พบกับเรื่องราวที่ทำให้ความเจ็บแปลบแล่นสู่หัวใจซ่อนจนลึกสุดใจท่านปรารถนาแต่เพียงนาง แต่ใจของนางอยู่กับผู้ใดกัน ข้าขอเพียงรักท่านไม่หวังครอบครอง แม้รักเราสองจะเป็นรักต้องห้ามก็ตาม
View More“เจ้าป่วยหรือเปล่านี่”สีหน้าห่วงใยอย่างที่สุด อี้จื่อเงยหน้ามองปลายคางของอีกคนใบหน้าหล่อเหลาที่แสดงออกว่าห่วงใยทำเอาใจสั่น“ไม่นะไม่ได้เจ้บป่วยอะไร”หมิงซื่อดึงมือให้นั่งลงกับแท่นนอนยาวลืมเรื่องตำรากามสูตรที่อี้จื่อซ่อนมันไปเสีย“ตำหนักบูรพาลมพัดผ่านเข้าออกสะดวกอากาศเปลี่ยนแปลงเจ้าเพิ่งเข้ามาอาจไม่คุ้นชิน มานี่ให้ข้าดูดีดีว่าป่วยหรือไม่”มืออุ่นยังกุมมืออี้จื่อไว้“มะมะไม่ได้ป่วยเสียหน่อย”“แต่เจ้าหน้าแดง”อี้จื่อกลืนน้ำลายลงคอยากเย็นก็เพิ่งจะอ่านตำรากามสูตรที่หญิงชายแนบชิด พอเจอเข้ากับตัวก็เขินอายเป็นธรรมดา“อากาศร้อน” ยกมือขึ้นโบกไปมาคลายคอเสื้อที่รัดแน่นออกหลวมแต่ดันเกินดี เสื้อหลุดหลุ่ยเผยให้เห็นนื้อเนียนขาว หมิงซื่อรีบหันหน้าหนีเสีย“เจ้าแต่งตัวให้เรียร้อยเสีย”หมิงซื่อเสียงแหบหร่า “ไท่จือท่านก็ออกไปสิยิ่งอยู่ที่นี่ข้ายิ่งร้อน..รุ่ม”หมิงซื่อขมวดคิ้ว“ร้อนรุ่ม นี่เจ้าไม่ชอบหน้าข้าเพียงนั้นเชียวหรือก็ได้ข้าจะออกไป ให้เจ้าสบายใจ ใครจะกล้าขัดบัญชาไท่จือเฟยกันเล่า”เหน็บแนม อี้จื่อรู้สึกว่าหมิงซื่อไม่พอใจเพราะเข้าใจผิด“ไท่จื่อ องค์ชาย”อ้าปากค้างคิดไม่ถึงว่าอี้จื่อจะทำเสียงออดอ้อน ยกมื
“นี่รับนี่ไปเจ้าค่ะ”เสี่ยวหยาวางตำรากามสูตรลงบนโต๊ะข้างหน้าอี้จื่อ“ข้าไม่สนใจ”ใบหน้าแดงระเรื่อ“ไมไ่ด้เจ้าค่ะไม่เช่นนั้นเห็นทีจะต้องไปฝึกการเอาใจบุรุษที่หอนางดลมจริงๆเจ้าค่ะเรื่องนี้เรื่องใหญ่ทีเดียวไท่จือเฟยจะบอกว่าให้เงวาลาสามเดือนหนึ่งปีหรือเท่าไหร่ก็ช่างแต่เป็นไท่จือเฟยเองที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนอะไรเช่นนั้นมิสู้หย่ากัไท่จือไปเสียเลยดีกว่า”“ข้าจะต้องอ่านมันจริงๆหรือ”“เจ้าค่ะ เอาเข้าจริงไคนที่เอาแต่ใจก้คือไท่จือเฟยไท่จือมีอำนาจสูงส่งยังไม่อาจฝืนใจไท่จือเฟยได้คิดดูสิเจ้าค่ะว่าไท่จือรักแล้วตามใจไท่จือเฟยแค่ไหนไม่ยอมหักหาญน้ำใจยอมตามใจและอดทนยอมหนีไปทั้งๆที่เมื่อคืนจะต้องเข้าหอตามทำเนียมและวันนี้ยังไม่ได้เข้าหอทั้งที่ผ่านมาทั้งคืน”อี้จื่อหน้าเง้า“แล้วจะต้องทำอย่างไรไท่จือจึงจะหายโกรธข้า”ป้าถงที่แอบฟังอยุ่ด้านนอกรีบแจ๋นกลับไปที่ตำหนักชิงหนิงกง“เจ้าค่ะ ป้าได้ยินไม่ผิดจริงๆฮองเฮาเพคะเราจะต้องจัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนโธ่ไท่จือ น่าสงสารคืนเข้าสหอแต่ไม่ได้เข้าหอ”“ป้าถงคนที่น่าสงสารคือไท่จือเฟยที่ต้องแบกรับคำว่าสามีไม่ยอมร่วมหอด้วยหมิงซื่อนะหมิงซื่อเห็นชัดๆว่าปากล้ากล้าขอนางในท้องพระ
“จริงด้วยทำไมข้าคิดเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะท่านปลอมตัวใส่หนวดเคราก้ไม่มีใครจำได้ไปศึกษเารื่องแบบนี้มาให้ดีๆข้าให้เวลาสามเดือนไม่สิหนึ่งปีไปเลย แล้วเราค่อยมาพูดเรื่องเข้าหอ”ทั้งหมดก็เพื่อยิ้อเวลาไว้ก้เท่านั้นก็อี้จื่อยังไม่เคยต้องมือชายแล้วอีกอย่างยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับหมิงซื่อเสียหน่อยจะให้ร่วมหอลงโลงก็ฝืนใจไม่น้อยหมิงซื่อสบตากลมกับริมฝีปากชมพูระเรื่อที่ขยับขึ้นลงเจื้อยแจ้วไม่หยุด“ท่านว่าดีไหมหรือท่านมีวิธีที่ดีกว่านี้อุ๊ปปปปป”หมิงซื่อประกบริมฝีปากปิดบางสีชมพูดที่ขยับขึ้นลงไปม่หยุดนั้นเสียมืออุ่นกอดรอวเอวบางกดริมฝีปากบดเบียดอ่อนหวานนุ่มนวล หมิงซื่อใจเต้นไม่เป็นจังหวะบางอย่างในกายร้อนฉ่า อี้จื่อเองหมดแรงภายใต้รอยจูบหวานแต่ก้ยังไม่วายฝืนใจ“อือออออออปะปะปล่อยนะ ข้าไม่ชอบแบบนี้”ผลักอกกว้างออกห่างทั้งที่อีกคน กลับคิดไปไกลถึงไหนถึงไหน เกือบจะปลดปล่อยบางอย่างทั้งที่แค่ได้ลิ้มรสจูบของอี้จื่อเท่านั้น หมิงซื่อซี๊ดปาก ก่อนจะขบเม้มริมฝีปากตัวเขาไว้แน่นอย่างที่สะกดกลั้นอารมณ์ปรารถนาที่เร่าร้อนไว้เต็มที่“ออกไปห่างๆข้าเลยท่านทำข้า…ใจสั่น”“อือบอกแล้วว่ายังไม่พร้อม ท่านก็ยังกล้าเข้าใกล้ข้า”หมิงซื่
“เฮ๊ย”หันมองหน้าสบตาอี้จื่อที่เอาแต่ก้มหน้าป้าถงยิ้ม พยักหน้าขึ้นลง“เอาละคอข้าน้อยไม่กวนใจแล้ว ทำเนียมปฏิบัติยังคงอยู่บ่ายวันนี้ต้องยกน้ำชากับฮองเฮา เสี่ยวซงจะเป็นคนบอกเวลาที่ต้องไปยกน้ำชาอีกทีเอาล่ะเชิญไท่จือกับไท่จือเฟยพักผ่อนให้สบาย”ป้าถงไปแล้ว อี้ตจื่อทรุดกายลงนั่งแหมะบนพื้นยกมือขึ้นปิดหน้าถอนหายใจยาว“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องลำบาก”อี้จือหันมาสบตาที่เต็มไปด้วยแววจริงใจและสำนึกผิดของหมิงซื่อ“ขอโทษทำไมไม่ได้ลำบากอะไรเสียหน่อย”ถลาเข้ามาประชิดตัวคว้ามือบางไปพลิกดูทีละนิ้วทีละนิ้ว“เจ็บไหม”อี้จื่อส่ายหน้าดึงมือออกจากการเกาะกุม“ไม่เจ็บ”“ความจริงเจ้าไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ข้าคิดสินบนป้าถงให้เพ็ดทูลกับเสด็จแม่ก็ได้ป้าถงรักข้าจะตายไปนางไม่ทางไม่ช่วยข้า”อี้จื่อค้อนจะรู้อะไรแค่เรื่องโกหกใครๆก็ทำได้ง่ายนิดเดียว แต่จะทำอย่างไรให้เขาเชื่อต่างหากที่ต้องลำบากใจ“ช่างเถอะแบบนี้ดีกว่าอย่างน้อยป้าถงก้มีเรื่องไปกราบทูลเสด็จแม่ดีกว่าท่านกับข้าเราสองคนจะต้องไปหาข้อแก้ตัวกับฮองเฮาบ่ายนี้”“้เจ้าไม่โกรธข้าใช่ไหม”น้ำเสียงแสดงว่าสำนึกผิด“ใครจะกล้าโกรธไท่จือเล่าท่านเป็นถึงไท่จือตัดมาที่ข้าแค่เพียง…
“พรุ่งนี้ข้าจะต้องแบกรับคำว่าสามีไม่เปิดผ้าคุลมหน้าท่านเองก็ควรแบกรับคำว่าภรรยาไม่ล้างเท้าให้”“นี่เจ้า”หมิงซื่อชี้นิ้วสั่นระริกตรงหน้าอี้จื่ออี้จื่อเดินดุ่มๆไปที่แท่นนอนทรุดกายลงนอนดึงผ้าห่มมาห่มหลับตาพลิ้ม“เฮ๊ยยยนี่เจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้นะเรายังไม่ได้เข้าหอ”“ข้าง่วงแล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ทำเนียมบ้าบออะไรเหนื่อยมาทั้งวันง่วงก็ง่วงดื่มสุรามงคลเมาก็เมายังจะให้ อุ่นเตียงกันอีกพรุ่งนี้ค่อยพูดกันอีกที”กลบเกลื่อนสิ่งที่กำลังรู้สึกท้้งกลัวทั้งอายและไม่แน่ใจ“นี่เจ้า กล้านอนข้าจะหย่าเจ้าเสีย”“หย่าหรือไม่วันพรุ่งนี้ค่อยพูดกัน ท่านก็นอนเถอะเหนื่อยมาทั้งวันแล้วข้าเห็นท่านยืนขาแข็งรับแขกที่มาร่วมงานจะ ปะจิงทิ่งๆข้าไหวอยู่หรือไร”หมิงซื่อยิ้มเจื่อนๆเขาเองก็ปแทบจะยืนไม่ไหว หันหน้าหันหลังเปิดปากหาววอดๆ ถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆอี้จื่อ“อย่าโดนตัวข้านะข้า ข้า บ้าจี้” หมิงซื่อถอดเสื้อคลุมสีแดงโยนกองไว้กับพื้น“เชอะใครกันอยากจะโดนตัวเจ้าถ้ามิใช่หญิงที่อาบน้ำขัดผิวข้าก็ไม่อยากร่วมแท่นอนด้วยเหมือนกัน”นางหยิง่ได้เขาก็ยะโสเป็น หลับไปทั้งอย่างนั้นเช้าสดใสอี้จื่อค่อยๆจับแขนอุ่นของหมิงซื่อออกจากเอ
“เสด็จพ่อใจร้ายกับลูกบิดานางไม่ขัดข้องแต่นางกลับไม่ยอมแต่งกับลูก”อิงนาอมยิ้ม“ไท่จือเมื่อไหร่จะโตสักทีเจ้าเอาแต่ใจนางเอาแต่ใจจึงเกรงว่าชาตินี้ก็ไม่ได้แต่งกัน”หมิงซื่อหน้าง้ำ“เสด็จพ่อ ลูกประทานอนุญาติให้เสด็จพ่อมีราชโองการแต่งนางเข้ามาในตำหนักบูรพาเพื่อให้ลูกได้ใกล้ชิดนางไม่แน่นางอาจยินดีร่วมชีวิตกับลูก”“ไท่จือเจ้าขา ป้าถงคิดว่าเรื่องนี้ไม่ยากนางไม่ยอมก็รวบหัวรวบหางนางเสีย โบราณว่าไว้หญิงแกร่งเพียงใดก็ไม่อาจต่อกรกับบุรุษที่เป็นสามี”“ป้าถง อิงนาว่าท่านป้าให้ท้ายไทจื่อมากไปแล้ว”ป้าถงยิ้มหมิ่งเซ่อเองก็อมยิ้ม“เสียวชง รับบัญชาข้าให้แต่งบุตรีท่านแม่ทัพอี้จงในตำแหน่งไท่จือเฟยในอีกสามวันข้างหน้า”อิงนาส่ายหน้าไปมาเพิ่งจะปรามป้าถงแต่หมิงเซ่อกลับมอบของกำนัลให้กับหมิงซื่ออีกจนได้อิงนาถอนหายใจจะจัดการกับหมิงซื่อที่เอาแต่ใจอย่างไรดีเกี้ยวสีแดงถูกหามเข้ามายังตำหนักบูรพา อี้จื้อก้มมองมองมือตัวเองที่ประสานกันที่ตักมือเย้นเฉียบจะว่าไปแม้จะเคยปะทะคารมกันมาแล้วบ้างแต่หลายวันมานี้หมิงซื่อเจ้าตัวร้ายไม่สิไท่จือตัวร้ายคนนั้นไม่เคยแวะไปที่บ้านจงเกี้ยวหยุดชะงักมือเย็นยิ่งเย็นเฉียบแม้จะบอกว่าทำใจไว้บ้
หมิงซื่อก้าวขายาวๆ แบกใบหน้าหล่อเหลายัง ตลาดอีกครั้งสอดส่ายสายตามองหาหญิงงามที่ว่า“พี่สาวท่านดูสิ ข้างหน้ามีการแสดงรำกระบี่ด้วยเราไปดูด้วยกันเถอะ”หมิงซื่อใจเต้นแรงเมื่อพบว่าหญิงงามนางนั้นเคียงข้างสาวน้อยหน้าตาสดใส รอยยิ้มโลกสว่างกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น อย่างนี้นี่เองหรือนางมีน้องสาว ตากลมโต เหลือบมองมาที่หมิงซื่อ“เจ้าคนจร มองข้ากับพี่สาวทำไมกัน” หมิงซื่อยิ้มมุมปาก“ข้ากำลังคิดว่า เจ้าสวยน่ารักกว่าพี่สาวเจ้าอย่างเห็นได้ชัด”เอ่ยปากชมก็เห็นๆอยู่ว่านางน่ามองเพียงใด“นี่อย่ามาพูดพล่อยๆ เจ้าถือดีอย่างไรมาชมข้าลูกสาวท่านแม่ทัพต่อหน้าเห็นทีข้าจะต้องสั่งสอนเจ้าเสียบ้าง”ถลาเข้าใส่ วางหมัดวางมวย หมิงซื่ออมยิ้ม หลบหลีกพัลวัน“น้องสาวใจเย็นหน่อย อย่าได้ ลงไม่ลงมือกัน"พี่สาวส่งเสียงห้ามปรามทว่าสาวน้อยตากลมกลับถลาเข้าฟาดฟันหมิงซื่อเหมือนกับโกรธแค้นกันมาแรมเดือน ร่างสูงตวัดมือรวบเอวบางไว้อ้อมแขนแน่น ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด“ปล่อยข้า คอยดูข้าจะฟ้องท่านพ่อให้จัดการเจ้าเสีย”“ใครกันกลัวเจ้า”“แน่นอนต้องเป็นเจ้า”พูดไปยิ้มไป กับความถือดีของอีกคนดึงร่างบางแนบกับลำตัวและอกกว้างดิ้นรนฮึดฮัดแต่แก้มเนียนกลับถู
“ก็ใครใช้ให้ข้าเห็นพี่สาวก่อน หากเห็นน้องสาวก่อน คงเปลี่ยนใจตั้งแต่แรก”“อิงนายังเด็กเกินไปในตอนนั้น แค่ชื่นชมฝ่าบาทก็เท่านั้น”“ เช่นนั้นก็คงเป็นข้าเพียงคนเดียวที่มองอิงนาว่าน่ารัก แล้วยังเผลอกลืนน้ำลายลงคอ เสียดายที่พบเจ้าช้าไป”“ฝ่าบาทคิดอย่างไรกับอิงนาตอนนั้น”“ข้าคิดแค่ว่าเจ้าขาดการอบรมควรอภัยให้เจ้า แต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกว่าเจ้าเป็นของเจ้าแบบนั้นทำให้ข้ารู้สึกว่า หัวใจชุ่มชื่น”“ฝ่าบาทไม่สงสารอิงนาบ้างหรือ ที่แอบหลงรักฝ่าบาท”กดริมฝีปากกับอวบอิ่มซอกซอนอ่อนโยน“จะให้ขอโทษอีกกี่ครั้ง จะให้บอกกี่หนว่าข้า รู้สึกผิดแค่ไหน เสียใจแค่ไหนที่ปล่อย ให้คนที่ข้ารัก ต้องทนทุกข์เพราะแอบรักหากข้ารู้ใจตัวเองตั้งแต่แรก ก็คงไม่ต้องให้เจ้าเจ็บซ้ำ”“อิงนาขอบคุณฝ่าบาทที่เห็นคุณค่าความรักของอิงนา”“ข้าก็ขอบคุณเจ้าที่รักข้าอย่างจริงใจ ยอมเจ็บซ้ำมาเสียนาน ต่อแต่นี้อิงนาของข้าจะเป็นหญิงผู้เดียวในใต้หล้าที่ข้าจะรักให้มากที่สุด ตอบแทนความรักที่เจ้ามอบให้ข้าตลอดมา”โน้มร่างบางลงบนแท่นนอน บดจูบอ่อนโยน ไม่สนใจว่าตอนนี้เป็นเวลาไหน“ฝ่าบาทเพิ่งจะเสวยกลางวันไป”อิงนายกมือยันอกกว้าง“ก็ ข้า ต้องการเจ้าไยต้องเลือกเ
“เจ้าเสี่ยวชง ขันทีหน้าทะเล้นไม่ยอมตามใจสู้ป้าถงไม่ได้ ใจดีที่สุด”“แม่สั่งเสี่ยวชงไว้เองว่าหากองค์ชายดื้อดึงให้เอาชื่อแม่ไปขู่เสียบ้าง”“เสด็จพ่อมาพอดี ข้ามีเรื่องจะขอ”อิงนาเลิกคิ้วสูงหมิงเซ่อกลับขมวดคิ้ว“เรื่องใดกัน”“เสด็จพ่อลูก พบหญิงงามนางหนึ่งที่ตลาด นางงดงามจนลูกแทบลืมหายใจ”อิงนาส่ายหน้าไปาหมิงเซ่อเป่าลมหายใจออกจากปาก ส่งสายตาออดอ้อนไปให้อิงนา หรือประวัต์ศาสตร์จะซ้ำรอยเดิม“ฝ่าบาทหมิงซื่อเหมือนท่านไม่ผิด”“นางมีน้องสาวหรือไม่”“เสด็จพ่อหมายความว่าอย่างไร ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่านางมีน้องสาวหรือไม่ในเมื่อข้าพบนางเพียงแค่ครั้งเดียวก็อยากครอบครองนางอยากให้เสด็จพ่อจัดขบวนขันหมากไปสู่ขอนางให้ข้าที”แววตาออดอ้อน หมิงเซ่ออมยิ้มแต่ไม่วายถอนหายใจ“ เจ้าไปสืบดูเสียก่อนว่านางมีน้องสาวหรือไม่ แล้วน้องสาวนางหน้าตาเป็นเช่นไร”“ข้าไม่เข้าใจ สิ่งที่ข้าต้องการตอนนี้คือ แต่งกับนาง”“ข้าจะสู่ขอนางให้เจ้าก็ต่อเมื่อ...อิงนาช่วยข้าด้วยต่อเมื่ออะไรดีข้าคิดไม่ออก”“ก็ต่อเมื่อองค์ชาย หมิงซื่อเห็นหน้าน้องสาวของนางแล้วพบว่าไม่ได้ชอบน้องสาวนางมากกว่าพี่สาว”พูดไปขำไปหมิงเซ่อที่ทำหน้าเหรอหรา“อย่างนี้เลยที่ข
"คุณหนูข้าอย่าวิ่งเจ้าค่ะ ชุดสวยสวยที่ใส่จะเปรอะเปื้อนหมดแล้ว""ไม่ได้เลยองค์ชายจากในวังเชียวนะป้าถงมาสู่พี่สาว ข้าอยากเห็นขบวนเสด็จ"ดึงชายกระโปรงวิ่งลิ่วไปยังเรือนใหญ่ร่างเล็กกำลังจะโตเป็นสาวของบุตรีคนเล็กของใต้เท้ากวงวิ่งนำไปข้างหน้า ด้วยความมุ่งมั่น และสดใสร่าเริง"อุ๊ป ไม่เห็นหรือไรคนกำลังรีบมาขวางทาง"ร่างสูงรวบตัวเล็กของอีกคนไว้แน่น ดวงตาคมมีแววฉงนเล็กน้อยตาสบตาแววตาถือตัวของอิงนา ทำเอาเขายิ้มบางๆ อิงนามองรอยยิ้มนั้นอย่างตกตะลึง อย่าบอกนะว่านี่คือองค์ชายที่กำลังจะมาสู่ขอพี่สาว"องค์ชาย ทางด้านนั้นขอรับ"ขันทีข้างกายประสานมือเดินนำ อิงนามองตามแผ่นหลังผึ่งผาย อ้อมกอดกับรอยยิ้มอบอุ่น เป็นองค์ชายถึงว่าหน้าตาผิวพรรณจึงดู สะอาดสะอ้านแล้วยังหล่อเหลาวิ่งตามคนผู้นั้นไปทันที"ท่านเป็นองค์ชายที่จะมาสู่ขอพี่สาวข้าใช่ไหม"อิงนาตามไปจนทัน ถามขึ้นทันทีด้วยความ อยากให้แน่ใจ"ใช่"ตอบสั้นๆ ห้วนๆ"ท่านชอบพี่สาวข้ามากไหม"หมิงเซ่อหันมองหน้าพบรอยยิ้มสดใสหาได้มีสิ่งใด เสแสร้งหรือเคลือบแฝง มือยังดึงกระโปรงให้สูงขึ้นมา หมิงเซ่อใบหน้าเรียบเฉยพลางคิดว่าอย่าถือสานางไร้การอบรม"มาก"ตอบเพียงสั้นๆ"ดี ดี ดี ท่า...
Comments