“ฮ่าๆๆ..ต้องอย่างนี้สิ”
ธีรธรยกขวดไวน์ราคาแพงเทใส่แก้วที่หญิงสาวยื่นมาให้พอประมาณ
“....เอ่อ...ก็รสชาติดีแฮะ..”
นิชาสูดดมกลิ่นของไวน์แล้วค่อยๆจิบเมื่อไวน์สัมผัสกับลิ้นของเธอหญิงสาวรู้สึกชอบรสชาติแบบนี้มากถึงกับตาโตเลยทีเดียว
“อีกไหมคุณ..”
ธีรธรเห็นว่าหญิงสาวน่าจะชอบเพราะเธอเล่นดื่มทีเดียวจะหมดแก้วเลยจึงยื่นจะเทไวน์ในขวดให้เธออีก
“อืมม...”
นิชาพยักหน้ารับพร้อมยื่นแก้วให้กับชายหนุ่มเธอไม่คิดว่าของแบบนี้มันจะอร่อยได้เหมือนกัน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
“คุณ..ไหวหรือเปล่า..เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน”
ธีรธรเห็นหญิงสาวดื่มเข้าไปหลายแก้วอยู่เหมือนกันจนตอนนี้เธอนั้นเริ่มที่จะนั่งอึนหน้าแดงตาเยิ้มอย่างเห็นได้ชัดเขาเลยคิดว่าคงจะต้องเป็นเขาแล้วที่พาเธอไปส่งที่บ้านหากขับรถกลับเองคงไม่ดีแน่
ชายหนุ่มเข้าไปพยุงตัวของหญิงสาวโดยใช้แขนอีกข้างที่ยังใช้การได้อยู่ตัวเธอเล็กกว่าเขมากจึงใช้แขนข้างเดียวหิ้วขึ้นมาให้ลุกขึ้นได้อย่างสบาย
“อย่ามาแตะตัวฉันนะ...คุณมันจอมเจ้าชู้ใครอยู่ใกล้ก็อันตราย”
นิชากำลังอยู่ในอาการมึนเมาตอนนี้สติเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วเมื่อมองเห็นคนที่กำลังถึงเนื้อถึงตัวกับเธออยู่ก็รีบผละออกแถมยังต่อว่าอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงมึนเมาอีกด้วย
“อะไรของคุณเนี่ย.”
ธีรธรถึงกับงงก่อนหน้านี้ยังคุยกับเขาดีอยู่เลยพอมาตอนนี้กลับมาต่อว่าเขาเสียอย่างนั้นพร้อมใช้แขนของเขารวบตัวหญิงสาวที่ผละตัวออกไปกลับมาที่เอวเหมือนเดิม
“ปล่อย..ปล่อย..ไม่ปล่อยใช่ไหม”
นิชายังพยายามสะบัดตัวออกแต่คราวนี้เธอโดนเขารัดเอาไว้แน่นเกินเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆจึงหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วจี้ไปที่เอวของชายหนุ่ม
“อื้อ..เฮ้ยยยยย...”
ธีรธรถึงกับสะดุ้งโหยงที่หญิงสาวนั้นหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้ามาจี้เขาแต่ก็ยังไม่ได้ปล่อยหญิงสาว
“นี่แน่ะ..หึ่ๆ..สมน้ำหน้า..สลบเลย..อิๆๆ..มาทับฉันทำไมเนี่ยย”
"โอ้ยยยย"
ในเมื่อชายหนุ่มสลัดยากนักเธอก็ยื่นมือสูงขึ้นแล้วจี้ไปที่ปลายคางของเขาจนชายหนุ่มสลบล้มลงทับตัวของเธออยู่กลางพื้นหญิงสาวพยายามใช้มือผลักชายหนุ่มที่ตัวหนักอย่างกับควายออกแต่ก็ไม่สำเร็จเธอเองก็เกิดอาการมึนเมื่อได้นอนกับพื้นแล้วเธอก็แล้วหลับไปเช่นกัน
วันต่อมา
08.30 น.
“อ้าววันนี้ไม่ได้ไปดูคุณคิณเหรอนิ”
หนามเตยเห็นณดาเข้ามาที่ทำงานแต่เช้าเธอคิดว่าเพื่อนเธอจะไปเฝ้าอคิณเสียอีก
“ไม่หรอก..เอ่อ..แล้วนิล่ะ”
ณดาส่ายหัวไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนเธอมากมายว่าทำไมไม่ได้ไปพร้อมเปลี่ยนเรื่องถามหานิชาทันทีเพราะปกติเห็นจะออกมานั่งที่จุดเชคอินของที่นี่แต่เช้าเพื่อจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆในการทำงาน
“ยังไม่เห็นมานะ...”
หนามเตยส่ายหัวหงึกหงักเธอก็ไม่เห็นนิชาเหมือนกันตั้งแต่เข้ามาที่นี่
“หนูเตยหนูนิด”
“อ้าวคุณย่าสวัสดีค่ะ..มาถึงที่นี่มีอะไรหรือเปล่าคะ”
หนามเตยและณดาหันไปสวัสดีคุณย่าน้อยที่เป็นคุณยาของนิชาสองสาวต่างก็แปลกใจว่าคุณย่าน้อยมาทำอะไรที่นี่เพราะปกติแล้วย่าน้อยไม่ค่อยได้ออกไปไหนเพราะไปไหนไม่ค่อยจะไหว
“ก็เมื่อคืนน่ะสิย่าเห็นนิไม่กลับบ้านแถมติดต่อไม่ได้ก็เลยให้คนข้างบ้านขับรถมาส่งจะมาถามพวกหนูว่านิอยู่ที่นี่หรือเปล่า”
“เปล่านะคะคุณย่า...”
หนามเตยรู้สึกว่ามันแปลกๆแล้วเพราะปกตินิชาไม่เคยปล่อยให้ย่าน้อยอยู่คนเดียวโดยไม่บอกไม่กล่าวเธอชักใจไม่ดีเสียแล้วสิ
“อ้าว..แล้วไปอยู่ไหนกันเจ้าหลานคนนี้เป็นผู้หญิงจะไปไหนมาไหนไม่บอกไม่กล่าวกันเสียเลย”
ย่าน้อยเองก็หน้าเสียเหมือนกันเมื่อรู้ว่าหลานเธอไม่ได้อยู่ที่ทำงานแถมบ้านก็ยังไม่กลับติดต่อก็ไม่ได้อีกต่างหาก
“เมื่อวานนิไปที่บ้านคุณธรนี่นา”
หนามเตยนึกขึ้นได้ที่สุดท้ายที่นิชาบอกกับเธอก่อนจะกลับว่าจะไปเยี่ยมธีรธร
“เมื่อวานนิไปไหนพาย่าไปหาหน่อย”
ย่าน้อยคิดว่าหากจะตามหลานสาวของเธอกลับมาได้คงต้องเริ่มตามจากที่สุดท้ายที่หนามเตยนั้นรู้ว่านิชาไป
“เอ่อ..เดี๋ยวคุณย่ารออยู่ที่นี่ก็ได้ค่ะเดี๋ยวนิดไปตามหาให้นะคะ”
ณดารู้ว่าย่าน้อยเป็นคนที่ค่อนข้างจะเจ้าระเบียบและซีเรียสไปเสียทุกเรื่องหากเจอเพื่อเธอที่บ้านธีรธรนิชาคงโดนย่าน้อยบ่นเละเป็นแน่จึงพูดให้ย่าน้อยรออยู่ที่นี่จะดีกว่าหากได้เรื่องยังไงเธอจะกลับมาบอกเอง
“ไม่เป็นไรย่าไปด้วยย่าเป็นห่วงนิ”
ย่าน้อยยืนยันว่าเธอจะไปด้วยเพราะเธอเป็นห่วงนิชาไม่อยากนั่งรอใจจดใจจ่อโดยไม่รู้สถานการณ์อยู่ที่นี่
“เอ่อ...ไปก็ไปค่ะ”
ณดามองหน้าหนามเตยเพื่อขอความเห็นแต่เมื่อเห็นเพื่อนเธอทำหน้าลำบากใจก็คงจะต้องพาย่าน้อยไปด้วยเพราะเวลานี้คงห้ามอะไรย่าน้อยไม่ได้
30 นาทีต่อมา
“ว้ายทำไมพ่อเลี้ยงกับคุณนิมานอนอยู่ตรงนี้ล่ะป้า”
“ฉันก็พึ่งมาถึงพร้อมเธอจะรู้ได้ยังไงล่ะ”
แม่บ้านที่ทำความสะอาดบ้านทั้งสองกำลังยืนมองธีรธรกับนิชาที่นอนหลับกันอยู่กลางบ้านพวกเธอไม่รู้ว่าทำไมทั้งสองจึงมานอนอยู่ตรงนี้แถมสายโด่งจนพวกเธอได้เวลาเข้ามาทำความสะอาดแล้วยังไม่ลุกกันอีกแถมธีรธรก็อยู่ในสภาพที่ไม่ได้ใส่เสื้อทำให้พวกเธอทั้งสองคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากทั้งสองคงทำอะไรกันเมื่อคืนตรงนี้เป็นแน่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะไม่อยากจะนินทาเรื่องของเจ้านาย
“เอ่อ..ขอโทษนะคะคุณธรอยู่ไหมคะ..”ณดาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับย่าน้อยเมื่อเธอเห็นแม่บ้านสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่จึงส่งเสียงทักถามหาธีรธรว่าอยู่หรือเปล่า“เอ่อ..คือ..นี่ค่ะ”แม่บ้านสองคนหันกลับมาหาหญิงสาวพร้อมแยกตัวออกจากกันและชี้ไปที่คนที่หญิงสาวกำลังถามหา“นิ..”“ยัยนิ..ตายๆ..ย่าจะเป็นลม”ภาพของทั้งสองปรากฏต่อสายตาของณดาและย่าน้อยทำเอาทั้งคู่อึ้งกันไปตามๆกันย่าน้อยเองเห็นภาพนั้นก็แทบเป็นลมในหัวคิดไปในทางที่ไม่ดีไปแล้วเพราะภาพตรงหน้ามันยากมากที่จะทำให้เธอคิดเป็นอื่นเธอแทบจะเป็นลมล้มพับดีที่ณดาประคองเธอนั่งลงก่อน“คุณย่าคะ..คุณย่านั่งก่อนค่ะ”ณดารีบประคองย่าน้อยนั่งลงที่โซฟาเพราะดูท่าย่าน้อยนั้นน่าจะยืนไม่ไหวเธอพยายามคิดในแง่ดีว่านิชาคงจะมีคำตอบให้ย่าน้อยได้สบายใจ“เดี๋ยวหนูไปเอายาดมมาให้นะคะ”แม่บ้านเห็นว่าหญิงชราจะเป็นลมจึงรีบวิ่งไปเอายาดมมาให้“ขอบคุณค่ะ”“อื้มม..อืออ...หนักจังเลยอะไรเนี่ย..เห้ยยย”นิชางัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายแถมพอเธอจะลุกยังรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆมาทับที่ตัวของเธอเอาไว้อีกด้วยเมื่อเห็นว่าเป็นอะไรทับเธออยู่จึงรีบผละตัวออกทันที“อืม..คุณ..”ธีรธรเมื่อร
20.30 น.“คุณแม่ขาเมื่อไรคุณพ่อจะหายคะ”เด็กหญิงนอนตักคุณแม่ของเธอในใจแอบคิดถึงพ่อของเธออยากจะให้กลับมาอยู่ด้วยกันเร็วๆจึงเอ่ยถามคนเป็นแม่ถึงอาการของพ่อเธอว่าเมื่อไรจะหาย“อืม...คุณพ่อยังต้องรักษาอีกนานเลยค่ะเพราะคุณพ่อเป็นแผลใหญ่”ณดาก้มลงมายิ้มให้ลูกสาวของเธอพร้อมบอกเหตุผลว่าทำไมพ่อของเธอถึงยังไม่หาย“นีน่าสงสารคุณพ่อจังเลยค่ะ”เด็กหญิงพูดถึงคนเป็นพ่อตาละห้อย“..นอนได้หรือยังคะคนเก่ง..”ณดากลัวว่านีน่าจะถามคำถามที่เธอไม่อยากตอบจึงหาเรื่องกล่อมให้ลูกเธอนอนจะดีกว่า“คุณพ่อหายแล้วจะกลับมาอยู่กับนีน่าไหมคะ”เด็กหญิงถามคนเป็นแม่ด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา“อืม..แล้วถ้าคุณพ่อไม่กลับมาอยู่กับนีน่าล่ะคะ”และเรื่องที่เธอกลัวก็เกิดจนได้...หญิงสาวลองเชิงถามลูกสาวของเธอถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเธออยากจะรู้ว่าลูกเธอจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดพ่อของเจ้าตัวจะไม่อยู่ด้วย“อ้าวทำไมล่ะคะ”นีน่าคิ้วขมวดเล็กน้อยกับคำถามของแม่เธอ“ถ้าแบบคุณพ่อต้องกลับไปทำงานแล้วมาหามาอยู่กับนีน่าไม่ได้นีน่าอยู่กับแม่สองคนได้ไหมคะ”ณดากลั้นใจถามคำถามนี้กับลูกของเธอจะได้รู้กันไปเลยว่าลูกสาวของเธอจะเป็นอย่างไรจะได้ตั้งรับเอาไว้ก่
“ฉันว่าแล้ว..ฉันไม่ได้อยากก้าวก่ายอะไรคุณหรอกนะคะแต่คุณพอจะบอกปัญหาได้ไหมเผื่อฉันจะมีทางช่วยเพราะถ้าให้ฉันไปถามนิดถามให้ตายนิดก็ไม่ตอบหรอกค่ะ”หนามเตยคิดเอาไว้ไม่ผิดดีที่เขาตัดสินใจถามอคิณไม่อย่างนั้นรอเพื่อนเธอบอกให้ตายก็คงจะไม่บอกเธออยู่ดีที่เธอทำแบบนี้เพราะอยากช่วยทั้งสองและเห็นแก่นีน่าหลานของเธอกลัวว่าพ่อกับแม่หลานเธอจะมาแยกทางกันอีก“ผมว่าถ้าคุณรู้ปัญหาก็คงจะไม่อยากช่วยผมแน่ๆ..”อคิณคิดว่าหากหนามเตยรู้เรื่องเธอคงจะไม่อยากช่วยเขาเหมือนที่พูดตอนนี้เป็นแน่เพราะเขาและณดาไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องนิดๆหน่อยๆ“ทำไมคะหรือว่า..คุณมีคนอื่น”หนามเตยคิดว่ามันจะมีอะไรที่ทำให้เธอไม่อยากช่วยให้ทั้งสองคืนดีกันนอกเสียจากว่าชายหนุ่มมีคนอื่น“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ..คือผมเคยทำร้ายนิดมาก่อน”อคิณรีบส่ายหัวเรื่องนั้นเขาไม่มีให้เป็นปัญหา..และเขาก็ตอบถึงปัญหาที่เขามีด้วยเสียงอ่อนลงอีกด้วยยังไม่แน่ใจว่าจะเล่าให้หญิงสาวฟังดีหรือไม่“หืมม...”หนามเตยยิ่งฟังเธอก็ยิ่งสงสัย“ผม...”อคิณตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หนามเตยฟังเพราะตอนนี้เขาก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วเขาทำผิดก็ต้องยอมรับผิด“หา..ทั้งหมดนี่ฝีมือคุณ...”หนาม
“พอดีผมไม่ชินทาง”เตชินพูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรเขาเองก็ไม่ได้อยากจะให้มันเกิดแค่เขาไม่ค่อยชินทางเท่านั้นเองอีกทางทางที่นี่ก็คดเคี้ยวไปมาทำให้มองไม่ค่อยจะเห็นรถคันอื่น“มีประกันกับมีใบขับขี่หรือเปล่าคุณน่ะ”หนามเตยอยากจะให้ชายหนุ่มเรียกประกันของเขามาจะได้เคลียให้จบๆไป“เอาเป็นว่าคุณต้องการค่าเสียหายเท่าไรว่ามาเลย”เตชินคิดว่าการพูดแบบนี้หญิงสาวน่าจะต้องการเงินเท่าที่เขาเคยเจอมาเพราะหากถามหาประกันกับใบขับขี่เขาพึ่งกลับมาจะมีได้อย่างไรประกันรถพี่ชายของเขาก็น่าจะไม่ได้ต่ออะไรเพราะรถคันนี้ไม่ได้ใช้นานแล้วและเขาเองก็อยากกลับมาที่นี่กะทันหันด้วย“นี่คุณ...ฉันถามว่ามีใบขับขี่หรือเปล่าไม่ใช่ให้คุณมาเอาเงินฟาดหน้าฉัน”หนามเตยถึงกับลมออกหูเธอถามหาประกันกับใบขับขี่ชายหนุ่มแต่อีกฝ่ายดันมาหาว่าเธออยากจะได้เงินเสียอย่างนั้น“ไม่มี..”เตชินตอบหญิงสาวไปตามตรงแบบหน้าตาเฉยพร้อมยืนพิงรถกดมือถือเล่นอย่างสบายอารมณ์“ประกันล่ะ..”หนามเตยเห็นพฤติกรรมของอีกฝ่ายช่างดูไม่มีมารยาทเอาเสียเลยเธอยังคงถามหาประกันต่อเพราะถ้าหากเขามีจะได้ให้ประกันของเขากับของเธอมาตกลงกัน“ไม่รู้คั
“อืม...งั้นเหรอคะ...นีน่าคะมาทานขนมกับน้านิดีกว่านะคะ..แล้ววันนี้น้านิก็มีสมุดวาดรูปเล่มใหม่มาให้นีน่าด้วย”นิชาคิดว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆแล้วจึงรีบชวนนีน่าให้หากิจกรรมอย่างอื่นทำดีที่วันนี้เธอมีของเล่นชิ้นโปรดมาให้นีน่าด้วยหวังว่ามันคงทำให้หลานเธออารมณ์ดีขึ้นนะ“โห...นีน่าชอบมากเลยค่ะน้านิ”เด็กก็ยังมีความเป็นเด็กเมื่อเห็นว่าน้าของเธอมีของเล่นชิ้นโปรดมาให้ก็รีบคว้าเอาไว้พร้อมยิ้มแป้นจนตาหยี“งั้นเอาขนมไปนั่งทานแล้ววาดรูปด้วยเลยไหม”“ค่ะ”นีน่ารีบไปนั่งวาดรูปตามคำที่น้าของเธอบอกอย่างรวดเร็ว“.......”นิชามองตามหลังหลานสาวของเธอด้วยแววตาที่ปนความสงสารเธอจะปล่อยให้หลานเธอต้องกลายมาเป็นเด็กที่ไม่ร่าเริงไม่ได้“นิดฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”นิชาจะต้องคุยกับณดาให้รู้เรื่องว่าทั้งสองคนเพื่อนเธอกับอคิณเป็นอะไรยังไงกันเพราะไม่อยากให้มันกระทบหลานเธอ“เรื่องอะไรเหรอ”ณดาที่กำลังทำอาหารเย็นอยู่ในครัวหันมาอมยิ้มให้เพื่อนเธอคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาของเพื่อนเธอที่อยากจะปรึกษากับเธอเป็นแน่“คุณคิณจะไม่อยู่กับแกกับลูกแล้วเหรอ”“หืมม...ใครบอก”ณดาถึงกับหน้าถอดสีไม่รู้ว่าเพื่อนเธอไปรู้เรื่องนี้มาจากใคร“นีน่า”“ค
วันต่อมา18.00 น.“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยผู้ใหญ่มากันเยอะ”ธีรธรยืนต้อนรับแขกที่หน้างานเมื่อเห็นน้องชายทำหน้าไม่สบอารมณ์ก็ต้องเตือนกันหน่อย“ผมไม่ได้อยากให้มีงานต้องรับอะไรผมสักหน่อย”เตชินเซ็งกับงานอย่างมากที่เขาต้องมายืนรับหน้าใครต่อใครที่ไม่รู้จัก“แกนี่มัน...ฉันว่าถ้าแกจะอยู่ที่นี่คงต้องปรับตัวใหม่แล้วล่ะ”ธีรธรไม่เข้าใจว่าน้องชายเขาจะให้ความร่วมมือสักหน่อยมันจะเป็นอะไรไปเขาคิดว่าจบงานนี้คงต้องอบรมน้องเขาอีกเยอะเลยทีเดียวงานเลี้ยงที่ธีรธรจัดขึ้นภายในไร่ของเขาเป็นงานสังสรรค์ที่ไม่ใหญ่มากเพียงแค่ต้องการให้ทุกคนได้รับรู้เท่านั้นว่าน้องชายเขาจะมาอยู่ที่นี่ถาวรเมื่อแขกเริ่มมากันครบธีรธรก็ไม่รีรอที่จะแนะนำตัวน้องชายของเขากับทุกคนอย่างเป็นทางการงานทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีเว้นเสียแต่ต้องคอยสั่งให้เตชินปั้นหน้ายิ้มบ่อยๆเท่านั้นเองเช้าวันต่อมา“...แกเมื่อคืนน้องคุณธรนี่หน้าไม่รับแขกเท่าไรเลย...”หนามเตยเจอหน้านิชาก็แอบบ่นเรื่องเมื่อคืนอุกเพราะเธอรู้สึกว่าน้องชายธีรธรช่างเป็นคนที่ไร้มารยาทสิ้นดี“คงจะไม่ชินกับคนเยอะหรือเปล่าอีตาพ่อเลี้ยงคงจะไม่ได้ถามความเห็นจากน้องก่อนจะจัดงานเป็นแน่ชอบคิดเอง
“เรื่องประชุมมันก็ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวลเลยนี่แกก็แค่เลื่อนจากรองประธานมาเป็นประธาน”คริสโตเฟอร์เห็นว่าเรื่องประชุมเปลี่ยนระบบบุคลากรภายในอะไรนั่นมันก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมายไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาจะเครียดอะไรกับงานนี้“ไม่...ฉันจะให้นิดมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของที่นี่..”อคิณไม่ได้คิดแบบนั้นเขาต้องการให้คนที่ถือหุ้นใหญ่เป็นชื่อของณดาซึ่งเขาก็เตรียมการคร่าวๆบ้างแล้ว“แล้วเจ้าตัวเค้าโอเคกับแกเหรอ”คริสโตเฟอร์ถึงกับคิ้วขมวดที่เขาจำได้เพื่อนของเขาบอกว่าณดาปฏิเสธข้อเสนอนี้“ยังไงฉันก็ต้องคืนในส่วนที่ต้องเป็นของนิดฉันจะเป็นแค่คนที่บริหารงานแทนเธอเท่านั้น”ถึงณดาจะปฏิเสธเรื่องนี้แต่เขาก็ควรที่จะคืนทุกอย่างให้เธอมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วส่วนเขานั้นจะขอมีชื่อแค่เป็นคนที่บริหารงานแทนเธอก็เท่านั้นอคิณไม่ลืมคำที่เขาเคยพูดกับหญิงสาวเอาไว้ว่าเขายินดีคืนทุกอย่างให้เธอทั้งหมดถึงเธอจะไม่รับก็ตาม“แล้วน้องเคทเป็นยังไงบ้าง”อคิณวางปากกากับละสายตาจากกองเอกสารมาถามเรื่องเคทเธอรีนกับคริสโตเฟอร์เพราะเขาไม่ได้ข่าวคราวเธอมาหลายวันแล้วเมื่อเพื่อนของเขามาถึงที่นี่ก็เป็นโอกาสที่เขาจะได้ถามไถ่เรื่องของหญิงสาวบ้าง
“ทำไมถามเรื่องนี้ล่ะ...อืม..คือ...ฉันก็ไม่ได้มีความรู้สึกนี้นานแล้วตั้งแต่เลิกกับพรีมไปแต่ก็พอจำได้บ้าง”คริสโตเฟอร์ถึงกับหน้าเจื่อนเล็กน้อยเมื่อเพื่อนของเขาถามถึงเรื่องความรักเพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากพูดถึงมันเท่าไร“อืม..ว่ามาเลย”ถึงจะจำได้จำไม่ได้อคิณก็อยากได้ข้อมูลอะไรนิดหน่อยก็ยังดี“ฉันอยากเจอเธอในทุกๆวันเรื่องทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิตฉัน...ฉันอยากให้เธอรู้เป็นคนแรก...หากเธอเจ็บหรืออยู่ในอันตรายฉันอยากอยู่ตรงนั้นแทนฉันไม่ชอบเห็นเธอร้องให้...ฉันอยากเป็นคนที่ปกป้องเธอและคนที่เธอคิดถึงตลอดเวลาและฉันก็ไม่ชอบให้เธอใกล้กับผู้ชายคนไหนและทำตัวสนิทสนมแม้แต่กับคนสนิทก็ตาม...อนาคตของฉันก็จะมีเธออยู่ในนั้นตลอด”คริสโตเฟอร์พยายามนึกถึงความรู้สึกที่มีทั้งหมดนั่งมองฟ้าพร้อมพูดมันออกมาจากหัวใจหวังว่ามันคงจะเป็นประโยชน์ต่อความอยากรู้ของเพื่อนของเขาได้บ้าง“อ๋อ...อย่างนั้นเหรอ..ไหนแกว่าจำไม่ค่อยได้ไงวะ”อคิณจำคำพูดของเพื่อนของเขาได้ทุกคำคงเป็นแบบที่เขารู้สึกตอนนี้สินะชายหนุ่มบอกกับตัวเองแต่ก็หันมามองเพื่อนของเขาตอนนี้ยังไม่หยุดเหม่อเสียทีเขาพอจะเดาออกว่าถ้าหากจำความรู้สึกได้เยอะขนาดนี้คงจะไม่วายไม