“เอ่อ..ขอโทษนะคะคุณธรอยู่ไหมคะ..”
ณดาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับย่าน้อยเมื่อเธอเห็นแม่บ้านสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่จึงส่งเสียงทักถามหาธีรธรว่าอยู่หรือเปล่า
“เอ่อ..คือ..นี่ค่ะ”
แม่บ้านสองคนหันกลับมาหาหญิงสาวพร้อมแยกตัวออกจากกันและชี้ไปที่คนที่หญิงสาวกำลังถามหา
“นิ..”
“ยัยนิ..ตายๆ..ย่าจะเป็นลม”
ภาพของทั้งสองปรากฏต่อสายตาของณดาและย่าน้อยทำเอาทั้งคู่อึ้งกันไปตามๆกันย่าน้อยเองเห็นภาพนั้นก็แทบเป็นลมในหัวคิดไปในทางที่ไม่ดีไปแล้วเพราะภาพตรงหน้ามันยากมากที่จะทำให้เธอคิดเป็นอื่นเธอแทบจะเป็นลมล้มพับดีที่ณดาประคองเธอนั่งลงก่อน
“คุณย่าคะ..คุณย่านั่งก่อนค่ะ”
ณดารีบประคองย่าน้อยนั่งลงที่โซฟาเพราะดูท่าย่าน้อยนั้นน่าจะยืนไม่ไหวเธอพยายามคิดในแง่ดีว่านิชาคงจะมีคำตอบให้ย่าน้อยได้สบายใจ
“เดี๋ยวหนูไปเอายาดมมาให้นะคะ”
แม่บ้านเห็นว่าหญิงชราจะเป็นลมจึงรีบวิ่งไปเอายาดมมาให้
“ขอบคุณค่ะ”
“อื้มม..อืออ...หนักจังเลยอะไรเนี่ย..เห้ยยย”
นิชางัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายแถมพอเธอจะลุกยังรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆมาทับที่ตัวของเธอเอาไว้อีกด้วยเมื่อเห็นว่าเป็นอะไรทับเธออยู่จึงรีบผละตัวออกทันที
“อืม..คุณ..”
ธีรธรเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรขยับอยู่ที่ตัวของเขาก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเหมือนกันเมื่อลุกขึ้นนั่งได้ก็ยังงงอยู่ว่าทำไมหญิงสาวถึงยังอยู่ที่นี่
“..คุณย่า..”
นิชาหันไปมองคนที่นั่งดมยาดมบนโซฟากับเพื่อนเธอก็ถึงกับสร่างความงัวเงียเธอพยายามนึกว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรก็จำได้ว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นเธอคงดื่มหนักจนเมาแล้วก็นอนอยู่ที่นี่นั่นเอง
“ไม่ต้องมาเรียกฉันยัยหลานไม่รักดีกล้ามาค้างคืนกับผู้ชายไม่กลับบ้านกลับช่องดูซิยังมาทำอะไรประเจิดประเจ้อกลางบ้านนี่อีกอายคนอื่นเค้าบ้างไหม”
ย่าน้อยสูดยาดมไปด้วยถึงจะใจเต้นแรงจะเป็นลมแต่เธอก็ยังมีแรงที่จะบ่นสั่งสอนหลานสาวไม่รักดีของเธอที่เที่ยวมานอนค้างอ้างแรมบ้านผู้ชายไม่กลับบ้านกลับช่องต้องให้ตามหาไปทั่ว
“คุณย่าใจเย็นๆค่ะฟังนิอธิบายก่อนค่ะ”
ณดาคิดว่าก่อนที่ย่าน้อยจะโมโหไปมากกว่านี้ควรให้โอกาสนิชาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน
“ใช่ค่ะคุณย่า..คือมันไม่มีอะไรจริงๆนะคะเมื่อวานนิก็แค่ดื่ม..”
“ไม่มีอะไรเหรอ...นอนถอดเสื้อถอดผ้าทับกันอยู่แบบนั้น”
นิชายังไม่ทันได้อธิบายจบย่าน้อยก็สวนขึ้นมาก่อนเพราะคิดว่าหลานเธอกำลังแก้ตัวหากเธอไม่เห็นด้วยตาแบบนี้เธอเองก็อยากจะฟังอยู่บ้างหรอก
“ไม่มีอะไรจริงๆค่ะคุณย่า...คุณพูดอะไรบ้างสิ”
นิชารู้ว่าย่าเธอคงจะไม่เชื่อเพราะภาพที่เห็นมันก็ดูไม่ดีเท่าไรทั้งยังหันไปอารมณ์เสียใส่ชายหนุ่มที่เขาเอาต่เงียบไม่พูดอะไรเลยให้เธออธิบายอยู่คนเดียว
“...เอ่อ...”
ธีรธรไม่อยากจะพูดอะไรตอนนี้เพราะดูแล้วย่าของหญิงวาวยังคงโมโหพวกเขาอยู่หากพูดอะไรไปก็จะหาว่าเขาแก้ตัวเสียเปล่าๆ
“นิดพาย่ากลับ..”
ย่าน้อยยิ่งมองทั้งสองยิ่งหงุดหงิดหัวใจเธอกุมมือณดาลุกขึ้นพร้อมสั่งให้หญิงสาวพาเธอกลับ
“คุณย่าคะ../คุณย่าคะ..”
ทั้งณดาและนิชาเรียกย่าน้อยไว้พร้อมกันณดาเองก็ยังอยากจะให้ย่าน้อยอารมณ์เย็นกว่านี้แล้วรอคุยกับทั้งธีรธรและนาให้รู้เรื่องก่อนแล้วค่อยกลับนิชาเองก็เสียใจที่ย่าของเธอไม่ฟังคำพูดของเธอเลย
“ฉันเลี้ยงแกมาอย่างดีแต่แกกลับทำตัวไร้ค่าไม่รักศักดิ์ศรี..ทำอะไรข้ามหัวย่าแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน”
ย่าน้อยพูดด้วยน้ำตาคลอไม่คิดว่าหลานตัวเองจะทำตัวแบบนี้โตๆกันแล้วจะรักกันเธอก็ไม่ได้หวงได้ห้ามแต่มาทำอะไรลับหลังแบบนี้เธอไม่ชอบ
“เอ่อ...คุณย่าจะให้ผมรับผิดชอบยังไงก็บอกมาเถอะครับ”
ธีรธรดูออกว่าย่าของหญิงสาวคงจะรักศักดิ์ศรีของตัวเองและของหลานสาวของเธอมากคำพูดเดียวที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นตอนนี้ก็คือคำที่เขาพึ่งพูดออกไปนี่แหละเขาเป็นคนชวนเธอดื่มเองเขาก็ต้องรับผิดชอบผลที่มันตามมา
“พูดอะไรของคุณเนี่ย..จะไปกันใหญ่แล้วนะ”
นิชาถึงกับหันหน้าขวับส่งสายตาขวางพร้อมตวาดเสียงใส่ชายหนุ่มที่แทนที่เขาจะอธิบายความจริงกลับทำเหมือนยอมรับในสิ่งที่คุณย่าของเธอและคนอื่นๆคิดเสียอย่างนั้น
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วไปคุยกับฉันที่บ้าน..นิดพาย่ากลับ”
ย่านิดนิ่งลงทั้งยังคิดในใจว่าดีแล้วที่ชายหนุ่มคนนี้พูดมาแบบนี้พร้อมสั่งให้เขาจัดการตัวเองให้เรียบร้อยและไปคุยกับเธอที่บ้านละให้ณดาพาเธอกลับทันที
“ค่ะ..คุณย่า..”
ณดาโล่งใจที่ธีรธรแสดงออกถึงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไม่ได้กล่าวปฎิเสธอะไรเพราะเธอคิดว่าถ้าเป็นเธอก็คงจะทำแบบชายหนุ่มนี่แหละ
“พูดอะไรของคุณฮะ...ทำไมไม่ปฏิเสธว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
นิชามองดูย่าของเธอและณดาเดินออกไปอย่างกังวลพร้อมหันไปต่อว่าชายหนุ่มที่ดูจะพูดอะไรไม่คิด
“ผมพูดแบบนั้นคุณย่าคุณจะว่าผมแก้ตัวน่ะสิ...ดูท่าคุณย่าคุณรักศักดิ์ศรีจะตาย”
ธีรธรต้องอธิบายที่เขาจำเป็นจะต้องพูดไปแบบนั้นเขาก็ลูกผู้ชายไม่อยากจะให้ใครมาว่าว่าปัดความรับผิดชอบไม่เป็นสุภาพบุรุษ
“เพราะคุณคนเดียว..คุณคนเดียวเลยยย..
นิชาโมโหจนหน้าดำหน้าแดงถ้าหากชายหนุ่มไม่ชวนเธอนั่งคุยนั่งดื่มก็คงไม่เป็นแบบนี้ตอนนี้เธอรู้ว่าย่าเธอโกรธมากอย่างที่ไม่เคยโกรธมาก่อน
20.30 น.“คุณแม่ขาเมื่อไรคุณพ่อจะหายคะ”เด็กหญิงนอนตักคุณแม่ของเธอในใจแอบคิดถึงพ่อของเธออยากจะให้กลับมาอยู่ด้วยกันเร็วๆจึงเอ่ยถามคนเป็นแม่ถึงอาการของพ่อเธอว่าเมื่อไรจะหาย“อืม...คุณพ่อยังต้องรักษาอีกนานเลยค่ะเพราะคุณพ่อเป็นแผลใหญ่”ณดาก้มลงมายิ้มให้ลูกสาวของเธอพร้อมบอกเหตุผลว่าทำไมพ่อของเธอถึงยังไม่หาย“นีน่าสงสารคุณพ่อจังเลยค่ะ”เด็กหญิงพูดถึงคนเป็นพ่อตาละห้อย“..นอนได้หรือยังคะคนเก่ง..”ณดากลัวว่านีน่าจะถามคำถามที่เธอไม่อยากตอบจึงหาเรื่องกล่อมให้ลูกเธอนอนจะดีกว่า“คุณพ่อหายแล้วจะกลับมาอยู่กับนีน่าไหมคะ”เด็กหญิงถามคนเป็นแม่ด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา“อืม..แล้วถ้าคุณพ่อไม่กลับมาอยู่กับนีน่าล่ะคะ”และเรื่องที่เธอกลัวก็เกิดจนได้...หญิงสาวลองเชิงถามลูกสาวของเธอถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเธออยากจะรู้ว่าลูกเธอจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดพ่อของเจ้าตัวจะไม่อยู่ด้วย“อ้าวทำไมล่ะคะ”นีน่าคิ้วขมวดเล็กน้อยกับคำถามของแม่เธอ“ถ้าแบบคุณพ่อต้องกลับไปทำงานแล้วมาหามาอยู่กับนีน่าไม่ได้นีน่าอยู่กับแม่สองคนได้ไหมคะ”ณดากลั้นใจถามคำถามนี้กับลูกของเธอจะได้รู้กันไปเลยว่าลูกสาวของเธอจะเป็นอย่างไรจะได้ตั้งรับเอาไว้ก่
“ฉันว่าแล้ว..ฉันไม่ได้อยากก้าวก่ายอะไรคุณหรอกนะคะแต่คุณพอจะบอกปัญหาได้ไหมเผื่อฉันจะมีทางช่วยเพราะถ้าให้ฉันไปถามนิดถามให้ตายนิดก็ไม่ตอบหรอกค่ะ”หนามเตยคิดเอาไว้ไม่ผิดดีที่เขาตัดสินใจถามอคิณไม่อย่างนั้นรอเพื่อนเธอบอกให้ตายก็คงจะไม่บอกเธออยู่ดีที่เธอทำแบบนี้เพราะอยากช่วยทั้งสองและเห็นแก่นีน่าหลานของเธอกลัวว่าพ่อกับแม่หลานเธอจะมาแยกทางกันอีก“ผมว่าถ้าคุณรู้ปัญหาก็คงจะไม่อยากช่วยผมแน่ๆ..”อคิณคิดว่าหากหนามเตยรู้เรื่องเธอคงจะไม่อยากช่วยเขาเหมือนที่พูดตอนนี้เป็นแน่เพราะเขาและณดาไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องนิดๆหน่อยๆ“ทำไมคะหรือว่า..คุณมีคนอื่น”หนามเตยคิดว่ามันจะมีอะไรที่ทำให้เธอไม่อยากช่วยให้ทั้งสองคืนดีกันนอกเสียจากว่าชายหนุ่มมีคนอื่น“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ..คือผมเคยทำร้ายนิดมาก่อน”อคิณรีบส่ายหัวเรื่องนั้นเขาไม่มีให้เป็นปัญหา..และเขาก็ตอบถึงปัญหาที่เขามีด้วยเสียงอ่อนลงอีกด้วยยังไม่แน่ใจว่าจะเล่าให้หญิงสาวฟังดีหรือไม่“หืมม...”หนามเตยยิ่งฟังเธอก็ยิ่งสงสัย“ผม...”อคิณตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หนามเตยฟังเพราะตอนนี้เขาก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วเขาทำผิดก็ต้องยอมรับผิด“หา..ทั้งหมดนี่ฝีมือคุณ...”หนาม
“พอดีผมไม่ชินทาง”เตชินพูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรเขาเองก็ไม่ได้อยากจะให้มันเกิดแค่เขาไม่ค่อยชินทางเท่านั้นเองอีกทางทางที่นี่ก็คดเคี้ยวไปมาทำให้มองไม่ค่อยจะเห็นรถคันอื่น“มีประกันกับมีใบขับขี่หรือเปล่าคุณน่ะ”หนามเตยอยากจะให้ชายหนุ่มเรียกประกันของเขามาจะได้เคลียให้จบๆไป“เอาเป็นว่าคุณต้องการค่าเสียหายเท่าไรว่ามาเลย”เตชินคิดว่าการพูดแบบนี้หญิงสาวน่าจะต้องการเงินเท่าที่เขาเคยเจอมาเพราะหากถามหาประกันกับใบขับขี่เขาพึ่งกลับมาจะมีได้อย่างไรประกันรถพี่ชายของเขาก็น่าจะไม่ได้ต่ออะไรเพราะรถคันนี้ไม่ได้ใช้นานแล้วและเขาเองก็อยากกลับมาที่นี่กะทันหันด้วย“นี่คุณ...ฉันถามว่ามีใบขับขี่หรือเปล่าไม่ใช่ให้คุณมาเอาเงินฟาดหน้าฉัน”หนามเตยถึงกับลมออกหูเธอถามหาประกันกับใบขับขี่ชายหนุ่มแต่อีกฝ่ายดันมาหาว่าเธออยากจะได้เงินเสียอย่างนั้น“ไม่มี..”เตชินตอบหญิงสาวไปตามตรงแบบหน้าตาเฉยพร้อมยืนพิงรถกดมือถือเล่นอย่างสบายอารมณ์“ประกันล่ะ..”หนามเตยเห็นพฤติกรรมของอีกฝ่ายช่างดูไม่มีมารยาทเอาเสียเลยเธอยังคงถามหาประกันต่อเพราะถ้าหากเขามีจะได้ให้ประกันของเขากับของเธอมาตกลงกัน“ไม่รู้คั
“อืม...งั้นเหรอคะ...นีน่าคะมาทานขนมกับน้านิดีกว่านะคะ..แล้ววันนี้น้านิก็มีสมุดวาดรูปเล่มใหม่มาให้นีน่าด้วย”นิชาคิดว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆแล้วจึงรีบชวนนีน่าให้หากิจกรรมอย่างอื่นทำดีที่วันนี้เธอมีของเล่นชิ้นโปรดมาให้นีน่าด้วยหวังว่ามันคงทำให้หลานเธออารมณ์ดีขึ้นนะ“โห...นีน่าชอบมากเลยค่ะน้านิ”เด็กก็ยังมีความเป็นเด็กเมื่อเห็นว่าน้าของเธอมีของเล่นชิ้นโปรดมาให้ก็รีบคว้าเอาไว้พร้อมยิ้มแป้นจนตาหยี“งั้นเอาขนมไปนั่งทานแล้ววาดรูปด้วยเลยไหม”“ค่ะ”นีน่ารีบไปนั่งวาดรูปตามคำที่น้าของเธอบอกอย่างรวดเร็ว“.......”นิชามองตามหลังหลานสาวของเธอด้วยแววตาที่ปนความสงสารเธอจะปล่อยให้หลานเธอต้องกลายมาเป็นเด็กที่ไม่ร่าเริงไม่ได้“นิดฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”นิชาจะต้องคุยกับณดาให้รู้เรื่องว่าทั้งสองคนเพื่อนเธอกับอคิณเป็นอะไรยังไงกันเพราะไม่อยากให้มันกระทบหลานเธอ“เรื่องอะไรเหรอ”ณดาที่กำลังทำอาหารเย็นอยู่ในครัวหันมาอมยิ้มให้เพื่อนเธอคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาของเพื่อนเธอที่อยากจะปรึกษากับเธอเป็นแน่“คุณคิณจะไม่อยู่กับแกกับลูกแล้วเหรอ”“หืมม...ใครบอก”ณดาถึงกับหน้าถอดสีไม่รู้ว่าเพื่อนเธอไปรู้เรื่องนี้มาจากใคร“นีน่า”“ค
วันต่อมา18.00 น.“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยผู้ใหญ่มากันเยอะ”ธีรธรยืนต้อนรับแขกที่หน้างานเมื่อเห็นน้องชายทำหน้าไม่สบอารมณ์ก็ต้องเตือนกันหน่อย“ผมไม่ได้อยากให้มีงานต้องรับอะไรผมสักหน่อย”เตชินเซ็งกับงานอย่างมากที่เขาต้องมายืนรับหน้าใครต่อใครที่ไม่รู้จัก“แกนี่มัน...ฉันว่าถ้าแกจะอยู่ที่นี่คงต้องปรับตัวใหม่แล้วล่ะ”ธีรธรไม่เข้าใจว่าน้องชายเขาจะให้ความร่วมมือสักหน่อยมันจะเป็นอะไรไปเขาคิดว่าจบงานนี้คงต้องอบรมน้องเขาอีกเยอะเลยทีเดียวงานเลี้ยงที่ธีรธรจัดขึ้นภายในไร่ของเขาเป็นงานสังสรรค์ที่ไม่ใหญ่มากเพียงแค่ต้องการให้ทุกคนได้รับรู้เท่านั้นว่าน้องชายเขาจะมาอยู่ที่นี่ถาวรเมื่อแขกเริ่มมากันครบธีรธรก็ไม่รีรอที่จะแนะนำตัวน้องชายของเขากับทุกคนอย่างเป็นทางการงานทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีเว้นเสียแต่ต้องคอยสั่งให้เตชินปั้นหน้ายิ้มบ่อยๆเท่านั้นเองเช้าวันต่อมา“...แกเมื่อคืนน้องคุณธรนี่หน้าไม่รับแขกเท่าไรเลย...”หนามเตยเจอหน้านิชาก็แอบบ่นเรื่องเมื่อคืนอุกเพราะเธอรู้สึกว่าน้องชายธีรธรช่างเป็นคนที่ไร้มารยาทสิ้นดี“คงจะไม่ชินกับคนเยอะหรือเปล่าอีตาพ่อเลี้ยงคงจะไม่ได้ถามความเห็นจากน้องก่อนจะจัดงานเป็นแน่ชอบคิดเอง
“เรื่องประชุมมันก็ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวลเลยนี่แกก็แค่เลื่อนจากรองประธานมาเป็นประธาน”คริสโตเฟอร์เห็นว่าเรื่องประชุมเปลี่ยนระบบบุคลากรภายในอะไรนั่นมันก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมายไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาจะเครียดอะไรกับงานนี้“ไม่...ฉันจะให้นิดมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของที่นี่..”อคิณไม่ได้คิดแบบนั้นเขาต้องการให้คนที่ถือหุ้นใหญ่เป็นชื่อของณดาซึ่งเขาก็เตรียมการคร่าวๆบ้างแล้ว“แล้วเจ้าตัวเค้าโอเคกับแกเหรอ”คริสโตเฟอร์ถึงกับคิ้วขมวดที่เขาจำได้เพื่อนของเขาบอกว่าณดาปฏิเสธข้อเสนอนี้“ยังไงฉันก็ต้องคืนในส่วนที่ต้องเป็นของนิดฉันจะเป็นแค่คนที่บริหารงานแทนเธอเท่านั้น”ถึงณดาจะปฏิเสธเรื่องนี้แต่เขาก็ควรที่จะคืนทุกอย่างให้เธอมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วส่วนเขานั้นจะขอมีชื่อแค่เป็นคนที่บริหารงานแทนเธอก็เท่านั้นอคิณไม่ลืมคำที่เขาเคยพูดกับหญิงสาวเอาไว้ว่าเขายินดีคืนทุกอย่างให้เธอทั้งหมดถึงเธอจะไม่รับก็ตาม“แล้วน้องเคทเป็นยังไงบ้าง”อคิณวางปากกากับละสายตาจากกองเอกสารมาถามเรื่องเคทเธอรีนกับคริสโตเฟอร์เพราะเขาไม่ได้ข่าวคราวเธอมาหลายวันแล้วเมื่อเพื่อนของเขามาถึงที่นี่ก็เป็นโอกาสที่เขาจะได้ถามไถ่เรื่องของหญิงสาวบ้าง
“ทำไมถามเรื่องนี้ล่ะ...อืม..คือ...ฉันก็ไม่ได้มีความรู้สึกนี้นานแล้วตั้งแต่เลิกกับพรีมไปแต่ก็พอจำได้บ้าง”คริสโตเฟอร์ถึงกับหน้าเจื่อนเล็กน้อยเมื่อเพื่อนของเขาถามถึงเรื่องความรักเพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากพูดถึงมันเท่าไร“อืม..ว่ามาเลย”ถึงจะจำได้จำไม่ได้อคิณก็อยากได้ข้อมูลอะไรนิดหน่อยก็ยังดี“ฉันอยากเจอเธอในทุกๆวันเรื่องทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิตฉัน...ฉันอยากให้เธอรู้เป็นคนแรก...หากเธอเจ็บหรืออยู่ในอันตรายฉันอยากอยู่ตรงนั้นแทนฉันไม่ชอบเห็นเธอร้องให้...ฉันอยากเป็นคนที่ปกป้องเธอและคนที่เธอคิดถึงตลอดเวลาและฉันก็ไม่ชอบให้เธอใกล้กับผู้ชายคนไหนและทำตัวสนิทสนมแม้แต่กับคนสนิทก็ตาม...อนาคตของฉันก็จะมีเธออยู่ในนั้นตลอด”คริสโตเฟอร์พยายามนึกถึงความรู้สึกที่มีทั้งหมดนั่งมองฟ้าพร้อมพูดมันออกมาจากหัวใจหวังว่ามันคงจะเป็นประโยชน์ต่อความอยากรู้ของเพื่อนของเขาได้บ้าง“อ๋อ...อย่างนั้นเหรอ..ไหนแกว่าจำไม่ค่อยได้ไงวะ”อคิณจำคำพูดของเพื่อนของเขาได้ทุกคำคงเป็นแบบที่เขารู้สึกตอนนี้สินะชายหนุ่มบอกกับตัวเองแต่ก็หันมามองเพื่อนของเขาตอนนี้ยังไม่หยุดเหม่อเสียทีเขาพอจะเดาออกว่าถ้าหากจำความรู้สึกได้เยอะขนาดนี้คงจะไม่วายไม
ทางด้านณดา“...มาเสียอะไรตอนนี้เนี่ย...”ณดากำลังขับรถกลับจะถึงบ้านอยู่แล้วเชียวแต่รถของเธอก็ดันมาดับกลางทางเสียอีกตอนนี้แดดก็เริ่มร้อนแล้วด้วยแถมข้างทางยังมีแต่ป่าอีกเธอไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมามีปัญหาในพื้นที่ที่ไม่คนอยู่ทุกทีไป“เฮ้อ..”ตอนนี้มันทำให้หญิงสาวนึกไปถึงภาพตอนนั้นตอนที่เธอหนีคนร้ายเข้าไปในป่ากับอคิณทำให้ในใจของเธอเริ่มกลัวขึ้นมาว่าถ้าหากเกิดมีคนร้ายอยู่แถวนี้เธอจะทำอย่างไร“เตยลุงสนอยู่ไหมให้เค้ามาซ่อมรถให้หน่อยฉันอยู่ห่างจากบ้านประมาณสามกิโลได้มั้ง...อะไรนะลุงไม่อยู่...โอเคๆจะรอนะ”ณดาโทรหาหนามเตยให้คนที่โฮมสเตย์มาซ่อมรถให้เธอหน่อยเพราะหากโทรหาอู่ซ่อมก็คงอีกนานแต่ก็ได้รับข่าวร้ายว่าลุงสนไม่อยู่และให้เธอรออยู่ก่อนเพราะหนามเตยจะไปตามลุงสนให้ทางด้านอคิณ“โอเคครับคุณเตยแล้วผมจะรีบไป”อคิณได้รับสายจากหนามเตยว่ารถของณดาเสียอยู่แถวไหนเขาจึงรีบขับรถออกไปทันทีเขาได้รับคำเตือนจากหนามเตยว่าให้ทำเป็นบังเอิญไปเจอไม่อย่างนั้นแผนครั้งนี้ที่หนามเตยต้องการช่วยเขามีอันพังเป็นแน่หากณดารู้ว่าเพื่อนของเธอแอบช่วยเขาอยู่10 นาทีต่อมา“..อืม..”ณดายืนข้างนอกรถตอนนี้เธอเกิดอาการเซนิดหน่อยเนื่องจ