แชร์

กลัวแล้วเมียจ๋า

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-11 14:41:00

       ชิวเพ่ยเพ่ยเห็นตัวต้นเรื่องหนีไปเสียแล้ว นางจึงได้แต่มาลงกับสามี ชิวเพ่ยเพ่ยทั้งทุบทั้งตีสามีพร้อมถามเขาว่าเขากล้าที่จะไปหาความสุขหรือไม่

       เฟยหยุนที่กำลังถูกภรรยานวดตัวอย่างไม่เบามือ เขาได้แต่ร้องโอดโอยแล้วบอกนางว่าเขาไม่เคยคิดที่จะทำแบบนั้นจริง ๆ หนา เป็นองค์ชายสามหาเรื่องก่อกวนเขาเท่านั้นเอง  กว่าที่ชิวเพ่ยเพ่ยจะสงบลง เฟยหยุนก็ช้ำไปทั้งตัว

       พอเห็นว่าภรรยาสงบแล้ว เขารีบถามนางว่ามาได้อย่างไร ทำไมไม่พักผ่อนที่บ้าน  ชิวเพ่ยเพ่ยจึงเล่าเรื่องเตียวเตียวให้เขาฟัง  เฟยหยุนโกรธมากที่บ่าวคนนี้กล้าคิดปีนเตียงเขา หึ คิดว่าเขาเหมือนผู้ชายคนอื่นหรืออย่างไรกัน เขารักภรรยาคนเดียวรู้เอาไว้ซะด้วย!

       เฟยหยุนจึงเสนอวิธีให้ภรรยาไปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นให้ยาทำลายมดลูกเอย  ส่งนางขายซ่องเอย โอ้ยย แต่ละอย่าง ดีดีทั้งน๊านนน  ชิวเพ่ยเพ่ยมองสามีที่นางคิดว่าเป็นคนดีตาโต  โอ้โห สามีข้าชั่วร้ายไม่เบา

       แต่สุดท้ายแล้ว ชิวเพ่ยเพ่ยไม่อยากทำบาปกรรมมากเกินไป  นางจึงปล่อยให้สี่บ่าวของท่านยายจัดการไปเถอะ  นางจะคิดเสียว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้เพื่อความสบายใจของนางเอง  เฟยหยุนเห็นว่าภรรยาตัดสินใจแล้ว เขาจึงไม่รบเร้านางอีก  เขายังจะสั่งของว่างมาให้นางทาน  แต่ชิวเพ่ยเพ่ยหมดอารมณ์แล้วน่ะซี

       เฟยหยุนจึงพยุงภรรยาออกจากร้านชาเจ้าปัญหาโดยไว  ส่วนค่าใช้จ่ายน่ะเหรอ เชิญเจ้าของร้านไปเรียกเก็บกับองค์ชายสามตัวต้นเหตุสิ เรื่องอะไรเขาจะต้องจ่าย หึ

       บรรดาขาเผือกในโรงน้ำชาดูหน้าตาซื่อจื่อผู้ได้ชื่อว่าใจโฉดเมื่อก่อน  แต่ตอนนี้กลับเหมือนแมวน้อยที่เชื่องเชื่อกับแม่เสือท้องโย้คนงาม  โอ้  พวกเขาช่างเหมาะสมกันเสียจริง ๆ สามีใจโฉดไม่พอ  ภรรยายังอารมณ์ร้ายอีก อั้ยย่ะ คู่สร้างคู่สมชัด ๆ

       เฟยหยุนไม่รู้เลยว่า คนอื่นมองเขาต่างออกไปจากเมื่อก่อนมากหลังแต่งงาน  อาการกลัวเมียไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ ขอบอก!

       พอจะกลับจวนโหว ชิวเพ่ยเพ่ยกลับสั่งให้ไปหาท่านตาท่านยายแทน นางยังรู้สึกไม่ดีอยู่หน่อย ๆ จึงอยากไประบายกับพวกท่าน  เฟยหยุนที่รักภรรยา มีหรือจะไม่ตามใจนาง  เขายินดีพานางไปทุกที่ที่นางต้องการ

       สองเฒ่าชราที่เห็นหลานสาวมาหาโดยไม่บอกก่อน พวกเขาพอจะรู้ว่านางคิดอะไร  ครั้นจะชวนปู่กับย่านางมาก็ไม่อยากให้พวกเขาคิดมาก สองคนนั้นเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา เรื่องแบบนี้จึงไม่ควรให้พวกเขาไม่สบายใจ

       ชิวเพ่ยเพ่ยระบายความรู้สึกทั้งหมดของนางออกมาอย่างเศร้าสร้อย นางรู้สึกเสียใจจริง ๆ ที่มองคนผิดได้ขนาดนี้  เฟยหยุนได้แต่กอดปลอบภรรยาตัวน้อย  เขาผ่านเรื่องแบบนี้มามากมายตั้งแต่ยังเด็ก จึงไม่รู้สึกอะไรนัก  แต่ภรรยาเขาต่างจากเขามาก  รอบตัวนางล้วนมีแต่คนรักและจริงใจ พอมาเจอคนใกล้ตัวหักหลังเข้า นางจึงเสียศูนย์อย่างที่เห็น

       ดีที่ท่านตาท่านยายรู้นิสัยชิวเพ่ยเพ่ยดี  พวกเขาพูดจาอธิบายอย่างใจเย็น  และยังสอนสั่งหลานสาวเพิ่มเติมด้วยว่า  อย่าได้เชื่อใจใครนอกจากคนในครอบครัวเท่านั้น  คนอื่นก็คือคนอื่น  ไม่ว่าปากพวกเขาจะบอกว่าจริงใจอย่างไร  แต่กาลเวลาเปลี่ยน คนเราก็ต้องเปลี่ยนแปลง  เราไม่รู้ว่าจะมีใครคิดดีกับเราตลอดไปหรือไม่

       ชิวเพ่ยเพ่ยฟังคำสอนของท่านตาท่านยาย  นางเข้าใจแล้วว่า จากนี้ต่อไป  นางจะไว้ใจเพียงครอบครัว  ไม่ว่าคนของนางจะพูดอย่างไร นางยังต้องเผื่อใจเอาไว้ครึ่งหนึ่งเสมอ  นี่จึงจะทำให้นางแข็งแกร่งอย่างแท้จริง

       ทั้งสามคนพอเป็นว่าชิวเพ่ยเพ่ยอารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว  พวกเขาจึงชวนกันทานอาหารเย็นที่นี่เสียเลย  เฟยหยุนให้คนไปชวนท่านพ่อท่านแม่มาด้วย  มื้อเย็นวันนี้จึงกลายเป็นครอบครัวใหญ่ไปเลย

       เตียวเฟยหลิวที่โมโหเรื่องเตียวเตียว  นางไล่แม่ของเตียวเตียวออกโดยไม่บอกเหตุผลกับนาง  คราแรกนางไม่คิดว่าแม่ของเตียวเตียวจะรู้เรื่องนี้  แต่องครักษ์ของนางบอกว่า  แม่ของเตียวเตียวดีใจมากที่ลูกสาวไม่กลับเรือน  นางยังคิดว่าลูกสาวนางได้เป็นอนุจวนโหวแล้ว  และกำลังจะไปแสดงละครเรียกร้องความบริสุทธิ์ให้บุตรสาวตามแผนที่พวกเขาวางเอาไว้  เตียวเฟยหลิวจึงยินดีที่จะทำลายครอบครัวนี้อย่างเต็มใจ

       อย่าได้ถามว่านางจะทำอย่างไร  แค่รอให้พวกเขากลายเป็นยิ่งกว่าขอทานนั่นถึงจะสาสม  แม้แต่ที่ซุกหัวนอน นางก็จะไม่ให้ครอบครัวนี้มี หึ ทำร้ายใครไม่ทำ กล้ามาทำร้ายลูกสาวที่นางเบ่งออกมาเหรอ รู้จักเตียวเฟยหลิวน้อยไปเสียแล้ว

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   เฝ้าเอาใจ

    หลังผ่านเรื่องราวของเตียวเตียว เฟยหยุนไม่ยอมนัดพบกับองค์ชายสามที่โรงน้ำชาอีก เขาให้เหตุผลว่าภรรยาท้องโตมากแล้ว เขาจำเป็นต้องอยู่ดูแลนางที่เรือน หากองค์ชายมีเรื่องสำคัญก็มาหาเขาที่จวน องค์ชายสามที่ก่อเรื่องคราก่อน เขามีหรือจะกล้าขัดใจสหายรัก เขายังอยากมีชีวิตอยู่หนา ภรรยาเขาก็ยังไม่มี ยังดีที่ท่านโหวพ่อของสหายคอยช่วยงานเสด็จพ่ออยู่ตลอด ช่วงนี้เขาจึงรอดพ้นงานยุ่ง ๆ ไปได้มาก ข่าวการตายของขุนนางหลายเมืองและพวกของแม่ทัพชายแดนตะวันออกมาไล่เลี่ยกันในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทางการส่งคนออกสืบข่าวแล้วแต่ไม่พบมือสังหารหรือสาเหตุการตาย เหมือนกับว่าคนพวกนั้นหลับไปแล้วไม่หายใจไปเสียเฉย ๆ ขนาดว่าหมอที่เรียกว่าเก่งกาจยังไม่อาจชันสูตรหาสาเหตุการตายได้แม้แต่น้อย จึงได้แต่สรุปว่าพวกเขาตายเพราะไม่หายใจนั่นแล ยิ่งเข้าเดือนที่เจ็ด สองครอบครัวยิ่งเทียวไปเทียวมาหากันบ่อยขึ้น พวกเขามักเปลี่ยนที่ทานอาหารหรือไม่ก็เปลี่ยนที่นอนสลับกันสองจวน นับว่าความกลมเกลียวของบ้านเขยกับสะใภ้ครอบครัวนี้ดีจนคนในเมืองหลวงอิจฉาตาร้อน อย่าพูดถึงจวนขุนนางที่มีสามภรรยาสี่อนุเลยเถอะ พวกนั้นแทบอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   คลอดบุตร

    สัปดาห์ต่อมาขณะที่ทุกคนต่างพักผ่อนยามค่ำคืน ชิวเพ่ยเพ่ยปวดท้องอย่างหนักจนร้องเสียงดังออกมา เฟยหยุนได้ยินภรรยาเข้าเขาจึงรีบลุกไปจุดเทียน เขาเห็นมีน้ำไหลนองเต็มเตียงไปหมดก็ยิ่งตกใจ รีบตะโกนเรียกบ่าวของชิวเพ่ยเพ่ยให้เข้ามาดูทันที สี่บ่าวเห็นภาพคุณหนูตรงหน้า พวกนางรู้ว่าคุณหนูจะคลอดแล้ว นางขอให้ซื่อจื่อออกไปรอข้างนอก ด้านนี้พวกนางจะจัดการเอง องครักษ์รีบไปกระจายข่าวบอกเตียวหย่งไจ้กับภรรยา และเตียวเฟยหลิวกับสามี ส่วนเฟยหยุนก็ให้คนของเขารีบไปตามพ่อกับแม่เช่นกัน โชคดีที่พวกเขาเตรียมหมอตำแยเอาไว้หลายวันแล้ว เรื่องการทำคลอดจึงไม่น่าห่วงมากนัก แต่เฟยหยุนที่เห็นภรรยาปวดท้องจนหน้าตาบิดเบี้ยวไปหมด เขาได้แต่นึกสงสารนาง ถ้าเขารู้ว่าการคลอดบุตรจะทรมานขนาดนี้ เขาไม่น่าปล่อยให้นางขยันทดลองวิชาในตำราของแม่ยายเลย ฮือ ภรรยาจ๋า อดทนหน่อยนะ ไม่ถึงสองเค่อ ทุกคนที่พักในจวนโหวก็มาพร้อมกันที่หน้าเรือนของชิวเพ่ยเพ่ย แม้แต่ท่านปู่ท่านย่าที่พักผ่อนไปแล้วยังแข็งใจตื่นมาดูหลานสาวของพวกเขา พวกเขาเป็นห่วงนางมากจนไม่อาจรอที่เรือนได้หรอก ถึงจะไม่ได้เข้าไปอยู่ให้กำลังใจ แต่ขอแค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   งานเลี้ยงรับขวัญ 100 วัน

    ลูกคนแรกของชิวเพ่ยเพ่ย เป็นท่านตาที่ช่วยตั้งชื่อให้ ท่านบอกว่า ในเมื่อเด็กคนนี้เกิดคืนเดือนมืด ท่านจึงตั้งชื่อให้ว่าเฟยซินเยว่ ทางด้านเฟยโหวและภรรยาไม่คัดค้านชื่อนี้ พวกเขาคิดว่าชื่อนี้ไม่เลวเช่นกัน หากให้พวกเขาคิดเองคงไม่ดีขนาดนี้ ดูอย่างเจ้าลูกชายพวกเขาสิที่ได้ชื่อว่าเฟยหยุนนั่นน่ะ ช่วงเดือนแรกนี้ชิวเพ่ยเพ่ยไม่สามารถออกนอกห้องของนางได้ ด้วยตามธรรมเนียมปกติของคนที่คลอดลูก โบราณห้ามถูกลมภายนอก ชิวเพ่ยเพ่ยจึงทำตามอย่างเชื่อฟัง ลูกชายนางเองก็แสนรู้ไม่น้อย เขามักหิวนมเป็นเวลาโดยไม่กล้าก่อกวนนางมากเกินจำเป็น ส่วนเฟยหยุนที่รับบทพ่อลูกอ่อน ตอนนี้ตาเขาคล้ำเหมือนหมีแพนด้าเชียวล่ะ เวลาบุตรชายก่อกวนยามดึก เขาต้องเป็นคนไปที่ห้องด้านข้างเพื่อเกลี้ยกล่อมเจ้าตัวเล็กอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เด็กน้อยนี่ก็ช่างกระไร เขาไม่ได้หิวนมตอนดึก เพียงแต่คึกอยากร้องเรียกหาพ่อเท่านั้นเอง หลังผ่านเวลาไปหนึ่งเดือน ชิวเพ่ยเพ่ยพาเฟยซินเยว่ออกมาเดินเล่นหน้าเรือนอยู่บ่อย ๆ เด็กน้อยรู้ความ ไม่ก่อกวนนางแม้แต่น้อย ยิ่งเวลาที่เหล่าทวดมาเล่นด้วย เฟยซินเยว่จะร่าเริงจนทำให้พวกเขาระบายยิ้มเต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   มีนักฆ่า

    แต่ความจริงแล้วมีชายชุดดำสวมผ้าปิดหน้าจำนวนมากกว่าร้อยคนกำลังล้อมจวนโหวเอาไว้ ด้านหน้าประตูที่มีทหารรักษาการณ์อยู่ พวกเขาพยายามต่อสู้ไม่ให้คนเหล่านี้ฝ่าเข้ามาได้ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ พอคนของตำหนักเมฆาดับที่มาช่วยงานออกมาพบเข้า พวกเขารีบดึงตัวทหารรักษาการณ์ที่เกือบจะถูกฆ่าออกมา จากนั้นส่งสัญญาณให้คนอื่นไปส่งข่าวเจ้าตำหนักโดยเร็ว เหล่าชายชุดดำเห็นคนหลบหนีไปสามสี่คนก็ไม่ได้สนใจ พวกเขายังคงเดินเข้าไปภายในเพื่อฆ่าเป้าหมาย คนเหล่านี้ได้รับการว่าจ้างจากญาติของเหล่ากบฏที่หลบหนีไป บางคนก็เป็นญาติทางฝั่งภรรยาหรือฝั่งสามีที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน เมื่อขาดเสาหลักไป คนพวกนี้ที่หาทางร่ำรวยเช่นเดิมไม่ได้อีกจึงโกรธแค้น พวกเขารู้ว่าเฟยโหวเป็นคนสนิทของฮ่องเต้จึงลงขันกันจ้างนักฆ่าจากแคว้นอื่นมาจัดการครอบครัวเฟยโหว โดยที่ไม่รู้เลยว่าวันนี้ที่จวนมีงานเลี้ยง เหล่านักฆ่าไม่คิดจะสนใจในเมื่อพวกเขามาจากต่างแคว้น ฆ่าแล้วหลบหนีไปเสียก็สิ้นเรื่อง องครักษ์เงาได้รับรายงานจากด้านนอกลาน เขารีบเข้าไปหาเจ้าตำหนักเพื่อรายงานในทันที ชิวเพ่ยเพ่ยพอรู้ว่ามีนักฆ่ากล้ามาที่นี่ นางสั่งพวกเขาให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   สายแข็ง

    ก่อนที่เหล่านักฆ่าจะได้ทำตามที่หัวหน้าสั่ง พวกเขาต้องตกใจกับพลังกดดันที่เตียวหย่งไจ้ปล่อยออกมาด้วยความโกรธ“หึ พวกเจ้ากล้ามากที่เข้ามาฆ่าคนกลางวันแสก ๆ แถมฆ่าใครไม่ฆ่า กล้ามาฆ่าครอบครัวหลานเขยข้าเหรอ หาที่ตาย!”อั่ก! นักฆ่าปลายแถวบางคนทนแรงกดดันไม่ไหวกระอักเลือดออกมา ชิวเพ่ยเพ่ยเห็นท่านตาโกรธก็กลัวจะเสียสุขภาพ นางรีบยัดเจ้าตัวเล็กเข้าอ้อมกอดสามีแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหาท่านตา“ท่านตาเจ้าขา อย่าโกรธ เดี๋ยวจะเสียสุขภาพนะเจ้าคะ ยาบำรุงข้ายังไม่ได้ปรุงใหม่เลย” ชิวเพ่ยเพ่ยลูบแขนท่านตาของนางอย่างออดอ้อน“เฮ่อ เจ้าจะไม่ให้ตาโกรธได้อย่างไร เจ้าดูพวกมันพูดสิ มันพูดเหมือนกับว่าข้าตายไปแล้วเสียอย่างนั้น บัดซบจริง ๆ เลย” เตียวหย่งไจ้พูดด้วยใบหน้างอง้ำ เขาเองก็อยากหายโกรธอยู่หรอ แต่พอมองเห็นพวกโง่ที่รนหาที่ตายตรงหน้าก็อารมณ์ขึ้นมาอีกรอบ“โธ่ ท่านตา คนพวกนี้แค่อยากตายเท่านั้น ท่านจะโกรธเคืองเรื่องอันใดเล่า อย่างมากก็แค่หาคนมาเก็บศพไปทิ้งที่ป่าให้หมากินโน่น ข้าพูดถูกไหมเจ้าคะ?” ชิวเพ่ยเพ่ยยังมีรอยยิ้มให้ท่านตานางเสียอีก นี่ขนาดว่ากำลังพูดเรื่องฆ่าแกงกันนะ เสียงของนาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   มาอย่างเสือกลับอย่างหมา

    “พวกเจ้ายังชักช้าหาพระแสงอันใดกันอยู่ หรือจะรอให้มันฆ่าพวกเจ้าก่อนหรืออย่างไร ฆ่ามันเซ่!” หัวหน้านักฆ่าเริ่มหงุดหงิดคนของตน เขาบอกให้พวกมันรุมฆ่ามาหลายรอบแล้วนะ ไอ้โง่พวกนี้ยังมัวแต่ยืนบื้อให้พวกมันทำร้ายอยู่นั่นแหละ คราวนี้บรรดานักฆ่าไม่รอช้า พวกเขากระชับดาบในมือแล้วรุมเข้าหาเฟยหยุนกับองค์ชายสามก่อน ส่วนคนอื่น ๆ กระจายกำลังเข้าหาเฟยโหวและโหวฮูหยิน ชิวเพ่ยเพ่ยเห็นพวกมันกล้าเข้าหาพ่อแม่สามี นางก็ชักจะนิ่งเฉยไม่ไหว นางไปยืนด้านหน้าท่านพ่อท่านแม่สามีและรับมือกับนักฆ่าจำนวนนับสิบด้วยตัวคนเดียว คราแรกเฟยโหวกับภรรยาตั้งใจจะแสดงฝีมือข่มขวัญเหล่านักฆ่ารอเวลาให้คนขององค์ชายสามมาเสียหน่อย กลับกลายเป็นว่าลูกสะใภ้คนดีมาปกป้องพวกเขาเสียนี่ สองสามีภรรยาหันมองหน้ากัน โหวฮูหยินหันไปหาน้องสาวเฟยหลิวคนดีของนาง เตียวเฟยหลิวเห็นพี่สาวคนใหม่หันมาสอบถาม นางจึงยิ้มและตอบกลับอย่างสบาย ๆ ว่า“ปล่อยให้นางยืดเส้นยืดสายเสียหน่อยก็ได้พี่สาว บุตรสาวข้าตั้งแต่ท้องมาก็ยังไม่ได้ออกแรงอีกเลย พวกท่านไม่จำเป็นต้องกังวล นางไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นเจ้าค่ะ” สองสามีภรรยาพยักหน้าอย่างเหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ข้าเป็นแค่ภรรยาผู้อ่อนแอ

    ชิวเพ่ยเพ่ยไม่ใช่มองไม่เห็นว่ามีคนหนีไปได้ นางเพียงส่งสัญญาณให้คนตามไปห่าง ๆ แล้วจัดการเสียก็เท่านั้น เมื่อสถานการณ์กลับคืนสู่ความสงบดังเช่นก่อนหน้า ชิวเพ่ยเพ่ยสั่งคนของนางนำศพไปทิ้งป่าให้หมากินอย่างที่นางบอกเอาไว้แล้ว หึ คนอย่างนางพูดคำไหนคำนั้นนะ ขอบอก! แขกเหรื่อที่เหงื่อแตกกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า พวกเขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วว่า อย่าได้กล้ายุ่งเกี่ยวเทียวหาเรื่องกับคนพวกนี้หากไม่อยากตาย คราแรกพวกเขาคิดว่าคนที่น่ากลัวจะเป็นซื่อจื่อใจโฉดเสียอีก ที่ไหนได้ภรรยาของเขาช่างน่ากลัวเสียยิ่งกว่า บรื๋อ พวกเขาไม่น่าหลงกลใบหน้าใสซื่อนั่นก่อนหน้านี้เลยจริง ๆ เกือบไปแล้วที่คิดจะแย่งชิงนางมาเป็นสะใภ้ ขุนนางทั้งหลายต่างมีความคิดคล้ายคลึงกันโดยไม่ได้นัดหมาย ชิวเพ่ยเพ่ยที่เห็นว่าแขกเหรื่อเริ่มจิตใจไม่ค่อยดี นางจึงลุกขึ้นกล่าวขอโทษพวกเขาตามแบบอย่างสตรีที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีทำกัน“ข้าและครอบครัวต้องขออภัยทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดีกับบุตรชายในวันนี้ด้วย ข้าไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องมากมายในวันนี้ หวังว่าทุกท่านจะไม่รังเกียจ และเชิญพวกท่านทานอาหารต่อได้เลยเจ้าค่ะ” ชิวเพ่ยเพ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ช่วยสามี

    หลังผ่านงานเลี้ยงของเจ้าตัวเล็กได้สามเดือน จู่ ๆ เฟยหยุนก็มีงานต้องเดินทางไปต่างเมืองเสียนี่ ชิวเพ่ยเพ่ยที่กลับมาดูแลตำหนักเมฆาดับแล้วก็ยิ่งยุ่งแทบทุกวัน นางไม่คิดมากที่สามีต้องห่างหาย ถึงอย่างไรก็มีคนของนางตามดูแลเขาอยู่ดีนี่นา ส่วนเจ้าตัวเล็กนั้นหนา ถูกบรรดาท่านทวดลักพาตัวไปแล้ว ชิวเพ่ยเพ่ยไม่สนใจเขาว่าจะเป็นอย่างไร ดีที่ลูกน้อยนางแข็งแรงกว่าเด็กปกติมากนัก น่าจะเพราะเขาดูดซับยาบำรุงนางไปเสียหมดนั่นแหละ ทำให้ไม่กี่เดือนเขาก็หย่านมด้วยตัวเอง ตอนนี้เขาชอบกินกล้วยบดกับฟักทองบดพร้อมนมวัวที่สุด ท่านตาท่านยายลงทุนให้คนไปหาวัวนมพันธุ์ดีจากต่างแคว้นมาเลี้ยงที่จวนตระกูลชิวเพื่อเหลนของพวกเขาเลยเชียวหนา ชิวเพ่ยเพ่ยยังคงคิดที่จะขยายกิจการที่ตอนนี้มีหลัก ๆ คือร้านแลกเงินทั้งห้าแคว้น นางอยากเพิ่มหนทางหาข่าวที่เร็วกว่านี้ จึงคิดจะสร้างโรงน้ำชาที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถใช้บริการได้ ข่าวที่พวกเขาเหล่าคนธรรมดารู้ อาจมีบางสิ่งสำคัญบ้างที่นางสามารถนำมาใช้ได้ เรื่องนี้นางคงต้องปรึกษาท่านตา ท่านยายดูเสียก่อนจะเริ่มดำเนินการ หากทำได้จริง ถึงแม้กิจการงานรับจ้างฆ่าจะน้อยลง รา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11

บทล่าสุด

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   รักเมียคนเดียว

    “ฝ่า..ฝ่าบาท” ขุนนางที่เมื่อกี้ิเชิดหน้าชูคอใส่ชิวเพ่ยเพ่ยเข่าอ่อนในทันใด เขารีบคุกเข่าทำความเคารพฮ่องเต้พร้อมคนอื่น ๆ ที่เขาพามา ฮ่องเต้ไม่แม้แต่จะมองและสั่งให้พวกเขาลุกขึ้น เขาจะปล่อยให้พวกมันคุกเข่าไปฟังไปแบบนี้นี่แหละ ช่างหาเรื่องให้เขาเสียหน้ากับผู้มีพระคุณนัก“คารวะท่านเจ้าตำหนัก ข้าเพิ่งรู้ว่าท่านมาแคว้นเยี่ยจึงเสียมารยาทที่ไม่ได้มาต้อนรับท่านด้วยตัวเอง หวังว่าท่านจะไม่ถือโทษโกรธข้าหรอกนะ” ฮ่องเต้ที่อาวุโสกว่าชิวเพ่ยเพ่ยหลายปีรีบขอโทษนางก่อนอย่างไม่อายใคร“ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องมากมารยาทกับข้า ข้ากับสามีเพียงอยากมาทำบุญที่แคว้นเยี่ย แต่ดูท่าทางแล้วคนในแคว้นของท่านคงไม่ชอบเรื่องดี ๆ เช่นนี้นัก วันนี้ข้าจึงต้องลงมือจนทำให้ท่านลำบาก ข้ากับสามีต้องขอโทษท่านเช่นกัน” ชิวเพ่ยเพ่ยไม่จำเป็นต้องใช้ราชาศัพท์กับเขา นางพูดกับเขาเหมือนคนสนิทที่เคยพบปะกันมา ทั้งที่จริงนางแค่เคยพูดคุยและติดต่อกับเขาทางจดหมายหลังถล่มจวนอ๋องไปเมื่อคราวนั้นเท่านั้น“อืม ขอบคุณท่านมากที่ไม่ถือสา ส่วนคนที่สร้างปัญหาให้ท่าน ข้าอยากขอให้ท่านจัดการแทนข้าได้หรือไม่ อีกอย่าง ข้ามีเรื่องอยากปรึกษาท่านกับสามีด้ว

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ใครหาเรื่องให้ข้า!!!

    “คุณชาย ท่านช่วยข้าด้วยสิเจ้าคะ ข้ายินดีตอบแทนท่านด้วยร่างกายอันสดใหม่ หากท่านช่วยข้าจากผู้หญิงเลวคนนี้ ฮึก” นางแพศยานี่ยังกล้ามาขอให้เขาช่วยอีกหรืออย่างไร ช่างไม่รู้จักตายเสียจริง ๆ เฟยหยุนมองผู้หญิงเสแสร้งตรงหน้าเขาตาขวาง เขาไม่เคยรู้จักนางมาก่อน ทำไมนางคนนี้ถึงได้มาหาเรื่องเขาแบบนี้ เขาอยากรู้มากจริง ๆ ว่าใครมันหาเรื่องให้ข้า!!! ชิวเพ่ยเพ่ยหรี่สายตามองสามีนางและหญิงสาวที่ยังคงเล่นละครอย่างไม่อายใคร กระทั่งเฟยหยุนทนความกดดันไม่ไหวเขารีบสั่งคนจับนางอ้าปากแล้วให้พวกเขายัดอาหารที่หญิงผู้นี้นำมาเข้าไปจนหมด เขาหมดความอดทนแล้วจริง ๆ แถมยังไม่อยากอยู่ใกล้ผู้หญิงน่าขยะแขยงเช่นนี้แม้สักนิด ชิวเพ่ยเพ่ยเห็นสามีกระดึ๊บ กระดึ๊บมาหานางหลังสั่งคนจัดการนังตัวดีแล้ว นางแอบยิ้มอย่างสมใจ หึ นับว่าเจ้ายังรู้ว่าอะไรดีนะสามี ไม่อย่างนั้นล่ะก็… เจ้าหน้าที่เห็นเหตุการณ์และกำลังจะเข้าไปช่วยผู้หญิงคนนั้น แต่คนของตำหนักเมฆาดับมากกว่าสิบคนไม่รู้มาจากไหน พวกเขายืนปิดกั้นเจ้าหน้าที่ไม่ให้ผ่านทางไปช่วยคนได้ เมื่อเห็นท่าไม่ดีแล้ว เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบบอกให้คนของเขาไปตามเจ้านายม

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   อยากมีเมียน้อย?

    วันที่สองที่ชิวเพ่ยเพ่ยเปิดการตรวจรักษา วันนี้ชาวบ้านน้อยกว่าเมื่อวานเกือบครึ่งหนึ่ง แต่นางยังคงตรวจรักษาพวกเขาตามปกติ เฟยหยุนยังคงคอยช่วยนางอยู่ข้าง ๆ ดังเช่นทุกครั้ง หลังจากรักษาคนไปหลายสิบคนจนใกล้จะถึงเวลาทานอาหารเที่ยง อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงแหลมสูงมาเข้าหูให้ชิวเพ่ยเพ่ยจนระคายโสตประสาท“คุณชาย ข้านำอาหารทำเองมาให้ท่านทานเจ้าค่ะ ท่านลองดูสิว่าถูกปากหรือไม่” ไม่รู้ว่าเป็นแม่นางจากบ้านใด ถึงได้กล้าเข้ามาพูดคุยกับสามีของท่านหมอใจดีอย่างหน้าด้าน ๆ เช่นนี้ เรื่องที่เฟยหยุนเป็นสามีของหมอหญิงใจบุญต่างมีข่าวออกมานานมากแล้ว ทำให้ไม่เคยมีหญิงหรือชายคนใดกล้าล่วงเกินสองผัวเมียคู่นี้มาก่อน นี่นับว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่ชิวเพ่ยเพ่ยเดินทางแล้วพบเข้ากับเหตุการณ์แบบนี้ นางขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่ใครก็ไม่รู้เข้าหาสามีนางอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า นางได้กลิ่นยาปลุกกำหนัดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมาจากในอาหารที่อยู่ตรงหน้าสามีของนาง“ข้าไม่ต้องการอาหารของเจ้า ไสหัวไป!!!” เฟยหยุนไม่คิดไว้หน้าหญิงสาวตรงหน้าเขาแม้แต่นิดเดียว เขาเห็นแล้วว่าภรรยาสุดที่รักชักไม่พอใจ ใครเล่าจะอยากหาเรื่

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ชื่อเสียงลับ ๆ

    ชิวเพ่ยเพ่ยกับเฟยหยุนเดินทางโดยปลอมเป็นหมอตั้งแต่วันแรก นางเปิดรักษาชาวบ้านฟรีโดยให้พวกเขาไปซื้อยาจากร้านยาเมฆาดับเอาเอง หากใครยากจนจริง ๆ ชิวเพ่ยเพ่ยจะส่งคนไปแจ้งที่ร้านให้แจกยาพวกเขาแล้วเก็บเงินจากนาง นางทำเช่นนี้ไปตลอดทางที่พวกเขาท่องเที่ยว ไม่ว่าจะผ่านหมู่บ้านกันดารเพียงใด สองสามีภรรยาก็ยังคงมีรอยยิ้มแต่งแต้มไปทั่วใบหน้าอยู่เสมอ จนผู้คนที่ได้รับการรักษาจากสองสามีภรรยาต่างขนานนามพวกเขาว่าคู่รักหมอใจบุญกันเลยทีเดียว แม้ว่าเฟยหยุนจะรักษาใครไม่เป็น แต่เขาช่วยทำแผล ใส่ยาให้คนไข้ชายและดูแลพวกเขาช่วยภรรยาจนหายขาดมาตลอด ฉายาที่พวกเขาได้รับจึงไม่นับว่ามากเกินไป ชิวเพ่ยเพ่ยที่เลือกวิธีการนี้ในการท่องเที่ยวพักผ่อน ก็เพราะนางเคยฆ่าคนมาไม่น้อย พออายุมากขึ้นนางจึงอยากจะทำบุญใหญ่รักษาคนไข้ยากจนบ้างก็เท่านั้น ไหน ๆ ครอบครัวนางก็ร่ำรวยอยู่แล้ว กับอีแค่การรักษาคนทั้งห้าแคว้นฟรีไม่นับว่าเหนือบ่ากว่าแรงของนางหรอกหนา บรรดาหัวหน้าสาขาต่าง ๆ ที่ควบคุมกิจการร้านค้า พวกเขาทราบดีว่าท่านเจ้าตำหนักคนเก่ากำลังออกเดินทางรักษาคนไปทั่วทั้งห้าแคว้นแล้วโดยที่ไม่ต้องมีใครมาส่

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ท่านแม่รู้แล้ว

    หนึ่งปีผ่านไป ชิวเพ่ยเพ่ยและเฟยหยุนก็ยังไม่กลับมาจากการท่องเที่ยว เฟยซินเยว่เริ่มจัดการตารางเวลาการทำงานของเขาได้ดีขึ้นมาก เขาจะพักทุกสองสัปดาห์หลังจากทำงานอย่างหนัก แล้วจะเดินทางไปพักกับท่านทวดและท่านปู่ท่านย่าของเขาที่จ้วงจื่อครั้งละสามสี่วัน จากนั้นก็จะกลับไปลุยงานต่อ เป็นเช่นนี้มาตลอดทั้งปี ส่วนเฟยหยางกวงก็ฝึกทหารและศึกษาตำราพิชัยสงครามไม่ได้ขาด ส่วนการไปดื่มสุราและแต่งกลอนกับสหาย เขาเลิกไปตั้งแต่วันลาสหายแล้ว เขายังเชิญสหายมาเที่ยวที่จวนโหวได้หากต้องการ สหายทั้งสามของเขาเป็นเพียงครอบครัวธรรมดาที่ไม่ได้ร่ำรวยมากมายอันใด แต่พวกเขาล้วนคบหากันด้วยใจมาตลอดสิบปีที่รู้จักกัน ซึ่งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เฟยหยางกวงส่งเทียบเชิญสหายมาร่วมงานวันเกิดของเขากับพี่ชาย ไหนจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้กับสหายทุกคนในวันเกิดของพวกเขา ทำให้ทั้งสี่คนยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นไปอีก สหายของเขาทั้งสามเพิ่งสอบขุนนางได้ในปีนี้ด้วย เขาจึงจัดงานฉลองให้พวกเขาที่จวนโหวอีกงานหนึ่ง เฟยซินเยว่ไม่เคยห้ามน้องชายของเขา เขารู้ทุกอย่างเรื่องน้องชายและน้องสาว เขาเพียงมองพวกเขาอยู่ห่าง ๆ หากมีสิ่ง

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ตาทวดมาหา

    ระหว่างที่ชิวเพ่ยเพ่ยกับเฟยหยุนออกไปท่องเที่ยว เฟยซินเยว่กำลังตาลายกับสมุดบัญชีที่เขาได้รับมาตรวจสอบเป็นจำนวนมาก เขานับถือท่านแม่ของเขาจริง ๆ ที่นางสามารถจัดการบัญชีจำนวนมากได้โดยไม่มีอาการเบื่อหน่ายเช่นที่เขาเป็น ยิ่งตอนนี้ร้านของตำหนักเมฆาดับรวมทั้งห้าแคว้นอาจมีมากกว่า 500 ร้านค้าแล้ว นางยังคงสามารถตรวจสอบได้อย่างละเอียดจนไม่มีใครกล้าโกงนางแม้แต่อีแปะเดียว หลังจากเฟยซินเยว่หัวหมุนวุ่นวายอยู่เกือบสองสัปดาห์ วันนี้ท่านตาทวดมาเยี่ยมเขาถึงเรือนอย่างน่าแปลกใจ เฟยซินเยว่รีบหยุดงานที่กำลังทำอยู่แล้วเดินไปพยุงท่านตาทวดเข้ามานั่งอย่างห่วงใย ตอนนี้ท่านตาทวดอายุมากแล้ว เขายังจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ท่านมักเล่นกับเขาอย่างสนุกสนานและดูแลเขาเป็นอย่างดี เวลาเขาถูกท่านแม่พาซ้อมวรยุทธจนบอบช้ำก็เป็นท่านตาที่มานั่งทายาแล้วบ่นท่านแม่ให้เขาฟัง จนเขาหายจากอาการเจ็บช้ำไปเลย“ท่านตาทวดมาได้อย่างไรขอรับ” หลังพาท่านตาทวดนั่งแล้วเขารีบสอบถามอย่างสงสัย“อืม ข้าเป็นห่วงกลัวว่าเจ้าจะทำงานหนักไม่ไหวน่ะสิ แล้วเจ้าเป็นอย่างไรบ้างอาเยว่”“ข้าสบายดีขอรับท่านตา งานเหล่านี้ท่านแม่สอนข้ามานานแล้วขอรับ

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ลูกชายแม่ทัพ

    วันเดียวกันนั้นเอง มีราชโองการไปที่ค่ายทหารแต่งตั้งเฟยหยางกวงเป็นแม่ทัพเมืองหลวงแทนเฟยหยุน บรรดาทหารตั้งแต่บนลงล่างที่รู้จักเขามาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ไม่มีใครคัดค้าน พวกเขารู้ดีถึงความสามารถของชายหนุ่มผู้เป็นลูกชายแม่ทัพคนเก่าว่าเขาเก่งกาจขนาดไหน ส่วนคนอื่น ๆ ในราชสำนักนั้นพวกเขาไม่คิดจะสนใจ ถึงอย่างไรก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการงานของพวกเขาอยู่ดี ข่าวลือในเมืองหลวงแพร่กระจายไปทั่วทุกหัวมุมหลังราชโองการประกาศได้เพียงวันเดียว คราแรกขุนนางหน้าใหม่ที่ไม่รู้เรื่องในอดีตคิดกีดกันเฟยหยางกวงและคิดว่าเขาใช้เส้นสายเพื่อรับตำแหน่งแทนบิดาจึงคัดค้านกันหัวชนฝา แต่พอท่านเสนาบดีกรมโยธาเล่าประวัติความเป็นมาของหลานชายคนรองกลางท้องพระโรงเสียยืดยาว พร้อมตบท้ายว่าหลานชายคนโตของเขาคือเจ้าตำหนักเมฆาดับในตำนานเท่านั้นแหละ ขุนนางเหล่านั้นต่างหุบปากฉับกับแทบไม่ทัน พวกเขาเกือบหาเรื่องตายแล้วไหมเล่า ทำไมขุนนางแก่ ๆ พวกนั้นไม่บอกกันก่อนล่วงหน้า เฮ้อ ฮ่องเต้พอเห็นว่าขุนนางเหล่านั้นกลัวตำหนักเมฆาดับมากกว่าเขาเสียอีกก็นึกขำ ไอ้พวกโง่ที่ไม่รู้ดีชั่ว เขาเกือบต้องลำบากจัดสอบขุนนางใหม่อีกแล

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   หนีเที่ยวกับสามี

    สองปีต่อมาหลังชิวเพ่ยเพ่ยมอบตำหนักเมฆาดับให้บุตรชายคนโตดูแล นางเห็นว่าตำแหน่งของเขามั่นคงแล้วจึงปล่อยให้เขาจัดการงานทั้งหมดด้วยตัวเอง องครักษ์เงาของเขาก็เป็นนางที่ไปพบเข้ากับเด็กกำพร้าขอทานแล้วนำมาฝึกฝนร่วมกันตั้งแต่ยังเด็ก ทุกวันนี้คนอื่น ๆ ก็ดูแลบุตรชายคนรองกับบุตรสาวนางอย่างลับ ๆ ไม่ว่าพวกเขาจะทำสิ่งใดนางรู้ทุกอย่าง เพียงแค่นางไม่จำเป็นต้องบอกพวกเขา ชิวเพ่ยเพ่ยเห็นสามีกลับมาก็รีบลากเขาเข้าห้องเพื่อปรึกษาสิ่งที่นางคิดเอาไว้สักพักแล้วทันที เฟยหยุนคิดว่าภรรยารักจะให้เขาชื่นใจจึงเข้าห้องไปอย่างเริงร่า แต่พอเห็นภรรยาสั่งเขานั่งลงดี ๆ เขาจึงรู้ว่าสิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดสักนิด ฮือ ภรรยาใจร้าย“ท่านพี่จะลาออกเมื่อไหร่กัน”“หืม ทำไมเจ้าถามอีกแล้วล่ะเพ่ยเพ่ย มีอะไรหรือเปล่า”“ถ้าท่านยังไม่ลาออกเสียที ข้าจะหนีไปเที่ยวคนเดียวสักสองสามปีน่ะสิ ตอนนี้ลูกโตกันหมดแล้ว ข้าก็อยากลองไปเที่ยวอย่างอิสระดูบ้างอย่างไรเล่า ท่านก็รู้ว่าข้าดูแลตำหนักเมฆาดับมาตั้งแต่ยังเด็ก จึงไม่เคยมีวัยเด็กอย่างคนอื่นเขา” นางมุ่ยหน้าพูดตามความจริง“อ่า ภรรยาอยากไปเที่ยวกับสามีเหรอ” เฟยหยุน

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ให้ลูกชายคนโต

    ชิวเพ่ยเพ่ยที่สอนบุตรชายคนโตในทุกสิ่งที่นางเรียนรู้มาตลอดชีวิตตั้งแต่เขาอายุห้าขวบ นางเห็นว่าตอนนี้เขาน่าจะดูแลตำหนักเมฆาดับแทนนางได้แล้ว ชิวเพ่ยเพ่ยส่งจดหมายไปบอกท่านตาที่พักผ่อนกับท่านยายที่จ้วงจื่อนอกเมืองมาตลอดสองสามปีที่ผ่านมา พวกท่านชมชอบบรรยากาศธรรมชาติที่มีน้ำพุร้อนที่นั่นมากนัก ยิ่งมีคนมาพักผ่อนพอให้ท่านได้พูดคุยคลายเหงาก็ยิ่งไม่อยากจากไปไหน นางได้รับจดหมายตอบกลับจากท่านในช่วงเย็นของวันพอดี ท่านตาบอกว่าแล้วแต่นางจะตัดสินใจ หากเห็นว่าหลานชายคนโตเหมาะสม ท่านก็ไม่คัดค้าน เพียงแค่ให้นางช่วยดูแลอยู่ห่าง ๆ ก่อนจะปล่อยมือเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วก็พอ ชิวเพ่ยเพ่ยอ่านจดหมายที่คนของนางส่งมาให้แล้วก็ยิ้มอย่างสบายใจได้เสียที ตำหนักเมฆาดับนี้เป็นท่านตาที่ส่งมอบให้นางมา ตอนนี้นางต้องการมอบให้ลูกชายคนโตเช่นกัน อย่างไรการเคารพท่านตาคือสิ่งที่นางทำมาตลอดตั้งแต่เด็กแล้ว วันต่อมาชิวเพ่ยเพ่ยบอกสามีนางว่าจะพาบุตรชายเดินทางไปสาขาใหญ่ตำหนักเมฆาดับบนภูเขาสักหลายวัน เฟยหยุนได้แต่ทำหน้างอคอหักด้วยไม่อยากจากภรรยารักแม้แต่นิดเดียว ชิวเพ่ยเพ่ยจึงต้องใช้ไม้ตายว่ากลับ

DMCA.com Protection Status