Share

ตอนที่9. คุกเข่า

Author: ไห่ถาง
last update Last Updated: 2024-11-05 17:15:20

“คุกเข่า!”

ทหารที่จับตัวของสองพ่อลูก เตะเข้าที่ข้อพับของชายชรา จนเขาล้มลงเข่ากระแทกกับพื้น เกาจ้านเจ็บร้าวไปทั้งขา ก่อนจะเงยหน้ามองไปที่สามีคนใหม่ของอดีตภรรยา

“สตรีผู้นั้นอยู่ที่ใด กล้าที่จะกำแหงต่อครอบครัวข้า ก็ต้องกล้าที่ออกมารับโทษทัณฑ์”

“โบยมันให้ตายเลยขอรับท่านพ่อ”

เจียงหลุนรีบเติมเชื้อไฟ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครที่จะหักหน้าเขาเช่นวันนี้มาก่อน

“โบยมันสองพ่อลูก จนกว่าจะบอกว่าสตรีผู้นั้นอยู่ที่ใด”

“ลองโบยดูสิ!”

เสียงกร้าวดังขึ้นจากประตูบ้าน ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของรองแม่ทัพจะก้าวออกมา โดยมีเหล่านายกองติดตามมามิห่าง ทั้งหมดมีใบหน้าทะมึนตึงไม่แพ้กันกับรองแม่ทัพ ที่สำคัญไปกว่านั้นชุดที่ชายหนุ่มทั้งหมดสวมอยู่นั้น บ่งบอกถึงตัวตนว่าเป็นใคร

ท่านเจ้าเมืองถึงกับหายใจติดขัด เมื่อเห็นลวดลายที่ปักบนแขนเสื้อของพวกเขา มีเพียงแค่สังกัดเดียวเท่านั้น ที่ปักลวดลายนี้ไว้บนแขนเสื้อ

“ทหารจากแดนเหนือ”

“รู้จักด้วยรึ! อยากพบสตรีผู้นั้นมากใช่หรือไม่ท่านเจ้าเมือง เช่นนั้นรอสักครู่ประเดี๋ยวนางก็มา และข้าหวังว่าท่านและครอบครัว จะคิดหาคำแก้ตัวที่น่าฟัง นอกจากคำว่า...”

“มิได้ตั้งใจ!”

เสียงเย็นเยียบจากด้านหลัง ทำให้ท่านเจ้าเมืองถึงกับเย็นสันหลังวาบเลยทีเดียว มีใครบ้างไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพหญิงจากแดนเหนือนั้นเลือดเย็นเพียงใด แล้วสาสน์ที่เขาได้รับมันคืออะไรกัน ไหนบอกว่าท่านแม่ทัพจากแดนเหนือยังมาไม่ถึง

“ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยเพียงทำตามหน้าที่เท่านั้นขอรับ”

            ท่านเจ้าเมืองรีบค้อมกายประสานให้แก่หญิงสาว ที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ด้วยแววตาเรียบนิ่ง สองแม่ลูกสกุลเจียงถึงกับใบหน้าซีดเผือด ด้วยไม่คิดว่าคนที่พวกตนหมายเด็ดหัว จะกลายเป็นคนที่มาเด็ดหัวพวกตนแทน

            “เป็นเจ้าเมืองนับว่ามีอำนาจสุดในเมือง แต่นั่นมิได้หมายความว่าจะทำสิ่งใดตามอำเภอใจได้ บุตรชายและภรรยาทำผิด ยังอาจหาญมาทำร้ายชาวเมืองอย่างอุกอาจ หรือท่านคิดว่าโบยคนตรงนี้ แล้วจะประกาศถึงอำนาจที่ล้นมืออย่างนั้นสินะ!”

            “ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นแม้แต่น้อยขอรับ”

            “บิดาข้าเป็นท่านเจ้าเมือง อำนาจสิทธิ์ขาดอยู่ที่บิดาข้า เป็นแค่แม่ทัพบ้านนอกกล้าดียังไงมาอวดเบ่งอยู่ตรงนี้!”

            คำพูดอย่างคนที่ไม่รู้ลำดับฐานะในราชสำนัก ดังขึ้นจากด้านหลังของชาวเมืองที่มามุงดูเหตุการณ์ เรียกเสียงอื้ออึงขึ้นในทันที และนั่นก็คือคมดาบที่บุตรสาวสุดที่รักยื่นมาวางทาบบนคอของบิดาโดยแท้

            “นางมิได้เรียนหนังสือหรืออย่างไร อ่อ...ข้าลืมไป เป็นบุตรสาวเจ้าเมืองไม่ต้องเรียน เพราะทุกคำคือสิทธิ์อันชอบธรรมสินะ!”

            “รู้ดีนี่!”

            หญิงสาวผู้มาใหม่ก้าวมายืนเคียงข้างบิดา ใบหน้าแสนธรรมดานั้นเชิดขึ้นสูง ต่างจากพ่อแม่และพี่ชาย ที่ตอนนี้แทบสิ้นสติเสียให้ได้ เจียงฮูหยินพยายามกระตุกแขนเสื้อบุตรสาว เพื่อให้หยุดพูดแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล

            “ลี่เอ๋อร์เงียบปากเจ้าเดี๋ยวนี้”

            “ท่านพ่อจะกลัวอะไรกันเจ้าคะ ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ ท่านพ่อมีอำนาจมากที่สุดอยู่แล้ว สั่งโบยพวกมันเสียให้หลาบจำ”

            ท่านเจ้าเมืองลดสายตาลงมองมีดสั้น ซึ่งเหน็บอยู่ที่เอวของแม่ทัพสาว พร้อมกลืนน้ำลายหนืด ๆ ลงคอ ดาบสั้นนั้นคือตัวแทนของฮ่องเต้ ต่อให้เป็นเชื้อพระวงศ์ ยังไม่อาจเหิมเกริมต่อคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าตอนนี้ได้เลย

            “โบยพวกเขาจนกว่าข้าจะมีคำสั่งให้หยุด เห็นเรียกร้องกันเหลือเกินกับการโบย”

            “ท่านแม่ทัพโปรดอภัยให้ความมิรู้ของบุตรสาวข้าด้วยเถิด ข้าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายสองคนนี้เลยนะขอรับ”

            “รองแม่ทัพเจา ลำบากเจ้าแล้ว”

            “ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ ข้าจะเบามือให้มากขอรับ”

            ท่านเจ้าเมืองถึงกับเข่าทรุด เมื่อได้ยินคำพูดของแม่ทัพสาวและรองแม่ทัพ แค่ตำแหน่งแม่ทัพเขาก็ยากจะต่อกรแล้ว นี่ยังจะพกมีดสั้นพระราชทาน ที่ฮ่องเต้ทรงประกาศให้เป็นตัวแทนของพระองค์อีกเล่า

            “ท่านพ่อ ไยไม่ทำอันใดเลยเล่าเจ้าคะ”

            “หุบปาก! เพราะเจ้าแท้ ๆ ที่ทำให้เราทุกคนต้องตกที่นั่งลำบาก ไม่รู้แล้วยังอวดฉลาดอีก!”

            ท่านเจ้าเมืองด่าทอบุตรสาวอย่างเหลืออด เพราะเขาคิดว่ามีนายใหญ่คอยส่งเสริม จึงไม่คิดเผื่อถึงอำนาจที่เหนือกว่า สุดท้ายแล้วเขาก็พบเข้ากับคนผู้นั้นจนได้

            หยวนไป่หลิงก้าวไปนั่งลงที่เก้าอี้ ซึ่งหนึ่งในผู้ติดตามได้ยกออกมาวางหน้าประตู โดยไม่ลืมโต๊ะน้ำชา เพื่อให้ผู้เป็นนายไม่เหงาในช่วงเวลาที่คนจวนเจ้าเมืองถูกลงทัณฑ์

            ส่วนมู่อิงได้พาผู้เป็นลุงกลับเข้าบ้าน ยกเว้นเกาชุนหลางที่แม่ทัพสาวให้มานั่งอีกด้านของโต๊ะน้ำชา เพื่อมองสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งชายหนุ่มยังเรียกสติตนเองจากความจริง ที่เพิ่งรู้พร้อมกับทุกคนไม่ได้

            “ตำแหน่งของข้ากับทุกคน คืองานและหน้าที่ ส่วนคำว่าพี่น้องนั่นคือครอบครัว”

            แม่ทัพสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเนิบช้า นางไม่ได้อยากให้เกาชุนหลางรู้สึกสาแก่ใจที่มารดาถูกโบย แต่อยากให้เขามองถึงโทษของคนที่คิดอะไรน้อยเกินไป ทั้งยังให้ปากเป็นนายสมองเป็นพยาธิในอาจม

            “หลางเอ๋อร์ เจ้าจะใจร้ายปล่อยให้พวกเขาทุบตีแม่ไม่ได้นะ”

            เจียงฮูหยินพยายามดิ้นรนให้หลุดจากมือของทหาร เพื่อเข้าหาบุตรชายที่นั่งอยู่กับแม่ทัพหญิง ทว่าสายตาของชายหนุ่มกลับเย็นชาเสียอย่างนั้น เมื่อได้ยินคำว่ามารดาจากปากของคนที่เขาเคยรัก

            ชายหนุ่มถอดหน้ากากอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นรอยแผลเป็นบนใบหน้า ซึ่งเป็นเสมือนตราประทับของคำว่ามารดา ที่มอบแก่บุตรชายเยี่ยงเขาเมื่อนานมาแล้ว

            “บุตรชายของฮูหยินเช่นนั้นรึ! เขายังไม่ตายอีกหรือ ท่านแม่ทัพหากข้าเกาชุนหลาง อยากร้องขอความเป็นธรรมให้ตนเองจะยังได้อยู่หรือไม่ขอรับ”

            “ย่อมได้!”

            “บาดแผลบนใบหน้าของข้า หาได้เกิดเพราะความคะนองเยี่ยงบุรุษ ทว่ามันเกิดจากฝีมือของคนที่เรียกตนเองว่ามารดา ที่ยินยอมให้สามีของนางกระทำต่อข้าราวสัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งเท่านั้น วันนี้ข้าเกาชุนหลางจะร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม ต่อหน้าชาวเมือง”

            “ข้าในฐานะตัวแทนฮ่องเต้ รับคำร้องนี้”

Related chapters

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่10. ท่านเป็นใคร

    คำตอบรับของแม่ทัพสาว ราวสายฟ้าผ่าลงมากลางศีรษะของครอบครัวท่านเจ้าเมือง ในอดีตก่อนที่เขาจะเลื่อนตำแหน่ง ได้ทำทุกทางช่วงชิงภรรยาผู้อื่นมา ทั้งยังตั้งใจกำจัดสายเลือดของนางให้พ้นสายตา วันนี้คนทั้งคู่กลับมาพร้อมนำความแค้นมาทวงคืนต่อเขา “ใต้เท้าเจียงมีสิ่งใดอยากจะแก้ต่างหรือไม่” “ข้าไม่ได้ทำ! มันเพราะความมิรู้พอของนางต่างหาก” “ความผิดจะโยนไปมาเพื่อสิ่งใดกัน ไหน ๆ ข้าก็เลือกตัดสินท่านตรงนี้แล้ว ก็ทำเสียให้เสร็จสิ้นในทุกเรื่อง ส่วนเจียงฮูหยินรู้สึกเช่นไรบ้าง ผิดหวังมากกว่าเดิมอย่างที่ข้าเคยบอกหรือไม่” “ท่านแม่ทัพ ได้โปรดเมตตาด้วยเจ้าค่ะ ข้ากับลูกมิรู้เห็นในสิ่งที่สามีของข้าทำจริง ๆ นะเจ้าคะ” “หึ ๆ เรื่องของสามีเจ้าอาจไม่รู้เห็น หรืออาจร่วมมือ ข้าย่อมไม่อาจรู้เห็นภายในใจของเจ้าได้ แต่เรื่องที่กระทำต่อเกาชุนหลางข้าย่อมยากปล่อยผ่าน หากบาดแผลนี้อยู่บนใบหน้าของเจ้าหรือใครสักคนที่อยู่ตรงนี้ ตอบข้าได้หรือไม่ว่ายินดีมีมันไหม” ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเกาชุนหลาง รอยแผลเป็นนั้นยากนักที่ใครจะทำใจมองมันได้นาน เจียงฮูหยินทำได้เพ

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่11. รบกวนท่านแล้ว

    ที่ทำให้สกุลเจียงเดินเข้ามาหาพวกนางเอง โดยไม่ต้องเสียเวลาไปติดตามหรือทำให้อีกฝ่ายไหวตัวทัน หากจะถามว่าสาสน์ลับที่เจ้าเมืองเจียงได้รับมันผิดพลาดตรงไหน ย่อมไม่มีแม้แต่น้อย เพราะมันเป็นนางเองที่ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้นการลงทัณฑ์ท่านเจ้าเมือง นับเป็นเรื่องที่อุกอาจอยู่ไม่น้อย แต่เพราะแม่ทัพหญิงมีสิ่งแทนพระองค์ จึงทำได้โดยไร้คนขัดขวาง สิ่งที่นางทำมีทั้งผลดีและร้าย ทว่าผลร้ายนั้นก็คือสิ่งที่นางต้องการให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว จึงไม่ได้ตื่นตระหนกใด ๆเช้าวันถัดมาก่อนออกเดินทาง แม่ทัพสาวได้ให้นายอำเภอเป็นคนรักษาการแทน จนกว่าจะมีการส่งเจ้าเมืองคนใหม่มา ส่วนครอบครัวของท่านเจ้าเมืองถูกจองจำในคุก เพื่อรอให้ทางการจากเมืองหลวงมารับตัว นางไม่สะดวกพานักโทษไปด้วย หญิงสาวได้มอบหน้าที่ดูแลสกุลเกาให้เป็นของซือเส่าเกาชุนหลางสามารถที่จะพัฒนาตนเอง ให้ก้าวหน้าได้มิยาก ส่วนญาติสาวอีกสองคนของสกุลเกา เมื่อมีมลทินบนร่างกาย ย่อมเริ่มต้นยากหากจะแต่งสามีสักคนนางจึงเลือกที่จะให้พวกนางเดินบนเส้นทางการค้า หรือหากคนใดอยากทำอะไรก็ให้แจ้งมาในภายหลัง ภาระของนางกับมู่อิงยังมีอีกมาก จึงไม่อาจรั้งอยู่ได้นาน“ท่านแม่ทัพ สกุลเกาเป็นห

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่12.  จุดพักม้า

    นางจะไม่มีวันต้องกลายเป็นชายาที่ต้องถูกฝังในสุสาน ตามพระสวามีเป็นอันขาด ตำแหน่งต่อจากนี้คือไทเฮามารดาของฮ่องเต้องค์ใหม่เท่านั้น ในเมื่อพระสวามีลังเลที่จะมอบตำแหน่งนี้ให้แก่โอรสของนาง เกิดสิ่งใดขึ้นก็อย่าได้โทษนางเลย“การที่แม่ทำเช่นนี้ก็เพื่อความอยู่รอดของเราสามแม่ลูก ตอนนี้ลั่วหยางกลับมาอยู่เมืองหลวง เรายังทำอะไรเขาไม่ได้ แต่สิ่งที่แม่คิดไว้มิช้าก็สำเร็จ”“กระหม่อมเป็นโอรส จะมีสิ่งใดต้องกลัวเพียงหลาน”“หากเขามิใช่โอรสที่กำเนิดจากอดีตองค์รัชทายาท ที่ถือกำเนิดจากฮองเฮา มีหรือจะน่าหวาดหวั่นสำหรับการลงสนามครั้งนี้”“แค่เด็กปากมิสิ้นกลิ่นน้ำนม อ่อนแอไร้สามารถ จะมีขุนนางใดสนับสนุน”“คิดจะเป็นใหญ่ต้องรู้จักประเมินศัตรูในทุกทาง เพราะทุกสิ่งอย่างอาจไม่เป็นเช่นที่ตาเห็น”“พ่ะย่ะค่ะ”แม้จะไม่พอใจเท่าใดที่ถูกตำหนิต่อหน้าพี่ชาย แต่เขายังไม่ควรทำให้มารดาขุ่นเคืองมากไปกว่านี้ เขาไม่ได้โง่ที่จะมิรู้ว่าผู้เป็นแม่ต้องการกุมอำนาจเหนือเขา หลังจากก้าวสู่บัลลังก์การสนทนาของสามแม่ลูกมีอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่สองพี่น้องจะลาจากกลับไปยังจวนของตน สายตาที่มองตามแผ่นหลังของลูก ๆ บอกได้ถึงความหวาดหวั่นอยู่ภายในใจลึก

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่13. นับเป็นเรื่องน่ายินดี

    รองแม่ทัพสวนกลับด้วยคำถาม ที่ทำให้ชายหนุ่มทั้งห้าเงียบเสียงลง เพราะการที่บุรุษกำยำเอ่ยปกป้องสาวใช้ของท่านแม่ทัพ นั่นบอกได้ว่านางสำคัญไม่น้อยทีเดียว “คุณชาย...เอ่อ!” “เชียวหลาง” “คุณชายเชียว ฮูหยินเชียว นายท่านของข้าชิงเว่ยขอรับ” “ข้าชิงเว่ย ยินดีที่ได้รู้จักคุณชายเชียว ฮูหยินเชียว หวังว่าคงไม่เป็นการรบกวน ที่เชิญคุณชายและฮูหยินมาร่วมดื่มสุราด้วยกันสักกา” “นับเป็นเรื่องน่ายินดีขอรับ” สองหนุ่มสาวพากันนั่งลงตรงข้ามกับชิงเว่ย แค่เห็นแววตาของชายผู้อยากผูกสัมพันธ์กับว่าที่สามี แม่ทัพสาวก็อดไม่ได้ที่จะสบถอยู่ภายในใจ เพราะคนตรงหน้าหาใช่พ่อค้านักเดินทางโดยทั่วไปนับว่าโชคดียิ่งที่นางมาทัน หาไม่แล้วคงรู้สึกผิดไม่น้อย ที่เป็นต้นเหตุให้คนข้างกายได้รับอันตราย ต่อให้กั๋วเชียวหลางเก่งแค่ไหน มีหรือจะสู้นักล่าในป่าได้“ข้าขอเสียมารยาทถามได้หรือไม่ ว่าเหตุใดคุณชายกับฮูหยินไม่ได้มาที่นี่พร้อมกัน”“ข้ากลับไปเยี่ยมมารดา ส่วนสามีของข้าไม่สบายในช่วงที่ข้าออกเดินทาง เขาเลยมารอรับข้าที่นี่แทนเจ้าค่ะ”แม่ทัพสาวเอ่ยตอบ ก่อนจะยกถ้วยสุราขึ้นด

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่ 14. ยินดีที่จะไปหรือไม่

    “ไม่มีทาง” เป็นคำพูดสุดท้ายของกั๋วเชียวหลาง ก่อนที่ดวงตาและสติของเขาจะดับมืดไป แม่ทัพสาวล้วงเอาห่อผ้าสีเข้มออกมา เพียงเปิดออกเข็มจำนวนหลายเล่มเรียงรายอยู่หลายขนาด แม่ทัพสาวจัดการฝังเข็มให้แก่ชายหนุ่ม นางรู้ว่าเขามิได้อ่อนแอ แค่อยู่ในพื้นที่ของคนอื่น จึงทำให้เขาตกเป็นรองอีกฝ่าย แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม นางไม่อาจทอดทิ้งให้เขาตกที่นั่งลำบากได้ แม้เขาไม่ได้เต็มใจที่จะออกมารับนาง แต่เพราะนางอยู่ดีมิใช่หรือเขาถึงต้องเป็นเช่นนี้ยามค่ำคืนได้มาเยือน แม่ทัพสาวเหลียวมองไปยังคนที่หลับลึกอยู่บนเตียง เขาควรต้องได้รับการพักผ่อน ผิวที่เคยแดงก่ำเริ่มเป็นปกติแล้ว ลมหายใจที่ร้อนผ่าวกลับเป็นสม่ำเสมอนกในกรงทองเก่งแค่ไหนก็มิอาจเทียบนักล่า ที่ผ่านการดิ้นรนให้มีชีวิตรอดต่อโลกอันโหดร้ายได้ จากชีพจรของเขาบอกได้ว่ากั๋วเชียวหลาง เป็นยอดนักรบคนหนึ่งเลยทีเดียวแต่คนเราไม่มีใครเก่งไปทุกอย่าง เช่นนางที่เก่งกาจในการรบ และการปรุงยา ทว่างานบ้านงานเรือน ความเป็นสตรีนั้นหาได้มีแม้แต่น้อย สักเสี้ยวยังยากจะพบจากคนเยี่ยงนางเสียงพูดคุยกันด้านนอก มันอาจเบาราวกระซิบสำหรับพวกเขา แต่มิใช่กับน

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่15. ไม่มีอะไรมาก

    ยามสายริมลำธาร กั๋วเชียวหลางเดินลงจากรถม้า ด้วยอาการแตกตื่นเมื่อเขาลืมตาขึ้นมา รอบกายมิใช่ห้องนอนแต่เป็นรถม้า เกิดสิ่งใดกับเขากัน ไยถึงได้ไร้สติถึงเพียงนี้กัน“ตื่นแล้วล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย แล้วมากินข้าวเราต้องเร่งเข้าเมืองหลวงกันต่อ” แม่ทัพสาวเอ่ยขึ้นจากด้านหลัง“เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน แล้วรถม้านั่น!”“ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่มิอยากเสียเวลาไปมากกว่านี้”แม่ทัพสาวไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้มากความ ในเมื่อทุกคนปลอดภัยอย่างอื่นก็หาได้จำเป็นที่ต้องสาธยาย หนอนร้ายหายตัวไปตั้งแต่หัวค่ำ ป่านนี้คงใกล้เมืองหลวงเต็มทีแล้ว นางต้องการรู้ตัวคนชักใยเพื่อให้ง่ายต่อการรับมือกั๋วเชียวหลางได้แต่เดินไปกวักน้ำขึ้นล้างหน้า ก่อนจะกลับไปนั่งรวมกับคนของตน ที่ยื่นส่งห่ออาหารให้แก่เขา ชายหนุ่มรู้สึกหิวขึ้นมาในทันที เมื่อวานนี้เขาแทบไม่ได้กินอะไรเลย เพราะกลัวว่าเนื้อที่สั่งจะมิใช่เนื้อสัตว์“มันคือเนื้อแพะเค็มขอรับ”รองแม่ทัพเดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับชายหนุ่ม พร้อมไขความสงสัยให้แก่คุณชายกั๋ว เพราะจากที่เขาเห็นอีกฝ่ายเอาแต่จ้องห่อเนื้อ ก็รู้ว่าคงยังระแวงอยู่นั่นเอง“ขอบคุณ ข้ากลายเป็นภาระของพวกท่านจริงๆ”“อย่า

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่16  ดวงตาคู่คม

    สองเดือนต่อมา “นายหญิงน้อย!”ดวงตาคู่คมกำลังนั่งอ่านสาสน์ลับอยู่ พลันต้องละสายตา เมื่อเสียงของอู่หรงดังขึ้นจากด้านหน้าประตู แม่ทัพสาวลุกพรวดขึ้นในทันที เมื่อเห็นสภาพของอู่หรงถนัดตา“เกิดอะไรขึ้น!”“นายหญิงได้ถูกพิษเจ้าค่ะ”“มู่อิง! ทางนี้ให้เจ้าจัดการ ฮ้าวเฉิน เอากล่องยาแล้วตามข้ามาเร็วเข้า”แม่ทัพสาววิ่งตรงไปยังคอกม้าที่อยู่ท้ายจวน ก่อนที่นางจะตวัดสายตาไปยังพวกนกกระจอก ที่ไม่ยอมหลับนอนเอาแต่เฝ้าจับตานางมิรู้เหน็ดเหนื่อย“มิต้องห่วงทางนี้เจ้าค่ะ บ่าวจัดการเอง”มู่อิงกระชับดาบคู่ใจ พุ่งตรงไปยังเป้าหมาย โดยมีพ่อบ้านจวนแม่ทัพติดตามไปช่วยเหลือ แม่ทัพสาวพร้อมด้วยอู่หรงและฮ้าวเฉิน ต่างรีบขึ้นนั่งบนหลังม้า ควบออกไปอย่างรวดใช้เวลาไม่นานนัก ม้าได้หยุดลงยังหน้าจวนสกุลจ้าว แม่ทัพสาวเหวี่ยงกายลงจากหลังม้า ก่อนจะติดตามอู่หรงเข้าไปด้านในจวน โดยมีฮ้าวเฉินก้าวตามไปติดๆแม่ทัพสาวก้าวเข้าไปในห้องด้วยความร้อนใจ แม้ใบหน้าของนางจะยังคงเรียบนิ่ง ทว่าภายในใจนั้น แทบระเบิดออกมาด้วยโทสะอันพลุ่งพล่านหญิงสาวเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง โดยที่ยังไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา และดูเหมือนว่าที่พี่เขย ยังคงเรียกสติตน

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่17. ยึดมั่น

    หยวนไป่หลินอ่านความรู้สึกของว่าที่พี่เขยออก เขายึดมั่นว่าต้องแต่งกับคนที่ช่วยพ่อแม่ของเขา จนเกิดความสับสนในใจ นางเคยผ่านการมีรัก ย่อมมองออกว่าแม่ทัพจ้าว กำลังอยากสานสัมพันธ์อันดีต่อพี่สาวของนาง “ข้าขออภัย ที่คิดเช่นนั้น” แม่ทัพหนุ่มไม่คิดที่จะปฏิเสธในสิ่งที่หยวนไป่หลินพูด เขาเองก็สับสนว่าทำไมต้องใส่ใจเรื่องเล็กน้อยนี้ด้วย เพราะเขาตั้งใจแล้วว่าจะไม่แต่งงานกับหยวนไป่หลิง “ข้ามิอาจถือสาความคิดของท่านแม่ทัพได้ แต่ข้าอยากให้ท่านแม่ทัพถามใจตนเองให้ดี ก่อนจะตัดสินใจอะไรไป เพราะหนึ่งคำพูดอาจทำให้บางความรู้สึกขาดสะบั้นลง ชนิดที่ไม่สามารถสมานคืนได้เลย” “ข้ารู้แล้ว” “ท่านแม่ทัพกับพี่ใหญ่ โชคดีกว่าข้านัก ที่ยังได้ชิดใกล้กันก่อนตัดสิ้นใจว่าภายหน้าจะร่วมเดิน หรือแยกกันเดินคนละเส้นทาง แต่ข้าที่นั่งในตำแหน่งเท่าเทียมท่าน หาได้มีโอกาสเช่นนั้นไม่” แม่ทัพหนุ่มเหลียวมองหยวนไป่หลินอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มเนือย ๆ ให้หญิงสาว เขาอยากบอกนางยิ่งนัก ว่าคงมีเพียงเขาที่จับตาดูพี่สาวของนาง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น หยวนไป่หลิงไม่แม้แต่

Latest chapter

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่30. จบ.

    สิบวันต่อมา จวนสกุลกั๋ว หลังจากเรื่องวุ่นวายสิ้นสุดลง กว่าที่สองสามีภรรยาจะได้พบหน้ากัน ก็กินเวลาไปนับสิบวันเลยทีเดียว หมับ! กั๋วเชียวหลางคว้าร่างภรรยาเข้าสู่อ้อมแขน แม่ทัพสาวยังคงนิ่งงันด้วยมิคิดว่าเขาจะทำเช่นนี้ “คืนนี้เราจะไม่คุยเรื่องงาน ทั้งของเจ้าและข้า แต่จะเป็นเรื่องของเราเท่านั้น” ชายหนุ่มพูดชิดอยู่กับกลุ่มผมดกดำของภรรยา แม้ว่าใจของเขาจะแป้วไปมาก ด้วยนางยืนนิ่งในอ้อมกอดของเขา แต่ทว่ามิได้โอบรัดเขาตอบเลยแม้แต่น้อย “เรื่องไหน!” คำถามห้วนสั้นของนาง แทบจะทำให้กั๋วเชียวหลางหลั่งน้ำตา เขาอยากให้นางสัมผัสได้ถึงความรู้สึก ที่เขาพยายามถ่ายทอดให้แก่นางในตอนนี้ “เรื่องอนาคตของครอบครัวเราอย่างไรเล่า” “ว่ามาสิ!” แม่ทัพสาวมิใช่ไม่รู้ว่าตอนนี้ สามีของนางกำลังต้องการสื่อถึงอะไร หากนางไร้ความทรงจำในอีกโลก อาจยังไม่รู้ประสากับความรัก แต่เพราะนางเคยมีมันมาก่อนแล้ว จึงรู้ว่าตอนนี้สามี กำลังรู้สึกเยี่ยงไรต่อนาง “อื้อ!” ไม่มีคำพูดใดนอกจากเสียงครางเบา ๆ เมื่อริมฝีปากหนาประกบลงบนเรี

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่29. เป็นหน้าที่

    จ้าวลู่เชียนไม่คิดเอ่ยถามหาความกระจ่างแล้ว สิ่งที่ผู้คนมากมายต้องการรู้ เขาก็ได้เห็นชัดแก่สายตาแล้ว ว่าใครคือนายแห่งวิหกฟ้า หยวนไป่หลิงรีบเดินเข้าไปหามารดา ก่อนจะสวมกอดเอาไว้แน่น นางอยู่กับแม่มากกว่าน้องสาวและพี่ชาย ตอนที่เห็นคมมีดกดลงใบบนผิวอ่อนนุ่มของมารดา นางแทบอยากจะฉีกสตรีผู้นั้นออกเป็นชิ้น ๆ เสียในทันที “เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย แม่ดีใจเหลือเกิน” “จะมาเมืองหลวงไยมิรอข้าก่อน” “เป็นพี่เองที่อยากมาดูหน้าน้องเขย ท่านแม่เลยติดตามมาด้วยเพราะพี่จะทำตัวมุทะลุ” “ข้านึกว่าพี่เฟยจะคอยออกรับแทนข้ากับหลินเอ๋อร์เท่านั้น แล้วไยวันนี้ท่านกลับออกรับแทนท่านแม่เสียได้” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดกับพี่ชาย แน่นอนว่าเฟยไม่อาจต้านทานอาการนี้ของน้อง ๆ ได้ จึงทำเพียงยิ้มแห้ง ๆ แก้เก้อ ก่อนจะมองไปที่ผู้เป็นแม่ “แม่เรียกพี่ชายเจ้ามา เพื่อเข้าเมืองหลวงเอง เจ้ารู้นิสัยของหลินเอ๋อร์ดีมิใช่หรือ ไม่มีเจ้าอยู่ด้วย แม่เกรงนางจะทำให้ตนเองไม่สบายใจไปชั่วชีวิต” เมื่อพูดถึงตรงนี้ สายตาคู่งามก็หันมองไปยั

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่28. สารเลว!

    “สิ่งใดเช่นนั้นรึพ่ะย่ะค่ะ ทรงเห็นความดีของข้าบ้างไหม หรือคิดแค่ว่าตัวข้าอ่อนแอไร้สามารถ ตำแหน่งที่คู่ควรจึงไม่คิดจะมอบให้” “ความดีอย่างนั้นเหรอ เจ้าเห็นข้าเป็นลารึยังไง เจ้าคิดว่าพ่ออย่างข้ามองลูกตัวเองไม่ออกสักคนเลยรึ! เจ้าฆ่าพี่ชายหวังชิงตำแหน่ง หาหนส่งหลานตัวเองไปตายใต้คมดาบศัตรู แม้แต่พี่สาวน้องสาวที่มิอาจครองบัลลังก์ ก็เป็นเจ้าที่ทำให้พวกนางต้องแต่งไปแคว้นอื่น ไยมิเอาความฉลาดของเจ้าช่วยเหลือบ้านเมืองของเราให้รุ่งเรือง” “เพราะข้าอยากนั่งแทนที่ท่านอย่างไรเล่า!” ลั่วเจี๋ยกวาดสายตามองศัตรู ที่ซ้อนแผนเขาได้อย่างแนบเนียน ถึงว่าทำไมบิดายอมทำตามคำของมารดาง่ายดายเช่นนั้น ไม่ว่าจะเรื่องแต่งงานของกั๋วเชียวหลางและหยวนไป่หลิน แม้แต่การส่งลั่วหยางไปชายแดน ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นกับดักที่วางเอาไว้ แค่รอเขาวิ่งมาติดกับ แต่ไม่ว่ายังไงวันนี้ เขาเท่านั้นที่จะกลายเป็นฮ่องเต้คนใหม่ ที่ไร้มลทินจากคำว่ากบฏ “คิดว่าจะมีใครรอดออกจากประตูวังหลวงไปได้อย่างนั้นรึ!” “หากจะรอกองกำลังที่ท่านอาเตรียมการไว้นั้น อย่ารอเลยพ่ะย่ะค่ะ เพ

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่27. เข้าใจแล้วว่า...

    “มุทะลุได้ใจดีองค์ชายเจ็ด” แม่ทัพสาวก้าวเข้ามายืนขวางระหว่างผู้เป็นนาย กับสองแม่ลูกที่หมายช่วงชิงอำนาจ “ข้าอยากรู้นัก ที่ผู้คนยำเกรงเจ้าที่มากด้วยฝีมือ จะเอาชีวิตรอดจากตรงนี้ไปได้ไหม” ลั่วเจี้ยนวาดแขนกันมารดาให้ไปอยู่เบื้องหลังของตนเอง ก่อนจะพุ่งเข้าหาแม่ทัพหญิง เขาชิงชังสตรีที่คิดว่าตนเองเทียบเท่าบุรุษยิ่งนัก หยวนไป่หลินยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะขยับเท้าเข้าหาองค์ชายเจ็ดการต่อสู้ของผู้ที่อยากนั่งบัลลังก์กับผู้พิทักษ์บัลลังก์ เป็นไปอย่างดุเดือด เสียงอาวุธกระทบกันดังขึ้นรอบด้าน แผนการที่วางไว้ พลันต้องเปลี่ยนแปลงไป เพราะความคับแค้นใจของหญิงสาวผู้หนึ่ง ที่ทนนิ่งเงียบเพื่อรอวันนี้ ชูเยี่ยนมองหน้ามารดาด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ นางคิดเสมอว่าตนเองเหนือกว่าใคร ๆ แต่วันนี้นางเห็นชัดเจนแล้ว ว่าชาติกำเนิดไม่ได้การรันตีว่านางคือที่หนึ่ง ที่ผ่านมานางเสมือนเงา ไม่เคยมีตัวตนในสายตาของชายคนรัก เป็นนางเองที่พยายามจะไขว่คว้า ทว่าอีกฝ่ายกลับหวังเพียงผลประโยชน์เท่านั้น “ท่านแม่ ข้าเข้าใจแล้วว่ามารดาที่อุ้มท้องลูก โดยบุรุษไม่ยอมรั

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่26. ณ วังหลวง

    “พี่ชายของข้า รู้จักเพียงการปกป้องครอบครัว”แม่ทัพสาวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มอันอ่อนโยน ชีวิตของคนอื่นอาจราบรื่นเพราะร่ำรวย แต่ชีวิตของลูกหญิงหม้ายนั้นล้วนต้องต่อสู้ การที่พี่ชายบุญธรรมไม่ค่อยแสดงตัว มิใช่เขาถูกลืม แต่เพราะเขาเลือกทำหน้าที่เป็นปีกที่กางปกป้องครอบครัวอยู่เบื้องหลัง เขาคือเงาที่ไม่เคยหายไปไหน แค่ไม่ชื่นชอบเปิดเผยตัวก็เท่านั้น“ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไม การค้าของมวลเมฆาถึงมั่นคงนัก”“การให้ใจคนใช่ว่าเราจะได้ใจตอบแทนเสมอ ทุกอย่างล้วนเสี่ยงทั้งสิ้น”“วันนี้เจ้าเหนื่อยมากแล้ว เราเข้านอนกันเถอะ”กั๋วเชียวหลางจูงมือภรรยาเข้าเรือน เขาไม่สนว่าตอนนี้จะมีสายตาของศัตรูคนไหนซุ่มมองอยู่ เพราะอีกไม่กี่วันทุกอย่างก็จะต้องจบสิ้น มิว่าจะเป็นฝ่ายไหนกำชัย ขอแค่เวลาที่ยังเหลืออยู่ในตอนนี้ เขาได้ใช้มันให้คุ้มค่าก็ดีมากแล้วสิบห้าวันต่อมา วังหลวง เสียงดนตรีดังก้องไปทั้งลานหน้าท้องพระโรง เพื่อเฉลิมฉลองสำหรับงานอภิเษกสมรสขององค์ชายเจ็ด แขกจากต่างเมืองที่มาถึงก่อนหน้า ได้เข้าร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง พระนางกุ้ยเฟยคลี่ยิ้มกว้าง เมื่อเห็นโอรสคนโปรด กำลังจะก้าวสู่อำน

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่25.  คิดจะหลอกลวง

    ชูถงมองหน้าชายหนุ่ม ที่อ้างตัวเป็นบุตรชายคนโตของอดีตภรรยา ความสับสนเกิดขึ้นมาในทันที หากเป็นคู่แฝดอายุของพวกนาง คือลูกของเขาอย่างแน่นอน แต่ชายหนุ่มตรงหน้าย่อมไม่ใช่บุตรชายของเขา ด้วยวัยที่มันเกินจากที่เขาคิดคำนวณ“เจ้าคิดจะหลอกลวงข้าสินะ!”“ข้ามีนามว่าหยวนเฟย ท่านจะถามใครในเมืองหน้าด่านชายแดนตะวันออกก็ได้ ทุกคนรู้หมดว่าข้าคือบุตรชายคนโตของนายหญิงใหญ่หยวนไป่หลี”“หากเจ้าเป็นบุตรชายของนางจริง ไยจึงได้ยินยอมให้น้องสาวออกเรือนก่อนได้เล่า”“การออกเรือนก่อนหลังมันจะเป็นอะไรไป ในเมื่อข้าพอใจที่จะอยู่แบบนี้ ไยข้าต้องรั้งชีวิตน้อง ๆ ไว้กับตัวเอง เพียงเพราะข้ายังไม่ออกเรือน แล้วอีกอย่างท่านรู้ได้อย่างไร ว่าข้ายังไม่ออกเรือน เป็นเห็บเกาะตัวข้าอยู่รึ! รู้จักกันหรือก็มิเคย ยังมาสู่รู้เรื่องครอบครัวคนอื่นอยู่อีก”กั๋วเชียวหลางที่เดินมาตามภรรยา ได้แต่กลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ เมื่อได้ยินฝีปากของหยวนเฟย เขาต้องทำตัวให้คุ้นชินกับคำเลาะร้ายของคนสกุลนี้ให้มากกว่าเดิม“ท่านเสนาบดี มาทำอะไรที่นี่หรือขอรับ ข้าไม่เห็นมีบ่าวมารายงานเลยว่าท่านมาเยือนกลางดึก”“ข้ามาทักทายคนรู้จัก”“ใครกันที่ท่านรู้จัก”กั๋วเชียว

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่24.  ไม่สงบ

    “ป้าจูเสร็จธุระของนางแล้ว เราก็เร่งออกเดินทางเข้าเมืองหลวงกันเถอะ หากค่ำมืดจะทำให้ท่านแม่ทัพของเจ้าเป็นกังวล” “เจ้าค่ะ” สาวใช้สูงวัยรีบก้าวขึ้นรถม้า ส่วนหยวนเฟยและมู่อิง ต่างแยกย้ายไปที่ม้าของตนเอง คณะเดินทางเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนร่างที่นอนเกลื่อนอยู่เบื้องหลังสองชั่วยามต่อมา ก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า รถม้าจากเมืองหยางได้มาถึงหน้าจวนสกุลหยวน แม่ทัพสาวพร้อมด้วยสามี ยืนยิ้มกว้างเมื่อเห็นทุกคนมาถึงอย่างปลอดภัย “หยวนเฟยคารวะ คุณชายกั๋ว” กั๋วเชียวหลาง ค้อมศีรษะรับการคารวะจากชายหนุ่ม ผู้ที่ใช้แซ่เดียวกับภรรยา “พี่เฟยการเดินทางเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ มีใครดื้อรั้นหรือไม่” “ย่อมไม่มี” “ท่านพี่ นี่คือท่านพี่หยวนเฟย หัวหน้ามวลเมฆา และเขายังเป็นพี่ชายคนโตของเราสองพี่น้อง ส่วนประวัติใดนั้นคืนนี้ท่านก็ถามเขาด้วยตนเองเถิด” “เมืองหลวงยินดีต้อนรับ ท่านพี่เฟย” “พี่น้องทักทายกันจนลืมคนแก่ไปเสียแล้วกระมัง” ประตูรถม้าเปิดออก กั๋วเชียวหลางรีบก้าวยาว ๆ

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่23.  ได้ความว่าอย่างไร

    จวนสกุลชู “ได้ความว่าอย่างไร” “ความเป็นมาของคุณหนูหยวนและท่านแม่ทัพหยวน ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้กันดีขอรับ แต่มีเรื่องที่ข้าน้อยเพิ่งรู้มา” “เรื่องอะไร” “มารดาของท่านแม่ทัพหยวนจะมาถึงเมืองหลวง ในอีกไม่กี่ชั่วยามขอรับ” “จับตาดูคนของนางให้ดี มารดาของนางคือคำตอบที่ชัดเจน” “ขอรับ” ชูถงขบกรามแน่น เขาใช้เวลากว่าสองเดือนเพื่อหาความเป็นมาของสองพี่น้อง แต่มันเหมือนปริศนาที่ซับซ้อน ได้พบนางด้วยตนเองก็ดี จะได้รู้ไปเลยว่าใช่อดีตภรรยาของเขาหรือไม่ เขาไม่อยากจะเชื่อว่านางจะรอดชีวิตมาได้ ความอดอยากสำหรับสตรีตัวคนเดียว มันเป็นไปได้ยากนักที่จะพาตนเองก้าวมาอยู่เหนือผู้คนได้เช่นนี้ ต้วนอี้เหยาหันไปสบตากับสาวใช้คนสนิท ก่อนที่ทั้งคู่จะจากไป ในเมื่อศัตรูเดินเข้ามาหานางเอง ก็ไม่สมควรให้รอดไปได้ นางไม่สนว่าคนที่กำลังเดินทางมาเมืองหลวง จะใช่สตรีผู้นั้นหรือไม่ คนตายเท่านั้นที่จะไม่มาก่อกวนครอบครัวของนางได้ “อย่าให้พลาดเป็นอันขาด” “เจ้าค่ะ”เส้นทางสู่เมืองหลวง ทิศตะวันตก

  • ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก   ตอนที่22. ณ วังหลวง

    เช้าวันถัดมา ณ วังหลวง ฮ่องเต้ถึงกับใบหน้าซีดเผือด เมื่อม้าเร็วเข้ามาส่งข่าว เหล่าขุนนางที่เข้าร่วมประชุม อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงอื้ออึง เมื่อข่าวการตายของแม่ทัพจ้าวและคู่หมั้น ส่วนท่านชายลั่วนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ยากจะบอกได้ว่าจะรอดชีวิตถึงเมืองหลวงหรือไม่ “ทูลฝ่าบาท แม่ทัพจ้าวเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จนทำให้ท่านชายและอาคันตุกะของแคว้นเยี่ยได้รับบาดเจ็บ นับว่ามีใจคิดคดต่อแผ่นดิน” หนึ่งในขุนนางใหญ่กราบทูลแก่ฮ่องเต้ ถ้อยคำที่พูดออกมาทำให้ท่านมหาอำมาตย์ถึงกับใบหน้าแดงก่ำด้วยโทสะ “ข้าอยากรอฟังข้อเท็จจริงจากคนที่ร่วมคณะไปด้วย” “จะทรงรอได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อคนที่รอดล้วนเป็นคนของสกุลจ้าว” คำพูดของขุนนางผู้นั้นเจาะจงไปที่จ้าวลู่เหลียน ซึ่งมีรายงานว่านางรอดชีวิตกลับมาพร้อมคณะเดินทาง แม้จะบาดเจ็ดจากการต่อสู้ ย่อมเชื่อถืออันใดไม่ได้เพราะพี่น้องต้องเข้าข้างกันอยู่ดี “ท่านกล้าดีเยี่ยงไรมาปรักปรำว่าบุตรชายของข้าคิดคด” “แค่สตรีเพียงคนเดียว ถึงกับประมือกับแขกของบ้านเมือง นี่เขาคิดว่าตนเองเป็นใครกัน”

DMCA.com Protection Status