อันชิงเหมยเป็นคู่หมั้นของเสิ่นหว่านอี้ เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักนางมีนางเพียงผู้เดียว ให้รอเขากลับมาเราจะแต่งงานกันทันที ผ่านไป1ปีเสิ่นหว่านอี้ชนะศึกกลับมา แต่เขากลับพาสตรีนางหนึ่งมาด้วย บอกว่านางคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเขาไว้ " ข้าหยางซือหรูเป็นภรรยาของพี่หว่านอี้" นางเจ็บปวดน้ำตาคลอ บุรุษผู้นี้ลืมสิ้นแล้วคำสัญญา มีเพียงนางที่หลงเชื่อคำสัญญาเลื่อนลอยอยู่ผู้เดียว " เหมยเอ๋อ ตำแหน่งฮูหยินเอกยังเป็นของเจ้า ส่วนนางเป็นเพียงฮูหยินรองเท่านั้น เจ้าช่วยเมตตานางหน่อยได้ไหม" " ไม่ต้องให้นางเป็นฮูหยินรองหรอก ให้นางเป็นฮูหยินเอกเถิด ข้าอันชิงเหมยผู้นี้ขอถอนหมั้น ต่อไปเราไม่เกี่ยวข้องกันอีก" อันชิงเหมยเดินไปใกล้หยางซือหรู "บุรุษหน้าบากขาเป๋ผู้นี้ข้ายกให้" ต่อมาชินอ๋องผู้เกรียงไกรกลับมาจากแดนใต้ขอสมรสพระราชทานจากฮ่องเต้ เขาชี้ไปที่นาง " ข้าจะแต่งกับนาง " เสิ่นหว่านอี้ร้อนรนเดินไปขวางหน้าขอร้องนางด้วยนัยตาแดงกร่ำ " เหมยเอ๋อ ให้โอกาสข้าสักครั้งได้ไหม หากข้าเลิกกับซือหรู เจ้าจะยอมกลับไปเป็นฮูหยินของข้าไหม" " ข้าเป็นสตรีใจคอคับแคบ ไม่นิยมใช้แท่งหยกร่วมกับผู้ใด ท่านใช้มันทิ่มแทงสตรีอื่นแล้ว ข้าขยะแขยงนัก"
View More" ท่านแม่ ท่านแม่ทิ้งข้าไปอีกแล้ว"เซี่ยจิ่งเทียนดึงนางเข้ามากอด มือหนาลูบหลังนางเบาๆปลอบโยน" บางทีท่านไม่ได้ทิ้งเจ้าไปไหน ท่านอาจกำลังมองดูเจ้าอยู่ จากที่ไหนสักแห่ง"สตรีชุดแดงยืนอยู่นอกกระท่อมเผยรอยยิ้มบางๆ ภาพในอดีตผุดขึ้น นางเป็นเทพเซียนปลา วันหนึ่งหนีมาเที่ยวเล่นเมืองมนุษย์ได้เจออันซูหลุนบาดเจ็บ หมดสติอยู่ริมน้ำ ลมหายใจรวยรินชีพจรอ่อน หากปล่อยไว้ไม่ถึงชั่วยามเขาต้องตายแน่ จึงใช้พลังช่วยเหลือจนฟื้นคืน แล้วคอยดูแลจนเขาหายดีความใกล้ชิดทำให้เกิดความรักต่อกัน นางจึงติดตามอันซูหลุนกลับไป แล้วใช้ชีวิตด้วยกันจนมีบุตรชายและบุตรสาว แต่เทพกับมนุษย์ไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ ในแต่ละวันที่ผ่านไปบนโลกมนุษย์ พลังเซียนของนางจะค่อยๆลดลง หลังจากคลอดอันชิงเหมยพลังเซียนของนางก็ลดน้อยลงจนเกือบหมดไป หากพลังหมดนางจะต้องคืนร่างเป็นปลาตลอดชีวิตกลับไปเป็นเทพเซียนไม่ได้อีกแต่เพื่อความรักที่มีต่อสามีและลูกๆ เพื่อให้อยู่กับพวกเขานางยอมสละพลังที่มีอยู่ทั้งหมด จนอันชิงเหมยได้4หนาว พี่สาวของนางได้ตามตัวนางจนเจอและพานางกลับไป ตอนนั้นนางกำลังจะคืนร่างเป็นปลาจึงทำให้นางต้องจากพวกเขาไปโดยไม่มีแม้คำบอกลา จิ่งหย
" คุณหนูไม่เห็นต้องมาเองให้ลำบากเลยนะเจ้าคะ ให้ข้ามาคนเดียวก็ได้"" ข้าอยากรู้เร็วๆว่าพวกมันตายรึยัง ได้ยินเองกับหูมันรู้สึกดีกว่าฟังจากปากเจ้าเป็นไหนๆ ใกล้ถึงหรือยังเนี่ย"" เจ้าค่ะๆ ใกล้แล้วเจ้าค่ะอีกนิดเดียว นู่นไงเจ้าค่ะทางชายป่าด้านนู้น"รออยู่สักพักก็ไม่เห็นวี่แววของนักฆ่าโผล่มาสักคน" ไหนหล่ะไม่เห็นมีใครโผล่หัวมา เจ้าแน่ใจนะว่านัดพวกมันที่นี่"" แน่ใจเจ้าค่ะ รออีกนิดเถอะเจ้าค่ะ มันต้องมาเอาเงินอีกครึ่งแน่"" หรือพวกมันจะตายกันหมดแล้ว"" เป็นไปไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ นักฆ่ามีเป็นสิบแต่พวกนั้นมีแค่4คน คนที่มีวรยุทธ์มีเพียงแค่คุณชายเซี่ยคนเดียว ต่อให้เก่งยังไงถูกนักฆ่าเป็นสิบรุมขนาดนั้นยังไงก็ไม่รอดหรอกเจ้าค่ะ"" ให้จริงอย่างที่เจ้าพูดเถอะ"" ว้าว เทพธิดาที่ไหนเนี่ย มายืนอยู่ที่เปลี่ยวแบบนี้"พวกขอทานสี่คนเดินตรงเข้ามาจ้องมองฮวาจื่อกับชิงชิงด้วยสายตาหื่นกระหาย ชิงชิงดึงฮวาจื่อไปไว้ข้างหลังนาง" อย่าเข้ามานะไอ้พวกขอทานสกปรก ไปให้พ้น"" บอกว่าอย่าเข้ามาไงหล่ะ นี่คือคุณหนูฮวาจื่อบุตรสาวของท่านเจ้าเมืองนะ"" โอ๊ะ ที่แท้ก็เป็นบุตรสาวท่านเจ้าเมืองนี่เอง"" รู้แล้วก็ไสหัวไปให้ไกลๆ ขอทานสกปรกอย
" เจ้า เจ้าโกหก ไม่จริง "" ข้าพูดความจริงขอรับ"" ไม่จริง ไม่จริง กรี๊ดดดดด"ยามอู่ บ่าวรับใช้วิ่งเข้ามา" ฮูหยินขอรับคุณชาย คุณชายเซี่ยกับคุณหนูอันกำลังจะไปจากที่นี่แล้วขอรับ"เฮ่อหลันที่กำลังจิบชาตกใจจนจอกชาหลุดมือรีบลุกออกไปทันที ไปถึงหน้าจวนเห็นเซี่ยจิ่งเทียนกำลังประคองพาอันชิงเหมยขึ้นรถม้า" ช้าก่อน จิ่งเทียนเหตุใดต้องทำเช่นนี้ พวกเจ้าจะไปก็ไปไม่คิดจะบอกกล่าวข้าสักคำไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาเลยรึ"" ข้าได้ฝากบ่าวรับใช้ไปบอกท่านแล้ว ก่อนหน้าข้าช่วยท่านเอาไว้ ท่านให้ที่พักแก่พวกข้าก็ถือว่าเราไม่มีอะไรติดค้างกัน"" จิ่งเทียน ข้ารู้ว่าข้าผิด ข้ายอมรับว่าข้าให้คนจุดกำยานปลุกกำหนัด แล้วลวงเจ้าไปที่ห้อง แต่ข้า ข้าหวังดีกับเจ้า อยากให้เจ้าได้มีคู่ครองที่ดี คุณหนูฮวาเหมาะสมกับเจ้าที่สุด"เซี่ยจิ่งเทียนกุมมืออันชิงเหมยแน่นมองเฮ่อหลันด้วยสายตาแข็งกร้าว" ท่านมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินว่าใครเหมาะสมไม่เหมาะสมกับข้า เรื่องส่วนตัวของข้าใครก็ไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย ภรรยาของข้าข้าเลือกเองได้ ต่อให้พ่อบุญธรรมของข้ายังอยู่ หรือแม้กระทั่งพ่อแม่แท้ๆของข้ายังอยู่ พวกเขาก็จะไม่หักหาญน้ำใจบังคับข้า แล้วท่านหล่ะท่า
" ข้าขอโทษ แต่ข้าช่วยท่านไม่ได้จริงๆ "" ไม่ ไม่ต้องขอโทษ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เป็นข้าที่ไม่ระวังเอง"" มีวิธีอื่นอีกไหม"เซี่ยจิ่งเทียนส่ายหน้า เขาทรุดตัวนั่งลงกับพื้นกอดตัวเองด้วยความทรมาน" เจ้าไปซะ ก่อนที่ข้าจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ข้าขออยู่ที่นี่ก่อน เพราะข้ากลับไปที่ห้องตัวเองไม่ไหวแล้ว"" พี่เซี่ยข้า ข้าจะออกไปหาวิธีช่วยท่าน"เสียงประตูปิดลง เซี่ยจิ่งเทียนมองไปที่ประตูด้วยความผิดหวังแววตาเศร้าสร้อยแล้วลุกขึ้นยืน อาการก่อนหน้าที่มีหายไปหมด ความจริงเขาไม่ได้เป็นอะไรเลย ยาปลุกกำหนัดแบบไหนก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เขาฝึกวรยุทธ์ตั้งแต่เด็กกับอาจารย์ฝู พอ15ปีอาจารย์ฝูได้ฝังยาวิเศษเข้ากับร่างกายของเขา ไม่ว่าจะเป็นยาปลุกกำหนัดหรือมนต์ดำไสยศาสตร์ใดๆก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้ เสียงฝีเท้ารีบเร่งใกล้เข้ามา เขารีบวิ่งไปนอนขดตัวบนเตียง อันชิงเหมยเปิดประตูเข้ามาเดินเข้าไปหา" เจ้า กลับมาทำไม"" พี่เซี่ย ข้ารู้ว่าท่านทรมาน ข้า ข้าจะช่วยท่านเอง"" เจ้า เจ้าพูดว่าอะไรนะ"" ข้าจะช่วยท่าน"" จะไม่เสียใจภายหลังใช่ไหม"อันชิงเหมยพยักหน้า เซี่ยจิ่งเทียนรีบคว้าตัวนางมาบดจูบอย่างหื่นกระหาย แล้วขึ้นคร่อมนางซุกไซร
เห็นท่าทีเย็นชาของเซี่ยจิ่งเทียน เฮ่อหลันก็เจ็บปวดใจ นางต้องทำทุกวิธีเพื่อให้เขาอยู่กับนาง เป็นทายาทสืบทอดสกุลให้ได้ ส่วนเรื่องภรรยาของเขา ยังไงก็ต้องเป็นสตรีที่เพียบพร้อมเป็นคุณหนูสูงศักดิ์ชาติตระกูลดี ไม่มีทางที่นางจะยอมรับอันชิงเหมย ลำพังเคยมีสามีผ่านการหย่าร้างมาก็ทำใจยอมรับยากอยู่แล้ว ยังจะเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าอีก แต่ตอนนี้นางต้องตามน้ำไปก่อน แล้วค่อยคิดหาทางอีกที" ก็ได้ หากเจ้าจะไปจริงๆข้าก็ไม่ขัดขวางแต่อีกไม่กี่วันจะเป็นวันเกิดครบรอบ68ปีของข้า ข้าอยากให้พวกเจ้าอยู่ร่วมงานของข้าก่อนแล้วค่อยไป ได้ไหม"เห็นอันชิงเหมยตอบตกลงเซี่ยจิ่งเทียนก็คล้อยตาม เฮ่อหลันก็ยิ้มทั้งน้ำตามองดูทั้งสองเดินจากไปก่อนจะยกมือขึ้นมาซับน้ำตา ไม่ใช่วันเกิดอะไรของนางทั้งนั้นแหละ นางแค่หาทางถ่วงเวลาก็เท่านั้น" ฮูหยินเจ้าคะวันเกิดปลอมๆของฮูหยินจะกำหนดขึ้นอีกกี่วันดีเจ้าคะ"" อีก3วันข้างหน้า"" แค่3วันเองจะทันคิดแผนหรือเจ้าคะ "" ไม่ต้องคิด ข้ามีแผนเอาไว้แล้ว เดี๋ยวเจ้าไปนัดคุณหนูฮวาให้ข้า ให้ไปพบกันที่ร้านน้ำชาที่เดิม"" เจ้าค่ะฮูหยิน"" คุณหนู ท่านไม่น่าอยู่ต่อเลยดูก็รู้ว่าฮูหยินเฮ่อไม่น่าไว้ใจ ข้าว่าเร
" เฮ่อฮูหยินเรียกข้า ไม่ทราบมีเรื่องอันใด"" จิ่งเทียน ทำไมไม่ยอมเรียกป้าสักทีหล่ะ "เห็นสีหน้าเย็นชาของเขาเฮ่อหลันก็ไม่เซ้าซี้ไม่เรียกป้าก็ไม่เป็นไร จะเรียกอะไรก็ช่าง ยังไงเขาก็เป็นหลานของนาง ต้องอยู่กับนางที่นี่ตลอดไป แม้เขาไม่เต็มใจอยู่นางก็จะทำให้เขาอยู่" เอาหล่ะ ช่างเถอะ จิ่งเทียนนี่คุณหนูฮวาจื่อบุตรสาวคนเล็กของท่านเจ้าเมือง คุณหนูฮวา นี่ไงหลานชายของข้าที่เล่าให้ฟัง เซี่ยจิ่งเทียน"ฮวาจื่อหันมามอง เห็นบุรุษสีหน้าเย็นชาที่เหลือบมองนางด้วยหางตา อกข้างซ้ายก็เกิดเต้นแรงขึ้นมา รูปงามอย่างที่เฮ่อหลันบอกไม่มีผิด สง่างามราวกับเทพเซียนน่าเกรงขามน่าหลงใหลเป็นที่สุด แต่พอมองลงไปข้างล่างเห็นมือของเขากอบกุมมือของสตรีที่ยืนข้างๆก็ขมวดคิ้ว สตรีนางนี้เป็นใครกัน ไหนเฮ่อหลันบอกว่าเขายังไม่ได้แต่งงานไง ทำไมมายืนกุมมือกันแบบนี้" ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าแม่นางท่านนี้"" นางเป็นแค่สหายของจิ่งเทียนเท่านั้น"เฮ่อหลันรีบตอบแทน อันชิงเหมยพยายามจะเอามือออกแต่เซี่ยจิ่งเทียนยิ่งกุมมือแน่นทั้งห้านิ้วสอดประสานกับนิ้วของนาง" หากไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัวก่อน"ฮวาจื่อมองตามเซี่ยจิ่งเทียนด้วยความเสียดาย
วันต่อมาเฮ่อหลันสั่งให้ทำอาหารเต็มโต๊ะเพื่อเลี้ยงฉลองที่นางได้พบเจอหลานชายเพียงคนเดียว นางคีบอาหารใส่ถ้วยให้เซี่ยจิ่งเทียนอย่างเอาอกเอาใจ เดิมทีนางคิดว่าชาตินี้คงไม่มีผู้สืบทอดสกุลแล้ว แต่สวรรค์ก็เมตตานาง ส่งเซี่ยจิ่งเทียนมาให้นาง ไม่ว่าต้องทำยังไง นางก็จักหาวิธีให้เขาอยู่กับนางที่นี่ตลอดไปให้ได้เซี่ยจิ่งเทียนมองดูอาหารที่ล้นชามจนมองไม่เห็นข้าว จึงรีบหยุดเฮ่อหลัน ก่อนที่นางจะคีบอาหารมาให้เขาอีก" พอเถอะ แค่นี้ข้าก็กินไม่หมดแล้วท่านกินเถอะข้าคีบเองได้"" ฮ่าฮ่า ข้าแค่ดีใจมากไปหน่อยที่สวรรค์ส่งหลานชายมาให้ข้า ต่อไปนี้สกุลของข้าก็มีผู้สืบทอดแล้ว เจ้าเปลี่ยนมาใช้แซ่เฮ่อดีไหม"เซี่ยจิ่งเทียนถือตะเกียบค้างจ้องมองเฮ่อหลันด้วยแววตาเย็นชา เขาไม่มีวันเปลี่ยนแซ่เด็ดขาด กำลังจะบอกว่าเขาไม่ใช่บุตรแท้ๆของเซี่ยอันเหอ แต่เป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้งถูกขายเป็นทาสแรงงาน ที่เซี่ยอันเหอซื้อเขามา แล้วรับเป็นลูกบุญธรรมแต่เฮ่อหลันก็พูดขึ้นมาก่อน" บุรุษเปลี่ยนแซ่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ข้าลืมคิดเรื่องนี้ ไม่เป็นไรงั้นข้าจะเปลี่ยนกลับไปใช้แซ่เดิมเอง ทีนี้เราก็จะแซ่เซี่ยเหมือนกันแล้วเจ้าก็จะได้สืบทอดสกุลเซี่ยได้โดยไม่
" เดี๋ยวนะ เมื่อกี้แม่นางเรียกพี่เซี่ย ท่านแซ่เซี่ยหรือ แล้วยังมาจากแดนใต้อีก ท่านชื่ออะไร"" ข้าแซ่เซี่ยชื่อจิ่งเทียน"" ท่านรู้จักชายที่ชื่อเซี่ยอันเหอหรือไม่ เขาเป็นทหารอยู่ที่ชายแดนใต้"เซี่ยจิ่งเทียนสีหน้าเย็นชาจ้องหน้าหญิงชราตรงหน้าไม่พูดอะไร เฮ่อหลันรู้สึกผิดหวังนางคงจะคิดไปเอง คนแซ่เดียวกันมีตั้งมากมายคงไม่ใช่อย่างที่นางคิดหรอก แต่แล้วเมื่อได้ยินคำตอบจากเซี่ยจิ่งเทียนจอกน้ำชาในมือถึงกับร่วงหล่น" เซี่ยอันเหอเป็นบิดาของข้าเอง ท่านเคยเป็นรองแม่ทัพอยู่ในค่ายต้าเป่ยที่ชายแดนใต้"" งั้นเจ้า เจ้าก็ "เฮ่อหลันลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเซี่ยจิ่งเทียนเอื้อมมือจะสัมผัสเขาแต่ก็ชักมือกลับ" หยูเยี่ยนเจ้าไปเอาภาพวาดที่อยู่ข้างในหีบในห้องของข้ามา รีบไปเร็ว"หยูเยี่ยนบ่าวรับใช้ชราวัยใกล้กัน รีบสาวเท้าเดินออกไป" เมื่อครู่เจ้าบอกว่าเขาเคยเป็นรองแม่ทัพเหรอ ดี ดีจริงๆ เคยเป็นถึงรองแม่ทัพตอนนี้เขาคงลาออกไปพักผ่อนแล้วสินะ อายุเยอะแล้ว กรำศึกมามากถึงเวลาพักผ่อนแล้ว"" ท่านเสียชีวิตในสนามรบตั้งแต่ข้ายังเด็ก"เฮ่อหลันเซแทบทรุด อันชิงเหมยประคองพาไปนั่งที่เก้าอี้" เจ้า เจ้าว่าเขาตายแล้วงั้นเหรอ โธ่น้องชายขอ
หลายเดือนผ่านไป ไม่ว่าจะค้นหาเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววของอันชิงเหมย สวี่หานจำต้องกลับแดนใต้ แม่ทัพที่ท่าทางองอาจน่าเกรงขาม บัดนี้กลับผอมโซ หน้าตอบผิวดำคล้ำแววตาเศร้าหมอง เขาลงจากหลังม้าอย่างร่างไร้วิญญาณ เดินโซเซเข้าไปในจวน หลายเดือนที่ผ่านมาเขาออกตามหาอันชิงเหมยไปทั่วแต่ก็ไม่พบ เขาทรุดตัวนั่งลงบนเตียงของเขากับนาง กอดหมอนที่นางหนุนนอน กลิ่นหอมอ่อนๆของนางยังคงติดอยู่บนหมอน ด้วยความเหนื่อยล้าสะสม บวกกับที่ไม่ได้กินไม่ได้นอนมาหลายวันหลายคืนติดกันจึงเผลอหลับไป อันชิงเหมยยืนร้องไห้อยู่ริมหน้าผา สวี่หานรีบเข้าไปหา นางหันมามองด้วยแววตาตัดพ้อน้ำตาอาบสองแก้ม" ท่านไม่รักข้าแล้ว "" ไม่จริง เหมยเหมยข้ารักเจ้า รักเจ้าแค่คนเดียว"" รักข้า รักข้าแล้วทำไมไม่อยู่กับข้า ทำไมถึงไปดูแลหญิงอื่น"" ข้าขอโทษ เหมยเหมยอย่า ออกมาจากตรงนั้นมันอันตราย มาหาข้า เหมยเหมยมานี่"" เพราะท่าน ท่านทำให้ลูกของข้าต้องตาย เพราะท่าน"" ข้าขอโทษ ข้าผิดต่อเจ้า ผิดต่อลูกของเรา ข้าขอโทษ "" ข้าเกลียดท่าน ถึงต่อให้ข้าตายท่านก็ไม่มีวันได้เจอศพข้า"อันชิงเหมยหันหลังกลับกระโดดหน้าผาลงไป" ไม่ เหมยเหมย ไม่"สวี่หานสะดุ้งตื่นขึ้น น้ำต
"คุณหนู คุณหนูเจ้าขา" เสียงสาวใช้คนสนิทร้องเรียกมาแต่ไกล จนอันชิงเหมยที่กำลังปักถุงหอมอยู่ ต้องละสายตาเงยหน้าขึ้นมามอง" มีอะไร แล้วทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาอย่างนั้นเล่า วิ่งเร็วแบบนั้น เดียวก็หกล้มหรอก "" ข่าวดี ข่าวดีเจ้าค่ะคุณหนู ท่านรอง ท่านรองแม่ทัพ กลับมาแล้วเจ้าค่ะ ตอนข้าไปตลาดขบวนเคลื่อนผ่าน เห็นท่านรองแม่ทัพนั่งอยู่บนหลังม้า ผู้คนแห่ไปต้อนรับกันเยอะแยะไปหมดเลยเจ้าค่ะ นี่ขบวนก็น่าจะใกล้ถึงจวนของเราแล้ว " ซีหว่านพูดไปหอบก็หอบไปเสิ่นหว่านอี้ ท่านกลับมาแล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไม ถึงไม่ส่งจดหมายมาบอกข้าก่อน หรือว่าเขาต้องการให้ข้าแปลกใจนะนึกถึงอดีต เสิ่นหว่านอี้เป็นเพียงนายกองเล็กๆ แต่เพราะสร้างผลงานในการรบครั้งก่อน นำกองกำลังบุกตีฝ่าวงล้อมข้าศึก ไปช่วยกองทัพเอาไว้ได้ทัน ทำให้ได้รับชัยชนะ แต่ศึกครั้งนั้นก็ทำให้รองแม่ทัพฟู่ต้องตาย ส่วนแม่ทัพอันบิดาของนาง ก็ได้เขารับคมหอกคมดาบแทน จนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสหนัก นอนรักษาตัวอยู่แรมเดือน ขาของเขาถูกตัดเส้นเอ็นขาดไปบางส่วน แม้จะหายดีแต่ก็ไม่เหมือนเดิม ขาของเขาเวลาเดินก็จะกะโผลกกะเผลกด้วยความชอบของเขาในครั้งนั้น กอปรกับตำแหน่งรองแม่ทัพว่าง ...
Comments