เขาคิดว่าเธอเป็นเพียงหัวหน้าแก๊งสิบแปดมงกุฎจึงจับตัวมาเป็นเชลยพิศวาส แต่เมื่อความจริงเปิดเผยเธอคือลูกสาวมหาเศรษฐีที่ไม่อาจจะเลยเชยชมแล้วทิ้งขว้างได้ง่ายๆ
Lihat lebih banyakร่างระหงของหญิงสาววัยยี่สิบสองวิ่งเข้าไปในบ้านหลังเล็กโกโรโกโสอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเห็นชายฉกรรจ์ในชุดสีดำ สวมแว่นกันแดดสีดำกว่าสิบคนยืนอยู่เต็มบริเวณบ้านอันคับแคบอย่างไม่เกรงกลัวอันตรายเพราะห่วงคนที่อยู่ในบ้านมากกว่าชีวิตของตนเอง
“พวกคุณเป็นใครแล้วมาทำอะไรในบ้านของฉัน..”
จุมพิตา ถามเสียงสั่นหน้าขาวซีดเมื่อเห็นท่าทางคุกคามจากอีกฝ่าย แม้ว่าคนเหล่านั้นจะยืนนิ่งเหมือนรอใครบางคนที่มีอำนาจเหนือกว่า
“ฉันมาตามของของฉันคืน...”
เสียงห้าวทรงอำนาจดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏอยู่ที่ประตูบ้าน ร่างใหญ่โตของเขาทำให้ประตูบ้านของเธอดูเล็กคับแคบไปทันที หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างตระหนกเมื่อเจอหน้าคนพูด เขานั่นเอง.. ผู้ชายหน้าตาหล่อลากดินแต่แสนจะเย็นชาคนนั้นที่เธอเจอเขาที่ตลาดขายเครื่องประดับเมื่อวันก่อน แล้วเขามาบ้านของเธอทำไม
“คุ คุณ เอ่อ...” จุมพิตาพูดไม่ออกมือสั่นใจสั่นจริงๆ แล้วเธอสั่นไปทั้งตัวต่างหาก
“ของที่พวกเธอเอามาอยู่ไหน”
“ของ ของอะไรฉันไม่รู้เรื่อง”
“ฉันให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้ายแม่สาวน้อย สร้อยเส้นนั้นอยู่ไหน”
เสียงเข้มเย็นชาแววตาวาวโรจน์จนจุมพิตาอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นเสียให้ได้ แต่เธอก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ ได้แต่อ้ำอึ้งไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยคำไหนมาตอบโต้เขา
“ก็ได้หากเธอไม่ยอมคืน หรือไม่ยอมบอกว่ามันอยู่ที่ไหน ก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน..”
เขาจ้องมาด้วยแววตากราดเกรี้ยวจนจุมพิตาขาสั่นแทบจะยืนไม่ไหว แล้วจุมพิตาก็แทบสิ้นสติกับคำสั่งของเขาที่ทำให้เธอแทบใจสลาย
“เอาตัวไอ้แก่นั่นมาฉันจะกระทืบมันให้จมดินต่อหน้ายายตัวจิ๋วนี่”
“ไม่นะ อย่ายุ่งกับพ่อของฉัน”
คราวนี้จุมพิตาวิ่งฉิวเข้าไปขวางร่างสูงใหญ่นั้นไว้ ใบหน้าขาวซีดจนไร้สีเลือดทั้งที่เนื้อตัวก็เย็นเฉียบด้วยความหวาดกลัว แต่จุมพิตาจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายพ่อของตนแน่
“ไม่อย่าทำร้ายพ่อของฉัน เขาเดินไม่ได้คุณจะทำร้ายคนแก่ไม่มีทางสู้เหรอ”
เป็นคำพูดที่ยาวที่สุดที่เธอพูดได้ในตอนนี้และหวังว่ามันจะปลุกสำนึกดีๆ ของชายหนุ่มตรงหน้าที่มองมาด้วยแววตากร้าวน่ากลัว
“ฉันไม่สนใจหรอก คนอย่าง พยัคฆ์ คิงส์ ไม่เคยเสียเหลี่ยมใคร และเธอกับพวกของเธอกล้ามากที่มาลองดีกับฉัน..”
ชายหนุ่มตะคอกกลับมา จุมพิตาก็หน้าซีดเผือดลงกว่าเดิมเมื่อคนของเขาที่ร่างกายใหญ่โตไม่แพ้ผู้เป็นนายหิ้วปีก นายจักร ผู้เป็นพ่อของเธอออกมาขาทั้งสองข้างของท่านลากอยู่กับพื้น ใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะอัมพฤกษ์นั้นแม้ไม่ได้บิดเบ้ไปกว่าเดิมแต่แววตาของท่านกำลังบอกว่าเจ็บปวด...
“พ่อ.. อย่าทำอะไรพ่อฉันนะ ปล่อยสิ พวกสารเลวรังแกคนไม่มีทางสู้ หน้ารังแกผู้หญิงรังแกคนแก่ ปล่อยพ่อฉันนะ กรี๊ดดด..”
หญิงสาววิ่งไปหาบิดาปากก็ร้องด่าทอเท่าที่จะสรรหาคำมาพูดได้ทั้งทุบทั้งเตะชายสองคนที่ลากถูบิดาของตนอย่างบ้าคลั่ง แต่ดูเหมือนเธอกำลังทุบตีหินผาอย่างไรอย่างนั้น แต่แล้วเธอก็ต้องกรีดร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อร่างเล็กๆ ของตนลอยหวือขึ้นจากพื้นด้วยแรงจากวงแขนของคนตัวโตที่เธอคิดว่าเขาเหมือนยักษ์เฝ้าประตูวัด
“พวกนายเอาตาแก่นี่ไปจัดการส่วนยายตัวจิ๋วเสียงเหมือนนกหวีดนี่ฉันจัดการเอง”
สิ้นคำสั่งกร้าวร่างของบิดาก็ถูกลากเข้าไปยังห้องโถงเล็กๆ ที่เป็นทั้งห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นของบ้าน จุมพิตากรีดร้องตามไป ทั้งดิ้นทั้งเตะทั้งทุบคนตัวโตกว่าที่ใช้วงแขนรัดเอวบางของตนจนขาเรียวลอยพ้นพื้นกว่าหนึ่งฟุตแผ่นหลังบางแนบชิดไปกับแผงอกกว้างที่ตึงแน่นแข็งกระด้างราวกำแพงหินจนเธอรู้สึกได้ แต่ตอนนี้หญิงสาวไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้นนอกจากบิดาของตน...
“ปล่อยฉันนะไอ้คนสารเลว ไอ้หน้ารังแกผู้หญิงปล่อยนะ ปล้อยย กรี๊ดดด..”
เสียงร้องโวยวายจนแสบแก้วหูอย่างที่เขาเปรียบเทียบว่าเหมือนเสียงนกหวีดดังก้องไปทั้งบ้าน แต่เขาก็ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ส่งเสียงนานเมื่อมือใหญ่เอื้อมมาปิดปากของเธอไว้
“เงียบ.. หากยังส่งเสียงโวยวาย พ่อเธอตายคามือคาเท้าของลูกน้องฉันแน่ ส่วนเธอ.. หึหึ ฉันจะให้ลูกน้องฉันจัดการเธอทีละคนๆ คงเข้าใจนะว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะถูกจัดการยังไง”
เขากระซิบชิดใบหูเล็กด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเยียบเย็น จุมพิตาตัวแข็งรู้สึกเหมือนลมหายใจขาดห้วงและหยุดดิ้นหยุดส่งเสียงทันที
“เจ้านายครับ ผมว่าไอ้แก่นี่มันไม่รู้เรื่องหรอก เราจัดการให้มันจบๆ ไปดีมั้ยครับ ผมว่าไร้ประโยชน์ที่เราจะเสียเวลากับคนพวกนี้”
หนึ่งในชายสองคนที่หิ้วปีกบิดาของเธอไปพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจุมพิตาตาโตด้วยความหวาดกลัว ในขณะที่นายจักรหน้าซีดน้ำตาไหลพรากยิ่งทำให้หญิงสาวคับแค้นใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น
“เอาล่ะฉันจะให้โอกาสเธออีกรอบ ของของฉันอยู่ที่ไหน แล้วไอ้เด็กนั่น เด็กในแก๊งตุ้มตุ๋นของเธออยู่ที่ไหน บอกมา..”
น้ำเสียงคุกคามทั้งวงแขนก็รัดแน่นเข้าจนร่างเล็กแทบจะจมหายเข้าไปในร่างใหญ่โตของเขา จุมพิตาได้แต่ส่ายหน้าหวือน้ำตาเริ่มคลอหน่วยด้วยความหวาดกลัว
“ในเมื่อฉันให้โอกาสแล้วเธอไม่รับฉันก็จะทำตามวิธีของฉันก็แล้วกัน พวกนายดูทางนี้ไว้ให้ดีๆ ถ้ามีใครเจ๋อเข้ามายิงทิ้งได้เลย..”
พูดจบชายหนุ่มก็ตวัดร่างบางพาดบ่าแล้วเดินไปยังห้องเล็กๆ ที่ใกล้ที่สุด และมันก็เป็นห้องนอนของเธอเอง จุมพิตาจะกรีดร้องก็ร้องไม่ออกได้แต่น้ำตารินด้วยความกลัวกับชะตากรรมที่ตนกำลังจะได้รับไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาจะทำอะไรกับเธอ..
ตอนที่48. อวสาน“ก็พี่รักจ๋อม รักลูกของเรา และจะรักตลอดไป”“จ๋อมก็รักพี่ยักษ์และลูกของเราค่ะ เราจะรักกันตลอดไป..” หญิงจูบแก้มสามีเบาๆ แล้วโอบกอดเขาไว้“แบบนี้ต้องตกรางวัลหนักๆ เลยนะครับที่รัก”“แน่ะ คนอะไรเห็นแก่รางวัลจริงเชียว นี่บอกรักกันเพราะหวังรางวัลแค่นั้นหรือคะ”หญิงสาวทำทีเง้างอดขณะเคลื่อนกายขึ้นเหนือร่างแกร่งเปล่าเปลือยที่เอนกายลงนอนอย่างรู้งานมองภรรยาคนสวยนัยน์ตากรุ้มกริ่ม“เปล่าเสียหน่อยก็รักเมียหลงเมียจะแย่แล้วครับ” ปากก็พูดไปมือก็ลูบไล้เรือนกายขาวลอออิ่มเอิบอย่างแสนรัก“แบบนี้ต้องทำให้หลงมากๆ ค่ะ จะได้ไม่ไปวอแวกับสาวๆ คนไหน..”ว่าแล้วหญิงสาวก็ก้มลงจูบสามีสุดหล่ออย่างเร่าร้อนซึ่งพยัคฆ์ก็จูบตอบภรรยาที่รักเร่าร้อนไม่แพ้กัน แม้เธอจะอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ก็ไม่ได้ทำให้ความเสน่หาของเขาลดลงแม้แต่น้อย นับวันมันยิ่งเพิ่มความรักความเสน่หาให้กับเขาจนไม่อาจจะละเลยที่จะให้ความรักแก่เธอกับลูกได้มือหนาลูบไล้ท้อง
ตอนที่47.บทส่งท้าย หญิงสาวมองดูสองพ่อลูกที่ทุ่มเถียงกันเรื่องเลี้ยงแมวจรจัดที่ถูกทำร้ายมาจนบาดเจ็บสาหัสซึ่ง น้องเจ้าจอม หรือ เด็กหญิงจันท์ยาวี วัยห้าขวบเศษเป็นคนพามันไปส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเองโดยมีชาติชายเป็นคนขับรถพามาเด็กหญิงเฝ้าดูอาการเจ้าแมวเหมียวตัวสีขาวสะอาดเพศผู้อย่างใจจดจ่อ และรอฟังอาการของมันโดยไม่ยอมกลับบ้านจนกว่าจะรู้ว่ามันปลอดภัย เมื่อจุมพิตาซึ่งออกไปธุระกับสามีรู้ข่าวว่าลูกสาวจอมซนพาลูกแมวไปโรงพยาบาลรักษาสัตว์ก็รีบเดินทางมาดูด้วยห่วงลูกสาวทั้ งยังอยากเห็นเจ้าแมวน้อยที่น้องเจ้าจอมดั้นด้นพามันมาส่งด้วยตัวเอง“คุณพ่อบอกเหตุผลมาสิคะว่าทำไมเจ้าจอมเลี้ยงเจ้าเสือขาวไม่ได้”เด็กหญิงวัยห้าขวบผมหยักศกรวบผมครึ่งศีรษะปล่อยลอนผมยาวครึ่งแผ่นหลังคลอเคลียแผ่นหลังเล็กในชุดฟูฟ่องตามแบบที่เด็กหญิงชื่นชอบดูงดงามราวเจ้าหญิง แก้มแดงเปล่งปลั่ง และริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเม้มแน่นดวงตากลมโตที่ถอดแบบผู้เป็นแม่มานั้นจ้องบิดาเขม็งพร้อมทั้งตั้งชื่อให้เจ้าแมวน้อยเสร็จสร
ตอนที่46.“อุ๊ย..”หญิงสาวอุทานอย่างตกใจเมื่อมือใหญ่คว้ามือเล็กของเธอหมับพร้อมทั้งลืมตามองเธออย่างมีความหมาย“แอบคิดอะไรกับพี่รึเปล่าคนสวย”“บ้า เปล่าเสียหน่อยจ๋อมเห็นว่าผ้ามันเลื่อนลงมาจะหยิบมาปิดหน้าอกให้หรอกเดี๋ยวไม่สบาย” แก้ตัวหน้าแดงก่ำหลบตาคมพราวพราย“แน่ใจเหรอจ๊ะ เอ.. จ๋อมบุกรุกที่ของพี่รึเปล่านี่ แบบนี้ต้องลงโทษข้อหาบุกรุก”“จะบ้าเหรอ จ๋อมยังไม่ได้ทำอะไรเลย อย่ามาโมเมนะ ไม่เอาแล้วจ๋อมจะไปอาบน้ำพี่ยักษ์ปล่อยมือจ๋อมได้แล้วค่ะ คนอะไรเขาอุตส่าห์หวังดีแท้ๆ มากล่าวหาเขา เชอะ.. ไม่ยุ่งด้วยแล้ว..”หญิงสาวทำทีขึงขังกลบเกลื่อนความหวั่นไหวเมื่อรู้ดีว่าบทลงโทษของเขานั้นร้อนแรงเพียงใด“ก็ได้ครับเจ้าหญิง”พยัคฆ์ปล่อยมือเธอแต่โดยดีหญิงสาวจึงรีบลุกไปเข้าห้องน้ำจึงไม่ได้เห็นแววตาของสามีที่มองตามไปพยัคฆ์ยิ้มกริ่มเมื่อกวางน้อยติดกับร่างสูงลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินตามภรรยาเข้าไปในห้องน้ำ จุมพิตาซึ่งกำลังจะหันมาป
ตอนที่45.งานแต่งงานของจุมพิตากับพยัคฆ์มีขึ้นในสองสัปดาห์ถัดมา งานแต่งของพวกเขานั้นไม่ได้ใหญ่โตหรูหราอย่างที่ใครๆ หลายคนคิด เพราะหญิงสาวเพียงต้องการจัดงานแต่งงานเล็กๆ ที่เชิญเฉพาะคนที่สนิทเท่านั้นเพราะไม่ชอบความวุ่นวาย และเธอเองก็มีเพื่อนแค่ไม่กี่คนและแทบไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย เนื่องจากนายจักรนั้นอพยพมาจากที่อื่นแล้วมาตั้งรกรากอยู่แถบชายแดนไทย ลาว ญาติของนายจักรที่จุมพิตาเคยเห็นหน้าค่าตา พอรู้ว่าเขาไม่ได้รับราชการต่างก็พากันเหินห่างออกไปและก็ขาดการติดต่อไปโดยปริยายงานแต่งงานที่ใหญ่โตหรูหราที่เชิญแขกมาเป็นร้อยเป็นพันแต่ไม่มีสักคนที่เธอรู้จักอย่างจริงจังจริงใจมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใดเลย เพราะคนเหล่านั้นไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ และเธอเองก็ไม่ได้รู้จักพวกเขาด้วย งานแต่งงานในความคิดของจุมพิตาจึงต้องเป็นงานแต่งที่อบอุ่นเต็มไปด้วยญาติมิตรที่สนิทสนมกัน มีความรักและความจริงใจต่อกันมากกว่างานแต่งใหญ่โตหรูหรา แต่แสนอ้างว้างมีแต่คนใส่หน้ากากมาร่วมงาน ซึ่งพยัคฆ์เองก็เห็นด้วยกับความคิดของคนที่จะมาศรีภรรยาโดยไม่คัดค้านใดๆ
ตอนที่44.คุณนทีปรายตามองว่าที่ลูกเขยอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เพราะพยัคฆ์มักแอบขโมยลูกสาวของตนไปพลอดรักอยู่ร่ำไป เผลอเป็นไม่ได้เสือร้ายที่ทำตัวเป็นแมวจะต้องขโมยปลาย่างไปกินเสียทุกที“มันยังไม่ถึงฤกษ์จะแต่ง ก็ควรอยู่ห่างๆ กันไว้บ้างนะ”“โธ่.. คุณพ่อครับ แค่ห่างจ๋อมนาทีเดียวผมก็จะใจขาดแล้วครับให้ผมเจอหน้าจ๋อมสักสามนาทีได้ไหมครับ”“งั้นก็ห่างไปสักสามวันก็แล้วกัน”คุณจริยาพูดขึ้นนางเดินมาพร้อมด้วยคุณย่าคริสตี้และคนงานที่ถือพลั่วและบุ้งกี๋มาด้วย“เอาล่ะไปทำงานของตัวเองเสียทีอย่ามาวุ่นวายกับน้องเขา มันจะเสียฤกษ์เสียยาม ความจริงแล้วถ้ายึดแบบประเพณีโบราณของไทยเจ้าบ่าวเจ้าสาวนี่ต้องห้ามเจอหน้ากันเป็นเดือนๆ เลยนะ”คุณย่าคริสตี้ซึ่งร่างกายยังคงแข็งแรงเดินเหินราวกับคนวัยห้าสิบต้นๆ ทั้งที่ปีนี้ท่านจะย่างเข้าสู่ปีที่เจ็บสิบเก้าแล้วทำสีหน้าจริงจังใส่หลานชายหัวแก้วหัวแหวน ยิ่งรู้ว่าก่อนหน้าที่จะพิสูจน์ได้ว่าจุมพิตาเป็นลูกสาวของคุณนทีกับคุณจริยา พยัคฆ์ได้ทำอะไรกับจุ
ตอนที่43.“โอ้ว จ๋อมจ๋า จ๋อม อา.. อ๊า..”พยัคฆ์ครางกระเส่าไม่แพ้กันก่อนที่ความเสียวซ่านจะบีบรัดจนเขาและเธอไม่อาจจะทานทนกับความร้อนระอุแห่งกระแสสวาทได้ ชายหนุ่มโถมกายเข้าหาร่างงามครั้งสุดท้ายปลดปล่อยทุกหยาดหยดแห่งความสุขสมเข้าสู่กายบางที่แทบจะทรุดลงกับพื้นทันทีที่พุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดแห่งเพลงสวาทร้อนแรงพยัคฆ์มองร่างงามที่ซวนซบอยู่กับพื้นกระเบื้องลายสวยอย่างพอใจ หากเขาพยายามปั๊มลูกทุกๆ วันมีหรือที่เธอจะไม่ท้องแล้วทีนี้พอแต่งปุ๊บเขาก็จะได้เป็นว่าที่คุณพ่อปั๊บสมปรารถนา ใครจะว่าเขาโกหกเรื่องเธอท้องไม่ได้เพราะจุมพิตาจะท้องจริงๆ“ทีนี้เรามาอาบน้ำด้วยกันดีกว่านะครับที่รัก”ปากบอกว่าจะอาบน้ำแต่เขาไม่ยอมถอดถอนตัวตนใหญ่โตออกจากร่างสาว พยัคฆ์พลิกร่างงามให้หันกลับมาแล้วจับเรียวเขาเสลาให้โอบรัดรอบเอวสอบก่อนจะพาเธอไปที่ฝักบัวใหญ่หรูหราแล้วเปิดน้ำพร่างพรมลงมาและเริ่มเกมรักเราร้อนใต้ฝักบัวอีกครั้งโดยที่จุมพิตาไม่มีโอกาสได้คัดค้านความต้องการของเขาได้เลย...
ตอนที่42.ร่างระหงเดินไปหยิบหนังสือเล่มโปรดที่อ่านค้างไว้แล้วเดินไปที่เก้าอี้โยกริมหน้าต่างบานยาวจรดพื้นที่เธอมักจะมานั่งตรงนี้เพราะลมพัดเย็นสบายโดยไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ และยังมองเห็นสวนสวยเขียวขจีสลับกับดอกไม้ที่ออกดอกแข่งขันประชันกันด้วย ที่สำคัญได้เห็นคนตัวโตที่ปลูกดอกไม้ ต้นไม้ให้มารดาของตนด้วย ซึ่งเธอแอบมองพยัคฆ์อยู่ทุกวันนับตั้งแต่บิดามารดายื่นข้อเสนอในการสมัครเป็นลูกเขยของพวกท่าน ด้วยการให้พยัคฆ์ทำงานทุกอย่างตามแต่พวกท่านต้องการเป็นเวลาหนึ่งเดือน ก่อนจะถึงวันแต่งงาน เพื่อทดสอบความอดทนและความจริงใจของพยัคฆ์ แต่ผ่านไปสองสัปดาห์กว่าแล้วพยัคฆ์ก็ยังคงทำตามความต้องการของบิดามารดาของเธออย่างไม่อิดออดหรือขัดข้อง...จุมพิตานอนอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์แต่แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีลมร้อนๆ เป่ารดอยู่ข้างแก้มหญิงสาวสะดุ้งเมื่อหันมาก็พบกับปลายจมูกโด่งของคนที่เธอเพิ่งเห็นเขาอยู่บนหลังคาโรงรถเมื่อครู่“อุ้ย..”“คิดถึงจัง” ชายหนุ่มไม่อินังขังขอบกับแววตาเขียวๆ ของสาวเจ้า“ขึ้นมาได
ตอนที่41.จุมพิตาอ่อนอกอ่อนใจกับพ่อคนเอาแต่ใจ พยัคฆ์ปรนเปรอเธอด้วยเพลิงเสน่หาอันร้อนแรงทว่าอ่อนโยนในทีจนเธอหลงเพริดไปกับเขาง่ายดายและแสนจะยินดี เสียงครางกระเส่าของหนุ่มสาวดังกระหึ่มไปทั้งห้องอย่างไม่มีใครยอมใครและจับจูงกันพุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดแห่งลำนำเสน่หาเร่าร้อนอีกครั้ง...“พี่ยักษ์รักจ๋อมนะครับคนดี..”เขากระซิบบอกเมื่อเพลงสวาทครั้งที่สามจบลง น้ำเสียงของเขาหนักแน่นไม่มีการหอบกระเส่าเหมือนกับเธอ จุมพิตามองเขาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง คิดว่าตัวเองคงเหนื่อยล้าจากบทรักเร่าร้อนของเขาจนหูฝาดไป“จ๋อมหูไม่ฝาดหรอกครับและที่พามาที่นี่เพื่อจะบอกว่า แต่งงานกับพี่ยักษ์นะ..”พูดเหมือนนั่งอยู่ในใจเธอแล้วเอ่ยขอแต่งงานดื้อๆ ทั้งยังสวมแหวนเพชรเม็ดงามลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอหน้าตาเฉย จุมพิตามองนิ้วนางข้างซ้ายของตนที่ประดับด้วยแหวนเพชรน้ำงามด้วยความมึนงง และตื้นตันอยู่ลึกๆ เพราะไม่คิดว่าจะเจอการจู่โจมของเขาแบบนี้ ร่างบางที่ถูกรั้งให้ลุกขึ้นนั่งนิ่งงันมองมือตัวเองเหมือนอยู่ในห้วงหลงละเมอจนชายหนุ่
ตอนที่40.ขณะที่เขาเล่าให้ฟังจุมพิตาก็ได้มองไปรอบกายและหันมามองเขาอย่างชื่นชม ไม่น่าเชื่อว่าพยัคฆ์จะมีมุมที่น่ารักและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม“พี่ให้พวกเขาปลูกสมุนไพรและพรรณไม้หายากไว้ด้านโน้น แล้วจ้างพวกเขาให้ดูแลที่นี่ไปด้วยเพื่อให้พวกเขามีรายได้และรักที่นี่มากพอที่จะช่วยกันดูแลรักษา เห็นตรงโน้นมั้ยที่เห็นหลังคาบ้านอยู่สี่ห้าหลัง ตรงนั้นเป็นบ้านพักของพวกเขา ถัดออกไปจะเป็นสวนผักและสวนสตรอว์เบอร์รี่ พวกเขาจะเก็บไปขายเป็นรายได้ใช้จ่ายในครัวเรือน ปกติจะมีคนงานอยู่สิบคนแต่วันนี้วันหยุด และพี่อยากจะใช้เวลากับเมียเพียงลำพังที่นี่จึงมีแค่เราสองคน”หญิงสาวค้อนเขาหน้าแดง แล้วนึกค่อนขอดเขาในใจอย่างหมั่นไส้ เพิ่งนึกชื่นชมไปหยกๆ แต่พ่อคุณก็ไม่ทิ้งลายความเจ้าเล่ห์ และกว่ารู้ว่าเสียทีคนที่อยากอยู่กับเมียเขาก็รวบร่างเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแล้วเรียบร้อย“ปล่อยนะคะ คนบ้าเจ้าเล่ห์ที่สุด จ๋อมไม่น่าหลงฟังคนขี้โม้โอ้อวดเลย”“ไม่ปล่อยหรอก รู้มั้ยว่าอยากกอดจ๋อมมาตั้งนานแล้ว เป็นเดือนๆ เลยนะที่เราไม่ไ
Komen