" หลายปีที่ผ่านมาฟ่าบาททรงเมตตาส่งเจ้าสาวไปให้หม่อมฉัน "
พอพูดถึงเรื่องนี้ทุกคนก็พากันตื่นตระหนกแม้แต่อู๋เทียนหลงกับเมิ่งจิ่งหลานก็นั่งแทบไม่ติด เพราะเจ้าสาวที่ส่งไปทุกคนล้วนถูกฆ่าตายกันหมด สวี่หานกลับเมืองหลวงในรอบหลายปีแถมยังพากองทัพมานับพัน คงไม่ใช่จะมาต่อว่าเรื่องนี้เฉยๆหรอกใช่ไหม
" ข้า ข้าเห็นว่าเจ้าถึงวัยที่ต้องมีชายาได้แล้ว ข้าก็เลย ในเมื่อเจ้าไม่ชอบข้ารับปากว่าจะไม่ส่งใครไปให้เจ้าอีก"
" ฟ่าบาทหวังดีกับเจ้า อยากให้เจ้าได้มีชายาเคียงข้าง เวลาเจ้ากลับจากศึกเหน็ดเหนื่อยจะได้มีนางคอยปรนนิบัติ อีกอย่างภายภาคหน้าเจ้าจักต้องมีทายาทสืบสกุล"
" หม่อมฉันเคยส่งสาล์นมาบอกแล้ว ว่าชายาของหม่อมฉัน หม่อมฉันจักเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง แล้วเหตุใดไม่ฟัง ยังส่งไปให้อีก เป็นความคิดของฮองเฮารึ "
น้ำเสียงเยือกเย็นของสวี่หานทำให้เมิ่งจิ่งหลานเย็นสันหลังวาบ อู๋เทียนหลงเห็นท่าไม่ดีรีบพูดขึ้นมา
" เอาหล่ะ ข้ารับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก เจ้ารักใครชอบใครก็เลือกตามใจเจ้าเลย ข้ากับฮองเฮาจะไม่ยุ่งกับเจ้าอีก "
" ดี ในเมื่อทรงตรัสเช่นนี้แล้วก็ตามนั้น ในเมื่อพระองค์อยากให้หม่อมฉันมีชายานักหม่อมฉันก็น้อมรับพระบัญชา "
" เจ้า เจ้าพูดอีกทีสิ ที่เจ้าพูดเมื่อกี้ เจ้า "
อู๋เทียนหลงแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง สวี่หานบอกว่าจะมีชายาแล้ว เขาจะยอมแต่งงานแล้ว
" ที่หม่อมฉันกลับมาคราวนี้ ก็เพื่อแต่งงานแล้วพานางไปอยู่แดนใต้ด้วยกัน "
" ได้ ได้สินางเป็นใคร เพียงเจ้าบอกมา ข้าจะจัดงานให้เจ้าอย่างยิ่งใหญ่เลย "
" ขอบพระทัยฟ่าบาท ข้าต้องการแต่งงานกับ"
สวี่หานกวาดสายตาไปทั่วงานก่อนจะหยุดลงที่อันชิงเหมย ทั้งสองสบตากัน อันชิงเหมยใจเต้นแรง ตึกตัก ตึกตัก ไม่ใช่หรอก เขาไม่ได้มองนางหรอกมั้ง สวี่หานชี้มาที่อันชิงเหมย
" นาง "
ทุกคนในงานส่งเสียงฮือฮามองมาที่อันชิงเหมย ต่างพากันวิพากวิจารณ์ อันซูหลุนกับอันเฟยเทียนตกใจมองหน้ากัน
" เจ้าหมายถึงนางคนนั้นรึ นางเป็นใครกัน"
อันเฟยเทียนดึงอันชิงเหมยมาหลบข้างหลังตนบังสายตาของสวี่หาน แล้วแสร้งมองไปทางอื่น
" นางคือสตรีที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังพี่ชายของนางอันเฟยเทียน เป็นบุตรสาวของแม่ทัพอันซูหลุน "
สวี่หานพูดเสียงดังฟังชัดทุกคนในงานต่างมองไปที่สามพ่อลูกเป็นตาเดียว ในงานเงียบกริบไม่มีใครส่งเสียงออกมาแม้แต่แอะราวกับโลกหยุดหมุน
อันเฟยเทียนไม่พอใจทำไมต้องเป็นน้องสาวของเขาด้วย เขาไม่ยอม กำลังจะพูดขึ้นมาแต่ถูกอันซูหลุนจับแขนไว้ส่ายหน้าบอกว่าไม่ต้องพูดอะไร อันซูหลุนก้าวไปข้างหน้า
" ทูลฟ่าบาท เรื่องแต่งงานคงต้องถามความเห็นของบุตรสาวกระหม่อมอีกที การแต่งงานแบบบีบบังคับไม่เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย เรื่องนี้กระหม่อมคิดว่าชินอ๋องเองก็ทราบดี เพราะท่านเองก็ไม่ชอบถูกบังคับ ลูกสาวข้าเองก็เช่นกัน"
อันซูหลุนพูดเสียงหนักแน่น ประโยคหลังหันไปพูดและจ้องตากับสวี่หาน อันชิงเหมยเป็นแก้วตาดวงใจของเขา หากนางไม่ยินยอมเขาก็พร้อมทำศึก ใครบ้างไม่รู้ถึงกิตติศัพท์ของสวี่หานว่าโหดเหี้ยมไร้ปราณีขนาดไหนเขาไม่ยอมส่งอันชิงเหมยเข้าปากเสือหรอก เจ้าสาวกี่คนที่ส่งไปก็ล้วนตายด้วยน้ำมือของบุรุษจิตวิปริตเช่นเขา ไหนจะข่าวลือว่าหน้าตาอัปลักษณ์อีก หลุดพ้นจากคู่หมั้นหน้าบากขาเป๋มาแล้ว ยังจะไปพัวพันกับบุรุษอัปลักษณ์ใจคอโหดเหี้ยมอีก โธ่ เวรกรรมอันใดของบุตรรสาวเขาก็ไม่รู้
เขาเป็นแม่ทัพแดนเหนือคุมกำลังพลนับแสน อันเฟยเทียนเป็นแม่ทัพทิศตะวันตกคุมกำลังพลนับแสนเช่นกัน สองแม่ทัพรวมกันมีรึจะสู้สวี่หานแม่ทัพแดนใต้ไม่ได้ ถึงต่อให้เก่งกาจสักแค่ไหน แต่ถ้ากำลังคนน้อยกว่าก็มีโอกาสพ่ายแพ้สูงได้
ทุกคนต่างฮือฮา อันซูหลุนพูดแบบนี้ไม่ต่างกับเปิดศึกกับชินอ๋องสวี่หานหรอกเรอะ อีกคนเป็นแม่ทัพแดนเหนือส่วนอีกคนเป็นแม่ทัพแดนใต้ หากเกิดปะทะกันแน่นอนว่าอันเฟยเทียนแม่ทัพแดนตะวันตกจะต้องเข้าร่วมกับอันซูหลุนแน่ ทีนี้ก็จะต้องเกิดศึกใหญ่เพื่อแย่งชิงสตรีนางเดียว
" เจ้าก้าวออกมาให้ข้าดูหน้าให้ชัดหน่อย"
อู๋เทียนหลงพูดขึ้นมา อันชิงเหมยเดินออกมาจากหลังอันเฟยเทียน สบตากับสวี่หานก่อนจะเงยหน้าขึ้นให้อู๋เทียนหลงดูให้ชัดๆ
" อืม งดงามยิ่งนัก นับว่าสวี่หานตาแหลมช่างเลือก เลือกได้ดี "
" เจ้าจะว่าอย่างไรที่สวี่หานเลือกเจ้าให้เป็นชายาของเขา เรื่องนี้ข้ากับฟ่าบาทจะไม่บังคับเจ้า แต่อยากให้เจ้าคิดให้ดีๆ "
คำพูดของเมิ่งจิ่งหลานแฝงความหมายในนั้น ถ้าอันชิงเหมยปฏิเสธจะต้องเกิดศึกใหญ่
" เหมยเอ๋อไม่ต้องกลัว ตอบไปเลยพี่กับพ่อพร้อมอยู่ข้างเจ้า"
อันเฟยเทียนจับแขนน้องสาวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาพร้อมจะปกป้องนาง
เสิ่นหว่านอี้มองอันชิงเหมยตาแทบไม่กระพริบ ร้อนรนในใจราวกับมีมดมากัดแทะคันยุบยิบแทบทนไม่ไหว ภาวนาให้นางปฏิเสธหากสวี่หานไม่ยอมรับต้องการพาตัวนางไปจริงๆ เขาก็พร้อมเปิดศึกเพื่อนาง
" หม่อมฉันยอมรับการแต่งงานครั้งนี้เพคะ "
ภายใต้หน้ากากสีเงินสวี่หานยกยิ้มพอใจ
" เจ้าว่าอะไรนะ เหมยเอ๋อทำไมถึง"
อันเฟยเทียนไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงตอบตกลง ส่วนอันซูหลุนได้แต่พยักหน้ายอมรับการตัดสินใจของนาง
" หากเจ้าตัดสินใจแล้วพ่อก็ตามใจเจ้า พ่อรู้ว่าเจ้าต้องมีเหตุผลถึงได้ตัดสินใจแบบนี้"
" ไว้กลับจวนข้าจะบอกเหตุผลท่านพ่อกับพี่ใหญ่เจ้าค่ะ"
" ดี ดีมาก ฮ่าฮ่า งั้นข้าจะเร่งจัดงานแต่งให้เจ้าทั้งสอง ฮ่าฮ่า ในที่สุดลูกของข้าคนนี้ก็จะได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาซะที"
อู๋เทียนหลงหัวเราะชอบใจใหญ่
" ฟ่าบาท หากยี่เฟยยังอยู่นางก็คงดีใจมากเช่นกัน"
" ทูลฟ่าบาท ยามนี้แดนใต้สถานการณ์ไม่สงบนัก หม่อมฉันคงอยู่ที่เมืองหลวงไม่ได้นาน"
" ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะเร่งงานแต่งให้เจ้า อีกสามวันข้างหน้าเป็นยังไง"
" ไม่ดี "
" ว่า ว่ายังไงนะ งั้น"
" พรุ่งนี้ หม่อมฉันจะแต่งงานพรุ่งนี้"
"คุณหนู คุณหนูเจ้าขา" เสียงสาวใช้คนสนิทร้องเรียกมาแต่ไกล จนอันชิงเหมยที่กำลังปักถุงหอมอยู่ ต้องละสายตาเงยหน้าขึ้นมามอง" มีอะไร แล้วทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาอย่างนั้นเล่า วิ่งเร็วแบบนั้น เดียวก็หกล้มหรอก "" ข่าวดี ข่าวดีเจ้าค่ะคุณหนู ท่านรอง ท่านรองแม่ทัพ กลับมาแล้วเจ้าค่ะ ตอนข้าไปตลาดขบวนเคลื่อนผ่าน เห็นท่านรองแม่ทัพนั่งอยู่บนหลังม้า ผู้คนแห่ไปต้อนรับกันเยอะแยะไปหมดเลยเจ้าค่ะ นี่ขบวนก็น่าจะใกล้ถึงจวนของเราแล้ว " ซีหว่านพูดไปหอบก็หอบไปเสิ่นหว่านอี้ ท่านกลับมาแล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไม ถึงไม่ส่งจดหมายมาบอกข้าก่อน หรือว่าเขาต้องการให้ข้าแปลกใจนะนึกถึงอดีต เสิ่นหว่านอี้เป็นเพียงนายกองเล็กๆ แต่เพราะสร้างผลงานในการรบครั้งก่อน นำกองกำลังบุกตีฝ่าวงล้อมข้าศึก ไปช่วยกองทัพเอาไว้ได้ทัน ทำให้ได้รับชัยชนะ แต่ศึกครั้งนั้นก็ทำให้รองแม่ทัพฟู่ต้องตาย ส่วนแม่ทัพอันบิดาของนาง ก็ได้เขารับคมหอกคมดาบแทน จนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสหนัก นอนรักษาตัวอยู่แรมเดือน ขาของเขาถูกตัดเส้นเอ็นขาดไปบางส่วน แม้จะหายดีแต่ก็ไม่เหมือนเดิม ขาของเขาเวลาเดินก็จะกะโผลกกะเผลกด้วยความชอบของเขาในครั้งนั้น กอปรกับตำแหน่งรองแม่ทัพว่าง
" หว่านอี้ กลับมาแล้วเหรอลูก "" ขอรับท่านแม่ หลังจากรายงานสถานการณ์กับฟ่าบาทเสร็จ ก็อยู่คุยกับคนอื่นๆต่อเลยมาช้าไปหน่อย "" อีก3วันจะมีงานเลี้ยงต้อนรับในวังหลวง พี่อยากให้เจ้าไปด้วย "เสิ่นหว่านอี้พูดแต่กลับมองหน้าอันชิงเหมยสลับกับหยางซือหรู ตกลงเขาพูดกับใคร อยากให้ใครไปงานเลี้ยงด้วยกันแน่" ท่านพี่ ข้ายังไม่มีชุดสวยๆใส่เลย ท่านพาข้าไปซื้อได้หรือไม่ "หยางซือหรูลุกขึ้นไปกอดแขนออดอ้อนเสิ่นหว่านอี้ อันชิงเหมยหน้าซีด ใจกระตุกวูบ ท่านพี่อย่างงั้นเหรอ หมายความว่ายังไงกัน นางจ้องหน้าเขาเขม็งเพื่อรอคำอธิบายเสิ่นหว่านอี้แกะแขนของหยางซือหรูออก แล้วเดินไปหาอันชิงเหมย มีสีหน้าลำบากใจ" เหมยเอ๋อ คือว่า "" อธิบายมาว่านางเป็นใคร"" เอ่อ คือ "เสิ่นหว่านอี้อ้ำอึ้งพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะเริ่มอธิบายให้นางฟังอย่างไรดี หยางซือหรูก็พูดขึ้นมา" ข้า หยางซือหรู เป็นภรรยาของท่านพี่หว่านอี้ "ภรรยาอย่างงั้นเหรอ นี่มันเรื่องอะไรกัน นางเป็นคู่หมั้นของเขา รักเขารอเขามาเป็นปี เขาบอกให้นางรอนางก็รอ แล้วทำไมถึงทำกับนางแบบนี้ ก่อนไปเขาบอกกับนางว่าจะรักและซื่อสัตย์กับนางแค่คนเดียว เขาจะมีนางเป็นภรรยาแค่คนเดียว แล้วน
อันชิงเหมยเดินออกไปไม่สนใจเสิ่นหว่านอี้ว่ามีสีหน้าเป็นเช่นไร" เหมยเอ๋อ " เสิ่นหว่านอี้รีบเดินตาม หยางซือหรูเห็นแบบนั้นก็แสร้งเป็นลม" ท่านพี่" เสิ่นหว่านอี้ชะงักเท้า รีบพุ่งไปรับตัวหยางซือหรูที่โงนเงนจะล้ม เมื่อถึงตัวนางนางก็ล้มลงในอ้อมแขนของเขาพอดี เสิ่นหว่านอี้ได้แต่มองตามหลังบอบบางของอันชิงเหมยที่ลับตาไปอยู่ๆหยางซือหรู ก็ตัวร้อนมีไข้ขึ้นมา ทำให้เขาต้องคอยดูแลนางทั้งคืน นางเอาแต่พร่ำเพ้อหาเขา ไม่ยอมให้เขาห่างนางเลยแม้แต่น้อย ในใจของเสิ่นหว่านอี้ตอนนี้ ทุกข์ทรมานราวไฟสุม อยากไปหาอันชิงเหมย อยากขอร้องให้นางให้อภัยเขา แต่ก็ไม่สามารถทิ้งหยางซือหรูไปได้หยางซือหรูปรายตามองเสิ่นหว่านอี้ ยกยิ้มมุมปาก นางไม่ได้ป่วยไข้หรอก อาศัยความรู้วิชาแพทย์เล็กน้อย ใช้เปลือกไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษ เมื่อเคี้ยวกลืนน้ำมันลงไปสักพัก ตัวจะรุมๆมีไอร้อนเหมือนเป็นไข้ ที่เหลือนางก็เสแสร้งแกล้งเจ็บป่วย เพื่อรั้งเขาไว้ไม่ให้ตามคู่หมั้นของเขาไปนางเจอเขาครั้งแรกเมื่อกองทัพมาถึงหนานหยาง บิดาของนางที่เป็นเจ้าเมืองไปให้การต้อนรับ นางเองก็ไปด้วย นางสบตาเขาครั้งแรกก็ชื่นชอบ บุรุษหน้าตาคมคาย มีหนวดเคราประปราย
อันชิงเหมยลุกออกไปทันที เสิ่นหว่านอี้รีบตามไป อันซูหลุนเห็นแก่ที่เสิ่นหว่านอี้เคยช่วยชีวิตเขาไว้ จึงยอมให้ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น จะเป็นอย่างไรต่อไปก็สุดแล้วแต่ลูกสาวของเขา และเขาเคารพการตัดสินใจของนางทุกอย่าง" เหมยเอ๋อ " " ตามมาทำไม ทำไมยังไม่กลับไปอีก "" เจ้าอยากให้พี่ทำยังไง บอกพี่มาสิ พี่จะทำทุกอย่าง ขอเพียงเจ้ากลับมาเป็นเหมือนเดิม "" ท่านไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพราะมันไม่มีวันเหมือนเดิม "เสิ่นหว่านอี้จะกุมมือนางแต่นางเบี่ยงหลบขยับถอยหลังไป2-3ก้าว เขามองเข้าไปในตาของนาง มันช่างว่างเปล่า ว่างเปล่าจนเขาหายใจไม่ออก" เหมยเอ๋อ ทำไมไม่เรียกพี่เหมือนเดิม ทำไมต้องทำเหินห่างเย็นชากับพี่ด้วย "" ข้ามิบังอาจเรียกท่านรองแม่ทัพอย่างสนิทสนมได้หรอกเจ้าค่ะ ข้ากับท่านเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว คำๆนั้นท่านมีคนเรียกอยู่แล้ว กลับไปดูแลภรรยาของท่านเถอะ ข้าขอตัว"เสิ่นหว่านอี้คว้าแขนของนางเอาไว้ นางสะบัดออก หันมามองเขานัยตาแดงกร่ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม" ข้าหวังว่าท่านจะไม่มาที่นี่อีก เรื่องของเรามันจบลงแล้ว ท่านไม่ผิดหรอก เป็นข้าที่ไร้วาสนาเคียงคู่กับท่านเอง "" ข้าไม่เข้าใจ ทำไม เพราะข้ามีภรรยาเพิ่มอ
ในตลาด วันนี้ผู้คนพลุกพล่าน การค้าขายแต่ละร้านคึกคักเป็นพิเศษ อันชิงเหมยมาเดินเล่นกับซีหว่าน ดูนั่นดูนี่เพลิดเพลิน ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเครื่องประดับ " ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะคุณหนูอัน วันนี้มีแบบใหม่ๆมาเพียบเลยเจ้าค่ะ นี่เจ้าค่ะ "เถ้าแก่เนี๊ยะรีบกุลีกุจอมาต้อนรับ ก่อนจะหันไปเอาถาดใส่เครื่องประดับมาวางตรงหน้าให้อันชิงเหมยเลือก" เลือกตามสบายเลยนะเจ้าค่ะ " พูดกับอันชิงเหมยก่อนจะเรียกเด็กในร้านมาคอยดูแล" เจ้าหน่ะมานี่สิ มาดูแลคุณหนูอันด้วย บริการให้ดีหล่ะ " " คุณหนูเจ้าค่ะ ชิ้นนี้เป็นไงเจ้าค่ะ ประดับมุกสีชมพูแวววาวเชียวเจ้าค่ะ " ซีหว่านหยิบปิ่นมุกส่งให้อันชิงเหมยดู" ก็สวยดี ถ้าเจ้าชอบก็เอาสิข้าซื้อให้ "" ไม่ ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่เอาหรอกที่มีอยุ่ก็เยอะแล้ว "ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่ตาก็มองปิ่นมุกอยู่ตลอด อันชิงเหมยเห็นก็ยิ้ม หยิบปิ่นมุกส่งให้พนักงานห่อให้ ส่วนนางยังไม่ถูกใจชิ้นไหน และก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อด้วยแค่แวะมาดูเล่นๆเท่านั้น เมื่อหันหลังกลับมากำลังจะออกจากร้าน ก็เจอกับคนที่ไม่อยากจะเจอ" เหมยเอ๋อ "เสิ่นหว่านอี้ยิ้มกว้างที่ได้เจออันชิงเหมย เขาไม่เห็นหน้านางมาหลายวันแล้ว เสิ่นหว่านอี้เ
งานเลี้ยงในวังมีเหล่าขุนนางมาร่วมงานมากมาย เสิ่นหว่านอี้มาพร้อมหยางซือหรู เขามองหาอันชิงเหมย หวังว่านางจะมางานนี้ เขาจะหาโอกาสปรับความเข้าใจกับนางอีกสักครั้ง หลายวันมานี้เขาจมอยู่กับความผิด ทั้งที่นางดีกับเขามาตลอดช่วยดูแลแม่ของเขา ในจวนยังช่วยดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย นางรอเขากลับมาแต่เขากลับผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับนาง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิด เขาปลีกตัวออกมาจากหยางซือหรูทำทีเป็นเดินไปคุยกับคนอื่น แต่จุดประสงค์คือไปรออันชิงเหมยแถวทางเข้างานรถม้าสัญลักษณ์ตระกูลอันหยุดลง อันชิงเหมยลงจากรถม้าเดินเข้างานมาพร้อมอันซูหลุนแม่ทัพแดนเหนือบิดาของนาง ถัดมาเป็นอันเฟยเทียน แม่ทัพแดนตะวันตกพี่ชายของนาง เสิ่นหว่านอี้รีบกระโผลกกระเผลกเข้าไปหาส่งยิ้มให้" เหมยเอ๋อ "อันชิงเหมยทำเป็นมองไม่เห็นเดินเลี่ยงไปเสิ่นหว่านอี้รีบเดินตาม" เหมยเอ๋อ พี่ขอคุยด้วยได้ไหม "" ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับท่าน "" พี่ขอร้อง ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย แล้วพี่จะไม่มาวุ่นวายอีก "อันชิงเหมยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในเมื่อเขากล้าพูดแบบนี้หวังว่าจะรักษาคำพูด แล้วเดินนำเขาไปในสวนหย่อม เสิ่นหว่านอี้ดีใจรีบกระโผลกกระเผลกตามไปทันทีอันเฟยเทียนจะ
" หลายปีที่ผ่านมาฟ่าบาททรงเมตตาส่งเจ้าสาวไปให้หม่อมฉัน "พอพูดถึงเรื่องนี้ทุกคนก็พากันตื่นตระหนกแม้แต่อู๋เทียนหลงกับเมิ่งจิ่งหลานก็นั่งแทบไม่ติด เพราะเจ้าสาวที่ส่งไปทุกคนล้วนถูกฆ่าตายกันหมด สวี่หานกลับเมืองหลวงในรอบหลายปีแถมยังพากองทัพมานับพัน คงไม่ใช่จะมาต่อว่าเรื่องนี้เฉยๆหรอกใช่ไหม" ข้า ข้าเห็นว่าเจ้าถึงวัยที่ต้องมีชายาได้แล้ว ข้าก็เลย ในเมื่อเจ้าไม่ชอบข้ารับปากว่าจะไม่ส่งใครไปให้เจ้าอีก"" ฟ่าบาทหวังดีกับเจ้า อยากให้เจ้าได้มีชายาเคียงข้าง เวลาเจ้ากลับจากศึกเหน็ดเหนื่อยจะได้มีนางคอยปรนนิบัติ อีกอย่างภายภาคหน้าเจ้าจักต้องมีทายาทสืบสกุล"" หม่อมฉันเคยส่งสาล์นมาบอกแล้ว ว่าชายาของหม่อมฉัน หม่อมฉันจักเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง แล้วเหตุใดไม่ฟัง ยังส่งไปให้อีก เป็นความคิดของฮองเฮารึ "น้ำเสียงเยือกเย็นของสวี่หานทำให้เมิ่งจิ่งหลานเย็นสันหลังวาบ อู๋เทียนหลงเห็นท่าไม่ดีรีบพูดขึ้นมา" เอาหล่ะ ข้ารับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก เจ้ารักใครชอบใครก็เลือกตามใจเจ้าเลย ข้ากับฮองเฮาจะไม่ยุ่งกับเจ้าอีก "" ดี ในเมื่อทรงตรัสเช่นนี้แล้วก็ตามนั้น ในเมื่อพระองค์อยากให้หม่อมฉันมีชายานักหม่อมฉันก็น้อม
งานเลี้ยงในวังมีเหล่าขุนนางมาร่วมงานมากมาย เสิ่นหว่านอี้มาพร้อมหยางซือหรู เขามองหาอันชิงเหมย หวังว่านางจะมางานนี้ เขาจะหาโอกาสปรับความเข้าใจกับนางอีกสักครั้ง หลายวันมานี้เขาจมอยู่กับความผิด ทั้งที่นางดีกับเขามาตลอดช่วยดูแลแม่ของเขา ในจวนยังช่วยดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย นางรอเขากลับมาแต่เขากลับผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับนาง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิด เขาปลีกตัวออกมาจากหยางซือหรูทำทีเป็นเดินไปคุยกับคนอื่น แต่จุดประสงค์คือไปรออันชิงเหมยแถวทางเข้างานรถม้าสัญลักษณ์ตระกูลอันหยุดลง อันชิงเหมยลงจากรถม้าเดินเข้างานมาพร้อมอันซูหลุนแม่ทัพแดนเหนือบิดาของนาง ถัดมาเป็นอันเฟยเทียน แม่ทัพแดนตะวันตกพี่ชายของนาง เสิ่นหว่านอี้รีบกระโผลกกระเผลกเข้าไปหาส่งยิ้มให้" เหมยเอ๋อ "อันชิงเหมยทำเป็นมองไม่เห็นเดินเลี่ยงไปเสิ่นหว่านอี้รีบเดินตาม" เหมยเอ๋อ พี่ขอคุยด้วยได้ไหม "" ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับท่าน "" พี่ขอร้อง ถือว่าเป็นครั้งสุดท้าย แล้วพี่จะไม่มาวุ่นวายอีก "อันชิงเหมยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในเมื่อเขากล้าพูดแบบนี้หวังว่าจะรักษาคำพูด แล้วเดินนำเขาไปในสวนหย่อม เสิ่นหว่านอี้ดีใจรีบกระโผลกกระเผลกตามไปทันทีอันเฟยเทียนจะ
ในตลาด วันนี้ผู้คนพลุกพล่าน การค้าขายแต่ละร้านคึกคักเป็นพิเศษ อันชิงเหมยมาเดินเล่นกับซีหว่าน ดูนั่นดูนี่เพลิดเพลิน ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเครื่องประดับ " ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะคุณหนูอัน วันนี้มีแบบใหม่ๆมาเพียบเลยเจ้าค่ะ นี่เจ้าค่ะ "เถ้าแก่เนี๊ยะรีบกุลีกุจอมาต้อนรับ ก่อนจะหันไปเอาถาดใส่เครื่องประดับมาวางตรงหน้าให้อันชิงเหมยเลือก" เลือกตามสบายเลยนะเจ้าค่ะ " พูดกับอันชิงเหมยก่อนจะเรียกเด็กในร้านมาคอยดูแล" เจ้าหน่ะมานี่สิ มาดูแลคุณหนูอันด้วย บริการให้ดีหล่ะ " " คุณหนูเจ้าค่ะ ชิ้นนี้เป็นไงเจ้าค่ะ ประดับมุกสีชมพูแวววาวเชียวเจ้าค่ะ " ซีหว่านหยิบปิ่นมุกส่งให้อันชิงเหมยดู" ก็สวยดี ถ้าเจ้าชอบก็เอาสิข้าซื้อให้ "" ไม่ ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่เอาหรอกที่มีอยุ่ก็เยอะแล้ว "ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่ตาก็มองปิ่นมุกอยู่ตลอด อันชิงเหมยเห็นก็ยิ้ม หยิบปิ่นมุกส่งให้พนักงานห่อให้ ส่วนนางยังไม่ถูกใจชิ้นไหน และก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อด้วยแค่แวะมาดูเล่นๆเท่านั้น เมื่อหันหลังกลับมากำลังจะออกจากร้าน ก็เจอกับคนที่ไม่อยากจะเจอ" เหมยเอ๋อ "เสิ่นหว่านอี้ยิ้มกว้างที่ได้เจออันชิงเหมย เขาไม่เห็นหน้านางมาหลายวันแล้ว เสิ่นหว่านอี้เ
อันชิงเหมยลุกออกไปทันที เสิ่นหว่านอี้รีบตามไป อันซูหลุนเห็นแก่ที่เสิ่นหว่านอี้เคยช่วยชีวิตเขาไว้ จึงยอมให้ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น จะเป็นอย่างไรต่อไปก็สุดแล้วแต่ลูกสาวของเขา และเขาเคารพการตัดสินใจของนางทุกอย่าง" เหมยเอ๋อ " " ตามมาทำไม ทำไมยังไม่กลับไปอีก "" เจ้าอยากให้พี่ทำยังไง บอกพี่มาสิ พี่จะทำทุกอย่าง ขอเพียงเจ้ากลับมาเป็นเหมือนเดิม "" ท่านไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพราะมันไม่มีวันเหมือนเดิม "เสิ่นหว่านอี้จะกุมมือนางแต่นางเบี่ยงหลบขยับถอยหลังไป2-3ก้าว เขามองเข้าไปในตาของนาง มันช่างว่างเปล่า ว่างเปล่าจนเขาหายใจไม่ออก" เหมยเอ๋อ ทำไมไม่เรียกพี่เหมือนเดิม ทำไมต้องทำเหินห่างเย็นชากับพี่ด้วย "" ข้ามิบังอาจเรียกท่านรองแม่ทัพอย่างสนิทสนมได้หรอกเจ้าค่ะ ข้ากับท่านเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว คำๆนั้นท่านมีคนเรียกอยู่แล้ว กลับไปดูแลภรรยาของท่านเถอะ ข้าขอตัว"เสิ่นหว่านอี้คว้าแขนของนางเอาไว้ นางสะบัดออก หันมามองเขานัยตาแดงกร่ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม" ข้าหวังว่าท่านจะไม่มาที่นี่อีก เรื่องของเรามันจบลงแล้ว ท่านไม่ผิดหรอก เป็นข้าที่ไร้วาสนาเคียงคู่กับท่านเอง "" ข้าไม่เข้าใจ ทำไม เพราะข้ามีภรรยาเพิ่มอ
อันชิงเหมยเดินออกไปไม่สนใจเสิ่นหว่านอี้ว่ามีสีหน้าเป็นเช่นไร" เหมยเอ๋อ " เสิ่นหว่านอี้รีบเดินตาม หยางซือหรูเห็นแบบนั้นก็แสร้งเป็นลม" ท่านพี่" เสิ่นหว่านอี้ชะงักเท้า รีบพุ่งไปรับตัวหยางซือหรูที่โงนเงนจะล้ม เมื่อถึงตัวนางนางก็ล้มลงในอ้อมแขนของเขาพอดี เสิ่นหว่านอี้ได้แต่มองตามหลังบอบบางของอันชิงเหมยที่ลับตาไปอยู่ๆหยางซือหรู ก็ตัวร้อนมีไข้ขึ้นมา ทำให้เขาต้องคอยดูแลนางทั้งคืน นางเอาแต่พร่ำเพ้อหาเขา ไม่ยอมให้เขาห่างนางเลยแม้แต่น้อย ในใจของเสิ่นหว่านอี้ตอนนี้ ทุกข์ทรมานราวไฟสุม อยากไปหาอันชิงเหมย อยากขอร้องให้นางให้อภัยเขา แต่ก็ไม่สามารถทิ้งหยางซือหรูไปได้หยางซือหรูปรายตามองเสิ่นหว่านอี้ ยกยิ้มมุมปาก นางไม่ได้ป่วยไข้หรอก อาศัยความรู้วิชาแพทย์เล็กน้อย ใช้เปลือกไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษ เมื่อเคี้ยวกลืนน้ำมันลงไปสักพัก ตัวจะรุมๆมีไอร้อนเหมือนเป็นไข้ ที่เหลือนางก็เสแสร้งแกล้งเจ็บป่วย เพื่อรั้งเขาไว้ไม่ให้ตามคู่หมั้นของเขาไปนางเจอเขาครั้งแรกเมื่อกองทัพมาถึงหนานหยาง บิดาของนางที่เป็นเจ้าเมืองไปให้การต้อนรับ นางเองก็ไปด้วย นางสบตาเขาครั้งแรกก็ชื่นชอบ บุรุษหน้าตาคมคาย มีหนวดเคราประปราย
" หว่านอี้ กลับมาแล้วเหรอลูก "" ขอรับท่านแม่ หลังจากรายงานสถานการณ์กับฟ่าบาทเสร็จ ก็อยู่คุยกับคนอื่นๆต่อเลยมาช้าไปหน่อย "" อีก3วันจะมีงานเลี้ยงต้อนรับในวังหลวง พี่อยากให้เจ้าไปด้วย "เสิ่นหว่านอี้พูดแต่กลับมองหน้าอันชิงเหมยสลับกับหยางซือหรู ตกลงเขาพูดกับใคร อยากให้ใครไปงานเลี้ยงด้วยกันแน่" ท่านพี่ ข้ายังไม่มีชุดสวยๆใส่เลย ท่านพาข้าไปซื้อได้หรือไม่ "หยางซือหรูลุกขึ้นไปกอดแขนออดอ้อนเสิ่นหว่านอี้ อันชิงเหมยหน้าซีด ใจกระตุกวูบ ท่านพี่อย่างงั้นเหรอ หมายความว่ายังไงกัน นางจ้องหน้าเขาเขม็งเพื่อรอคำอธิบายเสิ่นหว่านอี้แกะแขนของหยางซือหรูออก แล้วเดินไปหาอันชิงเหมย มีสีหน้าลำบากใจ" เหมยเอ๋อ คือว่า "" อธิบายมาว่านางเป็นใคร"" เอ่อ คือ "เสิ่นหว่านอี้อ้ำอึ้งพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะเริ่มอธิบายให้นางฟังอย่างไรดี หยางซือหรูก็พูดขึ้นมา" ข้า หยางซือหรู เป็นภรรยาของท่านพี่หว่านอี้ "ภรรยาอย่างงั้นเหรอ นี่มันเรื่องอะไรกัน นางเป็นคู่หมั้นของเขา รักเขารอเขามาเป็นปี เขาบอกให้นางรอนางก็รอ แล้วทำไมถึงทำกับนางแบบนี้ ก่อนไปเขาบอกกับนางว่าจะรักและซื่อสัตย์กับนางแค่คนเดียว เขาจะมีนางเป็นภรรยาแค่คนเดียว แล้วน
"คุณหนู คุณหนูเจ้าขา" เสียงสาวใช้คนสนิทร้องเรียกมาแต่ไกล จนอันชิงเหมยที่กำลังปักถุงหอมอยู่ ต้องละสายตาเงยหน้าขึ้นมามอง" มีอะไร แล้วทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาอย่างนั้นเล่า วิ่งเร็วแบบนั้น เดียวก็หกล้มหรอก "" ข่าวดี ข่าวดีเจ้าค่ะคุณหนู ท่านรอง ท่านรองแม่ทัพ กลับมาแล้วเจ้าค่ะ ตอนข้าไปตลาดขบวนเคลื่อนผ่าน เห็นท่านรองแม่ทัพนั่งอยู่บนหลังม้า ผู้คนแห่ไปต้อนรับกันเยอะแยะไปหมดเลยเจ้าค่ะ นี่ขบวนก็น่าจะใกล้ถึงจวนของเราแล้ว " ซีหว่านพูดไปหอบก็หอบไปเสิ่นหว่านอี้ ท่านกลับมาแล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไม ถึงไม่ส่งจดหมายมาบอกข้าก่อน หรือว่าเขาต้องการให้ข้าแปลกใจนะนึกถึงอดีต เสิ่นหว่านอี้เป็นเพียงนายกองเล็กๆ แต่เพราะสร้างผลงานในการรบครั้งก่อน นำกองกำลังบุกตีฝ่าวงล้อมข้าศึก ไปช่วยกองทัพเอาไว้ได้ทัน ทำให้ได้รับชัยชนะ แต่ศึกครั้งนั้นก็ทำให้รองแม่ทัพฟู่ต้องตาย ส่วนแม่ทัพอันบิดาของนาง ก็ได้เขารับคมหอกคมดาบแทน จนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสหนัก นอนรักษาตัวอยู่แรมเดือน ขาของเขาถูกตัดเส้นเอ็นขาดไปบางส่วน แม้จะหายดีแต่ก็ไม่เหมือนเดิม ขาของเขาเวลาเดินก็จะกะโผลกกะเผลกด้วยความชอบของเขาในครั้งนั้น กอปรกับตำแหน่งรองแม่ทัพว่าง