อันชิงเหมยเป็นคู่หมั้นของเสิ่นหว่านอี้ เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักนางมีนางเพียงผู้เดียว ให้รอเขากลับมาเราจะแต่งงานกันทันที ผ่านไป1ปีเสิ่นหว่านอี้ชนะศึกกลับมา แต่เขากลับพาสตรีนางหนึ่งมาด้วย บอกว่านางคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเขาไว้ " ข้าหยางซือหรูเป็นภรรยาของพี่หว่านอี้" นางเจ็บปวดน้ำตาคลอ บุรุษผู้นี้ลืมสิ้นแล้วคำสัญญา มีเพียงนางที่หลงเชื่อคำสัญญาเลื่อนลอยอยู่ผู้เดียว " เหมยเอ๋อ ตำแหน่งฮูหยินเอกยังเป็นของเจ้า ส่วนนางเป็นเพียงฮูหยินรองเท่านั้น เจ้าช่วยเมตตานางหน่อยได้ไหม" " ไม่ต้องให้นางเป็นฮูหยินรองหรอก ให้นางเป็นฮูหยินเอกเถิด ข้าอันชิงเหมยผู้นี้ขอถอนหมั้น ต่อไปเราไม่เกี่ยวข้องกันอีก" อันชิงเหมยเดินไปใกล้หยางซือหรู "บุรุษหน้าบากขาเป๋ผู้นี้ข้ายกให้" ต่อมาชินอ๋องผู้เกรียงไกรกลับมาจากแดนใต้ขอสมรสพระราชทานจากฮ่องเต้ เขาชี้ไปที่นาง " ข้าจะแต่งกับนาง " เสิ่นหว่านอี้ร้อนรนเดินไปขวางหน้าขอร้องนางด้วยนัยตาแดงกร่ำ " เหมยเอ๋อ ให้โอกาสข้าสักครั้งได้ไหม หากข้าเลิกกับซือหรู เจ้าจะยอมกลับไปเป็นฮูหยินของข้าไหม" " ข้าเป็นสตรีใจคอคับแคบ ไม่นิยมใช้แท่งหยกร่วมกับผู้ใด ท่านใช้มันทิ่มแทงสตรีอื่นแล้ว ข้าขยะแขยงนัก"
View Moreหว่านลู่ซือมองเห็นนางยืนอยู่ก็แสร้งสำลัก สวี่หานใช้แขนเสื้อตัวเองเช็ดปากให้นาง" ไม่เป็นไรนะค่อยๆกิน "" พระชายา "สวี่หานหันขวับมา เห็นอันชิงเหมยยืนมองอยู่ก็ตกใจแทบทำถ้วยยาตก เขาวางถ้วยยาแล้วรีบเดินมาหานาง" เหมยเหมยทำไมถึงมาอยู่ที่นี่หล่ะ "" ข้ามาขัดจังหวะพวกท่านรึ"" เปล่า เหตุใดจึงพูดเช่นนั้น นางเอาตัวบังลูกธนูแทนข้า ข้าก็แค่ช่วยดูแลนาง "" อืม งั้นท่านก็ดูแลนางต่อไปเถอะข้าขอตัว"อันชิงเหมยหันหลังเดินออกไปด้วยใจที่เจ็บปวด สวี่หานจะตามนางออกไป" โอ้ย ท่านอ๋องข้า "เขารีบหันหลังกลับไปประคองหว่านลู่ซือ" เจ้าเป็นอะไร "" ข้าปวดแผล "" แล้วเจ้าจะลุกทำไม ทำไมไม่นอนนิ่งๆ"" ข้าแค่จะลุกไปเอาน้ำ ข้ากระหายน้ำ"" เดี๋ยวข้าไปเอามาให้ เจ้านอนนิ่งๆอย่าขยับ"อันชิงเหมยเดินน้ำตาคลอ นางไม่ได้กลับกระโจมที่พักแต่กลับควบม้าออกไป เซี่ยจิ่งเทียนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขารีบควบม้าตามนางไปทันทีอันชิงเหมยหยุดม้ามองไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย เซี่ยจิ่งเทียนตามมาเห็นนางอยู่ไม่ไกลก็หยุดม้ามองนางอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้นางได้อยู่คนเดียว ผ่านไปสักพักเขาก็เข้าไปหานาง" ชิงเหมย อย่าคิดมากเลย หว่านลู่ซือช่วยชีวิตชินอ๋อง
" เฮ้อ ข้าคิดว่าจะได้เข้าป่าไปล่าสัตว์ซะอีกกลับต้องมาคอยเฝ้าอารักขาสตรีอยู่หน้ากระโจมนี่"" เจ้าพูดอะไรเช่นนั้น อยากโดนลงโทษเรอะ สตรีที่เจ้าว่านั่นหน่ะเป็นพระชายาของชินอ๋องนะ"" เหอะ พระชายาแล้วยังไง เป็นพระชายาอ่อนแอไร้ประโยชน์ไม่รู้จะมาให้เป็นภาระทำไม สู้แม่นางหว่านก็ไม่ได้ ทั้งงดงามทั้งมากความสามารถ วิชาแพทย์ก็สูงส่งขี่ม้ายิงธนูก็ยอดเยี่ยม ทุกคนใครไม่รู้บ้างว่าแม่นางหว่านคือสตรีคนเดียวที่ใกล้ชิดกับชินอ๋องมากที่สุด ทั้งยังเป็นสหายกันตั้งแต่วัยเด็ก ใครๆต่างก็พูดว่าแม่นางหว่านคือว่าที่พระชายาของชินอ๋อง แต่ใครจะรู้อยู่ๆชินอ๋องก็แต่งงานกะทันหันกับสตรีที่ไร้ความสามารถ สู้แม่นางหว่านไม่ได้สักนิด ไม่รู้ชินอ๋องคิดอะไรอยู่"" นั่นหน่ะสิ หรือว่าชินอ๋องจะหลงใหลในความงามของนางแค่ชั่วครั้งชั่วคราว"" ถ้าอย่างงั้นอีกไม่นานก็คงจะเบื่อแล้วก็คงทอดทิ้ง"" ข้าว่าไม่ใช่อย่างที่พวกเจ้าทั้งสองพูด ชินอ๋องเดินทางไกลกลับเมืองหลวงเพื่อขอสมรสพระราชทานกับนางโดยเฉพาะ ทหารที่ไปเมืองหลวงด้วย ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชินอ๋องทั้งรักทั้งหลงพระชายาอย่างกับอะไรดี ก่อนหน้านี้ได้ข่าวว่าพวกบ่าวรับใช้ที่จวนที่ไม่ให้คว
แม้สวี่หานจะพูดแบบนั้นแต่อันชิงเหมยก็เห็นความสับสนในแววตาของเขา " ท่านไม่ต้องห่วง ข้าดูแลตัวเองได้"" ข้าอยู่ใกล้ๆไม่ให้เหมยเหมยมีอันตรายแน่นอน "เดินทางไม่นานก็ถึงที่หมายพวกทหารช่วยกันตั้งกระโจมที่พัก สวี่หานไปประชุมหารือเรื่องกำหนดการล่าสัตว์ที่มีในวันพรุ่ง อันชิงเหมยรู้สึกโดดเดี่ยว ซีหว่านไม่สบายกะทันหันเลยไม่ได้มากับนางด้วย " เดินทางเหนื่อยหรือไม่"" พี่จิ่งเทียน"" ข้าเห็นทางนั้นมีลำธารน้ำใสเห็นตัวปลาด้วย"" ข้าอยากไปดูสักหน่อย"เซี่ยจิ่งเทียนพานางไปที่ลำธาร นางมองดูธารน้ำใสแจ๋วไหลเอื่อยๆ มองเห็นปลาตัวเล็กๆแหวกว่ายไปมา " ว้าว น้ำใสเห็นตัวปลาจริงๆด้วย"เพราะมัวแต่ดูปลาเลยไม่ทันเห็นว่าเซี่ยจิ่งเทียนไปเอาไม้แหลมมาจากที่ไหน หันไปดูก็เห็นเขาเงื้อไม้เเหลมกำลังจะแทงปลา นางร้องห้ามสุดเสียง" อย่า "เซี่ยจิ่งเทียนชะงัก " ท่านจะทำอะไร"" ข้า ข้าแค่จะหาปลามาย่างให้เจ้ากิน"" ไม่ ข้าไม่กินปลาท่านห้ามทำร้ายพวกมัน"" ได้ ได้ข้าไม่ทำร้ายพวกมันไม่จับมันแล้ว "เขาโยนไม้แหลมทิ้งไป มองดูหน้าของนางที่น้ำตาคลอ สวี่หานกลับมาจากการหาลือ เขาครุ่นคิดถึงคำเตือนของทุกคนว่าไม่ควรให้อันชิงเหมยไปด้วย เพ
" ไม่ใช่เจ้าค่ะท่านอ๋องพวกเราเพียงแต่ "" เพียงแต่อะไร เจ้าเป็นหัวหน้าแม่ครัวแต่กลับไม่ยอมทำอาหารดีๆส่งไปให้นาง กลับส่งแต่ข้าวต้มเปล่าๆกับผักดอง แล้วพวกเจ้าก็กินเนื้อกันอย่างสำราญ เจ้าคิดว่าข้าอยู่ที่ค่ายแล้วไม่รู้ไม่เห็นพฤติกรรมของพวกเจ้าอย่างงั้นรึ เจ้ากล้าเกินไปแล้ว"" ท่านอ๋องโปรดอภัย พวกข้าผิดไปแล้ว ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว"หลิวเหยียนโขกหัวขอร้องสวีหาน ตนไม่น่าเชื่อคำยุยงของฉิงอีเลย " เอาตัวไปโบย100ไม้ ส่วนพวกคนครัวที่เหลือโบย50ไม้แล้วขายออกไปให้หมด"" ท่านอ๋องโปรดเมตตาด้วยพวกข้าผิดไปแล้วไม่กล้าอีกแล้ว ท่านอ๋องเมตตาด้วย"ทุกคนพากันโขกหัวขอร้องแต่ไม่เป็นผล ถูกลากตัวออกไป เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจากการถูกโบยดังไปทั่วทั้งจวน "ฝูอันเจ๋อ"สวี่หานเรียกฝูอันเจ๋อด้วยเสียงเยือกเย็น เขาพลันหน้าซีดหนาวเย็นไปถึงสันหลัง สายของเขารายงานว่าสวี่หานกำลังเตรียมตัวไปเข้าร่วมเทศกาลล่าสัตว์ น่าจะออกเดินทางไปแล้ว เหตุใดจึงกลับมาที่จวนได้อีกใครเป็นคนไปฟ้องเรื่องนี้ หรือว่าอันชิงเหมยเขาประมาทนางไปจริงๆ" พระชายาของข้าต้องการรถม้าแต่เจ้ากลับขัดขวางไม่ให้นางใช้ "" เรียนท่านอ๋องเรื่องนี้ข้า ข้าไม่รู้เรื
อันชิงเหมยกระโดดขึ้นหลังม้าจับดึงเชือกไว้แน่น นางบังคับม้าให้วิ่งเข้าป่าไป ทหารที่พากันวิ่งตามมาก็พากันแบ่งกลุ่มเพื่อไปดักทางม้า เซี่ยจิ่งเทียนขมวดคิ้วมองตามสตรีที่อาจหาญกระโดดควบม้าพยศไป ม้าตัวนั้นเป็นม้าป่าที่พึ่งจับได้ ถูกนำไปไว้ที่ค่ายเพื่อฝึกไว้ใช้งาน แต่กลับพยศหนีออกมา พวกเขาจึงตามมาเซี่ยจิ่งเทียนควบม้าตามเข้าป่าไปทันที เมื่อไปถึงก็แทบไม่เชื่อสายตา ม้าพยศตัวนั้นยืนให้สตรีลูบหัว แล้วยังอ้าปากรับหญ้าจากนางมาเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย " รองแม่ทัพเซี่ย ท่านเห็นเหมือนข้าหรือไม่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ม้าพยศตัวนั้นเราพยายามฝึกมันอยู่เป็นเดือน ตั้งแต่ถูกเราจับไปไว้ในค่ายไม่มีวันไหนที่มันไม่พยศ แถมยังทำร้ายพลทหารของเราเจ็บตัวตั้งหลายคน แต่นี่แค่สตรีคนเดียวกลับปราบพยศมันได้"เซี่ยจิ่งเทียนเดินเข้าไปใกล้ ทันทีที่นางเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน หัวใจของเขากลับเต้นแรงเสียยิ่งกว่ากลองศึก ใบหน้าขาวนวลเนียนคิ้วคางจมูกได้รูปปากจิ้มลิ้มสีชมพูระเรื่อ งดงามเสมือนไม่มีอยู่จริง เขานิ่งงันราวต้องมนต์สะกด กระทั่งเสียงใสกังวานเอ่ยขึ้นมา" ม้าตัวนี้เป็นของท่านรึ"" ใช่ มันเป็นม้าที่ถูกจับได้ในป่าจึงนำไปไว้ในค่ายเพื่
ฉิงอีจ้องมองซีหว่านตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาไม่พอใจ" เจ้าเป็นใคร "" ข้าชื่อซีหว่าน เป็นสาวใช้ข้างกายพระชายา "" เฮอะ ที่แท้ก็บ่าวรับใช้"" ทำไมรึ รึว่าเจ้าไม่ใช่ อ๋อข้ารู้แล้ว เจ้าคงอยากขยับสถานะไปเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของท่านอ๋อง แต่ท่านอ๋องไม่ชายตาแลสินะ "" เจ้า "" ทำหน้าตาแบบนี้แสดงว่าข้าดูไม่ผิดจริงๆ ให้เจ้าฝันไปเถอะ ชาตินี้ก็ได้แค่ฝันนั่นแหละ ท่านอ๋องรักพระชายาของข้าคนเดียวไม่คิดจะรับอนุหรือสตรีอุ่นเตียง"" พอได้แล้ว มีอะไรกินบ้างข้าหิวจะแย่ "เฉาซื่อเดินไปหาอะไรกิน เห็นอาหารที่พึ่งยกกลับมา" นี่อะไร "" เป็นสำรับที่พึ่งยกกลับมา ท่านอ๋องบอกให้ทำไปใหม่ ห้ามใช้วัตถุดิบที่เป็นปลาเพราะชายาไม่ชอบ"" อ๋อ งั้นพวกเจ้าก็รีบไปทำใหม่สิ ขืนชักช้าเดี๋ยวก็ถูกลงโทษกันหรอก งั้นของพวกนี้พวกข้าจะกินเอง มาเร็วซีหว่านจื่อโม่ "เฉาซื่อกับจื่อโม่และซีหว่าน ช่วยกันยกอาหารไปนั่งกินด้วยกันที่ศาลาท่าน้ำ" เจ้ารู้ไหมว่าทำไมพระชายาถึงไม่ชอบปลา"เฉาซื่อถามขึ้นมา" ไม่ใช่ไม่ชอบ ชอบมากแต่ไม่กิน"" แล้วทำไมถึงไม่กินหล่ะ"" เพราะปลาเคยช่วยชีวิตพระชายาเอาไว้ "เฉาซื่อวางตะเกียบตั้งใจฟังที่ซีหว่านพูด" ปลาเนี่ยน
"หุบปาก"" เจ้าไม่ต้องอายไปหรอกน่า "จื่อโม่โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขารีบเดินจ้ำอ้าวไม่สนว่านางจะตามทันหรือไม่ เขามองหาสวี่หานกับอันชิงเหมยไม่พบ ไม่รู้ว่าทั้งสองเดินไปทางไหนแล้ว ต้องคลาดกันตอนที่เขาหยุดรอซีหว่านเมื่อครู่แน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห สตรีอะไรถึงได้ปากมากนัก พูดอยู่ได้ไม่รู้จักเมื่อยปากรึไง ถ้าไม่ถามนั่นถามนี่ก็ชวนเขาคุย ซีหว่านวิ่งกระหืดกระหอบตามมาจนทัน นางยื่นถังหูลู่ให้เขา" ข้าให้เจ้า กินสิ กินแล้วจะได้อารมณ์ดีขึ้น"" ข้าไม่มีอารมณ์จะกินหรอก"" เอ๋ จะกินไม่เห็นต้องใช้อารมณ์เลย เขาใช้ปากนี่ไง ง่ำง่ำ"พูดจบนางก็อ้าปากงับถังหูลู่ในมือ ไหนบอกว่าให้เขา แล้วนี่อะไร นางกินเองจนหมดแล้วแถมยังกินให้เขาดูอีก เขาไม่ไหวแล้ว ทำไมอันชิงเหมยต้องฝากให้เขาดูแลนางด้วยนะ " นั่นไง ท่านอ๋องกับพระชายาอยู่ที่ร้านขายเครื่องประดับนั่น"จื่อโม่หันขวับไปดูตามที่นิ้วของซีหว่านชี้บอก เมื่อคนกลุ่มใหญ่เดินออกก็เผยให้เห็นสวี่หานกับอันชิงเหมยยืนอยู่ร้านขายเครื่องประดับ ไม่ไกลมีเฉาซื่อยืนอยู่ เขาค่อยโล่งใจหน่อย หากเกิดอะไรไม่คาดฝันขึ้นยังมีเฉาซื่อคอยช่วยรับมือสวี่หานเลือกกำไลหยกมันแพะขึ้นมาชิ้นหนึ่ง สวมใส่ข้อ
หลังจากทั้งสองกลับไปบ่าวรับใช้ก็ยกอาหารมาวางบนโต๊ะ สวี่หานคีบเนื้อปลาใส่จานให้นาง " หือ ไม่ชอบกินปลาเหรอ งั้น"เขาคีบเนื้อไก่ผัดเปรี้ยวหวานให้นาง" เพราะท่าน ถึงทำให้พี่ใหญ่เข้าใจผิดแบบนั้น"" ข้าผิดรึ เป็นเขาต่างหากที่ไม่รู้เรื่องเอง เป็นถึงแม่ทัพชายแดนตะวันตก แต่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้กลับไม่รู้ "จวนตระกูลอัน" ท่านแม่ทัพ ชินอ๋องให้คนส่งของสิ่งนี้มาให้ท่าน ฝากบอกว่าเป็นของขวัญจากน้องเขย"อันเฟยเทียนเปิดกล่องดูเป็นหนังสือเล่มหนึ่งพอเปิดดูเนื้อหาข้างในก็เบิกตากว้าง นี่มันตำราวสันต์ บอกวิธีร่วมรักหลายท่วงท่าทั้งภาพประกอบชัดเจนเสมือนร่วมอยู่ด้วย ผู้ใดวาดภาพนี้ช่างมีฝีมือดียิ่งนัก แล้วเขาก็เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่ารอยแดงที่คอของอันชิงเหมยไม่ได้ถูกบีบแต่ถูก หึย ยังไงนางก็ถูกทำร้ายอยู่ดี ยังไงเขาก็ไม่ถูกชะตากับชินอ๋องอัปลักษณ์นั่นอยู่ดี อันเฟยเทียนถือหนังสือเข้าห้องปิดประตูเงียบสั่งห้ามใครรบกวนสามวันต่อมาได้กำหนดกลับแดนใต้ อันชิงเหมยร่ำลาอันซูหลุนกับอันเฟยเทียนก่อนออกเดินทาง" เหมยเอ๋อ เจ้าต้องดูแลตัวเองดีๆนะ "" ท่านพ่อก็เหมือนกัน ที่แดนเหนือช่วงนี้หิมะตกแล้วท่านต้องรักษาสุขภาพด้วย แล้วท่านพ่
สวี่หานมองดูนางที่ดวงตาแดงกร่ำเริ่มมีน้ำตาคลอ" เหมยเหมย "" ข้าไม่ต้องการให้ท่านมาสงสารข้า "" สงสาร"" ไม่ใช่รึไง ท่านขอสมรสพระราชทานจากฟ่าบาทเพราะต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนให้ข้า ในเมืองหลวงใครไม่รู้บ้าง ว่าข้าถอนหมั้นกับเสิ่นหว่านอี้เพราะไม่ยอมรับที่เขามีภรรยาอีกคน ผู้คนต่างบอกว่าข้าใจคอคับแคบ ข้าประกาศว่าจะไม่ขอใช้สามีร่วมกับผู้ใด ทุกคนก็ยิ่งรอดูว่าชีวิตนี้ข้าจะมีผู้ใดมาสู่ขอหรือไม่ แล้วท่าน "" เหมยเหมย เรื่องนั้นมันก็เรื่องหนึ่งมันเป็นผลพลอยได้ แต่ข้าตั้งใจจะแต่งงานกับเจ้าตั้งแต่วันนั้นที่เราเจอกันครั้งแรกแล้ว แม้ข้าจะอยู่ไกลถึงแดนใต้แต่ทุกปีข้าจะให้คนวาดภาพเจ้าส่งไปให้ข้าที่แดนใต้ในทุกๆปีข้าจะเห็นเจ้าเติบโต เพียงแต่หลายปีมานี้ข้าต้องทำศึกเลยไม่รู้ว่าเจ้าหมั้นหมายกับไอ้รองแม่ทัพขาเป๋นั่น ทำไมหล่ะ ทำไมถึงไม่รอข้า เพียงแค่มันช่วยชีวิตพ่อของเจ้าเจ้าถึงกับต้องยอมหมั้นหมายกับมัน แล้วข้าหล่ะเจ้าไม่เคยคิดถึงบ้างเลยเหรอ จี้หยกที่ข้าให้เจ้า คงทิ้งมันไปแล้วสินะ "เห็นสี่หานทำหน้าเศร้านางก็รีบพูดขึ้นมา" ไม่ใช่ ข้ายังเก็บเอาไว้อยู่ อยู่ในหีบนั่น ข้าเอามาด้วย"สวี่หานยิ้มไม่ออก ของที่เขาให้
"คุณหนู คุณหนูเจ้าขา" เสียงสาวใช้คนสนิทร้องเรียกมาแต่ไกล จนอันชิงเหมยที่กำลังปักถุงหอมอยู่ ต้องละสายตาเงยหน้าขึ้นมามอง" มีอะไร แล้วทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาอย่างนั้นเล่า วิ่งเร็วแบบนั้น เดียวก็หกล้มหรอก "" ข่าวดี ข่าวดีเจ้าค่ะคุณหนู ท่านรอง ท่านรองแม่ทัพ กลับมาแล้วเจ้าค่ะ ตอนข้าไปตลาดขบวนเคลื่อนผ่าน เห็นท่านรองแม่ทัพนั่งอยู่บนหลังม้า ผู้คนแห่ไปต้อนรับกันเยอะแยะไปหมดเลยเจ้าค่ะ นี่ขบวนก็น่าจะใกล้ถึงจวนของเราแล้ว " ซีหว่านพูดไปหอบก็หอบไปเสิ่นหว่านอี้ ท่านกลับมาแล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไม ถึงไม่ส่งจดหมายมาบอกข้าก่อน หรือว่าเขาต้องการให้ข้าแปลกใจนะนึกถึงอดีต เสิ่นหว่านอี้เป็นเพียงนายกองเล็กๆ แต่เพราะสร้างผลงานในการรบครั้งก่อน นำกองกำลังบุกตีฝ่าวงล้อมข้าศึก ไปช่วยกองทัพเอาไว้ได้ทัน ทำให้ได้รับชัยชนะ แต่ศึกครั้งนั้นก็ทำให้รองแม่ทัพฟู่ต้องตาย ส่วนแม่ทัพอันบิดาของนาง ก็ได้เขารับคมหอกคมดาบแทน จนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสหนัก นอนรักษาตัวอยู่แรมเดือน ขาของเขาถูกตัดเส้นเอ็นขาดไปบางส่วน แม้จะหายดีแต่ก็ไม่เหมือนเดิม ขาของเขาเวลาเดินก็จะกะโผลกกะเผลกด้วยความชอบของเขาในครั้งนั้น กอปรกับตำแหน่งรองแม่ทัพว่าง ...
Comments