“อ๊า...คุณรบ” แก้วกานดาก้มหน้าลงสบตาคมวาวที่จ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว
“ดีไหมฝ้าย กดลงมาสิ ฝ้ายจะรู้สึกดีกว่านี้” แก้วกานดาค่อยๆขยับสะโพก ร่องดอกไม้อุ่นลื่นของเธอค่อยๆกลืนกินลำกายแข็งแกร่ง ความคับแน่นที่ค่อยๆโอบล้อมตัวตนอยู่ ทำให้นักรบขบกรามแน่น เมื่อแก้วกานดากดสะโพกจนครอบครองเขาทั้งหมด นักรบรั้งศีรษะทุยลงมาเพื่อดูดดื่มริมฝีปากแสนหวานอีกครั้ง
มือใหญ่ที่จับสะโพกมนอยู่บังคับให้แก้วกานดาต้องขยับตาม สะโพกแกร่งเสยรับในจังหวะที่เขากดมือที่สะโพกเต่งตึง แก้วกานดาเรียนรู้จังหวะและเริ่มขยับเอง โดยที่นักรบเคลื่อนมือไปกอบกุมเนื้อหนั่นแน่นของสะโพก แล้วบีบขยำอย่างเร่งเร้า ชายหนุ่มปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ แก้วกานดาแหงนเงยหน้าทันที ปากเล็กครวญครางกระเส่า
นักรบซบหน้าลงตรงอกอวบที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า เขาขบเม้มยอดอกผ่านเนื้อผ้าอย่างรุนแรง ส่งผลให้ความเสียวกระสันที่กำลังก่อตัวในร่างของแก้วกานดาพุ่งทะยานจนเกินควบคุม สะโพกเต่งตึงขยับโยกกระแทกขึ้นลงเป็นจังหวะรุนแรง
“อ๊า...ฝ้ายไม่ไหวแล้วค่ะคุณรบ อ๊าย!” แก้วกานดาครวญครางเสียงสุดท้ายก่อนจะเกร็งกระตุกบดเบียดร่างของตนเองเข้าหาร่างแกร่
จะเอาอะไรมากมายแก้วกานดา เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แค่ผู้หญิงที่คอยสนองความต้องการ เดี๋ยวเขาคงเบื่อแล้วล่ะ น้ำตารื้นล้นขอบตา มือบางปาดมันออกอย่างไม่ใส่ใจ หญิงสาวจัดเก็บข้าวของไปเรื่อยๆ เสียงสะอื้นแว่วดังเป็นระยะ เธอได้แต่ภาวนาให้หัวใจเข้มแข็ง เมื่อถึงวันที่ต้องก้าวเดินออกจากห้องนี้ไป อย่างน้อยเธอก็มีโอกาสได้อยู่กับคนที่รัก ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ และถึงแม้เขาจะไม่ได้รักเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ตาม“พี่รบขา” เจนจิราลุกขึ้นเดินประกบนักรบทันที เมื่อเห็นเขาก้าวเข้ามาในร้านเวดดิงแพลนเนอร์ที่บริการจัดการงานแต่งงานครบวงจร ซึ่งเป็นร้านหรูอยู่ใจกลางเมืองกรุง มือเล็กเกาะเกี่ยวลำแขนแกร่งและเบียดกายชิดอย่างไม่เขินอาย นักรบถอนหายใจยาว นี่ถ้ามารดาเขาไม่ได้โทรมากำชับให้มาที่นี่ภายในวันนี้ หลังจากที่เขาเห็นหมายเลขโทรเข้าและไม่ได้รับสายเป็นหมายเลขของเจนจิรา เขาจะไม่มีวันมาเด็ดขาด“เรื่องงานแม่ไม่เคยก้าวก่ายรบ แต่เรื่องครอบครัวแม่ขอเป็นคนตัดสินใจนะรบ แม่กับผู้ใหญ่ทางหนูเจนนี่คุยกันแล้ว ลูกจะต้องแต่งงานเดือนหน้า ส่วนวันแม่จะบอกอีกที อย่าปฏิเสธแม่นะร
“เจนนี่” นักรบเผลอครางชื่อของเจนจิราออกมา ขณะที่สายตาเหลือบไปมองแก้วกานดาที่นั่งก้มหน้าทำงานโดยไม่พูดอะไร“เจนนี่มารอพี่รบตั้งนานแล้วค่ะ เมื่อคืนคงเหนื่อยมากสิคะ ต่อไปเจนนี่จะไม่กวนพี่รบแบบนี้อีกแล้ว” เจนจิราพูดกับนักรบ แต่สายตาตวัดมองแก้วกานดา เจนจิราไม่ไว้ใจเลยที่นักรบกับแก้วกานดามานั่งทำงานในห้องเดียวกันอย่างนี้ สงสัยเธอต้องมานั่งเฝ้าเขาจนกว่าจะถึงวันแต่งงานแล้วล่ะ“ไม่เป็นไรครับ เมื่อเช้าพี่มีเรื่องคุยกับคุณแม่นิดหน่อย เลยมาสาย” นักรบเดินไปนั่งที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงานของตัวเอง โดยเจนจิราเบียดสะโพกนั่งลงพนักเท้าแขน จนดูเหมือนจะเกยขึ้นไปนั่งบนตักของนักรบด้วยซ้ำ“อุ๊ย! คุยเรื่องแต่งงานของเราหรือเปล่าคะ” เจนจิราจงใจพูดเสียงดังให้คนที่นั่งทำงานอยู่ได้ยิน แก้วกานดาเหลือบตาขึ้นมองทั้งคู่แวบเดียว ซึ่งพอดีกับที่นักรบมองมา“ฝ้าย...อุ๊ย! พี่รบ เจนนี่” นลินยิ้มกว้าง“ลินจะมาชวนฝ้ายไปทานข้าวกลางวันค่ะ ไปเถอะฝ้าย” นลินดึงแขนเพื่อนสาวให้ลุกขึ้น แก้วกานดามองสบตานักรบอย่างเกรงใจ“เที่ยงแล้วฝ้าย ไม่มีงานค้าง ลินถามคุณดาแล้วเมื่อกี้ ไปเถอะ ไปก่อนนะคะ พี่รบ
“ก็ได้ๆ แต่ฝ้ายปล่อยลินก่อน ลินขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ” แก้วกานดาปล่อยมือจากการดึงรั้งแขนเพื่อน นลินมองสบตาเพื่อนสาวอย่างรู้ทัน“ฝ้ายกับวินรอในร้านนะลิน ไปเถอะวิน”นลินเดินไปแล้ว แต่นายแพทย์หนุ่มยังมองตามตาละห้อย แก้วกานดาจึงดึงแขนเพื่อนให้เข้าไปในร้านก่อน“เดี๋ยวลินก็มา เข้าไปรอในร้านก่อนเถอะวิน”อาการฉุดรั้งหยอกล้อกันเบาๆของชายหญิงหน้าร้านกาแฟทำให้นักรบและเจนจิราหยุดมองโดยอัตโนมัติ“อุ๊ย! ยายฝ้ายกับใครน่ะ...อ๋อ...คุณหมอวินลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดังนี่เอง แหมๆเห็นหงิมๆ หยิบชิ้นปลามันนะเนี่ย” เจนจิราจงใจพูดให้นักรบรู้ หากแต่ชายหนุ่มกลับตีหน้าขรึมและเดินต่ออย่างไม่ใส่ใจ เจนจิรายิ้มร้ายกาจมองตามนักรบอย่างสะใจ“ฝ้ายเป็นไงบ้าง โอเคแล้วใช่ไหม”นายแพทย์ชัยชนะกระซิบถามเบาๆ หลังจากที่ทั้งสองหาที่นั่งได้มุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวในร้านกาแฟ“ฝ้ายโอเค ขอบใจวินมากนะ”แก้วกานดายิ้มเล็กน้อย ใบหน้างามเศร้าหมองลง“ฝ้ายมาทำงานกับลินเหรอ”“อืม”“เฮ้อ! ยิ่งหนียิ่งเจอสินะ วินไม่รู้ว่าฝ้ายคิ
“ปล่อยฝ้ายตอนนี้เลยก็ได้นะคุณรบ ปล่อยฝ้ายแล้วไปหาคู่หมั้นคุณสิ คุณรบจะแต่งงานเดือนหน้าแล้วนี่ จะมายุ่งอะไรกับคนเละเทะอย่างฝ้าย ปล่อยสิ ปล่อยฝ้าย” แก้วกานดาตะคอกใส่หน้าเขาอย่างเหลืออด เธอเป็นอะไรอยู่ในตำแหน่งไหนไม่รู้ด้วยซ้ำ ในเมื่อเขากำลังจะมีความสุข ทำไมต้องมาดึงรั้งกักขังเธอไว้อย่างนี้“คุณไม่มีสิทธิ์มาตะคอกใส่หน้าผมอย่างนี้ ผมจะแต่งงานกับใคร เมื่อไรมันก็เรื่องของผม ส่วนคุณก็ยังคงมีหน้าที่ตอบสนองผมทุกอย่างตามที่ผมต้องการ ถอดชุดนี้ออกซะ ผมไม่ชอบ” นักรบปล่อยร่างบางออกจากอ้อมแขน แก้วกานดายืนกำมือแน่นสบตาเขาด้วยแววตาน้อยใจยิ่งนัก“บอกให้ถอดชุดนี้ออก ผมบอกฝ้ายแล้วใช่ไหมว่าไม่ชอบให้ฝ้ายขัดใจ” แก้วกานดายังยืนนิ่ง นักรบถอนหายใจแรงเขาจัดการแกะโน่นดึงนี่ แล้วดึงรั้งชุดเดรสออกจากร่างของคนตรงหน้าด้วยท่าทางรำคาญยิ่งนักที่เธอไม่ทำตามที่สั่ง“คุณรบ...อย่าทำอย่างนี้” แก้วกานดาพยายามร้องขอความเห็นใจ แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงของอีกฝ่ายได้ ร่างขาวโพลนสมส่วนยืนอยู่ตรงหน้าเขา มีเพียงซับในตัวบางลายลูกไม้ปิดบังส่วนสำคัญไว้เท่านั้น เพราะชุดเดรสที่เธอสวมเป็นแบบมีโครงเสื้อชั้นในอยู่ในตัว เ
“มันไม่จบง่ายๆหรอกฝ้าย” ร่างใหญ่เคลื่อนตัวลุกขึ้นนั่ง รั้งขาเรียวขึ้นพาดบ่าตนเองทั้งสองข้าง กลีบดอกไม่สีหวานเบ่งบานอยู่ตรงหน้า นิ้วเรียวใหญ่กรีดลงตรงกลางร่องดอกไม้ซ้ำๆอยู่หลายครั้ง จนแก้วกานดาครางไม่เป็นศัพท์ ร่างบางบิดส่าย ใบหน้างามเหยเก นักรบมองแก้วกานดาอย่างสะใจ ปากร้อนร้ายกาจฉกวูบลงดูดดึงกลีบดอกไม้งามอย่างรุนแรงอีกครั้ง ความเจ็บแปลบระคนเสียวซ่าน ทำให้คนถูกรังแกแทบขาดใจ“อื๊อ...คุณรบ” นักรบเร่งเร้า ด้วยการจุ่มลิ้นแทงลงร่องรักสลับกับการปาดเลียติ่งไตกดเน้นรุนแรง แก้วกานดาจิกมือลงบนผ้าปูที่นอนเพื่อระบายอารมณ์เสียวซ่าน มือใหญ่เลื่อนมาบีบเคล้นเต้าอวบหยุ่นอย่างรุนแรง จนเกิดร่องรอยแดงปื้นบนอกอวบขาวทั้งสอง“อ๊ะ...คุณรบ ฝ้ายไม่ไหวแล้วค่ะ ทรมานเหลือเกิน อ๊ะๆ...อ๊าย!” แก้วกานดากระตุกร่างเกร็งค้างและสะท้านอยู่อีกหลายครั้ง นักรบจึงวางท่อนขาเรียวลง ขณะที่ตัวเองยังนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างกลางกายสาว ลมหายใจหอบรุนแรงของหญิงสาวทำให้นักรบยิ้มอย่างผู้ชนะ ชายหนุ่มจับหัวเข่าเล็กพับงอแล้วกดต้นขาขาวแนบไปกับอกอวบ ขาเรียวแยกออกเหนือร่างงดงาม กลีบอวบสีหวานทำให้เขาต้องเลียลิ้นอย่างกระหาย ชายหนุ่
“อาบน้ำกันเถอะ” นักรบก้าวลงจากเตียงแล้วกอดเกี่ยวอุ้มร่างของคนไร้เรี่ยวแรง พาเข้าห้องน้ำโดยไม่สนอาการดิ้นรนของคนโดนอุ้ม ร่างของแก้วกานดาถูกวางลงใต้เรนชาวเวอร์ขนาดใหญ่ นักรบเปิดน้ำอุ่นรินรดสองร่างพร้อมกัน มือใหญ่เทครีมอาบน้ำเต็มมือ ละเลงถูตามร่างเล็กทั่วตัวทุกซอกทุกมุม แก้วกานดาจิกมือลงบนท่อนแขนแกร่ง ขาเรียวสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่“อาบน้ำให้ผมหน่อยฝ้าย” แก้วกานดาเทครีมอาบน้ำลงบนมือขาวซีดของตน มือเล็กลูบไล้ไปตามแผ่นหลังแกร่งกำยำ“ข้างหน้าด้วยฝ้าย” แก้วกานดาเลื่อนมือสอดใต้แขนแกร่งไปด้านหน้า ลูบไปตามแผงอกกว้างเรื่อยลงมาถึงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม นักรบหลับตาอย่างรอคอย หากแต่แก้วกานดายังคงใช้มือไล้วนอยู่แค่หน้าท้อง มือใหญ่จึงจับดึงมือเล็กพาลงไปสัมผัสความแข็งแกร่ง“อืม ถูแรงๆ ขยับเร็วๆเลยฝ้าย” ข้อมือเล็กที่ถูกดึงแรงให้ไปสัมผัสความใหญ่โตของเขา ทำให้หน้าอกอวบอิ่มแนบชิดเสียดสีไปกับแผ่นหลังของชายหนุ่ม นักรบทาบจับมือเล็กสองข้างที่กอบกุมความแข็งขึงของตนไว้ แล้วนำพาให้ขยับสร้างความสุขกระสัน แก้วกานดาขยับตามจนรู้งาน นักรบจึงปล่อยมือแล้วป่ายมาด้านหลังเพื่อบีบคลึงกดสะโพกงอนให
“พี่รบ...เจนนี่เองนะคะ” เจนจิราใช้โทรศัพท์มือถือของเพื่อนโทรหานักรบ เพราะปกติเวลาเธอใช้โทรศัพท์ตัวเองโทรหาชายหนุ่มจะไม่ค่อยรับสาย“มีอะไรหรือเปล่าเจนนี่ นี่มันดึกมากแล้วนะ” นักรบตอบเสียงเข้มไม่พอใจเล็กน้อย“พี่รบขา...เอ่อ...รถเจนนี่สตาร์ตไม่ติด ตอนนี้เพื่อนๆกลับกันหมดแล้ว ร้านก็ปิดแล้วค่ะพี่รบ นี่เจนนี่ยืมโทรศัพท์พนักงานที่ร้านโทรอยู่นะคะ เขากำลังจะกลับกันแล้ว เอ่อ...แบตโทรศัพท์เจนนี่ก็หมดค่ะ พี่รบมารับเจนนี่หน่อยสิคะ” นักรบถอนหายใจยาว“นั่งแท็กซี่กลับสิครับ”“ไม่เอาค่ะ เจนนี่กลัว”“ทำไมเจนนี่ไม่โทรให้ที่บ้านมารับ”“เอ่อ...เจนนี่จำเบอร์ใครไม่ได้เลยค่ะ มีเบอร์พี่รบคนสำคัญของเจนนี่คนเดียวเท่านั้น ที่เจนนี่จำได้ นะคะพี่รบ รีบมานะคะ เจนนี่กลัวค่ะ เจนนี่จะรออยู่ร้านนะคะ อยู่ใกล้ๆคอนโดพี่รบนี่แหละ” เจนจิราตัดสายไปแล้วหลังจากที่บอกชื่อร้านเสร็จ นักรบกำโทรศัพท์แน่น ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขามีแววตาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เพราะอีกใจก็อยากเปิดประตูไปดึงคนที่อยู่ในห้องน้ำออกมาสักที แต่อีกใจก็เป็นห่วงเจนจิราที่อยู่คนเดียว เป็นห่วงอย่างที่พี่ชายห่วงน้องสาวคนหนึ่งเ
แก้วกานดาในชุดนอนกางเกงขายาวนอนกอดตัวเองใต้ผ้าห่มหนา ร่างบางที่ปรากฏร่องรอยแดงเป็นจ้ำไปทั้งตัวนอนหนาวสั่น อุณหภูมิในร่างกายสูงกว่าปกติมาก ริมฝีปากบางแห้งผากแดงเรื่อ หญิงสาวไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตาขึ้น ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวไปทุกส่วนเมื่อคืนเธอนั่งอยู่ใต้สายน้ำนานเกือบสองชั่วโมง อีกทั้งต้องบอบช้ำจากการโดนรังแกอย่างหนัก ทำให้ร่างกายเกินขีดจำกัดที่จะทนได้ ตอนนี้แก้วกานดาอ่อนแอทั้งจิตใจและร่างกาย น้ำตาไหลอาบสองแก้ม ทั้งๆที่เธอยังนอนหลับตาอยู่ เธอจะทนอยู่ในสภาพนี้ได้อีกนานแค่ไหน หนึ่งเดือนหรือ ...เธอจะทนไหวหรือเปล่าแก้วกานดา ชีวิตที่ผ่านมามันยังเลวร้ายและเจ็บปวดไม่พอใช่ไหม เธอถึงต้องทนให้เขารังแกอยู่ได้ ร่างบางสะอื้นรุนแรง น้ำตาไหลเปื้อนหมอนจนเปียกปอนจะทนต่อไปเพื่ออะไร เธอมีอะไรที่ต้องสูญเสียไปมากกว่านี้หรือแก้วกานดา ภาพรอยยิ้มของมารดาและบิดาลอยเด่นในห้วงความคิด คนสองคนที่เฝ้าห่วงใยดูแลเธอตลอดมา ไม่เคยทำร้ายให้เจ็บช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร เธอถึงปล่อยให้เขาทำร้ายได้ขนาดนี้ จะทนต่อไปเพื่ออะไร เขาจะทำอะไรจะประจานเธอก็ช่างปะไร ในชีวิตนี้
“พี่นวดให้ฝ้ายดีกว่า” แก้วกานดายิ้มอยู่กับอกกว้างอย่างรู้ทัน ร่างของคนตัวเล็กกว่าถูกพลิกให้นอนลงบนเตียงนุ่ม นักรบทาบทับตามติดมันที สองสายตาประสานกันนิ่ง แก้วกานดายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของสามีเบาๆ “พี่ชอบเวลาฝ้ายสัมผัสตัวพี่” สายตากรุ้มกริ่มของสามีทำให้เธอรู้ความหมายของเขา มือเล็กยันแผงออกกว้างให้เขาเป็นฝ่ายนอนหงายลง เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่และกางเกงนอนขายาวถูกถอดออกอย่างว่องไวโดยเจ้าของ แก้วกานดาขมวดคิ้วมุ่น หัวเราะกับท่าทางกระตือรือร้นของสามี “พี่ไม่อยากให้ฝ้ายเหนื่อย” นักรบยิ้มกว้างนอนรออย่างมีความหวัง ใบหน้านวลแดงซ่านเมื่อกวาดตามองเรือนกายกำยำของสามี ถึงจะอยู่กินกันมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่ชินกับการมองเห็นเขาในสภาพเปล่าเปลือยสักที มือเล็กลูบไล้ทั่วแผ่นอกกำยำ ขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าหล่อคมของสามี นักรบหลับตาพริ้ม พ่นลมออกจากปากเป็นการระบายอารมณ์ร้อนแรงภายใน ที่เริ่มจะเดือดปุดๆ เพราะเกรงว่าตัวเองจะทนไม่ไหว จะต้องเป็นฝ่ายรุกเสียก่อนที่ภรรยาสาวจะสำรวจร่างของตนจนถ้วนทั่ว “อา...เลื่อนลงไ
“เห็นไหมลิน...ลูกมีความสุขกับการมีเพื่อนเล่น เราต้องจริงจังกับการผลิตน้องให้น้องนีแล้วนะ” นลินเงยหน้าสบตาสามี มือเล็กบิดสีข้างของคนตัวใหญ่เบาๆ“โอ๊ย!”“ไม่ต้องเอาลูกมาอ้างเลยนะวิน เดี๋ยวเถอะ” นลินจิกสายตามองอย่างรู้ทัน หญิงสาวสะบัดหน้าหนีผละออกจากวงแขนแกร่ง รีบสาวเท้าเดินตามลูกน้อยไป นายแพทย์ชัยชนะมองตามร่างภรรยาด้วยสายตามุ่งมั่นหลังจากมื้อค่ำที่แสนสุขของครอบครัวใหญ่ นักรบ แก้วกานดา นายแพทย์ชัยชนะ นลินและเด็กๆมารวมตัวกันที่โต๊ะไม้สักตัวใหญ่บริเวณระเบียงหลังบ้าน ส่วนผู้สูงอายุเลี่ยงไปคุยกันอีกมุมหนึ่งของบ้าน เด็กๆส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันดังลั่น สลับกับเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะ“ลินทำไมไม่มีน้องให้น้องนีสักทีล่ะ ลูกคนเดียวเหงานะ”“เอ่อ...” นลินเพียงแค่อ้าปากกำลังจะตอบ สามีเธอก็แย่งหน้าที่ตอบคำถามให้ก่อน“กำลังพยายามอยู่ฝ้าย ลินไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไร ส่วนวินน่ะพร้อมทุกที่ทุกเวลา”คำพูดของนายแพทย์หนุ่มเรียกเสียงหัวเราะของทุกคน แต่คนที่ถูกพาดพิงกลับส่งสายตาเขียวปั้ดให้สามีตัวเอง“น้องนีครับ คืนนี้นอนกับคุณยายนะลูก” นา
“ฝ้ายติดลูกค้า ช่วงนี้ที่รีสอร์ตยุ่งๆ...สวัสดีครับปกป้องสุดหล่อ” เด็กชายปกป้องยิ้มแหยๆ ก้าวมายืนข้างหน้าบิดาแล้วยกมือไหว้ผู้มาเยือนอย่างนอบน้อม“สวัสดีครับพ่อรบ” นักรบยื่นมือใหญ่ไปยีศีรษะเล็กของเด็กชายเบาๆ เด็กหญิงคนเดียวท่ามกลางหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ก้าวมายืนเคียงข้างบิดา จ้องมองลูกชายของเพื่อนพ่ออย่างข่มเต็มที่“เข้าไปในบ้านกันเถอะน้องปองเพิ่งกินนมเสร็จพอดี” ประณตเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในบ้าน เด็กชายธงรบจับมือบิดาเดินเข้าไปบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวสิน้องป้อง” เด็กชายปกป้องหยุดการก้าวเดิน แล้วหันกลับไปมองคนที่เรียกตนเองด้วยสายตาไม่พอใจ“ป้องไม่ใช่น้องใคร ป้องเป็นพี่” คนถูกเรียกน้องแสดงความไม่พอใจออกมาทั้งหน้าตาและน้ำเสียง โดยไม่ปิดบัง เด็กหญิงแก้วกัลยายิ้มเยาะ“คุณพ่อบอกว่าป้องเกิดทีหลังนับหนึ่งตั้งสองวัน ป้องต้องเรียกนับหนึ่งว่า...พี่นับหนึ่ง” เด็กหญิงผมเปียยิ้มอย่างผู้ชนะ“คุณพ่อบอกว่านับหนึ่งเป็นคู่หมั้นของป้อง โตขึ้นนับหนึ่งต้องมาเป็นแฟนของป้อง นับหนึ่งนั่นแหละต้องเรียกป้องว่าคุณแฟน” เด็กชายตัวน้อยตอบโต้กลับ สบตาดวงตากลมโตอย่างเหนือกว่า“ไม่
“นับหนึ่งไม่ได้เล่นนะ นับหนึ่งกำลังช่วยคุณตาปลูกดอกกุหลาบแปลงใหม่อยู่” เสียงเจื้อยแจ้วบ่งบอกว่างอน ทำให้ผู้เป็นพ่อหัวเราะในลำคอ“ตัวเล็กแค่นี้ขยันจังเลย สงสัยพ่อต้องมีรางวัลให้ซะแล้ว” เด็กหญิงตาโตเมื่อได้ยินคำว่ารางวัล“รางวัลอะไรคะ” นักรบยิ้มส่ายศีรษะ“ยังไม่บอก จนกว่านับหนึ่งจะไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่สวยๆ” หรี่ตามองบิดาอย่างชั่งใจ“ก็ได้ค่ะ” ร่างเล็กดิ้นลงจากอกบิดา แล้ววิ่งเข้าบ้านไปทันที แก้วกานดาอุ้มลูกชายตัวเล็กอายุสามขวบเดินออกมาจากในบ้าน สวนทางกับเด็กหญิงแก้วกัลยาที่วิ่งปรู๊ดเข้าไปบ้านพอดี“โกหกอะไรนับหนึ่งอีกล่ะคะ ถึงได้ยิ้มหน้าบานขนาดนั้น” นักรบรับเด็กชายธงรบมาอุ้มไว้ แล้วโอบร่างภรรยาไว้หลวมๆ ริมฝีปากหยักได้รูปจุมพิตที่ขมับของคนร่างเล็กหนักๆ“ไม่ได้โกหกสักหน่อย พี่ว่าจะพานับหนึ่งไปเยี่ยมน้องปองที่ไร่ปรานี ฝ้ายไปด้วยกันนะ” ปิ่นหล้าภรรยาของประณตเจ้าของไร่องุ่นใกล้เคียงกันเพิ่งคลอดบุตรสาวคนเล็ก นักรบจึงอยากไปเยี่ยมตามประสาเพื่อนกัน“วันนี้มีกรุ๊ปทัวร์คุณหมอเพื่อนของวินมาค่ะ พี่รบจำไม่ได้เหรอ ถ้าฝ้ายไปด้วยใครจะดูแลลูกค้าล่ะคะ” หลังจาก
“จ้า...ฝ้ายก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ อาไปก่อนนะนับหนึ่ง” นลินก้มลงคุยกับหลานที่ยังอยู่ในท้องของแก้วกานดา“ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” นักรบหันไปฝากฝังน้องสาวกับว่าที่น้องเขย นายแพทย์ชัยชนะยิ้มพยักหน้ารับ“เป็นหน้าที่ของผมออยู่แล้วครับพี่รบ” นลินตวัดสายตามองคนพูดอย่างหมั่นไส้ ช่างสรรหาคำพูดมาทำคะแนนเหลือเกิน คนที่ถูกหมั่นไส้ตีคิ้วยิ้มด้วยแววตาเป็นประกาย จนนลินต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเอง“ขับรถดีๆนะวิน” แก้วกานดาโบกมือลาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม“เราต้องแต่งงานกันเดือนหน้านะลิน” หลังจากรถแล่นออกจากประตูรั้ว นายแพทย์ชัยชนะก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ลินรู้แล้ว วินจะย้ำอะไรนักหนา”“ก็ย้ำเพื่อให้ลินรู้ว่าห้ามบ่ายเบี่ยงอีกเด็ดขาด”นลินเบี่ยงตัวหันมามองหน้าคนขับรถ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น นายแพทย์ชัยชนะยิ้มกว้าง หันหน้ามาสบตาคนนั่งข้างแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ“คืนที่ผ่านมา มันเป็นช่วงที่ร่างกายของลินพร้อมตั้งครรภ์ที่สุด และวินก็ตั้งใจทำเต็มที่ ไม่แน่นะว่าลูกของวินอาจจะอยู่ในท้องของลินแล้วก็ได้”นลินอ้าปากค
“อื๊อ...พี่รบ” แก้วกานดาประท้วงเสียงพร่า“รู้ไหม...นอกจากพี่จะเป็นตาแก่ขี้หวงแล้ว พี่ยังเป็นตาแก่หื่นกามจอมอึดด้วยนะ” เสียงทุ้มกระซิบริมหูเล็ก แก้วกานดายิ้มหวานพลิกร่างนอนหงาย“จะอึดแค่ไหนกันเชียว...ขี้โม้” คนตัวเล็กไม่ยอมลดราวาศอก บังอาจท้าทายคนตัวโต“พี่ถือว่าเป็นสาส์นท้ารบ นักรบอย่างพี่ไม่มีวันถอยทัพแน่ ถ้าศัตรูไม่พ่ายทัพแตกหนีไปเสียก่อน และถึงจะพ่ายทัพแตกกระเจิง พี่สาบานว่าจะรุกไม่ให้ได้หายใจหายคอกันทีเดียว หึๆ” คำพูดของสามีทำให้แก้วกานดาใจสั่น รู้แน่ว่าเขาคิดเป็นจริงเป็นจัง หญิงสาวจึงหวีดร้องเบาๆ เมื่อร่างเล็กของตัวเองถูกจับลอกคราบอย่างรวดเร็ว“พี่รบขา ใช้แผนการรบแบบละมุนละม่อมนะ ห้ามใช้แผนการรบขั้นรุนแรง ลูกอยู่ในนี้นะคะ” แก้วกานดาเตือนสติสามี“ครับผม” รับคำเรียบร้อย นักรบก็ไม่ปล่อยให้ภรรยาได้ทันตั้งตัว เขาจู่โจมรุกหนักด้วยการมอบจุมพิตที่เร่าร้อน มือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างนุ่มนิ่มอวบอิ่ม หยุดทักทายบีบเคล้นอกอวบสลับกับการคีบเม็ดสีหวานเบาๆ ริมฝีปากร้อนเคลื่อนที่ช้าๆดื่มด่ำกับผิวเนียนหอมกรุ่นทั่วร่างอย่างหลงใหล“เมียพี่หวานที่สุด น่ากินไปทั้ง
“อื้มมมม...รักลินที่สุด” เสียงครางทุ้มต่ำบ่งบอกว่า เขาได้ล่องลอยอยู่ในเวิ้งฟ้าเดียวกันกับคนรัก คำบอกรักกระซิบด้วยเสียงพร่าแว่วหวานนัก ร่างใหญ่พลิกกายนอนหงาย โดยกอดคนร่างเล็กให้นอนแนบกายทาบทับอยู่บนร่างของตน สองร่างยังคงประสานกันอยู่กลางกาย นลินซบหน้าบนแผ่นอกคนคนรัก ลมหายใจของเธอยังหอบถี่กระชั้น “พักยกก่อนเนอะ” เสียงทุ้มกระซิบกระซาบ แล้วจูบซับเรือนผมหอมกรุ่น “บ้า” ถึงจะยังเหนื่อยกับเกมรักที่เพิ่งผ่านไป แต่นลินก็ยังพอที่อ้าปากต่อว่าคนหื่นได้ มือใหญ่กดลงบนสะโพกเต่งตึงแรงๆ พร้อมกับยกสะโพกของตนสวนรับค้างไว้ ความซาบซ่านละมุนที่ยังวนเวียนอยู่ในร่างสาวทำให้นลินเสียววูบขึ้นมาทันที “อ๊ะ! วิน...อย่าแกล้งกันสิ” คนแกล้งหัวเราะชอบใจ “ก็ลินน่ารัก อยากแกล้งแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนเลย” “จะบ้าเหรอ...งานการไม่มีทำหรือไง” “มี...แต่ชอบทำลินมากกว่า” “อุ๊ย! วิน” มือหนาจับบ่าเล็กดันขึ้นให้ร่างของนลินนั่งคร่อมอยู่บนร่างตนเอง หญิงสาวหน้าแด
นายแพทย์ชัยชนะหัวเราะในลำคอ “เพราะรักหรอกน่า...เดือนหน้าเราจะต้องแต่งงานกันนะ วินไม่ อยากนอนคนเดียว อยากตื่นมาตอนเช้าแล้วเห็นลินเป็นคนแรก” มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังนุ่ม“ปากหวานก็เป็นด้วย” นลินพูดเสียงอู้อี้อยู่ชิดแผงอกกว้าง“วินรักลินนะ” นลินผงกศีรษะขึ้นสบตาแวววาวของชายหนุ่ม สองสายตาประสานกันอยู่เนิ่นนาน นายแพทย์ชัยชนะค่อยๆพลิกร่างตัวเองขึ้นคร่อมร่างของหญิงสาวให้อยู่ใต้ร่างของตนเอง นลินพ่นลมหายใจออกเบาๆ หลับตาลงช้าๆเมื่อใบหน้าหล่อเหลาของคนบนร่างโน้มลงมาใกล้ ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มของเธอถูกครอบครองแผ่วเบา หญิงสาวเผยอปากรับอย่างเต็มใจ ชายหนุ่มเริ่มรุกเร่าร้อน ลิ้นสากของเขาไล่ต้อนตวัดรัดรึงลิ้นเล็กของเธอด้วยความโหยหา นลินจูบตอบด้วยประสบการณ์ที่น้อยนัก แต่กลับทำให้ชายหนุ่มครางกระหึ่มในลำคอด้วยความพึงพอใจ“วินรักลินที่สุด” เสียงทุ้มดังอยู่ชิดริมหูเล็ก นายแพทย์ชัยชนะละจากริมฝีปากของนลิน ใช้จมูกโด่งซอกซอนดอมดมไปตามใบหน้าเนียนและลำคอหอมกรุ่น ชุดนอนของหญิงสาวดูจะเกะกะสายตาเขาเป็นที่สุด มือใหญ่จึงลงมือแกะและถอดปราการบนร่างบางทุกชิ้นออกอย่างรวดเร็ว นลินนอนหอบหายใจแรงอย่างเขิน
“รีบๆแต่งกันไปเถอะหนูลิน หมั้นกันนานๆผู้คนจะมองไม่ดี มีคนมาดูแลหนูลิน คุณนัยนาจะได้สบายใจ” กานต์แก้วพยายามเกลี้ยกล่อมนลินช่วยอีกคน เพราะหน้าตาของหญิงสาวบ่งบอกว่างอนมารดาอย่างเห็นได้ชัด“หรือหมอวินทำอะไรให้ลินไม่พอใจหรือเปล่า” นักรบลุกขึ้นยืนขึงขัง เงื้อกำปั้นขึ้นเล็งไปที่นายแพทย์หนุ่มที่นั่งอยู่ข้างน้องสาว นลินรีบยกมือห้ามทันควัน“ไม่ๆค่ะ พี่รบจะทำอะไรเนี่ย วินเขาไม่ได้ทำอะไรลินสักหน่อย” ประโยคสุดท้ายของนลินฟังแล้วไม่ค่อยมั่นใจนัก เสียงหัวเราะของคนรอบข้างทำให้นลินกวาดสายตาดูทุกคนอายๆ ที่เผลอออกโรงปกป้องชายหนุ่ม“นั่นไง...เป็นห่วงหมอวินล่ะสิ...สรุปแต่งกันเดือนหน้าเลยนะ ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” คนเป็นพี่พูดจบก็นั่งลง สบตากับว่าที่น้องเขยยิ้มๆ นลินมองหน้าว่าที่เจ้าบ่าวของตนอย่างหมั่นไส้ ก็เขาเล่นยิ้มแก้มแทบจะปริอยู่แล้วนะเช้าวันต่อมาผู้สูงอายุทั้งสามออกจากบ้านแต่เช้า นักรบและแก้วกานดาช่วยกันทำงาน แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทางสามีเป็นผู้ทำทั้งหมดเสียมากกว่า ด้วยเกรงว่าภรรยาจะเหนื่อย ไม่ได้พักผ่อน นลินและนายแพทย์ชัยชนะนั่งพักผ่อนอยู่บริเวณซุ้มไม้นอกร