หน้าหลัก / โรแมนติก / เชลยพรหมจรรย์ / บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... 1

แชร์

บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... 1

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-22 11:17:02

บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน...

          เป็น ‘จูบ’ แรกที่หญิงสาวได้รู้จัก มันไม่ได้เริ่มต้นดีนัก เพราะมันเกิดขึ้นจากความจำยอม...

          แต่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด!!

          นับว่าภาคินมีฝีมือเชี่ยวพอตัว เขาสามารถโน้มน้าว ทำให้คนที่นอนแข็งเป็นท่อนไม้ หลงเคลิ้มไปกับสัมผัสแผ่วๆ นั่นได้

          ‘จูบ’ สิ่งที่สาวๆ วัยแรกรุ่นส่วนใหญ่เคยนึกฝันยามค่ำคืน...พวกหล่อนอยากอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน? ใครสักคนที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่ที่พะแพงกำลังผจญอยู่นี่... มันกลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ซ่านเสียวและทรมานจนหญิงสาวนึกหวั่นกลัว มันต่างกับที่เธอเคยฝันหวานไว้ ‘จูบ’ ไม่ได้อ่อนหวาน แต่มันกำลังทรมานเธอแทบจะขาดใจตาย...

กำหนัดรุ่มร้อน ตามประสาหนุ่มวัยฉกรรจ์ แต่ที่ทำให้ภาคินแปลกใจ เขาทำเหมือนคนอดอยาก...ตะโบม ‘จูบ’ หล่อนไม่หยุด อารมณ์พุ่งพล่านของเขาพุ่งสูงขึ้น!! เหมือนกับถูกโยนขึ้นไปบนฟ้า แล้วก็ลอยละลิ่วตงลงไปในขุมนรก!!  เขาอยากจูบ อยากสัมผัสเธอมากขึ้น ชายหนุ่มก็เลยยิ่งกอดรัดคนในอ้อมแขนแน่นมากยิ่งขึ้นทุกทีๆ เขาย้ำพรมรอยจุมพิตทั่วใบหน้าหวานที่พยายามจะเบี่ยงหนี...แต่หล่อนหรือจะหนีพ้น  เมื่อถูกกักไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงยิ่งกว่าปลอกเหล็ก รัดรึง...หน่วงเหนี่ยวหล่อนไว้ ด้วยร่างกายแสนกำยำ...

ความรู้สึกแปลกใหม่วิ่งวนไปทั่วท้องน้อยของพะแพง...เธอขมวดคิ้วนิ่วใบหน้า เผยอปากเหมือนจะคราง จนต้องรีบหุบปากไว้ เมื่อปลายจมูกของภาคินซุกไซ้ลงบนผิวกายนุ่มนิ่ม ตรงลาดไหล่กลมกลึงของเธอ และเสียงสูดลมหายใจแรงๆ นั่น ทำให้หญิงสาวแทบผวา!!

ชายหนุ่มอมยิ้ม กลิ่นหอมๆ ข้างซอกหูของพะแพงเหมือนกลิ่นดอกมะลิยามแย้มกลีบรับหยาดน้ำค้างเวลาเช้าตรู่ หยดน้ำแสนสะอาดที่ประพรมลงมาช่วงเช้าตรู่!!

“ปะ... ปล่อยค่ะ...เอ่อ...ขอเวลาฉันหน่อยได้มั้ยคะ?”

ภาคินหัวเราะลงลูกคอ “หึ หึ!! ฉันให้เวลาเธอมากแล้วน่า... ฉันคิดว่าเธอน่าจะพอทำใจได้บ้างแล้วนะ”

“ค่ะ...เอ่อ” หญิงสาวพยายามท้วง...

“พอเถอะ!! เรามาจบมันตรงนี้ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”

หนุ่มสุดทะนงตอบเสียงหงุดหงิด เขาชะโงกเข้าไปใกล้ๆ ใกล้เสียจนลมหายใจร้อนๆ ของเขาเป่ารดปลายจมูกเชิดโด่ง พะแพงเบี่ยงหน้าหนี ใบหน้าหวานแดงก่ำร้อนฉ่าและผิวแก้มคงขึ้นสีจัดพอๆ กัน

ชายหนุ่มยิ้มเยาะ หล่อนหยุดพูด และนิ่งชะงัก มันหมายความว่าเขาชนะ!! เขากุมอำนาจอยู่เหนือหล่อนและพี่ชาย

สายตาดุดันทอดมอง...ร่างสั่นระริกในอ้อมแขน กลิ่นสาปสาวระเหย โชยออกมาจากร่างกายของหล่อน มันส่งกลิ่นหอมยวนใจ จนหัวใจด้านชา...เต้นพล่าน...

มุมปากได้รูปกระตุกยิ้ม กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก แล้วจึงโน้มใบหน้า กดริมฝีปากตัวเองแนบกลีบปากหวานหอมที่หมายตา...อีกครั้ง...

พื้นที่นอนไหวยวบเมื่อชายหนุ่มทิ้งน้ำหนักตัวกดทับคนตัวเล็กเต็มลัก!! ที่นอนสปิ๊งเด้งดึ๋ง ทุกครั้งยามที่เขาขยับตัวเสียดสี ฝ่ามือหนากางขยุ้มเนินทรวงอวบอั๋นใต้กรวยผ้าลูกไม้สีซีด แม้มันจะเก่าเพราะผ่านการใช้งานมานานปี แต่กลิ่นสะอาดที่ภาคินได้ดม...แสดงให้รู้ว่าหล่อนรักษาความสะอาดอย่างดี…จู่ๆ ภาพชั้นในผ้าลูกไม้ ที่สั่งตัดจากช่างฝีมือดีจากฝรั่งเศส กับชุดเดรสสวยๆ จากแบรนด์ดัง ก็ผุดขึ้นมากลางใจ...

หากพะแพงได้มีโอกาสสวมชุดเหล่านั้น...

หล่อนคงดูอ่อนหวาน น่าทะนุถนอมกว่านี้

โบราณว่าไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง...มันยังใช้มาได้ทุกยุคทุกสมัย...

เสื้อผ้าเนื้อดี รูปแบบอินเทรน ทำให้คนธรรมดา กลายเป็นนางฟ้ามานัก ต่อนัก...

 ชายหนุ่มมองสบนัยน์ตากลมโตที่ไหวระริก...เหมือนระลอกคลื่นเหนือผิวน้ำ ยามถูกสายลมพัดผ่าน...มือแข็งแรงรวบสองมือน้อยที่ค่อนข้างหยาบไปสักหน่อยขึ้นชูไว้เหนือศีรษะ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง และคงกำลังตื่นตระหนก

ปลายนิ้วเรียวสวย ไล้ไปตามขอบชั้นในผ้าลูกไม้เก่าๆ “สวย...” ภาคินหลงละเมอ เขาเผลอตัวเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงสั่นปร่า

ไม่คิดว่าตัวเองจะตกหลุมเสน่ห์หวาม ในช่วงหวามไหว สายตาคมดุจ้องใบหน้างดงาม และ...

เบี่ยงลำตัวขึ้นทาบทับเรือนร่างอวบอัดของพะแพง มุมปากกระตุกยิ้ม ไม่คิดว่าการไล่ล่าไอ้คนเนรคุณ!! มันจะทำให้เขาได้สิ่งตอบแทนที่แสนถูกใจ ผู้หญิงคนหนึ่งที่น่าจะ...สดสะอาด...กลิ่นสาปสาวบนเรือนร่างของหล่อน ทำให้เลือดในกายของเขาเต้นพล่าน กระหายที่จะได้ดื่มลิ้มรสความสาวสด หล่อนน่าจะทำให้เขาถึงสรวงสวรรค์ชั้นสูงสุดแบบทะลายโลก และดำดิ่งลงใต้ห้วงมหาสมุทรมืดมิด...ในเวลาเดียวกัน

หล่อนน่าเวทนา พอๆ กับการเหยียบซ้ำ

ช่วยไม่ได้ที่หล่อนดันมีพี่ชายเป็น ‘ไอ้เนรคุณ’ คนนั้น

ภาคินโน้มใบหน้าคมคายซุกไซ้ซอกคอหอมๆ ของคนใต้ร่าง หล่อนเบี่ยงใบหน้าหนี แต่มันกลับกลายเป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้สูดความหอมจากซอกคอหอมกรุ่นได้ถนัดมากขึ้น “อืมมมม” เสียงครางแผ่วพร่าดังในลำคอ ภาคินพึงใจกับความหอมหวานเย้ายวนที่ได้พบ กลิ่นกายหล่อนหอมสะอาด เป็นกลิ่นสาปจากเนื้อสาวแท้ๆ ไร้การปรุงแต่ง มันทำให้เลือดลมในกายของชายหนุ่มระอุพล่าน!! วิ่งไปจ่อรออยู่ที่จุดกึ่งกลางร่างกาย จนมันขยายตัวแข็งชันเหมือนอยากจะประกาศพลังอำนาจที่ถือครองไว้เต็มทน...

“โอวววว...”

ชายหนุ่มสอดมือคู่นั้นลูบไล้ผิวกายขาวผ่องช่วงลาดบ่ากลมกลึง เพียงแค่สัมผัสแผ่วๆ กลับทำให้คนไม่คุ้นเคยสะท้านเยือก พะแพงหลุบเปลือกตาลง ข่มอารมณ์อดสูที่พลุ่งพล่านอยู่ในช่องอก พยายามที่สุดที่จะไม่สนใจสัมผัสแสนละมุนนั่น และปล่อยให้ชายหนุ่มทำตามความปรารถนาของเขา เมื่อมันเป็นข้อตกลงระหว่างกัน!!

แต่...กายสัมผัสระหว่างหญิงชาย เป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากภายใน เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครก็ตาม...พวกเขาไม่อาจฝืนต้าน หลังเวลาผ่านไปพอสมควร พะแพงก็เหมือนเฉกเช่นคนอื่นๆ เธอถูกฉุดดึงลงไปในหุบเหวของความปรารถนา ถูกเพลิงพิศวาสโลมเลียกัดกินผิวกายทีละนิดๆ

หญิงสาวรู้สึกชิงชังร่างกายตัวเอง เรือนกายที่ไม่รักดี...ดันเผลอคล้อยตามชายหนุ่ม แตกผลิและเบ่งบานตามสัมผัสแสนยวนใจนั่น!! เผลอตัวแอ่นหยัดร่างกาย บดเบียดผิวนุ่มกับแผ่นอกหนาๆ ของคนที่ทาบทับอยู่ด้านบน ผิวกายร้อนวูบ!! สลับกับเย็นยะเยือก ซ่านสยิวผิวกายแบบที่ไม่เคยรู้สึก เรียวปากเม้มแน่น... พยายามจะกลั้นเสียงครางน่าเกลียดที่อาจจะหลุดลอดออกมาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เมื่อความสยิวซ่านกำลังลามไปทั่วผิวกาย

ริมฝีปากหนาหยักโลมไล้ขบเม้มผิวอ่อนบางเหนือช่วงอกอวบ เขาร่นชั้นในผ้าลูกไม้ที่เปราะบางเหมือนจะขาดได้ทุกนาที เนื่องจากเนื้อผ้าแสนเก่านั่น ‘แคว๊ก!!!’ แค่แตะแผ่วๆ ผ้าเปื่อยยุ่ยก็ขาดคามือ ชายหนุ่มกระตุกแรงๆ จนกรวยผ้าขาดผึ่ง!! เขาเหวี่ยงเศษผ้ายุ่ยๆ นั้นจนกระเด็นไปตกอยู่มุมห้อง

ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ มองประติมากรรมตรงหน้า ด้วยความตะลึงพรึงเพลิด...ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นความลับ ในร่างกายสาวๆ แต่ที่ภาคินเคยเห็น เทียบไม่ได้กับสิ่งที่ได้เห็นเต็มตาเวลานี้...ทรวงอกเต็มตรึง ขนาดพอเหมาะมือ ปลายยอดสีฉ่ำ พอๆ กับผลเชอร์รี่ที่สุกคาต้น กลิ่นหอมละไมติดปลายจมูก และรสชาติคงหวานล้ำ จนลืมไม่ลง... ความงดงามยวนตาเหมือนเหมือนนางกินรี หรือไม่ก็มักรีผล ที่มีกลิ่นเฉพาะตัว เป็นยอดปรารถนาที่ผู้ชายใฝ่ฝัน ใคร่จะลิ้มลอง

 แต่...สิ่งล้ำค่านั่น อยู่ตรงด้านหน้าเขา...เวลานี้เอง

กระแสเชี่ยวกรากของพายุเสน่หานี้ พัดโหมเข้ามาอย่างรุนแรง...ภาคินไม่คิดว่า...ผู้หญิงธรรมดาเยี่ยงพะแพง จะทำให้เกิดขึ้นได้

เวลานี้เขาแน่ใจแล้ว หล่อนคือตัวอันตราย ที่สมควรอยู่ให้ห่างที่สุด หากยังอยากมีชีวิตอิสระ!!

แววตาเว้าวอนเงียบๆ ดึงเขาเข้าไปสู่ห้วงปรารถนาอันเร้นลึก มันทำให้เขารู้สึกฮึกเหิม เกิดภาคภูมิ ที่ตัวเองมีอำนาจมากพอที่จะสยบเจ้าหล่อนลงได้... มันเป็นความสนุกสุขสันต์ ปนกับความตื่นเต้น ภาคินจึงไม่รอช้า เขารีบควานหาความหวานซ่านของทรวงสาว ฟ้อนเฟ้นเต่งเต้าอวบอั๋นที่แสนถูกใจอย่างตะกรุมตะกราม...จนก้านดอกไม้ที่ชูช่อไสวสั่นระริก ยามเมื่อถูกฝ่ามือร้อนๆ เคล้นคลึง ด้วยความหนักหน่วง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... 2

    ยอดอกสีสดถูกอุ้งปากร้อนชื้นอ้างับ เขาครอบครอง ดูดซึมความหวานฉ่ำชื่น ขยำขยี้ บีบบี้ความเต่งตึงนุ่มหยุ่นเคล้นคลึงด้วยความพอใจ ความรู้สึกหวามไหวไหลปร่า แผ่กระจายทั่วทุกตารางนิ้วบนผิวกาย เธอรู้สึกสยิวซาบซ่าน ทุกครั้ง...ยามที่ถูกโลมลูบด้วยฝ่ามือร้อนระอุ!! ร่างกายของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ เมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ๆ ลูบไล้สัมผัส ให้ตายเถอะ!! เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะรู้สึกกระสันซ่านได้ถึงเพียงนี้ ความรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต...กระแสไฟอ่อนๆ นั่นวิ่งพล่านทั่วทั้งตัว มันจุดประกายบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้ และมันกำลังทำให้เธออยากรู้ในสิ่งต่อไปที่กำลังจะมาถึง!!“อืมมมม...”เสียงครางผะแผ่ว ดังรอดออกมาจากกลีบปากที่เม้มแน่น ภาคินยิ้มเหยียดๆ มุมปาก เขาพรมจุมพิตหนักๆ ใต้ฐานอกอวบ ลากปลายลิ้นเปียกๆ ลงต่ำ พร้อมทั้งสูดกลิ่นความหอมหวานของเนื้อสาวจนเต็มปอด...ลูบไล้ผิวกายนุ่มนิ่มปลุกกระแสเลือดในกายของหญิงสาวให้เดือดพล่านเพิ่มมากขึ้นมือร้อนไล้วนเหนือแผ่นท้องราบเรียบ ปลายนิ้วเรียวสวยวนรอบแอ่งสะดือบุ๋มชวนชิดเชย ไถลเรื่อยไปยันเอวคอดกิ่วกับสะโพกผายเต็มตรึง!! พะแพงสะดุดลมหายใจตัวเอง เธอกลั้นห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลาย 1

    บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลายเสียงจอแจของผู้คนดังเหมือนฝูงนกตอนเย็นๆ ที่ส่งเสียงทักทายกันหลังจากออกจากรังไปหากินมาทั้งวัน...ไม่ต่างกับมนุษย์ พวกเขาเองก็กำลังเดินเลือกซื้ออาหารมื้อเย็น เมื่อเลิกงานที่ทำมาตั้งแต่เช้าเช่นกัน วิถีชีวิตคนใช้แรงงาน...ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเป็นประจำทุกวัน แม่ค้าสาวใหญ่ สาวน้อยส่งเสียงเชื้อเชิญลูกค้าเสียงหวานแจ้ว พ่อค้าหนุ่มใหญ่หนวดเคราเฟิ้มก็ไม่ยอมน้อยหน้า ส่งเสียงร้องเรียกลูกค้ามากหน้าเสียงดังลั่น!! เป็นวัฐจักรที่พะแพงเห็นจนชินตา เมื่อเธอเองก็เป็นหนึ่งในบรรดาแม่ค้าที่ขายของอยู่ข้างทางด้วยเหมือนกัน เพราะต้องหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเมื่อรายได้ที่เข้ามา ไม่พอเพียงกับรายจ่ายที่จ่ายออก...มันช่วยไม่ได้นี่... เธอไม่ได้เกิดมาในครอบครัวร่ำรวย ครอบครัวเล็กๆ ของเธอ มี3 ชีวิต เธอกับครอบครัวอาศัยอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ของชุมชนแออัดด้านหลังตลาดนัดยามเย็นที่พะแพงตั้งแผงขายของอยู่นั่นเอง...บิดาของเธอนั่นเหรอ ก็เป็นแค่ รปภ. แก่ๆ ของกิจการค้าข้าวขนาดใหญ่ ที่ตัวตึกตั้งตระหง่านอยู่ริมถนน หน้าแหล่งชุมชนแออัด แต่ท่านก็ยังสู้อุตส่าห์กัดฟันเลี้ยงลูกน้อยทั้งสอง แม้จะลำบากเลือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลาย 2

    “ค่ะ ได้ค่ะ...แพงเต็มใจ” หญิงสาวยิ้มกร่อยๆ น้ำตาเอ่อเต็มหน่วยตา...จะอายุสั้นลงก็ช่างปะไร...เมื่อเธอมีที่ยึดเหนี่ยวใจ คือบิดาเพียงผู้เดียว “คุณพยาบาลเอาเอกสารมาให้คุณเขาเซ็นยินยอมด้วยล่ะ หมอขอตัวไปดูคนไข้คนอื่นก่อน ส่วนคนไข้รายนี้ก็ย้ายเข้าไปในห้อง ICU เลย จนกว่าอาการจะดีขึ้น” ท่านร้องสั่งพยาบาลประจำตัว ฉวยหูฟังคล้องคอ ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องเพื่อตรวจอาการคนไข้รายอื่นๆ พยาบาลสาวยิ้มให้กำลังใจ เธอค้นเอกสารมายื่นให้พะแพง...เพื่อทำความเข้าใจ พะแพงทำความเข้าใจกับเอกสารอยู่นาน เธอลงมือเซ็นเมื่ออ่านจนจบ ผู้รับผลประโยชน์คือบิดา แม้เธอจะต้องเสียอวัยวะชิ้นหนึ่งไป แลกกับการให้บิดามีอายุยาวนานขึ้น หญิงสาวเดินตัวลอยออกมาจากห้องนายแพทย์ผู้นั้น สมองเธอยังหมุนคว้าง ไร้ที่ยึดเหนี่ยวกับที่พึ่งพาทางใจ “แพงๆ เป็นไงบ้าง หมอว่าไอ้คล้ายมันเป็นอะไรเหรอ?” เชิดชาย กับทัดเทพ ยืนหน้าซีดอยู่ด้านนอก เมื่อเขาสองคนเห็นคล้ายถูกเข็นเข้าไปในห้อง ICU “พ่อเป็นโรคไตค่ะ ยังไม่วาย แต่ก็เฉียดๆ ต้องรีบเปลี่ยนเร็วที่สุด” พะแพงตอบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่2.ผู้ชายใจดำที่ไม่ต่างอะไรกับพญามัจจุราช!!

    บทที่2.ผู้ชายใจดำที่ไม่ต่างอะไรกับพญามัจจุราช!! พะแพงกระโจนลงจากรถจักรยานยนต์แบบไม่กลัวเจ็บ เมื่อสิ่งที่เธอเห็นน่าตระหนกมากกว่า “แพงๆ ไอ้พวกนี้มันรื้อของในบ้านแพงออกมาโยนทิ้งไว้อะ ใครกันเหรอ?” เสียงถามรอบตัวดังลั่น พะแพงส่ายหน้า เธอแน่ใจว่าไม่รู้จักใครในกลุ่มคนนั่น สักคนเลย หญิงสาวเม้มปากแน่น เธอมองแผ่นหลังเหยียดตรงของผู้ชายที่ยืนชี้นิ้วสั่ง...เบื้องหน้ากับฝูงผู้ชายวัยฉกรรจ์ เสียงของเขาดังลั่น แฝงแววอำมหิตจนขนแขนของเธอลุกเกรียว “ขนออกมาให้หมด...หึ!! มีแต่ขยะ ให้มันรู้ไปว่ามันจะมุดหัวหลบซ่อนตัวอยู่ได้อีก!!” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เขาโกรธแค้นอะไรกับครอบครัวเธอนักหนา ถึงได้ใจร้ายใจดำเช่นนี้ ใช่...สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นหิ้วมาโยนทิ้ง...มันอาจจะเป็นขยะในสายตาเขา...แต่สำหรับเธอมันคือสมบัติทางใจ ไม่ว่าจะเป็นตำราเก่าๆ หรือแม้แต่หม้อ ไห กระทะ ที่เก่ากึก แต่มันอยู่กับเธอมาตั้งแต่จำความได้ “หยุดนะ!! คุณต้องการอะไรกับฉันกันแน่ นี่บ้านฉันเองค่ะ และถ้าหากคุณยังไม่หยุดทำบ้าๆ นี่ ฉันจะแจ้งความ” หญิงสาวตะโกนลั่น เสียงดัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่3.รอยราคีที่ต้องจำจนวันตาย

    บทที่3.รอยราคีที่ต้องจำจนวันตาย “เธอแน่ใจนะว่าจะไม่เปลี่ยนใจทีหลัง...” ภาคินถามย้ำ เขาไม่ใคร่แน่ใจ หากหล่อนบิดพลิ้วขึ้นมาเหมือนกับพี่ชาย เขาจะอารมณ์เสียหนักขึ้น “ค่ะ...” พะแพงเชิดหน้าขึ้น เธอยอมรับความอดสูไว้ เพื่อต่อลมหายใจและทางเลือกให้พะนาย “ดี!!” ชายหนุ่มกระแทกเสียงหนักๆ เขาเดินปึงๆ ออกไปจากบ้าน พร้อมกับตะโกนเสียงลั่น “พาหล่อนไปหากูที่คอนโด กูจะไปอาบน้ำรอ แล้วถ้าหาไอ้พะนายเจอ จับเป็นมัน!! กูอยากเห็นหน้ามันก่อน” ใครจะคิดว่าบ้านเมืองที่มีกฎหมายคุ้มครอง จะมีคนบางคนใช้ศาลเตี้ย ตัดสินด้วยกำลัง เป็นอิทธิพลมืดที่พะแพงเองก็เพิ่งจะเคยเห็น เธอเคยได้ยินแค่เสียงเล่าลือ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เผชิญหน้ากับมันแบบที่ไม่สามารถเลี่ยงได้... “ครับ” เสียงรับคำแบบพร้อมเพรียง พะแพงทรุดฮวบ เธอร่วงลงไปกองที่พื้น แล้วก็มีผู้ชายหน้าดุเยี่ยมหน้าเข้ามามอง “อย่าลีลา เธอมีเวลาแค่10 นาที อย่าให้ถึงกับต้องลากไป” เป็นคำขู่ที่หญิงสาวสะท้านถึงทรวง... พะแพงสูดลมหายใจลึกๆ ไหนๆ เธอก็ตัดสินใจไปแล้ว ช่วงเวลาเลวร้ายจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19

บทล่าสุด

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... 2

    ยอดอกสีสดถูกอุ้งปากร้อนชื้นอ้างับ เขาครอบครอง ดูดซึมความหวานฉ่ำชื่น ขยำขยี้ บีบบี้ความเต่งตึงนุ่มหยุ่นเคล้นคลึงด้วยความพอใจ ความรู้สึกหวามไหวไหลปร่า แผ่กระจายทั่วทุกตารางนิ้วบนผิวกาย เธอรู้สึกสยิวซาบซ่าน ทุกครั้ง...ยามที่ถูกโลมลูบด้วยฝ่ามือร้อนระอุ!! ร่างกายของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ เมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ๆ ลูบไล้สัมผัส ให้ตายเถอะ!! เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะรู้สึกกระสันซ่านได้ถึงเพียงนี้ ความรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต...กระแสไฟอ่อนๆ นั่นวิ่งพล่านทั่วทั้งตัว มันจุดประกายบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้ และมันกำลังทำให้เธออยากรู้ในสิ่งต่อไปที่กำลังจะมาถึง!!“อืมมมม...”เสียงครางผะแผ่ว ดังรอดออกมาจากกลีบปากที่เม้มแน่น ภาคินยิ้มเหยียดๆ มุมปาก เขาพรมจุมพิตหนักๆ ใต้ฐานอกอวบ ลากปลายลิ้นเปียกๆ ลงต่ำ พร้อมทั้งสูดกลิ่นความหอมหวานของเนื้อสาวจนเต็มปอด...ลูบไล้ผิวกายนุ่มนิ่มปลุกกระแสเลือดในกายของหญิงสาวให้เดือดพล่านเพิ่มมากขึ้นมือร้อนไล้วนเหนือแผ่นท้องราบเรียบ ปลายนิ้วเรียวสวยวนรอบแอ่งสะดือบุ๋มชวนชิดเชย ไถลเรื่อยไปยันเอวคอดกิ่วกับสะโพกผายเต็มตรึง!! พะแพงสะดุดลมหายใจตัวเอง เธอกลั้นห

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... 1

    บทที่4.เพียงสายลมพัดผ่าน... เป็น ‘จูบ’ แรกที่หญิงสาวได้รู้จัก มันไม่ได้เริ่มต้นดีนัก เพราะมันเกิดขึ้นจากความจำยอม... แต่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด!! นับว่าภาคินมีฝีมือเชี่ยวพอตัว เขาสามารถโน้มน้าว ทำให้คนที่นอนแข็งเป็นท่อนไม้ หลงเคลิ้มไปกับสัมผัสแผ่วๆ นั่นได้ ‘จูบ’ สิ่งที่สาวๆ วัยแรกรุ่นส่วนใหญ่เคยนึกฝันยามค่ำคืน...พวกหล่อนอยากอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน? ใครสักคนที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่ที่พะแพงกำลังผจญอยู่นี่... มันกลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ซ่านเสียวและทรมานจนหญิงสาวนึกหวั่นกลัว มันต่างกับที่เธอเคยฝันหวานไว้ ‘จูบ’ ไม่ได้อ่อนหวาน แต่มันกำลังทรมานเธอแทบจะขาดใจตาย...กำหนัดรุ่มร้อน ตามประสาหนุ่มวัยฉกรรจ์ แต่ที่ทำให้ภาคินแปลกใจ เขาทำเหมือนคนอดอยาก...ตะโบม ‘จูบ’ หล่

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่3.รอยราคีที่ต้องจำจนวันตาย

    บทที่3.รอยราคีที่ต้องจำจนวันตาย “เธอแน่ใจนะว่าจะไม่เปลี่ยนใจทีหลัง...” ภาคินถามย้ำ เขาไม่ใคร่แน่ใจ หากหล่อนบิดพลิ้วขึ้นมาเหมือนกับพี่ชาย เขาจะอารมณ์เสียหนักขึ้น “ค่ะ...” พะแพงเชิดหน้าขึ้น เธอยอมรับความอดสูไว้ เพื่อต่อลมหายใจและทางเลือกให้พะนาย “ดี!!” ชายหนุ่มกระแทกเสียงหนักๆ เขาเดินปึงๆ ออกไปจากบ้าน พร้อมกับตะโกนเสียงลั่น “พาหล่อนไปหากูที่คอนโด กูจะไปอาบน้ำรอ แล้วถ้าหาไอ้พะนายเจอ จับเป็นมัน!! กูอยากเห็นหน้ามันก่อน” ใครจะคิดว่าบ้านเมืองที่มีกฎหมายคุ้มครอง จะมีคนบางคนใช้ศาลเตี้ย ตัดสินด้วยกำลัง เป็นอิทธิพลมืดที่พะแพงเองก็เพิ่งจะเคยเห็น เธอเคยได้ยินแค่เสียงเล่าลือ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เผชิญหน้ากับมันแบบที่ไม่สามารถเลี่ยงได้... “ครับ” เสียงรับคำแบบพร้อมเพรียง พะแพงทรุดฮวบ เธอร่วงลงไปกองที่พื้น แล้วก็มีผู้ชายหน้าดุเยี่ยมหน้าเข้ามามอง “อย่าลีลา เธอมีเวลาแค่10 นาที อย่าให้ถึงกับต้องลากไป” เป็นคำขู่ที่หญิงสาวสะท้านถึงทรวง... พะแพงสูดลมหายใจลึกๆ ไหนๆ เธอก็ตัดสินใจไปแล้ว ช่วงเวลาเลวร้ายจ

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่2.ผู้ชายใจดำที่ไม่ต่างอะไรกับพญามัจจุราช!!

    บทที่2.ผู้ชายใจดำที่ไม่ต่างอะไรกับพญามัจจุราช!! พะแพงกระโจนลงจากรถจักรยานยนต์แบบไม่กลัวเจ็บ เมื่อสิ่งที่เธอเห็นน่าตระหนกมากกว่า “แพงๆ ไอ้พวกนี้มันรื้อของในบ้านแพงออกมาโยนทิ้งไว้อะ ใครกันเหรอ?” เสียงถามรอบตัวดังลั่น พะแพงส่ายหน้า เธอแน่ใจว่าไม่รู้จักใครในกลุ่มคนนั่น สักคนเลย หญิงสาวเม้มปากแน่น เธอมองแผ่นหลังเหยียดตรงของผู้ชายที่ยืนชี้นิ้วสั่ง...เบื้องหน้ากับฝูงผู้ชายวัยฉกรรจ์ เสียงของเขาดังลั่น แฝงแววอำมหิตจนขนแขนของเธอลุกเกรียว “ขนออกมาให้หมด...หึ!! มีแต่ขยะ ให้มันรู้ไปว่ามันจะมุดหัวหลบซ่อนตัวอยู่ได้อีก!!” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เขาโกรธแค้นอะไรกับครอบครัวเธอนักหนา ถึงได้ใจร้ายใจดำเช่นนี้ ใช่...สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นหิ้วมาโยนทิ้ง...มันอาจจะเป็นขยะในสายตาเขา...แต่สำหรับเธอมันคือสมบัติทางใจ ไม่ว่าจะเป็นตำราเก่าๆ หรือแม้แต่หม้อ ไห กระทะ ที่เก่ากึก แต่มันอยู่กับเธอมาตั้งแต่จำความได้ “หยุดนะ!! คุณต้องการอะไรกับฉันกันแน่ นี่บ้านฉันเองค่ะ และถ้าหากคุณยังไม่หยุดทำบ้าๆ นี่ ฉันจะแจ้งความ” หญิงสาวตะโกนลั่น เสียงดัง

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลาย 2

    “ค่ะ ได้ค่ะ...แพงเต็มใจ” หญิงสาวยิ้มกร่อยๆ น้ำตาเอ่อเต็มหน่วยตา...จะอายุสั้นลงก็ช่างปะไร...เมื่อเธอมีที่ยึดเหนี่ยวใจ คือบิดาเพียงผู้เดียว “คุณพยาบาลเอาเอกสารมาให้คุณเขาเซ็นยินยอมด้วยล่ะ หมอขอตัวไปดูคนไข้คนอื่นก่อน ส่วนคนไข้รายนี้ก็ย้ายเข้าไปในห้อง ICU เลย จนกว่าอาการจะดีขึ้น” ท่านร้องสั่งพยาบาลประจำตัว ฉวยหูฟังคล้องคอ ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องเพื่อตรวจอาการคนไข้รายอื่นๆ พยาบาลสาวยิ้มให้กำลังใจ เธอค้นเอกสารมายื่นให้พะแพง...เพื่อทำความเข้าใจ พะแพงทำความเข้าใจกับเอกสารอยู่นาน เธอลงมือเซ็นเมื่ออ่านจนจบ ผู้รับผลประโยชน์คือบิดา แม้เธอจะต้องเสียอวัยวะชิ้นหนึ่งไป แลกกับการให้บิดามีอายุยาวนานขึ้น หญิงสาวเดินตัวลอยออกมาจากห้องนายแพทย์ผู้นั้น สมองเธอยังหมุนคว้าง ไร้ที่ยึดเหนี่ยวกับที่พึ่งพาทางใจ “แพงๆ เป็นไงบ้าง หมอว่าไอ้คล้ายมันเป็นอะไรเหรอ?” เชิดชาย กับทัดเทพ ยืนหน้าซีดอยู่ด้านนอก เมื่อเขาสองคนเห็นคล้ายถูกเข็นเข้าไปในห้อง ICU “พ่อเป็นโรคไตค่ะ ยังไม่วาย แต่ก็เฉียดๆ ต้องรีบเปลี่ยนเร็วที่สุด” พะแพงตอบ

  • เชลยพรหมจรรย์   บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลาย 1

    บทที่1.ข่าวร้ายที่หัวใจเกือบสลายเสียงจอแจของผู้คนดังเหมือนฝูงนกตอนเย็นๆ ที่ส่งเสียงทักทายกันหลังจากออกจากรังไปหากินมาทั้งวัน...ไม่ต่างกับมนุษย์ พวกเขาเองก็กำลังเดินเลือกซื้ออาหารมื้อเย็น เมื่อเลิกงานที่ทำมาตั้งแต่เช้าเช่นกัน วิถีชีวิตคนใช้แรงงาน...ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเป็นประจำทุกวัน แม่ค้าสาวใหญ่ สาวน้อยส่งเสียงเชื้อเชิญลูกค้าเสียงหวานแจ้ว พ่อค้าหนุ่มใหญ่หนวดเคราเฟิ้มก็ไม่ยอมน้อยหน้า ส่งเสียงร้องเรียกลูกค้ามากหน้าเสียงดังลั่น!! เป็นวัฐจักรที่พะแพงเห็นจนชินตา เมื่อเธอเองก็เป็นหนึ่งในบรรดาแม่ค้าที่ขายของอยู่ข้างทางด้วยเหมือนกัน เพราะต้องหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเมื่อรายได้ที่เข้ามา ไม่พอเพียงกับรายจ่ายที่จ่ายออก...มันช่วยไม่ได้นี่... เธอไม่ได้เกิดมาในครอบครัวร่ำรวย ครอบครัวเล็กๆ ของเธอ มี3 ชีวิต เธอกับครอบครัวอาศัยอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ของชุมชนแออัดด้านหลังตลาดนัดยามเย็นที่พะแพงตั้งแผงขายของอยู่นั่นเอง...บิดาของเธอนั่นเหรอ ก็เป็นแค่ รปภ. แก่ๆ ของกิจการค้าข้าวขนาดใหญ่ ที่ตัวตึกตั้งตระหง่านอยู่ริมถนน หน้าแหล่งชุมชนแออัด แต่ท่านก็ยังสู้อุตส่าห์กัดฟันเลี้ยงลูกน้อยทั้งสอง แม้จะลำบากเลือ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status