เขาเหนี่ยวรั้งกักขังเธอไว้ปรนเปรอสวาท เพราะหลงใหลในเรือนร่าง หรือเพราะซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้
View Moreนิ้วเรียวใหญ่แทรกลงตรงกลางกลีบดอกไม้อย่างรุนแรง กดบีบและคลึงเคล้นจนสาสมใจ แล้วจึงสอดใส่นิ้วร้อนเข้าไปในช่องทางรักที่ชุ่มฉ่ำ แก้วกานดาบิดเร่าด้วยความเสียวปนเจ็บ“อื๊อ...อ๊ะ!” ความรู้สึกวาบหวิวที่แล่นพล่านอยู่ในกาย ทำให้แก้วกานดาครางออกมาอย่างลืมตัว“ต้องอย่างนี้สิฝ้าย ผมจะทำให้คุณครางดังกว่านี้อีก” นักรบลุกขึ้นนั่ง จัดแจงจับขาเรียวยกขึ้นสูงแล้วแยกถ่างออก เขาโหย่งตัวขึ้นจับส่วนปลายของความแข็งแกร่งจดจ่อกับช่องทางที่ลื่นแฉะ กดทะลวงครั้งเดียวจนสุดทาง“กรี๊ด!” แก้วกานดาสะท้านเฮือก กรีดร้องด้วยความเสียวเสียดและเจ็บจุก นักรบขยับสะโพกกระแทกอัดเข้าออกอย่างรุนแรง มือหนาบีบเคล้นอกอวบอย่างไม่ปรานี“ร้องอีกสิฝ้าย ร้องดังๆ อื้ม” นักรบครางเสียงทุ้มต่ำออกมา คืนนี้แก้วกานดาต้องตอบสนองเขาทั้งคืน เขาจะทำให้เธอเต็มอิ่มจนไม่ต้องไปร้องขอกับใครอีกเลยรุ่งเช้าแก้วกานดารู้สึกปวดระบมไปทั้งร่าง เธอเพลียจนไม่อยากจะลืมตาขึ้นเลย ร่างกายที่ถูกตักตวงหาความสุขอย่างรุนแรงและเอาแต่ใจทั้งคืน ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มดังอ
แก้วกานดามาถึงคอนโดเกือบสองทุ่ม เธอรับซองใส่คีย์การ์ดสำรองจากคนขับรถของบ้านนักรบ เพื่อใช้ในการเปิดประตูห้อง หญิงสาวนั่งจัดเสื้อผ้าและของใช้ที่ขนมาจากบ้านอยู่เงียบๆ น้ำตาก็พานจะไหลอยู่หลายที ความรักที่มีต่อชายหนุ่มไม่เคยลดน้อยลงเลย แต่เธอไม่สามารถปริปากบอกเขาได้ เขากำลังจะแต่งงาน กำลังจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงของเขา สิ่งที่นักรบทำกับเธอ ถึงเธอจะไม่เข้าใจเท่าไรนัก แต่ก็พอจะปะติดปะต่อได้ว่า เขาทำไปเพราะโกรธที่เธอที่อยู่ดีๆก็หายไปโดยไม่ได้บอกเหตุผลใด ทั้งที่เธอกับเขาได้วางแผนการแต่งงานไว้แล้ว มันคงทำให้เขารู้สึกเสียหน้าและผิดหวังในตัวเธอ หากหนึ่งเดือนต่อจากนี้จะทำให้เขาคลายความโกรธลง และจบสิ้นทุกอย่างที่มีต่อกัน เธอก็พร้อมที่จะให้มันเป็นไป ถึงแม้มันจะเจ็บปวดในวันที่เธอต้องออกจากชีวิตเขาไปอีกครั้ง เธอก็จะยอมรับมันไว้อย่างเต็มใจแก้วกานดาสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกความกล้าให้ตัวเอง เสียงของมารดาที่เอ่ยกับเธอเมื่อหัวค่ำตอนที่เธอไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่บ้านยังดังก้องอยู่ในหู “ดูแลตัวเองดีๆนะฝ้าย ตั้งใจทำงานนะลูก”น้ำตาที่เธอพยายามห้
“ความรักมันบังตาหรือไงตารบ รู้ไหมว่า คืนแรกที่รบขึ้นเครื่อง มีคนมาบอกแม่ว่าเจอฝ้ายควงกับเสี่ยคนหนึ่งที่ร้านอาหาร เขาแอบตามไปก็เลยไปเห็นว่าจบกันที่โรงแรม รบ...ลูกพอรู้ใช่ไหมว่าธุรกิจที่บ้านของฝ้ายเขากำลังย่ำแย่ ไม่แปลกหรอกนะที่ฝ้ายจะเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อเงิน จบจากเสี่ยคนนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปต่อกับใครอีกกี่คน เห็นว่าเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ด้วยนะ นี่ยายลินก็ติดต่อฝ้ายไม่ได้เลย แม่ก็ได้แต่บอกน้องไปว่าฝ้ายบอกเลิกรบแล้ว เพราะต้องการเปิดโอกาสให้รบกับตัวเอง ไม่งั้นยายลินต้องผิดหวังในตัวเพื่อนคนนี้แน่ๆ”คำบอกกล่าวของมารดาทำให้นักรบรู้สึกเจ็บ ราวกับถูกมีดกรีดซ้ำๆ ความอ่อนหวานและรอยยิ้มสดใสของแก้วกานดายังติดตรึงในใจเขา เป็นไปได้ยังไง ช่วงเวลาที่เขาและแก้วกานดาเรียนรู้กัน มันเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขมาก เขามั่นใจเหลือเกินว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนที่เขาดูแลรับผิดชอบไปชั่วชีวิตหลังจากนั้นนักรบพยายามโทรศัพท์ติดต่อแก้วกานดา แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย ประกอบกับหน้าที่ในเรื่องงานที่หนักหนา ทำให้นักรบได้แต่ข่มความรู้สึกผิดหวังไว้ อยู่กับมันซ้ำๆทุกวันทุกคืน อยู่กับคำ
“คุณรบจะทำอะไร!” แก้วกานดาสะดุ้งตื่นเมื่อถูกอุ้มขึ้นจากเตียง“อยู่เฉยๆเถอะน่า” นักรบปรามเสียงเข้ม เขาพาแก้วกานดาเข้าไปในห้องน้ำ แล้ววางร่างเธอลงในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำอุ่นอยู่เกือบเต็ม หญิงสาวขยับตัวแล้วเลือกที่จะก้มหน้า เธอเหนื่อยเกินกว่าจะสู้กับเขาแล้ว แต่เธอก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อนักรบพาตัวเองเข้ามาอยู่ในอ่างอาบน้ำกับเธอ“พอเถอะคุณรบ อย่าทำร้ายฝ้ายอีกเลย” แก้วกานดาสบตาเขาอย่างอ้อนวอน“ฝ้ายไม่มีสิทธิ์ร้องขออะไรจากผม” ร่างใหญ่ยกเธอขึ้นให้นั่งบนตักของตัวเอง เขานั่งพิงขอบอ่าง แล้วรั้งแผ่นหลังเนียนให้เอนซบไปกับอกกว้าง มือหนาลูบไล้ทั่วร่างเนียน จุดที่บอบช้ำถูกสัมผัสอย่างแผ่วเบา แก้วกานดาสะดุ้งตัวแล้วนิ่วหน้า“เจ็บมากไหม” น้ำเสียงนุ่มทุ้ม ทำให้คนถูกถามอุ่นวาบขึ้นมาในหัวใจ แก้วกานดาพยักหน้าเล็กน้อย“ต่อไปฝ้ายจะต้องมาพักที่นี่”คนได้ยินคำสั่งขยับตัว หันกลับไปสบตาคมเข้ม “ไม่ได้นะคะ”“ฝ้ายก็รู้ว่าฝ้ายไม่มีทางปฏิเสธผมได้”“ทำไมคุณรบต้องทำอย่างนี้” คนถามนิ่ง รอคำตอบจากเขา“ฝ้ายบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า มีโปรเจคงานที่ต้องทำเร่งด่ว
“ฝ้าย เป็นอะไร มองผมสิ ฝ้าย” นักรบไม่เข้าใจว่าแก้วกานดาเป็นอะไร เขาพยายามเรียกเธอเสียงดัง แก้วกานดาหอบหายใจแรงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยายามปรับให้เป็นปกติแล้วหันมาสบตานักรบ“เอ่อ...ฝ้ายไม่เป็นไรค่ะ คุณรบพาฝ้ายกลับบ้านนะคะ” หญิงสาวพยายามอ้อนวอนเขา“ไม่ วันนี้ผมเหนื่อย นี่ก็ใกล้ถึงคอนโดแล้ว คืนนี้เราจะนอนที่นี่กัน”แก้วกานดาตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง “คุณพ่อ กับคุณแม่จะเป็นห่วงฝ้ายนะคะ คุณรบให้ฝ้ายกลับเองก็ได้ค่ะ”“ฝ้ายก็โทรกลับไปบอกสิว่าจะนอนค้างกับลินที่คอนโด” นักรบไหวไหล่ไม่สนใจ ชายหนุ่มบังคับรถไปตามทางเรื่อยๆ“คุณรบจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ คุณแม่รู้ว่าฝ้ายออกมากับคุณ”“หรือฝ้ายจะให้ผมส่งคลิปนั้นไปให้คุณพ่อคุณแม่ดูล่ะ ท่านจะได้รู้ว่าคุณมาค้างกับผม เพื่อทำอะไร” แก้วกานดาเม้มปากแน่น นั่งเงียบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของนักรบด้วยความคับแค้นใจ“โทรสิ” นักรบหันกลับมาบอกแทบจะเป็นเสียงตวาด มือเล็กๆควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าถือ แก้วกานดาต่อสายหามารดา หญิงสาวพยายามพูดให้น้ำเสียงเป็นปกติ“ค่ะแม่ ค้างกับลินจริงๆค่ะ เอ่อ...คุณรบไม่ได้อยู่ด้วยค่ะ...
“ชื่อเล่นว่าคุณฟะ...ฟายหรือครับ” หญิงสาวปิดปากแล้วหัวเราะ“ไม่ใช่ค่ะ ฝ้ายค่ะ”“ฟะ ฟ้าย” เควินพยายามจะออกเสียงให้ได้ แต่มันก็ยากเย็นเหลือเกิน“คุณเควินเรียกฝ้ายว่า แก้วกานดาก็ได้ค่ะ ง่ายกว่าไหมคะ” แก้วกานดาหัวเราะอีกครั้งกับความพยายามของเควิน“ยาวไปครับ ถ้าอย่างนั้นผมเรียกสั้นๆว่า ฟะ...อืม...แฟรี่นะครับ คุณสวยเหมือนนางฟ้า ผมขออนุญาตเรียกว่าแฟรี่นะครับ” เควินยิ้มกว้าง“ค่ะ แล้วแต่คุณเควินแล้วกันค่ะ” แก้วกานดาพยักหน้าและยิ้มรับ“สนิทสนมกันเร็วดีนะ ตกลงนายจะคุยงานกับฉันไหมเควิน” คนที่กำลังสนทนากันอย่างออกรสออกชาติ จึงเงียบและกันไปมองนักรบพร้อมกัน“คุยสิวะคุณรบ เอ่อ...ว่าแต่แฟรี่รับค็อกเทลเบาๆหน่อยไหมครับ”“ฝ้ายแพ้แอลกอฮอล์ น้ำเปล่าล่ะดีแล้ว” นักรบส่งสัญญาณเรียกบริกรมารับออเดอร์แล้วหันกลับมาสบตาแก้วกานดาแวบเดียว ก่อนจะหันกลับไปคุยกับเควินเรื่องงานที่ร่วมลงทุนกันแก้วกานดาบีบมือตัวเองแน่น ใจเต้นตึกตัก นี่เขาจำได้ด้วยเหรอว่าเธอแพ้แอลกอฮอล์ เขายังจำอะไรในสิ่งที่เป็นตัวเธอได้อีกไหมระหว่างที่ทั้งสองคนสนทนากันเรื่องการลงทุน
“ได้ค่ะ” แก้วกานดายิ้มกว้าง หอบงานเข้าไปในห้องท่านประธาน นักรบช้อนสายตาขึ้นมองครู่เดียว แก้วกานดาไม่ได้สนใจคนที่นั่งทำงานอยู่ เธอมีงานให้รับผิดชอบแล้ว จึงไม่ได้สนใจว่าเขาจะมองมาหรือทำอะไร ต่างฝ่ายต่างก้มหน้าทำงานโดยไม่มีใครพูดจา“ไปกินข้าวกันเถอะฝ้าย” ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก พร้อมกับเสียงดังของนลินทำให้นักรบและแก้วกานดาหันมองไปทางเดียวกัน“ที่นี่ไม่ใช่ตลาดสดนะลิน” นักรบปรามน้องสาวของตัวเอง นลินยิ้มอย่างสำนึกผิด แล้วก้าวเท้าเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของพี่ชาย“ขอโทษค่ะ” นักรบส่ายศีรษะอย่างระอาน้องสาวตัวเอง“ลินจะก้าวมาเป็นผู้บริหารของบริษัท ต้องรู้จักวางตัวให้น่าเกรงขามและน่าเคารพ นี่อะไรเอะอะโวยวายเสียงดังเป็นเด็กไปได้” นลินก้มหน้าทำปากขมุบขมิบล้อเลียนพี่ชาย นักรบพูดต่อว่า“จะมาชวนฝ้ายไปกินข้าว ถามเขาสักคำหรือยังว่างานเสร็จหรือยัง”แก้วกานดาส่งยิ้มแหยๆมาให้เพื่อน นลินทำหน้างง“ก็ถึงเวลากินข้าวแล้วนี่พี่รบ ลินหิวแล้ว กินข้าวไม่ตรงเวลาเดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก”“ลินไปกินก่อนเลย พี่ก็ทำงานยังไม่เส
“ลินมาทำอะไรแต่เช้า” แก้วกานดายิ้มขำๆกับการมาของเพื่อน“ก็มารับพนักงานกิตติมศักดิ์ไง” นลินยิ้มกว้าง ก่อนจะยกมือไหว้ธาดา และกานต์แก้ว บิดาและมารดาของเพื่อนรัก“ลินมารับพนักงานใหม่ค่ะคุณพ่อคุณแม่ สัญญาว่าจะดูแลอย่างดีเลยค่ะ” ผู้สูงวัยกว่าทั้งสองยิ้มไปกับท่าทางของผู้มาเยือนแต่เช้า“ขอบใจมากนะหนูลิน ที่ให้โอกาสฝ้าย” ธาดาเอ่ยขึ้นขึ้นพร้อมกับยกมือลูบศีรษะลูกสาวตนเอง“ตั้งใจนะลูก ให้สมกับที่หนูลินไว้วางใจ” กานต์แก้วสำทับลูกสาวอีกครั้ง“ค่ะ...ฝ้ายไปทำงานก่อนนะคะ” แก้วกานดาและนลินยกมือไหว้ลาทั้งสอง ธาดาและกานต์แก้วมองตามรถมินิคูเปอร์สีแดงที่แล่นออกจากรั้วบ้านไป แล้วถอนหายใจยาวออกมาพร้อมกัน“ฝ้ายจะทนได้หรือคะคุณ ฉันสงสารลูกจัง” กานต์แก้วน้ำตารื้น บิดาและมารดาของแก้วกานดารู้เรื่องราวระหว่างลูกสาวของตนกับนักรบดี ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ถ้าผมไม่บริหารธุรกิจของเราผิดพลาด ลูกก็คงไม่ต้องกลับไปหาความเจ็บปวดอีก หรือว่าเราจะขายบ้านหลังนี้ แล้วกลับไปอยู่ที่บ้านของคุณที่ต่างจังหวัดดี ถ้าขายบ้านได้แล้วไปชำระหนี้ให้ธนาคาร เงินก็ยังคงพอเหลืออีกก้อนให้เราเอาไปเร
“อื้มมม” นักรบปลดปล่อยความสุขสุดยอดไล่ตามหญิงสาวไปติดๆ ท่อนแขนแกร่งรวบร่างบางไว้กอดรัดแนบแน่น ก่อนที่ต่างคนต่างผ่อนคลายและหอบหายใจแรงเหมือนกัน นักรบปล่อยขาเรียวของหญิงสาว ให้เธอยืนบนพื้น แต่ยังกอดเกี่ยวร่างนุ่มนิ่มไว้“เห็นไหมว่าฝ้ายก็ชอบเรื่องพรรค์นี้เหมือนกัน”“ไม่จริง ไม่ใช่ คุณข่มขืนฝ้าย”“อย่างนี้เขาไม่เรียกข่มขืนหรอกฝ้าย เขาเรียกว่าสมยอม”“คุณรบ!” แก้วกานดาดิ้นแรง ขณะที่นักรบเหยียดริมฝีปากเล็กน้อย“อย่างนี้เขาถึงจะเรียกว่าข่มขืน”ร่างบางถูกบังคับกดให้นอนลงกับพื้นครัว หลังของแก้วกานดาสัมผัสได้ถึงความแข็งกระด้างของกระเบื้องที่เย็นเฉียบ นักรบแทรกตัวเองเข้ามาตรงกลางระหว่างขาเรียว แก้วกานดาพยายามจิกข่วนแขนของชายหนุ่ม และออกแรงดิ้นรน“ปล่อยนะ ปล่อยฝ้าย” เสียงดังของหญิงสาวทำให้นักรบใช้มือใหญ่ปิดปากของเธอไว้แน่น และใช้มืออีกข้างจับข้อมือเล็กตรึงไว้หรือศีรษะของคนที่กำลังดิ้นรน แก้วกานดาตาเบิกโพลงตกใจ และเมื่อชายหนุ่มพยายามดุนดันตัวตนของเขา เข้ามาในร่างเธออีกครั้งด้วยความรุนแรง ร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงกลางทำให้แก้วกานดาไม่สามารถหุบขาเข้าได้
“ปล่อยฝ้ายไปเถอะค่ะคุณรบ อย่าทำอะไรฝ้ายเลย” หญิงสาววัยยี่สิบสี่ปีร่างบอบบางถอยหลังจนชิดผนังห้อง น้ำตาไหลอาบสองแก้มเนียนใส มือเล็กๆยกขึ้นกระพุ่มไว้ที่อก ‘แก้วกานดา’ พยายามอ้อนวอนคนที่เธอคิดว่าอยู่ในอารมณ์เมามายไม่ได้สติ ทั้งที่ ‘นักรบ’ หนุ่มหล่อคมเข้มรูปร่างสูงใหญ่วัยย่างเข้าสามสิบปีมีสติครบถ้วนทุกอย่าง เพียงแต่ต้องแกล้งทำเป็นเมามาย เพราะอยากจะจัดการกินคนตรงหน้านี้นัก“ฝ้ายก็ชอบผมนี่ อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย เห็นกระดี๊กระด๊าแย่งกันเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมกับเพื่อนๆอยู่ คุณควรภูมิใจนะที่ผมเลือกคุณ เลือกมาตั้งแต่คืนนั้น” นักรบบุกประชิดร่างน้อยที่สั่นกลัวอยู่ชิดผนังห้อง แก้วกานดาเบิกตาโพลง หญิงสาวพยายามอ้าปากตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่เสียงเพลงจากงานเลี้ยงข้างนอกดังกระหึ่มจนกลบเสียงของเธอไปหมด“ปล่อยฝ้ายนะคุณรบ”ชายหนุ่มยิ้มยั่วใส่แววตาตื่นตระหนก “พรุ่งนี้เช้าผมจะปล่อยคุณนะที่รัก”แก้วกานดาหมดหนทางดิ้นรน เมื่อเขาใช้ร่างที่ใหญ่โตกว่าทาบทับตรึงเธอไว้กับผนังห้อง ท่อนขาใหญ่แทรกเข้ามาระหว่างขาเรียวเล็กทั้งสองข้าง เขาจงใจใช้ต้นขากดเน้นไปบนเนินอวบอูมกลางกายสาว คนตัวเล็กพยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่เป็นผลใดๆ ริมฝี...
Comments