“ฝ้ายจะมาทำงานเป็นผู้ช่วยเลขาพี่” นักรบเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย คนที่ถูกเอ่ยชื่อสะดุ้งตัวก้มหน้างุด และเผลอจิกเล็บลงบนฝ่ามือตัวเองแน่น
“อ้าว...นี่เมื่อเช้ามาลากตัวยายฝ้ายไปคุยเรื่องนี้เองเหรอพี่รบ อยู่ดีๆมาแย่งเลขาลินได้ไง กว่าลินจะอ้อนฝ้ายให้มาทำงานช่วยได้นะเนี่ย ฝ้ายมีดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วยนะ คนเก่งๆอย่างนี้ จะมาชุบมือเปิบได้ไง” นลินขมวดคิ้วมองพี่ชายอย่างสงสัย
“ลินเพิ่งเริ่มทำงาน ยังไม่มีอะไรหรอกแค่เรียนรู้งานไปเรื่อยๆก็พอ เดี๋ยวพี่จะค่อยๆสอน ส่วนฝ้ายเพิ่งจะมาทำงานในตำแหน่งเลขา มีอะไรให้ต้องเรียนรู้อีกเยอะ คุณดาริกาเลขาของพี่จะได้ช่วยแนะนำเพื่อนเราด้วยไงไม่ดีเหรอ พี่เบื่อเมื่อไหร่จะคืนฝ้ายให้ลินก็แล้วกัน” นลินทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มกว้าง
“ก็ดีเหมือนกัน งั้นฝ้ายไปเป็นผู้ช่วยเลขาพี่รบก่อนนะ พี่รบทำงานเก่ง จะได้สอนงานฝ้ายได้ พอเก่งแล้วฝ้ายก็ค่อยมาเป็นเลขาลิน เราจะเป็นผู้บริหารกับเลขาคู่ใจที่สาวและสวยที่สุดในประเทศเนอะ” นลินพูดอย่างอารมณ์ดี หากแต่แก้วกานดานั่งหัวใจตุ๊มๆต่อมๆไม่กล้าแม้แต่จะสบตาใคร
อาหารเช้าเวลา11.00น. ช่างไร้รสชาติเหลือเกินสำหรับเธอ หลังจากที่นักรบรังแกเธออีกรอบเมื่อเช้านี้ โดยที่เธอคิดว่าเขาได้มีการบันทึกภาพที่ น่าอายของเธอไว้บางช่วง ทำให้แก้วกานดาไม่สามารถคัดค้านในสิ่งที่เขาต้องการได้ เพราะคำขู่ด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดยังดังก้องอยู่ในหู
“ถ้าฝ้ายหนีไปอีก ผมจะส่งภาพนี้ให้ทุกคนบนโลกได้รับรู้ว่า ฝ้ายเร่าร้อนแค่ไหน”
ในตอนแรกนลินขอร้องให้แก้วกานดามาทำงานด้วยในตำแหน่งเลขาส่วนตัว เธอตอบปฏิเสธในทันที เพราะรู้อยู่แล้วว่าการทำงานในบริษัทเดียวกับนลิน นั่นหมายความว่าเธอต้องเจอกับนักรบด้วย เพราะเป็นบริษัทของครอบครัวเขา หากแต่การเสนอเงินเดือนที่สูงลิ่วของเพื่อนทำให้เธอเปลี่ยนใจ เธอมีภาระหนี้ก้อนโตที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้แก้วกานดาตัดสินใจรับปากเพื่อน และคิดว่านักรบเป็นผู้บริหารระดับสูงคงไม่มีเวลามายุ่งกับตัวเอง แต่รู้สึกว่าเธอจะคิดผิดถนัด แก้วกานดามีกำหนดเริ่มงานในเดือนหน้า เพราะเธอยังต้องทำงานที่เดิมก่อนจนถึงสิ้นเดือนนี้
“ฝ้ายเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ” นักรบพูดโดยไม่มองหน้าแก้วกานดา
“เอ่อ...ฝ้ายต้องทำงานที่เดิมถึงสิ้นเดือนนี้ค่ะ” น้ำเสียงเบาหวิวอย่างเกรงกลัว เอ่ยตอบไปอย่างหวาดหวั่น
“ผมเริ่มจ่ายเงินเดือนให้คุณตั้งแต่พรุ่งนี้ คุณก็ต้องเริ่มงานพรุ่งนี้” นักรบสบตากลมโตด้วยแววตาข่มขู่
“ให้ฝ้ายพักผ่อนก่อนสิพี่รบ อย่าโหดนักเลยน่า ลินกับฝ้ายวางแผนกันไว้ว่าจะพักต่อที่นี่อีกสักสองคืนนะพี่รบ ดูซิยังไม่เริ่มงานเลย ก็ขู่ซะผู้ช่วยเลขาหน้าเหลือสองนิ้วแล้ว” นลินพูดจบก็หันไปยิ้มกับแก้วกานดา ซึ่งอีกฝ่ายยิ้มตอบแบบฝืนๆ และแอบเหล่ตามองคนที่นั่งตีหน้าเคร่งขรึมว่าเขาจะมีท่าทีอย่างไร
“ก็ดีเหมือนกัน พักต่ออีกสักสองคืน พี่ก็เหนื่อยๆ ไม่ได้พักมานานแล้ว จะได้อยู่เป็นเพื่อนลินกับฝ้ายด้วย ดีไหม” นักรบยิ้มให้น้องสาวตนเอง
“ดีที่สุดเลยค่ะพี่ชาย แค่พี่รบมาเซอร์ไพรส์งานวันเกิดเมื่อคืนลินก็ปลื้มปริ่มสุดๆแล้ว ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่รบต้องขับเรือพาลินกับฝ้ายไปเที่ยวเกาะนะ” นักรบพยักหน้ายิ้มๆ นลินทำหน้าตาดีใจสุดๆ ผิดกับแก้วกานดาที่ใจเต้นแรง ในใจรู้สึกหวาดกลัวการที่ต้องอยู่บ้านหลังเดียวกันกับผู้ชายคนนี้เหลือเกิน เมื่อวานก่อนจะตัดสินใจมางานเลี้ยงวันเกิดนลิน ที่บ้านพักส่วนตัวริมชายหาดของครอบครัวเขาและนลิน แก้วกานดาก็ลองเลียบเคียงถามหานักรบแล้ว แต่นลินบอกว่าพี่ชายเธอติดงานไม่ได้มาด้วย หญิงสาวจึงยอมนั่งรถมากับนลิน หากเธอรู้ว่าต้องมาเจอกับเขา และต้องมาโดนเขารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอจะไม่ยอมมาเหยียบที่นี่เด็ดขาด
“ไปเปลี่ยนชุดกันเถอะฝ้าย ไปว่ายน้ำที่เกาะส่วนตัวกัน บรรยากาศเงียบสงบ หาดทรายสวยมาก” นลินยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้ววางลง ก่อนจะลุกขึ้นวิ่งขึ้นไปบนบ้าน เพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวเกาะอย่างเบิกบาน ผิดกับแก้วกานดาที่อยากจะร้องไห้ออกมา เธอหันไปมองนักรบอย่างกล้าๆกลัวๆ ซึ่งเขามองเธออยู่ก่อนแล้ว
“รีบไปเปลี่ยนชุดสิ หรือจะให้ผมเปลี่ยนให้” แก้วกานดารีบลุกจากเก้าอี้ทันที หญิงสาววิ่งตามนลินขึ้นไปบนบ้าน โดยไม่หันกลับมามองสายตาพราวระยับ ที่มองตามร่างของเธอจนลับตา
นลินและแก้วกานดาเดินจูงมือกันลงบันไดมา ทั้งสองอยู่ในชุดว่ายน้ำบิกินี่สีสดใส และพันผ้าบางพลิ้วสีพื้นผืนใหญ่ไว้ที่เอว นลินรวบผมเกล้าไว้บนศีรษะ แต่แก้วกานดาปล่อยผมยาวระบ่าเนียน นักรบนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว เขามองกราดทั่วร่างเธอ และนี่ก็หนึ่งในสาเหตุที่เธอตัดสินใจปล่อยผม อย่างน้อยมันก็ปิดบังอกอวบเธอจากสายตาลวนลามของเขาได้ไม่มากก็น้อย
“ไปกันเถอะพี่รบ ร่างกายต้องการทะเล้ ทะเล” นลินเดินนำหน้าออกประตูบ้านไปอย่างมีความสุข แก้วกานดารีบสาวเท้าเดินตาม แต่คนตัวโตลุกขึ้นยืนแล้วดึงรั้งแขนเธอแรง จนร่างเล็กแต่อวบอัดเซปะทะอกกว้าง
“ถ้าไม่ติดว่ายายลินอยู่ด้วยนะ ผมจับฝ้ายลอกคราบแล้วกดลงตรงโซฟาตอนนี้เลยล่ะ รู้ไหมว่าฝ้ายกำลังยั่วผม”
แก้วกานดาพยายามสะบัดตัวออกจากเขา “หยาบคาย...คิดแต่จะเอาเปรียบคนไม่มีทางสู้”
“ใครว่าฝ้ายไม่มีทางสู้ นี่ไม่รู้ตัวเลยหรือว่าเวลาผมอยู่ในตัวฝ้ายน่ะ ฝ้ายสู้มือ แล้วก็สู้...” นักรบเบี่ยงไปกระซิบข้างหูเล็ก แก้วกานดาแก้มร้อนผ่าว สะบัดหน้าหนีกัดริมฝีปากแน่น
“พี่รบ ฝ้าย เร็วๆสิ ทำอะไรกันอยู่น่ะ” เสียงนลินโวยวายมาจากนอกบ้านทำให้นักรบปล่อยแขนกลมกลึง หญิงสาวรีบวิ่งออกจากประตูบ้านไปทันที นักรบมองตามร่างระหงแล้วหัวเราะในลำคอ
“ทะเลจ๋า...ลินมาแล้วจ้า” นลินตะโกนเสียงดังขณะยืนอยู่บนเรือยอชต์ส่วนตัวขนาดเล็ก แล้วทำท่ากางแขนเงยหน้ารับลมแรง แก้วกานดายิ้มไปกับท่าทางของเพื่อนสาว เธอเผลอยิ้มกับทะเล ท้องฟ้า และสายลม ลืมเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองไปชั่วขณะ อย่างน้อยก็ตอนนี้ที่นักรบทำหน้าที่เป็นกัปตันขับเรือ หากแต่สายตาคมกริบกลับจ้องมองเธอเป็นระยะๆ บิกินี่ตัวจิ๋วและผ้าแพรผืนบางนั้น ไม่สามารถปิดกั้นความงามที่เขาเคยเห็นได้เลย ทุกส่วนของร่างกายแก้วกานดาเขาจดจำได้ทุกตารางนิ้ว และยังคงอยากมองอยากจับต้องไม่รู้เบื่อ รอยยิ้มอย่างมีความสุขนั้นทำให้เขาถอนหายใจแรง ทำไมเขาต้องมาเกี่ยวข้องกับผู้หญิงอย่างแก้วกานดาด้วยนะ แค่คิดหัวใจก็ปวดหนึบขึ้นมาทันทีเสียงหัวเราะของสองสาวดังกังวานทั่วบริเวณหาดทรายขาว นลินกับแก้วกานดาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน นักรบจับตามองร่างของแก้วกานดาไม่วางตา ความร้อนรุ่มมันตีตื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ปกติแล้วเขาไม่เคยขาดแคลนคู่นอน แต่เมื่อมาเจอแก้วกานดาเขากับตักตวงเอาจากเธอราวกับว่าอดอยากมาแรมปีก็แค่ของเล่นที่ไล่จับยาก นั่นคือเหตุผลที่นั
นักรบนั่งคุกเข่าลงกับพื้นข้างๆเก้าอี้ มือหนาลูบไล้ไปตามร่างที่สั่นระริก ริมฝีปากหยักก้มลงจูบแก้วกานดาอีกครั้งเนิ่นนาน ก่อนจะผละออกและลากลิ้นร้อนสากไปตามลำคอระหง เรื่อยลงมาดูดกลืนยอดอกทั้งสอง ขณะที่มืออุ่นจัดของเขาลูบไล้ต้นขาเนียนทั้งสอง เรื่อยมาจนถึงเนินอวบที่มีไรขนปกคลุมอยู่ นิ้วใหญ่แทรกลงช้าๆกลางกลีบกุหลาบงาม“อ๊า...คะ...คุณรบ” แก้วกานดาบิดร่างแอ่นสะโพกรับการรุกล้ำนั้นทันที“อยากได้ไหม...ตอบสิฝ้าย” นักรบกระซิบเสียงกระซิบถามอยู่กับอกอวบ แก้วกานดาส่ายศีรษะขณะที่สะโพกยกตามนิ้วเรียวใหญ่ที่ถอนออกจากร่างตน“มันทรมานนะ ถ้าอยากได้อ้าขาออกสิ ผมจะทำให้ฝ้ายมีความสุข” นักรบผละจากอกอวบ ใช้มือบีบเคล้นสะกิดยอดอกอวบ สร้างความเสียวกระสันให้คนที่ถูกกระทำไปเรื่อยๆ มือใหญ่อีกข้างบีบขยำเนินกลางกายสาวสลับกับการกรีดลงร่องลึกช้าๆ แก้วกานดาแทบจะขาดใจ เธอต้องการหลุดพ้นจากความทรมานที่เสียวซ่านนี้“อ้าขาออกสิฝ้าย จับดูสิ ฝ้ายอยากให้มันเข้าไปไหม” นักรบจับมือบางวางบนตัวตนแข็งแกร่งที่ชูผงาดของเขา แก้วกานดาหอบหายใจหนัก ส่วนกลางกายสาวหลั่งน้ำหวานมากมายจนเธอรู้สึกปวดหน่วงจนเกินที่จะต้าน
สะโพกสอบขยับเร็วแรง ขณะที่แก้วกานดาจับราวไว้แน่น เพราะคนข้างหลังที่โจนจ้วงเข้าออกในตัวเธออยู่ไม่ได้ยั้งแรงไว้สักนิด ใบหน้างามจ้องมองไปยังท้องทะเลกว้างที่มืดมิด แล้วค่อยๆหลับตาลงยอมรับความซ่านเสียวที่สาดใส่ร่างโดยดุษณี เธอตะกายไปถึงฟากฝั่งความสุขหลายครั้ง จนขาแทบจะไม่มีแรงยืน หากนักรบไม่เกี่ยวรั้งร่างเธอไว้ แก้วกานดาคงลงไปกองอยู่กับพื้นแล้ว“คราวหลังอย่าปฏิเสธผมอีกนะฝ้าย ผมไม่ชอบ อื้มมมม” นักรบขบกรามแน่นขณะที่กระหน่ำแรงสอดใส่“อ๊ะๆ...กรี๊ด!” แก้วกานดาครางเสียงหวานเนิ่นนาน ชายหนุ่มรัวสะโพกยกสุดท้ายอย่างรุนแรง ลำแขนแกร่งปล่อยร่างบางทันที เมื่อปลดปล่อยทุกหยาดหยดในร่างเล็ก หญิงสาวแข้งขาอ่อนแรงทรุดลงไปนั่งกับพื้นเรือ ขณะที่นักรบเดินไปหยิบกางเกงขาสั้นมาสวม โดยไม่สนใจร่างของคนที่หมดแรงนั่งอยู่ที่พื้น“พี่รบ ฝ้าย อยู่ไหนกันอะ” เสียงนลินดังขึ้นมาจากด้านล่าง แก้วกานดาตกใจลนลานคลานไปเก็บชุดบิกินี่กับผ้าแพร หญิงสาวรีบสวมใส่มันด้วยมืออันสั่นเทา และชาวาบไปทั้งร่างเมื่อคิดว่า ถ้านลินมาเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่เธอจะทำอย่างไร นักรบหันไปมองดูแก้วกานดาด้วยสายตาเย็นชา“ว่าไงล
“พี่ไม่อยากเอาเปรียบฝ้าย ถ้าวันหนึ่งฝ้ายเจอคนที่ใช่พี่จะปล่อยฝ้ายไป แต่จากวันนี้เป็นต้นไปเราจะเริ่มเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ อนาคตมันไม่แน่นอน ถ้าฝ้ายไม่ปล่อยมือพี่ พี่ก็จะอยู่กับฝ้ายตลอดไป แต่ขอเวลาพี่หน่อยนะ เดือนหน้าคุณแม่ให้พี่ไปติดต่อขยายงานที่ต่างประเทศ ไปอยู่ตั้งเกือบสองเดือน พี่สัญญาว่าจะกลับมารับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” คำสัญญาสุดท้ายก่อนที่นักรบจะหายไปจากชีวิตของแก้วกานดา มันผ่านมาเกือบปีแล้ว แต่มันยังดังก้องอยู่ในหูของผู้หญิงช่างฝันอย่างเธอ หากแต่ความเป็นจริงมันไม่เป็นอย่างฝัน“ฝ้าย ถึงแล้ว เหม่ออะไรนักหนา” เสียงนลินดังขึ้นดึงให้แก้วกานดากลับเข้าสู่โลกความจริง“ดูดาวอยู่จ้ะ ท้องฟ้าคืนนี้สวยดีเนอะลิน”“อือ...แต่ตอนนี้ลินหิวมาก ไปกันเถอะ”“จ้า” แก้วกานดาฝืนยิ้มให้กับเพื่อน หญิงสาวชำเลืองดูนักรบที่ขึ้นไปยืนบนสะพานที่ทอดยาวไปสู่ชายฝั่งก่อนแล้ว นักรบยื่นมือให้น้องสาวจับและช่วยดึงขึ้นจากเรือ“ตามมาเร็วๆนะฝ้าย พี่รบ ลินไปก่อนล่ะ ใครถึงทีหลังล้างชามนะ”นลินหัวเราะร่วนแล้วรีบวิ่งไปตามสะพาน แก้วกานดามองต
“ค่ะ” แก้วกานดารับคำสั้นๆ มือบางเผลอยกขึ้นลูบหน้าท้องตัวเอง“นี่คือสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆสำหรับเธอ ขอบใจมากที่เธอเข้าใจ อ้อ...ไม่ต้องห่วงเรื่องยายลินนะ ฉันจะอธิบายให้ลินเข้าใจเองว่าเธอกับตารบเลิกกันด้วยดี”แก้วกานดาจิกฝ่ามือตัวเองไว้จนรู้สึกเจ็บ หญิงสาวไม่ได้มองเช็คที่ถูกยื่นมาตรงหน้าด้วยซ้ำ“ขอบพระคุณที่คุณแม่ให้ความกรุณากับฝ้ายนะคะ แต่ฝ้ายคงไม่ขอรับไว้ สวัสดีค่ะ” แก้วกานดายกมือไหว้ลาแล้วลุกจากโซฟานุ่ม“อ้อ...ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่บอกเรื่องนี้กับตารบนะ ถ้าเธอรักเขาจริง เธอคงอยากให้เขาได้อยู่กับคนที่ดีที่เหมาะสมกับเขา ไม่ใช่คนที่ธุรกิจเล็กๆของครอบครัวกำลังจะล้มเหลวนะ”แก้วกานดาขบริมฝีปากแน่น หญิงสาวไม่ได้หันกลับไปมองหน้าคุณนัยนา เธอเลือกที่ก้าวออกจากบ้านหลังใหญ่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา“ปวดหัวจัง” นลินบ่นเบาๆ เสียงของเธอทำให้แก้วกานดาตื่นจากภวังค์รีบปรี่เข้าไปนั่งบนเตียงข้างเพื่อน“เป็นอะไรมากไหมลิน”“อืม...ลินขอพารากับน้ำหน่อยสิฝ้าย อยู่ใ
“อื้มมม” นักรบปลดปล่อยความสุขสุดยอดไล่ตามหญิงสาวไปติดๆ ท่อนแขนแกร่งรวบร่างบางไว้กอดรัดแนบแน่น ก่อนที่ต่างคนต่างผ่อนคลายและหอบหายใจแรงเหมือนกัน นักรบปล่อยขาเรียวของหญิงสาว ให้เธอยืนบนพื้น แต่ยังกอดเกี่ยวร่างนุ่มนิ่มไว้“เห็นไหมว่าฝ้ายก็ชอบเรื่องพรรค์นี้เหมือนกัน”“ไม่จริง ไม่ใช่ คุณข่มขืนฝ้าย”“อย่างนี้เขาไม่เรียกข่มขืนหรอกฝ้าย เขาเรียกว่าสมยอม”“คุณรบ!” แก้วกานดาดิ้นแรง ขณะที่นักรบเหยียดริมฝีปากเล็กน้อย“อย่างนี้เขาถึงจะเรียกว่าข่มขืน”ร่างบางถูกบังคับกดให้นอนลงกับพื้นครัว หลังของแก้วกานดาสัมผัสได้ถึงความแข็งกระด้างของกระเบื้องที่เย็นเฉียบ นักรบแทรกตัวเองเข้ามาตรงกลางระหว่างขาเรียว แก้วกานดาพยายามจิกข่วนแขนของชายหนุ่ม และออกแรงดิ้นรน“ปล่อยนะ ปล่อยฝ้าย” เสียงดังของหญิงสาวทำให้นักรบใช้มือใหญ่ปิดปากของเธอไว้แน่น และใช้มืออีกข้างจับข้อมือเล็กตรึงไว้หรือศีรษะของคนที่กำลังดิ้นรน แก้วกานดาตาเบิกโพลงตกใจ และเมื่อชายหนุ่มพยายามดุนดันตัวตนของเขา เข้ามาในร่างเธออีกครั้งด้วยความรุนแรง ร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงกลางทำให้แก้วกานดาไม่สามารถหุบขาเข้าได้
“ลินมาทำอะไรแต่เช้า” แก้วกานดายิ้มขำๆกับการมาของเพื่อน“ก็มารับพนักงานกิตติมศักดิ์ไง” นลินยิ้มกว้าง ก่อนจะยกมือไหว้ธาดา และกานต์แก้ว บิดาและมารดาของเพื่อนรัก“ลินมารับพนักงานใหม่ค่ะคุณพ่อคุณแม่ สัญญาว่าจะดูแลอย่างดีเลยค่ะ” ผู้สูงวัยกว่าทั้งสองยิ้มไปกับท่าทางของผู้มาเยือนแต่เช้า“ขอบใจมากนะหนูลิน ที่ให้โอกาสฝ้าย” ธาดาเอ่ยขึ้นขึ้นพร้อมกับยกมือลูบศีรษะลูกสาวตนเอง“ตั้งใจนะลูก ให้สมกับที่หนูลินไว้วางใจ” กานต์แก้วสำทับลูกสาวอีกครั้ง“ค่ะ...ฝ้ายไปทำงานก่อนนะคะ” แก้วกานดาและนลินยกมือไหว้ลาทั้งสอง ธาดาและกานต์แก้วมองตามรถมินิคูเปอร์สีแดงที่แล่นออกจากรั้วบ้านไป แล้วถอนหายใจยาวออกมาพร้อมกัน“ฝ้ายจะทนได้หรือคะคุณ ฉันสงสารลูกจัง” กานต์แก้วน้ำตารื้น บิดาและมารดาของแก้วกานดารู้เรื่องราวระหว่างลูกสาวของตนกับนักรบดี ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ถ้าผมไม่บริหารธุรกิจของเราผิดพลาด ลูกก็คงไม่ต้องกลับไปหาความเจ็บปวดอีก หรือว่าเราจะขายบ้านหลังนี้ แล้วกลับไปอยู่ที่บ้านของคุณที่ต่างจังหวัดดี ถ้าขายบ้านได้แล้วไปชำระหนี้ให้ธนาคาร เงินก็ยังคงพอเหลืออีกก้อนให้เราเอาไปเร
“ได้ค่ะ” แก้วกานดายิ้มกว้าง หอบงานเข้าไปในห้องท่านประธาน นักรบช้อนสายตาขึ้นมองครู่เดียว แก้วกานดาไม่ได้สนใจคนที่นั่งทำงานอยู่ เธอมีงานให้รับผิดชอบแล้ว จึงไม่ได้สนใจว่าเขาจะมองมาหรือทำอะไร ต่างฝ่ายต่างก้มหน้าทำงานโดยไม่มีใครพูดจา“ไปกินข้าวกันเถอะฝ้าย” ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก พร้อมกับเสียงดังของนลินทำให้นักรบและแก้วกานดาหันมองไปทางเดียวกัน“ที่นี่ไม่ใช่ตลาดสดนะลิน” นักรบปรามน้องสาวของตัวเอง นลินยิ้มอย่างสำนึกผิด แล้วก้าวเท้าเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของพี่ชาย“ขอโทษค่ะ” นักรบส่ายศีรษะอย่างระอาน้องสาวตัวเอง“ลินจะก้าวมาเป็นผู้บริหารของบริษัท ต้องรู้จักวางตัวให้น่าเกรงขามและน่าเคารพ นี่อะไรเอะอะโวยวายเสียงดังเป็นเด็กไปได้” นลินก้มหน้าทำปากขมุบขมิบล้อเลียนพี่ชาย นักรบพูดต่อว่า“จะมาชวนฝ้ายไปกินข้าว ถามเขาสักคำหรือยังว่างานเสร็จหรือยัง”แก้วกานดาส่งยิ้มแหยๆมาให้เพื่อน นลินทำหน้างง“ก็ถึงเวลากินข้าวแล้วนี่พี่รบ ลินหิวแล้ว กินข้าวไม่ตรงเวลาเดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก”“ลินไปกินก่อนเลย พี่ก็ทำงานยังไม่เส
“พี่นวดให้ฝ้ายดีกว่า” แก้วกานดายิ้มอยู่กับอกกว้างอย่างรู้ทัน ร่างของคนตัวเล็กกว่าถูกพลิกให้นอนลงบนเตียงนุ่ม นักรบทาบทับตามติดมันที สองสายตาประสานกันนิ่ง แก้วกานดายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของสามีเบาๆ “พี่ชอบเวลาฝ้ายสัมผัสตัวพี่” สายตากรุ้มกริ่มของสามีทำให้เธอรู้ความหมายของเขา มือเล็กยันแผงออกกว้างให้เขาเป็นฝ่ายนอนหงายลง เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่และกางเกงนอนขายาวถูกถอดออกอย่างว่องไวโดยเจ้าของ แก้วกานดาขมวดคิ้วมุ่น หัวเราะกับท่าทางกระตือรือร้นของสามี “พี่ไม่อยากให้ฝ้ายเหนื่อย” นักรบยิ้มกว้างนอนรออย่างมีความหวัง ใบหน้านวลแดงซ่านเมื่อกวาดตามองเรือนกายกำยำของสามี ถึงจะอยู่กินกันมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่ชินกับการมองเห็นเขาในสภาพเปล่าเปลือยสักที มือเล็กลูบไล้ทั่วแผ่นอกกำยำ ขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าหล่อคมของสามี นักรบหลับตาพริ้ม พ่นลมออกจากปากเป็นการระบายอารมณ์ร้อนแรงภายใน ที่เริ่มจะเดือดปุดๆ เพราะเกรงว่าตัวเองจะทนไม่ไหว จะต้องเป็นฝ่ายรุกเสียก่อนที่ภรรยาสาวจะสำรวจร่างของตนจนถ้วนทั่ว “อา...เลื่อนลงไ
“เห็นไหมลิน...ลูกมีความสุขกับการมีเพื่อนเล่น เราต้องจริงจังกับการผลิตน้องให้น้องนีแล้วนะ” นลินเงยหน้าสบตาสามี มือเล็กบิดสีข้างของคนตัวใหญ่เบาๆ“โอ๊ย!”“ไม่ต้องเอาลูกมาอ้างเลยนะวิน เดี๋ยวเถอะ” นลินจิกสายตามองอย่างรู้ทัน หญิงสาวสะบัดหน้าหนีผละออกจากวงแขนแกร่ง รีบสาวเท้าเดินตามลูกน้อยไป นายแพทย์ชัยชนะมองตามร่างภรรยาด้วยสายตามุ่งมั่นหลังจากมื้อค่ำที่แสนสุขของครอบครัวใหญ่ นักรบ แก้วกานดา นายแพทย์ชัยชนะ นลินและเด็กๆมารวมตัวกันที่โต๊ะไม้สักตัวใหญ่บริเวณระเบียงหลังบ้าน ส่วนผู้สูงอายุเลี่ยงไปคุยกันอีกมุมหนึ่งของบ้าน เด็กๆส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันดังลั่น สลับกับเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะ“ลินทำไมไม่มีน้องให้น้องนีสักทีล่ะ ลูกคนเดียวเหงานะ”“เอ่อ...” นลินเพียงแค่อ้าปากกำลังจะตอบ สามีเธอก็แย่งหน้าที่ตอบคำถามให้ก่อน“กำลังพยายามอยู่ฝ้าย ลินไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไร ส่วนวินน่ะพร้อมทุกที่ทุกเวลา”คำพูดของนายแพทย์หนุ่มเรียกเสียงหัวเราะของทุกคน แต่คนที่ถูกพาดพิงกลับส่งสายตาเขียวปั้ดให้สามีตัวเอง“น้องนีครับ คืนนี้นอนกับคุณยายนะลูก” นา
“ฝ้ายติดลูกค้า ช่วงนี้ที่รีสอร์ตยุ่งๆ...สวัสดีครับปกป้องสุดหล่อ” เด็กชายปกป้องยิ้มแหยๆ ก้าวมายืนข้างหน้าบิดาแล้วยกมือไหว้ผู้มาเยือนอย่างนอบน้อม“สวัสดีครับพ่อรบ” นักรบยื่นมือใหญ่ไปยีศีรษะเล็กของเด็กชายเบาๆ เด็กหญิงคนเดียวท่ามกลางหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ก้าวมายืนเคียงข้างบิดา จ้องมองลูกชายของเพื่อนพ่ออย่างข่มเต็มที่“เข้าไปในบ้านกันเถอะน้องปองเพิ่งกินนมเสร็จพอดี” ประณตเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในบ้าน เด็กชายธงรบจับมือบิดาเดินเข้าไปบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวสิน้องป้อง” เด็กชายปกป้องหยุดการก้าวเดิน แล้วหันกลับไปมองคนที่เรียกตนเองด้วยสายตาไม่พอใจ“ป้องไม่ใช่น้องใคร ป้องเป็นพี่” คนถูกเรียกน้องแสดงความไม่พอใจออกมาทั้งหน้าตาและน้ำเสียง โดยไม่ปิดบัง เด็กหญิงแก้วกัลยายิ้มเยาะ“คุณพ่อบอกว่าป้องเกิดทีหลังนับหนึ่งตั้งสองวัน ป้องต้องเรียกนับหนึ่งว่า...พี่นับหนึ่ง” เด็กหญิงผมเปียยิ้มอย่างผู้ชนะ“คุณพ่อบอกว่านับหนึ่งเป็นคู่หมั้นของป้อง โตขึ้นนับหนึ่งต้องมาเป็นแฟนของป้อง นับหนึ่งนั่นแหละต้องเรียกป้องว่าคุณแฟน” เด็กชายตัวน้อยตอบโต้กลับ สบตาดวงตากลมโตอย่างเหนือกว่า“ไม่
“นับหนึ่งไม่ได้เล่นนะ นับหนึ่งกำลังช่วยคุณตาปลูกดอกกุหลาบแปลงใหม่อยู่” เสียงเจื้อยแจ้วบ่งบอกว่างอน ทำให้ผู้เป็นพ่อหัวเราะในลำคอ“ตัวเล็กแค่นี้ขยันจังเลย สงสัยพ่อต้องมีรางวัลให้ซะแล้ว” เด็กหญิงตาโตเมื่อได้ยินคำว่ารางวัล“รางวัลอะไรคะ” นักรบยิ้มส่ายศีรษะ“ยังไม่บอก จนกว่านับหนึ่งจะไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่สวยๆ” หรี่ตามองบิดาอย่างชั่งใจ“ก็ได้ค่ะ” ร่างเล็กดิ้นลงจากอกบิดา แล้ววิ่งเข้าบ้านไปทันที แก้วกานดาอุ้มลูกชายตัวเล็กอายุสามขวบเดินออกมาจากในบ้าน สวนทางกับเด็กหญิงแก้วกัลยาที่วิ่งปรู๊ดเข้าไปบ้านพอดี“โกหกอะไรนับหนึ่งอีกล่ะคะ ถึงได้ยิ้มหน้าบานขนาดนั้น” นักรบรับเด็กชายธงรบมาอุ้มไว้ แล้วโอบร่างภรรยาไว้หลวมๆ ริมฝีปากหยักได้รูปจุมพิตที่ขมับของคนร่างเล็กหนักๆ“ไม่ได้โกหกสักหน่อย พี่ว่าจะพานับหนึ่งไปเยี่ยมน้องปองที่ไร่ปรานี ฝ้ายไปด้วยกันนะ” ปิ่นหล้าภรรยาของประณตเจ้าของไร่องุ่นใกล้เคียงกันเพิ่งคลอดบุตรสาวคนเล็ก นักรบจึงอยากไปเยี่ยมตามประสาเพื่อนกัน“วันนี้มีกรุ๊ปทัวร์คุณหมอเพื่อนของวินมาค่ะ พี่รบจำไม่ได้เหรอ ถ้าฝ้ายไปด้วยใครจะดูแลลูกค้าล่ะคะ” หลังจาก
“จ้า...ฝ้ายก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ อาไปก่อนนะนับหนึ่ง” นลินก้มลงคุยกับหลานที่ยังอยู่ในท้องของแก้วกานดา“ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” นักรบหันไปฝากฝังน้องสาวกับว่าที่น้องเขย นายแพทย์ชัยชนะยิ้มพยักหน้ารับ“เป็นหน้าที่ของผมออยู่แล้วครับพี่รบ” นลินตวัดสายตามองคนพูดอย่างหมั่นไส้ ช่างสรรหาคำพูดมาทำคะแนนเหลือเกิน คนที่ถูกหมั่นไส้ตีคิ้วยิ้มด้วยแววตาเป็นประกาย จนนลินต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเอง“ขับรถดีๆนะวิน” แก้วกานดาโบกมือลาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม“เราต้องแต่งงานกันเดือนหน้านะลิน” หลังจากรถแล่นออกจากประตูรั้ว นายแพทย์ชัยชนะก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ลินรู้แล้ว วินจะย้ำอะไรนักหนา”“ก็ย้ำเพื่อให้ลินรู้ว่าห้ามบ่ายเบี่ยงอีกเด็ดขาด”นลินเบี่ยงตัวหันมามองหน้าคนขับรถ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น นายแพทย์ชัยชนะยิ้มกว้าง หันหน้ามาสบตาคนนั่งข้างแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ“คืนที่ผ่านมา มันเป็นช่วงที่ร่างกายของลินพร้อมตั้งครรภ์ที่สุด และวินก็ตั้งใจทำเต็มที่ ไม่แน่นะว่าลูกของวินอาจจะอยู่ในท้องของลินแล้วก็ได้”นลินอ้าปากค
“อื๊อ...พี่รบ” แก้วกานดาประท้วงเสียงพร่า“รู้ไหม...นอกจากพี่จะเป็นตาแก่ขี้หวงแล้ว พี่ยังเป็นตาแก่หื่นกามจอมอึดด้วยนะ” เสียงทุ้มกระซิบริมหูเล็ก แก้วกานดายิ้มหวานพลิกร่างนอนหงาย“จะอึดแค่ไหนกันเชียว...ขี้โม้” คนตัวเล็กไม่ยอมลดราวาศอก บังอาจท้าทายคนตัวโต“พี่ถือว่าเป็นสาส์นท้ารบ นักรบอย่างพี่ไม่มีวันถอยทัพแน่ ถ้าศัตรูไม่พ่ายทัพแตกหนีไปเสียก่อน และถึงจะพ่ายทัพแตกกระเจิง พี่สาบานว่าจะรุกไม่ให้ได้หายใจหายคอกันทีเดียว หึๆ” คำพูดของสามีทำให้แก้วกานดาใจสั่น รู้แน่ว่าเขาคิดเป็นจริงเป็นจัง หญิงสาวจึงหวีดร้องเบาๆ เมื่อร่างเล็กของตัวเองถูกจับลอกคราบอย่างรวดเร็ว“พี่รบขา ใช้แผนการรบแบบละมุนละม่อมนะ ห้ามใช้แผนการรบขั้นรุนแรง ลูกอยู่ในนี้นะคะ” แก้วกานดาเตือนสติสามี“ครับผม” รับคำเรียบร้อย นักรบก็ไม่ปล่อยให้ภรรยาได้ทันตั้งตัว เขาจู่โจมรุกหนักด้วยการมอบจุมพิตที่เร่าร้อน มือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างนุ่มนิ่มอวบอิ่ม หยุดทักทายบีบเคล้นอกอวบสลับกับการคีบเม็ดสีหวานเบาๆ ริมฝีปากร้อนเคลื่อนที่ช้าๆดื่มด่ำกับผิวเนียนหอมกรุ่นทั่วร่างอย่างหลงใหล“เมียพี่หวานที่สุด น่ากินไปทั้ง
“อื้มมมม...รักลินที่สุด” เสียงครางทุ้มต่ำบ่งบอกว่า เขาได้ล่องลอยอยู่ในเวิ้งฟ้าเดียวกันกับคนรัก คำบอกรักกระซิบด้วยเสียงพร่าแว่วหวานนัก ร่างใหญ่พลิกกายนอนหงาย โดยกอดคนร่างเล็กให้นอนแนบกายทาบทับอยู่บนร่างของตน สองร่างยังคงประสานกันอยู่กลางกาย นลินซบหน้าบนแผ่นอกคนคนรัก ลมหายใจของเธอยังหอบถี่กระชั้น “พักยกก่อนเนอะ” เสียงทุ้มกระซิบกระซาบ แล้วจูบซับเรือนผมหอมกรุ่น “บ้า” ถึงจะยังเหนื่อยกับเกมรักที่เพิ่งผ่านไป แต่นลินก็ยังพอที่อ้าปากต่อว่าคนหื่นได้ มือใหญ่กดลงบนสะโพกเต่งตึงแรงๆ พร้อมกับยกสะโพกของตนสวนรับค้างไว้ ความซาบซ่านละมุนที่ยังวนเวียนอยู่ในร่างสาวทำให้นลินเสียววูบขึ้นมาทันที “อ๊ะ! วิน...อย่าแกล้งกันสิ” คนแกล้งหัวเราะชอบใจ “ก็ลินน่ารัก อยากแกล้งแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนเลย” “จะบ้าเหรอ...งานการไม่มีทำหรือไง” “มี...แต่ชอบทำลินมากกว่า” “อุ๊ย! วิน” มือหนาจับบ่าเล็กดันขึ้นให้ร่างของนลินนั่งคร่อมอยู่บนร่างตนเอง หญิงสาวหน้าแด
นายแพทย์ชัยชนะหัวเราะในลำคอ “เพราะรักหรอกน่า...เดือนหน้าเราจะต้องแต่งงานกันนะ วินไม่ อยากนอนคนเดียว อยากตื่นมาตอนเช้าแล้วเห็นลินเป็นคนแรก” มือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังนุ่ม“ปากหวานก็เป็นด้วย” นลินพูดเสียงอู้อี้อยู่ชิดแผงอกกว้าง“วินรักลินนะ” นลินผงกศีรษะขึ้นสบตาแวววาวของชายหนุ่ม สองสายตาประสานกันอยู่เนิ่นนาน นายแพทย์ชัยชนะค่อยๆพลิกร่างตัวเองขึ้นคร่อมร่างของหญิงสาวให้อยู่ใต้ร่างของตนเอง นลินพ่นลมหายใจออกเบาๆ หลับตาลงช้าๆเมื่อใบหน้าหล่อเหลาของคนบนร่างโน้มลงมาใกล้ ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มของเธอถูกครอบครองแผ่วเบา หญิงสาวเผยอปากรับอย่างเต็มใจ ชายหนุ่มเริ่มรุกเร่าร้อน ลิ้นสากของเขาไล่ต้อนตวัดรัดรึงลิ้นเล็กของเธอด้วยความโหยหา นลินจูบตอบด้วยประสบการณ์ที่น้อยนัก แต่กลับทำให้ชายหนุ่มครางกระหึ่มในลำคอด้วยความพึงพอใจ“วินรักลินที่สุด” เสียงทุ้มดังอยู่ชิดริมหูเล็ก นายแพทย์ชัยชนะละจากริมฝีปากของนลิน ใช้จมูกโด่งซอกซอนดอมดมไปตามใบหน้าเนียนและลำคอหอมกรุ่น ชุดนอนของหญิงสาวดูจะเกะกะสายตาเขาเป็นที่สุด มือใหญ่จึงลงมือแกะและถอดปราการบนร่างบางทุกชิ้นออกอย่างรวดเร็ว นลินนอนหอบหายใจแรงอย่างเขิน
“รีบๆแต่งกันไปเถอะหนูลิน หมั้นกันนานๆผู้คนจะมองไม่ดี มีคนมาดูแลหนูลิน คุณนัยนาจะได้สบายใจ” กานต์แก้วพยายามเกลี้ยกล่อมนลินช่วยอีกคน เพราะหน้าตาของหญิงสาวบ่งบอกว่างอนมารดาอย่างเห็นได้ชัด“หรือหมอวินทำอะไรให้ลินไม่พอใจหรือเปล่า” นักรบลุกขึ้นยืนขึงขัง เงื้อกำปั้นขึ้นเล็งไปที่นายแพทย์หนุ่มที่นั่งอยู่ข้างน้องสาว นลินรีบยกมือห้ามทันควัน“ไม่ๆค่ะ พี่รบจะทำอะไรเนี่ย วินเขาไม่ได้ทำอะไรลินสักหน่อย” ประโยคสุดท้ายของนลินฟังแล้วไม่ค่อยมั่นใจนัก เสียงหัวเราะของคนรอบข้างทำให้นลินกวาดสายตาดูทุกคนอายๆ ที่เผลอออกโรงปกป้องชายหนุ่ม“นั่นไง...เป็นห่วงหมอวินล่ะสิ...สรุปแต่งกันเดือนหน้าเลยนะ ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” คนเป็นพี่พูดจบก็นั่งลง สบตากับว่าที่น้องเขยยิ้มๆ นลินมองหน้าว่าที่เจ้าบ่าวของตนอย่างหมั่นไส้ ก็เขาเล่นยิ้มแก้มแทบจะปริอยู่แล้วนะเช้าวันต่อมาผู้สูงอายุทั้งสามออกจากบ้านแต่เช้า นักรบและแก้วกานดาช่วยกันทำงาน แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทางสามีเป็นผู้ทำทั้งหมดเสียมากกว่า ด้วยเกรงว่าภรรยาจะเหนื่อย ไม่ได้พักผ่อน นลินและนายแพทย์ชัยชนะนั่งพักผ่อนอยู่บริเวณซุ้มไม้นอกร