จุดพลิกผันในชีวิตที่ทำเอาผู้หญิงคนหนึ่งแทบกระอักเลือด!! บิดาป่วย...ความเป็นความตายมากวักมือเรียก... พี่ชายทำเรื่องร้ายแรง...มีใครบางคนตามคร่าชีวิต... พะแพงยอมแลก...ยอมเป็นเชลย เพื่อต่อลมหายให้พี่ชาย แม้จะเป็นหนทางที่ดูไร้ศักดิ์ศรี!! หนึ่งชีวิตที่ดูเหมือนจะไร้ค่าในสายตาฝั่งตรงข้าม...เขาเหยียบย่ำหล่อนโดยไม่ยั้งคิด!! ฉีก!! กระชากสิ่งหวงแหนของเพศหญิง...และเหยียบหล่อนซ้ำด้วยถ้วยคำดูแคลน ‘ถ้าเธอท้อง...อย่าคิดว่าฉันจะรับผิดชอบ’ ไงล่ะ...ถ้อยคำที่เป็นเหมือนดั่งน้ำกรดรินรดหัวใจ แต่เธอก็ท้องจริงๆ ท้องเหมือนที่เขาค่อนว่า... แต่...จะให้ก้มหัวยอมศิโรราบ...ไม่ใช่พะแพง เมื่อเธอเองก็มีศักดิ์ศรีเช่นกัน!!
View More“แพง” เสียงของภาคินแหบปร่า ลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดอยู่หลังใบหูนั่นอีก มันทำให้หญิงท้องแก่หัวใจระทวย“ขา...” เสียงหวานขานรับ ภาคินยิ้มเครียด เขาเตรียมพร้อมศึกษาความเป็นไปได้มาก็จริง แต่ยังไม่กล้าลงมือ เพราะห่วงคนตัวเล็กจะไม่พร้อม“ฉันๆ” คนกล้าแกร่งเกิดหัวหดขึ้นมาแบบนั้น เขามองเนินท้องนูนๆ ของพะแพง ก่อนจะถอนใจดังเฮือกๆใบหน้าร้อนผ่าว ผิวแก้มซับสีระเรื่อ เมื่อทำใจกล้า เอื้อมมือไปจับมือใหญ่ที่ชักกลับ เหมือนกับว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรก เขาเกิดปอดขึ้นมาดื้อๆ เธอจับมือของภาคินวางบนเนินหน้าท้อง ตอนที่ทิ้งตัวนั่งบนขอบที่นอน“ลองจับดูสิคะ”เสียงของพะแพงสั่นพร่าไม่ต่างจากภาคินเลย“ฉันๆ” ชายหนุ่มกระอึกกระอัก เขาไม่ได้ต้องการสัมผัสเพียงแค่นี้ เขาอยากชื่นชมพะแพง แม้ว่าหล่อนจะไม่เหมือนเดิม แต่ไม่ว่ายังไง ในสายตาของภาคิน พะแพงก็งดงามเสมอหญิงสาวยิ้มหวาน ริมฝีปากสั่น เมื่อเลื่อนฝ่ามือร้อนผ่าวนั่นมาที่เนินอกตนเอง“แพงเจ็บตรงนี้จังคุณคินดูให้หน่อยได้มั้ยคะ”ชายหนุ่มเง
ภาคินยิ้มกว้าง...คืนนี้เขาคงไม่ต้องนอนตาค้าง...เพราะเขามีเป้าหมายสำคัญอังกฤษ... ภาวนามองพะนายตาประหลับประเหลือก...นางเบ้ปากให้คู่รักของบุตรสาว ไอ้ผู้ชายที่เคยเกือบทำให้วลัยอรหมดอนาคต วันนี้พะนายพิสูจน์ให้เห็นถึงความมั่นคง...และความพยายามของพะนายเอง ก็ทำให้นางทึ่ง!! จนต้องยอมลงให้...ว่าที่บุตรเขย...เพราะบุตรสาวที่เคยเชื่อฟังและหัวอ่อน เริ่มมีข้อโต้แย้ง เหตุผลของวลัยอรเองก็ทำให้นางแย้งไม่ได้เช่นกัน ‘แม่เคยรักใครมั้ยคะ?’ เป็นคำถามที่นางไม่สามารถตอบได้ เมื่อชั่วชีวิตของภาวนา นางไม่เคยรู้จักคำนั้นเมื่อตนเองโตมาพร้อมกับคำว่าหน้าที่...เธอเพิ่งมาตระหนักเอาก็ตอนที่จำต้องก้มหน้ารับคำสั่งบิดา นั่นคือความจำยอมที่ต้องแบกรับไว้บนสองบ่า สามีของเธอ เขามาเพราะผลประโยชน์ ไม่เคยมีจิตพิศวาส อยู่กันไปแกนๆ ตามหน้าที่ ไม่รู้สึกอะไรเลย มีแค่ภาระหน้า
“เห้ย!! อะไรว่ะ แค่มีเมีย... คุณแต่งงานได้กี่วันวะคิน ทำตัวเหินห่างจากเพื่อนแบบนี้ ไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือไง”เพิ่มลาภ กับเก่งกาจ แวะมาหาเพื่อนรัก หลังงานวิวาห์สายฟ้าแลบที่ภาคินเนรมิตได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืน แต่...หลังจากนั้น ชายหนุ่มที่เคยประกาศปาวๆ เรื่องอยากโสดตลอดชีวิต กลับหายหัวไปเสียชิป ไม่เคยเห็นเงาภาคินตามสถานบริการ ตามแหล่งชุมชนเองก็เช่นกัน...หากไม่เกี่ยวพันเกี่ยวกับเรื่องงาน แทบจะไม่เห็นชายหนุ่มปรากฏตัว“แหม...” หนุ่มเจ้าของห้องยิ้มแหยๆเขารีบซุกกล่องข้าวเก็บไว้ในลิ้นชักทำงาน เมื่อได้เวลาพักเที่ยงพอดี“ไป๊ไป ไปกินข้าวเที่ยงกัน กว่าจะลากไอ้คุณเพิ่มมาได้นี่ ยากชิปหาย จะกินแต่ฝีมือเมียอยู่นั่นแหละ”เก่งกาจเป็นคนเดียวที่ยังโสด เขามีแพลนงานวิวาห์แต่ยังไม่ถึงเวลา“ก็เมียทำมาให้กิน ไม่กินก็เสียของสิวะ”เพิ่มลาภแก้ตัวเสียงอ่อยๆ ภรรยาสุดที่รักอุตส่าห์แหกตาตื่นมาทำไว้ให้ จะทิ้งขว้างมันก็ใช่ที่ เมื่อมันหมายถึงความใส่ใจของเจ้าหล่อนภาคินกลืนน้ำลายเอือกๆ เขาชำเรืองมองกล่องข้าวของตนเอง
พะแพงกดอินเตอร์คอม “เอาน้ำเย็นขึ้นมาให้แพงที่ห้องทำงาน 2แก้วนะจ้ะ” เธอสั่งงานแม่บ้าน ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญ ‘แขก’“ลื้อชื่อ...อาแพง...สินะ”เสียงแหบสั่นแต่ยังทรงอำนาจไม่เปลี่ยน แม้จะหยุดบงการ พักผ่อนเงียบๆ อยู่กับบ้าน ในบั้นปลายของชีวิต“ค่ะ แพง พะแพง งามสุวรรณ ไม่ทราบว่าท่านมีธุระอะไรกับแพงคะ?”เจ้าสัวภพเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของพะแพง ยกมือขึ้นมาว่างทาบบนหัวไม่เท้าที่ท่านถือติดมือมาด้วย สายตาคมกริบมองผู้หญิงตรงหน้าตรงๆ“ลื้อท้องกับอาคินลูกอั้ว!! แล้วลื้อจายักท่าทำไมหะ ไม่กลัวลูกในท้องเกิดมามีปมด้อยเหรอไงล่ะ?” คำถามของท่านทำให้พะแพงตกใจ มือเรียวสั่นระริกจนต้องตัดใจวางปากกาในมือ พร้อมกับพักการทำงานเมื่อดูเหมือนว่าคนที่มาหาเธอจะดูท่าไม่เป็นมิตรเท่าไร“สวัสดีค่ะ แพงไม่คิดว่าท่านจะมา” หญิงสาวกระพุ่มมือไหว้ ตอบเสียงอ่อนอ่อย“ฉันอยากมาที่ไหนล่ะ...ฉันน่ะวางมือหมดแล้ว ให้คินมันดูแล นี่ถ้าไม่ร้อนใจไม่มาเองหรอก ขึ้นรถขึ้นเรือมันลำบาก เดินเหินไม่สะดวกเหม
“ไม่มีใครไม่เคยทำพลาดหรอกนะนาย ทุกคนต้องเคยกันทั้งนั้น มันขึ้นอยู่ว่าเขาจะแก้ไขหรือไม่ เต็มใจที่จะแก้ไขสิ่งที่ทำ...หรือถูกบีบบังคับให้ทำหรือเปล่า”เป็นข้อคิดที่พะนายเก็บมาคิด คำของพ่อไม่เคยทำลาย ชายหนุ่มฟัง เขานิ่งคิด ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “พ่อ แต่มันจะทำให้เขาดูถูกเราเพิ่มขึ้นหรือเปล่าครับ ในเมื่อเขาเคยประณามเราว่าเราคิดจะเกาะเขาเพื่อยกฐานะตัวเอง”คำประณามของภาคิน ไม่เคยลบเลือนไปจากใจ พะนายสลักเอาไว้เพื่อใช้เตือนตัวเอง“เราคิดแบบที่เขาว่าหรือเปล่าล่ะ” พะนายส่ายศีรษะแรงๆ“งั้นก็อย่าไปกลัว นายเองก็ยัง ‘รัก’ คุณหนูคนนั้นเลย แล้วทำไมคุณ เขาจะ ‘รัก’ ยัยแพงไม่ได้ล่ะ”คล้ายเอ่ยแบบเป็นกลาง พะแพงไม่ได้มีอะไรเสียหาย แล้วทำไมผู้ชายคนนั้นจะหลงรักลูกสาวของท่านไม่ได้ แม้เวลานี้เขาจะยังไม่รู้ใจตัวเองเห้อ!! พะนายเบ้ปาก เขาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ มันเป็นวัวพันหลัก สลัดยังไงก็ไม่พ้น อิหลัก อิเหลื่อ เหมือนน้ำท่วมปาก เขากีดกันภาคินได้ไม่เต็มที่ เมื่อตนเองก็ปองรักสาวบ้าน อภิเษศโยธาอยู่เช่นกัน
บทที่18.จีบเมียให้มาเป็น...เมีย“นี่...คุณจะพาฉันไปไหน...ฉันไม่ไปนะ”พะแพงร้องโวยเมื่อจู่ๆ ภาคินก็ฉุดกระชากลากถูออกมาจากโต๊ะทำงาน“หุบปากเถอะน่า...เดินตามมาเงียบๆ สิ ไม่รู้เป็นไงสิ!! ชอบขัดใจฉันจริง”ภาคินหันมาตะคอก ป้าสาย สมจริตชะเง้อมองมาจากในครัว เพราะทั้งสองสาวใหญ่กำลังทำอาหารมือเที่ยงอยู่พอดี“แพง มีอะไรให้ป้าช่วยมั้ยลูก!!”ในมือของยายสายมีตะบวยอันใหญ่ติดมาด้วย หากพะแพงร้องขอความช่วยเหลือตะบวยตักแกงอันนั้นจะเปลี่ยนสถานะเป็นอาวุธทันที“ไม่มีอะไรหรอกป้า...ฉันแค่จะพา ‘เมีย’ ไปดูของฝาก”ภาคินเบ้ปาก เขาปรามพะแพงด้วยสายตาคมกริบ แต่หญิงสาวไม่สนใจ หล่อนพยายามดิ้นให้หลุดจากการพันธนาการอยู่ดี“ทำไม...ชอบมีปัญหาจังแพง...ฉันไม่ได้ลักขโมยใครมาหรอกน่า”ภาคินบ่น ออกแรงดึงเรียวแขนเสลาจนพะแพงนิ่วหน้า“คุณเอาแต่ใจ...ไม่มีเหตุผล”หญิงสาวเถียงกลับ ใบหน้าอิ่มบึ้งตึง“แล้วใครบอกเธอว่าฉันเป็นคนมีเหตุผลล่ะ
ชายหนุ่มกลั้นใจตอบ เขากลืนน้ำลายฝืดๆ แต่เมื่อเหลือบมองพะแพง ใจหายวูบ!! เขารู้สึกเช่นนั้น เพราะเกร็ดน้ำตาของพะแพงไหลเป็นทาง กับความจริงอันน่าเจ็บปวดที่ได้ยินด้วยสองหูตัวเอง“เดี๋ยวๆ” ชายหนุ่มรีบละล่ำละลักพูด เขานิ่งไปหนึ่งอึดใจก่อนจะเอ่ยออกมาช้าๆ “แต่งก็แต่ง...” เสียงของภาคินแผ่วลง เมื่อจำต้องเอ่ยประโยคนั้นออกมาแต่...ไม่ได้เป็นอย่างที่ชายหนุ่มคิด พะแพงไม่ได้แสดงอาการดีใจเหมือนอย่างสาวๆ ที่เขาเคยควงหากได้ยินคำสำคัญคำนี้จากปากคนอย่างนายภาคิน อภิเษศโยธาหญิงร่างเล็กใจเด็ด ตวัดตามอง เธอเม้มเรียวปากจนเป็นเส้นตรงก่อนจะแย้มปากขึ้นกล่าวช้าๆ“ไม่จำเป็นค่ะ พะแพงไม่ต้องการความเมตตานั่น แพงยืนยันเหมือนเดิม แพงเลี้ยงลูกเองได้ โดยไม่ต้องรับความเมตตาของคุณ”สิ้นคำพูดของพะแพง...กลุ่มอาคันตุกะถึงกับอึ้งกิมกี่ ยังมีอีกหรือผู้หญิงที่กล้าปฏิเสธผู้ชายเพอร์เฟคอย่างภาคินเมื่อชายหนุ่มทั้งหล่อและรวย“เธอจะพูดง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้หรอกนะพะแพง...เธอหนีความจริงไม่พ้นหรอก ยังไงเสียฉันก็เป็น ‘พ่อ’ ของลูกเธอ”
สองหนุ่มเบ้ปาก จิปากเบาๆ เดินตามไปห่างๆ เพื่อเป็นฝ่ายสนับสนุนให้ภาคิน “แพงไม่ต้องการให้ใครมารับผิดชอบ แพงดูแลตัวเองได้ค่ะ” หญิงสาวกล่าวเสียงห้วน เธอเสก้มหน้านิ่ง ไม่เหลือบแลใครสักคน ภาคินทำหน้าเซ็ง เขาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เมื่อไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะดื้อด้านถึงขนาดนี้ “เราตกลงกันแล้วครับ พวกเรายอมรับ ‘คนมาใหม่’ แต่ไม่ขอรับความเมตตาของใคร” พะนายเอ่ย ใครในที่นี้คือภาคิน “แต่ฉันไม่เห็นด้วยที่แพงท้อง มันเกิดขึ้นเพราะฉัน แล้วทำไมถึงกีดกันฉันล่ะ” ภาคินกล่าวเสียงขุ่น พะแพงตั้งท่ากันเขาตั้งแต่แย้มปาก “คุณก็รู้ คุณไม่ได้ ‘รัก’ ไม่ได้ชอบน้องสาวผม แล้วจะ
“ฉันอยากเจอพะแพง” ภาคินกล่าวเสียงเย็น เขาต้องการเจอหล่อน เมื่อความสงสัยบางอย่างเกาะกุมอยู่ในหัวใจด้านชา วันนั้นเขาเห็นพะแพงที่โรงพยาบาล หล่อนอยู่ในชุดหลวมๆ เพื่อความสะดวกสบายร่างกายของพะแพงยังไม่ได้เปลี่ยนไปมากเท่าไร แต่ที่ภาคินสะดุด!! คือกลางร่างของหล่อนดูแปลกตา การเดินเหินของหล่อนด้วย ดูพะแพงระมัดระวัง การแต่งกายของหล่อนก็แปลกไป เขาว่าจะเข้าไปหา แต่เพราะติดดูแลบิดาที่มาตรวจเช็คร่างกายประจำปี จึงยังไม่มีเวลาเข้าไปหา พอว่าง...พะแพงก็หายไปแล้ว...นั่นคือสิ่งที่ภาคินติดใจ...บวกกับครั้งนั้น ‘คอนดอม’ เขาละเลย เขาไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันตอนที่มีความสัมพันธ์กับพะแพง มันจึงมีความเป็นไปได้ที่หล่อนจะ ‘ท้อง’ “ยัยแพงไม่ต้องการเจอคุณ!!” คล้ายตอบแทนบุตรสาว 
บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลายเสียงจอแจของผู้คนดังเหมือนฝูงนกตอนเย็นๆ ที่ส่งเสียงทักทายกันหลังจากออกจากรังไปหากินมาทั้งวัน...ไม่ต่างกับมนุษย์ พวกเขาเองก็กำลังเดินเลือกซื้ออาหารมื้อเย็น เมื่อเลิกงานที่ทำมาตั้งแต่เช้าเช่นกัน วิถีชีวิตคนใช้แรงงาน...ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเป็นประจำทุกวัน แม่ค้าสาวใหญ่ สาวน้อยส่งเสียงเชื้อเชิญลูกค้าเสียงหวานแจ้ว พ่อค้าหนุ่มใหญ่หนวดเคราเฟิ้มก็ไม่ยอมน้อยหน้า ส่งเสียงร้องเรียกลูกค้ามากหน้าเสียงดังลั่น!! เป็นวัฐจักรที่พะแพงเห็นจนชินตา เมื่อเธอเองก็เป็นหนึ่งในบรรดาแม่ค้าที่ขายของอยู่ข้างทางด้วยเหมือนกัน เพราะต้องหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเมื่อรายได้ที่เข้ามา ไม่พอเพียงกับรายจ่ายที่จ่ายออก...มันช่วยไม่ได้นี่... เธอไม่ได้เกิดมาในครอบครัวร่ำรวย ครอบครัวเล็กๆ ของเธอ มี3 ชีวิต เธอกับครอบครัวอาศัยอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ของชุมชนแออัดด้านหลังตลาดนัดยามเย็นที่พะแพงตั้งแผงขายของอยู่นั่นเอง...บิดาของเธอนั่นเหรอ ก็เป็นแค่ รปภ. แก่ๆ ของกิจการค้าข้าวขนาดใหญ่ ที่ตัวตึกตั้งตระหง่านอยู่ริมถนน หน้าแหล่งชุมชนแออัด แต่ท่านก็ยังสู้อุตส่าห์กัดฟันเลี้ยงลูกน้อยทั้งสอง แม้จะลำบากเลือ...
Comments