Share

ตอนที่23.  เจ้ากล้ารึ

แต่วันนี้เขาคงต้องตัดความคิดนั้นออกไปเสีย ใครจะไปคาดคิดว่าท่านหญิงกำพร้ามารดาเช่นนาง จะมีฝีมือมากถึงเพียงนี้ อีกทั้งหลี่จ้านที่ควรจะอ่อนแรงด้วยพิษที่เขาให้ตูหลงใส่ในอาหารยาบำรุง

กลับไม่เป็นอะไรเลย ทั้งยังมายืนลอยหน้าลอยตาต่อหน้าเขาอยู่ในตอนนี้

“เจ้าคงไม่คิดที่จะทำเรื่องสิ้นคิดหรอกนะ หลี่จ้าน”

“หากข้าปล่อยท่านราชครูกลับไปต่างหากเล่าขอรับ จึงจะถือว่าเป็นเรื่องสิ้นคิด”

“เจ้ากล้ารึ”

“ฝ่าบาททรงมีพระบัญชาให้ท่านราชครูพ้นตำแหน่ง นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปขอรับ”

“โอหังนัก กล้าแอบอ้างพระบัญชาในองค์ฮ่องเต้เชียวรึ”

“ข้าว่าแอบอ้างหรือไม่ ท่านราชครูย่อมรู้ดีแก่ใจนะขอรับ”

“ท่านราชครู หลบไปก่อนขอรับทางนี้ข้าจัดการเอง”

อยู่ ๆ ได้มีชายชุดดำปรากฏตัวขึ้น หลี่จ้านมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาเย็นชา เขาไม่รู้สึกหวาดกลัวต่อคนตรงหน้าเลย กระบี่ในมือของอีกฝ่ายเขาจำมันได้ดีว่าคือของผู้ใด

องค์ชายที่ผู้คนมองว่าหัวอ่อน ทว่าแท้จริงแล้วแอบซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้อย่างมิดชิด แสร้งทำทีไม่ยุ่งเรื่องในราชสำนัก แต่กลับเป็นผู้ชักใยผู้คนให้กำจัดกันเอง เพื่อให้เหลือเพียงตัวเลือกเดียวคือตนเอง

“ทรงมาช่วยเหลือหรือกำจัดเขากันแน่พ่ะย่ะค่ะองค์ชายห้า”

เกาจิ้งมองชายชุดดำด้วยไม่อยากเชื่อ เขาไม่คิดว่าองค์ชายห้าที่เขาตั้งใจจักใช้เป็นหุ่นเชิด จะปรากฏตัวขึ้นในยามนี้

....

“หึ ๆ สมแล้วที่เสด็จพ่อทรงไว้วางพระทัย เพียงแค่นี้เจ้าก็มองทุกอย่างได้ทะลุปุโปร่ง”

ชายหนุ่มชุดดำดึงผ้าปิดหน้าลง เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลา ที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มเฉกเช่นยามอยู่ในวังหลวง

“องค์ชายห้า”

“ใช่ข้าเองท่านราชครู ท่านทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก ความใจร้อนของท่านทำให้ทุกอย่างพังลง”

ฉึก! อึก! ราชครูเกายังไม่ทันเอ่ยสิ่งใดออกมา กระบี่ในมือขององค์ชายห้าได้แทงเข้ายังช่องท้องของเขาก่อนแล้ว ใบหน้าเปื้อนยิ้มขององค์ชายห้า ยังคงไม่เปลี่ยนไป

“ทะ...ทำไมกัน”

ราชครูเกาได้แต่ตั้งคำถามกับคนตรงหน้า ก่อนจะทรุดลงกับพื้น เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยจริง ๆ ว่าชีวิตของเขาต้องมาจบสิ้นลงด้วยน้ำมือของคนที่เขาตั้งใจควบคุมเช่นนี้

“ข้าไม่ชื่นชอบความผิดพลาด และนี้คือรางวัลของเจ้าอย่างไรเล่าเกาจิ้ง”

เกาจิ้งได้แต่มองรอยยิ้มอำมหิตขององค์ชายห้า เขาคิดมาตลอดชีวิตว่าองค์ชายห้า เป็นเพียงลูกแกะที่เขาเอาไว้ล่อเหยื่อ แต่ไม่คิดว่าวันนี้คนที่เป็นเหยื่อแท้จริงคือตัวเขา

แปะ ๆ เสียงตบมือดังขึ้นจากด้านหลัง องค์ชายห้าดึงกระบี่ออกจากร่างของราชครูเกา ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับแม่ทัพหนุ่ม เมื่ออีกฝ่ายล่วงรู้ตัวตนของเขาแล้ว เขาก็มิอาจปล่อยแม่ทัพผู้นี้เอาไว้ได้อีกต่อไป

“มาจบเรื่องของพวกเราจะดีกว่า หลี่จ้าน”

สิ้นคำองค์ชายห้าได้พุ่งเข้าหาแม่ทัพหนุ่มในทันที การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บบ้างแล้ว แต่เมื่อยังมิรู้ผลทั้งคู่จึงไม่มีฝ่ายใดยอมถอย

“ฮูหยินจะมิยื่นมือช่วยท่านแม่ทัพสักหน่อยหรือขอรับ อย่างไรท่านแม่ทัพก็เสียเปรียบองค์ชายห้าอยู่ไม่น้อย”

จางเค่อเอ่ยกับผู้เป็นนาย ชายหนุ่มสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าเอาไว้ แต่มันเพียงครึ่งบนจึงทำให้มองเห็นรอยยิ้ม ที่มีความนัยของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน

“อย่าทำเป็นรู้มาก ประเดี๋ยวเจ้าจะได้ไปเที่ยวต่างแคว้นเสียหรอก”

เสียงหัวเราะของจางเค่อ ทำให้ใบหน้าของจ้าวหลิวหลีแดงก่ำ ดูอย่างไรสามีของนางก็เหนือกว่าองค์ชายห้าอยู่หลายเท่าตัว แต่เพราะวันนี้นางกับสามีมิได้ออกจากเรือน จึงทำให้ถูกจางเค่อนำมาเย้าเอาได้

“หากนายหญิงเมตตาสู่ขอภรรยาให้ข้าสักคน เรื่องนี้จะหายไปจากสมองของทุกคนเลยทีเดียวนะขอรับ”

“มันใช่เวลาหรือไม่เล่า”

“เวลานี้เหมาะสมที่สุดแล้วขอรับ”

“นางคือผู้ใด”

“นายหญิงย่อมรู้จักนางเป็นอย่างดีขอรับ”

“หึ ๆ เจ้าน่าจะไปคุยกับนางก่อนมิดีกว่าหรือ”

“หากข้าคุยเป็น จะต้องมาร้องขอต่อนายหญิงหรือขอรับ”

“ฮ่า ๆ ได้ข้ารับปาก”

สองนายบ่าวหยุดการสนทนาลง เมื่อเห็นว่ามีเงาร่างสีดำ พุ่งเข้าหาแม่ทัพหนุ่ม จางเค่อพุ่งเข้าขัดขวางในทันที เขายืนอยู่ตรงนี้ผู้เป็นนายมิจำเป็นต้องลงมือ

การต่อสู้ดำเนินไปได้อีกเพียงหนึ่งก้านธูป ร่างสูงขององค์ชายห้าได้ทรุดลงกับพื้นอย่างแรง ดวงตาที่เคยเย้ยหยันผู้อื่น ตอนนี้แทบจะลืมไม่ขึ้น องค์ชายห้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่งกับความล้มเหลวทั้งหมด

เขาเฝ้าเพียรพยายามชักใยให้ทุกคนทำลายกันเอง เพื่อที่เขาจะเป็นคนที่เหลือรอดอยู่ และครอบครองบัลลังก์อย่างสง่างาม แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องสิ้นสุดลงเพียงแค่หลี่จ้าน รอดชีวิตกลับเข้าเมืองหลวง

“ฝ่าบาทครองบัลลังก์ด้วยความเที่ยงธรรม และทรงมีดวงตาที่กว้างไกล องค์ชายอย่ามองเพียงว่าฝ่าบาทเริ่มแก่ชรา แต่จงมองให้ขาดว่าก่อนที่จะทรงครอบครองบัลลังก์มังกรนี้ได้ ต้องทรงผ่านสิ่งใดมาบ้างสิพ่ะย่ะค่ะ เพราะหากทรงไร้เขี้ยวเล็บอย่างที่องค์ชายทรงคิด ฝ่าบาทคงไม่อยู่มาจนถึงทุกวันนี้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่จ้านเอ่ยกับคนที่กำลังดวงตาเหลือค้างด้วยความเจ็บปวด เสียงหัวเราะเริ่มขาดห้วง เขาทำตามหน้าที่จึงไม่อาจเมตตาต่อผู้ที่คิดกบฏได้ นับว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์พ่อลูก ฮ่องเต้จึงให้องค์ชายห้ารับโทษตายอย่างลับ ๆ เพื่อมิให้เสื่อมเกียติไปมากกว่านี้

องค์ชายห้าได้แต่มองแม่ทัพหนุ่มด้วยสายตาเคียดแค้น เขามองหลี่จ้านผู้นี้เป็นเพียงคนหัวแข็งที่หยิ่งผยอง ไม่สนคำของผู้ใด แต่ไม่คิดเลยว่าหลี่จ้านจะเป็นคนของพระบิดา ที่คอยเป็นเสมือนเพชฌฆาตที่ใช้ประหารนักโทษชั้นสูง

“ท่านพี่เหนื่อยมากหรือไม่เจ้าคะ เรากลับกันเถอะเจ้าค่ะ ข้าหิวแล้ว”

“หึ ๆ ไยภรรยาพี่จึงได้กินจุถึงเพียงนี้ หิวมากหรือไม่”

“เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นคืนนี้พี่จะป้อนเจ้าให้อิ่ม”

สองสามีภรรยาหยอดคำหวานที่แฝงความนัยเอาไว้ ทำให้เสี่ยวเชี่ยนที่เพิ่งเดินมาถึงทำสีหน้างุนงง เมื่อเห็นจางเค่อกับพ่อบ้านเจา พากันเบือนหน้าไปทางอื่นกันหมด

“เด็กโง่! รีบกลับไปที่รถม้าเร็วเข้าเถอะ ประเดี๋ยวจะกลับถึงจวนดึก ท่านแม่ทัพกับฮูหยินจะได้พักผ่อน”

“เอ่อ...เจ้าค่ะ”

เสี่ยวเชี่ยนรีบก้าวตามเจาหยางกลับไปยังรถม้า โดยมีจางเค่อเดินตามมามิห่าง ชายหนุ่มมองร่างบางที่เดินนำไปเล็กน้อย ด้วยรอยยิ้มอบอุ่นแต่ก็มิได้เอ่ยสิ่งใดออกมา

จางเค่อส่งผู้เป็นนายขึ้นรถม้า และหันกลับไปยังลานต่อสู้เมื่อครู่ เพื่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เขารู้ดีว่านี่เป็นเพียงศึกแรกของผู้เป็นนาย ยังมีคนที่คิดร้ายต่อฮ่องเต้และสกุลหลี่ หลบซ่อนอยู่อีกไม่น้อย คนเหล่านั้นรอเพียงหาจังหวะลงมือที่เหมาะสม

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status