“พี่รบ...เจนนี่เองนะคะ” เจนจิราใช้โทรศัพท์มือถือของเพื่อนโทรหานักรบ เพราะปกติเวลาเธอใช้โทรศัพท์ตัวเองโทรหาชายหนุ่มจะไม่ค่อยรับสาย
“มีอะไรหรือเปล่าเจนนี่ นี่มันดึกมากแล้วนะ” นักรบตอบเสียงเข้มไม่พอใจเล็กน้อย
“พี่รบขา...เอ่อ...รถเจนนี่สตาร์ตไม่ติด ตอนนี้เพื่อนๆกลับกันหมดแล้ว ร้านก็ปิดแล้วค่ะพี่รบ นี่เจนนี่ยืมโทรศัพท์พนักงานที่ร้านโทรอยู่นะคะ เขากำลังจะกลับกันแล้ว เอ่อ...แบตโทรศัพท์เจนนี่ก็หมดค่ะ พี่รบมารับเจนนี่หน่อยสิคะ” นักรบถอนหายใจยาว
“นั่งแท็กซี่กลับสิครับ”
“ไม่เอาค่ะ เจนนี่กลัว”
“ทำไมเจนนี่ไม่โทรให้ที่บ้านมารับ”
“เอ่อ...เจนนี่จำเบอร์ใครไม่ได้เลยค่ะ มีเบอร์พี่รบคนสำคัญของเจนนี่คนเดียวเท่านั้น ที่เจนนี่จำได้ นะคะพี่รบ รีบมานะคะ เจนนี่กลัวค่ะ เจนนี่จะรออยู่ร้านนะคะ อยู่ใกล้ๆคอนโดพี่รบนี่แหละ” เจนจิราตัดสายไปแล้วหลังจากที่บอกชื่อร้านเสร็จ นักรบกำโทรศัพท์แน่น ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขามีแววตาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เพราะอีกใจก็อยากเปิดประตูไปดึงคนที่อยู่ในห้องน้ำออกมาสักที แต่อีกใจก็เป็นห่วงเจนจิราที่อยู่คนเดียว เป็นห่วงอย่างที่พี่ชายห่วงน้องสาวคนหนึ่งเ
แก้วกานดาในชุดนอนกางเกงขายาวนอนกอดตัวเองใต้ผ้าห่มหนา ร่างบางที่ปรากฏร่องรอยแดงเป็นจ้ำไปทั้งตัวนอนหนาวสั่น อุณหภูมิในร่างกายสูงกว่าปกติมาก ริมฝีปากบางแห้งผากแดงเรื่อ หญิงสาวไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตาขึ้น ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวไปทุกส่วนเมื่อคืนเธอนั่งอยู่ใต้สายน้ำนานเกือบสองชั่วโมง อีกทั้งต้องบอบช้ำจากการโดนรังแกอย่างหนัก ทำให้ร่างกายเกินขีดจำกัดที่จะทนได้ ตอนนี้แก้วกานดาอ่อนแอทั้งจิตใจและร่างกาย น้ำตาไหลอาบสองแก้ม ทั้งๆที่เธอยังนอนหลับตาอยู่ เธอจะทนอยู่ในสภาพนี้ได้อีกนานแค่ไหน หนึ่งเดือนหรือ ...เธอจะทนไหวหรือเปล่าแก้วกานดา ชีวิตที่ผ่านมามันยังเลวร้ายและเจ็บปวดไม่พอใช่ไหม เธอถึงต้องทนให้เขารังแกอยู่ได้ ร่างบางสะอื้นรุนแรง น้ำตาไหลเปื้อนหมอนจนเปียกปอนจะทนต่อไปเพื่ออะไร เธอมีอะไรที่ต้องสูญเสียไปมากกว่านี้หรือแก้วกานดา ภาพรอยยิ้มของมารดาและบิดาลอยเด่นในห้วงความคิด คนสองคนที่เฝ้าห่วงใยดูแลเธอตลอดมา ไม่เคยทำร้ายให้เจ็บช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร เธอถึงปล่อยให้เขาทำร้ายได้ขนาดนี้ จะทนต่อไปเพื่ออะไร เขาจะทำอะไรจะประจานเธอก็ช่างปะไร ในชีวิตนี้
“นั่นมันห้องของผม ทำไมพวกคุณไม่โทรแจ้งหรือปรึกษาผมก่อน”น้ำเสียงที่เจือไปด้วยโทสะรุนแรง ทำให้เจ้าหน้าที่ยิ่งหวาดกลัวเขา ทุกคนรู้ดีว่านักรบรู้จักคุ้นเคยกับเจ้าของคอนโดมิเนียมเป็นอย่างดี เป็นนักธุรกิจนักบริหารรุ่นใหม่แถวหน้า เขาเป็นยิ่งกว่าบุคคลวีไอพีของที่นี่ และหากเขาจะเอาเรื่องจริงๆ คอนโดมิเนียมแห่งนี้ต้องเสียชื่อเสียงแน่ๆ“ทางเราต้องขออภัยจริงๆค่ะคุณนักรบ หากมีอะไรให้เราพอจะช่วยเหลือได้ ทางเรายินดีที่จะดำเนินการให้ค่ะ”นักรบขบกรามแน่น นี่ไม่ใช่เวลามาหาคนผิดมาโทษใคร เขาต้องตามหาแก้วกานดา เธอไม่มีสิทธิ์ไปจากเขา มันยังไม่ครบสัญญาหนึ่งเดือน นักรบเดินออกจากคอนโดมิเนียมด้วยใบหน้าถมึงทึง ปล่อยให้บรรดาเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคอนโดต่างมองหน้ากันด้วยแววตาเป็นกังวล แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมๆกัน“ฮัลโหล...คุณดา...ผมต้องการทราบชื่อโรงพยาบาลที่มีชื่อนายแพทย์ชัยชนะ เป็นหนึ่งในคณะผู้บริหาร ผมให้เวลาคุณสิบห้านาที”นักรบสั่งงานแล้วกดวางสายทันที ดวงตาแดงก่ำด้วยอารมณ์โกรธ เขากำพวงมาลัยรถแน่น ชายหนุ่มขับรถออกจากบริเวณลานจอดรถด้วยความเร็ว เขาไม่รู้หรอกว่าจะไปที่ไหน รู้แต่ว
“ต้องการพักผ่อนหรือต้องการออดอ้อนกัน ที่ทำให้มันไม่ถึงใจใช่ไหมถึงต้องหาเรื่องมาหากันถึงที่”แก้วกานดาปิดหูสองข้างส่ายหน้าไม่อยากได้ยินคำต่อว่าของคนใจร้าย น้ำตาไหลรินเป็นทาง เธอสะอื้นเบาๆอย่างปวดร้าวในหัวใจ“พี่รบดูถูกฝ้ายเกินไปแล้วนะครับ เราเป็นเพื่อนกัน แล้วผมก็เป็นหมอรักษาคนไข้ ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปอย่างที่พี่รบเข้าใจนะครับ” นายแพทย์ชัยชนะกำลังจะเหลืออดกับผู้ชายคนนี้แล้ว“ดูถูกก็ดีกว่าดูผิด อ้อ...ผมจะบอกอะไรให้นะ ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เหลืออะไรไว้ให้คุณหมอแล้วล่ะ ผมเห็นแล้วก็จับมาแล้วทุกซอกทุกมุม” นักรบไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในอารมณ์หึงหวงรุนแรง แก้วกานดาเป็นของเขา เธอไม่มีสิทธิ์ไปจากเขา นายแพทย์ชัยชนะสุดจะทนกับคำดูถูกของนักรบ กำปั้นใหญ่ชกเปรี้ยงเข้าที่ปากของนักรบจนใบหน้าคมเข้มสะบัดหัน เลือดสดๆไหลออกจากมุมปากทันที นักรบรับรู้ถึงรสของเลือดที่ซึมเข้าปาก เขาหันกลับไปสบตานายแพทย์ชัยชนะอย่างเอาเรื่อง“ถ้าพี่รบไม่ยอมออกไปจากที่นี่ดีๆ ผมจะให้รปภ.มาเชิญตัวออกไป ที่นี่โรงพยาบาลของผม คนไข้ทุกคนต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด แล้วก็...การเป็นข่าวในด้านลบค
“มันฉุกละหุกนิดหน่อยจ้ะ ต้องขอโทษหนูลินด้วยที่ฝ้ายไม่ได้บอก บ้านหลังนี้เราขายแล้วจ้ะ”นลินถอนหายใจเบาๆ “ว้า!...อย่างนี้ฝ้ายก็ไม่ได้มาทำงานกับลินแล้วสิ เสียดายจัง แล้วตอนนี้ฝ้ายอยู่ไหนคะ ลินอยากคุยกับฝ้ายหน่อยค่ะ”“ฝ้ายกับคุณพ่อเดินทางไปต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อเช้าตรู่แล้วจ้ะ แม่กำลังเก็บของตามไป นี่ก็จ้างบริษัทรับขนย้ายมาจัดการให้ แม่เลยต้องอยู่ดูความเรียบร้อย”“แล้วไปอยู่ที่ไหนกันคะ ลินจะได้แวะไปเยี่ยมได้ ช่วงนี้งานที่บริษัทก็ยุ่งๆด้วยคงยังตามไปไม่ได้ ฝ้ายนะฝ้ายทำอะไรไม่บอกเพื่อนเลย”กานต์แก้วยิ้มอย่างเอ็นดูความรักของเพื่อนที่มีต่อกัน “เดี๋ยวแม่ให้ฝ้ายติดต่อบอกลินเองดีกว่าเนอะ แม่ขอตัวไปดูเขาเก็บของก่อนนะ”นลินยกมือไหว้ลากานต์แก้ว เธอถอนหายใจแรง มีบางอย่างที่เธอสงสัยและต้องหาคำตอบให้ได้กานต์แก้วมองตามรถของนลินที่แล่นออกจากประตูบ้าน แล้วถอนหายใจ แก้วกานดาโทรศัพท์มาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เธอฟังเมื่อคืนนี้ ผู้เป็นพ่อกับแม่จึงตัดสินใจที่จะพาลูกสาวไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แก้วกานดาเจ็บช้ำมามากพอแล้ว การไปให้ไกลจากตัวการที่ทำให้ลูกสาวเธอต้องตกอยู่ในสภ
นักรบมองไปที่ประตูบ้านหลังใหญ่ บ้านที่เขาเคยไปรับไปส่งแก้วกานดาในตอนที่เธอและเขาอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยกัน ตอนนี้เธอย้ายไปจากที่นี่แล้ว เขาแค่อยากมาดูเพื่อความมั่นใจกับสิ่งที่นลินได้บอกแล้ว แก้วกานดาหนีเขาไปแล้วจริงๆ แววตาที่เคยฉายแววเด็ดเดี่ยวดูอ่อนแสงลงอย่างเห็นได้ชัด นักรบถอนหายใจเบาๆ เขาบังคับพวงมาลัยรถไปตามทางอย่างเลื่อนลอย หลายเดือนที่ผ่านมาเขาอยู่ได้โดยไม่มีแก้วกานดา แต่ทำไมวันนี้กลับรู้สึกวูบโหวงในหัวใจ มันเจ็บแปลบๆ เมื่อคิดว่าเธอหนีเขาไปอีกแล้ว“ฮัลโหล...พี่รบวันนี้มีประชุมนะ” นลินกรอกเสียงพูดมาตามสาย“อือ...พี่กำลังไป” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เขาดึงสติตนเองกลับมาแล้วขับรถไปยังบริษัททันที“หิวๆ...ไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า” นลินบ่นงึมงำ เมื่อเดินออกจากลิฟต์อย่างไม่ทันระวังตัว เธอจึงชนเข้ากับร่างใหญ่จนเซ“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” ร่างของเธอคงจะล้มลงไปกองกับพื้น ถ้าไม่ได้วงแขนแกร่งรวบตัวเธอไว้ สองสายตาประสานกัน“วิน/ลิน” นายแพทย์ชัยชนะปล่อยมือจากเอวบาง เมื่อเห็นแววตาดุๆของนลิน“ขอโทษครับ”
“ฝ้ายเสียใจมากเลยนะที่แท้ง วินว่าฝ้ายต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างแหละที่ปฏิเสธการแต่งงานกับพี่รบ”“แล้วอะไรล่ะ อะไรทำให้ฝ้ายปฏิเสธพี่รบ”นายแพทย์ชัยชนะกับนลินสบตากัน ทั้งสองถอนหายใจพร้อมกัน“อุ๊ย! ลินมีประชุมบ่าย เลยเวลามานานแล้ว ขอตัวก่อนนะวิน” นลินยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วรีบลุกขึ้นยืน“เดี๋ยววินโทรหาลินได้ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ“อือๆ...แล้วค่อยคุยกันนะ” นลินเดินออกจากร้านไปแล้ว นายแพทย์ชัยชนะมองตามยิ้มๆ อย่างน้อยนลินก็ยอมให้เขาโทรหาแหละน่า แต่เขาก็อดที่จะสงสัยเรื่องระหว่างแก้วกานดากับนักรบไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนี้ และเท่าที่สังเกตดู นลินไม่น่าจะรู้ว่าแก้วกานดาไปพักอยู่ที่คอนโดมิเนียมของนักรบบทสนทนาระหว่างนายแพทย์ชัยชนะ และนลินยังดังก้องอยู่ในหู แก้วกานดาเคยระสบอุบัติเหตุหรือ เธอเคยแท้ง แท้งลูกของเขา นักรบกำมือแน่นขบกรามจนเป็นสันนูน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาสับสนกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน และคนที่จะตอบคำถามเขาได้ก็คงมีแต่แม่ของเขาเท่านั้น เพราะทุกเรื่องของแก้วกานดาที่เขารับรู้มีเพียงแม่เท่านั้นที่เป็นคนคอยบอกเล่าให้ฟัง
ตั้งแต่วันที่นักรบรู้ความจริงเรื่องของแก้วกานดา เขากลายเป็นคนบ้างานที่ค่อนข้างจะเกรี้ยวกราด นลินผิดสังเกตกับพี่ชายของตนกับท่าทีที่เปลี่ยนไปมาก จึงทำใจดีสู้เสือตัดสินใจไปหาพี่ชายที่คอนโดมิเนียม เพราะหลังจากที่นักรบรู้ความจริงในวันนั้นแล้ว เขาก็ไม่กลับไปนอนที่บ้านอีกเลยเสียงสัญญาณที่หน้าประตูดังขึ้นทำให้นักรบเดินโซเซไปเปิดประตู เมื่อเห็นหน้าน้องสาวของตนนักรบก็ทำสีหน้าผิดหวังแล้วกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม หยิบแก้วที่มีน้ำสีอำพันกระดกรวดเดียวลงคอ นลินส่ายศีรษะกับภาพที่เห็น เธอสังหรณ์ใจว่าที่พี่ชายเป็นแบบนี้ อาจจะเกี่ยวกับการที่แก้วกานดาเงียบหายไปหรือไม่“พี่รบดื่มเยอะแล้วใช่ไหมเนี่ย” นลินถามออกไป ขณะที่เริ่มลงมือเก็บขวดและแก้วที่ล้มกลิ้งอยู่บนพื้น นักรบเอนศีรษะหงายไปกับพนักโซฟา ชายหนุ่มหลับตาแน่น“ฝ้ายโทรหาลินหรือยัง” เสียงของชายหนุ่มแผ่วเบานัก“ยังเลยพี่รบ ลินว่าพี่รบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหม จะได้สดชื่นขึ้น เดี๋ยวลินทำอะไรให้กิน” นลินถอนหายใจเบาๆ ก้มลงเก็บรองเท้าที่นักรบเหวี่ยงไว้อยู่ใต้โต๊ะ เมื่อหญิงสาวเดินไปเปิดตู้เพื่อจะเก็บรองเท้า
“วินไม่รู้หรอกลิน วันที่ฝ้ายหนีออกจากโรงพยาบาล ฝ้ายส่งข้อความมาบอกว่าอยู่กับพ่อแม่ ไม่ต้องห่วง แค่นี้เอง แล้วฝ้ายไม่ได้ติดต่อลินมาบ้างเหรอ วินก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกันนะ”“ลินก็รออยู่เนี่ย ฝ้ายไม่โทรมาหา ไม่ส่งข้อความมาเลย”“เดี๋ยวฝ้ายก็ติดต่อมาเองแหละน่า กินเค้กไหม เดี๋ยววินเลี้ยงเอง” นายแพทย์หนุ่มยิ้มกว้าง“อือ...วินไปเลือกให้หน่อยเอาอะไรก็ได้ เอามากินแก้เครียด”นายแพทย์ชัยชนะยิ้มกับท่าทางถอนหายใจของนลิน เขาวางโทรศัพท์และแท็บเลตไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินไปสั่งเค้กมาให้นลิน หลังจากนายแพทย์หนุ่มเดินไปจากโต๊ะ เสียงสัญญาณเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์ที่วางอยู่ก็ดังขึ้น ทำให้นลินชำเลืองตามอง‘วิน...ฝ้ายอยากได้ประวัติการรักษาของฝ้ายที่โรงพยาบาลของวิน’‘คุณหมอบอกว่าฝ้ายเคยแท้งมาก่อน เลยอยากดูประวัติประกอบการฝากครรภ์’‘ส่งมาตามที่อยู่ที่ให้ไว้เลยนะ’นลินอ่านทุกข้อความเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ ด้วยใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ“ฝากครรภ์เหรอ” นลินรำพึงเบาๆ เมื่อนายแพทย์หนุ่มเดินมานั่งลงที่เดิม เขาเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วขมวดคิ
“พี่นวดให้ฝ้ายดีกว่า” แก้วกานดายิ้มอยู่กับอกกว้างอย่างรู้ทัน ร่างของคนตัวเล็กกว่าถูกพลิกให้นอนลงบนเตียงนุ่ม นักรบทาบทับตามติดมันที สองสายตาประสานกันนิ่ง แก้วกานดายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของสามีเบาๆ “พี่ชอบเวลาฝ้ายสัมผัสตัวพี่” สายตากรุ้มกริ่มของสามีทำให้เธอรู้ความหมายของเขา มือเล็กยันแผงออกกว้างให้เขาเป็นฝ่ายนอนหงายลง เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่และกางเกงนอนขายาวถูกถอดออกอย่างว่องไวโดยเจ้าของ แก้วกานดาขมวดคิ้วมุ่น หัวเราะกับท่าทางกระตือรือร้นของสามี “พี่ไม่อยากให้ฝ้ายเหนื่อย” นักรบยิ้มกว้างนอนรออย่างมีความหวัง ใบหน้านวลแดงซ่านเมื่อกวาดตามองเรือนกายกำยำของสามี ถึงจะอยู่กินกันมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่ชินกับการมองเห็นเขาในสภาพเปล่าเปลือยสักที มือเล็กลูบไล้ทั่วแผ่นอกกำยำ ขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าหล่อคมของสามี นักรบหลับตาพริ้ม พ่นลมออกจากปากเป็นการระบายอารมณ์ร้อนแรงภายใน ที่เริ่มจะเดือดปุดๆ เพราะเกรงว่าตัวเองจะทนไม่ไหว จะต้องเป็นฝ่ายรุกเสียก่อนที่ภรรยาสาวจะสำรวจร่างของตนจนถ้วนทั่ว “อา...เลื่อนลงไ
“เห็นไหมลิน...ลูกมีความสุขกับการมีเพื่อนเล่น เราต้องจริงจังกับการผลิตน้องให้น้องนีแล้วนะ” นลินเงยหน้าสบตาสามี มือเล็กบิดสีข้างของคนตัวใหญ่เบาๆ“โอ๊ย!”“ไม่ต้องเอาลูกมาอ้างเลยนะวิน เดี๋ยวเถอะ” นลินจิกสายตามองอย่างรู้ทัน หญิงสาวสะบัดหน้าหนีผละออกจากวงแขนแกร่ง รีบสาวเท้าเดินตามลูกน้อยไป นายแพทย์ชัยชนะมองตามร่างภรรยาด้วยสายตามุ่งมั่นหลังจากมื้อค่ำที่แสนสุขของครอบครัวใหญ่ นักรบ แก้วกานดา นายแพทย์ชัยชนะ นลินและเด็กๆมารวมตัวกันที่โต๊ะไม้สักตัวใหญ่บริเวณระเบียงหลังบ้าน ส่วนผู้สูงอายุเลี่ยงไปคุยกันอีกมุมหนึ่งของบ้าน เด็กๆส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันดังลั่น สลับกับเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะ“ลินทำไมไม่มีน้องให้น้องนีสักทีล่ะ ลูกคนเดียวเหงานะ”“เอ่อ...” นลินเพียงแค่อ้าปากกำลังจะตอบ สามีเธอก็แย่งหน้าที่ตอบคำถามให้ก่อน“กำลังพยายามอยู่ฝ้าย ลินไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไร ส่วนวินน่ะพร้อมทุกที่ทุกเวลา”คำพูดของนายแพทย์หนุ่มเรียกเสียงหัวเราะของทุกคน แต่คนที่ถูกพาดพิงกลับส่งสายตาเขียวปั้ดให้สามีตัวเอง“น้องนีครับ คืนนี้นอนกับคุณยายนะลูก” นา
“ฝ้ายติดลูกค้า ช่วงนี้ที่รีสอร์ตยุ่งๆ...สวัสดีครับปกป้องสุดหล่อ” เด็กชายปกป้องยิ้มแหยๆ ก้าวมายืนข้างหน้าบิดาแล้วยกมือไหว้ผู้มาเยือนอย่างนอบน้อม“สวัสดีครับพ่อรบ” นักรบยื่นมือใหญ่ไปยีศีรษะเล็กของเด็กชายเบาๆ เด็กหญิงคนเดียวท่ามกลางหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ก้าวมายืนเคียงข้างบิดา จ้องมองลูกชายของเพื่อนพ่ออย่างข่มเต็มที่“เข้าไปในบ้านกันเถอะน้องปองเพิ่งกินนมเสร็จพอดี” ประณตเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในบ้าน เด็กชายธงรบจับมือบิดาเดินเข้าไปบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวสิน้องป้อง” เด็กชายปกป้องหยุดการก้าวเดิน แล้วหันกลับไปมองคนที่เรียกตนเองด้วยสายตาไม่พอใจ“ป้องไม่ใช่น้องใคร ป้องเป็นพี่” คนถูกเรียกน้องแสดงความไม่พอใจออกมาทั้งหน้าตาและน้ำเสียง โดยไม่ปิดบัง เด็กหญิงแก้วกัลยายิ้มเยาะ“คุณพ่อบอกว่าป้องเกิดทีหลังนับหนึ่งตั้งสองวัน ป้องต้องเรียกนับหนึ่งว่า...พี่นับหนึ่ง” เด็กหญิงผมเปียยิ้มอย่างผู้ชนะ“คุณพ่อบอกว่านับหนึ่งเป็นคู่หมั้นของป้อง โตขึ้นนับหนึ่งต้องมาเป็นแฟนของป้อง นับหนึ่งนั่นแหละต้องเรียกป้องว่าคุณแฟน” เด็กชายตัวน้อยตอบโต้กลับ สบตาดวงตากลมโตอย่างเหนือกว่า“ไม่
“นับหนึ่งไม่ได้เล่นนะ นับหนึ่งกำลังช่วยคุณตาปลูกดอกกุหลาบแปลงใหม่อยู่” เสียงเจื้อยแจ้วบ่งบอกว่างอน ทำให้ผู้เป็นพ่อหัวเราะในลำคอ“ตัวเล็กแค่นี้ขยันจังเลย สงสัยพ่อต้องมีรางวัลให้ซะแล้ว” เด็กหญิงตาโตเมื่อได้ยินคำว่ารางวัล“รางวัลอะไรคะ” นักรบยิ้มส่ายศีรษะ“ยังไม่บอก จนกว่านับหนึ่งจะไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่สวยๆ” หรี่ตามองบิดาอย่างชั่งใจ“ก็ได้ค่ะ” ร่างเล็กดิ้นลงจากอกบิดา แล้ววิ่งเข้าบ้านไปทันที แก้วกานดาอุ้มลูกชายตัวเล็กอายุสามขวบเดินออกมาจากในบ้าน สวนทางกับเด็กหญิงแก้วกัลยาที่วิ่งปรู๊ดเข้าไปบ้านพอดี“โกหกอะไรนับหนึ่งอีกล่ะคะ ถึงได้ยิ้มหน้าบานขนาดนั้น” นักรบรับเด็กชายธงรบมาอุ้มไว้ แล้วโอบร่างภรรยาไว้หลวมๆ ริมฝีปากหยักได้รูปจุมพิตที่ขมับของคนร่างเล็กหนักๆ“ไม่ได้โกหกสักหน่อย พี่ว่าจะพานับหนึ่งไปเยี่ยมน้องปองที่ไร่ปรานี ฝ้ายไปด้วยกันนะ” ปิ่นหล้าภรรยาของประณตเจ้าของไร่องุ่นใกล้เคียงกันเพิ่งคลอดบุตรสาวคนเล็ก นักรบจึงอยากไปเยี่ยมตามประสาเพื่อนกัน“วันนี้มีกรุ๊ปทัวร์คุณหมอเพื่อนของวินมาค่ะ พี่รบจำไม่ได้เหรอ ถ้าฝ้ายไปด้วยใครจะดูแลลูกค้าล่ะคะ” หลังจาก
“จ้า...ฝ้ายก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ อาไปก่อนนะนับหนึ่ง” นลินก้มลงคุยกับหลานที่ยังอยู่ในท้องของแก้วกานดา“ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” นักรบหันไปฝากฝังน้องสาวกับว่าที่น้องเขย นายแพทย์ชัยชนะยิ้มพยักหน้ารับ“เป็นหน้าที่ของผมออยู่แล้วครับพี่รบ” นลินตวัดสายตามองคนพูดอย่างหมั่นไส้ ช่างสรรหาคำพูดมาทำคะแนนเหลือเกิน คนที่ถูกหมั่นไส้ตีคิ้วยิ้มด้วยแววตาเป็นประกาย จนนลินต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเอง“ขับรถดีๆนะวิน” แก้วกานดาโบกมือลาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม“เราต้องแต่งงานกันเดือนหน้านะลิน” หลังจากรถแล่นออกจากประตูรั้ว นายแพทย์ชัยชนะก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ลินรู้แล้ว วินจะย้ำอะไรนักหนา”“ก็ย้ำเพื่อให้ลินรู้ว่าห้ามบ่ายเบี่ยงอีกเด็ดขาด”นลินเบี่ยงตัวหันมามองหน้าคนขับรถ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น นายแพทย์ชัยชนะยิ้มกว้าง หันหน้ามาสบตาคนนั่งข้างแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ“คืนที่ผ่านมา มันเป็นช่วงที่ร่างกายของลินพร้อมตั้งครรภ์ที่สุด และวินก็ตั้งใจทำเต็มที่ ไม่แน่นะว่าลูกของวินอาจจะอยู่ในท้องของลินแล้วก็ได้”นลินอ้าปากค
“อื๊อ...พี่รบ” แก้วกานดาประท้วงเสียงพร่า“รู้ไหม...นอกจากพี่จะเป็นตาแก่ขี้หวงแล้ว พี่ยังเป็นตาแก่หื่นกามจอมอึดด้วยนะ” เสียงทุ้มกระซิบริมหูเล็ก แก้วกานดายิ้มหวานพลิกร่างนอนหงาย“จะอึดแค่ไหนกันเชียว...ขี้โม้” คนตัวเล็กไม่ยอมลดราวาศอก บังอาจท้าทายคนตัวโต“พี่ถือว่าเป็นสาส์นท้ารบ นักรบอย่างพี่ไม่มีวันถอยทัพแน่ ถ้าศัตรูไม่พ่ายทัพแตกหนีไปเสียก่อน และถึงจะพ่ายทัพแตกกระเจิง พี่สาบานว่าจะรุกไม่ให้ได้หายใจหายคอกันทีเดียว หึๆ” คำพูดของสามีทำให้แก้วกานดาใจสั่น รู้แน่ว่าเขาคิดเป็นจริงเป็นจัง หญิงสาวจึงหวีดร้องเบาๆ เมื่อร่างเล็กของตัวเองถูกจับลอกคราบอย่างรวดเร็ว“พี่รบขา ใช้แผนการรบแบบละมุนละม่อมนะ ห้ามใช้แผนการรบขั้นรุนแรง ลูกอยู่ในนี้นะคะ” แก้วกานดาเตือนสติสามี“ครับผม” รับคำเรียบร้อย นักรบก็ไม่ปล่อยให้ภรรยาได้ทันตั้งตัว เขาจู่โจมรุกหนักด้วยการมอบจุมพิตที่เร่าร้อน มือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างนุ่มนิ่มอวบอิ่ม หยุดทักทายบีบเคล้นอกอวบสลับกับการคีบเม็ดสีหวานเบาๆ ริมฝีปากร้อนเคลื่อนที่ช้าๆดื่มด่ำกับผิวเนียนหอมกรุ่นทั่วร่างอย่างหลงใหล“เมียพี่หวานที่สุด น่ากินไปทั้ง
“อื้มมมม...รักลินที่สุด” เสียงครางทุ้มต่ำบ่งบอกว่า เขาได้ล่องลอยอยู่ในเวิ้งฟ้าเดียวกันกับคนรัก คำบอกรักกระซิบด้วยเสียงพร่าแว่วหวานนัก ร่างใหญ่พลิกกายนอนหงาย โดยกอดคนร่างเล็กให้นอนแนบกายทาบทับอยู่บนร่างของตน สองร่างยังคงประสานกันอยู่กลางกาย นลินซบหน้าบนแผ่นอกคนคนรัก ลมหายใจของเธอยังหอบถี่กระชั้น “พักยกก่อนเนอะ” เสียงทุ้มกระซิบกระซาบ แล้วจูบซับเรือนผมหอมกรุ่น “บ้า” ถึงจะยังเหนื่อยกับเกมรักที่เพิ่งผ่านไป แต่นลินก็ยังพอที่อ้าปากต่อว่าคนหื่นได้ มือใหญ่กดลงบนสะโพกเต่งตึงแรงๆ พร้อมกับยกสะโพกของตนสวนรับค้างไว้ ความซาบซ่านละมุนที่ยังวนเวียนอยู่ในร่างสาวทำให้นลินเสียววูบขึ้นมาทันที “อ๊ะ! วิน...อย่าแกล้งกันสิ” คนแกล้งหัวเราะชอบใจ “ก็ลินน่ารัก อยากแกล้งแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนเลย” “จะบ้าเหรอ...งานการไม่มีทำหรือไง” “มี...แต่ชอบทำลินมากกว่า” “อุ๊ย! วิน” มือหนาจับบ่าเล็กดันขึ้นให้ร่างของนลินนั่งคร่อมอยู่บนร่างตนเอง หญิงสาวหน้าแด
นายแพทย์ชัยชนะหัวเราะในลำคอ “เพราะรักหรอกน่า...เดือนหน้าเราจะต้องแต่งงานกันนะ วินไม่ อยากนอนคนเดียว อยากตื่นมาตอนเช้าแล้วเห็นลินเป็นคนแรก” มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังนุ่ม“ปากหวานก็เป็นด้วย” นลินพูดเสียงอู้อี้อยู่ชิดแผงอกกว้าง“วินรักลินนะ” นลินผงกศีรษะขึ้นสบตาแวววาวของชายหนุ่ม สองสายตาประสานกันอยู่เนิ่นนาน นายแพทย์ชัยชนะค่อยๆพลิกร่างตัวเองขึ้นคร่อมร่างของหญิงสาวให้อยู่ใต้ร่างของตนเอง นลินพ่นลมหายใจออกเบาๆ หลับตาลงช้าๆเมื่อใบหน้าหล่อเหลาของคนบนร่างโน้มลงมาใกล้ ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มของเธอถูกครอบครองแผ่วเบา หญิงสาวเผยอปากรับอย่างเต็มใจ ชายหนุ่มเริ่มรุกเร่าร้อน ลิ้นสากของเขาไล่ต้อนตวัดรัดรึงลิ้นเล็กของเธอด้วยความโหยหา นลินจูบตอบด้วยประสบการณ์ที่น้อยนัก แต่กลับทำให้ชายหนุ่มครางกระหึ่มในลำคอด้วยความพึงพอใจ“วินรักลินที่สุด” เสียงทุ้มดังอยู่ชิดริมหูเล็ก นายแพทย์ชัยชนะละจากริมฝีปากของนลิน ใช้จมูกโด่งซอกซอนดอมดมไปตามใบหน้าเนียนและลำคอหอมกรุ่น ชุดนอนของหญิงสาวดูจะเกะกะสายตาเขาเป็นที่สุด มือใหญ่จึงลงมือแกะและถอดปราการบนร่างบางทุกชิ้นออกอย่างรวดเร็ว นลินนอนหอบหายใจแรงอย่างเขิน
“รีบๆแต่งกันไปเถอะหนูลิน หมั้นกันนานๆผู้คนจะมองไม่ดี มีคนมาดูแลหนูลิน คุณนัยนาจะได้สบายใจ” กานต์แก้วพยายามเกลี้ยกล่อมนลินช่วยอีกคน เพราะหน้าตาของหญิงสาวบ่งบอกว่างอนมารดาอย่างเห็นได้ชัด“หรือหมอวินทำอะไรให้ลินไม่พอใจหรือเปล่า” นักรบลุกขึ้นยืนขึงขัง เงื้อกำปั้นขึ้นเล็งไปที่นายแพทย์หนุ่มที่นั่งอยู่ข้างน้องสาว นลินรีบยกมือห้ามทันควัน“ไม่ๆค่ะ พี่รบจะทำอะไรเนี่ย วินเขาไม่ได้ทำอะไรลินสักหน่อย” ประโยคสุดท้ายของนลินฟังแล้วไม่ค่อยมั่นใจนัก เสียงหัวเราะของคนรอบข้างทำให้นลินกวาดสายตาดูทุกคนอายๆ ที่เผลอออกโรงปกป้องชายหนุ่ม“นั่นไง...เป็นห่วงหมอวินล่ะสิ...สรุปแต่งกันเดือนหน้าเลยนะ ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” คนเป็นพี่พูดจบก็นั่งลง สบตากับว่าที่น้องเขยยิ้มๆ นลินมองหน้าว่าที่เจ้าบ่าวของตนอย่างหมั่นไส้ ก็เขาเล่นยิ้มแก้มแทบจะปริอยู่แล้วนะเช้าวันต่อมาผู้สูงอายุทั้งสามออกจากบ้านแต่เช้า นักรบและแก้วกานดาช่วยกันทำงาน แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทางสามีเป็นผู้ทำทั้งหมดเสียมากกว่า ด้วยเกรงว่าภรรยาจะเหนื่อย ไม่ได้พักผ่อน นลินและนายแพทย์ชัยชนะนั่งพักผ่อนอยู่บริเวณซุ้มไม้นอกร