“อะไรนะคะ”
ณดาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเธอไปมีชื่อเป็นหุ้นใหญ่ของบริษัทตั้งแต่เมื่อไรทำไมเธอจึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
“ไว้ผมจะอธิบายทีหลังเราไปกันก่อน”
อคิณยังไม่มีเวลาอธิบายตอนนี้เขาต้องรีบช่วยหญิงสาวเก็บของแล้วกลับไปพร้อมธาวินให้เร็วที่สุด
“ทำตามที่คิณบอกเถอะครับคุณนิดเพื่อความปลอดภัยของทุกๆคน”
ธาวินมาที่นี่เพราะเป็นห่วงทุกคนเขาพูดช่วยอคิณอีกแรงเพราะตอนนี้ทุกคนจะชักช้าไม่ได้เมื่อคนของเคลวินอยู่ที่นี่แล้วอันตรายที่คาดไม่ถึงอาจเกิดได้ทุกช่วงเวลาเพราะเขารู้มาว่าเคลวินจะกำจัดทุกคนที่ไม่เป็นพวกเดียวกับเขาและคนที่เขาจะจัดการคนแรกคือคนที่ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเพราะถ้าหากว่าเขาไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัทนี้ใครที่อยู่ก็อย่าหวังว่าจะได้มีความสุขเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ธาวินรู้มาจากการที่เขาให้คนตามเคลวินทุกฝีก้าวตั้งแต่เขาออกมาจากคุก
ปังงง
“อ้าสสส..”
อคิณล้มลงกับพื้นเมื่อจู่ๆเขาโดนยิงที่แขนจากทางไหนก็ยังจับทางไม่ได้แต่
“ว้ายยย..”
ณดารีบก้มตัวลงดูอคิณทันที ตอนนี้เธอมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูเมื่อเห็นชายหนุ่มเลือดนองกับพื้น
“คุณแม่”
นีน่าโผเข้าไปกอดคนเป็นแม่เพราะเธอกลัวเสียงปืนเมื่อครู่สุดขีด
“ทุกคนหาที่หลบก่อน”
ธาวินสั่งให้ทุกคนหาที่หลบเป้าสายตาเขาพยายามพยุงอคิณไปหลบที่ปลอดภัยแล้วจึงเดินมามองที่ข้างหน้าต่างพร้อมในมือก็มีปืนเอาไว้ป้องกันตัว
“คุณเสียงปืนนี่”
นิชาที่กำลังนั่งรถมากับธีรธรที่บ้านณดาเพื่อมาลากันก่อนที่ณดาจะพานีน่าไปอยู่กรุงเทพแต่เมื่อรถขับมายังไม่ถึงหน้าบ้านณดาดีก็มีเสียงปืนดังขึ้นธีรธรเลยหยุดรถกะทันหันแล้วมองหาตัวการของต้นเสียง
“ใช่..ผมเห็นตัวการแล้ว”
ธีรธรมองไปยังต้นไม้ใหญ่ด้านหน้าของเขาเห็นคนชุดดำอยู่บนนั้นเขามองไม่ผิดแน่ว่าคนนั้นคือคนร้ายเพราะคนดีที่ไหนจะขึ้นไปทำอะไรบนนั้น
“คุณหมอบลง”
ปังงง
“ใครวะ??”
ธีรธรสั่งให้นิชาหมอบลงพร้อมลั่นไกลแกมขู่ให้อีกฝ่ายได้รนรานว่ามีศรัตรูอยู่อีกด้านเพื่อช่วยทางอคิณอีกแรงจนคนร้ายต้องรีบลงจากต้นไม้เพื่อหลบก่อน
“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางอาวุธลงแล้วมอบตัวซะ”
ธีรธรหยิบทรโข่งจากด้านหลังรถที่เอาไว้ใช้กับคนงานในไร่ใช้เสียงแกล้งเป็นตำรวจ
“ไปโว้ยย..”
เสียงตะโกนของคนร้ายเรียกพวกพ้องของตัวเองกลับธีรธรได้ยินแว่วๆหลังสิ้นเสียงก็มีกระบะคันนึงขับออกไปอย่างรวดเร็วเขาไม่คิดว่ามุขแบบนี้มันก็ใช้ได้กับโจรยุคนี้ด้วยเหมือนกันพร้อมรีบขับรถเข้าไปในบ้านณดาทันที
30 นาทีต่อมา
โรงพยาบาล
“คุณโอเคไหม”
ณดารีบลุกขึ้นไปดูชายหนุ่มที่พึ่งออกจากห้องฉุกเฉินโดยมีบุรุษพยาบาลกับคุณหมอพาออกมา
“ผมโอเค”
อคิณไม่อยากให้ณดาเป็นห่วงอะไรเขามากเพราะไม่อยากให้เธอจิตตกมากไปกว่านี้
“เดี๋ยวเราต้องพาคนไข้เข้าผ่าตัดเอากระสุนออกก่อนนะครับ”
หมอหนุ่มต้องรีบพาอคิณเข้าห้องผ่าตัดไม่อย่างนั้นจะเสียเลือดมากไปกว่านี้
“คุณคิณ”
“คุณแม่ขาคุณพ่อเป็นแผลอีกแล้วใช่ไหมคะ”
สองแม่ลูกนั่งกอดกันกลมด้วยความเป็นห่วงคนเจ็บนีน่าเองเห็นพ่อตัวเองเลือดออกเยอะก่อนจะมาถึงโรงพยาบาลก็รู้ว่าพ่อของเธอต้องมีแผลใหญ่อีกแล้ว
“ค่ะ..คุณพ่ออยู่กับหมอแล้วเดี๋ยวก็หายแล้วนะคะ”
ณดาพูดปลอบใจลูกสาวของเธอพร้อมทั้งปลอบใจตัวเองด้วย
“ยังไงผมขอตัวไปโรงพักก่อนนะครับ”
ธาวินต้องรีบจัดการเรื่องที่โรงพักเพราะตอนนี้ธีรธรอยู่ที่นั่นก่อนเขาแล้ว
“ค่ะคุณวิน”
“ใจเย็นๆนะนิด”
นิชาอยู่เป็นเพื่อนณดาไม่ห่างเธอไม่รู้ว่าทำไมครอบครัวของเพื่อนเธอถึงเจอแต่เรื่อง
อาทิตย์ต่อมา
16.00 น.
“ยังเจ็บอยู่ไหมคะ”
อคิณพึ่งกลับจากโรงพยาบาลมาได้เพียงสองวันณดาเองก็เฝ้าดูแลเขาตลอดคอยถามไถ่อาการอยู่เรื่อยๆส่วนเรื่องคนร้ายนั้นธาวินก็เป็นคนจัดการอยู่จนเรื่องเรียบร้อยไปแล้วครั้งนี้เคลวินดิ้นไม่หลุดพร้อมทั้งพวกพ้องใหม่ที่ร่วมขบวนการด้วยทำให้ตอนนี้ทุกคนต่างก็สบายใจได้
“ไม่เลย”
อันที่จริงอคิณสามารถไม่รู้สึกว่าบาดแผลมันใหญ่อะไรมากนักแต่เขาก็รู้สึกดีที่หญิงสาวคอยเป็นห่วงเป็นใยแบบนี้แอบดีใจเล็กน้อยที่มีเรื่องเขาโดนทำร้ายเข้ามามันเห็นได้เลยว่าหญิงสาวห่วงเขาแค่ไหน
“นิด”
“คะ”
อคิณจับมือหญิงสาวมากุมเอาไว้ณดามีสีหน้าตกใจกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรเพราะเขาเรียกเธอจริงจังแปลกๆ
“ขอโทษนะที่ทำให้คุณต้องมาลำบากดูแลผมทั้งที่ยังท้องอยู่”
“ไม่ได้ลำบากอะไรเลยค่ะ”
ณดาส่ายหัวก้มหน้างุดเล็กน้อยเธอไม่ได้ลำบากอะไรสักนิด
“ต่อไปนี้ผมขอดูแลคุณกับลูกเองนะ”
อคิณยังคงพูดคำขอเดิมๆที่เขาเคยขอเธอหวังว่าถึงวันนี้แล้วเอจะใจอ่อนให้เขาบ้าง
“...ค่ะ...”
ณดาพยักหน้าตอบรับชายหนุ่มเธอรู้ตั้งแต่วินาทีที่เขาโดนยิงล้มลงไปว่าเธอเสียเขาไปไม่ได้ทิฐิที่มีทั้งหมดค่อยๆละลายไปตั้งแต่ที่เขาเข้ามาเอาใจใส่ดูแลเธอกับลูกพักหลังนี้แล้ว
“นิด..”
อคิณยิ้มกว้างจนเต้นแรงมองหญิงสาวด้วยสายตาที่มีความสุขพร้อมโผกอดเธออย่างชื่นหัวใจขอบคุณหญิงสาวมากที่ให้โอกาสเสียทีต่อจากนี้คงจะมีอคิณน้อยเพิ่มขึ้นอีกสองสามคนแน่นอน
“คุณแม่”
“อุ้ย..นีน่าขาออกไปหน้าบ้านกับน้าเตยดีกว่านะคะ”
หนามเตยอาสาไปรับนีน่าจากโรงเรียนให้ทุกหลังในตอนที่อคิณป่วยอยู่เมื่อหญิงสาวพาหลานเธอเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นสองคนกำลังสวีทกันอยู่เลยรีบทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและพานีน่าไปนั่งด้านนอกกันทันที
“...เอ่อ...”
“.......”
ทั้งอคิณและณดาเมื่อได้ยินเสียงของลูกสาวของเขาดังขึ้นก็รีบผละออกจากกันโดยมีสีหน้าเขินอายกันเล็กน้อยเพราะหนามเตยนั้นอยู่ตรงนี้ด้วย
21.00 น.“ขอบคุณนะ”“คุณขอบคุณฉันหลายรอบแล้วนะคะ”“..ผมไม่ได้ขอให้คุณลืมเรื่องที่ผ่านมาแต่แค่ขอให้คุณอยู่กับปัจจุบันกับผม..ผมจะทำให้ครอบครัวเรามีแต่ความสุขผมสัญญา”อคิณสวมกอดหญิงสาวเอ่ยกระซิบข้างหูของเธอแผ่วเบาและบรรจงจูบไปที่ไรผมของหญิงสาวด้วยความรักชายหนุ่มจูบไล่มาที่แก้มของหญิงสาวจนถึงริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ“เอ่อ..คุณคิ..อื้มม..”ณดาเริ่มใจสั่นเล็กน้อยสัมผัสที่อ่อนโยนของเขาทำให้เธอแทบหายใจไม่เป็นจังหวะแล้วก็ต้องกลั้นหายใจเมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็บดริมฝีปากหนาของเขาส่งลิ้นร้ายมาฉกความหวานจากปากของเธออย่างไม่ได้ตั้งตัวรสจูบที่นุ่มนวลสลับกับรุนแรงเล็กน้อยทำเอาหญิงสาวถึงกับตัวโอนอ่อนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและตอนนี้เธอก็เริ่มที่จะขาดอากาศหายใจ“...เฮ่ออ...”ณดารีบสูดอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็วเมื่อชายหนุ่มปล่อยให้เธอเป็นอิสระ“พักผ่อนเถอะผมไม่กวนคุณแล้ว”“....”อคิณไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของหญิงสาวมากมายนักแค่ได้ลิ้มรสความหวานจากปากของเธอก็พอแล้วชายหนุ่มรวบกอดหญิงสาวเอาไว้ หลวมๆไม่ให้เธออึดอัดมากนักเพราะท้องเธอก็เริ่มโตขึ้นเยอะแล้วอาทิตย์ต่อมา“อืมม..ไปไหนกันหมดนะ”ณดาตื่นมาในช่วงสายของวันช่วงน
“ในท้องยัยนิสองเดือนกว่าแล้ว”หนามเตยเห็นนิชาเอาแต่ก้มหน้านิ่งเงียบเธอเลยบอกข่าวนี้กับณดาแทนเสียเลยเมื่อครู่เธออุตส่าห์เกริ่นให้แล้วคิดว่านิชาจะบอกเองเสียอีกแต่ดูท่าน่าจะอาย“หา...ตอนไหนเนี่ยยย”ณดาถึงกับฉีกยิ้มกว้างเรื่องท้องเธอไม่ค่อยตกใจเท่าไรแต่ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอไปญาติดีกับธีรธรตั้งแต่ตอนไหนพร้อมแอบส่งยิ้มชื่นชมหธีรธรเล็กน้อยที่มนที่สุดก็ปราบเพื่อนเธอได้“ถามอะไรแบบนี้เล่า”นิชารู้ว่าณดาพูดหมายถึงอะไรเธอก็ไม่อยากจะพูดเหมือนกันว่าตอนนั้นเธอดันดื่มหนักไปหน่อย“ฮ่าๆๆ”ทั้งณดาและหนามเตยต่างก็หัวเราะให้กับอาการเขินของเพื่อนเธอทั้งดีใจกับนิชาด้วยที่จะมีครอบครัวสมบูรณ์เสียที“ฉันไปก่อนนพวกแก”หลังจากหัวเราะได้ไม่นานณดาก็เกิดอาการน้ำตาคลอดเพราะคิดว่าไม่รู้จะได้มาหัวเราะกับเพื่อนเธอแบบนี้อีกเมื่อไร“ร้องทำไมเล่า...เดี่ยวก็เจอกันน่า”หนามเตยและนิชารีบสวมกอดณดาก่อนที่พวกเธอจะร้องตามเพื่อนเธอไปอีกคนก่อนไปเธออยากให้มีแต่รอยยิ้มมากกว่าน้ำตา“สาวๆนี่คงคิดถึงกันน่าดูนะครับ”ธีรธรมองสามสาวก็รู้ว่าทั้งสามคงจะรักกันมากๆ“ดีใจด้วยนะครับพ่อเลี้ยง..”อคิณพยักหน้าเขาแอบสงสารณดาเหมือนกันที่ต้องจากที่นี่ไ
“เคท”“พี่คริส”เมื่อหญิงสาวกำลังจะเดินหน้าเข้าห้องนอนของเธอก็ต้องหันหลังกลับเพราะได้ยินเสียงของคนที่เธอนั่งรอกลับมาทำให้ตอนนี้เธอใจชื้นขึ้นมาทันที“โทษทีนะที่พี่กลับดึกไปหน่อย..พอดีงานยุ่งๆน่ะ”วันนี้งานของเขาค่อนข้างยุ่งไม่รู้สึกผิดนิดหน่อยที่ไม่ได้โทรบอกเธอก่อนตอนนี้เธอยังไม่นอนคิดว่าเธอคงต้องรอเขาอยู่เป็นแน่“ค่ะ..พี่คริสทานอะไรมาหรือยังคะ”“พี่ทานมาแล้วหละ..เคทล่ะทานหรือยัง”เขาหวังว่าเธอคงจะทานข้าวเย็นก่อนที่เขาจะกลับมาไม่อย่างนั้นเขาคงจะต้องรู้สึกผิดไปมากกว่านี้แน่“เอ่อ...ทานเรียบร้อยแล้วค่ะ..ขอตัวนะคะ”เคทเธอรีนเห็นชายหนุ่มกลับมาเหนื่อยแล้วไม่อยากให้เขาไม่สบายใจเรื่องเธออีกจึงไม่ได้บอกเรื่องจริงไปพร้อมขอตัวเขาเข้าห้องทันทีเมื่อเห็นเขากลับมาเธอก็โอเคแล้ว“อืม..ฝันดีนะ”เช้าวันต่อมา“อ้าว..เคทจะไปไหนแต่เช้า”วันนี้เป็นวันหยุดของคริสโตเฟอร์เขากำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ในช่วงเช้าพลันเห็นหญิงสาวแต่งตัวถือกระเป๋าก็ต้องถามว่าเธอจะไปไหน“เคทจะไปสมัครงานค่ะ...ไม่อยากอยู่รบกวนพี่คริสนาน”เคทเธอรีนคิดเอาไว้แล้วว่าเธอจะหาสมัครงานแล้วก็มีบางที่ที่เธอยื่นสมัครเอาไว้โทรนัดสัมภาษณ์พอดีเธอคิดว่าเมื
“คุณอย่าทำแบบนี้ได้ข่าวว่าคุณกำลังจะแต่งงานไม่ใช่เหรอ” คริสโตเฟอร์พยายามถอยห่างจากตัวของพริมาที่กำลังทำรุ่มร่ามกับเขาอยู่แต่ดูท่ามือของเธอจะเหนียวน่าดูเล่นเกาะเขาไม่ปล่อยขนาดนั้น“พรีมยกเลิกงานแต่งไปแล้วพรีมลืมคุณไม่ได้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะนะ”พริมมาพยายามพูดให้เธอนั้นมีโอกาสที่จะกลับมาคบหากับเขาอีกที่งานแต่งของเธอถูกยกเลิกก็เพราะความไม่พอของตัวเธอเองที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วก็ยังเที่ยวไปกับผู้ชาบอื่นไม่ซ้ำหน้า“พี่คริสคะ”เคทเธอรีนเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มหมายจะบอกข่าวดีกับเขาให้ได้ยินแต่ภาพตรงหน้าคือชายหนุ่มกำลังนัวเนียกับผู้หญิงอีกคนใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่ปรับเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงโดยทันควัน“เคท”คริสโตเฟอร์ไม่อยากจะเชื่อว่าอะไรมันจะเหมาะเจาะที่หญิงสาวกลับมาเวลานี้เวลาที่เขาไม่อยากให้เธอเห็นภาพแบบนี้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว“เอ่อ..”เคทเธอรีนรีบเดินเข้าห้องของเธอทันทีเพราะเธอคิดว่าเธอคงจะมาขัดจังหวะความสุขของเขาแต่ใครจะรู้ว่าภาพเมื่อครู่ทำลายความสุขของเธอตอนนี้ไปเกือบหมด“เคท..เคท..คุณกลับไปได้แล้วแล้วก็เลิกพูดแบบนี้ได้แล้วเราจบกันไปนานแล้ว”คริสโตเฟอร์จำต้องเสียมรยาทลากหญิงสาว
ทางด้านคริสโตเฟอร์“นี่ครับคุณผู้หญิง”เคทเธอรีนกำลังนั่งรออาหารอยู่ดีๆก้มีพนักงานถือช่อกุหลาบช่อโตมาให้เธอ“เอ่อ...ของฉันเหรอคะ”หญิงสาวรับมาอย่างเงอะๆงะๆ“ครับ”“พี่คริส”เมื่อ่เปิดอ่านการ์ดก็รู้ทันทีว่าเป็นของใคร“พี่ให้เป็นของขวัญยินดีที่เคทได้งาน”“ขอบคุณนะคะ”หญิงสาวอมยิ้มเล็กน้อยแอบคิดว่าหากเขาให้เธอเนื่องในโอกาสอื่นก็คงจะดี3 วันต่อมาโรงแรมXXXXวันนี้เป็นวันทำงานวันที่สองของเคทเธอรีนเธอสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานทุกคนได้ดีและวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอต้องลุยงานข้างนอกกับนุจรีเพราะเธอต้องมาคุยงานกับเจ้าของโรงแรมดังที่จะจ้างให้พวกเธอจัดงานในเดือนหน้า“งานแรกตื่นเต้นไหม”เมื่อมาถึงหน้าโรงแรมนุจรีแอบเห็นเคทเธอรีนประหม่าเล็กน้อยจึงถามด้วยความที่เคยเป็นมาก่อน“ตื่นเต้นค่ะ”เคทเธอรีนพยักหน้าหงึกหงักทำไมเธอจะไม่ตื่นเต้นมันเป็นงานแรกของเธอนี่นา“สูดหายใจเข้าลึกๆ...ไปลุยกันเลย”นุจรีพยายามให้หญิงสาวเรียกพลังมาให้มากที่สุดเพราะเหตุการณ์ต่อไปจะต้องเข้าไปคุยกับลูกค้าแล้ว5นาทีต่อมา“คุณวิชิตออยู่ข้างในแล้วค่ะคุณนุจรี”“ค่ะ”สองสาวขึ้นลิฟท์มาที่ชั้นบนสุดของโรงแรมเมื่อมาถึงก็มีพนักงานสาวซึ่งน่
“แค่นี้ใช่ไหมคะที่คุณจะพูด”คำบางคำมันทำให้เคทเธอรีนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวจึงรีบพูดตัดบทอีกฝ่ายแล้ว“..........”พริมมาพยักหน้าอย่างพอใจ“.........”เมื่อพริมมาไม่ได้ถามอะไรเธอต่อเคทเธอรีนจึงรีบลุกแล้วเดินออกไปจากห้องนี้ทันที“มาแล้วเหรอ...ไปกลับกันเถอะ”“ค่ะ...”“มีอะไรหรือเปล่า”“เปล่าค่ะพี่นุช..แค่คุณพรีมอยากให้งานออกมาดีแค่นั้นค่ะ”“..........”นุจรีเห็นสีหน้าของเคทเธอรีนเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องแค่นั้นแต่แค่ไม่อยากถามอะไรต่อเท่านั้นเองแอบคิดในใจว่าสองคนนี้อาจจะมีปัญหาอะไรกันมาก่อนเป็นแน่เย็นของวันเพนท์เฮ้าส์“เคทเป็นอะไรหรือเปล่าเห็นซึมๆตั้งแต่กลับมาแล้วที่ทำงานมีปัญหาเหรอ”คริสโตเฟอร์เห็นหญิงสาวหน้าไม่สบอารมณ์ตั้งแต่ลับมาแล้วเมื่อนั่งทานข้าวเย็นด้วยกันจึงถือโอกาสนี้ถามเธอเสียเลยเพราะเธอเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เขาไม่สบายใจไปด้วย“เอ่อ...ไม่มีค่ะ..แค่เคทเหนื่อยๆ”เคทเธอรีนเลี่ยงที่จะพูดตอบเรื่องในใจที่ทำให้เธอมีอาการเป็นแบบนี้“งั้นทานเยอะๆเลยนะ”หากเป็นแค่เหนื่อยเขาก็ไม่ค่อยกังวลเขาพยายามตักอาหารใส่จานเธอเยอะๆเมื่อทานแล้วจะได้หายเหนื่อย“ค่ะ”“พี่คริสคะ”“หืมม”“เ
วันต่อมาโรงแรมXXX20.30 น.“คิณคุณนิดไม่ได้มาด้วยเหรอวะ”คริสโตเฟอร์เดินเข้างานมาก็มองหาเพื่อนของเขาทันทีเพื่อนเขาหาไม่ยากเพราะตัวสูงกว่าใครเค้าเมื่อเจอก็รีบเข้ามาทักทายแต่ก็ไม่ยักจะเห็นภรรยาสุดที่รักของเพื่อนเขามาด้วยจึงถามหาเพราะปกติแล้วสองคนนี้จะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดยกเว้นเวลาทำงานเท่านั้น“ณดลไม่สบายน่ะสิฉันก็เลยมาคนเดียวจะดีกว่า”อันที่จริงณดาก็จะมากับเขาด้วยแต่ติดตรงที่ลูกคนเล็กของเขาดันมาป่วยจึงต้องมาคนเดียว“นีน่าไม่ร้องตามแกเหรอวะ..”“ตอนแรกก็เหมือนจะตามดีหน่อยลูกสาวฉันพูดรู้เรื่อง”“...นีน่าเป็นเด็กน่ารักนะ...ถ้าฉันมีลูกน่ารักอย่างนีน่าก็คงดี”คริสโตเฟอร์ชอบนิสัยของลุกสาวเพื่อนของเขามากเพราะเป็นเด็กที่เข้าใจอะไรง่ายมากเท่าที่เขาเคยเจอมา...หากเขาเลือกได้ก็ยากมีลูกนิสัยเหมือนนีน่าเหมือนกันคงจะไม่เหนื่อยในการเลี้ยงดี“หาแม่ของลูกก่อนเพื่อนอย่าพึ่งมโน”อคิณหันไปยิ้มกริ่มมองหน้าเพื่อนของเขาอย่างกรุ้มกริ่มทั้งยังแซวหยอกให้เพื่อนของเขาหาแม่ให้ได้ก่อนที่คิดจะมีลูก“เออน่า”คริสโตเฟอร์โดนแซวแบบนั้นก็ถึงกับไปไม่เป็นเขามีคนที่มองอยู่แล้วแต่แค่ตอนนี้เขายังไม่กล้าลุยก็เท่านั้นเพราะดูท่
“พี่เคทเป็นยังไงบ้างคะ...เราเข้าไปข้างในกันดีกว่านะคะ”แพรวารีบเข้าไปดึงตัวเคทเธอรีนที่ยืนนิ่งตกใจกับเหตุการณ์เข้าไปด้านในส่วนอคิณกับคริสโตเฟอร์ก็กันนักข่าวไม่ให้ตามเคทเธอรีนเข้าไปเพราะเข้าใจว่านักข่าวคงต้องไปถามหาสาเหตุที่เธอโดนแกล้งเรื่องนี้แน่“เคทเป็นยังไงบ้าง...ทำไมคุณพรีมต้องทำกันขนาดนี้นะ”นุจรีรีบเคลียที่หน้านแล้วรีบเข้ามาหาเคทเธอรีนกับแพรวาไม่เข้าใจว่าพริมมาทำไมต้องทำกับเคทเธอรีนแบบนี้ด้วย“นั่นน่ะสิคะ”แพรวาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันถ้าหากเธอไม่มีหลักฐานช่วยเคทเธอรีนป่านนี้ชื่อเสียงพังป่นปี้หมดตอนนี้เคทเธอรีนเอาแต่นั่งนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกใบหน้าซีดเซียวใจเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นหลุดออกมาอยู่รอมร่อ“เคท”“เคท”เมื่ออคิณและคริสโตเฟอร์เคลียพวกนักข่าวเสร็จก็เดินหาเคทเธอรีนเมื่อเห็นว่าเธอนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวจึงรีบกรูกันเข้ามาดูอาการของเธอ“พี่คริสคะ”เคทเธอรีนเงยหน้ามองคริสโตเฟอร์น้ำตาของเธอตอนนี้ไหลพรากออกมาอย่างห้ามไม่ได้“ไม่เป็นไรนะเคท..”คริสโตเฟอร์เข้าไปสวมกอดปลอบหญิงสาวอย่างเห็นใจและสงสารเธอไม่น่ามาเจอเรื่องอะไรแบบนี้เลยเขาคิดว่าการที่พริมมาทำแบบนี้กับเคทเธอรีนสาเหตุมันน่าจะมาจ