ปัง! นักรบใช้เท้ากระแทกประตูห้องนอนปิดทันที ที่พาตัวเองและแก้วกานดาเข้ามาอยู่ในห้อง เขาเดินตรงไปที่เตียงกลางห้องแล้วโยนร่างของแก้วกานดาลง หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้น คลานไปกอดเข่าตัวลีบชิดหัวเตียง
“จะหนีไปอีกหรือ ผมยังไม่อิ่มเลยนะ” น้ำเสียงข่มขู่มาพร้อมกับร่างของเขาที่ใช้สองเข่าเดินบนเตียง เข้าใกล้ร่างของแก้วกานดาทุกขณะ
“พอเถอะคุณรบ อย่าทำอะไรฝ้ายอีกเลย ฝ้ายไหว้ล่ะ” แก้วกานดากระพุ่มมือไหว้ ดวงตามีน้ำคลอเต็มสองเบ้า เขาใจร้ายมากเกินไปแล้ว เขาทำลายเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า บาดแผลในใจที่คิดว่าหายดีแล้ว ถูกเขากรีดซ้ำลงที่เดิมอย่างไม่ปรานี
“ผมยังไม่เบื่อ ฝ้ายต้องอยู่กับผม ต้องตอบสนองผมทุกครั้งที่ผมต้องการ เป็นที่ระบายอารมณ์ใคร่ให้ผม รู้ไหมลีลาฝ้ายเด็ดมาก ตรงนี้ก็แน่น ผมชอบ” นักรบล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงยาวรวดเร็ว แล้วตะปบมือใหญ่ลงกลางเนินสาวบีบขยำอย่างไม่เกรงใจเจ้าของ แก้วกานดาพยายามดิ้นรน สองมือดึงรั้งมือเขาออกจากจุดสงวนของตนเอง
“ฝ้ายไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของใคร คุณรบไม่มีสิทธิ์ทำกับฝ้ายอย่างนี้”
“อยากให้ผมประกาศสิทธิ์ไปทั่วใช่ไหม ฝ้ายจะได้ตระหนักได้ว่าผมมีสิทธิ์แค่ไหน”
“คุณรบไม่มีหลักฐาน ไม่มีใครเขาเชื่อคุณหรอก” แก้วกานดาเชิดหน้าอย่างไม่กลัวเกรง เธอไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไป อย่างมากเธอก็คงต้องหลบหนีเขาให้ไกลกว่านี้ เธอเคยเจ็บจนชินกับความเจ็บมาแล้ว มันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าเดิมหรอก
“หมายความว่าถ้ามีหลักฐาน ฝ้ายจะยอมใช่ไหม” นักรบหรี่ตามอง
แววตาวิบไหว
“ไม่ ฝ้ายไม่ยอมอีกแล้ว ปล่อยนะ เอามือสกปรกของคุณออกไป” มือใหญ่ที่ขยำเนินอวบอูมของเธอ ไม่ยอมผละออกไปสักที และเหมือนกับว่าเขาพยายามใช้นิ้วแทรกเข้าไปสัมผัสเนื้อนุ่มด้านในด้วย แก้วกานดาพยายามสะบัดขาเตะเขา กำปั้นที่มีแรงน้อยนิดพยายามทุบไปตามร่างของเขา แต่ไม่ได้ทำให้นักรบสะดุ้งแม้แต่น้อย เขาหัวเราะในลำคอและใช้มือรั้งขอบซับในตัวจิ๋วของแก้วกานดารูดลงไปตามท่อนขาเรียว แล้วโยนทิ้งทันที
“มาสร้างหลักฐานกันเถอะ” มือใหญ่ดึงร่างแก้วกานดาให้นอนราบลงบนเตียง เขาถลกชายกระโปรงขึ้นไปกองบนเอวคอด แยกขาขาวให้ห่างออกจากกัน แล้วตรึงขาของเธอไว้ด้วยการนั่งคร่อมบริเวณหน้าขาเรียว แก้วกานดาดิ้นรนได้เพียงส่วนบน หญิงสาวใช้ศอกยันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ก็ต้องทิ้งตัวลงทันที เมื่อนักรบใช้นิ้วบีบขยี้ที่ติ่งสีสวยสด มือเล็กทิ้งลงข้างลำตัวจิกผ้าปูที่นอนแน่น
“ใครจะรู้ใจฝ้ายเท่าผม อา...แค่นี้น้ำหวานก็ฉ่ำแล้วฝ้าย” นักรบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขายกมันขึ้นในระดับที่ถ่ายให้เห็นได้ตั้งแต่ใบหน้าจนถึงเนื้อนุ่มเบ่งบานฉ่ำเยิ้ม และมีมือของเขาที่กำลังขยี้ขยำสลับกับการใช้นิ้วแทงทะลวงไม่หยุดหย่อน แก้วกานดาบิดร่างทรมาน
“อ๊า...อย่านะ อย่าทำกับฝ้ายอย่างนี้” เสียงหวานทั้งครวญครางและอ้อนวอนเขา เมื่อปุ่มกระสันถูกบดบี้ครั้งแล้วครั้งเล่า นักรบยิ้มเย็นอย่างผู้ชนะ แก้วกานดายกสะโพกร่อนตามจังหวะ เธอกำลังไขว่คว้าความรู้สึกสุดยอด ประตูจิตสำนึกถูกปิดตาย เธอต้องการเขา ต้องการมากจนทรมาน จนต้องเอ่ยขอในสิ่งที่น่าอาย
“แรงกว่านี้คุณรบ ฝ้ายอยากได้แรงกว่านี้ คุณรบเข้ามาในตัวฝ้าย ช่วยด้วย” นักรบหัวเราะในลำคอ เขาเอื้อมมือเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง แล้วรวบร่างของแก้วกานดาพาลุกขึ้นจากเตียง จุดหมายคือผนังห้อง หญิงสาวใช้ขาเกี่ยวเอวสอบเขาไว้ทันที หลังเนียนถูกอัดเข้ากับผนังห้อง นักรบตรึงร่างของแก้วกานดาไว้ด้วยร่างของตน เขาค่อยๆรูดซิปกางเกงขาสั้นลง แล้วควักลำกายแข็งแกร่งออกมา จ่อมันเข้ากับช่องทางรักที่พรักพร้อมของแก้วกานดา ความเสียวซ่านแล่นไปทั้งร่าง เมื่อส่วนปลายสัมผัสกับความอุ่นลื่น นักรบส่ายสะโพกวนสร้างความเสียวกระสันให้คนที่รอคอย แก้วกานดาอึดอัดทรมาน เธอไม่ต้องการรออีกแล้ว หญิงสาวขยับสะโพกของตัวเองเพื่อกดให้ลำกายใหญ่โตเข้ามาในร่างตน
“อื้อ...ใจร้อนนะฝ้าย” นักรบเสยสะโพกรับทันที เขาเร่งซอยสะโพกถี่ยิบ ช่องทางรักที่อ้ากว้างและสะโพกที่ถูกตรึงด้วยผนังห้องทำให้นักรบทะลวงลึกได้อย่างถนัด เขาถอนลำแกร่งออกมาจนเกือบสุดแล้วย้ำกลับไปจนมิดลำ ครั้งแล้วครั้งเล่า ลำกายใหญ่ขยับเข้าออก ถูครูดไปกับติ่งกระสันขนแข็งเสียดสีไปกับเนื้ออ่อนก่อเกิดความเสียวซ่านกระจายไปทั้งร่าง แก้วกานดากอดคอเขาแน่น มือเล็กจิกลงบ่ากว้างแน่น
“อ๊ายๆ...คุณรบขา อ๊า!” ในที่สุดแก้วกานดาก็ตะกายไปถึงปลายทางของเพลงกามา เธอเกร็งค้างหอบหายใจแรง ช่องทางรักตอดตุบๆจนนักรบแทบคลั่ง เขาเร่งสะโพกสอบรัวอีกยก รุนแรงเท่าที่แรงทั้งหมดที่จะมีใส่เข้าไปในตัวของหญิงสาวได้
“อ่า...อื้มมมมม” เสียงครางทุ้มต่ำกับร่างหนาที่เกร็งกระตุกรุนแรง และแก้วกานดาก็รับรู้ได้ถึงความร้อนที่ฉีดเข้ามาในร่างของตนเอง หญิงสาวหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมา เธอพ่ายแพ้เกมตัณหาของเขาทุกครั้ง กี่ครั้งแล้วแก้วกานดา กี่ครั้งที่เรียกร้องครวญครางน่าอายออกไป ผู้หญิงใจง่าย...คงเหมาะสมแล้วที่จะใช้เรียกแทนตัวเอง
“ฝ้ายจะมาทำงานเป็นผู้ช่วยเลขาพี่” นักรบเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย คนที่ถูกเอ่ยชื่อสะดุ้งตัวก้มหน้างุด และเผลอจิกเล็บลงบนฝ่ามือตัวเองแน่น“อ้าว...นี่เมื่อเช้ามาลากตัวยายฝ้ายไปคุยเรื่องนี้เองเหรอพี่รบ อยู่ดีๆมาแย่งเลขาลินได้ไง กว่าลินจะอ้อนฝ้ายให้มาทำงานช่วยได้นะเนี่ย ฝ้ายมีดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วยนะ คนเก่งๆอย่างนี้ จะมาชุบมือเปิบได้ไง” นลินขมวดคิ้วมองพี่ชายอย่างสงสัย“ลินเพิ่งเริ่มทำงาน ยังไม่มีอะไรหรอกแค่เรียนรู้งานไปเรื่อยๆก็พอ เดี๋ยวพี่จะค่อยๆสอน ส่วนฝ้ายเพิ่งจะมาทำงานในตำแหน่งเลขา มีอะไรให้ต้องเรียนรู้อีกเยอะ คุณดาริกาเลขาของพี่จะได้ช่วยแนะนำเพื่อนเราด้วยไงไม่ดีเหรอ พี่เบื่อเมื่อไหร่จะคืนฝ้ายให้ลินก็แล้วกัน” นลินทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มกว้าง“ก็ดีเหมือนกัน งั้นฝ้ายไปเป็นผู้ช่วยเลขาพี่รบก่อนนะ พี่รบทำงานเก่ง จะได้สอนงานฝ้ายได้ พอเก่งแล้วฝ้ายก็ค่อยมาเป็นเลขาลิน เราจะเป็นผู้บริหารกับเลขาคู่ใจที่สาวและสวยที่สุดในประเทศเนอะ” นลินพูดอย่างอารมณ์ดี หากแต่แก้วกานดานั่งหัวใจตุ๊มๆต่อมๆไม่กล้าแม้แต่จะสบตาใครอาหารเช้าเวลา11.00น. ช่างไร้รสชาติเหลือเกินสำหรับเธอ หลังจากที่นักรบ
“ทะเลจ๋า...ลินมาแล้วจ้า” นลินตะโกนเสียงดังขณะยืนอยู่บนเรือยอชต์ส่วนตัวขนาดเล็ก แล้วทำท่ากางแขนเงยหน้ารับลมแรง แก้วกานดายิ้มไปกับท่าทางของเพื่อนสาว เธอเผลอยิ้มกับทะเล ท้องฟ้า และสายลม ลืมเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองไปชั่วขณะ อย่างน้อยก็ตอนนี้ที่นักรบทำหน้าที่เป็นกัปตันขับเรือ หากแต่สายตาคมกริบกลับจ้องมองเธอเป็นระยะๆ บิกินี่ตัวจิ๋วและผ้าแพรผืนบางนั้น ไม่สามารถปิดกั้นความงามที่เขาเคยเห็นได้เลย ทุกส่วนของร่างกายแก้วกานดาเขาจดจำได้ทุกตารางนิ้ว และยังคงอยากมองอยากจับต้องไม่รู้เบื่อ รอยยิ้มอย่างมีความสุขนั้นทำให้เขาถอนหายใจแรง ทำไมเขาต้องมาเกี่ยวข้องกับผู้หญิงอย่างแก้วกานดาด้วยนะ แค่คิดหัวใจก็ปวดหนึบขึ้นมาทันทีเสียงหัวเราะของสองสาวดังกังวานทั่วบริเวณหาดทรายขาว นลินกับแก้วกานดาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน นักรบจับตามองร่างของแก้วกานดาไม่วางตา ความร้อนรุ่มมันตีตื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ปกติแล้วเขาไม่เคยขาดแคลนคู่นอน แต่เมื่อมาเจอแก้วกานดาเขากับตักตวงเอาจากเธอราวกับว่าอดอยากมาแรมปีก็แค่ของเล่นที่ไล่จับยาก นั่นคือเหตุผลที่นั
นักรบนั่งคุกเข่าลงกับพื้นข้างๆเก้าอี้ มือหนาลูบไล้ไปตามร่างที่สั่นระริก ริมฝีปากหยักก้มลงจูบแก้วกานดาอีกครั้งเนิ่นนาน ก่อนจะผละออกและลากลิ้นร้อนสากไปตามลำคอระหง เรื่อยลงมาดูดกลืนยอดอกทั้งสอง ขณะที่มืออุ่นจัดของเขาลูบไล้ต้นขาเนียนทั้งสอง เรื่อยมาจนถึงเนินอวบที่มีไรขนปกคลุมอยู่ นิ้วใหญ่แทรกลงช้าๆกลางกลีบกุหลาบงาม“อ๊า...คะ...คุณรบ” แก้วกานดาบิดร่างแอ่นสะโพกรับการรุกล้ำนั้นทันที“อยากได้ไหม...ตอบสิฝ้าย” นักรบกระซิบเสียงกระซิบถามอยู่กับอกอวบ แก้วกานดาส่ายศีรษะขณะที่สะโพกยกตามนิ้วเรียวใหญ่ที่ถอนออกจากร่างตน“มันทรมานนะ ถ้าอยากได้อ้าขาออกสิ ผมจะทำให้ฝ้ายมีความสุข” นักรบผละจากอกอวบ ใช้มือบีบเคล้นสะกิดยอดอกอวบ สร้างความเสียวกระสันให้คนที่ถูกกระทำไปเรื่อยๆ มือใหญ่อีกข้างบีบขยำเนินกลางกายสาวสลับกับการกรีดลงร่องลึกช้าๆ แก้วกานดาแทบจะขาดใจ เธอต้องการหลุดพ้นจากความทรมานที่เสียวซ่านนี้“อ้าขาออกสิฝ้าย จับดูสิ ฝ้ายอยากให้มันเข้าไปไหม” นักรบจับมือบางวางบนตัวตนแข็งแกร่งที่ชูผงาดของเขา แก้วกานดาหอบหายใจหนัก ส่วนกลางกายสาวหลั่งน้ำหวานมากมายจนเธอรู้สึกปวดหน่วงจนเกินที่จะต้าน
สะโพกสอบขยับเร็วแรง ขณะที่แก้วกานดาจับราวไว้แน่น เพราะคนข้างหลังที่โจนจ้วงเข้าออกในตัวเธออยู่ไม่ได้ยั้งแรงไว้สักนิด ใบหน้างามจ้องมองไปยังท้องทะเลกว้างที่มืดมิด แล้วค่อยๆหลับตาลงยอมรับความซ่านเสียวที่สาดใส่ร่างโดยดุษณี เธอตะกายไปถึงฟากฝั่งความสุขหลายครั้ง จนขาแทบจะไม่มีแรงยืน หากนักรบไม่เกี่ยวรั้งร่างเธอไว้ แก้วกานดาคงลงไปกองอยู่กับพื้นแล้ว“คราวหลังอย่าปฏิเสธผมอีกนะฝ้าย ผมไม่ชอบ อื้มมมม” นักรบขบกรามแน่นขณะที่กระหน่ำแรงสอดใส่“อ๊ะๆ...กรี๊ด!” แก้วกานดาครางเสียงหวานเนิ่นนาน ชายหนุ่มรัวสะโพกยกสุดท้ายอย่างรุนแรง ลำแขนแกร่งปล่อยร่างบางทันที เมื่อปลดปล่อยทุกหยาดหยดในร่างเล็ก หญิงสาวแข้งขาอ่อนแรงทรุดลงไปนั่งกับพื้นเรือ ขณะที่นักรบเดินไปหยิบกางเกงขาสั้นมาสวม โดยไม่สนใจร่างของคนที่หมดแรงนั่งอยู่ที่พื้น“พี่รบ ฝ้าย อยู่ไหนกันอะ” เสียงนลินดังขึ้นมาจากด้านล่าง แก้วกานดาตกใจลนลานคลานไปเก็บชุดบิกินี่กับผ้าแพร หญิงสาวรีบสวมใส่มันด้วยมืออันสั่นเทา และชาวาบไปทั้งร่างเมื่อคิดว่า ถ้านลินมาเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่เธอจะทำอย่างไร นักรบหันไปมองดูแก้วกานดาด้วยสายตาเย็นชา“ว่าไงล
“พี่ไม่อยากเอาเปรียบฝ้าย ถ้าวันหนึ่งฝ้ายเจอคนที่ใช่พี่จะปล่อยฝ้ายไป แต่จากวันนี้เป็นต้นไปเราจะเริ่มเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ อนาคตมันไม่แน่นอน ถ้าฝ้ายไม่ปล่อยมือพี่ พี่ก็จะอยู่กับฝ้ายตลอดไป แต่ขอเวลาพี่หน่อยนะ เดือนหน้าคุณแม่ให้พี่ไปติดต่อขยายงานที่ต่างประเทศ ไปอยู่ตั้งเกือบสองเดือน พี่สัญญาว่าจะกลับมารับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น” คำสัญญาสุดท้ายก่อนที่นักรบจะหายไปจากชีวิตของแก้วกานดา มันผ่านมาเกือบปีแล้ว แต่มันยังดังก้องอยู่ในหูของผู้หญิงช่างฝันอย่างเธอ หากแต่ความเป็นจริงมันไม่เป็นอย่างฝัน“ฝ้าย ถึงแล้ว เหม่ออะไรนักหนา” เสียงนลินดังขึ้นดึงให้แก้วกานดากลับเข้าสู่โลกความจริง“ดูดาวอยู่จ้ะ ท้องฟ้าคืนนี้สวยดีเนอะลิน”“อือ...แต่ตอนนี้ลินหิวมาก ไปกันเถอะ”“จ้า” แก้วกานดาฝืนยิ้มให้กับเพื่อน หญิงสาวชำเลืองดูนักรบที่ขึ้นไปยืนบนสะพานที่ทอดยาวไปสู่ชายฝั่งก่อนแล้ว นักรบยื่นมือให้น้องสาวจับและช่วยดึงขึ้นจากเรือ“ตามมาเร็วๆนะฝ้าย พี่รบ ลินไปก่อนล่ะ ใครถึงทีหลังล้างชามนะ”นลินหัวเราะร่วนแล้วรีบวิ่งไปตามสะพาน แก้วกานดามองต
“ค่ะ” แก้วกานดารับคำสั้นๆ มือบางเผลอยกขึ้นลูบหน้าท้องตัวเอง“นี่คือสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆสำหรับเธอ ขอบใจมากที่เธอเข้าใจ อ้อ...ไม่ต้องห่วงเรื่องยายลินนะ ฉันจะอธิบายให้ลินเข้าใจเองว่าเธอกับตารบเลิกกันด้วยดี”แก้วกานดาจิกฝ่ามือตัวเองไว้จนรู้สึกเจ็บ หญิงสาวไม่ได้มองเช็คที่ถูกยื่นมาตรงหน้าด้วยซ้ำ“ขอบพระคุณที่คุณแม่ให้ความกรุณากับฝ้ายนะคะ แต่ฝ้ายคงไม่ขอรับไว้ สวัสดีค่ะ” แก้วกานดายกมือไหว้ลาแล้วลุกจากโซฟานุ่ม“อ้อ...ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่บอกเรื่องนี้กับตารบนะ ถ้าเธอรักเขาจริง เธอคงอยากให้เขาได้อยู่กับคนที่ดีที่เหมาะสมกับเขา ไม่ใช่คนที่ธุรกิจเล็กๆของครอบครัวกำลังจะล้มเหลวนะ”แก้วกานดาขบริมฝีปากแน่น หญิงสาวไม่ได้หันกลับไปมองหน้าคุณนัยนา เธอเลือกที่ก้าวออกจากบ้านหลังใหญ่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา“ปวดหัวจัง” นลินบ่นเบาๆ เสียงของเธอทำให้แก้วกานดาตื่นจากภวังค์รีบปรี่เข้าไปนั่งบนเตียงข้างเพื่อน“เป็นอะไรมากไหมลิน”“อืม...ลินขอพารากับน้ำหน่อยสิฝ้าย อยู่ใ
“อื้มมม” นักรบปลดปล่อยความสุขสุดยอดไล่ตามหญิงสาวไปติดๆ ท่อนแขนแกร่งรวบร่างบางไว้กอดรัดแนบแน่น ก่อนที่ต่างคนต่างผ่อนคลายและหอบหายใจแรงเหมือนกัน นักรบปล่อยขาเรียวของหญิงสาว ให้เธอยืนบนพื้น แต่ยังกอดเกี่ยวร่างนุ่มนิ่มไว้“เห็นไหมว่าฝ้ายก็ชอบเรื่องพรรค์นี้เหมือนกัน”“ไม่จริง ไม่ใช่ คุณข่มขืนฝ้าย”“อย่างนี้เขาไม่เรียกข่มขืนหรอกฝ้าย เขาเรียกว่าสมยอม”“คุณรบ!” แก้วกานดาดิ้นแรง ขณะที่นักรบเหยียดริมฝีปากเล็กน้อย“อย่างนี้เขาถึงจะเรียกว่าข่มขืน”ร่างบางถูกบังคับกดให้นอนลงกับพื้นครัว หลังของแก้วกานดาสัมผัสได้ถึงความแข็งกระด้างของกระเบื้องที่เย็นเฉียบ นักรบแทรกตัวเองเข้ามาตรงกลางระหว่างขาเรียว แก้วกานดาพยายามจิกข่วนแขนของชายหนุ่ม และออกแรงดิ้นรน“ปล่อยนะ ปล่อยฝ้าย” เสียงดังของหญิงสาวทำให้นักรบใช้มือใหญ่ปิดปากของเธอไว้แน่น และใช้มืออีกข้างจับข้อมือเล็กตรึงไว้หรือศีรษะของคนที่กำลังดิ้นรน แก้วกานดาตาเบิกโพลงตกใจ และเมื่อชายหนุ่มพยายามดุนดันตัวตนของเขา เข้ามาในร่างเธออีกครั้งด้วยความรุนแรง ร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงกลางทำให้แก้วกานดาไม่สามารถหุบขาเข้าได้
“ลินมาทำอะไรแต่เช้า” แก้วกานดายิ้มขำๆกับการมาของเพื่อน“ก็มารับพนักงานกิตติมศักดิ์ไง” นลินยิ้มกว้าง ก่อนจะยกมือไหว้ธาดา และกานต์แก้ว บิดาและมารดาของเพื่อนรัก“ลินมารับพนักงานใหม่ค่ะคุณพ่อคุณแม่ สัญญาว่าจะดูแลอย่างดีเลยค่ะ” ผู้สูงวัยกว่าทั้งสองยิ้มไปกับท่าทางของผู้มาเยือนแต่เช้า“ขอบใจมากนะหนูลิน ที่ให้โอกาสฝ้าย” ธาดาเอ่ยขึ้นขึ้นพร้อมกับยกมือลูบศีรษะลูกสาวตนเอง“ตั้งใจนะลูก ให้สมกับที่หนูลินไว้วางใจ” กานต์แก้วสำทับลูกสาวอีกครั้ง“ค่ะ...ฝ้ายไปทำงานก่อนนะคะ” แก้วกานดาและนลินยกมือไหว้ลาทั้งสอง ธาดาและกานต์แก้วมองตามรถมินิคูเปอร์สีแดงที่แล่นออกจากรั้วบ้านไป แล้วถอนหายใจยาวออกมาพร้อมกัน“ฝ้ายจะทนได้หรือคะคุณ ฉันสงสารลูกจัง” กานต์แก้วน้ำตารื้น บิดาและมารดาของแก้วกานดารู้เรื่องราวระหว่างลูกสาวของตนกับนักรบดี ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ถ้าผมไม่บริหารธุรกิจของเราผิดพลาด ลูกก็คงไม่ต้องกลับไปหาความเจ็บปวดอีก หรือว่าเราจะขายบ้านหลังนี้ แล้วกลับไปอยู่ที่บ้านของคุณที่ต่างจังหวัดดี ถ้าขายบ้านได้แล้วไปชำระหนี้ให้ธนาคาร เงินก็ยังคงพอเหลืออีกก้อนให้เราเอาไปเร
“เอ่อ...จ้ะๆ...ต่อไปพี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว เรารักกันๆเนอะ” นักรบลุกจากเก้าอี้นั่งคุกเข่าลงข้างแก้วกานดา วงแขนแกร่งโอบร่างคุณแม่ท้องหกเดือน ใบหน้าคมเข้มซบลงออดอ้อนเอาใจ“นับหนึ่งบอกแม่นะว่าอย่างอนพ่อ” เสียงทุ้มเอ่ยชิดหน้าท้องกลมของแก้วกานดา หญิงสาวก้มมองใบหน้าด้านข้างของสามี แล้วอมยิ้มกับท่าทางของเขา“อ้อนเมียอยู่เหรอพี่รบ”“อ้าว...ลิน วิน คุณแม่” แก้วกานดากำลังจะลุกขึ้นยืน เพื่อทำความเคารพมารดาของนักรบ แต่คุณนัยนาก็ห้ามเอาไว้ก่อน“ไม่ต้องลุกๆ นั่งเถอะฝ้าย ไหน...หลานย่าว่าไงลูก” คุณนัยนาเบียดตัวเข้าใกล้แก้วกานดา นักรบที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆหลีกทางแทบไม่ทัน แต่คุณนัยนาก็ไม่ได้สนใจ เพราะคุณย่าเห่อหลานในท้องลูกสะใภ้ยิ่งกว่าอะไร“โห...คุณแม่ นี่ลูกนะ ไม่สนใจผมเลย” นักรบตัดพ้อเรียกร้องความสนใจ“ตกกระป๋องแล้วพี่รบ” นลินกระเซ้าพี่ชายตนเอง คุณหมอหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆลอบมองคู่หมั้นตาละห้อย ก็มาครั้งนี้ต้องพักค้างคืนที่บ้านแก้วกานดา ซึ่งมีทั้งคุณแม่และพี่ชายอยู่ด้วย เขาจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับนลินบ้างไหมหนอ หลังจากค่ำคืนแสนหวานที่รีสอร์ตคืนนั้น เขาก็ให้
“พี่รบถอยไปสิ...ฝ้ายจะไปเสิร์ฟกาแฟ” นักรบทำหน้าตาถมึงทึง เขาดึงถาดในมือหญิงสาวมาวางไว้บนเคาน์เตอร์สูง แล้วดันร่างของคุณแม่ท้องบังคับให้ไปนั่งที่เก้าอี้ในร้าน“นั่งตรงนี้เลย เดี๋ยวพี่ไปเสิร์ฟเอง โต๊ะนั้นมีแต่ผู้ชาย” นักรบพูดน้ำเสียงจริงจัง แก้วกานดาหัวเราะคิก“พี่รบ...ฝ้ายท้องโตขนาดนี้ใครเขาจะมาสนใจ”“ไม่รู้ล่ะ พี่หวง” นักรบยกถาดกาแฟเดินออกไปด้านนอกแล้ว แก้วกานดาได้แต่นั่งถอนหายใจ เสียงลูกน้องในร้านหัวเราะคิกคัก ทำให้หญิงสาวกวาดสายตามองทีละคน จึงทำให้วงแตกกระเจิง ต่างคนต่างทำเป็นหยิบโน่นจับนี่ไม่สนใจกันตั้งแต่คืนดีกันนักรบแทบจะไม่ได้เธอหยิบจับอะไร เขาใส่ใจเธอไปซะทุกเรื่องและตามใจแทบจะทุกอย่าง จนบิดาและมารดาของเธอระอาใจกับลูกเขยขี้เห่อลูก สองวันก่อนเขาพาเธอไปจดทะเบียนสมรสที่ที่ว่าการอำเภอ และพาเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อข้าวของเครื่องใช้สำหรับลูก ห้องนอนเดิมของเขาก็ถูกต่อเติมซ่อมแซมไว้สำหรับเป็นห้องของหนูน้อยที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกในอีกสามเดือนข้างหน้า ส่วนเขา...หลังจากคืนที่ปรับความเข้าใจกันแล้ว ชายหนุ่มก็ย้ายสำมะโนครัวเข้ามาอยู่ในห้องของเธ
มือใหญ่จับดันสะโพกเต่งตึงให้ลอยเหนือที่นอน ขาเรียวแยกกว้างโอบรัดเอวคนบนร่างทันที ฝ่ามือใหญ่วางคร่อมอยู่ข้างร่างเล็ก สายตาคมเข้มจ้องมองดวงหน้าแดงระเรื่อด้วยความรักสุดหัวใจ“เจ็บไหม...พี่จะระวังนะ” คนตัวเล็กยิ้มสบตากับคนบนร่าง นักรบโน้มใบหน้าลงพรมจูบไปทั่วดวงหน้าชื้นเหงื่อของแก้วกานดา ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากบาง ตักตวงความหวานเย้ายวนไม่รู้เบื่อ สะโพกสอบเริ่มขยับช้าๆ ทุกจังหวะการขับเคลื่อนตัวตนของเขาหนักแน่นแต่อ่อนโยน ช่องทางรักอุ่นลื่นสัมผัสรัดรึงความแข็งแกร่ง ตอบรับการรุกล้ำด้วยแรงปรารถนาเดียวกัน“พี่รักฝ้าย พี่รักฝ้าย” นักรบผละจากริมฝีปาก พร่ำบอกรักซ้ำๆชิดหูเล็ก สะโพกสอบยังคงเคลื่อนไหวเนิบนาบหนักแน่น แก้วกานดาบิดเร่าครวญครางเสียงหวาน มือเล็กลูบไล้แผงอกกว้างระเรื่อยไปตามลำคอแกร่ง และหยุดประคองใบหน้าคมเข้มไว้ในมืออุ่น“อ๊า...พี่รบขา อื๊อ!” ความหวามไหวแผ่ไปทั้งร่าง หัวใจวาบหวิวราวกับว่าจะขาดรอน ซาบซ่านจมดิ่งในห้วงเสน่หา ต่างฝ่ายต่างโหยหาในกันและกัน นักรบเร่งจังหวะรักร้อนแรง แก้วกานดาขยับเคลื่อนสะโพกส่ายประสานบ
ริมฝีปากหยักได้รูปแตะลงอย่างแผ่วเบา และค่อยๆบดเบียดให้ปากเล็กเปิดรับการทักทาย เสน่หาที่ห่างหายไปนาน เมื่อถูกปลุกเร้าก็ลุกโชนอย่างง่ายดาย ต่างคนต่างถวิลหาในกันและกัน จูบอบอุ่นหวานละมุนแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนซาบซ่านในทันใด เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดรัดรึงกันดื่มด่ำราวกับว่าไม่มีวันพอในรสจุมพิต เป็นแก้วกานดาเสียเองที่ครางผะแผ่วประท้วง เมื่อเธอรู้สึกว่าหายใจไม่ทัน นักรบผละออกจากริมฝีปากบางอย่างอ้อยอิ่ง เขาดูดดึงริมฝีปากล่างของเธอเบาๆก่อนจะผงกศีรษะมองใบหน้านวลแดงระเรื่อ แววตาเปี่ยมรักของนักรบจ้องลึกลงไปในดวงตากลมโต คำสัญญาที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยออกมาเป็นคำพูด แต่สามารถสื่อสารกันด้วยสายตาและหัวใจ แก้วกานดายิ้มหวานรับรู้ถึงความจริงใจที่ชายหนุ่มสื่อออกมาทางสายตาเมื่อเริ่มรุกแล้ว แม่ทัพอย่างนักรบไม่ยอมล่าถอย มือใหญ่จัดการดึงรั้งชุดนอนสีชมพูหวานออกจากร่างแก้วกานดา ตามด้วยชั้นในอีกสองชิ้นที่ถูกทิ้งขว้างลงข้างเตียง ขณะที่คนตัวโตไม่ได้ลำบากสักนิดในการกำจัดผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกจากร่างตัวเอง ผิวเนียนขาวผ่องของแก้วกานดาทำให้นักรบหายใจสะดุด เขากวาดสายตามองร่างที่นอนหอบหายใจระทวย จากการถูกจุมพิตกระชา
“ออกไปได้แล้ว ฝ้ายจะนอนแล้ว” แก้วกานดาเอนตัวลงนอน หากแต่สายตาของเธอยังจับจ้องคนร่างใหญ่ที่ยืนอยู่กลางห้องอย่างไม่ค่อยวางใจ“อุ๊ย!” หญิงสาวสะดุ้งตัวเล็กน้อย มือเล็กยกกุมหน้าท้องตัวเอง คนที่จ้องอยู่ไม่วางตาตกใจ รีบสาวเท้าเร็วถึงตัวคนที่อยู่บนเตียงทันที ร่างใหญ่นั่งลงบนเตียงด้วยสีหน้าแววตาเป็นกังวล“เป็นอะไร ฝ้ายเป็นอะไร เจ็บตรงไหน” มือใหญ่จับตรงโน้นลูบตรงนี้อย่างห่วงใย แก้วกานดาเงยหน้าสบตาชายหนุ่ม เธอยิ้มอย่างลืมตัว“ลูก...ลูกดิ้นแล้วค่ะ” นักรบยิ้มกว้าง หัวใจพองโต ทั้งตื่นเต้นและยินดี มือใหญ่ค่อยๆเอื้อมไปแตะหน้าท้องนูน แก้วกานดายกมือตัวเองออก เพื่อให้นักรบวางมือใหญ่ทาบทับลงบนหน้าท้องได้ถนัด ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นตุ้บเบาๆ สองสายตาสบประสานกัน ต่างยิ้มกว้างให้กันด้วยความยินดีและตื้นตัน“เอ่อ...พี่รบคะ ฝ้ายจะนอนแล้วค่ะ” แก้วกานดาดึงตัวเองออกมาห้วงความสุขก่อนชายหนุ่ม นักรบยังคงอ้อยอิ่งอยู่กับหน้าท้องของเธอ เขาถอนหายใจเบาๆ“ฝ้าย...เรารักกันไม่ใช่หรือ ทำไมฝ้ายต้องปิดกั้นหัวใจตัวเอง” แก้วกานดาหลบสายตาคมกล้า เธอยอมรับว่ายังรักเขา รักมากเหมือนเดิมไม
“เอ่อ...คุณไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีไหม” คนถูกถามยิ้มกว้าง เพราะตอนนี้เขาอยู่ในชุดผ้าขนหนูพันกายเพียงผืนเดียว ชายหนุ่มเผลอหลับไปหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย“ฝ้ายหิว ลูกก็คงหิวด้วย พี่ไม่อยากให้เสียเวลา” หญิงสาวจำยอมเดินตามเขาไปอย่างเสียไม่ได้“กินอะไรดีล่ะฝ้าย” นักรบเอ่ยถามเมื่อเขาพาร่างเล็กลงมาที่ห้องครัวด้านล่าง แล้วจัดให้เธอนั่งรอที่เก้าอี้เรียบร้อย“เอ่อ...มาม่าก็ได้ค่ะ”“ไม่ได้!” เสียงปฏิเสธของเขาแสดงถึงความไม่พอใจจนแก้วกานดาสะดุ้ง“ฝ้ายท้องอยู่นะ จะกินอะไรก็ต้องนึกถึงลูกด้วย เดี๋ยวพี่ดูให้เองว่าจะกินอะไร” หญิงสาวเบ้ปากใส่แผ่นหลังกว้าง อะไรของเขานักหนาแค่จะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทำไมต้องมาใช้น้ำเสียงอย่างกับคุณพ่อดุลูกสาว ก่อนที่สงครามของกินจะบานปลาย แสงไฟภายนอกบ้านก็สว่างขึ้น นักรบจึงเดินไปเปิดสวิตซ์ไฟ แล้วหันมามองคนตัวเล็กที่นั่งมองเขาอยู่“ดื่มนมถั่วเหลืองแล้วกัน เดี๋ยวพี่อุ่นให้ ดื่มนมอุ่นๆจะได้หลับสบาย”“ถ้าอย่างนั้นจะกินอย่างอื่นด้วย นมแก้วเดียวไม่อิ่มหรอก” น้ำเสียงราวกับเด็กถูกขัดใจ และใบหน้าก็เริ่มงอง้ำ นักรบขม
“ฝ้ายเข้าไปรอในร้านก่อนนะ รอให้ฝนหยุดตกแล้วค่อยเดินกลับบ้าน เดี๋ยวพี่จะรออยู่ข้างนอก เปียกขนาดนี้ถ้าเข้าไปในร้านพื้นเละแน่นอน” มือใหญ่รุนหลังของคนตัวเล็กในกลับเข้าไปในร้านส่วนตัวเขายืนหลบฝนอยู่ชายคาหน้าร้าน แก้วกานดาเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ภายในร้าน แต่ก็อดที่จะเหลือบมองแผ่นหลังกว้างของคนที่ยืนอยู่ด้านนอกไม่ได้ นักรบยืนกอดอกลูบต้นแขนตัวเอง บางครั้งเขาก็เงยขึ้นมองบนฟ้าและกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ หลายครั้งที่เขามองเข้ามาในร้านด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย หากแต่ทุกครั้งที่เขาขยับกายมองเข้ามา แก้วกานดาก็จะทำเป็นก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ในมือ ทำเป็นไม่สนใจสายตาห่วงใยจากคนตัวโต“ฝ้าย ฝ้าย” เสียงทุ้มเรียกมาจากหน้าประตู แก้วกานดาขยับตัวและปรือตาขึ้น ตากลมโตถูกหรี่ลงเพื่อปรับแสงที่กระทบสายตา“ฝนหยุดตกแล้ว ไปนอนที่บ้านเถอะฝ้าย” น้ำเสียงทุ้มแสดงถึงความห่วงใย โซฟานุ่มตัวเล็กที่เธอนอนอยู่ดูไม่น่าจะสบายตัวเท่าไรนัก นักรบอยากจะเดินเข้าไปอุ้มร่างเล็กไปส่งถึงเตียงนุ่ม ไม่อยากกวนให้เธอจากห้วงนิทราด้วยซ้ำ ติดที่เขาเปียกไปทั้งตัว จึงไม่อยากให้แก้วกานดาเปียกไปด
หลังจากทั้งคู่จัดการกับอาหารมื้อค่ำเสร็จในเวลาค่อนข้างดึก ซึ่งนักรบดูแลใส่ใจแก้วกานดาเป็นอย่างดี เขาไม่ให้เธอหยิบจับอะไรเลย ชายหนุ่มเก็บสำรับล้างจานเองทุกอย่าง แก้วกานดาหลบขึ้นห้องทันทีหลังจากรับประทานอาหารเสร็จนักรบจัดการตรวจตราความเรียบร้อยรอบๆบ้านอีกครั้ง ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดบ้าน เมื่อเดินผ่านประตูห้องของแก้วกานดาชายหนุ่มหยุดมองแล้วถอนหายใจแรง มือหนายกขึ้นตั้งใจจะเคาะประตู แต่ก็หยุดความตั้งใจไว้แค่นั้น หากแต่ยังไม่ยอมที่จะขยับเท้าออกจากหน้าห้องของหญิงสาว และก่อนที่เขาจะตัดใจเดินกลับเข้าห้องตัวเองไป ประตูห้องที่เขายืนมองอยู่นานสองนานก็ถูกเปิดออก“อุ๊ย!” แก้วกานดาอุทานด้วยความตกใจ คนถูกจับได้ว่าเฝ้ามองห้องน้องนางอยู่ทำหน้าเก้อเล็กน้อย“เอ่อ...ฝ้ายอยากได้อะไรหรือเปล่า พี่จะลงไปเอาให้”แก้วกานดาเมินสายตาไปทางอื่น เธอไม่อยากสบตาเขา กลัวว่าความรู้สึกที่ถูกกักไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ จะเผลอแสดงออกมาทางสายตาให้เขาจับได้“จะไปเอาโทรศัพท์ ลืมไว้ที่ร้าน” พูดพลางพยายามเบี่ยงตัวหลบคนตัวโตที่ยืนขวางประตู หญิงสาวอยู่ในชุดนอนกระโปรงยาว หน้าท้องนูนออกมาเล็กน้อยให้พอ
“ขัดขวางการสร้างบุญ การถือศีลมันไม่ดีนะฝ้าย แม่อยากไปทำจิตใจให้สงบสุข จะเอาบุญมาเผื่อลูกเผื่อหลานด้วย ฝ้ายก็อยู่บ้านนี่แหละ มีรบคอยช่วยงานอยู่แล้วไง” แก้วกานดาเพียงแต่ตวัดสายตามองคนที่นั่งข้างๆ อาหารค่ำวันนี้ไม่อร่อยเอาเสียเลย มือบางรวบช้อนแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม“อิ่มแล้วเหรอลูก” ธาดาเอ่ยทักอย่างเป็นห่วง“อิ่มแล้วค่ะ ฝ้ายขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ” แก้วกานดาเดินขึ้นบ้านไปแล้ว นักรบสบตาผู้สูงวัยทั้งสองด้วยแววตาเศร้า ทั้งสองได้แต่ยิ้มให้กำลังใจ การปล่อยให้แก้วกานดาได้อยู่กับนักรบลำพังอาจจะทำให้ลูกสาวของตนได้พบคำตอบของหัวใจตนเองเสียทีบิดาและมารดาของแก้วกานดาออกจากบ้านแต่เช้า หญิงสาวมองตามรถจนลับสายตา เธอเหมือนเด็กงอแงที่ไม่อยากให้พ่อแม่ไปไหนไกล หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อเธอคิดว่าต้องอยู่ร่วมชายคากับผู้ชายที่เป็นตัวการทำให้เธอต้องหนีมาอยู่ที่นี่ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ เรียกความกล้าให้ตัวเอง กลัวเหลือเกินกลัวว่าความรู้สึกที่เก็บไว้ในส่วนลึกของหัวใจ จะทำให้เธอต้องพ่ายแพ้ให้กับเขา“มีอะไรให้พี่ช่วยไห