“คุณรบจะทำอะไร!” แก้วกานดาสะดุ้งตื่นเมื่อถูกอุ้มขึ้นจากเตียง
“อยู่เฉยๆเถอะน่า” นักรบปรามเสียงเข้ม เขาพาแก้วกานดาเข้าไปในห้องน้ำ แล้ววางร่างเธอลงในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำอุ่นอยู่เกือบเต็ม หญิงสาวขยับตัวแล้วเลือกที่จะก้มหน้า เธอเหนื่อยเกินกว่าจะสู้กับเขาแล้ว แต่เธอก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อนักรบพาตัวเองเข้ามาอยู่ในอ่างอาบน้ำกับเธอ
“พอเถอะคุณรบ อย่าทำร้ายฝ้ายอีกเลย” แก้วกานดาสบตาเขาอย่างอ้อนวอน
“ฝ้ายไม่มีสิทธิ์ร้องขออะไรจากผม” ร่างใหญ่ยกเธอขึ้นให้นั่งบนตักของตัวเอง เขานั่งพิงขอบอ่าง แล้วรั้งแผ่นหลังเนียนให้เอนซบไปกับอกกว้าง มือหนาลูบไล้ทั่วร่างเนียน จุดที่บอบช้ำถูกสัมผัสอย่างแผ่วเบา แก้วกานดาสะดุ้งตัวแล้วนิ่วหน้า
“เจ็บมากไหม” น้ำเสียงนุ่มทุ้ม ทำให้คนถูกถามอุ่นวาบขึ้นมาในหัวใจ แก้วกานดาพยักหน้าเล็กน้อย
“ต่อไปฝ้ายจะต้องมาพักที่นี่”
คนได้ยินคำสั่งขยับตัว หันกลับไปสบตาคมเข้ม “ไม่ได้นะคะ”
“ฝ้ายก็รู้ว่าฝ้ายไม่มีทางปฏิเสธผมได้”
“ทำไมคุณรบต้องทำอย่างนี้” คนถามนิ่ง รอคำตอบจากเขา
“ฝ้ายบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า มีโปรเจคงานที่ต้องทำเร่งด่ว
“ความรักมันบังตาหรือไงตารบ รู้ไหมว่า คืนแรกที่รบขึ้นเครื่อง มีคนมาบอกแม่ว่าเจอฝ้ายควงกับเสี่ยคนหนึ่งที่ร้านอาหาร เขาแอบตามไปก็เลยไปเห็นว่าจบกันที่โรงแรม รบ...ลูกพอรู้ใช่ไหมว่าธุรกิจที่บ้านของฝ้ายเขากำลังย่ำแย่ ไม่แปลกหรอกนะที่ฝ้ายจะเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อเงิน จบจากเสี่ยคนนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปต่อกับใครอีกกี่คน เห็นว่าเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ด้วยนะ นี่ยายลินก็ติดต่อฝ้ายไม่ได้เลย แม่ก็ได้แต่บอกน้องไปว่าฝ้ายบอกเลิกรบแล้ว เพราะต้องการเปิดโอกาสให้รบกับตัวเอง ไม่งั้นยายลินต้องผิดหวังในตัวเพื่อนคนนี้แน่ๆ”คำบอกกล่าวของมารดาทำให้นักรบรู้สึกเจ็บ ราวกับถูกมีดกรีดซ้ำๆ ความอ่อนหวานและรอยยิ้มสดใสของแก้วกานดายังติดตรึงในใจเขา เป็นไปได้ยังไง ช่วงเวลาที่เขาและแก้วกานดาเรียนรู้กัน มันเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขมาก เขามั่นใจเหลือเกินว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนที่เขาดูแลรับผิดชอบไปชั่วชีวิตหลังจากนั้นนักรบพยายามโทรศัพท์ติดต่อแก้วกานดา แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย ประกอบกับหน้าที่ในเรื่องงานที่หนักหนา ทำให้นักรบได้แต่ข่มความรู้สึกผิดหวังไว้ อยู่กับมันซ้ำๆทุกวันทุกคืน อยู่กับคำ
แก้วกานดามาถึงคอนโดเกือบสองทุ่ม เธอรับซองใส่คีย์การ์ดสำรองจากคนขับรถของบ้านนักรบ เพื่อใช้ในการเปิดประตูห้อง หญิงสาวนั่งจัดเสื้อผ้าและของใช้ที่ขนมาจากบ้านอยู่เงียบๆ น้ำตาก็พานจะไหลอยู่หลายที ความรักที่มีต่อชายหนุ่มไม่เคยลดน้อยลงเลย แต่เธอไม่สามารถปริปากบอกเขาได้ เขากำลังจะแต่งงาน กำลังจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงของเขา สิ่งที่นักรบทำกับเธอ ถึงเธอจะไม่เข้าใจเท่าไรนัก แต่ก็พอจะปะติดปะต่อได้ว่า เขาทำไปเพราะโกรธที่เธอที่อยู่ดีๆก็หายไปโดยไม่ได้บอกเหตุผลใด ทั้งที่เธอกับเขาได้วางแผนการแต่งงานไว้แล้ว มันคงทำให้เขารู้สึกเสียหน้าและผิดหวังในตัวเธอ หากหนึ่งเดือนต่อจากนี้จะทำให้เขาคลายความโกรธลง และจบสิ้นทุกอย่างที่มีต่อกัน เธอก็พร้อมที่จะให้มันเป็นไป ถึงแม้มันจะเจ็บปวดในวันที่เธอต้องออกจากชีวิตเขาไปอีกครั้ง เธอก็จะยอมรับมันไว้อย่างเต็มใจแก้วกานดาสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกความกล้าให้ตัวเอง เสียงของมารดาที่เอ่ยกับเธอเมื่อหัวค่ำตอนที่เธอไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่บ้านยังดังก้องอยู่ในหู “ดูแลตัวเองดีๆนะฝ้าย ตั้งใจทำงานนะลูก”น้ำตาที่เธอพยายามห้
นิ้วเรียวใหญ่แทรกลงตรงกลางกลีบดอกไม้อย่างรุนแรง กดบีบและคลึงเคล้นจนสาสมใจ แล้วจึงสอดใส่นิ้วร้อนเข้าไปในช่องทางรักที่ชุ่มฉ่ำ แก้วกานดาบิดเร่าด้วยความเสียวปนเจ็บ“อื๊อ...อ๊ะ!” ความรู้สึกวาบหวิวที่แล่นพล่านอยู่ในกาย ทำให้แก้วกานดาครางออกมาอย่างลืมตัว“ต้องอย่างนี้สิฝ้าย ผมจะทำให้คุณครางดังกว่านี้อีก” นักรบลุกขึ้นนั่ง จัดแจงจับขาเรียวยกขึ้นสูงแล้วแยกถ่างออก เขาโหย่งตัวขึ้นจับส่วนปลายของความแข็งแกร่งจดจ่อกับช่องทางที่ลื่นแฉะ กดทะลวงครั้งเดียวจนสุดทาง“กรี๊ด!” แก้วกานดาสะท้านเฮือก กรีดร้องด้วยความเสียวเสียดและเจ็บจุก นักรบขยับสะโพกกระแทกอัดเข้าออกอย่างรุนแรง มือหนาบีบเคล้นอกอวบอย่างไม่ปรานี“ร้องอีกสิฝ้าย ร้องดังๆ อื้ม” นักรบครางเสียงทุ้มต่ำออกมา คืนนี้แก้วกานดาต้องตอบสนองเขาทั้งคืน เขาจะทำให้เธอเต็มอิ่มจนไม่ต้องไปร้องขอกับใครอีกเลยรุ่งเช้าแก้วกานดารู้สึกปวดระบมไปทั้งร่าง เธอเพลียจนไม่อยากจะลืมตาขึ้นเลย ร่างกายที่ถูกตักตวงหาความสุขอย่างรุนแรงและเอาแต่ใจทั้งคืน ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มดังอ
“เอ่อ...น้องฝ้าย แก้วกานดาค่ะ” คำตอบที่ได้ยินทำให้เจนจิรายืนนิ่งกำมือแน่นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือ ทำให้นักรบที่เพิ่งสตาร์ตรถแต่ยังไม่ทันได้ขับเคลื่อนออกจากบริเวณลานจอดรถของตึก ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย“ครับแม่” นักรบเอ่ยทักทาย แล้วรอฟังเสียงจากปลายสาย“ครับ...ครับแม่” นักรบรับคำในสิ่งที่มารดาต้องการ หลังจากสนทนาอยู่เพียงครู่เดียว ชายหนุ่มก็กดวางสาย ใบหน้าหล่อเข้มถอนหายใจเฮือกใหญ่ วันนี้เขาคงไม่ได้กลับไปกินข้าวกลางวันกับแก้วกานดาแล้ว เพราะมารดาแจ้งว่ามีธุระด่วนจะปรึกษา ให้รีบกลับไปที่บ้านด่วนแก้วกานดาตื่นขึ้นมาเกือบสิบเอ็ดโมง เธอยังรู้สึกเมื่อยล้าจากการที่ถูกนักรบรังแกทั้งคืน แต่หญิงสาวก็รีบลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำทำความสะอาดร่างกาย สายน้ำอุ่นที่รินรดร่างกายช่วยทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาก หญิงสาวออกมาจากห้องนอนแล้วเดินสำรวจไปทั่ว ก่อนจะไปหยุดที่บริเวณครัว“ไหนดูซิ มีอะไรให้ทำกินบ้าง” แก้วกานดาเปิดตู้เย็นหลังใหญ่ แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อพบเพียงไข่สามฟอง ขวดน้ำดื่มสองขวด ที่เหลือเป็นพื้นที
“อ๊า...คุณรบ” แก้วกานดาก้มหน้าลงสบตาคมวาวที่จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว“ดีไหมฝ้าย กดลงมาสิ ฝ้ายจะรู้สึกดีกว่านี้” แก้วกานดาค่อยๆขยับสะโพก ร่องดอกไม้อุ่นลื่นของเธอค่อยๆกลืนกินลำกายแข็งแกร่ง ความคับแน่นที่ค่อยๆโอบล้อมตัวตนอยู่ ทำให้นักรบขบกรามแน่น เมื่อแก้วกานดากดสะโพกจนครอบครองเขาทั้งหมด นักรบรั้งศีรษะทุยลงมาเพื่อดูดดื่มริมฝีปากแสนหวานอีกครั้งมือใหญ่ที่จับสะโพกมนอยู่บังคับให้แก้วกานดาต้องขยับตาม สะโพกแกร่งเสยรับในจังหวะที่เขากดมือที่สะโพกเต่งตึง แก้วกานดาเรียนรู้จังหวะและเริ่มขยับเอง โดยที่นักรบเคลื่อนมือไปกอบกุมเนื้อหนั่นแน่นของสะโพก แล้วบีบขยำอย่างเร่งเร้า ชายหนุ่มปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ แก้วกานดาแหงนเงยหน้าทันที ปากเล็กครวญครางกระเส่านักรบซบหน้าลงตรงอกอวบที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า เขาขบเม้มยอดอกผ่านเนื้อผ้าอย่างรุนแรง ส่งผลให้ความเสียวกระสันที่กำลังก่อตัวในร่างของแก้วกานดาพุ่งทะยานจนเกินควบคุม สะโพกเต่งตึงขยับโยกกระแทกขึ้นลงเป็นจังหวะรุนแรง“อ๊า...ฝ้ายไม่ไหวแล้วค่ะคุณรบ อ๊าย!” แก้วกานดาครวญครางเสียงสุดท้ายก่อนจะเกร็งกระตุกบดเบียดร่างของตนเองเข้าหาร่างแกร่
จะเอาอะไรมากมายแก้วกานดา เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แค่ผู้หญิงที่คอยสนองความต้องการ เดี๋ยวเขาคงเบื่อแล้วล่ะ น้ำตารื้นล้นขอบตา มือบางปาดมันออกอย่างไม่ใส่ใจ หญิงสาวจัดเก็บข้าวของไปเรื่อยๆ เสียงสะอื้นแว่วดังเป็นระยะ เธอได้แต่ภาวนาให้หัวใจเข้มแข็ง เมื่อถึงวันที่ต้องก้าวเดินออกจากห้องนี้ไป อย่างน้อยเธอก็มีโอกาสได้อยู่กับคนที่รัก ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ และถึงแม้เขาจะไม่ได้รักเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ตาม“พี่รบขา” เจนจิราลุกขึ้นเดินประกบนักรบทันที เมื่อเห็นเขาก้าวเข้ามาในร้านเวดดิงแพลนเนอร์ที่บริการจัดการงานแต่งงานครบวงจร ซึ่งเป็นร้านหรูอยู่ใจกลางเมืองกรุง มือเล็กเกาะเกี่ยวลำแขนแกร่งและเบียดกายชิดอย่างไม่เขินอาย นักรบถอนหายใจยาว นี่ถ้ามารดาเขาไม่ได้โทรมากำชับให้มาที่นี่ภายในวันนี้ หลังจากที่เขาเห็นหมายเลขโทรเข้าและไม่ได้รับสายเป็นหมายเลขของเจนจิรา เขาจะไม่มีวันมาเด็ดขาด“เรื่องงานแม่ไม่เคยก้าวก่ายรบ แต่เรื่องครอบครัวแม่ขอเป็นคนตัดสินใจนะรบ แม่กับผู้ใหญ่ทางหนูเจนนี่คุยกันแล้ว ลูกจะต้องแต่งงานเดือนหน้า ส่วนวันแม่จะบอกอีกที อย่าปฏิเสธแม่นะร
“เจนนี่” นักรบเผลอครางชื่อของเจนจิราออกมา ขณะที่สายตาเหลือบไปมองแก้วกานดาที่นั่งก้มหน้าทำงานโดยไม่พูดอะไร“เจนนี่มารอพี่รบตั้งนานแล้วค่ะ เมื่อคืนคงเหนื่อยมากสิคะ ต่อไปเจนนี่จะไม่กวนพี่รบแบบนี้อีกแล้ว” เจนจิราพูดกับนักรบ แต่สายตาตวัดมองแก้วกานดา เจนจิราไม่ไว้ใจเลยที่นักรบกับแก้วกานดามานั่งทำงานในห้องเดียวกันอย่างนี้ สงสัยเธอต้องมานั่งเฝ้าเขาจนกว่าจะถึงวันแต่งงานแล้วล่ะ“ไม่เป็นไรครับ เมื่อเช้าพี่มีเรื่องคุยกับคุณแม่นิดหน่อย เลยมาสาย” นักรบเดินไปนั่งที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงานของตัวเอง โดยเจนจิราเบียดสะโพกนั่งลงพนักเท้าแขน จนดูเหมือนจะเกยขึ้นไปนั่งบนตักของนักรบด้วยซ้ำ“อุ๊ย! คุยเรื่องแต่งงานของเราหรือเปล่าคะ” เจนจิราจงใจพูดเสียงดังให้คนที่นั่งทำงานอยู่ได้ยิน แก้วกานดาเหลือบตาขึ้นมองทั้งคู่แวบเดียว ซึ่งพอดีกับที่นักรบมองมา“ฝ้าย...อุ๊ย! พี่รบ เจนนี่” นลินยิ้มกว้าง“ลินจะมาชวนฝ้ายไปทานข้าวกลางวันค่ะ ไปเถอะฝ้าย” นลินดึงแขนเพื่อนสาวให้ลุกขึ้น แก้วกานดามองสบตานักรบอย่างเกรงใจ“เที่ยงแล้วฝ้าย ไม่มีงานค้าง ลินถามคุณดาแล้วเมื่อกี้ ไปเถอะ ไปก่อนนะคะ พี่รบ
“ก็ได้ๆ แต่ฝ้ายปล่อยลินก่อน ลินขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ” แก้วกานดาปล่อยมือจากการดึงรั้งแขนเพื่อน นลินมองสบตาเพื่อนสาวอย่างรู้ทัน“ฝ้ายกับวินรอในร้านนะลิน ไปเถอะวิน”นลินเดินไปแล้ว แต่นายแพทย์หนุ่มยังมองตามตาละห้อย แก้วกานดาจึงดึงแขนเพื่อนให้เข้าไปในร้านก่อน“เดี๋ยวลินก็มา เข้าไปรอในร้านก่อนเถอะวิน”อาการฉุดรั้งหยอกล้อกันเบาๆของชายหญิงหน้าร้านกาแฟทำให้นักรบและเจนจิราหยุดมองโดยอัตโนมัติ“อุ๊ย! ยายฝ้ายกับใครน่ะ...อ๋อ...คุณหมอวินลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดังนี่เอง แหมๆเห็นหงิมๆ หยิบชิ้นปลามันนะเนี่ย” เจนจิราจงใจพูดให้นักรบรู้ หากแต่ชายหนุ่มกลับตีหน้าขรึมและเดินต่ออย่างไม่ใส่ใจ เจนจิรายิ้มร้ายกาจมองตามนักรบอย่างสะใจ“ฝ้ายเป็นไงบ้าง โอเคแล้วใช่ไหม”นายแพทย์ชัยชนะกระซิบถามเบาๆ หลังจากที่ทั้งสองหาที่นั่งได้มุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวในร้านกาแฟ“ฝ้ายโอเค ขอบใจวินมากนะ”แก้วกานดายิ้มเล็กน้อย ใบหน้างามเศร้าหมองลง“ฝ้ายมาทำงานกับลินเหรอ”“อืม”“เฮ้อ! ยิ่งหนียิ่งเจอสินะ วินไม่รู้ว่าฝ้ายคิ
“พี่นวดให้ฝ้ายดีกว่า” แก้วกานดายิ้มอยู่กับอกกว้างอย่างรู้ทัน ร่างของคนตัวเล็กกว่าถูกพลิกให้นอนลงบนเตียงนุ่ม นักรบทาบทับตามติดมันที สองสายตาประสานกันนิ่ง แก้วกานดายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของสามีเบาๆ “พี่ชอบเวลาฝ้ายสัมผัสตัวพี่” สายตากรุ้มกริ่มของสามีทำให้เธอรู้ความหมายของเขา มือเล็กยันแผงออกกว้างให้เขาเป็นฝ่ายนอนหงายลง เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่และกางเกงนอนขายาวถูกถอดออกอย่างว่องไวโดยเจ้าของ แก้วกานดาขมวดคิ้วมุ่น หัวเราะกับท่าทางกระตือรือร้นของสามี “พี่ไม่อยากให้ฝ้ายเหนื่อย” นักรบยิ้มกว้างนอนรออย่างมีความหวัง ใบหน้านวลแดงซ่านเมื่อกวาดตามองเรือนกายกำยำของสามี ถึงจะอยู่กินกันมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่ชินกับการมองเห็นเขาในสภาพเปล่าเปลือยสักที มือเล็กลูบไล้ทั่วแผ่นอกกำยำ ขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าหล่อคมของสามี นักรบหลับตาพริ้ม พ่นลมออกจากปากเป็นการระบายอารมณ์ร้อนแรงภายใน ที่เริ่มจะเดือดปุดๆ เพราะเกรงว่าตัวเองจะทนไม่ไหว จะต้องเป็นฝ่ายรุกเสียก่อนที่ภรรยาสาวจะสำรวจร่างของตนจนถ้วนทั่ว “อา...เลื่อนลงไ
“เห็นไหมลิน...ลูกมีความสุขกับการมีเพื่อนเล่น เราต้องจริงจังกับการผลิตน้องให้น้องนีแล้วนะ” นลินเงยหน้าสบตาสามี มือเล็กบิดสีข้างของคนตัวใหญ่เบาๆ“โอ๊ย!”“ไม่ต้องเอาลูกมาอ้างเลยนะวิน เดี๋ยวเถอะ” นลินจิกสายตามองอย่างรู้ทัน หญิงสาวสะบัดหน้าหนีผละออกจากวงแขนแกร่ง รีบสาวเท้าเดินตามลูกน้อยไป นายแพทย์ชัยชนะมองตามร่างภรรยาด้วยสายตามุ่งมั่นหลังจากมื้อค่ำที่แสนสุขของครอบครัวใหญ่ นักรบ แก้วกานดา นายแพทย์ชัยชนะ นลินและเด็กๆมารวมตัวกันที่โต๊ะไม้สักตัวใหญ่บริเวณระเบียงหลังบ้าน ส่วนผู้สูงอายุเลี่ยงไปคุยกันอีกมุมหนึ่งของบ้าน เด็กๆส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันดังลั่น สลับกับเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะ“ลินทำไมไม่มีน้องให้น้องนีสักทีล่ะ ลูกคนเดียวเหงานะ”“เอ่อ...” นลินเพียงแค่อ้าปากกำลังจะตอบ สามีเธอก็แย่งหน้าที่ตอบคำถามให้ก่อน“กำลังพยายามอยู่ฝ้าย ลินไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไร ส่วนวินน่ะพร้อมทุกที่ทุกเวลา”คำพูดของนายแพทย์หนุ่มเรียกเสียงหัวเราะของทุกคน แต่คนที่ถูกพาดพิงกลับส่งสายตาเขียวปั้ดให้สามีตัวเอง“น้องนีครับ คืนนี้นอนกับคุณยายนะลูก” นา
“ฝ้ายติดลูกค้า ช่วงนี้ที่รีสอร์ตยุ่งๆ...สวัสดีครับปกป้องสุดหล่อ” เด็กชายปกป้องยิ้มแหยๆ ก้าวมายืนข้างหน้าบิดาแล้วยกมือไหว้ผู้มาเยือนอย่างนอบน้อม“สวัสดีครับพ่อรบ” นักรบยื่นมือใหญ่ไปยีศีรษะเล็กของเด็กชายเบาๆ เด็กหญิงคนเดียวท่ามกลางหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ก้าวมายืนเคียงข้างบิดา จ้องมองลูกชายของเพื่อนพ่ออย่างข่มเต็มที่“เข้าไปในบ้านกันเถอะน้องปองเพิ่งกินนมเสร็จพอดี” ประณตเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในบ้าน เด็กชายธงรบจับมือบิดาเดินเข้าไปบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวสิน้องป้อง” เด็กชายปกป้องหยุดการก้าวเดิน แล้วหันกลับไปมองคนที่เรียกตนเองด้วยสายตาไม่พอใจ“ป้องไม่ใช่น้องใคร ป้องเป็นพี่” คนถูกเรียกน้องแสดงความไม่พอใจออกมาทั้งหน้าตาและน้ำเสียง โดยไม่ปิดบัง เด็กหญิงแก้วกัลยายิ้มเยาะ“คุณพ่อบอกว่าป้องเกิดทีหลังนับหนึ่งตั้งสองวัน ป้องต้องเรียกนับหนึ่งว่า...พี่นับหนึ่ง” เด็กหญิงผมเปียยิ้มอย่างผู้ชนะ“คุณพ่อบอกว่านับหนึ่งเป็นคู่หมั้นของป้อง โตขึ้นนับหนึ่งต้องมาเป็นแฟนของป้อง นับหนึ่งนั่นแหละต้องเรียกป้องว่าคุณแฟน” เด็กชายตัวน้อยตอบโต้กลับ สบตาดวงตากลมโตอย่างเหนือกว่า“ไม่
“นับหนึ่งไม่ได้เล่นนะ นับหนึ่งกำลังช่วยคุณตาปลูกดอกกุหลาบแปลงใหม่อยู่” เสียงเจื้อยแจ้วบ่งบอกว่างอน ทำให้ผู้เป็นพ่อหัวเราะในลำคอ“ตัวเล็กแค่นี้ขยันจังเลย สงสัยพ่อต้องมีรางวัลให้ซะแล้ว” เด็กหญิงตาโตเมื่อได้ยินคำว่ารางวัล“รางวัลอะไรคะ” นักรบยิ้มส่ายศีรษะ“ยังไม่บอก จนกว่านับหนึ่งจะไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่สวยๆ” หรี่ตามองบิดาอย่างชั่งใจ“ก็ได้ค่ะ” ร่างเล็กดิ้นลงจากอกบิดา แล้ววิ่งเข้าบ้านไปทันที แก้วกานดาอุ้มลูกชายตัวเล็กอายุสามขวบเดินออกมาจากในบ้าน สวนทางกับเด็กหญิงแก้วกัลยาที่วิ่งปรู๊ดเข้าไปบ้านพอดี“โกหกอะไรนับหนึ่งอีกล่ะคะ ถึงได้ยิ้มหน้าบานขนาดนั้น” นักรบรับเด็กชายธงรบมาอุ้มไว้ แล้วโอบร่างภรรยาไว้หลวมๆ ริมฝีปากหยักได้รูปจุมพิตที่ขมับของคนร่างเล็กหนักๆ“ไม่ได้โกหกสักหน่อย พี่ว่าจะพานับหนึ่งไปเยี่ยมน้องปองที่ไร่ปรานี ฝ้ายไปด้วยกันนะ” ปิ่นหล้าภรรยาของประณตเจ้าของไร่องุ่นใกล้เคียงกันเพิ่งคลอดบุตรสาวคนเล็ก นักรบจึงอยากไปเยี่ยมตามประสาเพื่อนกัน“วันนี้มีกรุ๊ปทัวร์คุณหมอเพื่อนของวินมาค่ะ พี่รบจำไม่ได้เหรอ ถ้าฝ้ายไปด้วยใครจะดูแลลูกค้าล่ะคะ” หลังจาก
“จ้า...ฝ้ายก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ อาไปก่อนนะนับหนึ่ง” นลินก้มลงคุยกับหลานที่ยังอยู่ในท้องของแก้วกานดา“ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” นักรบหันไปฝากฝังน้องสาวกับว่าที่น้องเขย นายแพทย์ชัยชนะยิ้มพยักหน้ารับ“เป็นหน้าที่ของผมออยู่แล้วครับพี่รบ” นลินตวัดสายตามองคนพูดอย่างหมั่นไส้ ช่างสรรหาคำพูดมาทำคะแนนเหลือเกิน คนที่ถูกหมั่นไส้ตีคิ้วยิ้มด้วยแววตาเป็นประกาย จนนลินต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเอง“ขับรถดีๆนะวิน” แก้วกานดาโบกมือลาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม“เราต้องแต่งงานกันเดือนหน้านะลิน” หลังจากรถแล่นออกจากประตูรั้ว นายแพทย์ชัยชนะก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ลินรู้แล้ว วินจะย้ำอะไรนักหนา”“ก็ย้ำเพื่อให้ลินรู้ว่าห้ามบ่ายเบี่ยงอีกเด็ดขาด”นลินเบี่ยงตัวหันมามองหน้าคนขับรถ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น นายแพทย์ชัยชนะยิ้มกว้าง หันหน้ามาสบตาคนนั่งข้างแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ“คืนที่ผ่านมา มันเป็นช่วงที่ร่างกายของลินพร้อมตั้งครรภ์ที่สุด และวินก็ตั้งใจทำเต็มที่ ไม่แน่นะว่าลูกของวินอาจจะอยู่ในท้องของลินแล้วก็ได้”นลินอ้าปากค
“อื๊อ...พี่รบ” แก้วกานดาประท้วงเสียงพร่า“รู้ไหม...นอกจากพี่จะเป็นตาแก่ขี้หวงแล้ว พี่ยังเป็นตาแก่หื่นกามจอมอึดด้วยนะ” เสียงทุ้มกระซิบริมหูเล็ก แก้วกานดายิ้มหวานพลิกร่างนอนหงาย“จะอึดแค่ไหนกันเชียว...ขี้โม้” คนตัวเล็กไม่ยอมลดราวาศอก บังอาจท้าทายคนตัวโต“พี่ถือว่าเป็นสาส์นท้ารบ นักรบอย่างพี่ไม่มีวันถอยทัพแน่ ถ้าศัตรูไม่พ่ายทัพแตกหนีไปเสียก่อน และถึงจะพ่ายทัพแตกกระเจิง พี่สาบานว่าจะรุกไม่ให้ได้หายใจหายคอกันทีเดียว หึๆ” คำพูดของสามีทำให้แก้วกานดาใจสั่น รู้แน่ว่าเขาคิดเป็นจริงเป็นจัง หญิงสาวจึงหวีดร้องเบาๆ เมื่อร่างเล็กของตัวเองถูกจับลอกคราบอย่างรวดเร็ว“พี่รบขา ใช้แผนการรบแบบละมุนละม่อมนะ ห้ามใช้แผนการรบขั้นรุนแรง ลูกอยู่ในนี้นะคะ” แก้วกานดาเตือนสติสามี“ครับผม” รับคำเรียบร้อย นักรบก็ไม่ปล่อยให้ภรรยาได้ทันตั้งตัว เขาจู่โจมรุกหนักด้วยการมอบจุมพิตที่เร่าร้อน มือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างนุ่มนิ่มอวบอิ่ม หยุดทักทายบีบเคล้นอกอวบสลับกับการคีบเม็ดสีหวานเบาๆ ริมฝีปากร้อนเคลื่อนที่ช้าๆดื่มด่ำกับผิวเนียนหอมกรุ่นทั่วร่างอย่างหลงใหล“เมียพี่หวานที่สุด น่ากินไปทั้ง
“อื้มมมม...รักลินที่สุด” เสียงครางทุ้มต่ำบ่งบอกว่า เขาได้ล่องลอยอยู่ในเวิ้งฟ้าเดียวกันกับคนรัก คำบอกรักกระซิบด้วยเสียงพร่าแว่วหวานนัก ร่างใหญ่พลิกกายนอนหงาย โดยกอดคนร่างเล็กให้นอนแนบกายทาบทับอยู่บนร่างของตน สองร่างยังคงประสานกันอยู่กลางกาย นลินซบหน้าบนแผ่นอกคนคนรัก ลมหายใจของเธอยังหอบถี่กระชั้น “พักยกก่อนเนอะ” เสียงทุ้มกระซิบกระซาบ แล้วจูบซับเรือนผมหอมกรุ่น “บ้า” ถึงจะยังเหนื่อยกับเกมรักที่เพิ่งผ่านไป แต่นลินก็ยังพอที่อ้าปากต่อว่าคนหื่นได้ มือใหญ่กดลงบนสะโพกเต่งตึงแรงๆ พร้อมกับยกสะโพกของตนสวนรับค้างไว้ ความซาบซ่านละมุนที่ยังวนเวียนอยู่ในร่างสาวทำให้นลินเสียววูบขึ้นมาทันที “อ๊ะ! วิน...อย่าแกล้งกันสิ” คนแกล้งหัวเราะชอบใจ “ก็ลินน่ารัก อยากแกล้งแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนเลย” “จะบ้าเหรอ...งานการไม่มีทำหรือไง” “มี...แต่ชอบทำลินมากกว่า” “อุ๊ย! วิน” มือหนาจับบ่าเล็กดันขึ้นให้ร่างของนลินนั่งคร่อมอยู่บนร่างตนเอง หญิงสาวหน้าแด
นายแพทย์ชัยชนะหัวเราะในลำคอ “เพราะรักหรอกน่า...เดือนหน้าเราจะต้องแต่งงานกันนะ วินไม่ อยากนอนคนเดียว อยากตื่นมาตอนเช้าแล้วเห็นลินเป็นคนแรก” มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังนุ่ม“ปากหวานก็เป็นด้วย” นลินพูดเสียงอู้อี้อยู่ชิดแผงอกกว้าง“วินรักลินนะ” นลินผงกศีรษะขึ้นสบตาแวววาวของชายหนุ่ม สองสายตาประสานกันอยู่เนิ่นนาน นายแพทย์ชัยชนะค่อยๆพลิกร่างตัวเองขึ้นคร่อมร่างของหญิงสาวให้อยู่ใต้ร่างของตนเอง นลินพ่นลมหายใจออกเบาๆ หลับตาลงช้าๆเมื่อใบหน้าหล่อเหลาของคนบนร่างโน้มลงมาใกล้ ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มของเธอถูกครอบครองแผ่วเบา หญิงสาวเผยอปากรับอย่างเต็มใจ ชายหนุ่มเริ่มรุกเร่าร้อน ลิ้นสากของเขาไล่ต้อนตวัดรัดรึงลิ้นเล็กของเธอด้วยความโหยหา นลินจูบตอบด้วยประสบการณ์ที่น้อยนัก แต่กลับทำให้ชายหนุ่มครางกระหึ่มในลำคอด้วยความพึงพอใจ“วินรักลินที่สุด” เสียงทุ้มดังอยู่ชิดริมหูเล็ก นายแพทย์ชัยชนะละจากริมฝีปากของนลิน ใช้จมูกโด่งซอกซอนดอมดมไปตามใบหน้าเนียนและลำคอหอมกรุ่น ชุดนอนของหญิงสาวดูจะเกะกะสายตาเขาเป็นที่สุด มือใหญ่จึงลงมือแกะและถอดปราการบนร่างบางทุกชิ้นออกอย่างรวดเร็ว นลินนอนหอบหายใจแรงอย่างเขิน
“รีบๆแต่งกันไปเถอะหนูลิน หมั้นกันนานๆผู้คนจะมองไม่ดี มีคนมาดูแลหนูลิน คุณนัยนาจะได้สบายใจ” กานต์แก้วพยายามเกลี้ยกล่อมนลินช่วยอีกคน เพราะหน้าตาของหญิงสาวบ่งบอกว่างอนมารดาอย่างเห็นได้ชัด“หรือหมอวินทำอะไรให้ลินไม่พอใจหรือเปล่า” นักรบลุกขึ้นยืนขึงขัง เงื้อกำปั้นขึ้นเล็งไปที่นายแพทย์หนุ่มที่นั่งอยู่ข้างน้องสาว นลินรีบยกมือห้ามทันควัน“ไม่ๆค่ะ พี่รบจะทำอะไรเนี่ย วินเขาไม่ได้ทำอะไรลินสักหน่อย” ประโยคสุดท้ายของนลินฟังแล้วไม่ค่อยมั่นใจนัก เสียงหัวเราะของคนรอบข้างทำให้นลินกวาดสายตาดูทุกคนอายๆ ที่เผลอออกโรงปกป้องชายหนุ่ม“นั่นไง...เป็นห่วงหมอวินล่ะสิ...สรุปแต่งกันเดือนหน้าเลยนะ ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” คนเป็นพี่พูดจบก็นั่งลง สบตากับว่าที่น้องเขยยิ้มๆ นลินมองหน้าว่าที่เจ้าบ่าวของตนอย่างหมั่นไส้ ก็เขาเล่นยิ้มแก้มแทบจะปริอยู่แล้วนะเช้าวันต่อมาผู้สูงอายุทั้งสามออกจากบ้านแต่เช้า นักรบและแก้วกานดาช่วยกันทำงาน แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทางสามีเป็นผู้ทำทั้งหมดเสียมากกว่า ด้วยเกรงว่าภรรยาจะเหนื่อย ไม่ได้พักผ่อน นลินและนายแพทย์ชัยชนะนั่งพักผ่อนอยู่บริเวณซุ้มไม้นอกร