Share

ตอนที่ 18 กลางดึก ณ ตำหนักหรู่เฟย

กลางดึก ณ ตำหนักหรู่เฟย

ภายในห้องหนังสือกำลังมีสองร่างโอบกอดกันอยู่ ใบหน้าของชายหนุ่มที่เรือนร่างเปลือยเปล่า กำลังซุกไซ้ซอกคอขาวเนียนของฝ่ายหญิง เสียงครางเบา ๆ ดังออกมาจากเรียวปากอวบอิ่ม เมื่อมือหนาของชายหนุ่มเคล้นคลึงสองเต้างาม

            “อื้อ…ส่งสารถึงนางหรือยัง อ๊า...”

            เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมครางเบา ๆ ความเสียวซ่านแล่นทั่วกาย เมื่อถูกชายหนุ่มรุกเร้ามิหยุดมือ

            “ข้าเคยทำให้พระนางผิดหวังหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

            เอ่ยจบจมูกคมได้กดลงยังแก้มเนียน ก่อนจะเลื่อนลงมายังซอกคอหอมกรุ่นอีกครั้ง ริมฝีปากหนาจูบซับความเย้ายวนอย่างอ่อนโยน มือหยาบบีบคลึงสะโพกงอนงามหนัก ๆ ก่อนจะดันให้แนบกับแก่นกายของตนเอง

            “ไม่ใช่เวลานี้”

            เสียงสั่นระริกเอ่ยห้ามชายหนุ่ม ทว่าร่างกายนั้นหาได้ทำตามอย่างที่ปากพูด ยิ่งเมื่อมืออีกข้างของชายหนุ่มเลื่อนลงไปยังเนินดอกไม้ ความร้อนรุ่มกลับระอุร้อนขึ้นเรื่อย ๆ

            “ดึกแล้ว ไม่มีผู้ใดล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของเราอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

            ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เขาไม่อาจทนรออีกต่อไปได้แล้ว แม้ว่าเวลานี้จะค่อยเหมาะเท่าใดนัก ชายหนุ่มไม่รั้งรอรีบจับร่างงามให้หันหลังมาทางเขาในทันที

            ความต้องการในตอนนี้คงไม่อาจที่จะหยุดลงได้ แก่นกายของเขากำลังแข็งชันจนเจ็บร้าว ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบปลดเปลื้องสิ่งกีดขวางออกจากร่างอวบอิ่มในทันที

สตรีในอ้อมแขนนั้นแม้จะมีวัยมากกว่าเขาอยู่มิน้อย แต่นางกลับยังคงความงามดั่งหญิงสาววัยแรกแย้มได้เป็นอย่างดี เรือนร่างที่หอมเย้ายวนนี้ ทำให้เขาไม่อาจหักห้ามใจที่จะเผลอไผลไปกับสิ่งที่นางเสนอมาให้แก่เขาตลอดหลายปี

            “อ๊า!”

            เสียงครางเบา ๆ ดังลอดไรฟันออกมาให้ได้ยิน เมื่อนิ้วเรียวแทรกเข้าไปในกลีบเกสร เพื่อดูความพร้อมของหญิงสาว น้ำหวานฉ่ำเยิ้มสัมผัสกับนิ้ว เป็นการบอกให้รู้ว่าเจ้าของร่างอวบอิ่มนั้น พร้อมสำหรับบทรักของเขาที่จะมอบแก่นางแล้ว

            “คืนนี้เรามีเวลาไม่มาก แต่ข้าจะทำให้พระนางสุขจนล้นเลยทีเดียวพ่ะย่ะค่ะ”

            ชายหนุ่มกระซิบข้างหูเจ้าของตำหนัก ก่อนจะจับแท่งหยกดันเข้าไปในเส้นทางฉ่ำเยิ้มในครั้งเดียวจนสุด หรู่เฟยกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น เพื่อมิให้ส่งเสียงหวีดร้องออกมาด้วยความเสียวซ่าน

            บทรักจากชายหนุ่มช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก นางอยู่ในตำหนักแห่งนี้เพื่อรอเพียงบุรุษเดียว ที่มิรู้ค่ำคืนไหนจะมาเยือน จนเมื่อมีเขาคนนี้มาอยู่ใกล้ชิด แทบทุกค่ำคืนนับแต่นั้นมา นางมิจำเป็นต้องรอใครอีกคนให้ห่อเหี่ยวหัวใจอีกเลย

            ชายหนุ่มไม่รอช้า เริ่มขยับสะโพกสอบดันแก่นกายเข้าออกเส้นทางสวาทอย่างหนักหน่วง มือสองข้างเลื่อนขึ้นกอบกุมสองเต้างาม พร้อมบีบเค้นตามแรงอารมณ์อยู่ในตอนนี้

            “แรงอีก อ๊า...อื้อ...ข้า...อ๊า...”

            เสียงเร่งเร้าปนเสียงคราง ยิ่งเพิ่มอารมณ์ให้แก่ชายหนุ่ม สองมือบีบเค้นอกอิ่ม สะโพกสอบดันแก่นกายเร่งจังหวะตามความต้องการของหญิงสาว

            เสียงหายใจกระชั้นถี่ดังไม่มากนัก ภายในห้องหนังสือที่มีเพียงแสงสลัว ยิ่งเพิ่มความเร้าอารมณ์ให้แก่ทั้งคู่ ชายหนุ่มกระซิบให้พระสนมคนงามคุกเข่าลงกับพื้น พร้อมใช้สองมือค้ำยันเอาไว้ ประหนึ่งมีสี่ขาโดยมีชายหนุ่มประกบอยู่ตรงบันท้ายเช่นเดิม

            ชายหนุ่มเร่งจังหวะให้กระชั้นถี่ขึ้น เพิ่มแรงเสียดสีระหว่างแก่นกายแข็งขันกับช่องทางฉ่ำเยิ้ม สร้างความเสียวซ่านให้แล่นไปทั่วกายของทั้งคู่ ก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงแรงบีบรัดจากเส้นทางสวาทของนาง ที่กำลังดูดกลืนท่อนรักของเขามิให้เข้าออกได้โดยง่าย

            ชายหนุ่มไม่อาจต้านทานความกระสันนั้นได้อีกต่อไป จึงเร่งกระแทกแก่นกายเข้าออกถี่ ๆ ก่อนที่ตัวเขาจะกระตุกเกร็ง พร้อมกับปลดปล่อยความอุ่นซ่านเข้าสู่กายของนาง

            เมื่อบทรักสิ้นสุดลง ทั้งคู่ยังคงประคองกอดกันอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะกระซิบคำหวานให้แก่กัน เพื่อเริ่มบทรักเร้าร้อนอีกครั้ง ก่อนที่จะแยกจากกันในคืนนี้ แต่ทว่า...

           

“หรู่อี้ เจ้าเผลอหลับในห้องหนังสืออีกแล้วหรือ”

            ประตูห้องหนังสือเปิดออกกว้าง พร้อมคำถามจากคนที่ก้าวเข้ามาโดยมีขันทีและนางกำนัน ถือโคมไฟติดตามเข้าด้วย

            “กรี๊ด!!! ฝ่าบาท ไม่นะเพคะ หม่อมฉัน...”

            เสียงกรีดร้องจากเจ้าของตำหนัก ทำให้ทุกคนที่ก้าวตามโอรสสวรรค์เข้ามา ถึงกับนิ่งค้างก้มหน้ามองพื้นในทันที ด้วยสภาพของพระนางหรู่เฟยนั้นไม่ได้เรียบร้อยอย่างที่ควรจะเป็น

            ฮ่องเต้ถึงกับสั่นสะท้านไปทั่วร่าง ใบหน้าชาหนึบเสมือนถูกภาพตรงหน้าแช่แข็งเอาไว้ก็มิปาน ภาพเรือนร่างเปล่าเปลือยของชายารัก กำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มผู้เป็นองครักษ์

            ความเจ็บปวดในใจนั้น ยังมิเท่าความอับอายที่ได้รับ เขาคงเป็นตัวตลกของผู้คนทั่วแผ่นดิน ที่สนมรักเล่นชู้อยู่ในตำหนักใต้จมูกของเขาเอง เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าสตรีหยิ่งผยองเช่นนาง จะหาญกล้าทำเช่นนี้กับเขาได้

            “ตู้กงกง จัดการเสีย”

            สิ้นคำสั่งร่างสูงในชุดสีทองได้ก้าวจากไป โดยไม่คิดแม้แต่จะเอ่ยสิ่งใดกับเจ้าของตำหนักเลย

            “ฝ่าบาท ฟังหม่อมฉันก่อนเพคะ ฮือ ๆ ฝ่าบาทได้โปรดเถอะเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”

            เสียงเว้าวอนของพระนางหรู่เฟยไม่เป็นผลใด ๆ เมื่อลับร่างของฮ่องเต้ไปแล้ว องครักษ์หนุ่มได้เคลื่อนกายอย่างรวดเร็ว พุ่งไปยังหน้าต่างห้องหนังสือ ตุบ! ทว่ายังไม่ทันออกพ้นหน้าต่าง

            ร่างสูงกลับถูกอะไรบางอย่างกระแทกเข้าอย่างแรงที่กลางอก ก่อนจะกระเด็นมาตกยังแทบเท้าของพระนางหรู่เฟย

            “เจ้าเป็นใครกัน นะ...นี่เจ้า...”

            องครักษ์หนุ่มเอ่ยถามคนที่ขัดขวางเขา ก่อนที่ร่างสูงของใครอีกคนได้ปรากฏขึ้น หน้ากากที่ปิดบังใบหน้านี้เขาเคยพบมาก่อน ผู้ที่คอยชี้แนะเขามาตลอดหลายปี

            และในคืนนี้ก็เช่นกัน เพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกแก่พระนางหรู่เฟย ทำให้เขาต้องลักลอบพบกับนางเพื่อแจ้งข่าว แต่เพราะความเย้ายวนที่เขาได้ลิ้มรสอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขามีความสัมพันธ์กับนางเช่นทุกครั้งที่พบกัน

            ทั้งที่เขาเองก็รู้ดีว่าเวลานี้ มันไม่เหมาะที่เขาและนางจะทำเรื่องเช่นนี้ แต่เพราะความต้องการมันมากจนเขาไม่อาจห้ามใจตนเองได้ แต่ไม่คิดว่าวันนี้ฮ่องเต้จะเสด็จมาทั้งที่เขามั่นใจ ว่าฝ่าบาทจะไปยังตำหนักของพระสนมอีกคนแล้วแท้ ๆ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status