วเข้า”“องค์ชายทรงเลี้ยงหม่อมฉันให้เป็นหมูอยู่หรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงมองดวงตาสีน้ำตาล ท่าทีหยอกล้อทำให้เขาหัวเราะออกมา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status