21.00 น.
“ขอบคุณนะ”
“คุณขอบคุณฉันหลายรอบแล้วนะคะ”
“..ผมไม่ได้ขอให้คุณลืมเรื่องที่ผ่านมาแต่แค่ขอให้คุณอยู่กับปัจจุบันกับผม..ผมจะทำให้ครอบครัวเรามีแต่ความสุขผมสัญญา”
อคิณสวมกอดหญิงสาวเอ่ยกระซิบข้างหูของเธอแผ่วเบาและบรรจงจูบไปที่ไรผมของหญิงสาวด้วยความรักชายหนุ่มจูบไล่มาที่แก้มของหญิงสาวจนถึงริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ
“เอ่อ..คุณคิ..อื้มม..”
ณดาเริ่มใจสั่นเล็กน้อยสัมผัสที่อ่อนโยนของเขาทำให้เธอแทบหายใจไม่เป็นจังหวะแล้วก็ต้องกลั้นหายใจเมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็บดริมฝีปากหนาของเขาส่งลิ้นร้ายมาฉกความหวานจากปากของเธออย่างไม่ได้ตั้งตัวรสจูบที่นุ่มนวลสลับกับรุนแรงเล็กน้อยทำเอาหญิงสาวถึงกับตัวโอนอ่อนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและตอนนี้เธอก็เริ่มที่จะขาดอากาศหายใจ
“...เฮ่ออ...”
ณดารีบสูดอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็วเมื่อชายหนุ่มปล่อยให้เธอเป็นอิสระ
“พักผ่อนเถอะผมไม่กวนคุณแล้ว”
“....”
อคิณไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของหญิงสาวมากมายนักแค่ได้ลิ้มรสความหวานจากปากของเธอก็พอแล้วชายหนุ่มรวบกอดหญิงสาวเอาไว้ หลวมๆไม่ให้เธออึดอัดมากนักเพราะท้องเธอก็เริ่มโตขึ้นเยอะแล้ว
อาทิตย์ต่อมา
“อืมม..ไปไหนกันหมดนะ”
ณดาตื่นมาในช่วงสายของวันช่วงนี้เธอจะเป็นคนที่นอนเยอะมากเธอจำได้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดของนีน่าแต่ไม่รู้ว่าสองพ่อลูกพากันไปไหนจึงค่อยๆลุกมาล้างหน้าล้างตาแล้วออกจากห้องมาเดินดูรอบๆแต่ก็ไม่ยักจะเห็น
“สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณแม่”
“นีน่า”
ณดาเดินออกมาดูข้างบ้านยังไม่ทันได้ก้าวออกมาดีก็ได้ยินเสียงลูกสาวของเธอดังขึ้นมาเมื่อเธอหันไปดูพบว่าสองพ่อลุกกำลังยืนถือก้อนเค้กรอเธออยู่แถมยังมีโต๊ะอาหารมาตั้งด้านนอกอีกต่างหากจึงนึกขึ้นได้ทันทีว่าเธอลืมเสียสนิทเลยว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ
“ขอบคุณนะคะ”
ณดารีบเข้าไปกอดทั้งสองอย่างรวดเร็วเธอไม่ได้ฉลองวันเกิดของตัวเองนานแล้วตั้งแต่พ่อของเธอเสียไปความรู้สึกในตอนนี้เธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน
อคิณเองก็ดีใจอย่างมากที่เห็นเธอยิ้มแบบมีความสุขเต็มๆตาเสียทีไม่คิดว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ที่เขาทำให้จะทำให้เธอดูมีความสุขขนาดนี้ต่อไปนี้เขาต้องหาเรื่องเซอร์ไพรซ์เธอบ่อยๆเสียแล้ว
“ผมอยากให้คุณย้ายไปอยู่ที่บ้านผม...คุณจะโอเคไหม”
หลังจากที่สามพ่อแม่ลูกนะชั่งทานอาหารเช้ากันเสร็จนีน่าก็วิ่งเล่นตามประสาส่วนอคิณก็มีเวลานั่งพูดคุยกับหญิงสาวตามลำพังเขาอยากบอกเธอตั้งนานแล้วเรื่องที่อยากให้เธอย้ายไปอยู่ที่บ้านของเขาเพราะหากเขาจะทำงานไปด้วยเทียวไปเทียวมาแบบนี้ทำให้เขาห่วงหน้าพะวงหลังเปล่าๆ
“อืม...แล้วงานที่นี่ล่ะคะ”
ณดาเองยังเป็นห่วงงานที่โฮมสเตย์ถึงในตอนนี้เธอจะช่วยอะไรไม่ได้มากแต่ถ้าเธออยู่ก็ยังแบ่งเบางานมาจากเพื่อนเธอได้บ้าง
“ตอนนี้ก็มีคนทำแทนแล้วไม่เห็นมีอะไรต้องเป็นห่วงเลย”
อคิณเห็นว่าหนามเตยจ้างคนมาทำงานแทนหญิงสาวแล้วเรื่องงานก็ไม่น่ามีอะไรจะต้องเป็นห่วงมากมาย
“นิดต้องปรึกษานิกับเตยก่อนน่ะค่ะ”
หากณดาจะต้องไปอยู่กับชายฯมเร่องนี้เธอก็ต้องขอความเห็นจากเพื่อนเธอก่อนว่าหากเธอไปแล้วทั้งสองจะมีปัญหาอะไรหรือไม่
“ผมปรึกษาพวกเค้าเรียบร้อยแล้วพวกเค้าโอเคส่วนคนที่คุณเตยหามาทำงานทนคุณผมจะจ่ายเงินเดือนให้เค้าเองคุณไม่ต้องเป็นห่วง”
เรื่องนี้อคิณแอบคุยกับนิชาและหนามเตยก่อนหน้านี้แล้วทั้งสองยินดีให้เพื่อนเธอไปอยู่กับครอบครัวอยู่แล้ว
“แอบไปปรึกษากันตอนไหนคะเนี่ย...แล้วนีน่าล่ะคะจะว่ายังไง”
ณดาคิ้วขมวดอคิณไปปรึกษาเพื่อนเธอตั้งแต่เมื่อไรเธอไม่ยักจะรู้อีกคนที่เป็นตัวแปรให้เธอตัดสินใจอีกทีก็คือนีน่า
“รายนั้นผมก็ถามแล้วคุณก็น่าจะรู้คำตอบ”
อคิณยิ้มกริ่มนีน่าหรือจะไม่อยากไป
“แต่นิดอยากให้นีน่าเรียนจบเทอมนี้ก่อนค่ะย้ายกลางคันคงไม่ค่อยสะดวกเท่าไร”
ณดาเห็นสีหน้าอคิณก็รู้คำตอบของลุกสาวของเธอทันทีหากจะย้ายจริงๆตอนนี้เธอยังย้ายไม่ได้เพราะไม่อยากให้นีน่าออกจากโรงเรียนกลางคัน
“พูดแบบนี้แสดงว่ายอมไปแล้วใช่ไหม”
เรื่องนั้นอคิณไม่ได้มีปัญหาแต่เมื่อได้ยินหญิงสาวพูดแบบนี้แล้วเธอก็น่าจะตกลงไปอยู่กับเขาอยู่แล้ว
“........”
ณดาแค่อมยิ้มเธอไม่ได้ปฏิเสธอะไรขอแค่รอโรงเรียนของนีน่าปิดเทอมใหญ่ก่อนเท่านั้นการที่ชายหนุ่มเทียวไปเทียวมาหาลูกหาเธอก็ลำบากอยู่เหมือนกันเมื่อจะต้องทิ้งงานมาเธอเห็นใจเขาตรงนี้นี่แหละถึงยอมไปอีกอย่างเธอก็อยากจะกลับไปที่บ้านของเธอด้วยไม่รู้ว่าตอนนี้สภาพมันจะเป็นอย่างไรบ้าง
3 เดือนต่อมา
ตอนนี้ท้องณดาก็ได้เจ็ดเดือนกว่าแล้วโรงเรียนนีน่าก็ปิดเทอมเรียบร้อยแล้วทั้งสามก็กำลังเตรียมตัวจะกลับไปที่กรุงเทพในช่วงเช้านี้ตอนนี้ที่บ้านณดาเลยคึกคักเป็นพิเศษเพราะมีเพื่อนเธอมารออำลากันอยู่ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่แล้ว
“ถ้าที่นี่งานว่างจะไปหานะนิด”
นิชาโอบกอดณดารู้สึกใจหายเหมือนกันที่เพื่อนเธอต้องย้ายที่อยู่หากเธอว่างเธอก็คงจะต้องรีบไปหาเพื่อนเธออยู่แล้วเพราะคงอีกไม่นานเพื่อนเธอก็น่าจะคลอดเธอไม่พลาดที่จะไปหาหลานแน่นอน
“อืมม..หรือไม่ฉันอาจจะมาหาแกก่อนก็ได้”
ณดาก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าจะทนคิดถึงที่นี่ไหวหรือไม่ไม่แน่เธออาจจะมาที่นี่ก่อนที่เพื่อนเธอจะไปหาก็ได้
“แกกลับมาคราวหน้าคงได้อุ้มหลานแล้วนิด”
หนามเตยพูดแซวเป็นแกมบอกข่าวดีกับณดาเล็กน้อยเพราะเชื่อว่าณดาคงยังไม่รู้ข่าวนี้
“หืมม”
ณดาทำหน้าแปลกใจแล้วหันไปมองหนามเตยว่าที่พูดมันคืออะไร
“ในท้องยัยนิสองเดือนกว่าแล้ว”หนามเตยเห็นนิชาเอาแต่ก้มหน้านิ่งเงียบเธอเลยบอกข่าวนี้กับณดาแทนเสียเลยเมื่อครู่เธออุตส่าห์เกริ่นให้แล้วคิดว่านิชาจะบอกเองเสียอีกแต่ดูท่าน่าจะอาย“หา...ตอนไหนเนี่ยยย”ณดาถึงกับฉีกยิ้มกว้างเรื่องท้องเธอไม่ค่อยตกใจเท่าไรแต่ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอไปญาติดีกับธีรธรตั้งแต่ตอนไหนพร้อมแอบส่งยิ้มชื่นชมหธีรธรเล็กน้อยที่มนที่สุดก็ปราบเพื่อนเธอได้“ถามอะไรแบบนี้เล่า”นิชารู้ว่าณดาพูดหมายถึงอะไรเธอก็ไม่อยากจะพูดเหมือนกันว่าตอนนั้นเธอดันดื่มหนักไปหน่อย“ฮ่าๆๆ”ทั้งณดาและหนามเตยต่างก็หัวเราะให้กับอาการเขินของเพื่อนเธอทั้งดีใจกับนิชาด้วยที่จะมีครอบครัวสมบูรณ์เสียที“ฉันไปก่อนนพวกแก”หลังจากหัวเราะได้ไม่นานณดาก็เกิดอาการน้ำตาคลอดเพราะคิดว่าไม่รู้จะได้มาหัวเราะกับเพื่อนเธอแบบนี้อีกเมื่อไร“ร้องทำไมเล่า...เดี่ยวก็เจอกันน่า”หนามเตยและนิชารีบสวมกอดณดาก่อนที่พวกเธอจะร้องตามเพื่อนเธอไปอีกคนก่อนไปเธออยากให้มีแต่รอยยิ้มมากกว่าน้ำตา“สาวๆนี่คงคิดถึงกันน่าดูนะครับ”ธีรธรมองสามสาวก็รู้ว่าทั้งสามคงจะรักกันมากๆ“ดีใจด้วยนะครับพ่อเลี้ยง..”อคิณพยักหน้าเขาแอบสงสารณดาเหมือนกันที่ต้องจากที่นี่ไ
“เคท”“พี่คริส”เมื่อหญิงสาวกำลังจะเดินหน้าเข้าห้องนอนของเธอก็ต้องหันหลังกลับเพราะได้ยินเสียงของคนที่เธอนั่งรอกลับมาทำให้ตอนนี้เธอใจชื้นขึ้นมาทันที“โทษทีนะที่พี่กลับดึกไปหน่อย..พอดีงานยุ่งๆน่ะ”วันนี้งานของเขาค่อนข้างยุ่งไม่รู้สึกผิดนิดหน่อยที่ไม่ได้โทรบอกเธอก่อนตอนนี้เธอยังไม่นอนคิดว่าเธอคงต้องรอเขาอยู่เป็นแน่“ค่ะ..พี่คริสทานอะไรมาหรือยังคะ”“พี่ทานมาแล้วหละ..เคทล่ะทานหรือยัง”เขาหวังว่าเธอคงจะทานข้าวเย็นก่อนที่เขาจะกลับมาไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องรู้สึกผิดไปมากกว่านี้แน่“เอ่อ...ทานเรียบร้อยแล้วค่ะ..ขอตัวนะคะ”เคทเธอรีนเห็นชายหนุ่มกลับมาเหนื่อยแล้วไม่อยากให้เขาไม่สบายใจเรื่องเธออีกจึงไม่ได้บอกเรื่องจริงไปพร้อมขอตัวเขาเข้าห้องทันทีเมื่อเห็นเขากลับมาเธอก็โอเคแล้ว“อืม..ฝันดีนะ”เช้าวันต่อมา“อ้าว..เคทจะไปไหนแต่เช้า”วันนี้เป็นวันหยุดของคริสโตเฟอร์เขากำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ในช่วงเช้าพลันเห็นหญิงสาวแต่งตัวถือกระเป๋าก็ต้องถามว่าเธอจะไปไหน“เคทจะไปสมัครงานค่ะ...ไม่อยากอยู่รบกวนพี่คริสนาน”เคทเธอรีนคิดเอาไว้แล้วว่าเธอจะหาสมัครงานแล้วก็มีบางที่ที่เธอยื่นสมัครเอาไว้โทรนัดสัมภาษณ์พอดีเธอคิดว่าเมื
“คุณอย่าทำแบบนี้ได้ข่าวว่าคุณกำลังจะแต่งงานไม่ใช่เหรอ” คริสโตเฟอร์พยายามถอยห่างจากตัวของพริมาที่กำลังทำรุ่มร่ามกับเขาอยู่แต่ดูท่ามือของเธอจะเหนียวน่าดูเล่นเกาะเขาไม่ปล่อยขนาดนั้น“พรีมยกเลิกงานแต่งไปแล้วพรีมลืมคุณไม่ได้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะนะ”พริมมาพยายามพูดให้เธอนั้นมีโอกาสที่จะกลับมาคบหากับเขาอีกที่งานแต่งของเธอถูกยกเลิกก็เพราะความไม่พอของตัวเธอเองที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วก็ยังเที่ยวไปกับผู้ชาบอื่นไม่ซ้ำหน้า“พี่คริสคะ”เคทเธอรีนเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มหมายจะบอกข่าวดีกับเขาให้ได้ยินแต่ภาพตรงหน้าคือชายหนุ่มกำลังนัวเนียกับผู้หญิงอีกคนใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่ปรับเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงโดยทันควัน“เคท”คริสโตเฟอร์ไม่อยากจะเชื่อว่าอะไรมันจะเหมาะเจาะที่หญิงสาวกลับมาเวลานี้เวลาที่เขาไม่อยากให้เธอเห็นภาพแบบนี้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว“เอ่อ..”เคทเธอรีนรีบเดินเข้าห้องของเธอทันทีเพราะเธอคิดว่าเธอคงจะมาขัดจังหวะความสุขของเขาแต่ใครจะรู้ว่าภาพเมื่อครู่ทำลายความสุขของเธอตอนนี้ไปเกือบหมด“เคท..เคท..คุณกลับไปได้แล้วแล้วก็เลิกพูดแบบนี้ได้แล้วเราจบกันไปนานแล้ว”คริสโตเฟอร์จำต้องเสียมรยาทลากหญิงสาว
ทางด้านคริสโตเฟอร์“นี่ครับคุณผู้หญิง”เคทเธอรีนกำลังนั่งรออาหารอยู่ดีๆก้มีพนักงานถือช่อกุหลาบช่อโตมาให้เธอ“เอ่อ...ของฉันเหรอคะ”หญิงสาวรับมาอย่างเงอะๆงะๆ“ครับ”“พี่คริส”เมื่อ่เปิดอ่านการ์ดก็รู้ทันทีว่าเป็นของใคร“พี่ให้เป็นของขวัญยินดีที่เคทได้งาน”“ขอบคุณนะคะ”หญิงสาวอมยิ้มเล็กน้อยแอบคิดว่าหากเขาให้เธอเนื่องในโอกาสอื่นก็คงจะดี3 วันต่อมาโรงแรมXXXXวันนี้เป็นวันทำงานวันที่สองของเคทเธอรีนเธอสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานทุกคนได้ดีและวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอต้องลุยงานข้างนอกกับนุจรีเพราะเธอต้องมาคุยงานกับเจ้าของโรงแรมดังที่จะจ้างให้พวกเธอจัดงานในเดือนหน้า“งานแรกตื่นเต้นไหม”เมื่อมาถึงหน้าโรงแรมนุจรีแอบเห็นเคทเธอรีนประหม่าเล็กน้อยจึงถามด้วยความที่เคยเป็นมาก่อน“ตื่นเต้นค่ะ”เคทเธอรีนพยักหน้าหงึกหงักทำไมเธอจะไม่ตื่นเต้นมันเป็นงานแรกของเธอนี่นา“สูดหายใจเข้าลึกๆ...ไปลุยกันเลย”นุจรีพยายามให้หญิงสาวเรียกพลังมาให้มากที่สุดเพราะเหตุการณ์ต่อไปจะต้องเข้าไปคุยกับลูกค้าแล้ว5นาทีต่อมา“คุณวิชิตออยู่ข้างในแล้วค่ะคุณนุจรี”“ค่ะ”สองสาวขึ้นลิฟท์มาที่ชั้นบนสุดของโรงแรมเมื่อมาถึงก็มีพนักงานสาวซึ่งน่
“แค่นี้ใช่ไหมคะที่คุณจะพูด”คำบางคำมันทำให้เคทเธอรีนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวจึงรีบพูดตัดบทอีกฝ่ายแล้ว“..........”พริมมาพยักหน้าอย่างพอใจ“.........”เมื่อพริมมาไม่ได้ถามอะไรเธอต่อเคทเธอรีนจึงรีบลุกแล้วเดินออกไปจากห้องนี้ทันที“มาแล้วเหรอ...ไปกลับกันเถอะ”“ค่ะ...”“มีอะไรหรือเปล่า”“เปล่าค่ะพี่นุช..แค่คุณพรีมอยากให้งานออกมาดีแค่นั้นค่ะ”“..........”นุจรีเห็นสีหน้าของเคทเธอรีนเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องแค่นั้นแต่แค่ไม่อยากถามอะไรต่อเท่านั้นเองแอบคิดในใจว่าสองคนนี้อาจจะมีปัญหาอะไรกันมาก่อนเป็นแน่เย็นของวันเพนท์เฮ้าส์“เคทเป็นอะไรหรือเปล่าเห็นซึมๆตั้งแต่กลับมาแล้วที่ทำงานมีปัญหาเหรอ”คริสโตเฟอร์เห็นหญิงสาวหน้าไม่สบอารมณ์ตั้งแต่ลับมาแล้วเมื่อนั่งทานข้าวเย็นด้วยกันจึงถือโอกาสนี้ถามเธอเสียเลยเพราะเธอเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เขาไม่สบายใจไปด้วย“เอ่อ...ไม่มีค่ะ..แค่เคทเหนื่อยๆ”เคทเธอรีนเลี่ยงที่จะพูดตอบเรื่องในใจที่ทำให้เธอมีอาการเป็นแบบนี้“งั้นทานเยอะๆเลยนะ”หากเป็นแค่เหนื่อยเขาก็ไม่ค่อยกังวลเขาพยายามตักอาหารใส่จานเธอเยอะๆเมื่อทานแล้วจะได้หายเหนื่อย“ค่ะ”“พี่คริสคะ”“หืมม”“เ
วันต่อมาโรงแรมXXX20.30 น.“คิณคุณนิดไม่ได้มาด้วยเหรอวะ”คริสโตเฟอร์เดินเข้างานมาก็มองหาเพื่อนของเขาทันทีเพื่อนเขาหาไม่ยากเพราะตัวสูงกว่าใครเค้าเมื่อเจอก็รีบเข้ามาทักทายแต่ก็ไม่ยักจะเห็นภรรยาสุดที่รักของเพื่อนเขามาด้วยจึงถามหาเพราะปกติแล้วสองคนนี้จะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดยกเว้นเวลาทำงานเท่านั้น“ณดลไม่สบายน่ะสิฉันก็เลยมาคนเดียวจะดีกว่า”อันที่จริงณดาก็จะมากับเขาด้วยแต่ติดตรงที่ลูกคนเล็กของเขาดันมาป่วยจึงต้องมาคนเดียว“นีน่าไม่ร้องตามแกเหรอวะ..”“ตอนแรกก็เหมือนจะตามดีหน่อยลูกสาวฉันพูดรู้เรื่อง”“...นีน่าเป็นเด็กน่ารักนะ...ถ้าฉันมีลูกน่ารักอย่างนีน่าก็คงดี”คริสโตเฟอร์ชอบนิสัยของลุกสาวเพื่อนของเขามากเพราะเป็นเด็กที่เข้าใจอะไรง่ายมากเท่าที่เขาเคยเจอมา...หากเขาเลือกได้ก็ยากมีลูกนิสัยเหมือนนีน่าเหมือนกันคงจะไม่เหนื่อยในการเลี้ยงดี“หาแม่ของลูกก่อนเพื่อนอย่าพึ่งมโน”อคิณหันไปยิ้มกริ่มมองหน้าเพื่อนของเขาอย่างกรุ้มกริ่มทั้งยังแซวหยอกให้เพื่อนของเขาหาแม่ให้ได้ก่อนที่คิดจะมีลูก“เออน่า”คริสโตเฟอร์โดนแซวแบบนั้นก็ถึงกับไปไม่เป็นเขามีคนที่มองอยู่แล้วแต่แค่ตอนนี้เขายังไม่กล้าลุยก็เท่านั้นเพราะดูท่
“พี่เคทเป็นยังไงบ้างคะ...เราเข้าไปข้างในกันดีกว่านะคะ”แพรวารีบเข้าไปดึงตัวเคทเธอรีนที่ยืนนิ่งตกใจกับเหตุการณ์เข้าไปด้านในส่วนอคิณกับคริสโตเฟอร์ก็กันนักข่าวไม่ให้ตามเคทเธอรีนเข้าไปเพราะเข้าใจว่านักข่าวคงต้องไปถามหาสาเหตุที่เธอโดนแกล้งเรื่องนี้แน่“เคทเป็นยังไงบ้าง...ทำไมคุณพรีมต้องทำกันขนาดนี้นะ”นุจรีรีบเคลียที่หน้านแล้วรีบเข้ามาหาเคทเธอรีนกับแพรวาไม่เข้าใจว่าพริมมาทำไมต้องทำกับเคทเธอรีนแบบนี้ด้วย“นั่นน่ะสิคะ”แพรวาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันถ้าหากเธอไม่มีหลักฐานช่วยเคทเธอรีนป่านนี้ชื่อเสียงพังป่นปี้หมดตอนนี้เคทเธอรีนเอาแต่นั่งนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกใบหน้าซีดเซียวใจเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นหลุดออกมาอยู่รอมร่อ“เคท”“เคท”เมื่ออคิณและคริสโตเฟอร์เคลียพวกนักข่าวเสร็จก็เดินหาเคทเธอรีนเมื่อเห็นว่าเธอนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวจึงรีบกรูกันเข้ามาดูอาการของเธอ“พี่คริสคะ”เคทเธอรีนเงยหน้ามองคริสโตเฟอร์น้ำตาของเธอตอนนี้ไหลพรากออกมาอย่างห้ามไม่ได้“ไม่เป็นไรนะเคท..”คริสโตเฟอร์เข้าไปสวมกอดปลอบหญิงสาวอย่างเห็นใจและสงสารเธอไม่น่ามาเจอเรื่องอะไรแบบนี้เลยเขาคิดว่าการที่พริมมาทำแบบนี้กับเคทเธอรีนสาเหตุมันน่าจะมาจ
เพนท์เฮ้าส์“ไม่เห็นจะต้องรีบขนของมาที่นี่เลยนี่คะ”เคทเธอรีนไม่เข้าใจว่าทำไมคริสโตเฟอร์จึงให้เอรีบย้ายมาที่นี่นักเพราะรออีกสักพักก็ได้“ไม่ได้เคทเป็นแฟนพี่ก็ต้องอยู่กับพี่สิ”ชายหนุ่มจะปล่อยให้คนที่เขารักอยู่ลำบากคนเดียวได้ยังไงเขาอยากดูแลเธอเองในทุกๆเรื่อง“เคทบอกพี่คริสตอนไหนคะว่าเราเป็นแฟนกันแล้ว”เคทเธอรีนรู้สึกว่าชายหนุ่มจะข้ามขั้นอะไรไปหรือเปล่าเธอรู้สึกดีกับเขาก็จริงแต่เธอยังไม่ได้พูดออกมาสักคำเลยว่าจะเป็นแฟนกัน“อ้าว...ไม่รู้แหละก็ใจเราตรงกันแล้วก็เท่ากับเป็นแฟนกันแล้วหรืออยากข้ามขั้นงั้นพรุ่งนี้ไปจดทะเบียนกันเลยดีไหม”คริสโตเฟอร์เดินมาโอบไหล่หญิงสาวแล้วทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาด้วยกันเขาวาดแผนอนาคตกับเธอเอาไว้หมดแล้ว“อย่าพึ่งเออออไปฝ่ายเดียวสิคะ...”เคทเธอรีนไม่คิดว่าเขาจะคิดถึงอนาคตกับเธอไปไกลขนาดนี้แค่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีแล้วเธอขอค่อยๆเป็นค่อยๆไปกับเขาจะดีกว่า“เคท...”“คะ??..พี่คริสทำอะไรคะ”คริสโตเฟอร์หันมามองหญิงสาวด้วยสายตาหวานฉ่ำในใจมันสั่งว่าอยากจะกดหอมแก้มเธอสักฟอดให้ชื่นใจหลังจากที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันนานเคทเธอรีนเองก็เริ่มที่จะเอี้ยวตัวหลบเพราเริ่มเขินหน้าแดงที่เขาทำแบบ