“นิดเป็นไงบ้าง..ส่งนีน่ามา”
หนามเตยรีบช่วยณดาอุ้มนีน่าเพราะดูร่างกายเพื่อเธอตอนนี้ท่าจะเพลียเสียเหลือเกินดีที่นีน่าตอนนี้ไม่ร้องงอแงไปด้วยคงเป็นเพราะความเพลียเลยงอแงไม่ไหว
“ขวัญเอ้ยขวัญมานะหลานน้า..”
นิชาลูบหัวนีน่าอย่างสงสารที่หลานเธอต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย
“รีบขึ้นรถแล้วออกไปจากที่นี่กันก่อนดีกว่าครับ”
ธีรธรบอกให้ทุกคนขึ้นรถเพราะทางที่ดีที่สุดควรจะออกไปจากที่อย่างรวดเร็ว
“ไปค่ะ..”
หนามเตยรีบเปิดประตูรถกระบะที่เป็นสี่ประตูให้ณดากับนีน่าขึ้นไปนั่งก่อนเธอจึงขึ้นไปตาม
“นั่น..”
ปังงง
โอ้ยยยยยย
นิชาเห็นว่ามีคนกำลังจ่อปืนมาที่พวกเธอโดยที่ยังไม่ทันระวังด้วยความกลัวจึงดึงปืนออกจากหลังของชายหนุ่มที่เขาเหน็บเอาไว้ยิงต้านไปถูกอีกฝ่ายเต็มๆภาพตรงหน้าที่ผู้ชายคนนั้นล้มลงไปทำเอานิชายืนมือสั่นแทบหยุดหายใจ
อ๊ายยย
หนามเตยและนิชาที่นั่งอยู่บนรถเมื่อได้ยินเสียงปืนต่างก็ตกใจกันไปตามๆกัน
“คุณ!!”
“เฮอะ!!!”
“ไปเร็วรีบขึ้นรถ..”
ธีรธรถึงกับอึ้งเหมือนกันที่จู่ๆหญิงสาวก็เอาปืนของเขายิงผู้ร้ายอย่างไม่ทันตั้งตัวเขาเห็นอาการเธอตอนนี้ก็รู้เลยว่ากำลังช็อคกับสิ่งที่ตัวเองทำไปเมื่อครู่จึงรีบหยิบปืนจากมือของเธอแล้วพาขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวคุณ....นี่เลือดนี่”
นิชาพึ่งจะสังเกตเห็นว่าที่แขนของธีรธรนั้นมีเลือดไหลออกมาตามเสื้อเธอจึงหยุดชะงักก่อนที่จะขึ้นรถเธอคิดว่าคนอื่นก็ไม่ทันได้สังเกตุเหมือนกันเพราะมัวแต่ตกใจอยู่
“ผมไม่เป็นอะไรไปจากตรงนี้ก่อน”
ธีรธรรู้ตัวว่าตัวเองโดนยิงเฉียดที่แขนตอนที่วิ่งพาณดากับนีน่าออกมาแต่เขาไม่ได้เป็นอะไรมากยังไหวตอนนี้ที่ต้องรีบทำให้เร็วที่สุดก็คือขับรถพาทุกคนออกไปจากที่นี่
ด้านในโกดัง
“แกเป็นไงบ้าง”
คริสโตเฟอร์เห็นเพื่อนเขาโดนยิงต่อหน้าต่อตาเลือดที่ไหลออกมาเต็มเสื้อทำให้เขาใจไม่ค่อยดีเท่าไร
“ฉันไหว..”
อคิณยังคิดว่าตัวเองไหวทั้งที่ตอนนี้หน้าของเขาเริ่มซีดไปหมดแล้ว
“เดี๋ยวฉันโทรเรียกรถพยาบาลก่อน”
คริสโตเฟอร์รีบโทรเรียกรถพยาบาลอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้เขาต้องช่วยเหลือกันเองไปก่อนเพราะตำรวจต่างก็กระจายกำลังกันจับคนร้าย
ชั่วโมงต่อมา
“ดีนะที่คุณไม่เป็นอะไรมาก”
นิชาเห็นธีรธรเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินเมื่อทำแผลเสร็จเธอก็โล่งใจที่อีกฝ่ายไม่เป็นอะไรมาก
“พวกคุณหายกลัวกันหรือยัง”
ธีรธรไม่ได้กังวลอะไรกับเรื่องแผลของเขาสักนิดเดียวเป็นห่วงก็แต่ความรู้สึกของพวกสาวๆกับเด็กหญิงตัวน้อยมากกว่าที่น่าจะกลัวเหตุการณ์นี้กันไปอีกนานดีที่ตอนนี้นีน่านั้นหลับไปแล้ว
“เดี๋ยวถ้าพวกคุณพร้อมแล้วผมขออนุญาตเชิญพวกคุณไปให้ปากคำเพิ่มที่โรงพักด้วยนะครับ”
ตำรวจกับพยาบาลเข็นเตียงคนเจ็บเข้าไปในห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็วและตำรวจก็ออกมาเชิญคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไปให้ปากคำเพิ่ม
“ค่ะ..แล้วมีใครเจ็บหนักหรือเปล่าคะ”
ณดามองไม่ชัดว่าเมื่อครู่พยาบาลพาใครเข้าไปในห้องฉุกเฉินบ้างเธอไม่อยากให้มีการสูญเสียเกิดขึ้นกับเหตุการณ์นี้ว่าจะเป็นพวกเธอหรือผู้ร้ายเองก็ตาม
“มีคุณอคิณโดนยิงครับ...ส่วนคนร้ายมีบาดเจ็บจากการโดนยิงเหมือนกันพวกที่จับได้ตอนนี้ตำรวจก็กำลังสอบสวนอยู่ที่โรงพักครับ”
“...เอ่อ..ค่ะ...”
ณดาอึ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าใครบาดเจ็บเธอแอบรู้สึกเป็นห่วงชายหนุ่มอยู่มากเหมือนกัน
“คุณคริสคะทางนี้ค่ะ.”
นิชาเห็นคริสโตเฟอร์กำลังยืนทำสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินจึงเรียกให้มานั่งกับพวกเธอเพื่อที่จะได้สอบถามอาการของอคิณว่าก่อนเข้าไปเขาเป็นอย่างไรบ้าง
“คุณคิณโอเคอยู่ไหมคะ”
“ยังคุยโต้ตอบได้อยู่ครับไม่ต้องเป็นห่วงเพื่อนผมมันอึด”
คริสโตเฟอร์ยังเห็นเพื่อนของเขาพุดคุยได้ยังมีสติเพียงแค่ตอนนี้น่าจะเสียเลือดมากก็เท่านั้นเขาก็แอบกังวลอยู่เหมือนกันแต่ก็ต้องพูดเพื่อให้ทุกคนได้สบายใจไปก่อน
วันต่อมา
โรงพยาบาลXXX
“คุณเป็นยังไงบ้าง”
ณดาฝากนีน่าไว้กับหนามเตยและนิชาไว้ที่โฮมสเตย์เพราะเธอต้องมาดูแลอคิณที่โรงพยาบาลเรื่องที่เกิดขึ้นเธอเองก็ยังมีอาการกลัวอยู่บ้างแต่เมื่อเรื่องมันค่อนข้างคลี่คลายแล้วเธอก็สบายใจได้เปราะหนึ่ง
“ขอบคุณนะที่ยังนึกถึงผม”
อคิณเห็นว่าหญิงสาวปลอดภัยและยังสามารถที่จะมาดูแลเขาได้ก็โล่งใจเขาไม่อยากจะคิดเลยว่าเคยที่เขาคอยทำร้ายจะมานึกเป็นห่วงคนอย่างเขาด้วยหากเธอรู้ความจริงว่าเขาทำอะไรมากกว่าที่เธอรู้เธอยังจะเป็นห่วงเขาแบบนี้หรือไม่
“ฉันใจดำกับคนที่ไปช่วยไม่ลงคอหรอกค่ะ”
ในใจณดาที่ต้องคอยมาดูแลชายหนุ่มเพราะเธอรู้สึกห่วงเขาแต่ปากก็ยังหาข้ออ้างว่าเป็นเรื่องอื่นเพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มรู้ความรู้สึกของเธอเอง
“ผมอยากจะขอโทษคุณ..ที่ทำให้คุณเป็นเหยื่อ..”
อคิณเอ่ยขอโทษกับหญิงสาวเบาๆที่ทำให้เธอต้องมาเผชิญชะตากรรมแบบนี้
“เรื่องมันผ่านมาแล้วนี่คะ”
ณดารู้ว่าชายหนุ่มขอโทษเรื่องที่ทำให้เธอต้องโดนจับเป็นตัวประกันเรื่องนี้มันผ่านไปแล้วและเธอกับลูกก็ไม่ได้เป็นอะไรเธอไม่อยากถือสาแอบดีใจอยู่ลึกๆที่คนอย่างเขาก็พูดคำว่าขอโทษกับเธอเป็นเหมือนกัน
“มีอีกเรื่องที่คุณยังไม่รู้”
อคิณเห็นหญิงสาวให้อภัยเขาตัวของเขาเองก็ยิ่งไม่อยากจะให้อภัยตัวเองและเรื่องที่เขาจะพูดต่อไปนี้ก็ไม่รู้ว่าเธอจะให้อภัยเขาอย่างที่เธอพูดเมื่อครู่หรือเปล่า
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
ณดาถามชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าสงสัย
“เรื่องคุณอานภ”
“คุณพ่อฉัน..มีอะไรเหรอคะ”“คือ...”อคิณตัดสินใจเล่าเรื่องมุกอย่างให้ณดาฟังเขาไม่เพียงแต่เข้ามาในชีวิตของเธอเพื่อทำลายเธอเท่านั้นเรื่องพ่อของเธอที่ประสบปัญหาทำให้ล้มละลายและตรอมใจจนร่างกายทรุดโทรมจนป่วยและเสียไปในที่สุดนั่นก็ฝีมือของเขาอีกเช่นกัน“ทุกอย่างเป็นฝีมือคุณ”ณดาไม่อยากจะเชื่อเพราะที่เธอเคยคิดมีเพียงเธอเท่านั้นที่เป็นเหยื่อให้อคิณแก้แค้นไม่คิดว่าเรื่องธุรกิจพ่อของเธอก็เป็นฝีมือของเขาด้วย“ผมขอโทษ..ผมมันโง่เอง..”อคิณเห็นสีหน้าของหญิงสาวเขาก็เริ่มใจไม่ดี“เพื่อล้างแค้นเท่านั้นคุณไม่เคยสนใจอะไรทั้งนั้นใช่ไหมว่าชีวิตคนที่เป็นเหยื่อของคุณเค้าต้องเจอกับอะไร...”หากมีแค่เพียงเธอเท่านั้นที่ยอมรับผลกรรมนี้เธอก็ยอมรับได้แต่นี่เขาทำเรื่องเลวร้ายกว่าที่เธอคิดเธอรับไม่ได้ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมีจิตใจที่อาฆาตแค้นได้โหดร้ายขนาดนี้..ถึงจะเป็นเพราะความหูเบาแต่ถ้าเขาหาความจริงให้ละเอียดสักนิดเรื่องแบบนี้คงไม่เกิด“ผมขอโทษ...จริงๆ...คุณจะให้ผมทำอะไรเพื่อชดใช้ผมยอมทุกอย่างและผมจะคืนทุกอย่างให้คุณด้วย”อคิณไม่มีคำพูดไหนดีเท่ากับคำว่าขอโทษเธอแล้วเขารู้สึกผิดจากใจจริงต่อไปนี้ของที่ควรจะเป็นของๆเธอเขา
18.00 น.ไร่อินทร์สรณ์“พ่อเลี้ยงอยู่ไหมคะ”นิชามาเยี่ยมธีรธรเป็นมารยาทเพื่อตอบแทนน้ำใจและดูว่าเขานั้นเป็นอย่างไรบ้างมาถึงบ้านไม้สไตล์โมเดิร์นหลังใหญ่เธอเห็นแม่บ้านกำลังเดินลงมาพอดีจึงถามหาชายหนุ่ม“อยู่ด้านในค่ะคุณนิ”แม่บ้านที่นี่รู้จักหญิงสาวดีเพราะเธอเคยมาที่นี่กับณดาพรางชี้มือเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นบอกกับหญิงสาวว่าพ่อเลี้ยงอยู่ด้านในเธอเองก็จะกลับไปที่พักของเธอเพราะหมดหน้าที่ที่จะทำที่นี่วันนี้แล้ว“อ๋อ...ค่ะ..”นิชารู้ว่าธีรธรอยู่ที่ไหนก็รีบเดินไปหาจะได้รีบเยี่ยมแล้วจะรีบกลับเพราะมันเย็นแล้ว“คุณ..นี่คุณดื่มด้วยเหรอ”หญิงสาวเดินมาเห็นชายหนุ่มกำลังนั่งดื่มไวน์ราคาแพงอยู่เธอก็อดที่จะถามไม่ได้ว่าเขาดื่มของพวกนี้ในขณะที่ร่างกายยังไม่ค่อยจะดีด้วยหรืออย่างไรเธอคิดในใจว่าเขานั้นช่างไม่ดูแลตัวเองเอาเสียเลย“ก็ปกติของผมมีดื่มนิดหน่อยในช่วงเย็นๆเท่านั้น”ธีรธรก็ดื่มของเขาแบบนี้เป็นปกติแทบจะทุกวันแต่ก็ไม่ได้ดื่มมากมายจนเมาไม่รู้เรื่องแค่เรียกเลือดลมก็เท่านั้น“แต่คุณไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”นิชาไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะตอบเธอหน้าตาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้“ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้วแผลก็โอเค.
“คุณยังเจ็บอยู่เดี๋ยวฉันบอกพวกเค้าให้ก็ได้”นิชาเห็นว่าชายหนุ่มแผลยังไม่หายคงขับรถไม่ค่อยถนัดเรื่องแค่นี้เธอบอกให้ก็ได้“อืม..อย่างนั้นก็ได้ขอบคุณนะครับ...คุณจะกลับเลยไหมอยู่เป็นเพื่อนคุยกับผมก่อนสิ”ธีรธรพยักหน้าตอบถึงตอนนี้หญิงสาวจะทานข้าวอิ่มแล้วแต่เขายังไม่อยากให้เธอกลับยังอยากให้เธออยู่เป็นเพื่อนคุยอีกสักหน่อยเพราะเขาไม่มีใครมานั่งทานข้าวด้วยแบบนี้นานแล้ว“นี่มันก็มืดแล้วฉันต้องรีบกลับ...นี่คุณเหงาหรืออะไร”นิชาเห็นว่าที่นี่มันก็เริ่มมืดแล้วเธออยากจะกลับดึกพรางคิดว่าเขาน่าจะเหงาพอมีคนมาทานข้าวด้วยก็ไม่อยากจะให้กลับ“ก็แค่อยากมีเพื่อนนั่งคุยบ้างคุณไม่สะดวกก็ไม่เป็นอะไร”ธีรธรตอบหญิงสาวด้วยสายตาละห้อยเล็กน้อย“อะ..ฉันอยู่ก่อนก็ได้..เออแล้วแผลคุณล้างหรือยัง”นิชาเห็นแก่ที่เขาเคยช่วยเพื่อนเธอเอาไว้จึงยอมใจอ่อนอยู่เป็นเพื่อนคิดเสียว่าทำให้คนๆนึงหายเหงาก็แล้วกันพลันสายตาก็มองไปที่ต้นแขนของเขาอยากจะรู้ว่าวันนี้เขาล้างแผลหรือยังเพราะดุท่าชายหนุ่มคงไม่ใช่คนที่สนใจดูแลตัวเองเท่าไร“เอ่อ..ยังเลย”ธีรธรนึกขึ้นได้ว่าเขาลืมที่จะล้างแผลไปเลย“งั้นเดี๋ยวฉันล้างแผลให้ก็แล้วกัน”นิชาคิดเอาไว้แล้วว
“ฮ่าๆๆ..ต้องอย่างนี้สิ”ธีรธรยกขวดไวน์ราคาแพงเทใส่แก้วที่หญิงสาวยื่นมาให้พอประมาณ“....เอ่อ...ก็รสชาติดีแฮะ..”นิชาสูดดมกลิ่นของไวน์แล้วค่อยๆจิบเมื่อไวน์สัมผัสกับลิ้นของเธอหญิงสาวรู้สึกชอบรสชาติแบบนี้มากถึงกับตาโตเลยทีเดียว“อีกไหมคุณ..”ธีรธรเห็นว่าหญิงสาวน่าจะชอบเพราะเธอเล่นดื่มทีเดียวจะหมดแก้วเลยจึงยื่นจะเทไวน์ในขวดให้เธออีก“อืมม...”นิชาพยักหน้ารับพร้อมยื่นแก้วให้กับชายหนุ่มเธอไม่คิดว่าของแบบนี้มันจะอร่อยได้เหมือนกันครึ่งชั่วโมงต่อมา“คุณ..ไหวหรือเปล่า..เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน”ธีรธรเห็นหญิงสาวดื่มเข้าไปหลายแก้วอยู่เหมือนกันจนตอนนี้เธอนั้นเริ่มที่จะนั่งอึนหน้าแดงตาเยิ้มอย่างเห็นได้ชัดเขาเลยคิดว่าคงจะต้องเป็นเขาแล้วที่พาเธอไปส่งที่บ้านหากขับรถกลับเองคงไม่ดีแน่ชายหนุ่มเข้าไปพยุงตัวของหญิงสาวโดยใช้แขนอีกข้างที่ยังใช้การได้อยู่ตัวเธอเล็กกว่าเขมากจึงใช้แขนข้างเดียวหิ้วขึ้นมาให้ลุกขึ้นได้อย่างสบาย“อย่ามาแตะตัวฉันนะ...คุณมันจอมเจ้าชู้ใครอยู่ใกล้ก็อันตราย”นิชากำลังอยู่ในอาการมึนเมาตอนนี้สติเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วเมื่อมองเห็นคนที่กำลังถึงเนื้อถึงตัวกับเธออยู่ก็รีบผละออกแถมยังต่อว่าอ
“เอ่อ..ขอโทษนะคะคุณธรอยู่ไหมคะ..”ณดาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับย่าน้อยเมื่อเธอเห็นแม่บ้านสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่จึงส่งเสียงทักถามหาธีรธรว่าอยู่หรือเปล่า“เอ่อ..คือ..นี่ค่ะ”แม่บ้านสองคนหันกลับมาหาหญิงสาวพร้อมแยกตัวออกจากกันและชี้ไปที่คนที่หญิงสาวกำลังถามหา“นิ..”“ยัยนิ..ตายๆ..ย่าจะเป็นลม”ภาพของทั้งสองปรากฏต่อสายตาของณดาและย่าน้อยทำเอาทั้งคู่อึ้งกันไปตามๆกันย่าน้อยเองเห็นภาพนั้นก็แทบเป็นลมในหัวคิดไปในทางที่ไม่ดีไปแล้วเพราะภาพตรงหน้ามันยากมากที่จะทำให้เธอคิดเป็นอื่นเธอแทบจะเป็นลมล้มพับดีที่ณดาประคองเธอนั่งลงก่อน“คุณย่าคะ..คุณย่านั่งก่อนค่ะ”ณดารีบประคองย่าน้อยนั่งลงที่โซฟาเพราะดูท่าย่าน้อยนั้นน่าจะยืนไม่ไหวเธอพยายามคิดในแง่ดีว่านิชาคงจะมีคำตอบให้ย่าน้อยได้สบายใจ“เดี๋ยวหนูไปเอายาดมมาให้นะคะ”แม่บ้านเห็นว่าหญิงชราจะเป็นลมจึงรีบวิ่งไปเอายาดมมาให้“ขอบคุณค่ะ”“อื้มม..อืออ...หนักจังเลยอะไรเนี่ย..เห้ยยย”นิชางัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายแถมพอเธอจะลุกยังรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆมาทับที่ตัวของเธอเอาไว้อีกด้วยเมื่อเห็นว่าเป็นอะไรทับเธออยู่จึงรีบผละตัวออกทันที“อืม..คุณ..”ธีรธรเมื่อร
20.30 น.“คุณแม่ขาเมื่อไรคุณพ่อจะหายคะ”เด็กหญิงนอนตักคุณแม่ของเธอในใจแอบคิดถึงพ่อของเธออยากจะให้กลับมาอยู่ด้วยกันเร็วๆจึงเอ่ยถามคนเป็นแม่ถึงอาการของพ่อเธอว่าเมื่อไรจะหาย“อืม...คุณพ่อยังต้องรักษาอีกนานเลยค่ะเพราะคุณพ่อเป็นแผลใหญ่”ณดาก้มลงมายิ้มให้ลูกสาวของเธอพร้อมบอกเหตุผลว่าทำไมพ่อของเธอถึงยังไม่หาย“นีน่าสงสารคุณพ่อจังเลยค่ะ”เด็กหญิงพูดถึงคนเป็นพ่อตาละห้อย“..นอนได้หรือยังคะคนเก่ง..”ณดากลัวว่านีน่าจะถามคำถามที่เธอไม่อยากตอบจึงหาเรื่องกล่อมให้ลูกเธอนอนจะดีกว่า“คุณพ่อหายแล้วจะกลับมาอยู่กับนีน่าไหมคะ”เด็กหญิงถามคนเป็นแม่ด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา“อืม..แล้วถ้าคุณพ่อไม่กลับมาอยู่กับนีน่าล่ะคะ”และเรื่องที่เธอกลัวก็เกิดจนได้...หญิงสาวลองเชิงถามลูกสาวของเธอถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเธออยากจะรู้ว่าลูกเธอจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดพ่อของเจ้าตัวจะไม่อยู่ด้วย“อ้าวทำไมล่ะคะ”นีน่าคิ้วขมวดเล็กน้อยกับคำถามของแม่เธอ“ถ้าแบบคุณพ่อต้องกลับไปทำงานแล้วมาหามาอยู่กับนีน่าไม่ได้นีน่าอยู่กับแม่สองคนได้ไหมคะ”ณดากลั้นใจถามคำถามนี้กับลูกของเธอจะได้รู้กันไปเลยว่าลูกสาวของเธอจะเป็นอย่างไรจะได้ตั้งรับเอาไว้ก่
“ฉันว่าแล้ว..ฉันไม่ได้อยากก้าวก่ายอะไรคุณหรอกนะคะแต่คุณพอจะบอกปัญหาได้ไหมเผื่อฉันจะมีทางช่วยเพราะถ้าให้ฉันไปถามนิดถามให้ตายนิดก็ไม่ตอบหรอกค่ะ”หนามเตยคิดเอาไว้ไม่ผิดดีที่เขาตัดสินใจถามอคิณไม่อย่างนั้นรอเพื่อนเธอบอกให้ตายก็คงจะไม่บอกเธออยู่ดีที่เธอทำแบบนี้เพราะอยากช่วยทั้งสองและเห็นแก่นีน่าหลานของเธอกลัวว่าพ่อกับแม่หลานเธอจะมาแยกทางกันอีก“ผมว่าถ้าคุณรู้ปัญหาก็คงจะไม่อยากช่วยผมแน่ๆ..”อคิณคิดว่าหากหนามเตยรู้เรื่องเธอคงจะไม่อยากช่วยเขาเหมือนที่พูดตอนนี้เป็นแน่เพราะเขาและณดาไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องนิดๆหน่อยๆ“ทำไมคะหรือว่า..คุณมีคนอื่น”หนามเตยคิดว่ามันจะมีอะไรที่ทำให้เธอไม่อยากช่วยให้ทั้งสองคืนดีกันนอกเสียจากว่าชายหนุ่มมีคนอื่น“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ..คือผมเคยทำร้ายนิดมาก่อน”อคิณรีบส่ายหัวเรื่องนั้นเขาไม่มีให้เป็นปัญหา..และเขาก็ตอบถึงปัญหาที่เขามีด้วยเสียงอ่อนลงอีกด้วยยังไม่แน่ใจว่าจะเล่าให้หญิงสาวฟังดีหรือไม่“หืมม...”หนามเตยยิ่งฟังเธอก็ยิ่งสงสัย“ผม...”อคิณตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หนามเตยฟังเพราะตอนนี้เขาก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วเขาทำผิดก็ต้องยอมรับผิด“หา..ทั้งหมดนี่ฝีมือคุณ...”หนาม
“พอดีผมไม่ชินทาง”เตชินพูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรเขาเองก็ไม่ได้อยากจะให้มันเกิดแค่เขาไม่ค่อยชินทางเท่านั้นเองอีกทางทางที่นี่ก็คดเคี้ยวไปมาทำให้มองไม่ค่อยจะเห็นรถคันอื่น“มีประกันกับมีใบขับขี่หรือเปล่าคุณน่ะ”หนามเตยอยากจะให้ชายหนุ่มเรียกประกันของเขามาจะได้เคลียให้จบๆไป“เอาเป็นว่าคุณต้องการค่าเสียหายเท่าไรว่ามาเลย”เตชินคิดว่าการพูดแบบนี้หญิงสาวน่าจะต้องการเงินเท่าที่เขาเคยเจอมาเพราะหากถามหาประกันกับใบขับขี่เขาพึ่งกลับมาจะมีได้อย่างไรประกันรถพี่ชายของเขาก็น่าจะไม่ได้ต่ออะไรเพราะรถคันนี้ไม่ได้ใช้นานแล้วและเขาเองก็อยากกลับมาที่นี่กะทันหันด้วย“นี่คุณ...ฉันถามว่ามีใบขับขี่หรือเปล่าไม่ใช่ให้คุณมาเอาเงินฟาดหน้าฉัน”หนามเตยถึงกับลมออกหูเธอถามหาประกันกับใบขับขี่ชายหนุ่มแต่อีกฝ่ายดันมาหาว่าเธออยากจะได้เงินเสียอย่างนั้น“ไม่มี..”เตชินตอบหญิงสาวไปตามตรงแบบหน้าตาเฉยพร้อมยืนพิงรถกดมือถือเล่นอย่างสบายอารมณ์“ประกันล่ะ..”หนามเตยเห็นพฤติกรรมของอีกฝ่ายช่างดูไม่มีมารยาทเอาเสียเลยเธอยังคงถามหาประกันต่อเพราะถ้าหากเขามีจะได้ให้ประกันของเขากับของเธอมาตกลงกัน“ไม่รู้คั