งานเลี้ยงในวังมีเหล่าขุนนางมาร่วมงานมากมาย เสิ่นหว่านอี้มาพร้อมหยางซือหรู เขามองหาอันชิงเหมย หวังว่านางจะมางานนี้ เขาจะหาโอกาสปรับความเข้าใจกับนางอีกสักครั้ง หลายวันมานี้เขาจมอยู่กับความผิด ทั้งที่นางดีกับเขามาตลอดช่วยดูแลแม่ของเขา ในจวนยังช่วยดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย นางรอเขากลับมาแต่เขากลับผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับนาง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิด เขาปลีกตัวออกมาจากหยางซือหรูทำทีเป็นเดินไปคุยกับคนอื่น แต่จุดประสงค์คือไปรออันชิงเหมยแถวทางเข้างาน
รถม้าสัญลักษณ์ตระกูลอันหยุดลง อันชิงเหมยลงจากรถม้าเดินเข้างานมาพร้อมอันซูหลุนแม่ทัพแดนเหนือบิดาของนาง ถัดมาเป็นอันเฟยเทียน แม่ทัพแดนตะวันตกพี่ชายของนาง เสิ่นหว่านอี้รีบกระโผลกกระเผลกเข้าไปหาส่งยิ้มให้
" เหมยเอ๋อ "
อันชิงเหมยทำเป็นมองไม่เห็นเดินเลี่ยงไปเสิ่นหว่านอี้รีบเดินตาม
" เหมยเอ๋อ พี่ขอคุยด้วยได้ไหม "
" ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับท่าน "
" พี่ขอร้อง ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย แล้วพี่จะไม่มาวุ่นวายอีก "
อันชิงเหมยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในเมื่อเขากล้าพูดแบบนี้หวังว่าจะรักษาคำพูด แล้วเดินนำเขาไปในสวนหย่อม เสิ่นหว่านอี้ดีใจรีบกระโผลกกระเผลกตามไปทันที
อันเฟยเทียนจะตามแต่อันซูหลุนห้ามเอาไว้
" ท่านพ่อจะดีรึขอรับ ปล่อยนางไปกับบุรุษโลเลแบบนั้นถ้านาง"
" เจ้าไม่รู้นิสัยน้องของเจ้ารึ ตัดก็คือตัด ยังไงนางก็ไม่มีวันกลับไปหาเสิ่นหว่านอี้หรอก เข้าไปข้างในเถอะ "
อันเฟยเทียนมองตามอันชิงเหมยเดินไปที่ศาลาท่าน้ำ มีเสิ่นหว่านอี้ตามไปติดๆก็เป็นกังวล แต่ก็ยอมเดินเข้างานไป
" ท่านมีอะไรก็ว่ามาเถิด"
" เหมยเอ๋อ หลายวันมานี่ข้าคิดทบมวนมาตลอด ข้าพึ่งรู้ใจตัวเองว่าข้ารักเจ้ามากเพียงใด ข้าอยากให้"
" ท่านเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เรื่องของเรามันจบแล้ว ในตอนนี้ท่านเองก็มีภรรยาแล้ว ข้าอันชิงเหมยไม่ขอใช้สามีร่วมกับใคร ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะพบท่านต่อไปอย่าพบกันอีกเลย "
" เหมยเอ๋อหากว่าข้าเลิกกับซือหรูหล่ะ เจ้าจะยอมกลับมาเป็นฮูหยินของข้าหรือไม่"
อันชิงเหมยที่กำลังจะเดินจากไปหยุดชะงัก นางตอบอย่างเด็ดเดี่ยว
" ไม่ ถึงต่อให้ท่านเลิกกับนางข้าก็ไม่มีวันกลับไป "
เสิ่นหว่านอี้เดินมาดักหน้าจะคว้าแขนนาง นางหลบเลี่ยงก้าวถอยหลัง
" ทำไม ทำไมถึงไม่ให้โอกาสข้าบ้าง ข้าก็แค่หลงไปชั่วครั้งชั่วคราว แต่ตอนนี้ข้าคิดได้แล้ว เรื่องที่ผ่านมาข้าไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ แต่ขอเพียงเจ้าให้โอกาสข้าอีกสักครั้งเจ้าจะให้ข้าทำอะไรข้ายอมทุกอย่าง "
" เสิ่นหว่านอี้ ถ้าภรรยาของท่านมาได้ยินที่ท่านพูด ท่านไม่คิดว่านางจะเสียใจรึ ข้าว่าข้าพูดชัดเจนแล้วนะ ว่าข้าไม่มีวันกลับไปหาท่าน เรื่องของเราจบลงตั้งแต่วันที่ท่านพานางกลับมาแล้ว "
อันชิงเหมยเดินจากไปทิ้งให้เสิ่นหว่านอี้มองตามตาละห้อย หลังต้นไม้ไม่ไกลหยางซือหรูยืนกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อเลือดซิบ น้ำตาเอ่อคลอดวงตาทั้งสอง ก่อนหน้าเสิ่นหว่านอี้ให้นางเข้าไปรอในงานก่อน นางไม่รู้จักใครจะไปยืนอยู่ที่ใด จะไปสนทนากับผู้ใด ไม่มีใครสนใจนางเลย นางยืนโดดเดี่ยวเคว้งคว้างอยู่นาน ก็ไม่มีใครเข้ามาทักนางหรือชวนนางคุยสักคำ นางทนอึดอัดไม่ไหวออกตามหาเสิ่นหว่านอี้จนมาเจอเขายืนคุยกับอันชิงเหมยจึงได้แอบฟัง เขาต้องการคืนดีกับอันชิงเหมยถึงกับยอมเลิกกับนาง ตั้งแต่ที่เขาถูกอันชิงเหมยถอนหมั้น เขาไม่สนใจนางเลย ทุกวันได้แต่พร่ำเพ้อหาแต่อันชิงเหมย นางเกลียดนางชิงชัง นางอิจฉา หากเสิ่นหว่านอี้ไม่ได้มียศเป็นรองแม่ทัพนางเองก็ไม่คิดจะสนใจปีนเตียงเขาหรอก หน้าบากขาเป๋แบบนั้นคิดว่านางชอบมากรึไง รอให้นางเจอบุรุษที่ดีกว่านี้นางจะทิ้งเขาไปไม่ลังเลเลย เมื่อเห็นเสิ่นหว่านอี้เดินกระโผลกกระเผลกเข้างานไป หยางซือหรูก็ปาดน้ำตาแล้วรีบเดินตามไปทันที
" ฟ่าบาทเสด็จ ฮองเฮาเสด็จ "
" ฟ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆปี ฮองเฮาทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆปี "
" เอาหล่ะทุกคนลุกขึ้น งานเลี้ยงวันนี้จัดขึ้นเพื่อต้อนรับแม่ทัพทั้ง8ทิศและเหล่ากองทัพโดยเฉพาะกองทัพจากแดนตะวันตกที่เอาชนะศึกหนานหยางในครั้งนี้ได้ "
" ด้วยบารมีของฟ่าบาททำให้พวกเราสามารถเอาชนะข้าศึกศัตรูได้พะย่ะค่ะ "
" อืมดีๆ เอาหล่ะทุกท่านวันนี้กินดื่มกันให้เต็มที่"
แล้วนางรำก็ออกมาร่ายรำเสียงดนตรีขับกล่อมไพเราะ นางรำเริงระบำสวยงามพริ้วไหว ทุกคนต่างกินดื่มกันเพลิดเพลิน อู๋เทียนหลงฮ่องเต้พลันเหลือบไปเห็นชินอ๋องสวี่หานก็แปลกใจ ก่อนหน้านี้ได้ข่าวว่าสวี่หานกลับมาเมืองหลวง แต่ไม่คิดว่างานเลี้ยงในคืนนี้สวี่หานจะเข้าร่วมด้วย เขารู้สึกไม่ชอบหน้ากากนั่นเลยไม่รู้จะใส่ทำไมเกะกะลูกตายังไงก็ไม่รู้
" สวี่หานข้าทั้งดีใจและแปลกใจที่เจ้ากลับมา ทั้งยังเข้าร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ด้วย "
อู๋เทียนหลงรู้นิสัยบุตรชายคนนี้ดี เขาไม่ชอบงานเลี้ยงรื่นเริง ไม่ชอบคนหมู่มากเหตุใดจึงได้เข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ที่มีผู้คนนับพันแสดงว่าต้องมีสิ่งใดสำคัญ ถึงยอมให้คนอย่างเขามาปรากฎตัวที่นี่ได้ เสียงทักทายของฮ่องเต้ทำให้ทุกคนหยุดชะงักดนตรีก็หยุดเล่นด้วย ทุกสายตาต่างมองไปที่บุรูษ ในอาภรณ์สีดำสวมหน้ากากสีเงิน ภายใต้หน้ากากนั่นไม่มีใครรู้ว่าหน้าตาแท้จริงเป็นเช่นไร จะใช่ชินอ๋องสวี่หานตัวจริงหรือไม่ มีเพียงหยกที่แขวนอยู่ข้างเอวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ยืนยันตัวตนว่าคือเขา และเขาคือชินอ๋องสวี่หานผู้เหี้ยมโหดและเลือดเย็น
" นั่นสวี่หานจริงๆรึ ไม่ได้เจอกันหลายปีเจ้าเติบโตขึ้นมาก ที่แดนใต้ทั้งแห้งแล้งทั้งกันดารเจ้าสบายดีหรือไม่"
" ขอบพระทัยฮองเฮาที่เป็นห่วง หม่อมฉันสบายดีพะย่ะค่ะ"
" ที่เจ้ากลับมาคงไม่ใช่เพื่อมาเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้หรอกกระมัง"
อู๋เทียนหลงยกจอกเหล้าขึ้นจิบ
" ฟ่าบาททรงพระปรีชา หม่อมฉันมีจุดประสงค์อื่นจริงๆ"
อู๋เทียนหลงวางจอกเหล้าลง มองไปที่สวี่หานเห็นแต่ดวงตาเย็นชาภายใต้หน้ากากนั่น เขาเป็นบิดาของสวี่หานแต่ตั้งแต่ที่ยี่เกอตายไป สวี่หานก็ไม่ยอมเรียกเขาว่าเสด็จพ่ออีกเลย แล้วยังโทษว่าเขาตัดสินความเรื่องการตายของยี่เกอไม่ยุติธรรม เขารู้ว่านางถูกวางยาพิษแต่ไม่มีหลักฐาน เขาก็ลงโทษคนผู้นั้นไม่ได้ สวี่หานยังเด็กไม่ยอมรับความจริง เขาทำได้เพียงจัดงานศพให้ยิ่งใหญ่สมเกียรติสนมชั้นเฟยให้นาง หลังพิธีศพยี่เกอสวี่หานก็หนีไปเข้ากองทัพ ทั้งยังใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าที่แท้จริงไม่ยอมถอดอีกเลย
" หลายปีที่ผ่านมาฟ่าบาททรงเมตตาส่งเจ้าสาวไปให้หม่อมฉัน "พอพูดถึงเรื่องนี้ทุกคนก็พากันตื่นตระหนกแม้แต่อู๋เทียนหลงกับเมิ่งจิ่งหลานก็นั่งแทบไม่ติด เพราะเจ้าสาวที่ส่งไปทุกคนล้วนถูกฆ่าตายกันหมด สวี่หานกลับเมืองหลวงในรอบหลายปีแถมยังพากองทัพมานับพัน คงไม่ใช่จะมาต่อว่าเรื่องนี้เฉยๆหรอกใช่ไหม" ข้า ข้าเห็นว่าเจ้าถึงวัยที่ต้องมีชายาได้แล้ว ข้าก็เลย ในเมื่อเจ้าไม่ชอบข้ารับปากว่าจะไม่ส่งใครไปให้เจ้าอีก"" ฟ่าบาทหวังดีกับเจ้า อยากให้เจ้าได้มีชายาเคียงข้าง เวลาเจ้ากลับจากศึกเหน็ดเหนื่อยจะได้มีนางคอยปรนนิบัติ อีกอย่างภายภาคหน้าเจ้าจักต้องมีทายาทสืบสกุล"" หม่อมฉันเคยส่งสาล์นมาบอกแล้ว ว่าชายาของหม่อมฉัน หม่อมฉันจักเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง แล้วเหตุใดไม่ฟัง ยังส่งไปให้อีก เป็นความคิดของฮองเฮารึ "น้ำเสียงเยือกเย็นของสวี่หานทำให้เมิ่งจิ่งหลานเย็นสันหลังวาบ อู๋เทียนหลงเห็นท่าไม่ดีรีบพูดขึ้นมา" เอาหล่ะ ข้ารับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก เจ้ารักใครชอบใครก็เลือกตามใจเจ้าเลย ข้ากับฮองเฮาจะไม่ยุ่งกับเจ้าอีก "" ดี ในเมื่อทรงตรัสเช่นนี้แล้วก็ตามนั้น ในเมื่อพระองค์อยากให้หม่อมฉันมีชายานักหม่อมฉันก็น้อม
"คุณหนู คุณหนูเจ้าขา" เสียงสาวใช้คนสนิทร้องเรียกมาแต่ไกล จนอันชิงเหมยที่กำลังปักถุงหอมอยู่ ต้องละสายตาเงยหน้าขึ้นมามอง" มีอะไร แล้วทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาอย่างนั้นเล่า วิ่งเร็วแบบนั้น เดียวก็หกล้มหรอก "" ข่าวดี ข่าวดีเจ้าค่ะคุณหนู ท่านรอง ท่านรองแม่ทัพ กลับมาแล้วเจ้าค่ะ ตอนข้าไปตลาดขบวนเคลื่อนผ่าน เห็นท่านรองแม่ทัพนั่งอยู่บนหลังม้า ผู้คนแห่ไปต้อนรับกันเยอะแยะไปหมดเลยเจ้าค่ะ นี่ขบวนก็น่าจะใกล้ถึงจวนของเราแล้ว " ซีหว่านพูดไปหอบก็หอบไปเสิ่นหว่านอี้ ท่านกลับมาแล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไม ถึงไม่ส่งจดหมายมาบอกข้าก่อน หรือว่าเขาต้องการให้ข้าแปลกใจนะนึกถึงอดีต เสิ่นหว่านอี้เป็นเพียงนายกองเล็กๆ แต่เพราะสร้างผลงานในการรบครั้งก่อน นำกองกำลังบุกตีฝ่าวงล้อมข้าศึก ไปช่วยกองทัพเอาไว้ได้ทัน ทำให้ได้รับชัยชนะ แต่ศึกครั้งนั้นก็ทำให้รองแม่ทัพฟู่ต้องตาย ส่วนแม่ทัพอันบิดาของนาง ก็ได้เขารับคมหอกคมดาบแทน จนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสหนัก นอนรักษาตัวอยู่แรมเดือน ขาของเขาถูกตัดเส้นเอ็นขาดไปบางส่วน แม้จะหายดีแต่ก็ไม่เหมือนเดิม ขาของเขาเวลาเดินก็จะกะโผลกกะเผลกด้วยความชอบของเขาในครั้งนั้น กอปรกับตำแหน่งรองแม่ทัพว่าง
" หว่านอี้ กลับมาแล้วเหรอลูก "" ขอรับท่านแม่ หลังจากรายงานสถานการณ์กับฟ่าบาทเสร็จ ก็อยู่คุยกับคนอื่นๆต่อเลยมาช้าไปหน่อย "" อีก3วันจะมีงานเลี้ยงต้อนรับในวังหลวง พี่อยากให้เจ้าไปด้วย "เสิ่นหว่านอี้พูดแต่กลับมองหน้าอันชิงเหมยสลับกับหยางซือหรู ตกลงเขาพูดกับใคร อยากให้ใครไปงานเลี้ยงด้วยกันแน่" ท่านพี่ ข้ายังไม่มีชุดสวยๆใส่เลย ท่านพาข้าไปซื้อได้หรือไม่ "หยางซือหรูลุกขึ้นไปกอดแขนออดอ้อนเสิ่นหว่านอี้ อันชิงเหมยหน้าซีด ใจกระตุกวูบ ท่านพี่อย่างงั้นเหรอ หมายความว่ายังไงกัน นางจ้องหน้าเขาเขม็งเพื่อรอคำอธิบายเสิ่นหว่านอี้แกะแขนของหยางซือหรูออก แล้วเดินไปหาอันชิงเหมย มีสีหน้าลำบากใจ" เหมยเอ๋อ คือว่า "" อธิบายมาว่านางเป็นใคร"" เอ่อ คือ "เสิ่นหว่านอี้อ้ำอึ้งพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะเริ่มอธิบายให้นางฟังอย่างไรดี หยางซือหรูก็พูดขึ้นมา" ข้า หยางซือหรู เป็นภรรยาของท่านพี่หว่านอี้ "ภรรยาอย่างงั้นเหรอ นี่มันเรื่องอะไรกัน นางเป็นคู่หมั้นของเขา รักเขารอเขามาเป็นปี เขาบอกให้นางรอนางก็รอ แล้วทำไมถึงทำกับนางแบบนี้ ก่อนไปเขาบอกกับนางว่าจะรักและซื่อสัตย์กับนางแค่คนเดียว เขาจะมีนางเป็นภรรยาแค่คนเดียว แล้วน
อันชิงเหมยเดินออกไปไม่สนใจเสิ่นหว่านอี้ว่ามีสีหน้าเป็นเช่นไร" เหมยเอ๋อ " เสิ่นหว่านอี้รีบเดินตาม หยางซือหรูเห็นแบบนั้นก็แสร้งเป็นลม" ท่านพี่" เสิ่นหว่านอี้ชะงักเท้า รีบพุ่งไปรับตัวหยางซือหรูที่โงนเงนจะล้ม เมื่อถึงตัวนางนางก็ล้มลงในอ้อมแขนของเขาพอดี เสิ่นหว่านอี้ได้แต่มองตามหลังบอบบางของอันชิงเหมยที่ลับตาไปอยู่ๆหยางซือหรู ก็ตัวร้อนมีไข้ขึ้นมา ทำให้เขาต้องคอยดูแลนางทั้งคืน นางเอาแต่พร่ำเพ้อหาเขา ไม่ยอมให้เขาห่างนางเลยแม้แต่น้อย ในใจของเสิ่นหว่านอี้ตอนนี้ ทุกข์ทรมานราวไฟสุม อยากไปหาอันชิงเหมย อยากขอร้องให้นางให้อภัยเขา แต่ก็ไม่สามารถทิ้งหยางซือหรูไปได้หยางซือหรูปรายตามองเสิ่นหว่านอี้ ยกยิ้มมุมปาก นางไม่ได้ป่วยไข้หรอก อาศัยความรู้วิชาแพทย์เล็กน้อย ใช้เปลือกไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษ เมื่อเคี้ยวกลืนน้ำมันลงไปสักพัก ตัวจะรุมๆมีไอร้อนเหมือนเป็นไข้ ที่เหลือนางก็เสแสร้งแกล้งเจ็บป่วย เพื่อรั้งเขาไว้ไม่ให้ตามคู่หมั้นของเขาไปนางเจอเขาครั้งแรกเมื่อกองทัพมาถึงหนานหยาง บิดาของนางที่เป็นเจ้าเมืองไปให้การต้อนรับ นางเองก็ไปด้วย นางสบตาเขาครั้งแรกก็ชื่นชอบ บุรุษหน้าตาคมคาย มีหนวดเคราประปราย
อันชิงเหมยลุกออกไปทันที เสิ่นหว่านอี้รีบตามไป อันซูหลุนเห็นแก่ที่เสิ่นหว่านอี้เคยช่วยชีวิตเขาไว้ จึงยอมให้ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น จะเป็นอย่างไรต่อไปก็สุดแล้วแต่ลูกสาวของเขา และเขาเคารพการตัดสินใจของนางทุกอย่าง" เหมยเอ๋อ " " ตามมาทำไม ทำไมยังไม่กลับไปอีก "" เจ้าอยากให้พี่ทำยังไง บอกพี่มาสิ พี่จะทำทุกอย่าง ขอเพียงเจ้ากลับมาเป็นเหมือนเดิม "" ท่านไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพราะมันไม่มีวันเหมือนเดิม "เสิ่นหว่านอี้จะกุมมือนางแต่นางเบี่ยงหลบขยับถอยหลังไป2-3ก้าว เขามองเข้าไปในตาของนาง มันช่างว่างเปล่า ว่างเปล่าจนเขาหายใจไม่ออก" เหมยเอ๋อ ทำไมไม่เรียกพี่เหมือนเดิม ทำไมต้องทำเหินห่างเย็นชากับพี่ด้วย "" ข้ามิบังอาจเรียกท่านรองแม่ทัพอย่างสนิทสนมได้หรอกเจ้าค่ะ ข้ากับท่านเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว คำๆนั้นท่านมีคนเรียกอยู่แล้ว กลับไปดูแลภรรยาของท่านเถอะ ข้าขอตัว"เสิ่นหว่านอี้คว้าแขนของนางเอาไว้ นางสะบัดออก หันมามองเขานัยตาแดงกร่ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม" ข้าหวังว่าท่านจะไม่มาที่นี่อีก เรื่องของเรามันจบลงแล้ว ท่านไม่ผิดหรอก เป็นข้าที่ไร้วาสนาเคียงคู่กับท่านเอง "" ข้าไม่เข้าใจ ทำไม เพราะข้ามีภรรยาเพิ่มอ
ในตลาด วันนี้ผู้คนพลุกพล่าน การค้าขายแต่ละร้านคึกคักเป็นพิเศษ อันชิงเหมยมาเดินเล่นกับซีหว่าน ดูนั่นดูนี่เพลิดเพลิน ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเครื่องประดับ " ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะคุณหนูอัน วันนี้มีแบบใหม่ๆมาเพียบเลยเจ้าค่ะ นี่เจ้าค่ะ "เถ้าแก่เนี๊ยะรีบกุลีกุจอมาต้อนรับ ก่อนจะหันไปเอาถาดใส่เครื่องประดับมาวางตรงหน้าให้อันชิงเหมยเลือก" เลือกตามสบายเลยนะเจ้าค่ะ " พูดกับอันชิงเหมยก่อนจะเรียกเด็กในร้านมาคอยดูแล" เจ้าหน่ะมานี่สิ มาดูแลคุณหนูอันด้วย บริการให้ดีหล่ะ " " คุณหนูเจ้าค่ะ ชิ้นนี้เป็นไงเจ้าค่ะ ประดับมุกสีชมพูแวววาวเชียวเจ้าค่ะ " ซีหว่านหยิบปิ่นมุกส่งให้อันชิงเหมยดู" ก็สวยดี ถ้าเจ้าชอบก็เอาสิข้าซื้อให้ "" ไม่ ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่เอาหรอกที่มีอยุ่ก็เยอะแล้ว "ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่ตาก็มองปิ่นมุกอยู่ตลอด อันชิงเหมยเห็นก็ยิ้ม หยิบปิ่นมุกส่งให้พนักงานห่อให้ ส่วนนางยังไม่ถูกใจชิ้นไหน และก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อด้วยแค่แวะมาดูเล่นๆเท่านั้น เมื่อหันหลังกลับมากำลังจะออกจากร้าน ก็เจอกับคนที่ไม่อยากจะเจอ" เหมยเอ๋อ "เสิ่นหว่านอี้ยิ้มกว้างที่ได้เจออันชิงเหมย เขาไม่เห็นหน้านางมาหลายวันแล้ว เสิ่นหว่านอี้เ
" หลายปีที่ผ่านมาฟ่าบาททรงเมตตาส่งเจ้าสาวไปให้หม่อมฉัน "พอพูดถึงเรื่องนี้ทุกคนก็พากันตื่นตระหนกแม้แต่อู๋เทียนหลงกับเมิ่งจิ่งหลานก็นั่งแทบไม่ติด เพราะเจ้าสาวที่ส่งไปทุกคนล้วนถูกฆ่าตายกันหมด สวี่หานกลับเมืองหลวงในรอบหลายปีแถมยังพากองทัพมานับพัน คงไม่ใช่จะมาต่อว่าเรื่องนี้เฉยๆหรอกใช่ไหม" ข้า ข้าเห็นว่าเจ้าถึงวัยที่ต้องมีชายาได้แล้ว ข้าก็เลย ในเมื่อเจ้าไม่ชอบข้ารับปากว่าจะไม่ส่งใครไปให้เจ้าอีก"" ฟ่าบาทหวังดีกับเจ้า อยากให้เจ้าได้มีชายาเคียงข้าง เวลาเจ้ากลับจากศึกเหน็ดเหนื่อยจะได้มีนางคอยปรนนิบัติ อีกอย่างภายภาคหน้าเจ้าจักต้องมีทายาทสืบสกุล"" หม่อมฉันเคยส่งสาล์นมาบอกแล้ว ว่าชายาของหม่อมฉัน หม่อมฉันจักเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง แล้วเหตุใดไม่ฟัง ยังส่งไปให้อีก เป็นความคิดของฮองเฮารึ "น้ำเสียงเยือกเย็นของสวี่หานทำให้เมิ่งจิ่งหลานเย็นสันหลังวาบ อู๋เทียนหลงเห็นท่าไม่ดีรีบพูดขึ้นมา" เอาหล่ะ ข้ารับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก เจ้ารักใครชอบใครก็เลือกตามใจเจ้าเลย ข้ากับฮองเฮาจะไม่ยุ่งกับเจ้าอีก "" ดี ในเมื่อทรงตรัสเช่นนี้แล้วก็ตามนั้น ในเมื่อพระองค์อยากให้หม่อมฉันมีชายานักหม่อมฉันก็น้อม
งานเลี้ยงในวังมีเหล่าขุนนางมาร่วมงานมากมาย เสิ่นหว่านอี้มาพร้อมหยางซือหรู เขามองหาอันชิงเหมย หวังว่านางจะมางานนี้ เขาจะหาโอกาสปรับความเข้าใจกับนางอีกสักครั้ง หลายวันมานี้เขาจมอยู่กับความผิด ทั้งที่นางดีกับเขามาตลอดช่วยดูแลแม่ของเขา ในจวนยังช่วยดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย นางรอเขากลับมาแต่เขากลับผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับนาง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิด เขาปลีกตัวออกมาจากหยางซือหรูทำทีเป็นเดินไปคุยกับคนอื่น แต่จุดประสงค์คือไปรออันชิงเหมยแถวทางเข้างานรถม้าสัญลักษณ์ตระกูลอันหยุดลง อันชิงเหมยลงจากรถม้าเดินเข้างานมาพร้อมอันซูหลุนแม่ทัพแดนเหนือบิดาของนาง ถัดมาเป็นอันเฟยเทียน แม่ทัพแดนตะวันตกพี่ชายของนาง เสิ่นหว่านอี้รีบกระโผลกกระเผลกเข้าไปหาส่งยิ้มให้" เหมยเอ๋อ "อันชิงเหมยทำเป็นมองไม่เห็นเดินเลี่ยงไปเสิ่นหว่านอี้รีบเดินตาม" เหมยเอ๋อ พี่ขอคุยด้วยได้ไหม "" ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับท่าน "" พี่ขอร้อง ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย แล้วพี่จะไม่มาวุ่นวายอีก "อันชิงเหมยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในเมื่อเขากล้าพูดแบบนี้หวังว่าจะรักษาคำพูด แล้วเดินนำเขาไปในสวนหย่อม เสิ่นหว่านอี้ดีใจรีบกระโผลกกระเผลกตามไปทันทีอันเฟยเทียนจะ
ในตลาด วันนี้ผู้คนพลุกพล่าน การค้าขายแต่ละร้านคึกคักเป็นพิเศษ อันชิงเหมยมาเดินเล่นกับซีหว่าน ดูนั่นดูนี่เพลิดเพลิน ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเครื่องประดับ " ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะคุณหนูอัน วันนี้มีแบบใหม่ๆมาเพียบเลยเจ้าค่ะ นี่เจ้าค่ะ "เถ้าแก่เนี๊ยะรีบกุลีกุจอมาต้อนรับ ก่อนจะหันไปเอาถาดใส่เครื่องประดับมาวางตรงหน้าให้อันชิงเหมยเลือก" เลือกตามสบายเลยนะเจ้าค่ะ " พูดกับอันชิงเหมยก่อนจะเรียกเด็กในร้านมาคอยดูแล" เจ้าหน่ะมานี่สิ มาดูแลคุณหนูอันด้วย บริการให้ดีหล่ะ " " คุณหนูเจ้าค่ะ ชิ้นนี้เป็นไงเจ้าค่ะ ประดับมุกสีชมพูแวววาวเชียวเจ้าค่ะ " ซีหว่านหยิบปิ่นมุกส่งให้อันชิงเหมยดู" ก็สวยดี ถ้าเจ้าชอบก็เอาสิข้าซื้อให้ "" ไม่ ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่เอาหรอกที่มีอยุ่ก็เยอะแล้ว "ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่ตาก็มองปิ่นมุกอยู่ตลอด อันชิงเหมยเห็นก็ยิ้ม หยิบปิ่นมุกส่งให้พนักงานห่อให้ ส่วนนางยังไม่ถูกใจชิ้นไหน และก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อด้วยแค่แวะมาดูเล่นๆเท่านั้น เมื่อหันหลังกลับมากำลังจะออกจากร้าน ก็เจอกับคนที่ไม่อยากจะเจอ" เหมยเอ๋อ "เสิ่นหว่านอี้ยิ้มกว้างที่ได้เจออันชิงเหมย เขาไม่เห็นหน้านางมาหลายวันแล้ว เสิ่นหว่านอี้เ
อันชิงเหมยลุกออกไปทันที เสิ่นหว่านอี้รีบตามไป อันซูหลุนเห็นแก่ที่เสิ่นหว่านอี้เคยช่วยชีวิตเขาไว้ จึงยอมให้ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น จะเป็นอย่างไรต่อไปก็สุดแล้วแต่ลูกสาวของเขา และเขาเคารพการตัดสินใจของนางทุกอย่าง" เหมยเอ๋อ " " ตามมาทำไม ทำไมยังไม่กลับไปอีก "" เจ้าอยากให้พี่ทำยังไง บอกพี่มาสิ พี่จะทำทุกอย่าง ขอเพียงเจ้ากลับมาเป็นเหมือนเดิม "" ท่านไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพราะมันไม่มีวันเหมือนเดิม "เสิ่นหว่านอี้จะกุมมือนางแต่นางเบี่ยงหลบขยับถอยหลังไป2-3ก้าว เขามองเข้าไปในตาของนาง มันช่างว่างเปล่า ว่างเปล่าจนเขาหายใจไม่ออก" เหมยเอ๋อ ทำไมไม่เรียกพี่เหมือนเดิม ทำไมต้องทำเหินห่างเย็นชากับพี่ด้วย "" ข้ามิบังอาจเรียกท่านรองแม่ทัพอย่างสนิทสนมได้หรอกเจ้าค่ะ ข้ากับท่านเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว คำๆนั้นท่านมีคนเรียกอยู่แล้ว กลับไปดูแลภรรยาของท่านเถอะ ข้าขอตัว"เสิ่นหว่านอี้คว้าแขนของนางเอาไว้ นางสะบัดออก หันมามองเขานัยตาแดงกร่ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม" ข้าหวังว่าท่านจะไม่มาที่นี่อีก เรื่องของเรามันจบลงแล้ว ท่านไม่ผิดหรอก เป็นข้าที่ไร้วาสนาเคียงคู่กับท่านเอง "" ข้าไม่เข้าใจ ทำไม เพราะข้ามีภรรยาเพิ่มอ
อันชิงเหมยเดินออกไปไม่สนใจเสิ่นหว่านอี้ว่ามีสีหน้าเป็นเช่นไร" เหมยเอ๋อ " เสิ่นหว่านอี้รีบเดินตาม หยางซือหรูเห็นแบบนั้นก็แสร้งเป็นลม" ท่านพี่" เสิ่นหว่านอี้ชะงักเท้า รีบพุ่งไปรับตัวหยางซือหรูที่โงนเงนจะล้ม เมื่อถึงตัวนางนางก็ล้มลงในอ้อมแขนของเขาพอดี เสิ่นหว่านอี้ได้แต่มองตามหลังบอบบางของอันชิงเหมยที่ลับตาไปอยู่ๆหยางซือหรู ก็ตัวร้อนมีไข้ขึ้นมา ทำให้เขาต้องคอยดูแลนางทั้งคืน นางเอาแต่พร่ำเพ้อหาเขา ไม่ยอมให้เขาห่างนางเลยแม้แต่น้อย ในใจของเสิ่นหว่านอี้ตอนนี้ ทุกข์ทรมานราวไฟสุม อยากไปหาอันชิงเหมย อยากขอร้องให้นางให้อภัยเขา แต่ก็ไม่สามารถทิ้งหยางซือหรูไปได้หยางซือหรูปรายตามองเสิ่นหว่านอี้ ยกยิ้มมุมปาก นางไม่ได้ป่วยไข้หรอก อาศัยความรู้วิชาแพทย์เล็กน้อย ใช้เปลือกไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษ เมื่อเคี้ยวกลืนน้ำมันลงไปสักพัก ตัวจะรุมๆมีไอร้อนเหมือนเป็นไข้ ที่เหลือนางก็เสแสร้งแกล้งเจ็บป่วย เพื่อรั้งเขาไว้ไม่ให้ตามคู่หมั้นของเขาไปนางเจอเขาครั้งแรกเมื่อกองทัพมาถึงหนานหยาง บิดาของนางที่เป็นเจ้าเมืองไปให้การต้อนรับ นางเองก็ไปด้วย นางสบตาเขาครั้งแรกก็ชื่นชอบ บุรุษหน้าตาคมคาย มีหนวดเคราประปราย
" หว่านอี้ กลับมาแล้วเหรอลูก "" ขอรับท่านแม่ หลังจากรายงานสถานการณ์กับฟ่าบาทเสร็จ ก็อยู่คุยกับคนอื่นๆต่อเลยมาช้าไปหน่อย "" อีก3วันจะมีงานเลี้ยงต้อนรับในวังหลวง พี่อยากให้เจ้าไปด้วย "เสิ่นหว่านอี้พูดแต่กลับมองหน้าอันชิงเหมยสลับกับหยางซือหรู ตกลงเขาพูดกับใคร อยากให้ใครไปงานเลี้ยงด้วยกันแน่" ท่านพี่ ข้ายังไม่มีชุดสวยๆใส่เลย ท่านพาข้าไปซื้อได้หรือไม่ "หยางซือหรูลุกขึ้นไปกอดแขนออดอ้อนเสิ่นหว่านอี้ อันชิงเหมยหน้าซีด ใจกระตุกวูบ ท่านพี่อย่างงั้นเหรอ หมายความว่ายังไงกัน นางจ้องหน้าเขาเขม็งเพื่อรอคำอธิบายเสิ่นหว่านอี้แกะแขนของหยางซือหรูออก แล้วเดินไปหาอันชิงเหมย มีสีหน้าลำบากใจ" เหมยเอ๋อ คือว่า "" อธิบายมาว่านางเป็นใคร"" เอ่อ คือ "เสิ่นหว่านอี้อ้ำอึ้งพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะเริ่มอธิบายให้นางฟังอย่างไรดี หยางซือหรูก็พูดขึ้นมา" ข้า หยางซือหรู เป็นภรรยาของท่านพี่หว่านอี้ "ภรรยาอย่างงั้นเหรอ นี่มันเรื่องอะไรกัน นางเป็นคู่หมั้นของเขา รักเขารอเขามาเป็นปี เขาบอกให้นางรอนางก็รอ แล้วทำไมถึงทำกับนางแบบนี้ ก่อนไปเขาบอกกับนางว่าจะรักและซื่อสัตย์กับนางแค่คนเดียว เขาจะมีนางเป็นภรรยาแค่คนเดียว แล้วน
"คุณหนู คุณหนูเจ้าขา" เสียงสาวใช้คนสนิทร้องเรียกมาแต่ไกล จนอันชิงเหมยที่กำลังปักถุงหอมอยู่ ต้องละสายตาเงยหน้าขึ้นมามอง" มีอะไร แล้วทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาอย่างนั้นเล่า วิ่งเร็วแบบนั้น เดียวก็หกล้มหรอก "" ข่าวดี ข่าวดีเจ้าค่ะคุณหนู ท่านรอง ท่านรองแม่ทัพ กลับมาแล้วเจ้าค่ะ ตอนข้าไปตลาดขบวนเคลื่อนผ่าน เห็นท่านรองแม่ทัพนั่งอยู่บนหลังม้า ผู้คนแห่ไปต้อนรับกันเยอะแยะไปหมดเลยเจ้าค่ะ นี่ขบวนก็น่าจะใกล้ถึงจวนของเราแล้ว " ซีหว่านพูดไปหอบก็หอบไปเสิ่นหว่านอี้ ท่านกลับมาแล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไม ถึงไม่ส่งจดหมายมาบอกข้าก่อน หรือว่าเขาต้องการให้ข้าแปลกใจนะนึกถึงอดีต เสิ่นหว่านอี้เป็นเพียงนายกองเล็กๆ แต่เพราะสร้างผลงานในการรบครั้งก่อน นำกองกำลังบุกตีฝ่าวงล้อมข้าศึก ไปช่วยกองทัพเอาไว้ได้ทัน ทำให้ได้รับชัยชนะ แต่ศึกครั้งนั้นก็ทำให้รองแม่ทัพฟู่ต้องตาย ส่วนแม่ทัพอันบิดาของนาง ก็ได้เขารับคมหอกคมดาบแทน จนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสหนัก นอนรักษาตัวอยู่แรมเดือน ขาของเขาถูกตัดเส้นเอ็นขาดไปบางส่วน แม้จะหายดีแต่ก็ไม่เหมือนเดิม ขาของเขาเวลาเดินก็จะกะโผลกกะเผลกด้วยความชอบของเขาในครั้งนั้น กอปรกับตำแหน่งรองแม่ทัพว่าง