Share

ตอนที่ 31 หึงหวง

last update Last Updated: 2025-02-25 11:00:28

ผ่านไปสองเดือน

ฮ่องเต้เมืองไท่หยางได้จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการอภิเษกขององค์ชายสามกับบุตรสาวแม่ทัพอย่างยิ่งใหญ่เพื่อแสดงความยินดีกับทั้งคู่อย่างเป็นทางการเจ็ดวันเจ็ดคืน

นอกจากนั้นยังเป็นการจัดงานรื่นเริงอวยพรให้องค์ชายสามมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงอีกด้วย

วังหลวงถูกประดับตกแต่งด้วยผ้าหลากสีสัน ห้อยโยงระย้าสวยงาม ทั้งยังมีโคมไฟลวดลายต่าง ๆ ห้อยไว้อยู่ทุกหนแห่ง ยามค่ำคืนดวงไฟนั้นจะส่องแสงสว่างสะท้อนภาพบนกระดาษที่ใช้ทำโคมไฟ

สิ่งที่ทำให้อู๋เยว่ชิงตื่นเต้นมากที่สุดคือการมาเยือนของหลินมู่หลงสหายรักของนางที่เดินทางกลับมายังเมืองไท่หยางพร้อมชายาของตน

ครั้นได้พบหน้ากัน อู๋เยว่ชิงจึงอดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งไปหาเขาด้วยความคิดถึง รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นมา ทั้งยังท่าทางสนิทสนมระหว่างคนทั้งคู่ก็ทำให้ใครบางคนนิ่วหน้าในทันที

“องค์หญิงสือหลิว ยินดีด้วยเพคะ” อู๋เยว่ชิงกล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเป็นกันเอง

ก่อนหน้านี้ได้อ่านจดหมายจากองค์ชายเจ็ดจึงพอได้รู้แล้วว่าองค์หญิงสือหลิวกำลังทรงพระครรภ์ นางจึงพลอยดีใจไปด้วยที่ครอบครัวของหลินมู่หลงเป็นไปอย่างที่เขาคาดหวังเอาไว้

“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” หลินมู่หลงลูบเรือนผมของนาง

“สบายดีอย่างมากเลยเพคะ” อู๋เยว่ชิงยิ้มกว้างพลางหันไปมองหลินซีเวยที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง “เหตุใดจึงทำหน้าบูดถึงเพียงนั้นนะ” เสียงเอ่ยพึมพำของนางทำให้องค์ชายเจ็ดจำต้องหันหน้าไปมองด้วยเช่นกัน

“มิใช่ว่าเป็นอย่างนี้อยู่ตลอดหรือ” เขากล่าวตามความรู้สึกของตัวเอง แต่ไหนแต่ไรมาก็มักจะเห็นองค์ชายสามหน้าบึ้งตึงเสมอ

“หามิได้เพคะ เสด็จพี่... องค์ชายสามมิได้เป็นอย่างที่พระองค์กล่าวแล้ว หรือว่าจะทรงมีพระประชวรที่ใดอีก หม่อมฉันขอตัวไปดูก่อนนะเพคะ” อู๋เยว่ชิงพูดเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปหาหลินซีเวยทันที

“น่าเป็นห่วงจริง ๆ” หลินมู่หลงส่ายหน้าแล้วมองชายาของตัวเองพลันได้สายตาเอ็นดูกลับมา “เจ้ามองข้าแล้วยิ้มอย่างนั้นหมายความว่าอะไรหรือ”

“จริง ๆ เลย พวกท่านทั้งคู่ไม่รู้จริงหรือ” องค์หญิงสือหลิวล้อเลียนเขา “ไม่ใช่แค่พวกท่านสองคนแต่รวมถึงองค์ชายสามก็ด้วย”

“เจ้ารู้อะไรมาเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่”

“ไม่บอกหรอก” องค์หญิงสือหลิวเบือนหน้าหนีแล้วรีบเดินไปอีกทางหนึ่งทิ้งให้ฝ่ายหลินมู่หลงต้องวิ่งตามพลางอ้อนวอนถามสิ่งที่นางรู้มา

“บอกไปก็ไม่สนุก ไม่บอกดีกว่า”

“ชายาของข้า บอกมาเถอะนะ” หลังจากตามอ้อนวอนอยู่นาน พระชายาของเขาจึงใจอ่อนยอมบอกสิ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นได้ให้อีกฝ่ายฟัง

“จริงหรือ” สีหน้าของหลินมู่หลงดูคล้ายจะไม่เชื่อ

“ลองพิสูจน์ดูเอาเถอะหากพระองค์ไม่เชื่อ” องค์หญิงเลิกคิ้วท้าทายพระสวามี นางยิ้มมุมปากคิดแผนได้หนึ่งอย่างและโน้มน้าวใจคนข้าง ๆ ให้ยอมทำตามได้อย่างง่ายดาย

เย็นวันนั้น

หลินมู่หลงจึงชวนอู๋เยว่ชิงออกไปเที่ยวตลาดในเมืองกันเพียงสองคน อ้างว่าอยากซื้อของขวัญมาให้พระชายาแต่กลัวว่าตนเองจะเลือกได้ไม่ดีจึงอยากให้นางไปช่วย แน่นอนว่าสหายคนสนิทต้องยอมช่วยอย่างเต็มใจ

เมื่อได้อยู่กันลำพังสองคน บรรยากาศรอบข้างจึงทำให้เหมือนได้ย้อนกลับไปในวันวานที่ทั้งคู่ได้เที่ยวเล่นในเยาว์วัย

“ตอนกลางวัน พี่สามเป็นอันใดมากหรือไม่” องค์ชายเจ็ดถามไถ่

“ไม่มีอะไรเลยเพคะ” นางตอบด้วยสีหน้าสบายใจ

“แล้วเหตุใดสีพระพักตร์จึงเป็นอย่างนั้นได้”

“เสด็จพี่...องค์ชายตรัสว่าไม่มีอะไรจริง ๆ เพคะ” อู๋เยว่ชิงถามเขาแล้วแต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าสบายดี

“เจ้าน่ะจะเรียกองค์ชายหรือเสด็จพี่ก็เลือกเอาสักอย่างเถอะ” เขาลูบศีรษะของนางที่ทำตัวไม่ถูก

“หม่อมฉันยังไม่ชินนี่” ร่างบางเม้มปากคิ้วขมวดแล้วเปลี่ยนเรื่อง “องค์หญิงโปรดสิ่งใดเป็นพิเศษหรือไม่ น้ำหอม เครื่องประดับ ผ้าไหม”

“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่านางมิใช่องค์หญิงทั่วไป” หลินมู่หลงพูดถึงชายาของตนเองพลันยิ้มบาง

“องค์ชายตรัสว่าจะซื้อของขวัญให้ คงไม่ได้หมายถึงว่าจะเป็นพวกมีด ดาบอะไรทำนองนั้นใช่หรือไม่” อู๋เยว่ชิงมองหน้าเขารอคำตอบ “ของขวัญเชียวนะเพคะ แล้วหม่อมฉันจะช่วยเลือกได้อย่างไร”

“นางชอบมีดดาบ ขืนข้าซื้อดอกไม้น้ำหอมไปให้ นางจะได้งอนข้าน่ะสิ”

“แต่ว่าทั้งมีดแล้วก็ดาบที่องค์หญิงสะสมไว้ก็มีเต็มคลังอาวุธแล้ว ลองเลือกของขวัญอย่างอื่นดูเถิดเพคะ อีกอย่างองค์ชายทรงตั้งพระทัยซื้อให้เป็นของขวัญชิ้นสำคัญ พระชายาไม่มีทางกริ้วหรอก” อู๋เยว่ชิงโน้มน้าวใจเขาแล้วชวนเข้าไปดูร้านเครื่องประดับอย่างไม่รีรอ

ทั้งคู่ช่วยกันดูของชิ้นโน้นชิ้นนี้อยู่นานสองนานจนในที่สุดก็สะดุดตาปิ่นสีแดงทับทิมลายดอกโบตั๋นอันหนึ่ง

“ข้าว่าปิ่นนี้งามนัก” หลินมู่หลงหยิบมาให้นางพินิจพิจารณา

“อืม งดงามมากเพคะ”

ครั้นเห็นพ้องต้องกันแล้ว ของขวัญชิ้นพิเศษนอกเหนือจากมีดและดาบจึงถูกจัดวางใส่กล่องไม้ลายฉลุเตรียมนำไปมอบให้เจ้าของด้วยความยินดี

ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่าด้านหลังไม่ไกลนักมีสายตาคู่หนึ่งของหลินซีเวยมองตามมาตั้งแต่ออกจากวังหลวงจนกระทั่งถึงเวลานี้

“นายท่านไอมารปีศาจคลุ้งไปหมดแล้วขอรับ” เฉินซือหยางบอกคนข้างกายให้รู้ตัวแต่กลับโดนสายตาเยือกเย็นมองกลับมาแทนแล้วสะบัดหน้าหนีไปจับตามองอู๋เยว่ชิงกับใครอีกคนต่อ

ปีศาจหนุ่มหันขวับไปมองโจวเหวินหลงบ้างแต่อีกฝ่ายยักไหล่ทำไม่รู้ไม่ชี้ ใครเล่าจะเข้าใจอารมณ์ของจอมมาร ในเมื่อที่ผ่านมาก็ไม่มีใครเคยเดาความรู้สึกของเขาได้ออก

อู๋เยว่ชิงและหลินมู่หลงพูดคุยกันไปพลางระหว่างกลับมายังวังหลวง จู่ ๆ หลินมู่หลงจับมือสองข้างของนางขึ้นมาเอ่ยปาก “ตอนที่ข้าได้ข่าวว่าพี่สามเปลี่ยนไปมากเพียงใด ข้ายินดีกับเจ้าจากใจจริง หวังว่าจากนี้เจ้าและพี่สามจะได้ครองคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไปนะเยว่ชิง”

“ขอบพระทัยเพคะ” นางยิ้มกว้าง สีหน้าเปี่ยมความสุข “หม่อมฉันก็หวังว่าพระองค์กับองค์หญิงจะมีความสุขเช่นกัน” นางพูดจบแล้วเผลอลืมตัวกอดเขาเหมือนอย่างที่เคยทำก่อนจะผละตัวออกมา “หม่อมฉันลืมไปเพคะ” พร้อมยิ้มแห้งแต่กลับเรียกเสียงหัวเราะจากคนตรงหน้าได้อย่างดี “ถ้าพี่สามอยู่ตรงนี้ด้วย ข้าไม่โดนสับเป็นชิ้น ๆ เลยหรือ”

“เฮอะ สับได้ก็ดีสิ ข้าจะสับให้ละเอียดเลยทีเดียว” เสียงของหลินซีเวยดังขึ้น ไอมารปีศาจเดือดปุด ๆ จนลูกน้องต้องคอยห้ามปราม

“ร่างกายนายท่านเพิ่งจะหายดีไม่ใช่หรือขอรับ จะร่ายพลังมารใส่นางอีกหรือ” เฉินซือหยางโน้มน้าวใจเขา

“ใครบอกว่าข้าจะทำอะไรนาง ข้าจะจัดการเจ้านั่นต่างหาก” องค์ชายสามกระฟัดกระเฟียดไม่สบอารมณ์ “บังอาจมายุ่งกับเมียข้า ส่วนนาง เหตุใดถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพียงนั้น คุยอะไรกันสนุกสนานมากหรืออย่างไร”

“นายท่านใจเย็น ๆ ก่อนเถิด” แม้โจวเหวินหลงจะสงสัยในความรู้สึกของเจ้านายไปบ้างแต่กลับคล้อยตามไปไม่น้อย “สิ่งที่นายท่านเห็นก็เป็นเพียงเรื่องของสหายสองคนปฏิบัติต่อกันเท่านั้น”

สายตาปานสายฟ้ามองเฉือนโจวเหวินหลงในพริบตา “นางแต่งงานแล้ว สามีนางก็ยืนอยู่ตรงนี้”

“แต่พวกเขาไม่เห็นนายท่านนี่ขอรับ” สัตว์อสูรแย้งทันทีแล้วเอ่ยต่อ “หากนายท่านหึงหวงมากนัก สู้ปรากฏตัวให้พวกเขาเห็นไม่ดีกว่าหรือ”

ไม่ทันที่เขาจะได้พูดจบดี ร่างของหลินซีเวยก็เดินห่างออกไปตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ได้ พลันองค์ชายเจ็ดจึงรู้สึกว่ามีพลังอาฆาตบางอย่างกำลังลอยเข้ามาใกล้

Related chapters

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 32 ท้อง

    เสด็จพี่ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้หรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงถามหลินซีเวยทันทีที่เห็นหน้า“นั่นสิพี่สาม วังหลวงออกจะกว้างใหญ่ บังเอิญจริง ๆ ที่ได้เห็นท่านที่นี่” หลินมู่หลงพูดเบา ๆ แต่อีกฝ่ายกลับตอบว่า “บังเอิญอย่างยิ่งที่มืดค่ำป่านนี้แล้วเจ้ายังไม่กลับตำหนักของตนแต่มาอยู่กับนาง”“พระพักตร์ไม่สบอารมณ์ พระสุรเสียงหงุดหงิด ท่าทางฉุนเฉียว” เสียงขององค์หญิงสือหลิวลอยมาแต่ไกลพลางมองคนของตนเองราวกับจะบอกว่า “เห็นไหมเล่า เป็นอย่างที่ข้าบอกจริง ๆ ด้วย”“เป็นอย่างไรหรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงถามนางบ้าง“การกระทำเช่นนี้ องค์ชายสามคงจะตกไหน้ำส้มกระมัง” องค์หญิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา แล้วหันไปบอกกับหลินมู่หลงว่า “เราสองคนขอตัวกลับกันก่อนดีกว่า” แล้วคล้องแขนดึงคนข้าง ๆ ไปทันที“เอ่อ...” หลินมู่หลงกำลังจะเอ่ยปากแต่ทำได้แค่ยกมือโบกลาอู๋เยว่ชิงเท่านั้นดวงตาสีม่วงแดงของหลินซีเวยขุ่นเคืองไม่น้อยจนอู๋เยว่ชิงนึกถึงคำที่องค์หญิงบอกเมื่อครู่ “เสด็

    Last Updated : 2025-02-27
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 33 แพ้ท้องแทน

    คืนนั้น ข่าวคราวของชายาองค์ชายสามแพร่สะพัดไปทั่ววังหลวง ปีนี้นับว่ามีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาจนใครหลายคนพากันขอบคุณสวรรค์หลังจากหมอหลวงกลับออกไป หลินซีเวยยิ่งตัวติดกับอู๋เยว่ชิงไม่ห่างมากกว่าเดิม คอยประคบประหงมดูแลยิ่งกว่าไข่ในหิน“หม่อมฉันดื่มเองได้เพคะ” นางรีบรับถ้วยยามาถือไว้เพราะเกรงใจคนตรงหน้าที่ไม่เคยต้องปรนนิบัติดูแลใครอย่างใกล้ชิดมาก่อน“ข้าอยากดูแลเจ้าเหมือนครานั้นที่เจ้าดูแลข้า ไม่ได้หรือ” หลินซีเวยไม่ยอมปล่อยถ้วยยานั้น อู๋เยว่ชิงไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรจึงได้แต่ทำตามโดยปริยายเช้าวันต่อมาฮ่องเต้และฮองเอาจึงมาแสดงความยินดีกับทั้งสองคนพร้อมอวยพรให้สุขภาพร่างกายของอู๋เยว่ชิงและเด็กน้อยในท้องแข็งแรง ไร้โรคภัยเบียดเบียนไท่จื่อกับชายารวมถึงหลินมู่หลงและองค์หญิงสือหลิวก็มาพร้อมหน้ากัน หากแต่ปฏิกิริยาของหลินซีเวยดูแตกต่างไปจากตอนที่บิดาของเขามาเยี่ยมนักบุรุษใดนอกเหนือจากที่เขาคิดอย่าได้ย่างกรายเข้ามาใกล้นางเป็นอันขาด“พี่สาม ข้าจะขอพบนางสักครู่ไม่ได้หรือ” หลินม

    Last Updated : 2025-03-01
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 34 ห่างไกลกัน

    หนึ่งเดือนต่อมา ณ ตำหนักจันทรา“เยว่ชิง เจ้าดูนี่สิ วันนี้ข้าสั่งให้คนนำดอกไม้ที่เจ้าชอบมาปลูกในสวน ถึงวันที่เจ้าคลอดเมื่อใด ดอกไม้พวกนี้คงจะบานสะพรั่งพอดี” หลินซีเวยเอ่ยปากบอกพลางกุมมืออู๋เยว่ชิงที่กำลังลูบท้องของตนเอง“พระวรกายดีขึ้นแล้วหรือเพคะ ไม่กี่วันก่อนยังทรงพระอาเจียนอยู่เลย” นางยังคงนึกเป็นห่วงอาการแพ้ท้องแทนของหลินซีเวยเหมือนทุกครั้ง แต่คนข้าง ๆ ก็ยังตื่นเต้นกับการจะได้เป็นพ่อคนครั้งแรกจึงไม่สนใจร่างกายของตนเอง“เจ้าอย่าได้กังวลเรื่องนั้นเลย เห็นเจ้ากับลูกสบายดี ข้าก็โล่งใจมากแล้ว” มือหนาลูบเรือนผมของนางอย่างแผ่วเบา “ข้ามีของขวัญอีกหนึ่งชิ้นให้เจ้า”หลินซีเวยหยิบปิ่นหยกเขียวบริสุทธิ์ออกมาให้นางดู ตรงด้ามสลักคำว่า รักมั่นนิรันดร์ ก่อนจะปักปิ่นบนเรือนผมให้ชายาของตนเอง“ขอบพระทัยเพคะ” อู๋เยว่ชิงยิ้มกว้างและรู้สึกขอบคุณความเอาใจใส่ดูแลของหลินซีเวยยิ่งนัก หนึ่งเดือนมานี้เขาตั้งหน้าตั้งตาทำทุกอย่างให้นางจนนางแทบไม่ต้องแตะต้องอันใดเลย แม

    Last Updated : 2025-03-03
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 0 จุดเริ่มต้นของโชคชะตา

    ความสงบสุขเรียบง่ายหลายหมื่นปีของภพสวรรค์กำลังถูกสั่นคลอนเพราะมารตนหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน ใครเล่าจะคิดว่าสิ่งเล็ก ๆ จากบ่อโคลนของความชั่วร้ายทั้งปวงจะหลอมรวมภัยอันตรายที่สามารถทำลายล้างสวรรค์ให้ราบเป็นหน้ากลองได้ในเวลาไม่นานภพมารแซ่ซ้องสรรเสริญผู้ปกครองดินแดนคนใหม่ ยกขึ้นเป็นนายเหนือหัวที่จะกลายเป็นจอมมารปลดเปลื้องพันธะให้เหล่ามารปีศาจที่ถูกกักขังในหุบเหวดำมืด จบสิ้นการลงทัณฑ์อันยาวนานจากเทพบรรพกาลเสียงอึกทึกกึกก้องคำรามข่มขู่เหล่าเทพเซียนบนฟากฟ้าพร้อมบุกเข้าโจมตีอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนผู้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์วุ่นวายโกลาหลเคราะห์ยังดีที่กองทัพสวรรค์เป่าแตรส่งสัญญาณเตือนภัยได้ทันเวลา เหล่าเทพเซียนจึงผนึกกำลังป้องกันการรุกรานของทัพมารอย่างสุดความสามารถเทพสงครามนำทัพออกมาเผชิญหน้าปกป้องสรรพสิ่งไม่ให้แตกสลายจากมหันตภัยในครั้งนี้ กลยุทธ์มากมายที่เคยใช้กับจอมมารตนอื่นกลับไม่ได้ผลนักไพ่ตายที่ถูกวางไว้สามอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ หวังว่าจะหยุดความเลวร้ายทั้งหมดลงไปได้ก่อนที่จะมีความสูญเสียไปมากกว่านี้เวลานั้นโฉมหน้าของผู้นำทัพมารจึงปรากฏขึ้น รอยยิ้มชั่วร้ายและแววตาเย็

    Last Updated : 2024-10-28
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 1 ทัพมารบุกสวรรค์

    ท่ามกลางความโกลาหลตรงเขตชายแดนระหว่างภพมารและภพสวรรค์ เทพจันทราเร่งหลอมรวมวิญญาณและพลังของตนเองเพื่อผนึกลิขิตสวรรค์ในต้นไม้แห่งโชคชะตาไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้แม้จะต้องสละวิญญาณแต่นั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องสรรพสิ่งจากหายนะที่คืบคลานเข้ามา ชายชรารู้เป็นอย่างดีว่าจอมมารจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชะตาของใครบางคนอย่างแน่นอน และนั่นอาจจะทำให้แผนการที่วางไว้ล่มไม่เป็นชิ้นดีเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังกระหึ่มสร้างความวิตกในใจของเขาเป็นอย่างมาก อีกนิดเดียว ข้าขอเวลาอีกนิดเดียว เขาคิดในใจหวังว่ากองทัพสวรรค์ที่อยู่ด้านนอกจะช่วยต้านทานถ่วงเวลาผู้บุกรุกได้อีกสักเพียงนิด“หยุดนะ!” ปีศาจสาวนามว่าหลิวอิงอิงผู้เป็นมือขวาของจอมมารตะโกนก้อง นางร่ายพลังปีศาจใส่เทพจันทราโดยไม่ยั้งมือ หากแต่ถูกสกัดกั้นโดยกองอารักขาเสียก่อน จึงทำให้นางฉุนเฉียวเพราะไม่ได้ดั่งใจเทพจันทราตั้งสติมั่นพลันขอบข่ายอาคมปรากฏขึ้นหลอมรวมกับจิตวิญญาณอันแกร่งกล้าของชายชราผู้นี้โอบล้อมเป็นม่านคลุมต้นไม้แห่งโชคชะตาเอาไว้ในชั่วขณะหลิวอิงอ

    Last Updated : 2024-11-04
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 2 จุติเป็นมนุษย์

    บทสนทนาระหว่างเทพวายุกับจอมมารและการต่อสู้ของทั้งสองดำเนินไปอย่างดุเดือด สวีต้าเฟิงเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อถ่วงเวลาให้เทพสงครามได้อย่างแนบเนียนจนอีกฝ่ายสามารถหลอมพลังวิญญาณได้เรียบร้อยกลายเป็นหนึ่งเดียวกับดาบคู่กายของตนเองสายตาที่เทพวายุมองสหายเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อร่ำลาทำให้กงจื่อเย่รู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นละครฉากใหญ่จังหวะที่หันไปมองตามนั้น ดาบเทพสงครามอันมหึมาก็พุ่งทะลุผ่านร่างของจอมมารในพริบตาการสละวิญญาณของเทพสงครามได้ผลชะงัดเพราะสามารถผนึกเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตดวงแรกไว้ในแก่นวิญญาณของจอมมารได้ ส่งผลให้พลังมารที่รุนแรงถดถอยลงไปหนึ่งส่วนกงจื่อเย่จะไม่รู้ตัวว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาภายในแก่นวิญญาณของตัวเองเพราะถูกพลังเทพสงครามบดบังเอาไว้แต่เฉลียวได้ว่าผู้นำกองทัพสวรรค์ย่อมไม่สละตนเองเพียงเพื่อทำลายพลังมารของเขาส่วนเดียวจอมมารยืนทื่ออยู่ครู่หนึ่ง พิจารณาว่าร่างมารของตนเองมีสิ่งใดผิดแปลกไปหรือไม่“พวกเจ้าทำอะไรข้า” เขาไม่รู้ว่าเหล่าเทพใช้วิธีใดและนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย

    Last Updated : 2024-11-11
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 3 ขัดขวาง

    ภพสวรรค์เซียนผู้เฝ้าหออาวุธโบราณเพิ่งสังเกตได้ว่าดวงเนตรอำพันหายไปจึงคิดรายงานเทียนจวิน แต่กลับถูกสัตว์อสูรเขาแหลมตัวเขื่องขวิดจนร่างแตกสลายไปเสียก่อนสวีต้าเฟิงเห็นจอมมารยิ้มมุมปากได้แต่นึกสงสัยว่าผู้ที่โดนรุมล้อมสังหารมีเหตุอันใดให้รื่นรมย์ใจถึงเพียงนี้ ทั้งยังแววตาท้าทายที่มองมายังเขาไม่วางตาราวกับบรรลุเป้าหมายบางอย่างครั้นจะปลีกตัวออกมาจากที่แห่งนั้นเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจกลับถูกดาบเขี้ยวอสูรเหวี่ยงเข้ามาขวางทางเอาไว้ในพริบตา“จะหนีไปที่ใดกันเล่า” กงจื่อเย่แสยะพลางเรียกดาบประจำกายกลับมา“...” เทพวายุไม่เอ่ยอันใดแต่หันไปสบตากับเทียนจวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีหน้ากังวลรู้สึกว่าตนเองกำลังตกหลุมพรางของมารเจ้าเล่ห์ผู้นี้“ไปเถิด” เทียนจวินเอ่ยปากบอกแล้วดันพลังของตัวเองมาต้านทานพลังมารของกงจื่อเย่แทนเทพวายุจอมมารเห็นช่องว่างช่วงเปลี่ยนผันไม่รอช้าเขวี้ยงดาบเขี้ยวอสูรใส่ทั้งคู่โดยไม่แยแสเพื่อสลายพลังที่ตรึงกายมารส่วนล่างของเขาเอาไว้กระนั้น เทพอาวุโสอีกคนหนึ่งเห็นท่าไม่ดีหลบ

    Last Updated : 2024-11-18
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 4 ชีวิตใหม่ของสวีลู่ชิง

    แดนมนุษย์เดิมทีเทพดาราจะกลายเป็นดาวตกลงมาเผชิญด่านเคราะห์ทุก ๆ หนึ่งพันปีเพื่อเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตในแดนมนุษย์ นางมีโชคชะตาที่เทพบรรพกาลเลือกสรรให้เป็นผู้สังหารจอมมารที่ถือกำเนิดขึ้นในสามภพตลอดระยะเวลาหลายแสนปีที่ผ่านมา เหล่าเทพเซียนภพสวรรค์ได้รับเลือกจากเทพบรรพกาลมานับไม่ถ้วนเพราะเขาผู้นั้นคือผู้หยั่งรู้โชคชะตาเมื่อจอมมารในแต่ละช่วงเวลาถือกำเนิด หากวิธีที่รับมืออยู่ไม่สามารถต้านทานพลังมารอันชั่วร้ายได้ เมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะผู้ที่สังหารจอมมารตนนั้นต้องสละแก่นวิญญาณของตนเองหลอมรวมอสนีบาตสวรรค์ 19 ครั้ง ผันเปลี่ยนเป็นพลังมหาศาลทำลายจอมมารไปพร้อม ๆ กันเหตุการณ์เหล่านั้นจึงทำให้มีเทพเซียนดับสูญตลอดกาลไปไม่น้อย แต่เพื่อแลกกับความสงบสุขของสามภพแล้ว พวกเขาเหล่านั้นจึงยอมรับในโชคชะตาของตัวเองครั้งนี้สวีลู่ชิงลงมาเกิดเป็นมนุษย์ครั้งที่สองด้วยช่วงเวลาที่ห่างกันจากครั้งแรกเพียงห้าร้อยปี พลังเทพของนางจึงได้รับความเสียหายบางส่วนเด็กทารกดวงตาสีฟ้า เรือนผมขาวแต่กำเนิดราวหิมะปรา

    Last Updated : 2024-11-25

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 34 ห่างไกลกัน

    หนึ่งเดือนต่อมา ณ ตำหนักจันทรา“เยว่ชิง เจ้าดูนี่สิ วันนี้ข้าสั่งให้คนนำดอกไม้ที่เจ้าชอบมาปลูกในสวน ถึงวันที่เจ้าคลอดเมื่อใด ดอกไม้พวกนี้คงจะบานสะพรั่งพอดี” หลินซีเวยเอ่ยปากบอกพลางกุมมืออู๋เยว่ชิงที่กำลังลูบท้องของตนเอง“พระวรกายดีขึ้นแล้วหรือเพคะ ไม่กี่วันก่อนยังทรงพระอาเจียนอยู่เลย” นางยังคงนึกเป็นห่วงอาการแพ้ท้องแทนของหลินซีเวยเหมือนทุกครั้ง แต่คนข้าง ๆ ก็ยังตื่นเต้นกับการจะได้เป็นพ่อคนครั้งแรกจึงไม่สนใจร่างกายของตนเอง“เจ้าอย่าได้กังวลเรื่องนั้นเลย เห็นเจ้ากับลูกสบายดี ข้าก็โล่งใจมากแล้ว” มือหนาลูบเรือนผมของนางอย่างแผ่วเบา “ข้ามีของขวัญอีกหนึ่งชิ้นให้เจ้า”หลินซีเวยหยิบปิ่นหยกเขียวบริสุทธิ์ออกมาให้นางดู ตรงด้ามสลักคำว่า รักมั่นนิรันดร์ ก่อนจะปักปิ่นบนเรือนผมให้ชายาของตนเอง“ขอบพระทัยเพคะ” อู๋เยว่ชิงยิ้มกว้างและรู้สึกขอบคุณความเอาใจใส่ดูแลของหลินซีเวยยิ่งนัก หนึ่งเดือนมานี้เขาตั้งหน้าตั้งตาทำทุกอย่างให้นางจนนางแทบไม่ต้องแตะต้องอันใดเลย แม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 33 แพ้ท้องแทน

    คืนนั้น ข่าวคราวของชายาองค์ชายสามแพร่สะพัดไปทั่ววังหลวง ปีนี้นับว่ามีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาจนใครหลายคนพากันขอบคุณสวรรค์หลังจากหมอหลวงกลับออกไป หลินซีเวยยิ่งตัวติดกับอู๋เยว่ชิงไม่ห่างมากกว่าเดิม คอยประคบประหงมดูแลยิ่งกว่าไข่ในหิน“หม่อมฉันดื่มเองได้เพคะ” นางรีบรับถ้วยยามาถือไว้เพราะเกรงใจคนตรงหน้าที่ไม่เคยต้องปรนนิบัติดูแลใครอย่างใกล้ชิดมาก่อน“ข้าอยากดูแลเจ้าเหมือนครานั้นที่เจ้าดูแลข้า ไม่ได้หรือ” หลินซีเวยไม่ยอมปล่อยถ้วยยานั้น อู๋เยว่ชิงไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรจึงได้แต่ทำตามโดยปริยายเช้าวันต่อมาฮ่องเต้และฮองเอาจึงมาแสดงความยินดีกับทั้งสองคนพร้อมอวยพรให้สุขภาพร่างกายของอู๋เยว่ชิงและเด็กน้อยในท้องแข็งแรง ไร้โรคภัยเบียดเบียนไท่จื่อกับชายารวมถึงหลินมู่หลงและองค์หญิงสือหลิวก็มาพร้อมหน้ากัน หากแต่ปฏิกิริยาของหลินซีเวยดูแตกต่างไปจากตอนที่บิดาของเขามาเยี่ยมนักบุรุษใดนอกเหนือจากที่เขาคิดอย่าได้ย่างกรายเข้ามาใกล้นางเป็นอันขาด“พี่สาม ข้าจะขอพบนางสักครู่ไม่ได้หรือ” หลินม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 32 ท้อง

    เสด็จพี่ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้หรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงถามหลินซีเวยทันทีที่เห็นหน้า“นั่นสิพี่สาม วังหลวงออกจะกว้างใหญ่ บังเอิญจริง ๆ ที่ได้เห็นท่านที่นี่” หลินมู่หลงพูดเบา ๆ แต่อีกฝ่ายกลับตอบว่า “บังเอิญอย่างยิ่งที่มืดค่ำป่านนี้แล้วเจ้ายังไม่กลับตำหนักของตนแต่มาอยู่กับนาง”“พระพักตร์ไม่สบอารมณ์ พระสุรเสียงหงุดหงิด ท่าทางฉุนเฉียว” เสียงขององค์หญิงสือหลิวลอยมาแต่ไกลพลางมองคนของตนเองราวกับจะบอกว่า “เห็นไหมเล่า เป็นอย่างที่ข้าบอกจริง ๆ ด้วย”“เป็นอย่างไรหรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงถามนางบ้าง“การกระทำเช่นนี้ องค์ชายสามคงจะตกไหน้ำส้มกระมัง” องค์หญิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา แล้วหันไปบอกกับหลินมู่หลงว่า “เราสองคนขอตัวกลับกันก่อนดีกว่า” แล้วคล้องแขนดึงคนข้าง ๆ ไปทันที“เอ่อ...” หลินมู่หลงกำลังจะเอ่ยปากแต่ทำได้แค่ยกมือโบกลาอู๋เยว่ชิงเท่านั้นดวงตาสีม่วงแดงของหลินซีเวยขุ่นเคืองไม่น้อยจนอู๋เยว่ชิงนึกถึงคำที่องค์หญิงบอกเมื่อครู่ “เสด็

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 31 หึงหวง

    ผ่านไปสองเดือนฮ่องเต้เมืองไท่หยางได้จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการอภิเษกขององค์ชายสามกับบุตรสาวแม่ทัพอย่างยิ่งใหญ่เพื่อแสดงความยินดีกับทั้งคู่อย่างเป็นทางการเจ็ดวันเจ็ดคืนนอกจากนั้นยังเป็นการจัดงานรื่นเริงอวยพรให้องค์ชายสามมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงอีกด้วยวังหลวงถูกประดับตกแต่งด้วยผ้าหลากสีสัน ห้อยโยงระย้าสวยงาม ทั้งยังมีโคมไฟลวดลายต่าง ๆ ห้อยไว้อยู่ทุกหนแห่ง ยามค่ำคืนดวงไฟนั้นจะส่องแสงสว่างสะท้อนภาพบนกระดาษที่ใช้ทำโคมไฟสิ่งที่ทำให้อู๋เยว่ชิงตื่นเต้นมากที่สุดคือการมาเยือนของหลินมู่หลงสหายรักของนางที่เดินทางกลับมายังเมืองไท่หยางพร้อมชายาของตนครั้นได้พบหน้ากัน อู๋เยว่ชิงจึงอดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งไปหาเขาด้วยความคิดถึง รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นมา ทั้งยังท่าทางสนิทสนมระหว่างคนทั้งคู่ก็ทำให้ใครบางคนนิ่วหน้าในทันที“องค์หญิงสือหลิว ยินดีด้วยเพคะ” อู๋เยว่ชิงกล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเป็นกันเองก่อนหน้านี้ได้อ่านจดหมายจากองค์ชายเจ็ดจึงพอได้รู้แล้วว่าองค์หญิงสือหลิวกำลังทรงพระครรภ์ นางจึงพลอยดีใจ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 30 ปีศาจอย่างข้า

    หลายวันต่อมาจู่ ๆ หลินซีเวยอารมณ์ดีนึกชวนอู๋เยว่ซินไปขอพรที่วัดบนเขา ทั้งสองจึงตระเตรียมข้าวของไปสักการะตามธรรมเนียม“เสด็จพี่ ทรงคิดถึงสิ่งใดอยู่หรือเพคะ” นางเอ่ยปากถามคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ หลินซีเวยหลับตาคิ้วขมวดราวกับครุ่นคิดบางอย่างพลันรอยยิ้มมุมปากเชิดขึ้นเพราะได้ยินนางเรียกเขาเช่นนั้น“ขอพรให้มีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับเราสองคนอย่างไรเล่า” เขากระซิบข้างหู “หากมีเจ้าตัวเล็กวิ่งเล่นอยู่ในตำหนักจันทราคงจะดีไม่น้อย”แก้มสองข้างของอู๋เยว่ชิงแดงระเรื่อรู้ดีว่าเขาหมายถึงสิ่งใด ครั้นนึกถึงช่วงเวลาที่จะทำให้เกิดเจ้าตัวเล็กอย่างที่ว่าก็ไม่วายเขินอายอยู่ร่ำไปจึงต้องรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เขาจะแกล้งนางไปมากกว่านี้หลังจากใช้เวลาอันสงบนิ่งบนเขาอยู่พักหนึ่ง เจ้าอาวาสประจำวัดก็เดินออกมาพบทั้งคู่ สายตามองหลินซีเวยราวกับค้นหาบางอย่างที่ซ่อนอยู่แล้วถอนหายใจฝ่ายองค์ชายสามเห็นดังนั้นรู้ดีว่าคนตรงหน้ามองเห็นไอมารจาง ๆ ในตัวเขาจึงกล่าวไม่ให้ผู้ใดคลางแคลงใจ มารโดยกำเนิดอย่างเขาไม่ว

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 29 ความรู้สึกเปลี่ยนไป

    หนึ่งเดือนผ่านไปราวกับว่ากำลังใจจากอู๋เยว่ชิงเป็นโอสถชั้นดี ร่างกายของหลินซีเวยจึงดีขึ้นเป็นลำดับแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง เวลานี้จึงพอที่จะเดินเล่นนอกตำหนักได้บ้างแล้วนับเป็นครั้งแรกที่เหล่าขันทีและนางในได้เห็นองค์ชายสามและชายาประทับอยู่ในสวนดอกไม้ สายตาทุกคู่เห็นพ้องต้องกันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาราวกับคนรักกันก็มิปานการกระทำของหลินซีเวยไม่มีปิดบัง การแสดงออกของเขาทำให้หลายคนได้ตระหนักว่าองค์ชายสามผู้นี้ก็มีด้านที่อบอุ่นและอ่อนโยนเช่นกัน“เทศกาลชมจันทร์ใกล้เข้ามาแล้ว เจ้าอยากไปเที่ยวชมหรือไม่เยว่ชิง” หลินซีเวยเอ่ยปากชวนนาง สีหน้าคาดคั้นหวังว่านางจะตอบรับคำขอ“เพคะ” รอยยิ้มบางของนางถือเป็นคำตอบ อู๋เยว่ชิงไม่เคยปฏิเสธคำขอของเขาสักครั้ง“เช่นนั้นเจ้าเตรียมตัวไว้ให้ดีเถิด” เขาบอกกล่าวอย่างมีเลศนัยพลางเอื้อมมือมากุมมือสองข้างของนางไว้ “ขอบคุณที่ดูแลข้ามาตลอด”“หม่อมฉันเต็มใจเพคะ” อู๋เยว่ชิงยิ้มให้เขา “หม่อมฉันไม่หวังสิ่งใดไปมากกว่านี้แ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 28 อธิษฐาน

    ผ่านไปสามวันหลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองดีขึ้นจากแต่เดิมอยู่มาก แม้กระทั่งฮ่องเต้และฮองเฮายังรู้สึกแปลกใจที่จู่ ๆ บุตรชายเปลี่ยนไปมากเพียงนั้นกระนั้นก็ทำให้พวกเขาทั้งคู่พอจะวางใจไปได้บ้างเพราะสุดท้ายแล้วการแต่งงานแก้เคล็ดในครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าแรกเริ่มที่พวกเขาได้ยินจากปากของอู๋ฮูหยินว่าบุตรสาวของนางแอบรักองค์ชายสามมานานแล้วก็ได้แต่คิดว่าอู๋เยว่ชิงช่างน่าสงสารที่ถูกบุตรชายของตนผลักไสไล่ส่งยิ่งต้องให้นางช่วยผูกดวงชะตาเพื่อรักษาอาการของเขาแล้วก็ยังรู้สึกว่าละอายใจไม่น้อยที่ต้องขอให้ช่วยเช่นนี้ แต่อู๋เยว่ชิงกลับรับปากและบอกว่านางจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขาอย่างสุดความสามารถคราวนี้ได้เห็นว่าความรักของนางได้รับการตอบแทนกลับมาบ้างแล้วจึงโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกหากแต่เรื่องราวลับคมคมในนี้มีเพียงแค่ฝ่ายจอมมารเท่านั้นที่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่สักวันหลินซีเวยจะหักหลังอู๋เยว่ชิงและสังหารนางอย่างเจ็บปวดการถูกหักหลังจากคนที่รักและไว้ใจที่สุดจะเป็นอย่างไร หลินซีเวยแทบรอที่จะได้เห็นสี

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 27 ลองทำดี

    เมื่อได้ยินดังนั้นหลินซีเวยจึงถามต่ออีกว่า “หากนางรักข้า ข้าควรทำเช่นไรให้นางรักจนยอมตายเพื่อข้าได้เล่า”เรียวคิ้วของเฉินซือหยางขมวดชนกัน “ข้าเป็นปีศาจอาจจะไม่สามารถล่วงรู้ความรู้สึกของมนุษย์ได้แน่ชัด นายท่านลองอ่านหนังสือพวกนั้นดูเถิดขอรับ”เขาชี้ไปที่ตู้ไม้มุมห้อง ในนั้นมีหนังสือเขียนเกี่ยวกับมนุษย์มากมายให้ค้นหา หลินซีเวยกวาดสายตามองแต่ไกลเพื่อเลือกหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง“ไม่เห็นจะมีอันใดน่าสนใจ” เขาส่ายหน้าแล้วร่ายพลังเผามันทิ้งอย่างไม่ใยดีเฉินซือหยางคิดหนักกว่าเดิมแล้วบอกให้เจ้านายรออยู่ครู่หนึ่งก่อนกลับมาพร้อมหนังสือกองใหญ่ “นายท่านลองอ่านพวกนี้ดูก่อนขอรับ ข้าเห็นมนุษย์หลายคนชอบอ่านยิ่งนัก”จอมมารผู้อ่อนต่อโลกสุ่มหยิบเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิดอ่าน ในเวลาหนึ่งก้านธูปเขากลับอ่านหนังสือเล่มหนาได้จนจบเล่ม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จึงผุดขึ้นมาในทันทีแล้วหยิบหนังสือเล่มอื่น ๆ มาอ่านต่อโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างคืนนั้น จอมมารอ่านหนังสือกองพะเนินจนครบทุกเล่มโดยไม่หลับไม่นอนพลั

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 26 ความรักคือสิ่งใด

    ในวันต่อมาหลินซีเวยยังคงปฏิบัติกับอู๋เยว่ชิงเหมือนเดิม ทั้งพูดจาไม่เข้าหู ปัดถ้วยโอสถกระเด็น และอีกสารพัดที่นึกอยากจะทำเพื่อให้อีกฝ่ายไปให้พ้นหน้าทว่า อู๋เยว่ชิงยังคงอดทนทำให้เขาตามที่นักพรตชราสั่งเอาไว้ไม่ขาดตกบกพร่องจนกระทั่งผ่านพ้นวันต้องห้าม“องค์ชาย ทรงเป็นอย่างไรบ้าง” ฮองเฮาเข้ามาเยี่ยมบุตรชายทันทีที่พ้นฤกษ์ยาม เวลานี้สีหน้าของหลินซีเวยดีขึ้นเล็กน้อย นางจึงเชื่อว่าการทำพิธีแต่งงานกับอู๋เยว่ชิงจะช่วยปัดเป่าไอมารปีศาจจากองค์ชายสามได้“ข้าไม่เป็นอันใด” เขาตอบอย่างขอไปที “รีบให้นางออกไปจากตำหนักของข้าได้แล้ว”“เจ้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกน้องสาม” ไท่จื่อส่ายหน้าแล้วอธิบายว่า “ท่านนักพรตบอกว่าดวงชะตาของพวกเจ้าผูกพันกัน เพราะมีนางอยู่ข้างกาย เจ้าจึงไม่ถูกไอมารปีศาจครอบงำ”“เสี่ยวเยว่ชิงตั้งใจดูแลองค์ชายเป็นอย่างดี พ่อว่าไม่มีใครเหมาะสมกับเจ้าไปมากกว่านางอีกแล้ว” ฮ่องเต้พูดขึ้นมา สีหน้าพึงพอใจและกำลังคิดบางอย่างอยู่ “เจ้าและนางก็ถึงวั

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status