หน้าหลัก / โรแมนติก / เชลยพรหมจรรย์ / บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... 2

แชร์

บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... 2

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-22 11:17:27

ยอดอกสีสดถูกอุ้งปากร้อนชื้นอ้างับ เขาครอบครอง ดูดซึมความหวานฉ่ำชื่น ขยำขยี้ บีบบี้ความเต่งตึงนุ่มหยุ่นเคล้นคลึงด้วยความพอใจ ความรู้สึกหวามไหวไหลปร่า แผ่กระจายทั่วทุกตารางนิ้วบนผิวกาย เธอรู้สึกสยิวซาบซ่าน ทุกครั้ง...ยามที่ถูกโลมลูบด้วยฝ่ามือร้อนระอุ!! ร่างกายของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ เมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ๆ ลูบไล้สัมผัส ให้ตายเถอะ!! เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะรู้สึกกระสันซ่านได้ถึงเพียงนี้ ความรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต...กระแสไฟอ่อนๆ นั่นวิ่งพล่านทั่วทั้งตัว มันจุดประกายบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้ และมันกำลังทำให้เธออยากรู้ในสิ่งต่อไปที่กำลังจะมาถึง!!

“อืมมมม...”

เสียงครางผะแผ่ว ดังรอดออกมาจากกลีบปากที่เม้มแน่น ภาคินยิ้มเหยียดๆ มุมปาก เขาพรมจุมพิตหนักๆ ใต้ฐานอกอวบ ลากปลายลิ้นเปียกๆ ลงต่ำ พร้อมทั้งสูดกลิ่นความหอมหวานของเนื้อสาวจนเต็มปอด...ลูบไล้ผิวกายนุ่มนิ่มปลุกกระแสเลือดในกายของหญิงสาวให้เดือดพล่านเพิ่มมากขึ้น

มือร้อนไล้วนเหนือแผ่นท้องราบเรียบ ปลายนิ้วเรียวสวยวนรอบแอ่งสะดือบุ๋มชวนชิดเชย ไถลเรื่อยไปยันเอวคอดกิ่วกับสะโพกผายเต็มตรึง!! พะแพงสะดุดลมหายใจตัวเอง เธอกลั้นหายใจจนลมเกือบหมดปอด เพราะมัวแต่กระสันเสียวไปกับสัมผัสบางเบา จนเมื่ออากาศในปอดหมดลง จึงรีบสูดลมหายใจแรงๆ จนเกือบสำลัก

ภาคินยิ้มเย้ย...ใกล้เวลาที่เขาจะเผด็จศึก!! และกำลังจะเป็นคนแรกที่ลิ้มรสน้ำค้างกลางหาว ที่ชุ่มฉ่ำและสดสะอาด

เขาสอดปลายนิ้วผ่านเอวกางเกงที่ยังไม่ทันได้ถูกถอด...ปลายนิ้วแข็งแรงแทรกลึกเข้าไปใต้ชั้นในเนื้อนุ่ม!! เกลี่ยสะกิดไล้เหนือเนินนางเต็มมือ จนคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก!! เธอรีบเปิดเปลือกตาขึ้นมอง กระพริบเปลือกตาปริบๆ รีบเอื้อมมือตะครุบฝ่ามือร้อนระอุ ที่วนเวียนอยู่ใกล้จุดอันตรายของเองไว้มั่น!!

“ยะ...อย่าค่ะ”

“เรามาไกลเกินกว่าจะหยุดแล้วพะแพง...มันต้องเป็นไปตามข้อตกลง หากเธอยังอยากเห็นหน้าไอ้พะนายมันในวันพรุ่งนี้” ชายหนุ่มตอบเสียงแหบพร่า ดวงตาสีนิลมืดขุ่นมัว มันเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ลุกโพลงบวกกับเพลิงโทสะที่กำลังจะลุกกระพือ...

หญิงสาวผวาเยือก!! เมื่อชายหนุ่มดันเอวกางเกงของเธอลงต่ำ ภาคินกดมุมปากโค้งลง เขากระชากกางเกงผ้าเปื่อยๆ จนขาดแล่ง!! ‘แคว๊ก’ หญิงสาวสะดุ้ง...เธอรู้สึกสลด...ขากลับเธอคงได้ใส่เสื้อผ้าขาดๆ กลับไปเป็นแน่...เมื่อผู้ชายคนนี้ทำลายข้าวของของเธอ แทบจะไม่เหลือชิ้นดี

 ภาคินหรี่ตามอง เนินนางแสนอลังการ... ลมหายใจของเขาร้อนผะผ่าว อุณหภูมิในร่างกายพุ่งพรวดๆ

กางเกงเอวยางยืดของหล่อนถูกโยนทิ้งไปอีกชิ้น มันกองรวมกันกับเศษซากผ้าลูกไม้ ที่ครั้งหนึ่งเคยทำหน้าที่โอบประคองเต้าทรวงของพะแพง แต่เวลานี้มันไม่ต่างอะไรกับผ้าขี้ริ้ว เมื่อมันขาดแล่ง แทบไม่เหลือเค้าเดิม...และถูกขว้างทิ้ง เมื่อมันไร้ความหมาย

เพราะอารมณ์กำหนัดที่พุ่งสูงจนนัยน์ตาพร่า ภาคินโถมเข้าใส่พะแพงแบบดุเถื่อน เขาทำอะไรแบบที่ตัวเองไม่เคยคิด หากเป็นเวลาปกติ...ชายหนุ่มจะค่อยๆ ทรมานคู่ชิดเชย ละเลียดชิมรสหวานหอมของคู่สวาท จนกว่าเธอจะวิงวอนให้เขาปลดปล่อย

แต่ครั้งนี้...ภาคินไม่สามารถฝืนความต้องการของตัวเองได้ ร่างกายเขาเกร็งเครียด เพียงแค่แตะต้องหญิงสาวอารมณ์ในร่างกายก็กระโจนสูงเกือบสุดขอบของโลก จึงรีบโน้มตัวลงไปใกล้ๆ เบียดส่ายลำตัวร้อนผ่าว บดเบียดเสียดสีผิวนุ่มชุ่มชื่นเพราะเม็ดเหงื่อไหลชโลมออกจนเปียกฉ่ำไปทั้งลำตัว

ลมหายใจของภาคินร้อนผ่าว เมื่อเป่ารดผิวกายของพะแพง หญิงสาวสะดุ้งเยือก รีบอ้าปากงับอากาศจากภายนอก เมื่อไม่สามารถสูดดึงลมหายใจได้ทัน ทรวงอกอวบอัดไหวสะเทือน ร่างกายของเธอเหมือนล่องลอยเคว้งคว้างอยู่เหนือห้วงเวลา มันหวิวไหวสลับกับอาการวูบวาบ เป็นความตื่นเต้น...ปนเปไปกับความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จัก

หญิงสาวมัวแต่สับสน...มารู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่ร่างกายตัวเองเหมือนถูกฉีกทึ้ง!!... มันเจ็บร้าวแปลบปราบตั้งแต่กึ่งกลางร่างกาย...จรดถึงขั้วหัวใจ!!

“เจ็บ...แพงเจ็บ!!”

มือเล็กๆ พยายามผลักดันลำตัวแข็งแกร่ง เธอเกร็งตัวจนแข็ง พยายามช่วยเหลือตัวเอง ให้พ้นไปจากความทรมานเจียนตายนี่ แต่เหมือนจะไม่สำเร็จ!!

“ชูว์...” ชายหนุ่มจิปาก...

เม็ดเหงื่อผุดซึมเต็มหน้าผากกว้าง กว่าจะพ้นวิกฤตเช่นนี้ไปได้ เขาเองก็คงแย่พอๆ กับหล่อน...

“ไม่...ปะ ปล่อย”

ความเจ็บปวดทรมานกลบความซ่านสยิวเมื่อสักครู่ไปจนหมด พะแพงพยายามดิ้น แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บเพิ่มขึ้น

ภาคินคำราม... “ฮืมมม...” เขากดตรึงหล่อนแรงๆ เสือกเสยความแกร่งร้อนจมมิดสุดทาง!!

“อะ...” หญิงสาวสะท้าน...ดวงตาเบิกโต มันเจ็บแปลบแทบใจจะขาด แต่ก็มีความรู้สึกอื่นๆ แทรกมาด้วย

ชายหนุ่มหยุดตัวตนนิ่งๆ เขาปล่อยให้ธรรมชาติปรับตัว

และผลตอบรับหลังรอเวลา...ร่างกายปรับเปลี่ยนความสมดุลและคุ้นชินกับสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่ ภาคินแทบขาดใจตายเพราะรสหวานซ่านที่ได้รับ เขาแทบกระอักความสุข เพราะความรู้สึกปริ่มเปรมถาโถมเข้าใส่ ทั้งอิ่มเอิบ ซาบซ่าน และกระสันทรวง...

“อ้ายยยย...” เสียงกรีดร้องยาวเหยียดของใต้ร่าง หมายถึงหล่อนกระโจนคว้าดาวไว้สำเร็จ

เรือนกายสาวสดกระตุกสั่น และเมื่อถึงเวลาแสนเหมาะสมนั่น ก็คงจะถึงเวลาที่เขาควรปลดปล่อยตัวเองเสียที ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เขาโหมกำลังหยดสุดท้าย เสือกเสยแก่นกายเน้นๆ และกระโจนตามหล่อนไปติดๆ...พร้อมกับการระเบิดพร่างพรายแบบสุดโต่ง...

“เห้ย!!” ภาคินทะลึ่งพรวด

เขาถอดถอนแก่นกายจากบัวปริ่มน้ำ พลิกตัวนอนด้านข้าง!! สีหน้าลำบากใจสุดๆ เมื่อก้มมองดูกึ่งกลางกายของตัวเอง ที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำรักแต่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตัวสวมทับเหมือนเคย

ลืม...ลืมสนิท ลืมแม้แต่จะคิดป้องกันตัว ลืมอุปกรณ์สำคัญที่ควรใช้

ซวยไหม?...นั้นคือความคิดของชายหนุ่ม เขาถอนลมหายใจเฮือกๆ ฉวยผ้าเช็ดตัวผืนโตมาพาดกายช่วงล่าง

อารมณ์สุนทรีจางหายไปในบัดดล...

พร้อมกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น... ก็อกๆ

ภาคินเดินหุนหันลงจากเตียงใหญ่ เขาเดินกระแทกส้นเท้าแรงๆ ทิ้งความไม่พอใจโยนใส่พะแพงเต็มๆ

หญิงสาวรีบพลิกตัวนอนคว่ำ น้ำตาไหลรินอาบหน้า

สาวสุดอาภัพรีบกระทดตัวลงจากเตียงนอนใหญ่ หอบผ้าห่มคลุมกายเปลือยเปล่า...มานั่งตัวสั่นเทาซุกอยู่ที่ข้างเตียงนอน มือเรียวบางสั่นระริกควานหาเสื้อผ้าเก่าๆ ของตัวเอง น้ำตาหยดริน...ก้มมือเศษผ้าที่ครั้งหนึ่งเคยใช้ได้...หญิงสาวสะท้านใจเมื่อแม้แต่เสื้อผ้ายังถูกทำลายแทบไม่มีชิ้นดี พะแพงพยายามหยัดกายลุกขึ้นยืน...ร่างกายรวดร้าวยามขยับเนื้อตัว สัดส่วนกลางร่างกายเจ็บแปลบๆ จนต้องนิ่วหน้า

เสื้อเชิ้ตสีขาวใหม่เอี่ยม ที่เธอค้นได้จากตู้เสื้อผ้าของเขา หญิงสาวถือวิสาสะหยิบมาใช้ เมื่อมันเป็นผ้าเนื้อหนา และคงสามารถพรางร่างเปลือยของตัวเองได้ เพราะนอกจากเสื้อตัวนี้แล้ว ใต้นั้นไม่มีเสื้อผ้าชิ้นอื่นเลย หญิงสาวเหลือบมองเศษผ้าสองชิ้น กางเกงที่เธอใส่เป็นประจำ ขาดแล่งและไมสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ กับชั้นในตัวโปรดที่สภาพยับเยินไม่ต่างกัน

พะแพงวักน้ำลูบหน้า ล้างทั้งคราบน้ำตา และคราบเหงื่อ...

แล้วจึงเดินมานั่งอย่างสงบรออยู่ที่ขอบเตียง...เธอตะแคงหูฟังเสียงจากด้านนอก

จนกระทั่ง...

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลาย 1

    บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลายเสียงจอแจของผู้คนดังเหมือนฝูงนกตอนเย็นๆ ที่ส่งเสียงทักทายกันหลังจากออกจากรังไปหากินมาทั้งวัน...ไม่ต่างกับมนุษย์ พวกเขาเองก็กำลังเดินเลือกซื้ออาหารมื้อเย็น เมื่อเลิกงานที่ทำมาตั้งแต่เช้าเช่นกัน วิถีชีวิตคนใช้แรงงาน...ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเป็นประจำทุกวัน แม่ค้าสาวใหญ่ สาวน้อยส่งเสียงเชื้อเชิญลูกค้าเสียงหวานแจ้ว พ่อค้าหนุ่มใหญ่หนวดเคราเฟิ้มก็ไม่ยอมน้อยหน้า ส่งเสียงร้องเรียกลูกค้ามากหน้าเสียงดังลั่น!! เป็นวัฐจักรที่พะแพงเห็นจนชินตา เมื่อเธอเองก็เป็นหนึ่งในบรรดาแม่ค้าที่ขายของอยู่ข้างทางด้วยเหมือนกัน เพราะต้องหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเมื่อรายได้ที่เข้ามา ไม่พอเพียงกับรายจ่ายที่จ่ายออก...มันช่วยไม่ได้นี่... เธอไม่ได้เกิดมาในครอบครัวร่ำรวย ครอบครัวเล็กๆ ของเธอ มี3 ชีวิต เธอกับครอบครัวอาศัยอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ของชุมชนแออัดด้านหลังตลาดนัดยามเย็นที่พะแพงตั้งแผงขายของอยู่นั่นเอง...บิดาของเธอนั่นเหรอ ก็เป็นแค่ รปภ. แก่ๆ ของกิจการค้าข้าวขนาดใหญ่ ที่ตัวตึกตั้งตระหง่านอยู่ริมถนน หน้าแหล่งชุมชนแออัด แต่ท่านก็ยังสู้อุตส่าห์กัดฟันเลี้ยงลูกน้อยทั้งสอง แม้จะลำบากเลือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลาย 2

    “ค่ะ ได้ค่ะ...แพงเต็มใจ” หญิงสาวยิ้มกร่อยๆ น้ำตาเอ่อเต็มหน่วยตา...จะอายุสั้นลงก็ช่างปะไร...เมื่อเธอมีที่ยึดเหนี่ยวใจ คือบิดาเพียงผู้เดียว “คุณพยาบาลเอาเอกสารมาให้คุณเขาเซ็นยินยอมด้วยล่ะ หมอขอตัวไปดูคนไข้คนอื่นก่อน ส่วนคนไข้รายนี้ก็ย้ายเข้าไปในห้อง ICU เลย จนกว่าอาการจะดีขึ้น” ท่านร้องสั่งพยาบาลประจำตัว ฉวยหูฟังคล้องคอ ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องเพื่อตรวจอาการคนไข้รายอื่นๆ พยาบาลสาวยิ้มให้กำลังใจ เธอค้นเอกสารมายื่นให้พะแพง...เพื่อทำความเข้าใจ พะแพงทำความเข้าใจกับเอกสารอยู่นาน เธอลงมือเซ็นเมื่ออ่านจนจบ ผู้รับผลประโยชน์คือบิดา แม้เธอจะต้องเสียอวัยวะชิ้นหนึ่งไป แลกกับการให้บิดามีอายุยาวนานขึ้น หญิงสาวเดินตัวลอยออกมาจากห้องนายแพทย์ผู้นั้น สมองเธอยังหมุนคว้าง ไร้ที่ยึดเหนี่ยวกับที่พึ่งพาทางใจ “แพงๆ เป็นไงบ้าง หมอว่าไอ้คล้ายมันเป็นอะไรเหรอ?” เชิดชาย กับทัดเทพ ยืนหน้าซีดอยู่ด้านนอก เมื่อเขาสองคนเห็นคล้ายถูกเข็นเข้าไปในห้อง ICU “พ่อเป็นโรคไตค่ะ ยังไม่วาย แต่ก็เฉียดๆ ต้องรีบเปลี่ยนเร็วที่สุด” พะแพงตอบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่2.ผู้ชายใจดำที่ไม่ต่างอะไรกับพญามัจจุราช!!

    บทที่2.ผู้ชายใจดำที่ไม่ต่างอะไรกับพญามัจจุราช!! พะแพงกระโจนลงจากรถจักรยานยนต์แบบไม่กลัวเจ็บ เมื่อสิ่งที่เธอเห็นน่าตระหนกมากกว่า “แพงๆ ไอ้พวกนี้มันรื้อของในบ้านแพงออกมาโยนทิ้งไว้อะ ใครกันเหรอ?” เสียงถามรอบตัวดังลั่น พะแพงส่ายหน้า เธอแน่ใจว่าไม่รู้จักใครในกลุ่มคนนั่น สักคนเลย หญิงสาวเม้มปากแน่น เธอมองแผ่นหลังเหยียดตรงของผู้ชายที่ยืนชี้นิ้วสั่ง...เบื้องหน้ากับฝูงผู้ชายวัยฉกรรจ์ เสียงของเขาดังลั่น แฝงแววอำมหิตจนขนแขนของเธอลุกเกรียว “ขนออกมาให้หมด...หึ!! มีแต่ขยะ ให้มันรู้ไปว่ามันจะมุดหัวหลบซ่อนตัวอยู่ได้อีก!!” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เขาโกรธแค้นอะไรกับครอบครัวเธอนักหนา ถึงได้ใจร้ายใจดำเช่นนี้ ใช่...สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นหิ้วมาโยนทิ้ง...มันอาจจะเป็นขยะในสายตาเขา...แต่สำหรับเธอมันคือสมบัติทางใจ ไม่ว่าจะเป็นตำราเก่าๆ หรือแม้แต่หม้อ ไห กระทะ ที่เก่ากึก แต่มันอยู่กับเธอมาตั้งแต่จำความได้ “หยุดนะ!! คุณต้องการอะไรกับฉันกันแน่ นี่บ้านฉันเองค่ะ และถ้าหากคุณยังไม่หยุดทำบ้าๆ นี่ ฉันจะแจ้งความ” หญิงสาวตะโกนลั่น เสียงดัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่3.รอยราคีที่ต้องจำจนวันตาย

    บทที่3.รอยราคีที่ต้องจำจนวันตาย “เธอแน่ใจนะว่าจะไม่เปลี่ยนใจทีหลัง...” ภาคินถามย้ำ เขาไม่ใคร่แน่ใจ หากหล่อนบิดพลิ้วขึ้นมาเหมือนกับพี่ชาย เขาจะอารมณ์เสียหนักขึ้น “ค่ะ...” พะแพงเชิดหน้าขึ้น เธอยอมรับความอดสูไว้ เพื่อต่อลมหายใจและทางเลือกให้พะนาย “ดี!!” ชายหนุ่มกระแทกเสียงหนักๆ เขาเดินปึงๆ ออกไปจากบ้าน พร้อมกับตะโกนเสียงลั่น “พาหล่อนไปหากูที่คอนโด กูจะไปอาบน้ำรอ แล้วถ้าหาไอ้พะนายเจอ จับเป็นมัน!! กูอยากเห็นหน้ามันก่อน” ใครจะคิดว่าบ้านเมืองที่มีกฎหมายคุ้มครอง จะมีคนบางคนใช้ศาลเตี้ย ตัดสินด้วยกำลัง เป็นอิทธิพลมืดที่พะแพงเองก็เพิ่งจะเคยเห็น เธอเคยได้ยินแค่เสียงเล่าลือ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เผชิญหน้ากับมันแบบที่ไม่สามารถเลี่ยงได้... “ครับ” เสียงรับคำแบบพร้อมเพรียง พะแพงทรุดฮวบ เธอร่วงลงไปกองที่พื้น แล้วก็มีผู้ชายหน้าดุเยี่ยมหน้าเข้ามามอง “อย่าลีลา เธอมีเวลาแค่10 นาที อย่าให้ถึงกับต้องลากไป” เป็นคำขู่ที่หญิงสาวสะท้านถึงทรวง... พะแพงสูดลมหายใจลึกๆ ไหนๆ เธอก็ตัดสินใจไปแล้ว ช่วงเวลาเลวร้ายจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... 1

    บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... เป็น ‘จูบ’ แรกที่หญิงสาวได้รู้จัก มันไม่ได้เริ่มต้นดีนัก เพราะมันเกิดขึ้นจากความจำยอม... แต่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด!! นับว่าภาคินมีฝีมือเชี่ยวพอตัว เขาสามารถโน้มน้าว ทำให้คนที่นอนแข็งเป็นท่อนไม้ หลงเคลิ้มไปกับสัมผัสแผ่วๆ นั่นได้ ‘จูบ’ สิ่งที่สาวๆ วัยแรกรุ่นส่วนใหญ่เคยนึกฝันยามค่ำคืน...พวกหล่อนอยากอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน? ใครสักคนที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่ที่พะแพงกำลังผจญอยู่นี่... มันกลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ซ่านเสียวและทรมานจนหญิงสาวนึกหวั่นกลัว มันต่างกับที่เธอเคยฝันหวานไว้ ‘จูบ’ ไม่ได้อ่อนหวาน แต่มันกำลังทรมานเธอแทบจะขาดใจตาย...กำหนัดรุ่มร้อน ตามประสาหนุ่มวัยฉกรรจ์ แต่ที่ทำให้ภาคินแปลกใจ เขาทำเหมือนคนอดอยาก...ตะโบม ‘จูบ’ หล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22

บทล่าสุด

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... 2

    ยอดอกสีสดถูกอุ้งปากร้อนชื้นอ้างับ เขาครอบครอง ดูดซึมความหวานฉ่ำชื่น ขยำขยี้ บีบบี้ความเต่งตึงนุ่มหยุ่นเคล้นคลึงด้วยความพอใจ ความรู้สึกหวามไหวไหลปร่า แผ่กระจายทั่วทุกตารางนิ้วบนผิวกาย เธอรู้สึกสยิวซาบซ่าน ทุกครั้ง...ยามที่ถูกโลมลูบด้วยฝ่ามือร้อนระอุ!! ร่างกายของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ เมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ๆ ลูบไล้สัมผัส ให้ตายเถอะ!! เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะรู้สึกกระสันซ่านได้ถึงเพียงนี้ ความรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต...กระแสไฟอ่อนๆ นั่นวิ่งพล่านทั่วทั้งตัว มันจุดประกายบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้ และมันกำลังทำให้เธออยากรู้ในสิ่งต่อไปที่กำลังจะมาถึง!!“อืมมมม...”เสียงครางผะแผ่ว ดังรอดออกมาจากกลีบปากที่เม้มแน่น ภาคินยิ้มเหยียดๆ มุมปาก เขาพรมจุมพิตหนักๆ ใต้ฐานอกอวบ ลากปลายลิ้นเปียกๆ ลงต่ำ พร้อมทั้งสูดกลิ่นความหอมหวานของเนื้อสาวจนเต็มปอด...ลูบไล้ผิวกายนุ่มนิ่มปลุกกระแสเลือดในกายของหญิงสาวให้เดือดพล่านเพิ่มมากขึ้นมือร้อนไล้วนเหนือแผ่นท้องราบเรียบ ปลายนิ้วเรียวสวยวนรอบแอ่งสะดือบุ๋มชวนชิดเชย ไถลเรื่อยไปยันเอวคอดกิ่วกับสะโพกผายเต็มตรึง!! พะแพงสะดุดลมหายใจตัวเอง เธอกลั้นห

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... 1

    บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... เป็น ‘จูบ’ แรกที่หญิงสาวได้รู้จัก มันไม่ได้เริ่มต้นดีนัก เพราะมันเกิดขึ้นจากความจำยอม... แต่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด!! นับว่าภาคินมีฝีมือเชี่ยวพอตัว เขาสามารถโน้มน้าว ทำให้คนที่นอนแข็งเป็นท่อนไม้ หลงเคลิ้มไปกับสัมผัสแผ่วๆ นั่นได้ ‘จูบ’ สิ่งที่สาวๆ วัยแรกรุ่นส่วนใหญ่เคยนึกฝันยามค่ำคืน...พวกหล่อนอยากอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน? ใครสักคนที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่ที่พะแพงกำลังผจญอยู่นี่... มันกลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ซ่านเสียวและทรมานจนหญิงสาวนึกหวั่นกลัว มันต่างกับที่เธอเคยฝันหวานไว้ ‘จูบ’ ไม่ได้อ่อนหวาน แต่มันกำลังทรมานเธอแทบจะขาดใจตาย...กำหนัดรุ่มร้อน ตามประสาหนุ่มวัยฉกรรจ์ แต่ที่ทำให้ภาคินแปลกใจ เขาทำเหมือนคนอดอยาก...ตะโบม ‘จูบ’ หล่

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่3.รอยราคีที่ต้องจำจนวันตาย

    บทที่3.รอยราคีที่ต้องจำจนวันตาย “เธอแน่ใจนะว่าจะไม่เปลี่ยนใจทีหลัง...” ภาคินถามย้ำ เขาไม่ใคร่แน่ใจ หากหล่อนบิดพลิ้วขึ้นมาเหมือนกับพี่ชาย เขาจะอารมณ์เสียหนักขึ้น “ค่ะ...” พะแพงเชิดหน้าขึ้น เธอยอมรับความอดสูไว้ เพื่อต่อลมหายใจและทางเลือกให้พะนาย “ดี!!” ชายหนุ่มกระแทกเสียงหนักๆ เขาเดินปึงๆ ออกไปจากบ้าน พร้อมกับตะโกนเสียงลั่น “พาหล่อนไปหากูที่คอนโด กูจะไปอาบน้ำรอ แล้วถ้าหาไอ้พะนายเจอ จับเป็นมัน!! กูอยากเห็นหน้ามันก่อน” ใครจะคิดว่าบ้านเมืองที่มีกฎหมายคุ้มครอง จะมีคนบางคนใช้ศาลเตี้ย ตัดสินด้วยกำลัง เป็นอิทธิพลมืดที่พะแพงเองก็เพิ่งจะเคยเห็น เธอเคยได้ยินแค่เสียงเล่าลือ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เผชิญหน้ากับมันแบบที่ไม่สามารถเลี่ยงได้... “ครับ” เสียงรับคำแบบพร้อมเพรียง พะแพงทรุดฮวบ เธอร่วงลงไปกองที่พื้น แล้วก็มีผู้ชายหน้าดุเยี่ยมหน้าเข้ามามอง “อย่าลีลา เธอมีเวลาแค่10 นาที อย่าให้ถึงกับต้องลากไป” เป็นคำขู่ที่หญิงสาวสะท้านถึงทรวง... พะแพงสูดลมหายใจลึกๆ ไหนๆ เธอก็ตัดสินใจไปแล้ว ช่วงเวลาเลวร้ายจ

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่2.ผู้ชายใจดำที่ไม่ต่างอะไรกับพญามัจจุราช!!

    บทที่2.ผู้ชายใจดำที่ไม่ต่างอะไรกับพญามัจจุราช!! พะแพงกระโจนลงจากรถจักรยานยนต์แบบไม่กลัวเจ็บ เมื่อสิ่งที่เธอเห็นน่าตระหนกมากกว่า “แพงๆ ไอ้พวกนี้มันรื้อของในบ้านแพงออกมาโยนทิ้งไว้อะ ใครกันเหรอ?” เสียงถามรอบตัวดังลั่น พะแพงส่ายหน้า เธอแน่ใจว่าไม่รู้จักใครในกลุ่มคนนั่น สักคนเลย หญิงสาวเม้มปากแน่น เธอมองแผ่นหลังเหยียดตรงของผู้ชายที่ยืนชี้นิ้วสั่ง...เบื้องหน้ากับฝูงผู้ชายวัยฉกรรจ์ เสียงของเขาดังลั่น แฝงแววอำมหิตจนขนแขนของเธอลุกเกรียว “ขนออกมาให้หมด...หึ!! มีแต่ขยะ ให้มันรู้ไปว่ามันจะมุดหัวหลบซ่อนตัวอยู่ได้อีก!!” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เขาโกรธแค้นอะไรกับครอบครัวเธอนักหนา ถึงได้ใจร้ายใจดำเช่นนี้ ใช่...สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นหิ้วมาโยนทิ้ง...มันอาจจะเป็นขยะในสายตาเขา...แต่สำหรับเธอมันคือสมบัติทางใจ ไม่ว่าจะเป็นตำราเก่าๆ หรือแม้แต่หม้อ ไห กระทะ ที่เก่ากึก แต่มันอยู่กับเธอมาตั้งแต่จำความได้ “หยุดนะ!! คุณต้องการอะไรกับฉันกันแน่ นี่บ้านฉันเองค่ะ และถ้าหากคุณยังไม่หยุดทำบ้าๆ นี่ ฉันจะแจ้งความ” หญิงสาวตะโกนลั่น เสียงดัง

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลาย 2

    “ค่ะ ได้ค่ะ...แพงเต็มใจ” หญิงสาวยิ้มกร่อยๆ น้ำตาเอ่อเต็มหน่วยตา...จะอายุสั้นลงก็ช่างปะไร...เมื่อเธอมีที่ยึดเหนี่ยวใจ คือบิดาเพียงผู้เดียว “คุณพยาบาลเอาเอกสารมาให้คุณเขาเซ็นยินยอมด้วยล่ะ หมอขอตัวไปดูคนไข้คนอื่นก่อน ส่วนคนไข้รายนี้ก็ย้ายเข้าไปในห้อง ICU เลย จนกว่าอาการจะดีขึ้น” ท่านร้องสั่งพยาบาลประจำตัว ฉวยหูฟังคล้องคอ ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องเพื่อตรวจอาการคนไข้รายอื่นๆ พยาบาลสาวยิ้มให้กำลังใจ เธอค้นเอกสารมายื่นให้พะแพง...เพื่อทำความเข้าใจ พะแพงทำความเข้าใจกับเอกสารอยู่นาน เธอลงมือเซ็นเมื่ออ่านจนจบ ผู้รับผลประโยชน์คือบิดา แม้เธอจะต้องเสียอวัยวะชิ้นหนึ่งไป แลกกับการให้บิดามีอายุยาวนานขึ้น หญิงสาวเดินตัวลอยออกมาจากห้องนายแพทย์ผู้นั้น สมองเธอยังหมุนคว้าง ไร้ที่ยึดเหนี่ยวกับที่พึ่งพาทางใจ “แพงๆ เป็นไงบ้าง หมอว่าไอ้คล้ายมันเป็นอะไรเหรอ?” เชิดชาย กับทัดเทพ ยืนหน้าซีดอยู่ด้านนอก เมื่อเขาสองคนเห็นคล้ายถูกเข็นเข้าไปในห้อง ICU “พ่อเป็นโรคไตค่ะ ยังไม่วาย แต่ก็เฉียดๆ ต้องรีบเปลี่ยนเร็วที่สุด” พะแพงตอบ

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลาย 1

    บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลายเสียงจอแจของผู้คนดังเหมือนฝูงนกตอนเย็นๆ ที่ส่งเสียงทักทายกันหลังจากออกจากรังไปหากินมาทั้งวัน...ไม่ต่างกับมนุษย์ พวกเขาเองก็กำลังเดินเลือกซื้ออาหารมื้อเย็น เมื่อเลิกงานที่ทำมาตั้งแต่เช้าเช่นกัน วิถีชีวิตคนใช้แรงงาน...ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเป็นประจำทุกวัน แม่ค้าสาวใหญ่ สาวน้อยส่งเสียงเชื้อเชิญลูกค้าเสียงหวานแจ้ว พ่อค้าหนุ่มใหญ่หนวดเคราเฟิ้มก็ไม่ยอมน้อยหน้า ส่งเสียงร้องเรียกลูกค้ามากหน้าเสียงดังลั่น!! เป็นวัฐจักรที่พะแพงเห็นจนชินตา เมื่อเธอเองก็เป็นหนึ่งในบรรดาแม่ค้าที่ขายของอยู่ข้างทางด้วยเหมือนกัน เพราะต้องหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเมื่อรายได้ที่เข้ามา ไม่พอเพียงกับรายจ่ายที่จ่ายออก...มันช่วยไม่ได้นี่... เธอไม่ได้เกิดมาในครอบครัวร่ำรวย ครอบครัวเล็กๆ ของเธอ มี3 ชีวิต เธอกับครอบครัวอาศัยอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ของชุมชนแออัดด้านหลังตลาดนัดยามเย็นที่พะแพงตั้งแผงขายของอยู่นั่นเอง...บิดาของเธอนั่นเหรอ ก็เป็นแค่ รปภ. แก่ๆ ของกิจการค้าข้าวขนาดใหญ่ ที่ตัวตึกตั้งตระหง่านอยู่ริมถนน หน้าแหล่งชุมชนแออัด แต่ท่านก็ยังสู้อุตส่าห์กัดฟันเลี้ยงลูกน้อยทั้งสอง แม้จะลำบากเลือ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status