แชร์

ตอนที่2.  ท่านแม่ทัพ

หญิงสาวเลือกที่จะโกหกบิดา เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม สำหรับเรื่องที่เธอกำลังตัดสินใจทำ แน่นอนว่าการแต่งงานจะไม่เกิดขึ้น และญาติของเธอก็ต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกนี้ของเธอ โดยการอยู่อย่างผู้หักหลังไปชั่วชีวิต

การพูดคุยของเจ้าสัวกวงกับว่าที่ลูกเขย เป็นไปอย่างครื้นเครง ก่อนที่จะมีเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ ตูม! ร่างของทั้งสามร่วงลงลงน้ำ เมื่ออยู่ ๆ มันเกินโคลงจนทำให้พลิกคว่ำ

หมับ! ในจังหวะที่กวงฮุ่ยผิงจะพุ่งตัวขึ้นเหนือน้ำ ข้อเท้าของเธอถูกรวบจับเอาไว้ ก่อนตัวเธอจะดิ่งลงใต้พื้นน้ำอย่างรวดเร็ว หญิงสาวพยายามลืมตาในน้ำ สิ่งที่เห็นตรงหน้าตอนนี้คือร่างกำยำของคนรัก

หญิงสาวพยายามดิ้นรนให้รอดจากเงื้อมือของเขา ทว่ามันไม่เป็นแบบนั้น ปึก! หญิงสาวเจ็บราวไปทั้งศีรษะ เส้นผมของเธอถูกรวบเอาไว้แน่น

ก่อนที่เขาจะออกแรง เอาหัวเธอกระแทกเข้ากับหินใต้น้ำอยู่หลายครั้ง รอยยิ้มเหี้ยมเกรี้ยมคือภาพสุดท้ายที่เธอเห็น แน่นอนว่าสติสุดท้ายมันเลือนรางจนมืดมิดไปในที่สุด

ชานหลางปล่อยให้ร่างของคนรักจมอยู่เพียงลำพัง โดยที่ตัวเขาลอยออกห่างไปอีกด้าน ก่อนจะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำด้วยสีหน้าแตกตื่น พร้อมทั้งหันรีหันขวาง เพื่อหาคู่หมั้นที่จ่มหายไป

“ฮุ่ยผิง/ที่รัก”

ท่านเจ้าสัวร้องเรียกหาลูกสาว เรือล่มแค่นี้เป็นไปไม่ได้ที่ลูกของเขาจะจมน้ำ การเป็นหมอในกองทัพ ต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่ทำไมตอนนี้ ถึงได้ไร้วี่แววว่าลูกสาวโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ

ชายต่างวัยพากันร้อนใจ ร้องเรียกหญิงสาว สลับดำลงไปในน้ำ เพื่อคนหากวงฮุ่ยผิง ส่วนคนบนฝั่งที่เห็นเหตุการณ์เรือล่ม ต่างพากันร้อนใจไม่แพ้กัน

คุณนายกวงเรียกคนงานที่อยู่แถวนั้น ให้มาช่วยกันค้นหาลูกสาว ส่วนกวงเยี่ยชิงแสร้งบีบน้ำตา พร้อมสวมกอดป้าสะใภ้เอาไว้แน่น ปากก็พร่ำพูดถึงคนที่หายตัวไปในน้ำ

            “ท่านแม่ทัพ!”

            มือหยาบที่กำลังคลึงจอกสุราจากหยกชั้นดี ชำเลืองมองไปยังสาวใช้คนสนิทเล็กน้อย ก่อนจะทอดสายตามองกลับไปยังเบื้องหน้า ที่มีดอกหญ้าและดอกไม้ป่าที่เกิดเองตามธรรมชาติ กำลังแข่งกันอวดความงามต่อสายตาของผู้ผ่านไปมา

            แม่ทัพสาวจดริมฝีปากกับหยกเนื้อเย็น ก่อนจะปล่อยให้ความหวานร้อนแรงไหลลงสู่ลำคอ รสชาตินี้หากเป็นอีกโลกที่นางเคยอยู่ คงไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสเป็นแน่ ต่อให้มีวิธีการทำที่เหมือนกัน แต่ความเจริญรุดหน้าของบ้านเมือง ทำให้ขาดความเป็นธรรมชาตินี้ไปเสียสิ้น

            “ทุกอย่างพร้อมแล้วรึ!”

            “เจ้าค่ะ”

            “เช่นนั้นเราออกเดินทางกันต่อเถอะ ข้าอยากให้ถึงเมืองหลวงพร้อมพี่ใหญ่”

            แม่ทัพสาวสลัดภาพที่ไหลวนในหัวเมื่อครู่ทิ้งไปเสีย เพราะมันเป็นเพียงความทรงจำที่เคยมีเท่านั้น สิ่งที่ทำให้นางหวนนึกถึงมัน คงเป็นบรรยากาศเบื้องหน้า ที่คล้ายกับบ้านพักต่างอากาศของครอบครัวในชีวิตเดิม

            นางเกิดใหม่และเติบโตในโลกอีกมิติ ต่างจากนิยายที่เคยอ่านก็คงจะเป็น เรื่องที่นางมิได้มาอยู่ในร่างของใคร แต่มาเกิดเป็นคนของโลกนี้ แค่มีความทรงจำในอดีตติดตัวมาเท่านั้น

            “เจ้าค่ะ”

            มู่อิงรับคำก่อนจะคลี่ยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นสายตาขอสุราจากกาในมือของนางเพิ่ม สองนายบ่าวเดินตรงกลับไปที่ม้า ซึ่งผู้ติดตามทั้งหมดได้เก็บสิ่งของที่ใช้ตอนหยุดพักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

            เพื่อความสะดวกในการเดินทาง จึงไม่มีรถม้าเช่นขุนนางอื่น ซึ่งแม่ทัพสาวมองว่า มันคือสิ่งที่ทำให้การเดินทางล้าช้ากว่าที่ตั้งใจ อีกทั้งตัวนางกับมู่อิงหาใช่สตรีบอบบาง ที่ต้องกลัวแดดฝนเฉกเช่นสตรีโดยทั่วไป

            แม่ทัพสาวหยุดอยู่ที่พุ่มเหมยกุ้ยสีแดงสด ก่อนจะเด็ดออกมาหนึ่งดอก แล้วยื่นส่งให้แก่สาวใช้คนสนิท แม้ว่ามู่อิงจะห้าวหาญเยี่ยงบุรุษ แต่เนื้อแท้ของมู่อิงยังคงมีความอ่อนโยนเยี่ยงสตรีทั่วไป

            “ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพ”

            “เจ้าเหมาะกับมันกว่าข้ามากนัก อดทนหน่อยมู่อิง มิช้าเจ้าจะได้อยู่เช่นหญิงสาวคนอื่น ๆ ที่จับตะหลิวมากกว่าดาบ”

            “บ่าวมีชีวิตรอดมาได้เพราะนายหญิงทั้งสาม ต่อให้ทั้งชีวิตมิอาจได้จับตะหลิวเช่นสตรีอื่น บ่าวก็ไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อยเจ้าค่ะ ที่ได้รับใช้ท่านแม่ทัพและนายหญิงทั้งสอง”

            มู่อิงรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ เพราะในวัยเยาว์นางเกือบถูกขายให้หอนางโลม ด้วยมือของบิดาที่อ้างว่านางคือตัวสิ้นเปลือง ตามคำของมารดาเลี้ยงที่ย้ำเตือนกับบิดามาหลายปี

            นางในเวลานั้นทั้งท้อแท้และสิ้นหวัง นายหญิงใหญ่ที่เดินทางมาทำการค้าพร้อมนายหญิงทั้งสอง ได้ขอซื้อตัวนางในตอนที่นางถูกลากไปตามถนน เพื่อไปยังหอนางโลมประจำเมือง

            นับแต่นั้นนางได้อยู่เคียงข้างนายหญิงน้อย ซึ่งกลายเป็นท่านแม่ทัพผู้เก่งกาจในวันนี้ เส้นทางสู่เมืองหลวงจำต้องผ่านบ้านเกิดของนาง และมันคงดีไม่น้อยที่จะได้ไปไหว้หลุดศพมารดาสักครั้ง

“หึ ๆ ทุกคนย่อมมีทางเดินของตนเอง เจ้าเหมือนน้องสาวของข้าอีกคน ฉะนั้นข้าจึงอยากเห็นเจ้ามีความสุข”

            แม่ทัพสาวยกจอกสุราขึ้นดื่มอีกครั้ง ก่อนจะส่งยื่นส่งจอกหยกคู่กายให้แก่มู่อิง แล้วเหวี่ยงกายขึ้นนั่งบนหลังม้า

            “บ่าวมีความสุขเสมอเจ้าค่ะ”

            มู่อิงตอบผู้เป็นนนาย พร้อมเก็บจอกหยกเอาไว้ในกล่องไม้ แล้วใส่ไว้ในถุงหนังสัตว์ที่ห้อยอยู่กับอานม้า

            “ไปกันเถอะ”

            เมื่อทุกคนอยู่บนหลังอาชาคู่ใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม่ทัพสาวได้กระตุ้นให้ม้าออกก้าวเดิน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นวิ่งตะบึงไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

เมืองหลวง สกุลกั๋ว

          กั๋วเชียวหลางนั่งจ้องหน้าบิดาเขม็ง เขามีนับล้านคำที่อยากพูด แต่เมื่อเห็นความแก่ชรา ที่เหมือนจะเพิ่มจากเมื่อหลายวันก่อนของพ่อแม่ ทำให้ทุกคำถูกกลืนหายไปในลำคอเสียสิ้น แต่กระนั้นเขายังไม่อาจจะยอมรับ กับสิ่งที่รับรู้มาอยู่ดี

            “ลูกขุนนางมีเพียงข้าเช่นนั้นรึขอรับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง

            “แต่ครั้งนี้พ่อเห็นด้วยกับฝ่าบาท” ท่านมหาเสนาบดีตอบบุตรชายด้วยรอยยิ้มแห่งความหวัง

            “เห็นด้วย!”

ชายหนุ่มทวนคำบิดาด้วยเสียงอันดัง ก่อนจะมองไปทางมารดาเพื่อขอความคิดเห็น แต่เหมือนมันจะไม่เป็นผล เพราะมารดาเปลี่ยนจากใบหน้าเหมือนกำลังจะตาย เป็นรอยยิ้มแพรวพราวดวงตาไหวระริกอย่างคนได้ของถูกใจ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status