แชร์

ใครจะล่วงรู้

คนผู้หนึ่งจะกลับไปแก้ไขสิ่งใดในอดีตได้ดีเพียงใดหากเพียงแต่ทำวันนี้ให้ดี 

ชีวิตเขาล้วนสิ้นแล้วความทุกข์

หยางหว่านกับจี้โม่ กอดก่ายกันบนแท่นนอนเสร็จสมอารมณ์หมายลักลอบพบกันในคืนเดือนมืด

“พี่จี้โม่ ทุกอย่างที่เราทำล้วนไม่ผิดเป็นอาจารย์ที่กดดันเราทั้งคู่ ข้าไม่เคยมีใจให้อาจารย์มีเพียงความแค้นฆ่าพ่อที่ไม่อาจลืมเลือนในเมื่อใจเราสองคนต่างรู้ดีแต่อาจารย์กลับ โป้ปดว่าเขาเป็นผู้ที่ชุบเลี้ยงเราทั้งคู่มา”

“หากฆ่าเขาเคล็ดวิชาที่ สืบทอดจึงหายไปจนสิ้น เจ้าก็รู้ว่าอาจารย์เป็นเพียงผู้เดียวที่ได้รับการสืบทอดเคล็ดวิชามาจากอาจายร์ปู่เตี่ยงเลี่ยง”

จี้โม่ยังไม่อยากจะให้หยางหว่านสังหาร ปู้ตานซิน เพราะด้วยสุดยอดเคล็ดวิชานั้น เป็นหนึ่งในสุดยอดเคล็ดวิชาที่ใต้หล้าล้วนยอมสยบ

“พี่จี้โม่แล้วท่านจะปล่อยให้ข้าต้องเป็นของอาจารย์ ท่านทนได้หรือ”

“แน่นอนว่าข้าไม่อาจทนรับมัน แต่หยางหว่าน หากเราได้ครอบครองสำนักเกาซิ่งซึ่งควรเป็นของเราแต่เดิม ปู้ตานซินอายุเพียง28ปีก็ได้เป็นเจ้าสำนัก อีกทั้งยังได้ครอบครองสุดยอดเคล็ดวิชาแต่เพียงผู้เดียว ปลิดชีพบิดาของเราทั้งสองอ้างคุณธรรม นำเราสองคนมาชุบเลี้ยงใต้หล้าต่างชื่นชมยกย่องเขา มิใช่เพราะเชื่อเรื่องที่เขาปั้นน้ำเป็นตัวแต่หากเป็นเพราะเกรงกลัวปู้ตานซิน หากมีคนเชื่อที่เขาพูดเสียทั้งหมด เรื่องที่เขาสังหารบิดาเราทั้งสองจะเล็ดลอดมาให้เราได้ยินหรือไร”

“อุบายใดจึงจะให้เขามอบเคล็ดวิชา”

“เจ้าแกล้งยอมจำนนแต่งกับเขาเอาใจอาจารย์เสียหน่อย ข้าเชื่อว่าเขาจะต้องถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้เจ้าโดยแท้ ฟังจากที่เขาพูดเขาลุ่มหลงเจ้าไม่น้อยเป็นปรมาจารย์หาใช่เซียนบนสวรรค์จึงจะตัดขาดทางโลก เจ้าเพียงเอาใจเขา สิ่งใดที่เขามีนำมาเป็นของเราเสียทั้งหมด ต้านซินอาจจะยากแท้หยั่งถึง แต่ใจของเขามีเจ้าที่ครอบครอง เรื่องนี้จึงง่ายดาย”

“รอ เราต้องอดทนรอสิ่งที่ต้องการ ใช่หรือไม่ ข้าเคยได้ยินเรื่องเล่าว่าอาจารย์ปู่เตี่ยงเลี่ยงมีสุดยอดเคล็ดวิชาถึงสอง แต่ปู้ตานซินบอกกับใครๆ ว่าเขาได้มาเพียงหนึ่งคือสุดยอดเคล็ดวิชาในการท่องกาลเวลา ท่านพี่จี้โม่ท่านคิดว่าอีกสุดยอดเคล็ดวิชานั้นคือสุดยอดเคล็ดวิชาใดกันแน่”

รัชศกก่อนหน้านั้น

คนตัดฟืนหอบมัดฟืนไว้ที่บนหลังก้มหน้าดื่มน้ำในลำธารแก้กระหาย เพียงครู่เดียว

“อ้ากกก”

ร่างทั้งร่างถูกกระชากลงไปในน้ำเลือดสีแดงไหลปะปนไปกับสายน้ำทว่าร่างกายกับหายวับไปกับคลื่นน้ำที่สลายไปเช่นกัน เสียงร่ำลือเรื่องปีศาจ และชาวบ้านที่เริ่มสูญหายไปทีละคนสองจากคนตัดฟืนเป็นนายพรานจากนายพราน เป็นพ่อค้าล้วนหายไปบริเวณลำธารใสห่างออกไปไม่ไกลจากหมู่บ้าน

 เรื่องเล่าเรื่องปีศาจกินคนจึงโด่งดังไปทั่ว ผู้คนล้วนหวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้แหล่งน้ำแห่งนั้น แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อลำธารแห่งนั้นเป็นที่พึ่งพา ดื่มกิน ชำระล้างร่างกายแต่ยามนี้กลับไม่มีใครเข้าใกล้ได้

“อาจารย์ หยางหว่าน อยากจะไปด้านล่างหุบเขากับอาจารย์เสียงเล็กออดอ้อน เกาะแขนเกาะขาปู้ตานซิน ที่กำลังจะลงเขาเพื่อหาความสำราญ ความสำราญของเขาหาใช่สุรานารี หากแต่เป็นเพียงการลงเขาไป ให้ผู้คนกล่าวขาน ให้ผู้คนทักทายเขา หลายเดือนแล้วที่ไม่ได้ไปเยี่ยมเยือน สำนักกระบี่ฟ้าที่ เป็นดังสหายใน ไม่กี่สำนักที่ล้วนต่างถูกค้ำคอด้วยคำว่าคุณธรรม ปู้ตานซินแวะเวียนไปที่นั่น หลายเดือนในครั้งหนึ่งเพียงเพื่อพบปะเจ้าสำนัก พูดคุยถึงเรื่องราวคุณธรรมที่ควรมีส่วนร่วมในยุทธภพ ซึ่งเขาคิดว่ามันสำคัญไม่น้อย หากไม่ลงจากเขาเสียบ้างผู้คนอาจหลงลืมหน้าตาของเขา อาจลืมเลือนสิ่งที่จะต้องกล่าวขานถึงเขา เช่นนั้นปู้ตานซินจึงยอมไม่ได้หากจะมีผู้ที่พยายามจะเอ่ยนามเขาทว่ากับนึกชื่อเขาไม่ออกว่าเขาเป็นใคร ในยามที่พบหน้ากัน จะเรียกง่ายๆว่าหน้าใหญ่ก็ไม่ผิด

“เจ้าพึ่งจะขึ้นเขามาได้แค่เจ็ดเดือนยังไม่เหมาะจะลงไปนัก ครั้งนี้ข้าให้ศิษย์น้องของเจ้า หลงตั๋วร่วมเดินทางเพราะจะต้องส่งเขาลงไปเยี่ยมเยือน ฝ่าบาท”

หลงตั๋วยืดอกด้วยความดีใจ ไม่ได้แย่อะไรบางทีอาจารย์ก็ใจดีกับเขาไม่น้อย เพียงแต่เขาที่มักจะยุยงศิษย์พี่ทั้งหลายให้เห็นข้อเสียของอาจารย์  ด้วยความแค้นเคืองที่อาจารย์ หักหน้าเขาไม่เหลือชิ้นดี

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status