Share

ตอนที่ 21.  กระซิบเย้าภรรยา

“ต่อไปอย่าได้ดื้อรั้นต่อสามีอีก เข้าใจหรือไม่น้องหญิง”

ชายหนุ่มกระซิบเย้าภรรยา ด้วยสายตากรุ่มกริ่ม จ้าวหลิวหลีวงหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขิน อย่างไรเสียนางก็เป็นสตรี จะเก่งกาจปานใดย่อมต้องรู้สึกเขินอาย

เมื่อถูกมองด้วยสายตาเช่นนี้ของบุรุษ ช้ำเรือนร่างของนางยังไร้ซึ่งสิ่งปกปิด นางไม่คิดเลยว่าสามีผู้ไม่เคยเหลียวมองนางมาตลอด วันนี้จะเปลี่ยนไปเสียจนนางเองยังตั้งรับไม่ทัน

“ข้ามิเคยดื้อสักหน่อย”

จ้าวหลิวหลีเสหลบตาสามี พร้อมปฏิเสธสามีด้วยน้ำเสียกระเง้ากระงอด

“เช่นนั้นนับแต่นี้ไปอย่าให้ต้องออกแรง เข้าใจหรือไม่”

ปึก! กำปั้นของหญิงสาวทุบอกแกร่งของชายหนุ่มด้วยความขัดเขิน เขาช่างกล้าพูดอย่างน่าไม่อาย เรื่องเช่นนี้มิจำเป็นต้องบอกก็ได้

 “มิรู้จักอายบ้างหรือเจ้าคะ”

“ฮ่า ๆ อายทำไม ก็พี่อยากให้เจ้ามีความสุข”

“คนบ้า! หน้ามิอายพูดอันใดออกมา....อื้อ!”

ยังมิทันได้ต่อว่าสามีให้สาสมดังใจคิด ทว่าเรียวปากงามก็ถูกปิดลงอีกครั้ง และในครั้งนี้หญิงสาวมิได้ปฏิเสธ แต่กลับตอบสนองสามีด้วยความไร้เดียงสาในเรื่องเช่นนี้

สองร่างกอดรัดกันอย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความเร้าร้อนขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มสอนบทรักให้แก่หญิงสาวอย่างใจเย็น แม่ทัพหนุ่มตัดเรื่องของหัวใจออกไปในยามนี้

เพราะทุกสิ่งอย่างระหว่างเขาและนาง เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีเวลาอีกมากที่จะค้นหาความรู้สึกของเขาและนาง แต่มิว่าอย่างไรนางก็จะเป็นภรรยาเพียงหนึ่งของเขาเท่านั้น

            เลยเที่ยงมานานแล้วเสี่ยวเชี่ยนเดินวนไปมาด้วยความร้อนใจ เพราะตั้งแต่เช้านายหญิงของนางยังไม่ก้าวออกจากห้องเลย มีเพียงท่านแม่ทัพที่สั่งการให้จัดส่งอาหารไปวางไว้หน้าห้องเท่านั้น

“เจ้าไม่เหนื่อยบ้างรึไงเสี่ยวเชี่ยน เดินจนพื้นจะทรุดแล้ว”

เจาหยางเอ่ยเย้าสาวใช้ของฮูหยิน เขาผ่านชีวิตมาจนเริ่มจะเข้าวัยชรา มีหรือจะไม่รู้ว่าทำไมเจ้านายทั้งสองจึงยังไม่ออกจากห้อง

“ฮูหยินจะป่วยหรือไม่เจ้าคะ ไยวันนี้จึงมิออกมาด้านนอกเลย”

“เด็กโง่ เรื่องของสามีภรรยาเจ้าอาจไม่เข้าใจ แต่ด้านในนั้นมีท่านแม่ทัพอยู่ ฮูหยินจะเจ็บป่วยได้อย่างไรเล่า”

“แต่ว่า...”

ยังไม่ทันที่เสี่ยวเชี่ยนจะพูดจบ รองแม่ทัพคนสนิทได้เดินมาด้วยความเร่งรีบ

“ท่านลุงเจา ท่านแม่ทัพเล่าขอรับ”

“มีเรื่องอันใดรึ หากไม่สำคัญเจ้าไม่ควรที่จะรบกวนท่านแม่ทัพในยามนี้”

“รบกวนท่านลุงแล้ว”

เจาหยางไม่เอ่ยสิ่งใดอีก พ่อบ้านสูงวัยเดินเข้าไปภายในเรือน ก่อนจะตรงไปยังห้องนอนของผู้เป็นนาย เจาหยางจงใจเดินให้มีเสียง เพื่อเป็นการบอกแก่ผู้เป็นนายว่าเขากำลังจะไปพบ

เขาไม่ต้องการให้ฮูหยินรู้สึกเขินอาย หากตัวเขาไปเรียกขานในทันที คงดูจะไม่ดีเท่าไหร่เพราะเขาไม่รู้ว่าเจ้านายทั้งสองกำลังทำสิ่งใดอยู่ในตอนนี้

แม่ทัพหนุ่มดึงผ้าห่มขึ้นคลุมกายภรรยาในทันที เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา คงเป็นใครอื่นไปมิได้นอกจากพ่อบ้านของเขาอย่างแน่นอน

จ้าวหลิวหลีลอบมองหน้าสามี ที่ตอนนี้ดูตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่ใบหน้างามจะแดงระเรื่ออีกครั้ง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขาและสามี มิได้ย่างกลายออกจากห้องนอนเลย

หลี่จ้านก้มมองภรรยา ที่ตอนนี้ดึงผ้าห่มขึ้นปิดใบหน้าเหลือไว้เพียงดวงตากลมโต แม่ทัพหนุ่มหัวเราะในลำคอ ยามนางเขินอายช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก

“เรียนท่านแม่ทัพ รองแม่ทัพตูหลงมาขอพบขอรับ”

“ให้เขาไปรอที่ศาลาสระบัว ประเดี๋ยวข้าจะออกไป”

“ขอรับ”

เสียงฝีเท้าห่างออกไป หลี่จ้านจึงได้หันมองภรรยาอีกครั้ง ก่อนจะกดริมฝีปากลงยังแก้มเนียนของภรรยา เพี๊ยะ! จ้าวหลิวหลีตีต้นแขนสามี เมื่อเขายังไม่รีบลุกไปแต่งตัว

“ยังจะมัวชักช้าอยู่อีกนะเจ้าคะ ตูหลงอาจมีเรื่องด่วน”

“เรื่องด่วนอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับเวลาเข้าหอของเรา หึ ๆ”

“เข้าหออะไรกันเจ้าคะ แต่งงานกันมาตั้งหลายปีแล้ว จนจะแก่หัวหงอกล่ะไม่ว่า”

“เข้าหอแบบนี้อย่างไรเล่า”

เอ่ยจบชายหนุ่มกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ก่อนจะจูบภรรยาอย่างดูดดื่ม ทำให้คนใต้ร่างดิ้นคลุกคลัก ก่อนจะอ่อนระทวยเมื่อรสจูบนั้นอ่อนหวานกว่าในคราแรก

“อื้อ! ท่านพี่จะสายเอาได้นะเจ้าคะ”

ชายหนุ่มยังคงวนเวียนอยู่ที่วอกคอหอมกรุ่น แสร้งไม่สนใจคำพูดของหญิงสาวเสียอย่างนั้น

“เจ้าก็รู้ว่าเขาต้องการสิ่งใด ในเมื่อเขารอที่จะลงมือต่อข้ามาได้ตั้งหลายปี ให้รอต่ออีกสักชั่วยามก็คงไม่ขาดใจตายกระมัง”

พูดจบแม่ทัพหนุ่มก็ทำการปิดปากภรรยา ด้วยจูบอันเร้าร้อน บทรักของทั้งคู่เริ่มขึ้นอีกครั้ง แม่ทัพหนุ่มไม่ได้คิดจะสนใจคนสนิทที่มารออยู่ด้านนอกแม้แต่น้อย

เพราะคนสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือร่างอวบอิ่มที่กำลังบิดเร้าอยู่ในอ้อมแขนเขาต่างหาก กี่ปีแล้วที่คำว่าหน้าที่ทำให้เขาและนาง มิเคยได้สัมผัสคำว่าสามีภรรยา หรือแม้แต่เปิดใจคุยกันสักครั้งก็หาได้มีไม่

สองชั่วยามต่อมา

แม่ทัพหนุ่มได้เดินไปยังศาลาริมสระบัว ที่คนสนิทรออยู่ใบหน้าที่เคยอิ่มเอิบเมื่อตอนอยู่กับภรรยา เวลานี้กลับซีดเซียวเช่นตอนที่เดินทางกลับจากชายแดน

“คารวะท่านแม่ทัพ”

“มีเรื่องร้อนใจอันใดรึตูหลง ข้ารู้สึกว่าพิษกำลังเล่นงานข้าหนักเหลือเกิน ขอโทษด้วยที่ทำให้เจ้าต้องรอนาน”

“หามิได้ขอรับ เป็นข้าน้อยเองที่มารบกวนท่านแม่ทัพ พอดีว่าท่านราชครูเกาอยากที่จะพบท่านแม่ทัพสักหน่อยขอรับ จึงได้ให้ข้าเป็นผู้มาเชิญท่านแม่ทัพไปร่วมมื้อค่ำขอรับ”

“ไยมิส่งคนมาบอกแก่ข้าเอง เหตุใดเขาต้องไปหาเจ้าด้วย”

“เรียนท่านแม่ทัพ ท่านราชครูพบข้าน้อยโดยบังเอิญเมื่อเช้า ท่านราชครูจึงได้ไหว้วานข้าน้อยมาเรียนแก่ท่านแม่ทัพขอรับ”

“อ่อ...เป็นเช่นนั้นหรอกรึ ได้สิ! แต่ข้าต้องไปบอกฮูหยินก่อน”

“ท่านราชครูให้เชิญฮูหยินไปด้วยขอรับ”

แม่ทัพหนุ่มนิ่งค้างไปพักหนึ่ง ก่อนจะเก็บอาการไม่พอใจเอาไว้ได้อย่างมิดชิด เห็นทีคนพวกนี้มิอยากตายดี ถึงได้คิดที่จะแตะต้องภรรยาของเขา

“ได้สิข้าจะบอกให้นางเตรียมตัว”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status