จุมพิตายืนขาสั่นอยู่ตรงหน้าร่างสูงใหญ่ที่แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวของเขาลดลง กลับทำให้เขาดูทรงอำนาจน่าเกรงขามมากกว่าเดิมหลายเท่านัก เหมือนว่าเขากำลังอ่านเอกสารสำคัญอะไรสักอย่างและยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นพูดอะไรกับเธอ ทำให้จุมพิตามีโอกาสได้สังเกตเขาอย่างละเอียดลออ
ใบหน้าเรียวยาวได้รูปมีเครื่องหน้าที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็นโค้งคิ้วดกหนาที่พาดยาวเหนือดวงตาคมใหญ่สีเทาเข้ม จมูกโด่งสวยคมสันไม่งองุ้มเขามีจมูกที่สวยมากเธอยอมรับโดยไม่มีข้อกังขา และแอบอิจฉาทั้งค่อนขอดว่าพระเจ้าช่างลำเอียงที่ประทานจมูกสวยๆ ให้เขาไปเสียหมด อีกทั้งริมฝีปากหยักสีชมพูเข้มอย่างคนสุขภาพดีนั่นอีก มันสวยกว่าปากของผู้หญิงบางคนเสียอีกที่สำคัญริมฝีปากคู่นี้ช่างร้ายกาจเสียนัก..
“มองพอรึยัง..”
เสียงห้าวดังขึ้นทำให้จุมพิตาสะดุ้งตื่นจากภวังค์กะพริบตาปริบๆ ก้มหน้างุดอย่างขัดเขินเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา
“คนบ้าจะเงยหน้าขึ้นมาก็ไม่ยอมบอก” หญิงสาวทำปากขมิบขมิบ
“มานี่สิ” เขาเรียกจุมพิตาขยับไปข้างหน้าเล็กน้อยแต่ยังไม่เงยหน้ามองเขา
“ใกล้เข้ามาอีก”
พยัคฆ์ย้ำหญิงสาวก็ก้าวเข้าไปอีกหนึ่งก้าว แล้วจุมพิตาก็ต้องตาโตด้วยความตกใจเมื่อคนที่คิดว่ายังอยู่ห่างจากตนเป็นวา เข้ามาถึงตัวเธอในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีหลังจากที่ได้ยินเสียงเขาสบถในลำคออย่างฉุนเฉียวเมื่อกี้..
“คิดจะยั่วประสาทฉันเหรอ ฮึ จุมพิตา..”
“ปละ เปล่านะคะ คือจะ จ๋อม คือฉัน..”
หญิงสาวพูดไม่ออกทั้งยันแผงอกกว้างของเขาไว้กลัวว่ามันจะมาสัมผัสกับอกนุ่มของตนที่มีเพียงเสื้อเชิ้ตของเขากางกั้น ดีที่ว่าบนเรือนนี้เธอเห็นว่ามีเพียงผู้หญิงทั้งสาวใช้และคนทำสวน หรืออาจจะเพราะงานไม่ได้หนักหนาอะไรเขาจึงจ้างเฉพาะผู้หญิงซึ่งมันทำให้เธอโล่งใจอยู่ไม่น้อยเพราะหากมีผู้ชายสักคนบนเรือนนอกจากเขากับบิดา เธอคงทำหน้าไม่ถูก
“เห็นรึยังว่าพ่อเธอยังไม่ตาย และฉันยังใจดีจ้างพยาบาลมาดูแลพ่อของเธอด้วย ทั้งที่เธอเป็นเชลยของฉัน เห็นมั้ยว่าเธอได้เปรียบเห็นๆ เลยนะ”
คำพูดที่เหมือนทวงบุญคุณและหยิ่งโอหังทำให้จุมพิตาอยากตะกุยหน้าหล่อๆ นั่นนัก
ได้เปรียบเหรอ เธอได้เปรียบตรงไหนกัน... เธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยแถมยังโดนกล่าวหาและถูกจับตัวมาเป็นเชลยของเขาให้เขาปู้ยี่ปู้ยำนี่นะ เรียกว่าได้เปรียบ..
“ไม่เห็นว่าจะได้เปรียบตรงไหน คุณพูดเองเออเอง” กล้าที่จะเถียงเขาบ้างแล้วหญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ
“หรือเธออยากให้พ่อเธอตายล่ะ ก็ได้นะฉันทำได้หากเธอตุกติกอะไร”
“คนอย่างฉันจะไปตุกติกอะไรกับคุณได้ ฉันมันก็แค่ลูกไก่ตัวเล็กๆ ในกำมือของคุณ แถมยังเป็นแพะรับบาปที่ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าฉันไปทำอะไรให้คุณ..”
พูดไปก็ก้าวตามคนตัวโตไปเมื่อเขารั้งเธอไปยังโซฟาตัวใหญ่มุมระเบียงห้องทำงานที่มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามด้านนอกได้สุดลูกหูลูกตา รอบกายเธองดงามน่าชื่นชมแต่หญิงสาวไม่มีอารมณ์จะชายตาดื่มด่ำกับความงามเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย ร่างสูงนั่งลงโดยรั้งให้เธอนั่งคร่อมตักกว้างของเขาและแน่นอนจุมพิตาไม่มีทางได้ขัดขืน
“พูดเก่งนี่ หรือว่าเก่งทุกเรื่องนะ”
“คุณต้องการอะไรกันแน่ และฉันไปทำอะไรให้คุณ”
จุมพิตาอดรนทนไม่ได้เมื่อเขาทำท่าจะนอกเรื่องและมือใหญ่ก็เริ่มยุ่งวุ่นวายกับเนื้อตัวเธอ
“ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่”
“ถ้าคุณจะกรุณา..”
หญิงสาวค้อนเขาอย่างอดไม่ได้ทั้งเอนกายหนีใบหน้าที่โน้มเข้ามาใกล้ใจสั่นสะท้านเต้นระรัวจนเหนื่อยหอบ คนอะไรหล่อเป็นบ้า ยิ่งมองยิ่งหล่อ จุมพิตาบอกตัวเองทั้งยังพยายามห้ามใจไม่ให้หวั่นไหวกับเขา
“สร้อยเส้นนั้น เธอเอามันไปให้ใคร”
“สร้อย สร้อยอะไรคะ”
“สร้อยเพชรชมพู ที่น้องของเธอฉกไปจากกระเป๋าของฉันไปให้เจ้านายเธอไงล่ะ เธอเอามันไปส่งให้ใคร”
“น้องชายฉันไปเอาของคุณมาตอนไหน แล้วฉันก็ส่งของให้เจ้านายฉันเยอะแยะ ฉันจะรู้ได้ไงว่าอันไหนมันของคุณ และเจ้านายฉันไม่มีทางรับซื้อของโจรแน่ๆ”
หญิงสาวหน้าตื่นไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องที่เขาบอกมานั้นเป็นเรื่องจริง
“น้องชายเธอขโมยมันไปวันนั้น..”
“อย่ามาใส่ร้ายเรานะ จ้อยไม่มีวันทำแบบนั้น”
“ไม่ทำเหรอ เธอจะดูกล้องวงจรปิดของตลาดมั้ย โชคร้ายหน่อยนะที่ตรงนั้นมันมีกล้องวงจรปิดอยู่ น้องชายเธอฉกมันไปจากกระเป๋าเสื้อของฉัน” เขายืนยันแววตาจริงจัง
“ถ้าของมันมีค่ากับคุณขนาดนั้นทำไมเอามันออกมาเดินตลาดด้วยล่ะ คนโง่ๆ เท่านั้นล่ะจะทำกันแบบนั้น”
อดไม่ได้จุมพิตาก็สวนกลับไปด้วยความโมโห ถึงเธอจะเป็นเพียงแค่เด็กส่งของให้ร้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงที่สุดในตลาดไม่ได้เรียบจบปริญญาตรีแต่เธอก็มีศักดิ์ศรีความเป็นคนเหมือนกัน
“ตั้งแต่เกิดมาไม่มีใครมาเถียงฉันฉอดๆ และว่าฉันโง่แบบนี้เลยนะ เธอกล้ามากแม่สาวน้อย”
“ฉันไม่ได้เถียงนะ แค่พูดตามความจริง ถึงฉันกับน้องจะหาเช้ากินค่ำ แต่เราไม่ใช่หัวขโมยและไม่ได้เป็นพวกสิบแปดมงกุฎด้วย”
“ในเมื่อเธอมั่นใจว่าน้องชายของเธอบริสุทธิ์ เธอก็ดูนั่นสิ..”
พูดจบเขาก็จับร่างเธอหันหลังกลับแต่ก็ยังคร่อมตักกว้างเช่นเดิม และเมื่อหันมาทีวีจอใหญ่ราวจอภาพยนตร์ในโรงก็ปรากฏภาพของน้องชายเธอในขณะที่วิ่งกลับมาหาเธอช่วงเวลาเดียวกับที่เขาช่วยดึงเธอไว้ไม่ให้ล้มลงไป แล้วพยัคฆ์ก็หยุดภาพไว้แล้วซูมภาพเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่าจ้อยล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเขาและในมือของน้องชายมีอะไรบางอย่างติดไปด้วยจริงๆ ก่อนที่เขากับเธอจะแยกย้ายกันไปและเวลามันแค่เสี้ยววินาทีจริงๆ
“เห็นรึยัง ว่าฉันไม่ได้ปรักปรำเธอ ลักษณะนี้มันเป็นการทำงานเป็นทีม อีกอย่างไอ้ของที่เธอขายน่ะ มันก็ไม่ได้มีคุณภาพดีอย่างที่เธอโฆษณาด้วยซ้ำ มันก็แค่น้ำผสมกาวธรรมดา สรุปแล้วเธอก็คือสิบแปดมงกุฎ” เขาสรุปให้ในตอนท้ายเพื่อตอกย้ำสถานะสิบแปดมงกุฎของเธอ
“พูดไม่ออกล่ะสิ..” เมื่อเห็นว่าเธอเงียบไปเขาก็ย้ำมาอีก
“ฉัน ไม่รู้จริงๆ ว่าจ้อยเอาของของคุณไปไว้ไหน ฉันไม่รู้”
ตอนที่5.“ที่ฉันเอามันไปด้วยก็เพราะมันเป็นสร้อยของแม่ฉันที่ให้ไว้ก่อนท่านเสียชีวิต บังเอิญว่าตะขอมันชำรุดฉันจึงไปหาช่างที่ทำสร้อยเส้นนี้ให้แม่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ที่ฉันพบเธอ มันเป็นของเก่าแก่ ที่มีคุณค่ากับจิตใจของฉัน พลอยชมพูเม็ดนั้นคือมรดกตกทอดของตระกูลฉัน ทีนี้รู้รึยังว่าทำไมฉันจะต้องโกรธมากเมื่อมีคนมาฉกมันไป”“ฉันไม่รู้จริงๆ ฉันขอโทษ” เมื่อจนต่อเหตุผลจุมพิตาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน“ใครเป็นหัวหน้าแก๊งของเธอ”“ไม่มี.. ฉันไม่ได้เป็นลูกน้องแก๊งไหน ฉันก็แค่คนหาเช้ากินค่ำ ทำไมคุณจะต้องปรักปรำฉันด้วย”“การกระทำของพวกเธอมันเป็นกระบวนการ เพราะหลังจากที่น้องชายกลับไปกับเธอแล้วเขาไปไหน พบใคร แล้วมีท่าทางแปลกๆ หรือเปล่าล่ะ”“เราก็อยู่กันเหมือนปกติทุกวัน เขาไม่ได้ไปไหน”จุมพิตาบอกตามความจริง เพราะวันนั้นเธอกับพ่อและน้องชายรับประทานอาหารแล้วก็คุยกันก่อนเข้านอนเช่นทุกวัน รุ่งขึ้นจ้อยก็ไปโรงเรียนเธอก็ไปทำงาน“ไม่เป็นไร ถึงเธอไม่ยอมบอก ฉันก็ตามหาตัวน้องชายเธอจนพบนั้นล่ะ เด็กตัวเล็กๆ จะหนีไปได้สักกี่น้ำ”“ไม่จริง จ้อยไม่ได้หนีไปไหนหรอก ถึงยังไงเขาจะต้องกลับบ้าน จ้อยไม่เคยไปนอนค้างที่ไหน หากเขาไม
ตอนที่6.เมื่อวานนี้กับวันนี้มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เมื่อวานเขาแทบจะฆ่าเธอกับพ่อ แต่วันนี้เขามีข้อเสนอให้เธอเป็นผู้หญิงของเขาแลกกับสวัสดิการของพ่อและยังมีเรื่องน้องชายให้ครุ่นคิด จุมพิตาถอนหายใจหนักๆ แล้วเลือกชุดที่คิดว่ามันเรียบร้อยที่สุดมาสวมใส่ แต่ในขณะที่หยิบชั้นในมาสวมก็หน้าแดงก่ำนึกแช่งชักคนจัดแจงชุดเหล่านี้มาให้เมื่อผละจากจุมพิตามาพยัคฆ์ก็เดินไปหาวิลล์ที่ยืนรอเขาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งมีชุดม้านั่งงดงามให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ“ได้อะไรมาบ้าง”“เด็กนั่นถูกจับตัวไปจริงๆ ครับ”วิลล์ยื่นซองสีน้ำตาลให้เจ้านายหนุ่ม เมื่อพยัคฆ์เปิดดูสิ่งที่อยู่ข้างในก็ขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าหล่อเหลาเครียดขึงขึ้นมาทันที“ฉันคิดแล้วไม่ผิดว่ายายป้าทึนทึกสองคนนั่นต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง”“สองคนนั่นทำมานานแล้วครับ เบื้องหลังก็ทำมาเยอะเพียงแต่สองป้านั่นขยันสร้างภาพว่าเป็นคนดีเลยไม่ค่อยมีคนสนใจใส่ใจนัก ผมว่าสร้อยนั่นคงจะอยู่กับพวกเขานั่นล่ะคงยังไม่ปล่อยไปเพราะไม่มีใครกล้ารับ”“แต่เราก็ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสองคนนั้นเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังแต่ฉันเชื่อว่าจะต้องมีคนที่มีอิทธิพลมากคอยหนุนหลังสองมนุษย์ป้ามหาภัยนั่นแน่ๆ
ตอนที่7.พยัคฆ์ปล่อยข้อมือเล็ก จุมพิตาก็เดินไปที่ระเบียงทันทีเหมือนต้องการจะอยู่ให้ห่างเขามากที่สุด ชายหนุ่มแอบส่ายหน้ากับท่าทางตื่นๆ ของเธอ ทั้งที่เขาบอกไปว่าเธอได้ตกเป็นของเขาไปแล้วแต่เจ้าหล่อนก็ยังมีท่าทีตื่นๆ เหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ระแวดระวังราวกวางน้อยที่กลัวเสือขย้ำก็เธอน่าขย้ำจริงๆ นี่นา เห็นเล็กๆ บางๆ แบบนั้นซ่อนรูปอยู่ไม่น้อย อกอวบอิ่มและผิวเนียนนุ่มมือนั่นก็ทำให้เขาหลงใหลแทบบ้า เรียวขานั่นก็เพรียวสวยน่ามอง แล้วยังตรงนั้น.. โอย...เขาไม่น่าคิดเกินเลยไปกว่านี้เลยเพราะมันทำให้รุ่มร้อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไอ้ที่หลับๆ อยู่ก็ตื่นขึ้นมาเสียดื้อๆ“กลับเข้าห้องได้แล้วล่ะฉันรู้สึกเหนียวตัวอยากอาบน้ำ”“คุณอาบน้ำก่อนก็ได้ค่ะ จ๋อมขออยู่ตรงนี้อีกสักพักได้ไหมคะ”“แต่ฉันต้องการคนถูหลัง..”กอดอกมองด้วยแววตาที่แสร้งทำข่มขู่ จุมพิตาหน้าหมองลงแล้วเดินมาหาเขาช้าๆ อย่างยอมจำนน แม้จะนึกสงสารอยู่บ้างแต่อารมณ์ที่ระอุปะทุอยู่ที่แก่นกายมันทำให้เขาต้องเลือกที่จะเห็นแก่ตัว..จุมพิตาถอนใจเฮือกแล้วเฮือกเล่ากับการทำหน้าที่ถูหลังให้ผู้ชายที่ฮัมเพลงอย่างมีความสุขอยู่ในห้องน้ำ ทำไมเธอจะต้องตกอยู่ในสถาน
ตอนที่8.“ยักษ์น่ะ ซูซี่อุตส่าห์มาหานะคะ มาตั้งไกลแทนที่จะถามบ้างว่าซูซี่เหนื่อยไหม พักที่ไหน”“ทำไมผมต้องถามด้วยล่ะ” เจอคำถามนี้เข้าไปสุมณฑายิ่งเคืองหนัก คิดไปถึงสาวหน้าจืดอีกคนขึ้นมาอย่างพาลๆ“คงเป็นเพราะนังคนหน้าจืดนั่นสินะที่ทำให้คุณมีท่าทีห่างเหินกับซูซี่แบบนี้ คุณไม่มีทางสนใจแม่นั่นจริงจังหรอกใช่ไหมคะ”“ผมเคยบอกคุณไปแล้วนะเกี่ยวกับสถานะของเรา หากคุณไม่พูดธุระของคุณแต่เลือกที่จะมางี่เง่ากับผมเราก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกัน ผมไม่ใช่สามีหรือคนรักของคุณ ที่คุณจะมาหึงหวงทำตัวไร้สติเหมือนมนุษย์ป้า หมดเวลาของคุณแล้ว เชิญกลับไปได้ วิลล์ส่งแขก..”ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องรับแขก วิลล์ซึ่งยืนรอรับใช้เจ้านายหนุ่มยิ้มน้อยๆ อย่างสะใจที่เห็นแม่คนหยิ่งผยองคอยดูถูกเขาเสมอยามเห็นหน้ากันเต้นเร่าๆ เหมือนเจ้าเข้า“เชิญครับคุณซูซี่”“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ขี้ข้าก็อยู่ส่วนขี้ข้าไป๊” หญิงสาวตวาดแหวไม่รักษาภาพพจน์ใดๆ“ก็ยังดีกว่าหมาตัวเมียที่วิ่งไล่เสือนะครับ”“กรี๊ดดด ไอ้บ้าแกว่าฉันเป็นหมาตัวเมียเหรอ” สุมณฑากระทืบเท้าเร่าๆ ชี้หน้าวิลล์อย่างเดือดดาล“ผมจะกล้าไปว่าอะไรคุณละครับผมก็แค่ขี้ข้า”วิลล์ย
ตอนที่9.“ป่านนี้คงนัวเนียอยู่กับยายคนสวยนั่นสิท่า ก็ดีแล้วล่ะจะได้ไม่มายุ่งกับเรา อิอิ.. ขอให้มีความสุขมากๆ นะเจ้าคะคุณผู้ชาย คืนนี้เราก็ใส่ชุดนอนแบบไม่ได้นอนได้น่ะสิ ฮ่าๆ”ว่าแล้วสาวเจ้าก็หยิบชุดนอนบางพลิ้วสีชมพูหวานๆ มาสวมโดยที่ไม่สวมชุดชั้นในและมันทำให้คนที่ยืนแอบมองอยู่เงียบๆ ตื่นตัวขึ้นมาทันที...ร่างเล็กทว่าอวบอิ่มเต็มตึงไปเสียทุกสัดส่วนเดินฮัมเพลงเบาๆ ไปที่เตียงกว้างอย่างอารมณ์ดี ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาเธอต้องทนเก็บกักความเป็นตัวของตัวเองไว้ และยังหวาดกลัวไปเสียทุกอย่างรอบกายที่ไม่คุ้นเคย ต้องเกร็งเครียดเขม็งไปทั้งกายทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าพยัคฆ์ ชายหนุ่มที่หล่อเหลาและเสน่ห์ล้นเหลือ จนเธอไม่เป็นตัวของตัวเอง นี่เป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขทีสุดในระยะเวลาเกือบ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งมันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจนแทบตั้งรับไม่ทันแล้วยังมีตำแหน่งใหม่ที่ไม่น่าชื่นชมเลยสักนิดผู้หญิงของพยัคฆ์ คิงส์.. ที่ไม่รู้ว่าเขาจะเขี่ยเธอทิ้งตอนไหน เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ใบหน้ายิ้มละไมของเธอก็เศร้าหมองลงใครอยากจะเป็นนางบำเรอของผู้ชายที่ไร้หัวใจกัน“แล้วเราจะอยู่ยังไงต่อไป หลังจากที่เราไม่ได้อยู่ที่นี่แล
ตอนที่10.“คุ คุณ เอ่อ อุ้ย..” จุมพิตาพยายามจะถอยหนีแต่ก็ไม่สามารถจะขยับไปไหนได้เมื่อร่างเปลือยเปล่าเช่นเดียวกันทาบลงมา ความร้อนจากร่างแกร่งราวจะแผดเผาร่างสาวให้ไหม้เกรียม“เธอจะต้องคิดถึงฉันคนเดียวจุมพิตา..”เขาบอกเสียงพร่าแล้วปิดปากที่กำลังจะเอ่ยทักท้วงทันที โลกของจุมพิตาหมุนติ้วๆ อีกครั้งความเสียวซ่านก็ก่อให้เกิดอาการหมุนมวนในช่องท้อง ร่างสาวส่ายสะบัดด้วยความกระสัน เรียวขาเสลาแยกออกจากกันโดยอัตโนมัติเมื่อร่างแกร่งแทรกเข้ามาคลอเคล้าแนบชิดจนรับรู้ถึงบางอย่างที่ดุนดันอยู่กับหน้าท้องเนียนของตน แต่จุมพิตาก็ไม่มีเวลาคิดอะไรนอกจากส่งเสียงครางแผ่วพร่าแทบขาดใจเมื่อปากร้อนของเขาครองครองยอดอกเธออีกครั้งและนิ้วร้ายก็กำลังหยอกเย้าอยู่กับใจกลางร่างฉ่ำชื้น“อ๊ะ..” หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วร้อนๆ แตะลงบนกลีบดอกไม้นุ่มสดฉ่ำ แล้วค่อยๆ แทรกซอนไซ้ด้วยจังหวะเนิบช้าก่อนจะรุกล้ำสนิทสนมมากขึ้น จุมพิตาแทบคลั่งด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต ร่างสาวสะบัดพลิ้วอยู่ใต้ร่างหนา ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนต่ำมายังหน้าท้องเนียนนุ่มลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนผิวเนื้ออ่อนละมุนนั้นทำให้จุมพิตาคิดว่าร่างของตัวเองคงมอดไ
ตอนที่11.“แล้วเด็กที่มันเอาของมาให้คุณล่ะ ได้ข่าวว่าพี่สาวกับพ่อมันหายตัวไปจากบ้าน ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะหนีไปเฉยๆ หรือเพราะมีคนมาจับตัวมันไป หรือว่าจะเป็นคุณยักษ์”สุมณฑาหน้าตื่นเมื่อนึกถึงชายหนุ่มอีกคนที่เธอไม่อยากจะเสี่ยงปะทะกับเขานัก“ไม่หรอกน่า เราใช้เด็กตัวเล็กๆ ที่ขายของในตลาดลงมือ แล้วอีกอย่างคนอย่างไอ้ยักษ์มันไม่ลงทุนมาจัดการเองหรอก ลูกน้องมันมีแต่ขั้นเทพแค่มันชี้นิ้วทุกอย่างก็เรียบร้อย มันไม่ลดตัวลงมาจับตัวผู้หญิงหาเช้ากินค่ำกับพ่อพิการไปให้เป็นภาระหรอกน่า อีกอย่างสองคนนั้นบอกว่าพี่สาวมันหนีไปกับผู้ชายแล้วพ่อมันก็ช็อกตายไปแล้ว จะว่าไปที่ตรงบ้านหลังนั้นมันก็เข้าท่าดีนะ ผมว่าจะไปรื้อไอ้บ้านโกโรโกโสนั้นทิ้งแล้วทำเป็นร้านกาแฟเล็กๆ หรูๆ บังหน้า” เอกพลวาดฝันถึงโครงการในอนาคต“จะดีเหรอ มันอาจจะเป็นที่ของคนอื่นแล้วเขาเช่าอยู่ก็ได้”“ยายป้าสองคนนั้นบอกว่าที่ตรงนั้นเป็นของไอ้แก่คนนั้นล่ะ เรื่องนี้ต้องยกให้พวกแกสองคนจัดการเราก็แค่รอรับผลประโยชน์ คนโลภมันจะต้องยอมทำทุกอย่างอยู่แล้ว ว่าแต่พ่อคุณจะเอาด้วยไหม หากงานนี้สำเร็จบอกเลยว่าพ่อคุณจะได้สินค้าดีๆ ไร้ตำหนิมากกว่าเดิมโดยไม่ต้องลงทุน
ตอนที่12.“ไปๆ ไปหาคุณยักษ์เขาเลย เขามารับแก อ่า.. หมดธุระของคุงยักษ์แล้วช่ายมั้ยคับ”เฮียตือผลักร่างเล็กๆ ของจ้อยมาให้พยัคฆ์ทันทีเหมือนรังเกียจซึ่งชายหนุ่มก็รับร่างเล็กๆ ที่แทบจะทรงตัวไม่อยู่ของจ้อยไว้แล้วส่งต่อให้คนของเขาพาเด็กชายไปที่รถ“ครับ หมดแล้ว ผมกลับก่อนล่ะ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ..”ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงและใบหน้าเรียบเฉยแล้วหันหลังกลับท่ามกลางความโล่งอกของเฮียตือที่ปาดเหงื่อรัวๆ แล้วหันมาด่าลูกน้องอย่างโมโห“ไอ้พวกหมาขี้เรื้อนเลี้ยงเปลืองข้าวสุก ถ้าหากอีทำมากกว่านี้อั๊วจะไม่ย่อยยับเหรอวะ ทีหลังหัดแหกตาบ้างว่าใครเป็นใคร ไอ้พวกเวร..”เฮียตือทั้งถีบทั้งยันลูกน้องพัลวันอย่างฉุนเฉียวเมื่อตนเกือบซวยเพราะความอวดดีของลูกน้อง...ทางด้านพยัคฆ์ที่กลับเข้ามานั่งในรถคันงามเย็นฉ่ำด้วยแววตาขุ่นเข้มก็กดโทรศัพท์ถึงใครบางคนที่จะทำให้คนชั่วๆ หมดไปจากโลกได้โดยไม่ยาก“ฉันมีเรื่องจะบอกให้นายรู้ว่ะ..”“ว่ามาเลยเพื่อน” เจคอป บาร์ตัน อดีตมาเฟียหนุ่มผู้ไม่ชื่นชอบการกดขี่ข่มเหงเด็ก สตรีและคนชรารวมไปถึงสัตว์ทั้งหลายและผันตัวเองมาเป็นผู้รักษากฎหมายและกฎหมู่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงยินดี“ที่โกดังเฮียตื
ตอนที่48. อวสาน“ก็พี่รักจ๋อม รักลูกของเรา และจะรักตลอดไป”“จ๋อมก็รักพี่ยักษ์และลูกของเราค่ะ เราจะรักกันตลอดไป..” หญิงจูบแก้มสามีเบาๆ แล้วโอบกอดเขาไว้“แบบนี้ต้องตกรางวัลหนักๆ เลยนะครับที่รัก”“แน่ะ คนอะไรเห็นแก่รางวัลจริงเชียว นี่บอกรักกันเพราะหวังรางวัลแค่นั้นหรือคะ”หญิงสาวทำทีเง้างอดขณะเคลื่อนกายขึ้นเหนือร่างแกร่งเปล่าเปลือยที่เอนกายลงนอนอย่างรู้งานมองภรรยาคนสวยนัยน์ตากรุ้มกริ่ม“เปล่าเสียหน่อยก็รักเมียหลงเมียจะแย่แล้วครับ” ปากก็พูดไปมือก็ลูบไล้เรือนกายขาวลอออิ่มเอิบอย่างแสนรัก“แบบนี้ต้องทำให้หลงมากๆ ค่ะ จะได้ไม่ไปวอแวกับสาวๆ คนไหน..”ว่าแล้วหญิงสาวก็ก้มลงจูบสามีสุดหล่ออย่างเร่าร้อนซึ่งพยัคฆ์ก็จูบตอบภรรยาที่รักเร่าร้อนไม่แพ้กัน แม้เธอจะอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ก็ไม่ได้ทำให้ความเสน่หาของเขาลดลงแม้แต่น้อย นับวันมันยิ่งเพิ่มความรักความเสน่หาให้กับเขาจนไม่อาจจะละเลยที่จะให้ความรักแก่เธอกับลูกได้มือหนาลูบไล้ท้อง
ตอนที่47.บทส่งท้าย หญิงสาวมองดูสองพ่อลูกที่ทุ่มเถียงกันเรื่องเลี้ยงแมวจรจัดที่ถูกทำร้ายมาจนบาดเจ็บสาหัสซึ่ง น้องเจ้าจอม หรือ เด็กหญิงจันท์ยาวี วัยห้าขวบเศษเป็นคนพามันไปส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเองโดยมีชาติชายเป็นคนขับรถพามาเด็กหญิงเฝ้าดูอาการเจ้าแมวเหมียวตัวสีขาวสะอาดเพศผู้อย่างใจจดจ่อ และรอฟังอาการของมันโดยไม่ยอมกลับบ้านจนกว่าจะรู้ว่ามันปลอดภัย เมื่อจุมพิตาซึ่งออกไปธุระกับสามีรู้ข่าวว่าลูกสาวจอมซนพาลูกแมวไปโรงพยาบาลรักษาสัตว์ก็รีบเดินทางมาดูด้วยห่วงลูกสาวทั้ งยังอยากเห็นเจ้าแมวน้อยที่น้องเจ้าจอมดั้นด้นพามันมาส่งด้วยตัวเอง“คุณพ่อบอกเหตุผลมาสิคะว่าทำไมเจ้าจอมเลี้ยงเจ้าเสือขาวไม่ได้”เด็กหญิงวัยห้าขวบผมหยักศกรวบผมครึ่งศีรษะปล่อยลอนผมยาวครึ่งแผ่นหลังคลอเคลียแผ่นหลังเล็กในชุดฟูฟ่องตามแบบที่เด็กหญิงชื่นชอบดูงดงามราวเจ้าหญิง แก้มแดงเปล่งปลั่ง และริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเม้มแน่นดวงตากลมโตที่ถอดแบบผู้เป็นแม่มานั้นจ้องบิดาเขม็งพร้อมทั้งตั้งชื่อให้เจ้าแมวน้อยเสร็จสร
ตอนที่46.“อุ๊ย..”หญิงสาวอุทานอย่างตกใจเมื่อมือใหญ่คว้ามือเล็กของเธอหมับพร้อมทั้งลืมตามองเธออย่างมีความหมาย“แอบคิดอะไรกับพี่รึเปล่าคนสวย”“บ้า เปล่าเสียหน่อยจ๋อมเห็นว่าผ้ามันเลื่อนลงมาจะหยิบมาปิดหน้าอกให้หรอกเดี๋ยวไม่สบาย” แก้ตัวหน้าแดงก่ำหลบตาคมพราวพราย“แน่ใจเหรอจ๊ะ เอ.. จ๋อมบุกรุกที่ของพี่รึเปล่านี่ แบบนี้ต้องลงโทษข้อหาบุกรุก”“จะบ้าเหรอ จ๋อมยังไม่ได้ทำอะไรเลย อย่ามาโมเมนะ ไม่เอาแล้วจ๋อมจะไปอาบน้ำพี่ยักษ์ปล่อยมือจ๋อมได้แล้วค่ะ คนอะไรเขาอุตส่าห์หวังดีแท้ๆ มากล่าวหาเขา เชอะ.. ไม่ยุ่งด้วยแล้ว..”หญิงสาวทำทีขึงขังกลบเกลื่อนความหวั่นไหวเมื่อรู้ดีว่าบทลงโทษของเขานั้นร้อนแรงเพียงใด“ก็ได้ครับเจ้าหญิง”พยัคฆ์ปล่อยมือเธอแต่โดยดีหญิงสาวจึงรีบลุกไปเข้าห้องน้ำจึงไม่ได้เห็นแววตาของสามีที่มองตามไปพยัคฆ์ยิ้มกริ่มเมื่อกวางน้อยติดกับร่างสูงลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินตามภรรยาเข้าไปในห้องน้ำ จุมพิตาซึ่งกำลังจะหันมาป
ตอนที่45.งานแต่งงานของจุมพิตากับพยัคฆ์มีขึ้นในสองสัปดาห์ถัดมา งานแต่งของพวกเขานั้นไม่ได้ใหญ่โตหรูหราอย่างที่ใครๆ หลายคนคิด เพราะหญิงสาวเพียงต้องการจัดงานแต่งงานเล็กๆ ที่เชิญเฉพาะคนที่สนิทเท่านั้นเพราะไม่ชอบความวุ่นวาย และเธอเองก็มีเพื่อนแค่ไม่กี่คนและแทบไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย เนื่องจากนายจักรนั้นอพยพมาจากที่อื่นแล้วมาตั้งรกรากอยู่แถบชายแดนไทย ลาว ญาติของนายจักรที่จุมพิตาเคยเห็นหน้าค่าตา พอรู้ว่าเขาไม่ได้รับราชการต่างก็พากันเหินห่างออกไปและก็ขาดการติดต่อไปโดยปริยายงานแต่งงานที่ใหญ่โตหรูหราที่เชิญแขกมาเป็นร้อยเป็นพันแต่ไม่มีสักคนที่เธอรู้จักอย่างจริงจังจริงใจมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใดเลย เพราะคนเหล่านั้นไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ และเธอเองก็ไม่ได้รู้จักพวกเขาด้วย งานแต่งงานในความคิดของจุมพิตาจึงต้องเป็นงานแต่งที่อบอุ่นเต็มไปด้วยญาติมิตรที่สนิทสนมกัน มีความรักและความจริงใจต่อกันมากกว่างานแต่งใหญ่โตหรูหรา แต่แสนอ้างว้างมีแต่คนใส่หน้ากากมาร่วมงาน ซึ่งพยัคฆ์เองก็เห็นด้วยกับความคิดของคนที่จะมาศรีภรรยาโดยไม่คัดค้านใดๆ
ตอนที่44.คุณนทีปรายตามองว่าที่ลูกเขยอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เพราะพยัคฆ์มักแอบขโมยลูกสาวของตนไปพลอดรักอยู่ร่ำไป เผลอเป็นไม่ได้เสือร้ายที่ทำตัวเป็นแมวจะต้องขโมยปลาย่างไปกินเสียทุกที“มันยังไม่ถึงฤกษ์จะแต่ง ก็ควรอยู่ห่างๆ กันไว้บ้างนะ”“โธ่.. คุณพ่อครับ แค่ห่างจ๋อมนาทีเดียวผมก็จะใจขาดแล้วครับให้ผมเจอหน้าจ๋อมสักสามนาทีได้ไหมครับ”“งั้นก็ห่างไปสักสามวันก็แล้วกัน”คุณจริยาพูดขึ้นนางเดินมาพร้อมด้วยคุณย่าคริสตี้และคนงานที่ถือพลั่วและบุ้งกี๋มาด้วย“เอาล่ะไปทำงานของตัวเองเสียทีอย่ามาวุ่นวายกับน้องเขา มันจะเสียฤกษ์เสียยาม ความจริงแล้วถ้ายึดแบบประเพณีโบราณของไทยเจ้าบ่าวเจ้าสาวนี่ต้องห้ามเจอหน้ากันเป็นเดือนๆ เลยนะ”คุณย่าคริสตี้ซึ่งร่างกายยังคงแข็งแรงเดินเหินราวกับคนวัยห้าสิบต้นๆ ทั้งที่ปีนี้ท่านจะย่างเข้าสู่ปีที่เจ็บสิบเก้าแล้วทำสีหน้าจริงจังใส่หลานชายหัวแก้วหัวแหวน ยิ่งรู้ว่าก่อนหน้าที่จะพิสูจน์ได้ว่าจุมพิตาเป็นลูกสาวของคุณนทีกับคุณจริยา พยัคฆ์ได้ทำอะไรกับจุ
ตอนที่43.“โอ้ว จ๋อมจ๋า จ๋อม อา.. อ๊า..”พยัคฆ์ครางกระเส่าไม่แพ้กันก่อนที่ความเสียวซ่านจะบีบรัดจนเขาและเธอไม่อาจจะทานทนกับความร้อนระอุแห่งกระแสสวาทได้ ชายหนุ่มโถมกายเข้าหาร่างงามครั้งสุดท้ายปลดปล่อยทุกหยาดหยดแห่งความสุขสมเข้าสู่กายบางที่แทบจะทรุดลงกับพื้นทันทีที่พุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดแห่งเพลงสวาทร้อนแรงพยัคฆ์มองร่างงามที่ซวนซบอยู่กับพื้นกระเบื้องลายสวยอย่างพอใจ หากเขาพยายามปั๊มลูกทุกๆ วันมีหรือที่เธอจะไม่ท้องแล้วทีนี้พอแต่งปุ๊บเขาก็จะได้เป็นว่าที่คุณพ่อปั๊บสมปรารถนา ใครจะว่าเขาโกหกเรื่องเธอท้องไม่ได้เพราะจุมพิตาจะท้องจริงๆ“ทีนี้เรามาอาบน้ำด้วยกันดีกว่านะครับที่รัก”ปากบอกว่าจะอาบน้ำแต่เขาไม่ยอมถอดถอนตัวตนใหญ่โตออกจากร่างสาว พยัคฆ์พลิกร่างงามให้หันกลับมาแล้วจับเรียวเขาเสลาให้โอบรัดรอบเอวสอบก่อนจะพาเธอไปที่ฝักบัวใหญ่หรูหราแล้วเปิดน้ำพร่างพรมลงมาและเริ่มเกมรักเราร้อนใต้ฝักบัวอีกครั้งโดยที่จุมพิตาไม่มีโอกาสได้คัดค้านความต้องการของเขาได้เลย...
ตอนที่42.ร่างระหงเดินไปหยิบหนังสือเล่มโปรดที่อ่านค้างไว้แล้วเดินไปที่เก้าอี้โยกริมหน้าต่างบานยาวจรดพื้นที่เธอมักจะมานั่งตรงนี้เพราะลมพัดเย็นสบายโดยไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ และยังมองเห็นสวนสวยเขียวขจีสลับกับดอกไม้ที่ออกดอกแข่งขันประชันกันด้วย ที่สำคัญได้เห็นคนตัวโตที่ปลูกดอกไม้ ต้นไม้ให้มารดาของตนด้วย ซึ่งเธอแอบมองพยัคฆ์อยู่ทุกวันนับตั้งแต่บิดามารดายื่นข้อเสนอในการสมัครเป็นลูกเขยของพวกท่าน ด้วยการให้พยัคฆ์ทำงานทุกอย่างตามแต่พวกท่านต้องการเป็นเวลาหนึ่งเดือน ก่อนจะถึงวันแต่งงาน เพื่อทดสอบความอดทนและความจริงใจของพยัคฆ์ แต่ผ่านไปสองสัปดาห์กว่าแล้วพยัคฆ์ก็ยังคงทำตามความต้องการของบิดามารดาของเธออย่างไม่อิดออดหรือขัดข้อง...จุมพิตานอนอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์แต่แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีลมร้อนๆ เป่ารดอยู่ข้างแก้มหญิงสาวสะดุ้งเมื่อหันมาก็พบกับปลายจมูกโด่งของคนที่เธอเพิ่งเห็นเขาอยู่บนหลังคาโรงรถเมื่อครู่“อุ้ย..”“คิดถึงจัง” ชายหนุ่มไม่อินังขังขอบกับแววตาเขียวๆ ของสาวเจ้า“ขึ้นมาได
ตอนที่41.จุมพิตาอ่อนอกอ่อนใจกับพ่อคนเอาแต่ใจ พยัคฆ์ปรนเปรอเธอด้วยเพลิงเสน่หาอันร้อนแรงทว่าอ่อนโยนในทีจนเธอหลงเพริดไปกับเขาง่ายดายและแสนจะยินดี เสียงครางกระเส่าของหนุ่มสาวดังกระหึ่มไปทั้งห้องอย่างไม่มีใครยอมใครและจับจูงกันพุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดแห่งลำนำเสน่หาเร่าร้อนอีกครั้ง...“พี่ยักษ์รักจ๋อมนะครับคนดี..”เขากระซิบบอกเมื่อเพลงสวาทครั้งที่สามจบลง น้ำเสียงของเขาหนักแน่นไม่มีการหอบกระเส่าเหมือนกับเธอ จุมพิตามองเขาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง คิดว่าตัวเองคงเหนื่อยล้าจากบทรักเร่าร้อนของเขาจนหูฝาดไป“จ๋อมหูไม่ฝาดหรอกครับและที่พามาที่นี่เพื่อจะบอกว่า แต่งงานกับพี่ยักษ์นะ..”พูดเหมือนนั่งอยู่ในใจเธอแล้วเอ่ยขอแต่งงานดื้อๆ ทั้งยังสวมแหวนเพชรเม็ดงามลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอหน้าตาเฉย จุมพิตามองนิ้วนางข้างซ้ายของตนที่ประดับด้วยแหวนเพชรน้ำงามด้วยความมึนงง และตื้นตันอยู่ลึกๆ เพราะไม่คิดว่าจะเจอการจู่โจมของเขาแบบนี้ ร่างบางที่ถูกรั้งให้ลุกขึ้นนั่งนิ่งงันมองมือตัวเองเหมือนอยู่ในห้วงหลงละเมอจนชายหนุ่
ตอนที่40.ขณะที่เขาเล่าให้ฟังจุมพิตาก็ได้มองไปรอบกายและหันมามองเขาอย่างชื่นชม ไม่น่าเชื่อว่าพยัคฆ์จะมีมุมที่น่ารักและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม“พี่ให้พวกเขาปลูกสมุนไพรและพรรณไม้หายากไว้ด้านโน้น แล้วจ้างพวกเขาให้ดูแลที่นี่ไปด้วยเพื่อให้พวกเขามีรายได้และรักที่นี่มากพอที่จะช่วยกันดูแลรักษา เห็นตรงโน้นมั้ยที่เห็นหลังคาบ้านอยู่สี่ห้าหลัง ตรงนั้นเป็นบ้านพักของพวกเขา ถัดออกไปจะเป็นสวนผักและสวนสตรอว์เบอร์รี่ พวกเขาจะเก็บไปขายเป็นรายได้ใช้จ่ายในครัวเรือน ปกติจะมีคนงานอยู่สิบคนแต่วันนี้วันหยุด และพี่อยากจะใช้เวลากับเมียเพียงลำพังที่นี่จึงมีแค่เราสองคน”หญิงสาวค้อนเขาหน้าแดง แล้วนึกค่อนขอดเขาในใจอย่างหมั่นไส้ เพิ่งนึกชื่นชมไปหยกๆ แต่พ่อคุณก็ไม่ทิ้งลายความเจ้าเล่ห์ และกว่ารู้ว่าเสียทีคนที่อยากอยู่กับเมียเขาก็รวบร่างเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแล้วเรียบร้อย“ปล่อยนะคะ คนบ้าเจ้าเล่ห์ที่สุด จ๋อมไม่น่าหลงฟังคนขี้โม้โอ้อวดเลย”“ไม่ปล่อยหรอก รู้มั้ยว่าอยากกอดจ๋อมมาตั้งนานแล้ว เป็นเดือนๆ เลยนะที่เราไม่ไ