[เช้าวันต่อมา...ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง...ลาสเวกัส]
“โอเค ฉันจะโทรแล้วนะ”
ศลิษาถือสมาร์ทโฟนไว้ในมือ วันนี้เธอจะต้องนัดหมายทางฝ่ายมาเฟีย บอกให้คนพวกนั้นรู้ว่า เธอกับเมธิตาได้มาถึงเมืองลาสเวกัสแล้ว มาก่อนกำหนดถึงสองวัน
“อืม ฉันพร้อมแล้วแก กดเลย”
เมธิตาก็ลุ้นระทึกกับเพื่อนของเธออยู่ไม่น้อยเลย เอาเข้าจริงๆ มันตื่นเต้นมาก และออกจะน่ากลัวขึ้นไปอีก เมื่อเธอและศลิษามาเหยียบเกือบจะถึงถิ่นของมาเฟียแล้ว
ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! นิ้วเรียวยาวกำลังกดต่อสายด้วยความระทึก
“Hello!” เพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ
“ฉันติดต่อเรื่องพ่อของฉัน”
ศลิษาสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ใจของเธอตอนนี้มันเต้นรัวแรงเป็นอย่างมาก แทบจะกระโดดออกมากองอยู่ตรงหน้า เมื่อได้ยินเสียงของเจ้าพวกมาเฟียนั้น
“ลูกของนายก้องภพใช่มั้ย” โรมันตอบกลับทันที
“ชะ-ใช่...ค่ะ” ศลิษาบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น นี่เธอกำลังสนทนากับพวกมาเฟียอยู่นะ น่ากลัวมาก เธอหันไปคว้ามือของเพื่อนเอามาบีบเอาไว้แน่น เพื่อขอกำลังใจ
“ดี...พวกแกจะเข้ามาเอาตัวพ่อเลยหรือเปล่าวันนี้”
“พวกคุณสะดวกวันนี้มั้ย”
“ได้สิ งั้นอีกสองชั่วโมงมาที่นี่ได้เลย เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปรอรับแกข้างล่าง”
“จะให้ฉันไปหานายที่ไหน”
“เพนท์เฮ้าส์ที่พ่อแกอยู่ยังไงล่ะ”
“แล้วฉันจะเชื่อใจพวกนายได้ยังไง ว่าพวกนายจะไม่หลอกพวกฉัน ถ้าฉันไปแล้วจะเจอพ่อฉันมั้ย ฉันขอคุยกับพ่อก่อนได้ไหม”
“รับรองว่าพ่อของแกอยู่แน่นอน ขืนแกมัวชักช้า มันอาจจะตายก็ได้ จะมาหรือไม่มา! อย่ามาต่อรองอะไรมาก!”
“ไปก็ได้ นายส่งที่อยู่มาได้เลย อีกสองชั่วโมงเจอกัน”
“อืมดี”
และ 2 ชั่วโมงต่อมา...
ศลิษาและเมธิตาก็มาถึงจุดนัดหมาย โดยเธอทั้งสองขึ้นรถแท็กซี่ในการเดินทางมาครั้งนี้ และไม่ลืมที่จะขนของสัมภาระของเธอติดมาด้วย การมาของเธอทั้งสองคนนี้ มาเพื่อจะเป็นตัวประกันแทนพ่อของเธอ สองสาวกำลังแหงนมองไปยังตึกที่พวกมันบอกว่าที่นี่คือเพนท์เฮาส์ ตึกสูงหลายสิบชั้นตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า
“ฉันเตรียมสเปรย์พริกไทยพร้อมแล้วแก”
เมธิตาล้วงกระเป๋ากางเกงของตัวเอง ในมือของเธอกำลังถืออาวุธพร้อมลุย ในการเผชิญหน้ากับมาเฟียที่น่ากลัวครั้งนี้
“ไอ่สเปรย์ของแกจะทำอะไรได้มด”
ในสถานการณ์อันน่ากลัวนี้มันก็ยังมีเรื่องขำๆ ของเพื่อนเธออีก ศลิษาอดยิ้มออกมาไม่ได้เลยเมื่อเจอ*ความโก๊ะของเมธิตา
“เอ๊า! อย่างน้อยก็ฉีดใส่ตาพวกมันตอนที่วิ่งไล่จับเราไงแก จะได้ถ่วงเวลาที่จะให้พวกเราหนีไง”
“แกจะหนีไปไหนได้ทันมด พ่อก็เจ็บอย่างนั้น แกนี่คิดอะไรไม่เข้าเรื่อง...อืม...นู่น พวกมันมากันแล้ว จะใช่หรือเปล่าแกดูสิ”
“อุ้ยตาย! มากันเป็นฝูงเลยแก นี่จะยกทัพมากันขนาดนี้เลยเหรอ สเปรย์พริกไทยของฉันคงไม่พอแล้วแหละ”
“นี่ แกสองคนเป็นลูกของไอ้ก้องภพใช่มั้ย”
หนึ่งในคนที่เป็นลูกน้องของโรมันส่งมา เอ่ยถามสองสาวที่กำลังยืนขาสั่นอยู่หน้าตึกเพนท์เฮ้าส์
“เฮ้ย ลูกพี่ ลูกของไอ้ก้องภพมันสวยว่ะ”
หนึ่งในแก๊งมาเฟียกระซิบบอกกับลูกพี่ของตัวเอง เมื่อเห็นผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นลูกสาวไอ้ก้องภพนั้น สวยเหมือนกับดารานางแบบ สองคนนี้ นายคงถูกใจเป็นแน่
“ใช่ ฉันสองคนเป็นลูกสาวของพ่อฉัน พาฉันไปเลย”
“งั้น ก็เชิญทางนี้ครับคุณผู้หญิง”
พูดจบกลุ่มมาเฟียก็เดินนำหน้า และอีกส่วนหนึ่งก็คอยประกบด้านหลัง
“แก น่ากลัวมาก”
เมธิตากระซิบกับเพื่อนของเธอ การมาครั้งนี้ของเมธิตากับศลิษาเหมือนกับเอาชีวิตของตัวเองไปแขวนไว้กับเส้นด้ายเลยทีเดียว ความน่ากลัวที่ไม่ได้มีเพียงหน้าตา แต่กลิ่นอายความดุร้ายของความเป็นมาเฟียต่างหากที่ทำให้เธอขนลุกอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ ‘ยิ่งกว่าในหนังในละครซะอีก’
“ใจเย็นๆ แก ฉันก็กลัวเหมือนกัน”
“เชิญ!” หนึ่งในทีมกำลังจะพาเธอทั้งสองขึ้นลิฟต์
“เอ่อ” ศลิษาลังเลเป็นอย่างมาก อย่าบอกนะว่าจะให้เธออยู่ในลิฟต์กับพวกมาเฟียฉกรรจ์กลุ่มนี้ เกือบยี่สิบคนเลยนะ
“ทำไม! รีบเข้าไปดีกว่า อย่าบอกนะว่ากลัวพวกฉัน”
“ใช่”
“โอเค งั้นแกไปกับฉันแค่สองคนพอ ที่เหลือตามขึ้นไป”
“เฮ้อ...”เสียงผ่อนลมหายใจของสองสาวดังพร้อมกันทันทีโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะความกลัว และเกร็งสุดๆ ทำให้เธอทั้งสองเหมือนอยู่ในนรกก็ไม่ปาน
ในลิฟต์...
“เธอไม่กลัวกันบ้างหรือไง...หือ...เธอเป็นสาวไทยสินะ”
“...” สองสาวไม่ตอบ ได้แต่มองหน้ากัน และหันไปมองตัวเลขแสดงที่ลิฟต์พาเธอขึ้นไป
“สวยแบบนี้นายลูคัสคงถูกใจแน่นอน พี่ว่ามั้ย”
“อืม ใช่ สวยสะเด็ดขนาดนี้คงขายได้หลายตังค์ ก่อนจะขายฉันว่านายจะต้องจัดกับเธอแน่นอน”
“สองคนนี่หน้าตาเหมือนกันเลย ไหนไอ้ก้องภพมันบอกว่ามีลูกสาวลูกชาย อย่าบอกนะว่าอีกคนปลอมเป็นหญิงมา”
“จะปลอมอะไรได้เนียนขนาดนี้วะ อืม สวยขนาดนี้ นายลูคัสเห็นคงอารมณ์ดีขึ้นแน่ๆ เลยว่ะ พูดแล้วเปรี้ยวปาก อยากจะชิมสักทีสองที”
“ก่อนที่นายจะชิม นายก็คงจะหมดลมหายใจไปก่อนแน่ อืม หุ่นก็เซ็กซี่ นายดูผิวของเธอสิ สวยเนียนมาก ถ้านายโละทิ้งเมื่อไหร่ ฉันจะขอนายชิมบ้างแล้วแหละ”
ในระหว่างที่สองมาเฟียกำลังสนทนาถึงสองสาวอยู่นั้น อีกฝ่ายที่ฟังภาษาที่สื่อสารนั้นรู้เรื่องอยู่แล้ว มือของทั้งสองจับกันไว้แน่น ได้แต่เฝ้ามองตัวเลขของชั้นที่ลิฟต์จะพาขึ้นไป เมื่อไหร่จะหยุดลงซะที ศลิษากับเมธิตากลัวที่สุดในชีวิตของเธอ
ติ๊ง! เสียงสัญญาณของลิฟต์บ่งบอกว่าถึงที่หมายแล้ว
“ออกไปสิ”
“...” เมธิตาหันขวับไปที่เจ้ามาเฟียจอมโหดนั่นทันทีอย่างเอาเรื่อง ‘ฉันฟังแกออกนะ ไอ่บ้า’ แต่ก็ทำได้เพียงแค่ขู่ไว้ในใจเท่านั้น ความเป็นจริงขาของเธอแทบจะก้าวไม่ออกเลยทีเดียว
ติ๊ด! ติ๊ด! แกร๊ก! เสียงเปิดประตูอัตโนมัติดังขึ้น
“เข้าไปสิ พ่อของแกรออยู่ข้างใน”
พูดจบทั้งสองร่างก็ถูกผลักเข้าไปด้านในของห้อง ที่มีเหล่าบรรดาชายฉกรรจ์นับสิบยืนเรียงรายรออยู่ก่อนแล้ว เพิ่มบรรยากาศความน่ากลัวขึ้นไปอีก
“เอ่อ” ศลิษาพูดไม่ออกและบอกอะไรไม่ถูกเลยตอนนี้ ความน่ากลัวในระดับสิบแบบนี้มันทำให้เธอเกิดอาการแพนิคชั่วขณะ มือบางเย็นเฉียบ หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างที่สุด มันเหมือนกับกลองที่ตีพร้อมกันสิบชุด!
“นายครับ...ลูกสาวมันมาแล้วครับ” โรมันรายงานเจ้านายทันทีเมื่อลูกน้องที่เขาส่งตัวไปรับมาถึง
เก้าอี้บุนวมตัวใหญ่ถูกหมุนกลับพร้อมกับเผยโฉมหน้าของมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลในย่านลาสเวกัสปรากฎแก่สายตาของสองสาวที่มาจากดินแดนเอเชียกำลังยืนแข้งขาสั่นต่างคนต่างประคองร่างของตัวเองไว้ ดวงตากลมโตเบิกออกพร้อมกันแทบจะทันที เมื่อเห็นใบหน้าของตัวท็อปมาเฟียใหญ่ได้ชัดเจน!
แต่อีกฝ่ายหนึ่งกลับ...
“...” ลูคัสชะงักไปชั่วขณะ เมื่อหันมาเจอสองสาวชาวไทย ที่บอกว่าเป็นลูกสาวของเจ้าหนี้เขา ‘อืม สาวไทยหน้าตาสวยขนาดนี้เชียวหรือ’ ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ฉะ-ฉัน มะ-มาเป็นตัวประกันแทนพ่อของฉัน พ่อฉันอยู่ที่ไหนล่ะ”
คำพูดของศลิษาตะกุกตะกักไม่เป็นประโยค เพราะความกลัวมาเฟียทรงอิทธิพลตรงหน้าเธอ
“ชะ-ใช่ พ่อฉันอยู่ไหน”
เมธิตาก็พูดตามมาติดๆ ริมฝีปากบางสั่นระริก มือเย็นบีบเข้าหากัน เพื่อเรียกกำลังให้กันและกัน
“เธอทำอะไรได้บ้างล่ะ ไหนลองบรรยายสรรพคุณของตัวเองมาให้ฉันฟังหน่อยสิ จะมาเป็นตัวประกัน เธอสองคนไม่ได้มาอยู่เฉยๆ นะ”
แววตาคมดุจ้องไปยังร่างอวบอิ่มที่ยืนแข้งขาสั่นอยู่ตรงหน้าเขา ตาคมดุฉายความปรารถนาออกมาอย่างชัดเจนไม่ปิดบัง ‘นี่สาวไทยสวยขนาดนี้เชียวหรือ...ชักน่าสนใจแล้วสิ’
“ฉันอยากเจอพ่อก่อน” ศลิษาต่อรองกลับ
“บอกฉันมาก่อนสิ ว่าเธอทำงานอะไรได้บ้าง”
แววตาของมาเฟียหนุ่มเจือรอยยิ้มที่มีกลิ่นอายชวนเสียวสันหลังซ่อนอยู่ สายตาวิบวับเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มนั้นราวกับหมาป่าที่อดเนื้อมานานหลายเดือน! ร่างกำยำร้อนฉ่าขึ้นมาแบบฉับพลัน แค่เห็นริมฝีปากอวบอิ่มขยับขึ้นลงเป็นจังหวะการพูดของเธอ ก็ทำให้ลูคัสร้อนเป็นไฟ!
“ฉันทำอาหาร ทำสวน ทำงานบ้าน แล้วแต่ที่คุณจะให้ทำ”
“แล้วแต่ที่ฉันจะให้ทำงั้นหรือ?”
........................
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ
“ฉันสองคนหมายถึง งานที่ทำระหว่างรอพ่อของฉันกลับไปเอาเงินมาคืนคุณ พวกเราทำได้”เมธิตาพูดตอบกลับมาเฟียหนุ่มออกไปเช่นกัน เธอต้องช่วยกัน ลำพังศลิษาคงพูดคนเดียวไม่ไหวแน่ มีแต่คนน่ากลัวทั้งนั้น รังสีอำมหิตแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง เกิดมาจนอายุ 22 ปีไม่มีอะไรที่จะน่ากลัวเท่าตอนนี้มาก่อนแล้ว“แล้วงานบนเตียงล่ะ เธอทำได้หรือเปล่า”เสียงแหบพร่าถามกลับ ความสวยเซ็กซี่ของเรือนร่างอวบอิ่มของสองสาวทำให้ลูคัสเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง ซาตานร้ายกำลังครอบงำเรือนร่างของเขาแล้ว เพียงแค่เห็น ร่างของลูคัสก็ตึงเครียดไปทุกส่วน“ไม่ค่ะ! ฉันมาเป็นแค่ตัวประกัน ถ้าพ่อฉันหาเงินมาให้คุณได้ ฉันก็จะเป็นอิสระ”“เธอคิดกันแบบนั้นเหรอ พ่อของเธอมีเงินเยอะขนาดนั้นเลยหรือไง นี่ฉันยังไม่คิดดอกเบี้ยนะ แค่เงินต้น พ่อของเธอจะหาได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย” ลูคัสขู่ตามสัญชาตญาณของพ่อค้า“แต่ฉันก็มาตามสัญญาแล้วนี่ คุณควรจะทำในสิ่งที่เราตกลงกันไว้ พ่อฉันอยู่ที่ไหน”ศลิษาเริ่มที่จะร้อนเพราะคำพูดบ้าๆ ของเขาแล้ว เธอเตรียมใจรับกับเรื่องนี้มาแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ มันกลับน่ากลัวกว่าที่เธอคิดไว้มาก“นายครับ เราให้เธอทำงานที่คลับไปก่อนก็ได้ครับ ตราบ
ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น “ค่ะ ลุงอดัม” “คุณหนูยังไม่กลับเข้าบ้านอีกหรือครับ” “อีกสองชั่วโมงเดี๋ยวกลับ บอกพี่ลูคัสด้วยแล้วกันค่ะคุณลุง”ไรลีย์เหลือบมองบุรุษผู้หนึ่งที่เธอได้ช่วยเหลือไว้ เขายังคงไม่ได้สติ นอนบนโซฟาภายในร้านของเธอ เธอได้ปฐมพยาบาลเขาเบื้องต้นแล้ว และกำลังรอดูอาการของเขา ถ้าเขาไม่ตื่น เธอก็ยังกลับบ้านไม่ได้ “แต่นี่เวลาเย็นแล้วนะครับคุณหนู คุณลูคัสโทรมาที่บ้าน ถามถึงคุณหนูสองรอบแล้วนะครับ” “อีกสองชั่วโมงค่ะ ถ้าพี่ลูคัสโทรมาอีก ก็บอกไปอย่างนี้ค่ะ คือพอดีไรลีย์ติดธุระกับเพื่อนอยู่ค่ะ ลุงอดัมไม่ต้องเป็นห่วงไรลีย์ค่ะ” “ครับ งั้น อีกสองชั่วโมงคุณหนูคงกลับมาที่บ้านนะครับ ถ้าไม่กลับมา คุณลูคัสอาจต้องให้คนไปตามคุณหนูแน่นอนครับ” “โอเคค่ะ ตามนั้นค่ะคุณลุง” “ครับ” ตู๊ด! ตู๊ด! ปลายสายสนทนาถูกตัดไป ไรลีย์หันไปมองชายนิรนามที่นอนบนโซฟา ลมหายใจของเขายังคงสม่ำเสมอ เขาเป็นใครกันนะ ทำไมต้องมาหมดสติอยู่ตรงร้านของเธอ “คุณ คุณ...” ไรลีย์ตัดสินใจเรียกเขา ขืนปล่อยให้เขานอนอยู่แบบนี้ล่ะก็ ไร
[ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองลาสเวกัสห้อง 701] “พ่อบ้านที่นั่นเขาดูอันตรายมั้ยแก”ศลิษาโทรกลับหาเพื่อน หลังจากที่แอบแชทคุยกันและเห็นว่าปลอดภัยแล้ว เธอเลยโทรหาเพื่อน เพื่อที่จะได้คุยอย่างสะดวกขึ้น “ไม่นะ เขาเป็นผู้ชายมีอายุ น่าจะราวๆ 50-60ปีนี่แหละแก แต่ว่าที่นี่ ไม่น่าจะใช่บ้านหรอกแก มันคือคฤหาสน์หรือปราสาทอะไรสักอย่างแน่เลยแก มันใหญ่มาก คือฉันเข้ามายังตกใจเลยแก” “แล้วมีใครอยู่บ้านหลังนั้นบ้างล่ะ” “เห็นพ่อบ้านบอกว่า ก็คุณหนูทั้งสามคน ไม่รู้ใครบ้างนะ แต่คนที่อยู่ประจำก็คือ อีตามาเฟียนั่นแหละแก” “ห๊ะ! แล้วแกจะปลอดภัยมั้ยมด อีตามาเฟียนั่น ท่าทางไม่น่าไว้ใจนะ แกเห็นเมื่อตอนที่คุยกับพวกเรามั้ย สายตาของมันดูแบบน่ากลัวมากอ่ะแก” “คงไม่มีอะไรหรอก เห็นตาลุงอดัมนี่บอกฉันว่า พวกคุณๆ ทั้งหลายแทบจะไม่ได้เจอหน้ากับพวกคนใช้หรอก ฉันมีหน้าที่ช่วยพ่อบ้านเตรียมอาหารแค่นั้นเองแก ส่วนห้องนอนก็อยู่ด้านล่างตรงมุมของบ้าน อืม ใช่สิคฤหาสน์น่ะ มันหลังใหญ่มาก เดิน 10 วันจะครบทุกพื้นที่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะแก” “โล่งอกไปที ฉันก็คิดว่าแกจะเสี่ยงอันตร
[เวลา 23.30 p.m.] “นายช่วยจัดการต่อเลยแล้วกันเดม่อน ฉันจะกลับแล้ว” “คุณชาร์ลอตต์ล่ะครับนาย เธอเมาจนหลับสนิทแบบนี้ จะให้เธอไปอยู่ตรงไหนครับนาย” “นายก็เอาเธอไปส่งที่บ้านสิ จะยากอะไร” “จะไปได้ยังไงครับนาย ขืนผมเอาไปส่งที่บ้าน ผมอาจจะไม่มีชีวิตเหลือกลับมาน่ะสิครับ คุณอัลเบิร์ดไม่เอาผมไว้แน่” “งั้น นายก็โทรตามคนของเธอให้มารับสิ นายนี่เรื่องมากชะมัด...อึก!”เบนจามินเอนตัวพิงโซฟาใหญ่ในสภาพที่เมามายอย่างที่สุด ชาร์ลอตต์มาหาเขาสองวันติดแล้ว ซึ่งเธอพยายามที่จะจัดการเขาด้วยแอลกอฮอร์ แต่ขอโทษ เรื่องนี้ใช้กับเบนจามินไม่ได้หรอก “นี่ก็ไม่ได้ครับนาย ผมไม่เสี่ยงหรอก เอาแบบนี้ ผมพาเธอไปนอนที่เพนท์เฮ้าส์ของนายก็แล้วกันนะครับ” “เฮ้ย! ไม่เอา นายจะทำอย่างนั้นได้ไงวะเดม่อน ฉันจะนอนที่ไหนกันล่ะ นายนี่มัน” “งั้น นายก็ไปนอนเพนท์เฮ้าส์อีกที่หนึ่งสิครับ เดี๋ยวผมขอพาคุณชาร์ลอตต์นอนที่นี่ก่อนแล้วกัน อีกอย่างมันใกล้ เอาแบบนี้แล้วกันนะครับนาย นายกับคุณชาร์ลอตต์ไม่ได้นอนที่เดียวกันนี่ครับ พ่อของเธอจะได้ไม่มาโทษนายได้ไงครับ” “อืม
“ที่รัก ผม ไม่ไหวแล้วจริงๆ”เบนจามินโอดครวญอยู่กับปากบาง ลิ้นของเขาชอนไชเข้าไปในปากนุ่ม เกี่ยวกวัดไปมา อีกทั้งร่างอวบอิ่มยังเด้งเข้าหาเขาอย่างร้อนแรง ทำให้เบนจามินเครื่องติดเร็วเดินหน้าเต็มสูบ! ปกติเขาจะต้องรอความพร้อมของอีกฝ่าย แต่สำหรับเธอคนนี้ เจ้ามังกรใหญ่ของเขามันพร้อมรบเต็มสเตรีมแล้ว! ‘ในฝัน...ทะ-ทำไม มันเหมือนจริง...หรือว่านี่มันคือ!’ดวงตากลมโตเบิกออกทันที เมื่อหญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าความฝันนี้มันเหมือนจริงอย่างที่สุด ร่างดำทมึนอันหนักอึ้งกำลังคร่อมร่างของเธอเอาไว้! “กรี๊ดดดดดดดดด!!!!!!!” เสียงกรีดร้องของศลิษาดังขึ้นทันที เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา และพบว่านี่ไม่ใช่ความฝัน! “โอ๊ะ!” เบนจามินตกใจกับเสียงของหญิงสาวเช่นกัน เขาไม่คิดว่าอยู่ดีๆเธอจะกรีดร้องออกมาแบบนี้ “ไม่นะ! ออกไป!”ศลิษาดิ้นออกจากร่างใหญ่ แต่เธอดันพูดภาษาบ้านเกิดของตัวเองออกมา โดยที่คนตัวใหญ่ไม่เข้าใจเลยสักนิด! “โอ...ที่รัก คุณนี่ร้อนแรงจริงๆ”ความเข้าใจของเบนจามินกลับไปอีกทาง เขาคิดว่านี่คือการแสดงของเธออย่างแน่นอน เพราะเบนจามินมักเจอแบบนี้อยู่บ่อยๆ อยากจะเรียกค่าตัวเพิ่มด้
10 นาทีต่อมา... “นี่คุณจะหยุดร้องไห้ได้หรือยัง!”เบนจามินเริ่มหัวเสีย เมื่อเขาพยายามจะถามไถ่ถึงเรื่องของเธอ แต่เธอสิกลับร้องไห้ตลอดเวลา สายตาคมจ้องมองไปยังเรือนร่างอวบอิ่มที่ถูกคลุมด้วยผ้าห่มผืนใหญ่ เขากำลังนั่งมองเธอที่อยู่บนเตียง เบนจามินลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเธอ ผ่านไปเกือบสิบนาที ก็ไม่มีทีท่าว่าเธอจะหยุดร้องเลยสักนิด เธอเสียใจเพราะเสียความบริสุทธิ์งั้นหรือ เบนจามินไม่เคยเจอผู้หญิงที่ร้องไห้เพราะสิ่งนี้มาก่อน มีแต่จะขอทริปเพื่อเท่านั้น “ฉะ-ฉัน ฮือ ฮือ” ศลิษาตอบกลับเขาไม่ได้เลยได้แต่ร้องไห้เสียใจ เธอจะพึ่งใครได้ตอนนี้ ไปหาใคร เธออยู่ต่างบ้านต่างถิ่นแบบนี้ ไม่มีใครที่จะช่วยศลิษาได้เลย เพื่อนของเธอก็ยังอยู่ในกงเล็บของไอ้พวกมาเฟีย เธอมืดมนไปทุกด้านแล้ว “โอเค!” เบนจามินตัดสินใจที่จะต่อสายถึงเดม่อน ลูกน้องของเขาอาจให้คำอธิบายกับเขาได้ดีกว่านี้แน่นอน “ครับนาย...” เสียงอู้อี้ของอีกฝ่ายขานรับ เวลานี้คือเวลาแห่งการนอนอย่างมีความสุข นี่นายเบนเกิดบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ย เดม่อนมองเวลาในสมาร์ทโฟนอีกครั้ง ยังไม่เช้าเลย “นายเอาผู้หญิงมาให้ฉันที่เพนท์เฮ้า
[เช้าวันต่อมา...ณ คฤหาสน์เฮมสวอร์ธ] “วันนี้เธอเอาอาหารนี่ไปเสิร์ฟคุณลูคัสนะ”อดัมมอบหมายหน้าที่ในการทำงานให้กับหญิงสาวคนนี้ทันที โดยไม่คิดที่จะถามไถ่ถึงเรื่องของเธอเลยแม้แต่น้อย อดัมอยู่ที่นี่มานาน มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่นี่ เขาเองมันจะอยู่เงียบๆ เสมอ เพราะรู้ว่าเรื่องเหล่านั้นมันเป็นเรื่องของเจ้านาย แม้กระทั่งเด็กสาวคนนี้ เธอก็เหมือนกำลังที่เดินเข้าใกล้กองไฟเรื่อยๆ โดยที่เธอเองไม่รู้ตัว “ให้หนูไปเหรอคะคุณลุง เอ่อ ให้หนูทำอย่างอื่นดีมั้ยคะ ทำความสะอาดบ้าน กวาดถูอะไรประมาณนี้ค่ะ หนูไม่กล้าที่จะเจอคุณมาเฟีย...เอ้ย...คุณลูคัสนั่นหรอกค่ะ” “แต่เธอก็ต้องทำให้ชินนะ อีกหน่อยเธอจะต้องทำมากกว่านี้ซะอีก นายลูคัสไม่ชอบให้ใครขัดใจ จำในสิ่งที่ฉันบอกไว้ให้ดี” “หมายความว่ายังไงคะ ทำมากกว่านี้”เมธิตารู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที ทำให้ชิน และอาจจะทำมากกว่านี้ คืออะไร! “นี่เธอคงคิดว่านายลูคัสจะให้เธอมาเป็นแม่บ้านคอยเสิร์ฟอาหารหรือไง ช่างไม่รู้อะไรจริงๆ เลยนะ เด็กน้อย” “คุณลุงคะ...หนู” “ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าเธอทำตัวดีๆ นายลูคัสก
“กรี๊ดดดด!! ไม่นะ!! โอ้ย! ฮึก! กรี๊ดดดด”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง เมื่อเรือนร่างของเธอนั้นถูกซาตานร้ายกำลังคร่อมตัวเธอเอาไว้ แคว่ก!!! เสียงชุดยูนิฟอร์มแม่บ้านของหญิงสาวถูกดึงทึ้งอย่างบ้าคลั่ง เศษชิ้นส่วนนั้นถูกนำเอาเป็นเชือกมัดข้อมือบางทันที! อารมณ์ดิบของลูคัสนั้นทะยานขึ้นสูง ราวกับน้ำมันที่กำลังติดไฟ! “ปล่อยได้ไงเด็กน้อย โอวว์ ดูเธอสิ เธอใส่ชุดแบบนี้ มันกระตุ้นอารมณ์ของฉันเป็นบ้าเลย โอ๊ะ เช้าๆ แบบนี้ฉันขอมีเซ็กส์กับเธอสักหน่อยแล้วกันนะ ฮ่า ฮ่า”แววตาของมาเฟียหนุ่มนั้น เต็มไปด้วยตัณหาราคะอย่างที่สุด ลูคัสคือหนึ่งในชายที่คลั่งกามอารมณ์มากที่สุดในลาสเวกัสก็ว่าได้ เซ็กส์คือกิจกรรมผ่อนคลายที่ดีที่สุดสำหรับเขา “กรี๊ดดด!! แก! ปล่อยฉันนะ!! ไอ้บ้า! ไม่นะ!!! กรี๊ดดดด!”เมธิตาไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ว่าข้อมือของเธอนั้นจะถูกเขาพันธนาการ เสื้อผ้าของเธอจะวิ่นไปหมดเหลือเพียงแต่ชุดชั้นใน เธอก็พยายามดิ้นถึงที่สุด ทั้งเตะและถีบร่างใหญ่ แต่ทว่า มันก็ทำได้ไม่ถนัดนัก เมื่อร่างสูงใหญ่ของมาเฟียโหดนั้นกำลังกดทับร่างของเธอจมลงกับที่นอน “โอวว์ รู้มั้ยเด็กน้อย ยิ่งร้อง
“ไม่นะ! ฉันไม่ได้เป็นเมียคุณ และไม่อยากเป็น!” “ไม่อยากเป็น คุณก็ต้องเป็น ต่อจากนี้คุณจะเป็นเพิ่มอีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นแม่ของลูกผมนะเบบี๋ รู้หรือเปล่าว่าผมไม่มีวันที่จะปล่อยคุณไปหรอก ระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้ผมจะพิสูจน์ให้ดู” “ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไป เราไม่รู้จักกัน และจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง และอีกอย่างคุณก็มีผู้หญิงมากมาย ในตอนนั้นถ้าฉันหมดความสำคัญกับคุณ และคุณก็อาจจะ...” “อาจจะทิ้งคุณงั้นเหรอ คุณกลัวว่าผมจะทอดทิ้งคุณไป อืม ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงไทยถึงได้เป็นคนคิดมากขนาดนี้ วัฒนธรรมบ้านคุณคงทำให้คุณเป็นแบบนี้สินะ” “ไม่เกี่ยวกับวัฒนธรรมอะไรของบ้านฉันเลย เราเจอกันแค่ไม่กี่วัน และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คุณจะให้ฉันตกลงปลงใจที่จะอยู่กับคุณตลอดไปเลยงั้นเหรอคะ” “ถ้าคุณไม่รู้จักผม หรือเราอยากทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ คุณก็ลองเปิดใจดูสิ ตอนนี้ทั้งคุณและผม เราอาจจะยังไม่ได้รักกัน แต่ถ้าเราลองคบหาดูใจกันไป เราก็อาจจะรักกันได้นะ คุณเล่นปิดผมทุกทางแบบนี้ แล้วเราจะไปต่อความสัมพันธ์แบบอื่นได้ยังไง คุณลองคิดดูสิ” “...” ศลิษาคิดตามในสิ่งที่เข
[โต๊ะอาหารเวลายามเย็นคฤหาสน์เฮมสวอร์ธ] “วันนี้ลุงอดัมจัดเมนูพิเศษต้อนรับพวกคุณเลยนะคะ อาหารไทยหลายอย่างจากเชฟคนไทย ที่คุณอดัมคัดสรรเป็นพิเศษ คุณทั้งสามคนคงคิดถึงอาหารไทยมากๆ เลยใช่ไหมคะ”เสียงของไรลีย์ที่กำลังเปิดบทสนทนาบนโต๊ะอาหารในฐานะเจ้าของบ้านใหญ่ ซึ่งรับหน้าที่ภารกิจนี้แทนพี่ชายเธอทั้งสองคน พี่ลูคัสกับพี่เบนจามินออกไปทำงานที่คลับและในคาสิโน มอบหมายให้ไรลีย์ดูแลคนของตระกูลเฮมสวอร์ธ “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ พวกเราทานได้ค่ะ เกรงใจคุณลุงนะคะที่จะต้องเป็นธุระจัดการค่ะ”ศลิษามองอาหารไทยหลายอย่างบนโต๊ะ เธอย้ายเข้ามาพักอยู่ในบ้านหลังนี้เรียบร้อย โดยในตอนแรกเธอขอพักอยู่ห้องเดียวกับเมธิตา แต่ทว่าลุงพ่อบ้านกลับไม่ยอม เลยจัดที่พักให้เธออยู่ห้องตรงข้ามกับเพื่อนของเธอ ระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ศลิษาต้องพักอยู่ที่นี่ จนกว่าจะครบกำหนดตามที่ทุกคนได้ตกลงกันไว้ “ไม่เป็นไรค่ะคุณตอง เราคนกันเองแล้วนะคะ ไรลีย์อยากให้ทุกคนอยู่ที่นี่อย่างสบายใจนะคะ อีกอย่างไรลีย์จะได้มีเพื่อนไงคะ เป็นผู้หญิงคนเดียวของบ้านเหงามากเลยค่ะ” “ได้ข่าวว่าคุณไรลีย์กำลังจะเปิดร้านใช่มั้ยคะ อืม
[วันต่อมา...ณ คฤหาสน์หลังใหญ่] บรรยากาศตอนสายๆ ของการนัดหมายในคฤหาสน์หลังใหญ่เกิดขึ้น อดัมพ่อบ้านประจำคฤหาสน์กำลังเตรียมการและดูแลความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเหล่าบอร์ดี้การ์ด การอำนวยความสะดวก รวมไปถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้มันเป็นครั้งแรกของพ่อบ้านอย่างเขา เหล่าสาวใช้ที่ต้องคอยเสิร์ฟอาหาร ดูแลความเรียบร้อย อีกทั้งประมุขของบ้านเองก็ต้องเตรียมรับสิ่งนี้เช่นกัน “มาเรีย...เธอไปดูนายหญิงทีว่าเธอเรียบร้อยแล้วหรือยัง” “เรียบร้อยแล้วค่ะ เธอตื่นตั้งแต่เช้าแต่งตัวรอแล้วค่ะ คุณอดัมไม่ต้องห่วงค่ะ เด็กนั่นอยากจะเจอเพื่อนและพ่อของเธอใจจะขาดแล้วค่ะ” “แล้วเธอได้พูดอะไรกับนายหญิงหรือเปล่า”อดัมเปลี่ยนสรรพนามเรื่องเด็กสาวคนนั้นทันที เมื่อรู้ว่าคุณลูคัสนั้นไม่ยอมที่จะปล่อยเด็กนั่น จะเป็นอะไรไปไม่ได้หรอกนอกจากผู้หญิงคนนี้จะทำให้นายของอดัมเปลี่ยนไป อืม และเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีด้วยสิ อีกหน่อยคฤหาสน์หลังนี้จะไม่เงียบเหงาอีกต่อไป เสียงเด็กๆ คงปลุกอดัมทุกเช้าสินะ “ก็พูดนิดหน่อยค่ะคุณอดัม ส่วนใหญ่ก็จะสอนเธอแหละค่ะ อยากให้เ
[อีกด้านหนึ่ง ณ คฤหาสน์เฮมสวอร์ธ] ร่างอันบอบบางกำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความยากลำบาก ความบอบช้ำจากการโดนกระทำอันโหดร้ายและป่าเถื่อนของมาเฟียโหดเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ ทำให้เธอแทบทรงตัวไม่ไหวจนเกือบจะล้มลง หมับ! ร่างเล็กถูกรับเอาไว้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะล้มลงบนพื้น สายตาคมดุจับจ้องไปที่ใบหน้างามฉายแววตำหนิอย่างชัดเจน “ระวังสิ!” น้ำเสียงห้วนดุคนที่อยู่ในอ้อมแขนทันที “กะ-แก!” ทันทีที่รู้ว่าเป็นเขา ร่างบางก็ออกแรงขืนตัวเองออกจากอ้อมแขนนั้น แต่มันก็เป็นไปได้ยาก เมื่อเรี่ยวแรงของเธอนั้นหลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด “หยุดด่าฉันสักพักได้มั้ย ดูสภาพของเธอสิ” “นั่นมันเป็นเพราะแกไง ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้” “เธอเลิกคิดที่จะไปจากฉันได้แล้ว เพราะฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่ พ่อของเธอมาเมื่อไหร่ ฉันจะตกลงด้วยข้อเสนอที่ทำให้พ่อเธอปฏิเสธฉันไม่ได้”เงินเท่านั้นที่เป็นทางออกของลูคัสตอนนี้ เขาเสนอเงินที่มากกว่า พร้อมกับสารภาพกับนายก้องภพไปตรงๆ ว่าเขาขอแลกกับตัวเธอ “น้าก้องไม่ใช่พ่อของฉัน เพราะฉะนั้นแกอย่าเอาเรื่องนี้มาอ้าง แกมันไม
แคว่ก!! เสียงชุดเดรสสวยถูกกระชากจนขาดวิ่น ร่างอวบอิ่มปรากฎแก่สายตาของมาเฟียหนุ่มทันที แววตาคมดุอ่อนแสงลงเมื่อเห็นเนินเนื้ออวบของเธอ “กรี๊ดดดด!!! ปล่อยนะ! ฮึก!! ไม่!”ศลิษาทั้งดิ้นและร้องในคราวเดียวกัน มือบางพยายามยกขึ้นมาปิดทรวงอกของเธอที่ถูกเปลือยด้วยฝีมือของชายที่นั่งคร่อมอยู่เหนือร่างของเธอ “ปล่อยเหรอ! มันสายไปแล้วเบบี๋! ผมเสนอทางเลือกให้คุณไปแล้ว เพราะฉะนั้นต่อจากนี้คุณจะได้เจอของจริงเสียที!”พูดจบมาเฟียหนุ่มก็โฉบวูบลงไปที่ปากบางทันที จูบร้อนถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วง ริมฝีปากบางเม้มสนิท ไม่ยอมเปิดปากให้ลิ้นเขากดแทรกเข้าไปได้ มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มออกมา ‘นี่เธอคงยังไม่รู้จักคนอย่างนายเบนจามินดีสินะ’ “ฮึก! กรี้ดดดดด!!!” ศลิษาร้องเสียงหลง เมื่อส่วนล่างของเธอจุดที่อ่อนไหวที่สุดนั้น ถูกมือใหญ่ตะปปอย่างหนักหน่วง พร้อมกับดึงกระชากเพนตี้ตัวจิ๋วของเธอออก เนินเนื้ออวบอูมถูกนิ้วแกร่งลากไล้เข้าไปตรงร่องแก่นกลางทันที เรียวขาสวยหนีบเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ แต่ทว่าก็ยังช้ากว่ามือใหญ่นัก! “ร้องไปสิ ร้องดังๆ ผมชอบนะ มันกระตุ้นอารมณ์ผมได้ดีสุดๆ อึ้มมม์ วันนี้คุณหนี
[ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองลาสเวกัส...ในเวลาต่อมา] “เชิญคุณคุยเรื่องของคุณได้เลยค่ะ ฉันพร้อมรับฟังแล้วค่ะ”ศลิษานั่งลงบนโซฟาใหญ่กลางห้อง หลังจากที่เขาบอกเธอว่าจะขอคุยกับเธอก่อนที่เขาจะพาศลิษาไปเจอเพื่อนของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองบริเวณรอบๆ ห้องขนาดใหญ่ ความหรูหราและราคาคงไม่ต้องพูดถึง พวกมาเฟียมีกินมีใช้เสียจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร สิ่งนี้คงเป็นเรื่องเล็กสำหรับเขาสินะ “โอเค นี่คุณรีบขนาดนั้นเลยเหรอ ความจริงรับเครื่องดื่มสักแก้วก่อนก็ได้นะ น้ำเปล่าก็ได้ เผื่อคุณจะคอแห้ง”เบนจามินมองดวงหน้านวลเนียนของอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม หญิงไทยน่ารักก็จริง แต่พวกเธอมักจะคิดมาก และดูจะเคร่งกับวัฒนธรรมของตัวเอง ถ้าตัดสิ่งนี้ไป เขาคงเข้าถึงตัวเธอได้มากกว่านี้เป็นแน่ “ฉันไม่ต้องการค่ะ คุณพูดมาเลยค่ะว่าเรื่องอะไร” “โอเค! เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน เมื่อเช้าผม พี่ชาย และน้องสาวของผมได้คุยกันแล้วถึงเรื่องทั้งหมด คุณอาจจะสงสัยสินะ ว่าน้องสาวของผมมาเกี่ยวเรื่องนี้ทำไม” “ค่ะ” ศลิษาจ้องไปที่เขาด้วยความลุ้นระทึกอยู่พอสมควร มีตัวละครเพิ่มมาคือน้องสาวของเขางั้นเหรอ
“คุณชาร์ลอตต์ครับ พอเถอะครับ”เดม่อนดึงร่างของหญิงสาวมา ก่อนที่เธอนั้นจะถลาเข้าไปทำร้ายผู้หญิงของนาย ในเมื่อเธอจำคืนก่อนนั้นไม่ได้ เดม่อนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรื้อความจำของเธอขึ้นมา ไม่ใช่ว่าเขาจะกลัวหรอกนะ บางทีให้เธอคิดว่าเป็นความฝันก็น่าจะดีที่สุด “แก! ปล่อยฉันนะ! กล้าดียังไงมาจับตัวฉันไว้ ปล่อย!” “คุณก็หยุดดิ้นสิครับ...เอายังไงครับนาย”เดม่อนหันไปขอความเห็นจากผู้เป็นนาย “นายก็จัดการไปสิ จะถามฉันอีกทำไม”คนที่เบนจามินสนใจไม่ใช่ชาร์ลอตต์มาตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมเบนจามินจะต้องแคร์เธอด้วย ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวกับพ่อของเธอล่ะก็ เบนจามินก็ไม่คิดที่จะสนใจอยู่แล้ว แต่ที่เบนจามินไม่ได้ขัดอะไร นั่นก็เป็นเพราะไม่อยากหักหน้าของเธอก็เท่านั้นเอง ถึงได้ยอมมาตลอด “เบน! คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงคะ ชาร์ลอตต์รักคุณนะคะ เราคบกันมาหลายปีแล้ว ทำไมคะ! ทำไมคุณไม่เคยรักชาร์ลอตต์เลยหรือคะ” “คุณรู้ดีชาร์ลอตต์ว่าความเป็นจริงมันเป็นยังไง ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ เราไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างที่คุณพูดเลย ลองทบทวนดีๆ สิ ว่าระหว่างคุณกับผมมันเกิดขึ้นตอนไหน ถ้าเรื่องนี้เป็นจร
[ณ คลับหรูคาสิโนตระกูลเฮมสวอร์ธ] “สาวๆ ที่นี่อิจฉาเธอทั้งนั้นเลยนะ ที่เมื่อวานคุณเบนไปส่งเธอ...รู้มั้ย...หนึ่งในนั้นก็มีฉันนี่แหละที่อิจฉาเธอที่สุด ได้ไปกับคุณเบนจามิน น้องชายเจ้าของธุรกิจที่รวยเป็นหมื่นล้านแสนล้านอย่างคุณลูคัส...ฉันคิดว่าวันนี้หล่อนจะไม่มาทำงานซะอีก...ทำไมยังมาอยู่อีกล่ะ อย่าบอกนะว่าหล่อนปฏิเสธคุณเบนจามิน” “อีกไม่กี่วันฉันก็จะได้กลับบ้านแล้ว ฉันไม่มัวมาสนใจเรื่องพวกนี้หรอก”ศลิษาตอบกลับโมนิซ่าด้วยท่าทีที่ไม่สนใจเรื่องของอีกฝ่ายพูดมา ทำไมศลิษาจะต้องสนใจเขาด้วย เรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ เขาก็เป็นคนทำ เธอไม่คิดที่จะเอาเรื่องของเขาไปใส่ใจหรอกนะ อีกไม่กี่วันพ่อของเธอก็จะกลับมาพร้อมเงินเพื่อใช้หนี้ เรื่องร้ายๆ นี่จะได้จบสิ้นเสียที “เธอนี่เล่นตัวจังเลยนะ เป็นฉันหน่อยไม่ได้” “ทำไมคุณไม่เสนอเขาไปล่ะ เผื่อเขาจะสนใจคุณ” “ถ้าคุณเบนสนใจฉันล่ะก็ ฉันคงไม่มายืนขาแข็งทำงานอยู่นี่หรอกย่ะ ป่านนี้คงนอนสบายอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ไปแล้ว บ้าจริง! เธอนี่ มีโอกาสไม่คว้าไว้ เสียดายสุดๆ” “เสียใจด้วยนะที่ฉันไม่ได้คิดอย่างคุณ”
“ใช่ค่ะ ความรักเท่านั้นที่ผู้หญิงต้องการ แต่ว่าพี่เองก็ต้องใช้เวลานะคะ ถ้าหากว่าพี่ถูกใจเธอจริงๆ เพราะฉะนั้นไรลีย์เชื่อว่าพี่สองคนทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ปล่อยเธอสองคนกลับประเทศของเธอไปเถอะนะคะ” “พี่ไม่คิดจะทำแบบที่เราพูดอยู่แล้วไรลีย์”ลูคัสมั่นใจว่าเขาจะใช้อำนาจบังคับให้เธออยู่กับเขาให้ได้ โดยที่ไม่ต้องใช้ความรักนั่นเลยด้วยซ้ำ “แล้วพี่ลูคัสจะทำยังไงคะ ไรลีย์คิดว่าพ่อแม่และพี่ชายของเธอก็ต้องห่วงเธอสองคนเหมือนกัน อย่างที่พี่ลูคัสกับพี่เบนห่วงไรลีย์นะคะ พี่ลูคัสลองคิดดีๆ สิคะ ผู้หญิงมีตั้งมากมาย พี่จะใช้เงินซื้อกี่คนก็ได้นี่คะ ถ้าพี่ไม่ได้ชอบเธอจริงๆ และไม่ยอมที่จะใช้ความรักกับเธอล่ะก็ ไรลีย์ขอร้องค่ะ ปล่อยเธอไปเถอะนะคะ” “พี่มีวิธีของพี่ก็แล้วกันไรลีย์ ส่วนของนายล่ะเบน นายจะทำยังไง พี่รู้ว่านายก็จัดการเธอไปแล้วเหมือนกันนี่” “นั่นมันเป็นเพราะพี่ ที่ทำอะไรไม่เคยบอกผมเลย แต่ผมคงต้องกลับไปคุยกับเธอก่อน วันนั้นผมเองก็ไม่ได้ป้องกัน บางทีเธออาจจะท้องกับผมก็ได้นะครับ”เบนจามินก็ไม่ต่างกันกับพี่ชายของเขาเลย เขาก็ถูกใจหญิงชาวไทยคนนั้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว