Beranda / รักโบราณ / สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง / บทที่ 29 ปีศาจร้ายของมนุษย์

Share

บทที่ 29 ปีศาจร้ายของมนุษย์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-28 20:00:54

บทที่ 29

ปีศาจร้ายของมนุษย์

“ท่านแม่ เหตุใดจึงตัวร้อนเช่นนี้?” จินหมิงอันร้อนรนใจยิ่งนัก ไม่เคยเลยที่จะเห็นมารดาในสภาพเช่นนี้ โดยส่วนใหญ่นางจะเข้มแข็งทว่าอ่อนโยนและใจดีเสมอ แม้บ้างครั้งจะน่ากลัวเวลาดุตนก็ตาม

ฝ่ามือใหญ่ของบุตรสัมผัสผิวกายของมารดาด้วยความร้อนรนใจ ครั้นก่อนหน้ามีฮวาอิน ทว่านางลาคลอดไปหลายเดือนแล้ว เขาควรทำอย่างไรดี?

“ตัวร้อนหรือ? ข้าขอเสียมารยาท” ไห่ไท่หยางขยับเข้ามาใกล้และถือวิสาสะสัมผัสหน้าผากของนางอย่างแผ่วเบา “นางไม่สบาย”

“ไม่สบายหรือ เป็นอย่างไร ถึงแก่ชีวิตหรือไม่?”

จินหมิงอันไม่รู้เลย แม้ในวัยเยาว์จะเคยไม่สบายอยู่บ้างแต่ก็นานมากแล้ว ส่วนมารดาก็ไม่เคยเจ็บปวดให้ได้เห็น มีทั้งลูกแก้วจิ้งจอกช่วยฟื้นฟู และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

“หากได้รับการรักษาก็ไม่ถึงชีวิต”

ในสมัยนี้นั้นผู้คนล้มตายด้วยไข้หวัดธรรมดานั้นมีอยู่มาก เนื่องจากยาที่มิได้ดีหากมิใช่ยาดีจริงๆ ซึ่งมีราคาแพง อีกทั้งสมุนไพรยังเป็นยาดีเพียงเจ็ดส่วน พิษสามส่วนสะสมในร่างกาย หากเลือกได้ผู้คนก็ไม่ต้องการกินยาถูกๆ ให้เกิดผลเสีย

“ข้าต้องทำอย่างไร?”

“ต้องทำให้ร่างกายนางเย็นลง”

“เช่นนั้นจับแช่น้ำได้หรือไม่?”

“มิได้ ต้องค่อยๆ ลดความร้อนในร่างกายลง หากน้ำนางไปแช่น้ำ ความร้อนลดเร็วเกินไปจะทำให้นางจากไปเร็วขึ้น”

“เฮือก ไม่นะ ผู้มีพระคุณโปรดช่วยข้าด้วย!”

“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่มีทางปล่อยให้นางจากไปหรอก”

…มืใช่แค่เพื่อเจ้า เพื่อนาง แต่เพื่อข้าด้วย…

เอ่ยเช่นนั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่ก็ต้องเดินกลับมาแล้วเอ่ยว่า…

“ข้าว่าเจ้าไปเตรียมของให้ข้าดีกว่า คือว่าข้าไม่รู้ทางน่ะ”

“อ่า นั่นสิ ต้องต้องเตรียมอะไรบ้าง?”

“น้ำสะอาด ผ้าสะอาด”

“ได้!”

จินหมิงอันรีบวิ่งออกไปแล้วเตรียมผ้าสะอาดกับน้ำสะอาดเพียงแค่ไม่กี่จิบน้ำชา[1] ไห่ไท่หยางถึงกับมองด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ต้องสะบัดหน้าไล่ความคิดพวกนั้นออก รู้อยู่แล้วว่าสองมารดาและบุตรคู่นี้มิใช่มนุษย์ เช่นนั้นแล้วหากมีสิ่งน่าตกใจเกิดขึ้นอีกก็อย่าได้ตกใจไปเลย

หลังจากจัดการเช็ดตัวให้นางจนร่างกายเย็นลงแล้ว แต่ไห่ไท่หยางก็มิอาจวางใจได้ บุรุษลืมไปเสียสนิทว่าตนเองออกมาเพื่อปราบโจรป่ากับไท่จื่อ ในหัวของเขามีเพียงอิสตรีที่นอนหลับมิได้สติ กว่าจะนึกได้ก็รุ่งเช้าวันต่อมาแล้วแล้ว…

“ท่านจะไปไหน?” จินหมิงอันเอ่ยทักขึ้น เขาออกไปตรวจตราดินแดนอย่างที่เคยทำทุกวัน เนื่องจากกลัวว่าอาจจะมีข่าวลือว่าตนเองได้รับบาดเจ็บ หากว่าที่ประมุขได้รับบาดเจ็บผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนคงอกสั่นขวัญแขวนเป็นแน่ เมื่อกลับมาก็ทันได้เห็นไห่ไท่หยางกำลังจะไปจากที่นี่

“ข้าต้องกลับแล้ว”

“ท่านแม่ของข้าได้สติแล้วหรือ” จิ้งจอกหนุ่มเอยด้วยความดีใจ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่มารดาของตนหมดสติข้ามวันข้ามคืนเช่นนี้

“ไม่…”

“แล้วทำไมท่าน…”

บุรุษดูกระวนกระวายใจ เนื่องจากไม่เคยดูแลคนป่วย กลัวว่าจะทำสิ่งใดพลาดไป

“จิ้งจอกน้อย เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?”

“จินหมิงอันขอรับ”

“อืม หมิงอัน ข้าและแม่ของเจ้าไม่ได้เป็นอะไรกัน จะให้ข้าอยู่เพื่อสิ่งใด อีกทั้งข้ายังคอยดูแลมารดาของเจ้าจนไข้ลดลงแล้ว ไม่มีสิ่งใดให้ต้องเป็นห่วง รอแค่นางฟื้นขึ้นมาเท่านั้น อีกอย่างข้าเป็นมนุษย์ส่วนพวกเจ้า… เป็นจิ้งจอกเก้าหาง ข้าสัญญาว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องของพวกเจ้าหรือดินแดนแห่งนี้ให้ผู้ใด ยามนี้ถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว”

“ดะ เดี๋ยว เอ่อ… ถึงอย่างไรท่านก็เป็นผู้มีพระคุณ ข้าขอทราบนามของท่าน”

“ไห่ไท่หยาง”

“ขอรับ ท่านไท่หยาง ข้ายังคงยืนยันคำเดิม หากท่านมีสิ่งใดให้ข้าช่วยก็สามารถบอกได้ทุกเมื่อ ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมาขอรับ”

แล้วไห่ไท่หยางก็เดินจากไป… จินหมิงอันถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปในตำหนักเพื่อดูอาการมารดา เห็นว่าสีหน้าของฟางเหนียงนั้นดีขึ้นแล้วก็โล่งใจ

ในช่วงบ่ายวันนั้นนางก็ฟื้นขึ้น เมื่อมองรอบกายไม่พบไห่ไท่หยางนางก็รู้ว่าเขาคงจากนางไปแล้ว…

หัวใจดวงน้อยรู้สึกเจ็บแปลบเหลือเกิน อดีตชาติเป็นจินหมิงเยว่ที่เจ็บปวดจากการมอบความรักให้นาง แต่ว่าชาตินี้เป็นนางที่เจ็บปวดจากการมอบความรักให้เขา เนื่องจากอีกฝ่ายกลับชาติมาเกิดเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น มนุษย์ล้วนหวาดกลัวสิ่งที่แตกต่างจากตนเอง และไห่ไท่หยางคงเห็นแล้วว่านางแตกต่างจากเขา

สตรีตัวน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หลายชั่วยาม นางพาร่างกายที่ยังไม่หายดีไปยังสวนบุปผา เดินโซเซไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งเคยมีร่างของบุรุษฝังเอาไว้ ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ไม่ต่างไปจากตัวแทนของจินหมิงเยว่

“ท่านพี่… อดีตชาติที่ท่านคอยรักแต่เพียงข้า คงเจ็บปวดเช่นนี้ ข้ารู้ซึ้งแล้ว… แต่ท่านมันช่างโง่เขลายิ่งนัก หากท่านบอกกับข้า หากท่านทำให้ข้าเห็น ข้าก็คงรักท่านได้เร็วกว่านี้ เราก็คงมีความสุขกันได้เร็วกว่านี้ ท่านพี่… ข้าคิดถึงท่านเหลือเกินเจ้าค่ะ…”

นางสะอึกสะอื้นไห้จนตัวโยน นี่เป็นครั้งแรกนับจากคลอดจินหมิงอันที่นางร่ำไห้อย่างหนักหน่วงเช่นนี้ เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งพันปี

ในอีกด้านหนึ่งนั้นมีบุรุษสองคนเฝ้ามองนางด้วยความเจ็บปวดไม่ต่างกัน…

…ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงร้องไห้เช่นนั้น…

จินหมิงอันอยากจะเข้าไปกอดปลอบเหลือเกิน แต่บุรุษกลับรู้สึกถึงเส้นบางอย่างที่ขีดกั้นระหว่างตนและมารดา ราวกับว่าการสร้างกำแพงขึ้นมาเพื่อมีให้ใครเข้าไปรบกวนช่วงเวลานี้

ส่วนอีกทางด้านหนึ่งนั้นอยู่ ณ เบื้องบน ที่ซึ่งสูงส่งกว่าที่ใด ดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ หลี่ตงหยางมองดูน้องสาวด้วยความปวดใจ อยากจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเกินแต่ก็กลัวทัณฑ์สวรรค์ หากถูกจับได้เกรงว่าจะยิ่งทำให้เคราะห์กรรมของน้องสาวและบุรุษที่รักหนักหนายิ่งกว่าเดิม

อีกทั้งในยามนี้หลี่ตงหยางมิใช่เทพน้อยอีกต่อไป แต่เป็นถึงเทพสูงสุดที่คอยดูแลทุกสรรพสิ่ง

เขามองเห็น… มองเห็นเคราะห์กรรมของฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ และสุดท้ายแล้วทั้งสองคนจะมาบรรจบกัน แต่ระหว่างทางพวกเขานั้นต่างปวดร้าว

หลายฤดูผ่านไป หญ้าสีเขียวขจีถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน ฟางเหนียงกำลังนั่งห่มผ้าอยู่บนเตียง นางไม่ชอบอากาศหนาวเอาเสียเลย ในยามนั้นเองฮวาอินวิ่งมาหานางพร้อมกับข่าวร้าย!

“ท่านประมุข! พวกมนุษย์กำลังบุกเข้ามาเจ้าค่ะ!”

“มนุษย์หรือ!?”

ฟางเหนียงลืมสิ้นซึ่งความหนาวเหน็บ นางหยัดกายขึ้นสวมใส่อาภรณ์กันหนาว แล้วรีบเดินออกไปดูนอกเขตแดน เห็นว่าพวกมนุษย์มุ่งตรงมายังที่แห่งนี้ราวกับรู้ตำแหน่ง

คิ้วเรียวงามขมวดเข้าหากันด้วยความประหลาดใจ ไม่มีทางที่พวกมนุษย์จะรู้ทางเข้าของตำรวจพันปีได้ หากแต่มีเพียงมนุษย์เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เคยเข้ามาแล้วออกไป

ไห่ไท่หยาง!!

…ไม่ เป็นไปมิได้…

อย่างสะบัดหน้าไร้ความคิดเลวร้ายนั้นออกไป นางเชื่อว่าไม่มีทางที่ไห่ไท่หยางจะเอาเรื่องราวของนาง และตำหนักพันปีแห่งนี้ไปพูดให้พวกมนุษย์ฟัง

“เจ้าไปบอกกับอันเอ๋อร์ว่าให้เตรียมตัวรับมือ รวมถึงชาวบ้านด้วย และถ้าหากข้าต้านไว้ไม่ไหว อย่าได้เป็นห่วงข้า ให้ปกป้องดินแดนต่อไป… เจ้าต้องกำชับอันเอ๋อร์ให้ดี เข้าใจหรือไม่?”

นางเองก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน ลางสังหรณ์ของนางก้องร้องอย่างรุนแรง ว่านางอาจจะมิได้พบเจอกับจินหมิงอัน ทว่านางมิอาจชักช้าไปมากกว่านี้ได้แล้ว

“แต่ท่านประมุขน้อยคง…”

“อย่าให้ความพยายามของข้าต้องเสียเปล่า มันคงไม่เลวร้ายถึงขั้นนั้นเพราะเขาเป็นเพียงแค่มนุษย์ ข้าแค่พูดเผื่อเอาไว้ในกรณีที่มันเลวร้ายที่สุด เข้าใจหรือไม่?”

“เจ้าค่ะ”

ฮวาอินจำต้องน้อมรับคำสั่งนั้นแล้วรีบไปดำเนินการ ฟางเหนียงกลับมาให้ความสนใจกับพวกมนุษย์ที่มุ่งหน้าตรงมาไม่หยุด นางกำลังวางแผนจัดการกับมนุษย์พวกนี้โดยให้เสียเลือดเสียเนื้อน้อยมากที่สุด ไม่มีผู้ใดต้องการทำสงคราม โดยเฉพาะกับนาง!

ทันทีที่มาถึงทางเข้านางลุ้นเหลือเกินว่าพวกมันจะบุกเข้ามาหรือไม่ ที่นี่เป็นเพียงต้นไม้รกร้างในสายตาของมนุษย์ หากไม่รู้ไม่มีทางที่มนุษย์จะเข้ามา อีกทั้งในยามนี้ยังเป็นยามวิกาลอีกด้วย ทว่าหนึ่งในนั้นซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้นำของเหล่ามนุษย์ที่นำพาพวกเขามาที่นี่ ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณก่อนจะเดินหน้ามาเพียงผู้เดียว มุ่งตรงสู่ทางเข้า

ฟางเหนียงตวัดฝ่ามือใช้อาคมดันร่างของมนุษย์ไร้อิทธิฤทธิ์ออกไปพ้นจากทางเข้า พร้อมกับการปรากฏตัวของนางอย่างองอาจ

สตรีโฉมสะคราญพร้อมทั้งหางทั้งเก้าแผ่สยายอยู่ด้านหลัง ราวกับทุกคนถูกมนตร์สะกดใดให้หยุดนิ่ง นางช่างงดงามทว่าก็น่าหวาดหวั่นไปในคราวเดียวกัน

“เฮือก!!”

“นางปีศาจ!”

“ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง!!”

มนุษย์ต่างตกใจราวกับไก่บินสุนัขกระโดด[2] ต่างชี้ไม้ชี้มือมาที่นางราวกับเป็นตัวประหลาด

“ข้าขอเตือนพวกเจ้า อย่าได้ก้าวเข้ามาอีกแม้เพียงก้าวเดียว!”

“นางปีศาจ!!”

“เป็นมันแน่ที่ล่อลวงลูกข้า!”

“เป็นนางแน่ที่ทำให้ลูกข้าตายไปหลายปีก่อน!!”

แล้วก็อีกหลายถ้อยคำที่ใส่ร้ายป้ายสีเอาความผิดผลักเข้าหาฟางเหนียง ผู้ซึ่งแตกต่างจากพวกเขา ความผิดและความแปลกประหลาดของการตายอันหาเหตุผลสมควรมารองรับมิได้ ล้วนแล้วแต่ความผิดของสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดไปจากตนเอง

“ฆ่ามัน!!”

เสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นพวกมนุษย์ก็พุ่งเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ ฟางเหนียงไม่คิดจะทำร้ายพวกเขา นางใช้อาคมป้องกันและผลักพวกเขาให้ล่าถอยออกไป ทว่าบ้างก็ขว้างอาวุธมา บ้างก็ขว้างก้อนหินหมายจะทำร้ายนาง บางส่วนนางก็ป้องกันได้ แต่บางส่วนก็ยากที่จะป้องกัน

เกิดการต่อสู้ที่พวกมนุษย์ไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย มีเพียงปีศาจจิ้งจอกเก้าหางในสายตาของมนุษย์เท่านั้น ที่ได้รับบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัว แม้ว่ามันจะมิใช่แผลใหญ่อะไร แต่ก็ใช่ว่านางจะไม่รู้สึกเจ็บปวด

“ข้ามิได้ฆ่าพวกเขา พวกเจ้าเจ้าใจผิดแล้ว!” ฟางเหนียงพยายามที่จะอธิบาย แต่มนุษย์หนอมนุษย์ ไม่ฟังสิ่งที่นางเอ่ยบ้างเลย ต่างหลับหูหลับตาพร้อมที่จะทำลายนางให้สิ้นซาก!

[1] จิบน้ำชา = ช่วงเวลาชั่วพริบ เป็นเวลาที่เร็วมากๆ ประมาณพริบตาเดียว

[2] ไก่บินสุนัขกระโดด = ความอลหม่าน ความวุ่นวาย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 30 ข้ารักท่านเจ้าค่ะ

    บทที่ 30ข้ารักท่านเจ้าค่ะ“นางปีศาจร้าย!!”“คืนลูกชายข้ามา!!”ยามนั้นเองงูตัวหนึ่งอาศัยความวุ่นวายกลบกลิ่นอายของตนเองแล้วฉกเข้าที่ขาของนาง ฟางเหนียงตกใจอีกทั้งความเจ็บปวดด้านข้างจากขาไปทั่วทั้งร่าง คล้ายกับร่างของนางกำลังจะเป็นอัมพาต อิทธิฤทธิ์ทั้งหมดของนางเสื่อมคลายลง มนุษย์กรูกันเข้ามาทำร้ายนางจนท้ายที่สุดก็ปางตาย…ร่างบอบบางนอนรวยรินหายใจหอบหมดสภาพของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ผู้ครอบครองลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งมีพลังมากมายมหาศาล แต่กลับไม่ใช้ป้องกันตนเอง เอาแต่เห็นอกเห็นใจมนุษย์ที่ทำร้ายตนเองจนท้ายที่สุดก็มีสภาพเช่นนี้…ช่างน่าขันเสียจริง แม่นางจิ้งจอก…บุรุษผู้หนึ่งในหมู่ชาวบ้านได้ห้ามทุกคน ในตอนแรกก็ไม่มีใครยอม พยายามทำร้ายนางเอาให้ถึงตาย ทว่าบุรุษผู้นั้นก็ได้เอ่ยว่าควรให้นางรับโทษกับทางการ เสียบหัวประจานที่กำแพงเมือง ด้วยเหตุนั้นพวกมนุษย์จึงยินยอมและพานางกลับไปยังหมู่บ้านสติของฟางเหนียงเลือ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-29
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 1 เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหาง

    บทที่ 1เครื่องบรรณาการแด่จิ้งจอกเก้าหางร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังเดินเก็บสมุนไพรในป่าลึกชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างของเจ้าขนปุกปุยนอนฟุบอยู่ไม่ไกลจากที่นางอยู่มากนัก เด็กน้อยพาตนเองไปใกล้ๆ กับมันก็พบว่าเจ้าก้อนปุกปุยนั้นคือจิ้งจอกตัวน้อย‘หมาน้อย!’แม้ว่านางจะเชื่อว่ามันเป็นหมาน้อยก็ตาม...นางอุ้มจิ้งจอกตัวน้อยหรือหมาน้อยของนางขึ้นมา เห็นว่ามันได้รับบาดเจ็บก็ใช้สมุนไพรที่ตนเองเพิ่งเก็บมา ก่อนจะใช้หินทุบๆ แล้วนำมันไปวางโปะไว้ที่บาดแผลของจิ้งจอกตัวน้อย พร้อมทั้งฉีกแขนเสื้อตนเองแล้วใช้พันที่ท้องของมันเอาไว้ดวงตาใสๆ ของนางมองเจ้าจิ้งจอกน้อยตัวนี้ด้วยความเวทนา อยากจะนำมันไปดูแลเหลือเกิน หากแต่แค่ตัวนางเองก็ลำบากมากพอแล้ว ไม่อยากนำเจ้าสัตว์ตัวน้อยไปทุกข์ยากด้วย อีกอย่างขืนนำจิ้งจอกตัวนี้กลับบ้านไปด้วย มีหวังจากที่จิ้งจอกตัวนี้จะรอดตาย คงถูกตีจนตายต่อหน้าต่อตานางแน่ๆแม้นางจะยังเด็กนัก แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้เด็กน้อยเข้าใจโลกที่นางอยู่อย่างถ่องแท้‘เรียบร้อย ข้าต้องไปแล้วนะ’ ด้วยความไร้เดียงสา นางคิดว่าทำแค่นี้จิ้งจอกตัวนั้นคงรอดตายแล้ว ก่อนจะเดินลงจากเขาไป...ดวงตาของ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 2 จิ้งจอกเก้าหาง

    บทที่ 2จิ้งจอกเก้าหางฟางเหนียงรู้ว่าหากไม่รับถ้วยเหล้านี้ ก็คงถูกป้อนทางปากเหมือนเมื่อครู่อีกเป็นแน่ จึงยื่นมือเล็กๆ สองมือออกไปรับมันมาอย่างไม่เต็มใจ“ข้าคิดว่า... ท่านเป็นคนช่วยเจ้าค่ะ”“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่”“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”“ข้าส่งคนไปจับเจ้า และคนที่ช่วยเจ้าก็คือคนของข้า เช่นนั้นแล้วก็ไม่ต่างจากข้าช่วยเจ้า เพียงแต่ข้ามิได้ไปช่วยด้วยตนเอง”“อ่า... อย่างไรก็ต้องขอบคุณนะเจ้าคะ” สตรีตัวน้อยกระโดดลงจากเตียง จากนั้นก็ประสานมือแล้วยอบกายคำนับ เท่านั้นยังไม่พอ นางยังก้มหัวลงจรดพื้นด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนอีกด้วย “เหนียงเอ๋อร์เป็นหนี้บุญคุณชีวิตท่านเสียแล้ว หากมีสิ่งใดที่เหนียงเอ๋อร์ตอบแทนท่านได้ โปรดบอกมาเถิดเจ้าค่ะ”“ลุกขึ้น”ฟางเหนียงทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะจ้องมองบุรุษตาปริบๆ ในขณะเดียวกันจินหมิงเยว่หย่อนกายนั่งลงบนเตียงท่าทีสบายๆ“ข้าช่วยเจ้า เพราะเจ้าเป็นคนในปกครองของข้า คนที่ข้าส่งไปรับเจ้าย่อมรู้ดีว่าหากผู้ใดคิดแตะต้องเจ้า โทษคือตายสถานเดียว”“เจ้าคะ? คะ คนของท่าน?”“ใช่... ชุดนี่” กวาดสายตามองสตรีตัวน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า อาภรณ์พวกนี้มีกลิ่นเครื่องหอม ซึ่งต่างจากกลิ่นกายของฟางเ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 3 เจ้าสาวจิ้งจอก

    บทที่ 3เจ้าสาวจิ้งจอกร่างกายของนางถูกพันธนาการอย่างร้ายกาจ แม้ท่าทีจะนุ่มนวลหากแต่เมื่อนางขยับ กลับมิอาจขยับร่างกายได้ตามใจ ร่างกายของบุรุษไม่ต่างจากหินผา ราวกับนางติดอยู่ในซอกหินไร้หนทางออก“ฮ้า!!” จวบจนเกือบหมดลมหายใจ จิ้งจอกตัวร้ายจึงถอนริมฝีปากออกเพื่อเปิดโอกาสให้นางสูดลมหายใจเสียงหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์ระคนเอ็นดูดังขึ้นอย่างพึงพอใจ ก่อนที่อาภรณ์จะถูกปลดออกเผยเรือนร่างขาวผ่องใต้แสงจันทร์เต็มดวง ทว่า… ผิวขาวๆ ราวกับหยกมันแพะกลับแต่งแต้มไปด้วยรอยแผลจากการถูกทุบตีดวงตาเรียวคมจ้องมองมันอย่างโหดเหี้ยม เผลอออกแรงที่ข้อมือเล็กจนสตรีตัวน้อยสะดุ้งกับความเจ็บปวดนั่น“อ๊ะ!”และนั่นก็เรียกสติของจินหมิงเยว่กลับมา… คลายแรงที่มือออก เผยให้เห็นข้อมือเล็กๆ แดงก่ำจากการถูกบีบเมื่อครู่…เจ้าก็ตัวเล็กถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงถูกทำร้ายไปทั้งตัว?...“ข้าบอกท่านแล้ว ว่าร่างกายของข้ามิได้งดงาม” เสียงหวานเอ่ยอย่างเศร้าสร้อยร่างกายของสตรีนั้นล้ำค่าไม่ต่างจากพรหมจรรย์ของพวกนาง หากแม้ร่างกายมีบาดแผลเพียงเล็กน้อยจนเกิดเป็นแผลเป็น เป็นข้ออ้างของการหย่าร้างได้ ในสตรีพรหมจรรย์ก็ทำให้พวกนางมิได้ออกเรือนกับบุรุษ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 4 เมียของข้า ช่างขี้โวยวายยิ่งนัก

    บทที่ 4เมียของข้า ช่างขี้โวยวายยิ่งนัก“ทะ ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ”“เจ้าไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ หืม?” บุรุษไม่เอ่ยเพียงอย่างเดียว ยังแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตนเองอย่างจงใจ“ขะ ข้าไม่แน่ใจ...”“เจ้าคิดว่าอย่างไร?”“ข้า ข้าคิดว่าท่านจะทำให้ข้าเป็นภรรยาของท่าน”“เจ้าเข้าใจถูก”“แล้วเหตุใดจึงต้องให้ข้าอ้าขาเช่นนี้เจ้าคะ”“หึหึ เรื่องนี้เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ?”บุรุษหยั่งเชิงสตรีตัวน้อย แม้นางจะเพิ่งอายุสิบหกปีในวันนี้ หากแต่สงสัยเสียจริงว่าในเรื่องธรรมชาติของการสืบพันธ์ นางไม่รู้จริงๆ หรือ?“ไม่รู้เจ้าค่ะ” ทว่าคำตอบกลับเป็นเสียงหวานสั่นเครือเล็กน้อย และนัยน์ตากลมแสนใสซื่อ“อ่า เจ้านี่ช่าง... ไร้เดียงสาเสียจริง เช่นนั้นคืนนี้ข้าคงต้อง ‘ทำให้เจ้ารู้’ หลายอย่างเลยล่ะ”“ข้ายินดีรับก

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริงของนาง

    บทที่ 28ตัวตนที่แท้จริงของนางจินหมิงอันนางไม่เป็นห่วงเท่าใดนัก เพราะรู้จากไห่ไท่หยางว่าบุตรชายของตนนั้นอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ ศูนย์รวมพลังของดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้ อีกทั้งภายในตัวของบุตรชายนั้นมีลูกแก้วจิ้งจอกอันสมบูรณ์ ไม่นานก็คงฟื้นตัวได้แต่กับตนเองนั้นแม้จะมีลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งมีพลังมากมายมหาศาล หากแต่มิใช่ลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งเป็นพลังต้นกำเนิดของนาง ไม่ต่างไปจากจิตวิญญาณที่อาศัยร่างของนาง การมีลูกแก้วจิ้งจอกทำให้นางทนความเจ็บปวดได้ ขนาดนางมีลูกแก้วจิ้งจอกยังเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าถ้าหากนางไม่มีมันจะเจ็บปวดเจียนตายที่ขนาดไหนหากเป็นบาดแผลธรรมดาลูกแก้วจิ้งจอกก็สามารถรักษาให้นางหายได้ในชั่วพริบตา หากแต่มันเป็นแผลที่เกิดจากปีศาจ อีกทั้งร่างกายของนางแต่เดิมทีแล้วนั้นเป็นเพียงมนุษย์ มันจึงค่อนข้างใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูฟางเหนียงบอกทางบุรุษมายังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตลอดมานางเคยหลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนี้ มันเต็มไปด้วยความทรงจำยากลืมเลือน นางเคยแช่อยู่ที่นี่พร้อมกับร่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-03
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 5 ริมฝีปากงดงาม

    บทที่ 5ริมฝีปากงดงามค่ำคืนวสันต์อันเร่าร้อนผ่านพ้นไป เสียงนกขับขานเป็นบทเพลงแรกในยามเช้า ปลุกให้บุรุษและสตรีในห้องหอนอนตื่นจากห้วงแห่งนิทรา ทว่ามีเพียงจินหมิงเยว่ที่ลืมตาตื่นขึ้นอย่างสดชื่น เอียงใบหน้าพินิจสตรีในอ้อมแขนที่สลบระหว่างบทรักเมื่อคืนนี้ ก้มหน้าลงจุมพิตหน้าผากเนียนแนบแน่นทว่าร่างกายร้อนผ่าวทำเอาจินหมิงเยว่สะดุ้งเล็กน้อย…เหตุใดร่างกายของนางจึงร้อนเป็นไฟเช่นนี้?...“เหนียงเอ๋อร์?” มือหนาตบลงบนหัวไหล่เล็กเบาๆ เพื่อปลุกให้นางตื่น หากแต่สตรีตัวน้อยยังคงหลับตาพริ้มเมื่อคืนนางก็สลบคาเตียง เช้าวันนี้นางตัวร้อนผ่าว มันคืออาการอะไรกันแน่? เหตุใดมนุษย์จึงมีร่างกายที่ซับซ้อนเช่นนี้?จินหมิงเยว่คือปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ซึ่งบำเพ็ญเพียรมานานถึงพันปี ตลอดพันปีไม่เคยป่วยไข้เฉกเช่นมนุษย์ ถึงแม้ว่าในเผ่าพันธุ์เดียวกันจะมีอาการเจ็บป่วย หากแต่บุรุษซึ่งปลีกวิเวกฝึกฝนตนหลงลืมมันไปนานเหลือเกิน จึงมิอาจรับรู้เลยว่าอาการนี้คืออาการป่วยไข้ร

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-04
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 6 ตำหนักพันปี

    บทที่ 6ตำหนักพันปี…ละ เลือดของข้าหรือ? จะ จากตรงนั้น!?...“เฮือก!!”“เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?”“ละ เลือดข้า!”…ระ รอบเดือนหรือ!? ช่างน่าอายยิ่งนัก!...สตรีตัวน้อยรีบวิ่งเข้าไปดึงผ้าปูออกมาด้วยความอับอาย“ตายจริง ให้ข้าน้อยทำเอาเถิดเจ้าค่ะ”“มิได้ๆ นี่เป็นเลือดของข้า”“มิได้เจ้าค่ะ นี่เป็นงานของข้าน้อย”“ตะ แต่นี่ ระ รอบเดือนของข้านะ”“หืม?” ฮวาอินเอียงคอมองฟางเหนียงซึ่งหน้าแดงก่ำราวกับผลอิงเถา “ข้าน้อยคิดว่าอาจจะเป็นเลือดอย่างอื่นนะเจ้าคะ”“…”“เช่น… เลือดพรหมจรรย์ของท่าน”“…!?”“มาเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะเอาไปซัก ระหว่างนั้นฮูหยินประมุขก็ลองตรวจสอบดูนะเจ้าคะ หากเป็นเลือดรอบเดือนจ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-05

Bab terbaru

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 30 ข้ารักท่านเจ้าค่ะ

    บทที่ 30ข้ารักท่านเจ้าค่ะ“นางปีศาจร้าย!!”“คืนลูกชายข้ามา!!”ยามนั้นเองงูตัวหนึ่งอาศัยความวุ่นวายกลบกลิ่นอายของตนเองแล้วฉกเข้าที่ขาของนาง ฟางเหนียงตกใจอีกทั้งความเจ็บปวดด้านข้างจากขาไปทั่วทั้งร่าง คล้ายกับร่างของนางกำลังจะเป็นอัมพาต อิทธิฤทธิ์ทั้งหมดของนางเสื่อมคลายลง มนุษย์กรูกันเข้ามาทำร้ายนางจนท้ายที่สุดก็ปางตาย…ร่างบอบบางนอนรวยรินหายใจหอบหมดสภาพของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ผู้ครอบครองลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งมีพลังมากมายมหาศาล แต่กลับไม่ใช้ป้องกันตนเอง เอาแต่เห็นอกเห็นใจมนุษย์ที่ทำร้ายตนเองจนท้ายที่สุดก็มีสภาพเช่นนี้…ช่างน่าขันเสียจริง แม่นางจิ้งจอก…บุรุษผู้หนึ่งในหมู่ชาวบ้านได้ห้ามทุกคน ในตอนแรกก็ไม่มีใครยอม พยายามทำร้ายนางเอาให้ถึงตาย ทว่าบุรุษผู้นั้นก็ได้เอ่ยว่าควรให้นางรับโทษกับทางการ เสียบหัวประจานที่กำแพงเมือง ด้วยเหตุนั้นพวกมนุษย์จึงยินยอมและพานางกลับไปยังหมู่บ้านสติของฟางเหนียงเลือ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 29 ปีศาจร้ายของมนุษย์

    บทที่ 29ปีศาจร้ายของมนุษย์“ท่านแม่ เหตุใดจึงตัวร้อนเช่นนี้?” จินหมิงอันร้อนรนใจยิ่งนัก ไม่เคยเลยที่จะเห็นมารดาในสภาพเช่นนี้ โดยส่วนใหญ่นางจะเข้มแข็งทว่าอ่อนโยนและใจดีเสมอ แม้บ้างครั้งจะน่ากลัวเวลาดุตนก็ตามฝ่ามือใหญ่ของบุตรสัมผัสผิวกายของมารดาด้วยความร้อนรนใจ ครั้นก่อนหน้ามีฮวาอิน ทว่านางลาคลอดไปหลายเดือนแล้ว เขาควรทำอย่างไรดี?“ตัวร้อนหรือ? ข้าขอเสียมารยาท” ไห่ไท่หยางขยับเข้ามาใกล้และถือวิสาสะสัมผัสหน้าผากของนางอย่างแผ่วเบา “นางไม่สบาย”“ไม่สบายหรือ เป็นอย่างไร ถึงแก่ชีวิตหรือไม่?”จินหมิงอันไม่รู้เลย แม้ในวัยเยาว์จะเคยไม่สบายอยู่บ้างแต่ก็นานมากแล้ว ส่วนมารดาก็ไม่เคยเจ็บปวดให้ได้เห็น มีทั้งลูกแก้วจิ้งจอกช่วยฟื้นฟู และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์“หากได้รับการรักษาก็ไม่ถึงชีวิต”ในสมัยนี้นั้นผู้คนล้มตายด้วยไข้หวัดธรรมดานั้นมีอยู่มาก เนื่องจากยาที่มิได้ดีหากมิใช่ยาดีจริงๆ ซึ่งมีราคาแพง อีกทั้งสมุนไพรยังเป็

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริงของนาง

    บทที่ 28ตัวตนที่แท้จริงของนางจินหมิงอันนางไม่เป็นห่วงเท่าใดนัก เพราะรู้จากไห่ไท่หยางว่าบุตรชายของตนนั้นอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ ศูนย์รวมพลังของดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้ อีกทั้งภายในตัวของบุตรชายนั้นมีลูกแก้วจิ้งจอกอันสมบูรณ์ ไม่นานก็คงฟื้นตัวได้แต่กับตนเองนั้นแม้จะมีลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งมีพลังมากมายมหาศาล หากแต่มิใช่ลูกแก้วจิ้งจอกซึ่งเป็นพลังต้นกำเนิดของนาง ไม่ต่างไปจากจิตวิญญาณที่อาศัยร่างของนาง การมีลูกแก้วจิ้งจอกทำให้นางทนความเจ็บปวดได้ ขนาดนางมีลูกแก้วจิ้งจอกยังเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าถ้าหากนางไม่มีมันจะเจ็บปวดเจียนตายที่ขนาดไหนหากเป็นบาดแผลธรรมดาลูกแก้วจิ้งจอกก็สามารถรักษาให้นางหายได้ในชั่วพริบตา หากแต่มันเป็นแผลที่เกิดจากปีศาจ อีกทั้งร่างกายของนางแต่เดิมทีแล้วนั้นเป็นเพียงมนุษย์ มันจึงค่อนข้างใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูฟางเหนียงบอกทางบุรุษมายังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตลอดมานางเคยหลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนี้ มันเต็มไปด้วยความทรงจำยากลืมเลือน นางเคยแช่อยู่ที่นี่พร้อมกับร่

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 27 มารยาสตรี

    บทที่ 27มารยาสตรีแสงนั่นมันคือพลัง และพลังนั่นมันกำลังช่วยรักษา!!ช่างเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจเหลือเกิน ไห่ไท่หยางไม่คิดว่าจะมีวันที่เขาได้เห็นสิ่งเหนือธรรมชาติกับตาตัวเอง เมื่อเห็นว่าจิ้งจอกตัวนี้ปลอดภัยแล้ว อีกทั้งยังได้รับการรักษา ไห่ไท่หยางจึงหันกลับไปเพื่อไปช่วยฟางเหนียง แม้ว่าตัวเขาจะเป็นมนุษย์ไร้อิทธิฤทธิ์ หากแต่มิอาจนิ่งดูดายปล่อยให้นางต่อสู้เพียงลำพังได้ทันทีที่มาถึงหัวใจของชายหนุ่มคล้ายกับถูกทุ่มแทง เมื่อเห็นว่าฟางเหนียงกำลังจะถูกปลิดชีพ!!ร่างของฟางเหนียงถูกรัดไปทั้งตัว หัวของงูกำลังพุ่งเข้าหา!!ฉัวะ!!เร็วกว่าความคิดใด นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ไห่ไท่หยางทำก่อนคิดมิได้คิดก่อนทำ ร่างกายขยับไปตามสัญชาตญาณการปกป้อง! ตวัดดาบฟันที่คอของงูยักษ์จนเป็นบาดแผลฉกรรจ์!!เสียงของงูยักษ์ร้องกังวานดังไปทั่วบริเวณ ร่างของฟางเหนียงร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำ ไห่ไท่หยางกระโดดลงไปอย่างไม่รีรอ กวาดสายตามองหาร่างบอบบางก่อนจะแหวกว่ายเข้าไปหานาง

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status