“คุณยังเจ็บอยู่เดี๋ยวฉันบอกพวกเค้าให้ก็ได้”
นิชาเห็นว่าชายหนุ่มแผลยังไม่หายคงขับรถไม่ค่อยถนัดเรื่องแค่นี้เธอบอกให้ก็ได้
“อืม..อย่างนั้นก็ได้ขอบคุณนะครับ...คุณจะกลับเลยไหมอยู่เป็นเพื่อนคุยกับผมก่อนสิ”
ธีรธรพยักหน้าตอบถึงตอนนี้หญิงสาวจะทานข้าวอิ่มแล้วแต่เขายังไม่อยากให้เธอกลับยังอยากให้เธออยู่เป็นเพื่อนคุยอีกสักหน่อยเพราะเขาไม่มีใครมานั่งทานข้าวด้วยแบบนี้นานแล้ว
“นี่มันก็มืดแล้วฉันต้องรีบกลับ...นี่คุณเหงาหรืออะไร”
นิชาเห็นว่าที่นี่มันก็เริ่มมืดแล้วเธออยากจะกลับดึกพรางคิดว่าเขาน่าจะเหงาพอมีคนมาทานข้าวด้วยก็ไม่อยากจะให้กลับ
“ก็แค่อยากมีเพื่อนนั่งคุยบ้างคุณไม่สะดวกก็ไม่เป็นอะไร”
ธีรธรตอบหญิงสาวด้วยสายตาละห้อยเล็กน้อย
“อะ..ฉันอยู่ก่อนก็ได้..เออแล้วแผลคุณล้างหรือยัง”
นิชาเห็นแก่ที่เขาเคยช่วยเพื่อนเธอเอาไว้จึงยอมใจอ่อนอยู่เป็นเพื่อนคิดเสียว่าทำให้คนๆนึงหายเหงาก็แล้วกันพลันสายตาก็มองไปที่ต้นแขนของเขาอยากจะรู้ว่าวันนี้เขาล้างแผลหรือยังเพราะดุท่าชายหนุ่มคงไม่ใช่คนที่สนใจดูแลตัวเองเท่าไร
“เอ่อ..ยังเลย”
ธีรธรนึกขึ้นได้ว่าเขาลืมที่จะล้างแผลไปเลย
“งั้นเดี๋ยวฉันล้างแผลให้ก็แล้วกัน”
นิชาคิดเอาไว้แล้วว่าเธอจะต้องเดาไม่ผิด
“ขอบคุณครับเดี๋ยวผมไปยกกล่องอุปกรณ์มาให้”
“อืมม”
ธีรธรรีบลุกขึ้นเดินไปหยิบกล่องอุปกรณ์ทำแผลออกมาจากตู้และค่อยๆถอดเสื้อออกเพราะคิดว่าหากถอดเสื้อออกหญิงสาวคงจะทำแผลให้เขาถนัดกว่า
“นี่ครับ”
“นี่คุณ...ถอดเสื้อทำไม”
นิชาตกใจเล็กน้อยพร้อมหลบสายตาลงที่จู่ๆชายหนุ่มก็เดินโชว์แผงอกออกมาแบบนั้นกล้ามที่เป็นมัดๆบวกกับหุ่นที่เพอเฟคมันก็ทำให้เธอแอบเขินเค้าได้เหมือนกัน
“คุณจะได้ทำแผลสะดวกๆไง...อย่าบอกนะว่าเขินผม”
ที่เขาถอดเสื้อออกก็เพื่อความสะดวกในการทำแผลยิ่งเห็นหญิงสาวหลบสายตาแบบนั้นเขาก็อมยิ้มดูท่าหญิงสาวคงจะเขินเป็นแน่ไม่รู้ว่าเธอเคยเจอผู้ชายมาถอดเสื้อใกล้ๆแบบนี้บ้างหรือเปล่า
“เลิกพูดเล่นได้แล้วเขินบ้าอะไรของคุณ...นั่งลงสิฉันจะทำแผลให้”
นิชารีบปฏิเสธพร้อมทำทีเป็นกล้าสบสายตากับอีกฝ่ายและสั่งให้เขานั่งลงมือก็เปิดกล่องอุปกรณ์ทำแผลอย่างชำนาญ
“นี่คุณดูดวงจันทร์สิสวยนะ”
คืนนี้เป็นคืนเดือนหงายชาหนุ่มที่กำลังนั่งทำแผลอยู่มองออกไปนอกกระจกเห็นดวงจันทร์เขาก็อดที่จะพูดชมมันไม่ได้
“อืมก็สวยดีนะ..”
นิชาที่กำลังทำแผลให้ชายหนุ่มเธอละสายตามองออกไปยังที่ชายหนุ่มมองอยู่เธอก็เห็นด้วยกับคำที่เขาพูดพรางอมยิ้มเล็กน้อยไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมีมุมที่นั่งชมดวงจันทร์ด้วย
“ตอนที่แม่ผมอยู่ท่านชอบพาผมมานั่งดูดวงจันทร์แทบทุกคืนเลย”
ธีรธรไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากจะเล่าเรื่องในความคิดของเขาตอนนี้ให้เธอได้ฟัง
“อืม..คุณนี่ดีนะมีความทรงจำที่ดีกับแม่ฉันละยังไม่เคยเห็นหน้าแม่เลยด้วยซ้ำ”
นิชาหยุดมือจากการทำแผลเมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดถึงแม่เธอคิดว่าเขายังดีที่มีความทรงจำดีๆกับแม่แต่เธอนี่สิไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าของแม่เธอด้วยซ้ำ..เมื่อพูดจบก็หันมาสนใจการทำแผลให้ชายหนุ่มต่อจนเสร็จ
“จริงเหรอ..แล้วคุณอยู่กับใคร”
ธีรธรชักอยากจะรู้เรื่องหญิงสาวซะแล้วสิหากเธอไม่เคยเห็นแม่แล้วใครเลี้ยงเธอมา
“ฉันก็อยู่กับคุณย่าส่วนคุณพ่อก็ทำงานในเมืองนานๆมาหาฉันทีแต่ตอนนี้ท่านก็ไม่อยู่แล้ว”
“คุณก็อยู่กับคุณย่าสองคนงั้นเหรอ”
“ใช่”
“อืมม...ยังดีที่คุณมีคนอยู่ด้วยก็เลยไม่เหงา..ผมนี่สิมีน้องก็ไปเรียนเมืองนอกเมืองนาแถมเรียนจบก็อยากจะทำงานอยู่ที่นั่นไม่อยากจะกลับอีกนี่ไม่รู้ว่ามันนึกยังไงจะกลับมา”
“ไม่ดีหรือไงคุณจะได้มีเพื่อนไง”
“ก็ดี..”
ทั้งสองคุยโต้ตอบกันไปมาถึงเรื่องราวชีวิตของตัวเองต่างคนต่างก็มีข้อดีและข้อเสียในชีวิตเหมือนกันไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง
“มองอะไรของคุณ”
นิชาไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะมาหยุดนิ่งจ้องหน้าเธอจริงจังอะไรขนาดนั้นมันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆจึงถามเขาขึ้นว่ามีเรื่องอะไรคาใจหรือเปล่า
“มองที่วันนี้เราคุยกันดีเป็นวันแรกไง”
ธีรธรคิดว่าวันนี้คงจะเป็นวันแรกที่หญิงสาวนั้นคุยดีๆกับเขาได้นานไม่ขัดคอหรือกัดกันเสียก่อนเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา
“.......”
นิชาเห็นด้วยกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูดก็จริงที่วันนี้เธอได้คุยกับเขาได้นานอย่างไมเคยเป็นมาก่อน
“มาดื่มกันไหม..”
ธีรธรไม่รู้นึกยังไงถึงอยากชวนหญิงสาวดื่มพร้อมยกขวดไวน์โชว์หญิงสาว
“อะไรของคุณพึ่งจะทานข้าวไปคุณจะดื่มเลยหรือไง...ฉันไม่ดื่มหรอกจะกลับแล้ว”
นิชาไม่เอาด้วยเรื่องดื่มเธอไม่ใช่คนคอแข็งเดี๋ยวก็เผลอดื่มจนเมาแล้วทำตัวเปิ่นต่อหน้าชายหนุ่มอีก
“หรือคุณดื่มไม่เป็นถึงไม่อยากดื่ม”
ธีรธรคิดว่าที่หญิงสาวไม่ดื่มเพราะเธออาจจะดื่มไม่เป็นถ้าเธอดื่มไม่เป็นเขาก็จะไม่รั้งเพราะถ้าเกิดเมาหรือแพ้แอลกอฮอล์ขึ้นมาเขาจะเป็นคนผิดที่ชวนเธอดื่ม
“...ใครบอกว่าดื่มไม่เป็นกันเล่า...ใส่แก้วมาจะได้จบๆฉันจะได้กลับซะที”
นิชาไม่อยากเสียหน้าก็แค่ดื่มไวน์คงไม่เป็นอะไรกับร่างกายเธอหรอกหญิงสาวคิดแบบนั้นดื่มเสร็จแล้วเธอจะได้ขอตัวกลับเสียที
“ฮ่าๆๆ..ต้องอย่างนี้สิ”ธีรธรยกขวดไวน์ราคาแพงเทใส่แก้วที่หญิงสาวยื่นมาให้พอประมาณ“....เอ่อ...ก็รสชาติดีแฮะ..”นิชาสูดดมกลิ่นของไวน์แล้วค่อยๆจิบเมื่อไวน์สัมผัสกับลิ้นของเธอหญิงสาวรู้สึกชอบรสชาติแบบนี้มากถึงกับตาโตเลยทีเดียว“อีกไหมคุณ..”ธีรธรเห็นว่าหญิงสาวน่าจะชอบเพราะเธอเล่นดื่มทีเดียวจะหมดแก้วเลยจึงยื่นจะเทไวน์ในขวดให้เธออีก“อืมม...”นิชาพยักหน้ารับพร้อมยื่นแก้วให้กับชายหนุ่มเธอไม่คิดว่าของแบบนี้มันจะอร่อยได้เหมือนกันครึ่งชั่วโมงต่อมา“คุณ..ไหวหรือเปล่า..เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน”ธีรธรเห็นหญิงสาวดื่มเข้าไปหลายแก้วอยู่เหมือนกันจนตอนนี้เธอนั้นเริ่มที่จะนั่งอึนหน้าแดงตาเยิ้มอย่างเห็นได้ชัดเขาเลยคิดว่าคงจะต้องเป็นเขาแล้วที่พาเธอไปส่งที่บ้านหากขับรถกลับเองคงไม่ดีแน่ชายหนุ่มเข้าไปพยุงตัวของหญิงสาวโดยใช้แขนอีกข้างที่ยังใช้การได้อยู่ตัวเธอเล็กกว่าเขมากจึงใช้แขนข้างเดียวหิ้วขึ้นมาให้ลุกขึ้นได้อย่างสบาย“อย่ามาแตะตัวฉันนะ...คุณมันจอมเจ้าชู้ใครอยู่ใกล้ก็อันตราย”นิชากำลังอยู่ในอาการมึนเมาตอนนี้สติเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วเมื่อมองเห็นคนที่กำลังถึงเนื้อถึงตัวกับเธออยู่ก็รีบผละออกแถมยังต่อว่าอ
“เอ่อ..ขอโทษนะคะคุณธรอยู่ไหมคะ..”ณดาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับย่าน้อยเมื่อเธอเห็นแม่บ้านสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่จึงส่งเสียงทักถามหาธีรธรว่าอยู่หรือเปล่า“เอ่อ..คือ..นี่ค่ะ”แม่บ้านสองคนหันกลับมาหาหญิงสาวพร้อมแยกตัวออกจากกันและชี้ไปที่คนที่หญิงสาวกำลังถามหา“นิ..”“ยัยนิ..ตายๆ..ย่าจะเป็นลม”ภาพของทั้งสองปรากฏต่อสายตาของณดาและย่าน้อยทำเอาทั้งคู่อึ้งกันไปตามๆกันย่าน้อยเองเห็นภาพนั้นก็แทบเป็นลมในหัวคิดไปในทางที่ไม่ดีไปแล้วเพราะภาพตรงหน้ามันยากมากที่จะทำให้เธอคิดเป็นอื่นเธอแทบจะเป็นลมล้มพับดีที่ณดาประคองเธอนั่งลงก่อน“คุณย่าคะ..คุณย่านั่งก่อนค่ะ”ณดารีบประคองย่าน้อยนั่งลงที่โซฟาเพราะดูท่าย่าน้อยนั้นน่าจะยืนไม่ไหวเธอพยายามคิดในแง่ดีว่านิชาคงจะมีคำตอบให้ย่าน้อยได้สบายใจ“เดี๋ยวหนูไปเอายาดมมาให้นะคะ”แม่บ้านเห็นว่าหญิงชราจะเป็นลมจึงรีบวิ่งไปเอายาดมมาให้“ขอบคุณค่ะ”“อื้มม..อืออ...หนักจังเลยอะไรเนี่ย..เห้ยยย”นิชางัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายแถมพอเธอจะลุกยังรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆมาทับที่ตัวของเธอเอาไว้อีกด้วยเมื่อเห็นว่าเป็นอะไรทับเธออยู่จึงรีบผละตัวออกทันที“อืม..คุณ..”ธีรธรเมื่อร
20.30 น.“คุณแม่ขาเมื่อไรคุณพ่อจะหายคะ”เด็กหญิงนอนตักคุณแม่ของเธอในใจแอบคิดถึงพ่อของเธออยากจะให้กลับมาอยู่ด้วยกันเร็วๆจึงเอ่ยถามคนเป็นแม่ถึงอาการของพ่อเธอว่าเมื่อไรจะหาย“อืม...คุณพ่อยังต้องรักษาอีกนานเลยค่ะเพราะคุณพ่อเป็นแผลใหญ่”ณดาก้มลงมายิ้มให้ลูกสาวของเธอพร้อมบอกเหตุผลว่าทำไมพ่อของเธอถึงยังไม่หาย“นีน่าสงสารคุณพ่อจังเลยค่ะ”เด็กหญิงพูดถึงคนเป็นพ่อตาละห้อย“..นอนได้หรือยังคะคนเก่ง..”ณดากลัวว่านีน่าจะถามคำถามที่เธอไม่อยากตอบจึงหาเรื่องกล่อมให้ลูกเธอนอนจะดีกว่า“คุณพ่อหายแล้วจะกลับมาอยู่กับนีน่าไหมคะ”เด็กหญิงถามคนเป็นแม่ด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา“อืม..แล้วถ้าคุณพ่อไม่กลับมาอยู่กับนีน่าล่ะคะ”และเรื่องที่เธอกลัวก็เกิดจนได้...หญิงสาวลองเชิงถามลูกสาวของเธอถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเธออยากจะรู้ว่าลูกเธอจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดพ่อของเจ้าตัวจะไม่อยู่ด้วย“อ้าวทำไมล่ะคะ”นีน่าคิ้วขมวดเล็กน้อยกับคำถามของแม่เธอ“ถ้าแบบคุณพ่อต้องกลับไปทำงานแล้วมาหามาอยู่กับนีน่าไม่ได้นีน่าอยู่กับแม่สองคนได้ไหมคะ”ณดากลั้นใจถามคำถามนี้กับลูกของเธอจะได้รู้กันไปเลยว่าลูกสาวของเธอจะเป็นอย่างไรจะได้ตั้งรับเอาไว้ก่
“ฉันว่าแล้ว..ฉันไม่ได้อยากก้าวก่ายอะไรคุณหรอกนะคะแต่คุณพอจะบอกปัญหาได้ไหมเผื่อฉันจะมีทางช่วยเพราะถ้าให้ฉันไปถามนิดถามให้ตายนิดก็ไม่ตอบหรอกค่ะ”หนามเตยคิดเอาไว้ไม่ผิดดีที่เขาตัดสินใจถามอคิณไม่อย่างนั้นรอเพื่อนเธอบอกให้ตายก็คงจะไม่บอกเธออยู่ดีที่เธอทำแบบนี้เพราะอยากช่วยทั้งสองและเห็นแก่นีน่าหลานของเธอกลัวว่าพ่อกับแม่หลานเธอจะมาแยกทางกันอีก“ผมว่าถ้าคุณรู้ปัญหาก็คงจะไม่อยากช่วยผมแน่ๆ..”อคิณคิดว่าหากหนามเตยรู้เรื่องเธอคงจะไม่อยากช่วยเขาเหมือนที่พูดตอนนี้เป็นแน่เพราะเขาและณดาไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องนิดๆหน่อยๆ“ทำไมคะหรือว่า..คุณมีคนอื่น”หนามเตยคิดว่ามันจะมีอะไรที่ทำให้เธอไม่อยากช่วยให้ทั้งสองคืนดีกันนอกเสียจากว่าชายหนุ่มมีคนอื่น“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ..คือผมเคยทำร้ายนิดมาก่อน”อคิณรีบส่ายหัวเรื่องนั้นเขาไม่มีให้เป็นปัญหา..และเขาก็ตอบถึงปัญหาที่เขามีด้วยเสียงอ่อนลงอีกด้วยยังไม่แน่ใจว่าจะเล่าให้หญิงสาวฟังดีหรือไม่“หืมม...”หนามเตยยิ่งฟังเธอก็ยิ่งสงสัย“ผม...”อคิณตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หนามเตยฟังเพราะตอนนี้เขาก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วเขาทำผิดก็ต้องยอมรับผิด“หา..ทั้งหมดนี่ฝีมือคุณ...”หนาม
“พอดีผมไม่ชินทาง”เตชินพูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรเขาเองก็ไม่ได้อยากจะให้มันเกิดแค่เขาไม่ค่อยชินทางเท่านั้นเองอีกทางทางที่นี่ก็คดเคี้ยวไปมาทำให้มองไม่ค่อยจะเห็นรถคันอื่น“มีประกันกับมีใบขับขี่หรือเปล่าคุณน่ะ”หนามเตยอยากจะให้ชายหนุ่มเรียกประกันของเขามาจะได้เคลียให้จบๆไป“เอาเป็นว่าคุณต้องการค่าเสียหายเท่าไรว่ามาเลย”เตชินคิดว่าการพูดแบบนี้หญิงสาวน่าจะต้องการเงินเท่าที่เขาเคยเจอมาเพราะหากถามหาประกันกับใบขับขี่เขาพึ่งกลับมาจะมีได้อย่างไรประกันรถพี่ชายของเขาก็น่าจะไม่ได้ต่ออะไรเพราะรถคันนี้ไม่ได้ใช้นานแล้วและเขาเองก็อยากกลับมาที่นี่กะทันหันด้วย“นี่คุณ...ฉันถามว่ามีใบขับขี่หรือเปล่าไม่ใช่ให้คุณมาเอาเงินฟาดหน้าฉัน”หนามเตยถึงกับลมออกหูเธอถามหาประกันกับใบขับขี่ชายหนุ่มแต่อีกฝ่ายดันมาหาว่าเธออยากจะได้เงินเสียอย่างนั้น“ไม่มี..”เตชินตอบหญิงสาวไปตามตรงแบบหน้าตาเฉยพร้อมยืนพิงรถกดมือถือเล่นอย่างสบายอารมณ์“ประกันล่ะ..”หนามเตยเห็นพฤติกรรมของอีกฝ่ายช่างดูไม่มีมารยาทเอาเสียเลยเธอยังคงถามหาประกันต่อเพราะถ้าหากเขามีจะได้ให้ประกันของเขากับของเธอมาตกลงกัน“ไม่รู้คั
“อืม...งั้นเหรอคะ...นีน่าคะมาทานขนมกับน้านิดีกว่านะคะ..แล้ววันนี้น้านิก็มีสมุดวาดรูปเล่มใหม่มาให้นีน่าด้วย”นิชาคิดว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆแล้วจึงรีบชวนนีน่าให้หากิจกรรมอย่างอื่นทำดีที่วันนี้เธอมีของเล่นชิ้นโปรดมาให้นีน่าด้วยหวังว่ามันคงทำให้หลานเธออารมณ์ดีขึ้นนะ“โห...นีน่าชอบมากเลยค่ะน้านิ”เด็กก็ยังมีความเป็นเด็กเมื่อเห็นว่าน้าของเธอมีของเล่นชิ้นโปรดมาให้ก็รีบคว้าเอาไว้พร้อมยิ้มแป้นจนตาหยี“งั้นเอาขนมไปนั่งทานแล้ววาดรูปด้วยเลยไหม”“ค่ะ”นีน่ารีบไปนั่งวาดรูปตามคำที่น้าของเธอบอกอย่างรวดเร็ว“.......”นิชามองตามหลังหลานสาวของเธอด้วยแววตาที่ปนความสงสารเธอจะปล่อยให้หลานเธอต้องกลายมาเป็นเด็กที่ไม่ร่าเริงไม่ได้“นิดฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”นิชาจะต้องคุยกับณดาให้รู้เรื่องว่าทั้งสองคนเพื่อนเธอกับอคิณเป็นอะไรยังไงกันเพราะไม่อยากให้มันกระทบหลานเธอ“เรื่องอะไรเหรอ”ณดาที่กำลังทำอาหารเย็นอยู่ในครัวหันมาอมยิ้มให้เพื่อนเธอคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาของเพื่อนเธอที่อยากจะปรึกษากับเธอเป็นแน่“คุณคิณจะไม่อยู่กับแกกับลูกแล้วเหรอ”“หืมม...ใครบอก”ณดาถึงกับหน้าถอดสีไม่รู้ว่าเพื่อนเธอไปรู้เรื่องนี้มาจากใคร“นีน่า”“ค
วันต่อมา18.00 น.“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยผู้ใหญ่มากันเยอะ”ธีรธรยืนต้อนรับแขกที่หน้างานเมื่อเห็นน้องชายทำหน้าไม่สบอารมณ์ก็ต้องเตือนกันหน่อย“ผมไม่ได้อยากให้มีงานต้องรับอะไรผมสักหน่อย”เตชินเซ็งกับงานอย่างมากที่เขาต้องมายืนรับหน้าใครต่อใครที่ไม่รู้จัก“แกนี่มัน...ฉันว่าถ้าแกจะอยู่ที่นี่คงต้องปรับตัวใหม่แล้วล่ะ”ธีรธรไม่เข้าใจว่าน้องชายเขาจะให้ความร่วมมือสักหน่อยมันจะเป็นอะไรไปเขาคิดว่าจบงานนี้คงต้องอบรมน้องเขาอีกเยอะเลยทีเดียวงานเลี้ยงที่ธีรธรจัดขึ้นภายในไร่ของเขาเป็นงานสังสรรค์ที่ไม่ใหญ่มากเพียงแค่ต้องการให้ทุกคนได้รับรู้เท่านั้นว่าน้องชายเขาจะมาอยู่ที่นี่ถาวรเมื่อแขกเริ่มมากันครบธีรธรก็ไม่รีรอที่จะแนะนำตัวน้องชายของเขากับทุกคนอย่างเป็นทางการงานทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีเว้นเสียแต่ต้องคอยสั่งให้เตชินปั้นหน้ายิ้มบ่อยๆเท่านั้นเองเช้าวันต่อมา“...แกเมื่อคืนน้องคุณธรนี่หน้าไม่รับแขกเท่าไรเลย...”หนามเตยเจอหน้านิชาก็แอบบ่นเรื่องเมื่อคืนอุกเพราะเธอรู้สึกว่าน้องชายธีรธรช่างเป็นคนที่ไร้มารยาทสิ้นดี“คงจะไม่ชินกับคนเยอะหรือเปล่าอีตาพ่อเลี้ยงคงจะไม่ได้ถามความเห็นจากน้องก่อนจะจัดงานเป็นแน่ชอบคิดเอง
“เรื่องประชุมมันก็ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวลเลยนี่แกก็แค่เลื่อนจากรองประธานมาเป็นประธาน”คริสโตเฟอร์เห็นว่าเรื่องประชุมเปลี่ยนระบบบุคลากรภายในอะไรนั่นมันก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมายไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาจะเครียดอะไรกับงานนี้“ไม่...ฉันจะให้นิดมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของที่นี่..”อคิณไม่ได้คิดแบบนั้นเขาต้องการให้คนที่ถือหุ้นใหญ่เป็นชื่อของณดาซึ่งเขาก็เตรียมการคร่าวๆบ้างแล้ว“แล้วเจ้าตัวเค้าโอเคกับแกเหรอ”คริสโตเฟอร์ถึงกับคิ้วขมวดที่เขาจำได้เพื่อนของเขาบอกว่าณดาปฏิเสธข้อเสนอนี้“ยังไงฉันก็ต้องคืนในส่วนที่ต้องเป็นของนิดฉันจะเป็นแค่คนที่บริหารงานแทนเธอเท่านั้น”ถึงณดาจะปฏิเสธเรื่องนี้แต่เขาก็ควรที่จะคืนทุกอย่างให้เธอมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วส่วนเขานั้นจะขอมีชื่อแค่เป็นคนที่บริหารงานแทนเธอก็เท่านั้นอคิณไม่ลืมคำที่เขาเคยพูดกับหญิงสาวเอาไว้ว่าเขายินดีคืนทุกอย่างให้เธอทั้งหมดถึงเธอจะไม่รับก็ตาม“แล้วน้องเคทเป็นยังไงบ้าง”อคิณวางปากกากับละสายตาจากกองเอกสารมาถามเรื่องเคทเธอรีนกับคริสโตเฟอร์เพราะเขาไม่ได้ข่าวคราวเธอมาหลายวันแล้วเมื่อเพื่อนของเขามาถึงที่นี่ก็เป็นโอกาสที่เขาจะได้ถามไถ่เรื่องของหญิงสาวบ้าง