“คุณชาร์ลอตต์ครับ พอเถอะครับ”
เดม่อนดึงร่างของหญิงสาวมา ก่อนที่เธอนั้นจะถลาเข้าไปทำร้ายผู้หญิงของนาย ในเมื่อเธอจำคืนก่อนนั้นไม่ได้ เดม่อนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรื้อความจำของเธอขึ้นมา ไม่ใช่ว่าเขาจะกลัวหรอกนะ บางทีให้เธอคิดว่าเป็นความฝันก็น่าจะดีที่สุด
“แก! ปล่อยฉันนะ! กล้าดียังไงมาจับตัวฉันไว้ ปล่อย!”
“คุณก็หยุดดิ้นสิครับ...เอายังไงครับนาย”
เดม่อนหันไปขอความเห็นจากผู้เป็นนาย
“นายก็จัดการไปสิ จะถามฉันอีกทำไม”
คนที่เบนจามินสนใจไม่ใช่ชาร์ลอตต์มาตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมเบนจามินจะต้องแคร์เธอด้วย ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวกับพ่อของเธอล่ะก็ เบนจามินก็ไม่คิดที่จะสนใจอยู่แล้ว แต่ที่เบนจามินไม่ได้ขัดอะไร นั่นก็เป็นเพราะไม่อยากหักหน้าของเธอก็เท่านั้นเอง ถึงได้ยอมมาตลอด
“เบน! คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงคะ ชาร์ลอตต์รักคุณนะคะ เราคบกันมาหลายปีแล้ว ทำไมคะ! ทำไมคุณไม่เคยรักชาร์ลอตต์เลยหรือคะ”
“คุณรู้ดีชาร์ลอตต์ว่าความเป็นจริงมันเป็นยังไง ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ เราไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างที่คุณพูดเลย ลองทบทวนดีๆ สิ ว่าระหว่างคุณกับผมมันเกิดขึ้นตอนไหน ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ผมก็ต้องนึกออกสิ...จริงมั้ย”
สายตาคมยังคงเหลือบมองไปที่ใครอีกคนที่ดูจะไม่สนใจอะไร กลับก้มหน้าก้มตาทำงานของเธอราวกับว่าเธอไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นี้เลย
“ไม่! เบนจะปฏิเสธชาร์ลอตต์แบบนี้ไม่ได้นะคะ ชาร์ลอตต์รักเบนนะคะ แล้วอีนังนี่มันเป็นใครคะ ทำไมเบนถึงบอกว่า มันเป็นคนของเบน หมายความว่ายังไงคะเบน”
น้ำเสียงในท้ายประโยคของเธอเริ่มอ่อนลง ชาร์ลอตต์รู้ว่าถ้าเธอ*วินแตกไปมันไม่เป็นผลกับเธอแน่นอน
“คุณจะพูดว่าผมปฏิเสธคุณก็ไม่ถูกหรอกนะชาร์ลอตต์ เพราะผมไม่เคยตอบรับความสัมพันธ์ของคุณตั้งแต่แรกแล้ว เราเป็นเพื่อนกันคุณก็น่าจะรู้ดีนะ เอาล่ะผมว่าเรื่องนี้มันควรหยุดได้แล้ว ระหว่างคุณกับผม เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หวังว่าคุณคงเข้าใจนะชาร์ลอตต์”
“ไม่นะเบน! ชาร์ลอตต์รักคุณนะคะ”
“เชิญคุณชาร์ลอตต์ครับ”
“นี่! แกปล่อยฉันนะ! แกไม่มีสิทธิ์ที่จะจับฉันไว้แบบนี้นะ”
ชาร์ลอตต์หันไป*ว๊ากใส่บอร์ดี้การ์ดร่างใหญ่ที่คอยประกบเธออยู่ไม่ห่าง ความเสียใจบวกกับความเสียหน้าที่ตัวเองถูกชายคนที่เธอรักหักหน้าทำให้ชาร์ลอตต์ต้องไปลงกับคนอื่น
“แต่คุณต้องไปแล้วครับ เชิญครับ”
เดม่อนจับแขนของหญิงสาวเอาไว้แน่น ถ้าเธอรู้ว่าคืนก่อนนั้นเธอทำอะไรกับเขาไปบ้าง เธอคงจะปรี๊ดแตกแน่นอน โชคดีที่เดม่อนเก็บหลักฐานทุกอย่างในคืนนั้นไว้เป็นอย่างดี คลิปภาพและเสียงที่จะทำให้เธอดิ้นไม่หลุด เดม่อนจะเอามาใช้ก็ต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้น ไม่คิดที่จะเอาไปแบล็คเมล์เธอแต่อย่างใด
“ไม่! แก! ปล่อยฉันนะ!”
ชาร์ลอตต์ดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของบอร์ดี้การ์ดหนุ่ม ร่างกำยำสูงใหญ่ทำให้ข้อมือของเธอแทบหัก
“ไปเถอะคุณชาร์ลอตต์...ผมขอตัวก่อนนะครับนาย”
เดม่อนขอเวลาไปทำภารกิจนี้กับนาย เพียงแค่สบตา เขาก็อ่านใจของนายได้หมดแล้วว่าต้องการให้เดม่อนจัดการอย่างไรบ้าง
“อืม วันนี้ไม่ต้องเข้ามา เดี๋ยวฉันให้โจเอลทำแทนนายก็แล้วกัน...ยังไงก็ระวังตัวหน่อยนะ”
เบนจามินรู้ว่าอัลเบิร์ดพ่อของชาร์ลอตต์มีอิทธิพลมากแค่ไหนหากลูกน้องของเบนจามินไม่ระวังตัว เรื่องนี้เขาพอจะรู้มาก่อนแล้ว ว่าเดม่อนสนใจชาร์ลอตต์ แต่เพราะชาร์ลอตต์อยู่สูงเกินที่ลูกน้องของเขาจะเอื้อมถึง เดม่อนก็น่าจะทราบความจริงของเรื่องนี้ดี ไม่งั้นคงไม่ทำอะไรชาร์ลอตต์ลงไปหรอก
“ครับนาย”
“ปล่อยฉันนะ แกมีสิทธิ์อะไรมาจับตัวฉันห๊า! ปล่อย!”
“ไปเถอะครับคุณชาร์ลอตต์ อย่าให้ผมต้องใช้กำลังกับคุณเลยนะครับ...”
“แกกล้าพูดแบบนี้กับฉันได้ไง ไอ้บ้า ไอ้สกปรก เป็นแค่ขี้ข้า ดันสะเออะมาพูดกับฉันแบบนี้ได้ยังไง! ปล่อยนะ!”
“ทำไมจะไม่กล้าล่ะ มากกว่านี้ผมก็ทำมาแล้ว”
“อะไรของแก หมายความว่ายังไง! ที่แกพูด!”
“ก็อย่างที่คุณได้ยินแหละครับ ไปเถอะ”
“ไม่! กรี๊ดดดดด!!!”
“เฮ้อ...คุณเบนจามินจะรับอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่า มาเพื่อที่จะเจอกับแม่สาวนี่” โมนิซ่าเอ่ยถามเจ้านายที่เป็นต้นเหตุของเรื่องชุลมุนวุ่นวายนั่น
“ไม่ล่ะ ขอบใจ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอคนนี้หน่อย”
เบนจามินหันไปทางแม่สาวไทยคนสวย ที่ยืนนิ่งไม่สนใจสิ่งใด
“โอเคค่ะนาย ตามสบายเลยนะคะ”
โมนิซ่าถอยออกไป เธอรู้สึกอิจฉายัยเด็กนี่อย่างที่สุด เมื่อไหร่เธอจะมีแบบนี้บ้างนะ โอ้ย! อิจฉามาก! อยากจะสิงร่างนังเด็กนี่เสียจริง!
“ฉันจำได้ว่า เรานัดกันไว้ตอนฉันเลิกงานนี่”
ศลิษาเปิดปากโต้กลับครั้งแรก เมื่อความวุ่นวายเมื่อครู่จบลง
“ผมมีเรื่องจะเคลียร์กับคุณ ก่อนที่เราจะไปหาเพื่อนของคุณที่บ้านผม...”
“แต่ฉันต้องทำงานนี่คะ”
“ความจริงคุณไม่ต้องจริงจังกับเรื่องทำงานมากขนาดนี้ก็ได้ เอาเป็นว่าไปกับผมตอนนี้เลยละกัน ถ้าคุณอยากให้เรื่องของคุณจบ”
“อืม งั้นก็ได้ค่ะ ที่ไหนคะที่เราจะไปกัน”
“เพนท์เฮ้าส์ของผม ที่อยู่ใกล้ที่นี่”
“ทำไมต้องไปที่นั่นด้วยคะ ไปร้านกาแฟหรือที่สำหรับคุยกันก็ได้นี่คะ”
ศลิษารู้สึกแปลกๆ กับสถานที่ ทำไมต้องไปที่นั่นด้วย เขาแค่ต้องการคุยกับเธอแค่นี้ จะต้องไปสถานที่แบบนั้นทำไม
“จะไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไปก็ไม่เป็นไร งั้นผมจะรอให้คุณจัดการเองก็แล้วกัน”
“เอ่อ...ฉันไปก็ได้ค่ะ ก็แค่ถามว่าทำไมต้องไปเพนท์เฮ้าส์คุณก็เท่านั้นเองค่ะ ไม่เห็นจะต้องอะไรเลย”
“ผมไม่ชอบคนเรื่องมาก อยากไปก็ไป ไม่ไปผมก็ไม่สนใจ”
เบนจามินเริ่มหัวเสียกับเธอ ดูเหมือนเธอจะระแวงและกลัวเขาไปหมดทุกอย่าง ผู้หญิงไทยเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า วัฒนธรรมประเทศของเธออึดอัดน่าดู
“ไปค่ะ เชิญคุณพาฉันไปได้เลย”
ศลิษารีบตกลง นี่จะเข้าวันที่สองแล้วที่เธอยังติดต่อเมธิตาไม่ได้ ศลิษาจะต้องรู้ความจริงให้ได้ว่าเพื่อนของเธอนั้นยังปลอดภัยดีหรือเปล่า...
[ณ ร้านกาแฟบนถนนเดอะสตริป...เมืองลาสเวกัส]
“คุณคุยกับผมมาตรงๆ เลยก็ได้ครับ ดูเหมือนคุณจะมีเรื่องบางอย่างที่จะบอกผมหรือเปล่าครับคุณไรลีย์”
ศรากรเตรียมความพร้อมที่จะออกตามหาน้องสาวของเขา แต่ทว่าไรลีย์เข้ามาหา และบอกกับเขาว่าไม่ต้องตามหาแล้ว น้องสาวของเขาปลอดภัยดี
“คือว่า ไรลีย์ไม่กล้าที่จะบอกคุณเติ้ลค่ะ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับครอบครัวของไรลีย์ แล้วมันน่าอายมากเลยค่ะ”
เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเกริ่นเรื่องนี้ยังไง พี่ชายทั้งสองคนกลับทำเรื่องวุ่นวายและน่าอายนี้ขึ้นเสียเอง ไรลีย์ลำบากใจจริงๆ
“บอกมาเถอะครับ ผมสัญญาว่าจะรับฟังคุณครับ”
“จริงๆ นะคะ”
“จริงสิครับ พูดมาเถอะครับ ความจริงคุณไรลีย์เองก็ช่วยผมมามากแล้ว ผมจะโกรธหรือไม่พอใจคุณได้ยังไงครับ”
“ค่ะ...งั้นเอาเรื่องแรกก่อนนะคะ สาเหตุที่ไรลีย์บอกว่าเราไม่ต้องออกตามหาน้องสาวของคุณแล้วก็คือ...มาเฟียที่เป็นโจทย์กับพ่อของคุณก็คือพี่ชายของไรลีย์เองค่ะ”
“อะไรนะครับ! มาเฟียคนนั้นคือพี่ชายคุณเองหรือครับ”
คำพูดของเธอทำให้ศรากรชะงักไปชั่วขณะ มาเฟียที่เป็นต้นเรื่องของทั้งหมดนี้ เป็นพี่ชายของเธอเองหรือ เป็นไปได้ยังไงกัน
“ใช่ค่ะ และคุณเติ้ลอย่าพึ่งโกรธเลยนะคะ ฟังไรลีย์อธิบายให้จบก่อนค่ะ ไรลีย์เองก็พึ่งจะรู้เรื่องนี้เมื่อวานค่ะ ตอนที่กลับจากที่นี่ไป ไรลีย์บังเอิญได้คุยกับพ่อบ้าน และในช่วงเช้าไรลีย์ก็มีโอกาสได้คุยกับพี่ชายทั้งสองคนของไรลีย์แล้วค่ะ”
“งั้น พี่ชายของคุณเขายังไงครับ”
ศรากรพยายามข่มความรู้สึกโกรธและไม่พอใจเอาไว้ เขากำลังหาเหตุผลต่างๆ มาประกอบ จุดต้นเหตุจริงๆ ก็คือพ่อของเขา ศรากรจะโทษใครไม่ได้เลยถ้าพ่อของเขาไม่ทำเรื่องนี้ขึ้น พ่อคือชนวนทุกอย่าง ทั้งเขาและน้องสาวทั้งสองคนจะไม่เกิดเหตุนี้เลย ถ้าพ่อไม่ไปติดเงินมาเฟียพวกนั้น
.........................
[ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองลาสเวกัส...ในเวลาต่อมา] “เชิญคุณคุยเรื่องของคุณได้เลยค่ะ ฉันพร้อมรับฟังแล้วค่ะ”ศลิษานั่งลงบนโซฟาใหญ่กลางห้อง หลังจากที่เขาบอกเธอว่าจะขอคุยกับเธอก่อนที่เขาจะพาศลิษาไปเจอเพื่อนของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองบริเวณรอบๆ ห้องขนาดใหญ่ ความหรูหราและราคาคงไม่ต้องพูดถึง พวกมาเฟียมีกินมีใช้เสียจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร สิ่งนี้คงเป็นเรื่องเล็กสำหรับเขาสินะ “โอเค นี่คุณรีบขนาดนั้นเลยเหรอ ความจริงรับเครื่องดื่มสักแก้วก่อนก็ได้นะ น้ำเปล่าก็ได้ เผื่อคุณจะคอแห้ง”เบนจามินมองดวงหน้านวลเนียนของอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม หญิงไทยน่ารักก็จริง แต่พวกเธอมักจะคิดมาก และดูจะเคร่งกับวัฒนธรรมของตัวเอง ถ้าตัดสิ่งนี้ไป เขาคงเข้าถึงตัวเธอได้มากกว่านี้เป็นแน่ “ฉันไม่ต้องการค่ะ คุณพูดมาเลยค่ะว่าเรื่องอะไร” “โอเค! เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน เมื่อเช้าผม พี่ชาย และน้องสาวของผมได้คุยกันแล้วถึงเรื่องทั้งหมด คุณอาจจะสงสัยสินะ ว่าน้องสาวของผมมาเกี่ยวเรื่องนี้ทำไม” “ค่ะ” ศลิษาจ้องไปที่เขาด้วยความลุ้นระทึกอยู่พอสมควร มีตัวละครเพิ่มมาคือน้องสาวของเขางั้นเหรอ
แคว่ก!! เสียงชุดเดรสสวยถูกกระชากจนขาดวิ่น ร่างอวบอิ่มปรากฎแก่สายตาของมาเฟียหนุ่มทันที แววตาคมดุอ่อนแสงลงเมื่อเห็นเนินเนื้ออวบของเธอ “กรี๊ดดดด!!! ปล่อยนะ! ฮึก!! ไม่!”ศลิษาทั้งดิ้นและร้องในคราวเดียวกัน มือบางพยายามยกขึ้นมาปิดทรวงอกของเธอที่ถูกเปลือยด้วยฝีมือของชายที่นั่งคร่อมอยู่เหนือร่างของเธอ “ปล่อยเหรอ! มันสายไปแล้วเบบี๋! ผมเสนอทางเลือกให้คุณไปแล้ว เพราะฉะนั้นต่อจากนี้คุณจะได้เจอของจริงเสียที!”พูดจบมาเฟียหนุ่มก็โฉบวูบลงไปที่ปากบางทันที จูบร้อนถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วง ริมฝีปากบางเม้มสนิท ไม่ยอมเปิดปากให้ลิ้นเขากดแทรกเข้าไปได้ มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มออกมา ‘นี่เธอคงยังไม่รู้จักคนอย่างนายเบนจามินดีสินะ’ “ฮึก! กรี้ดดดดด!!!” ศลิษาร้องเสียงหลง เมื่อส่วนล่างของเธอจุดที่อ่อนไหวที่สุดนั้น ถูกมือใหญ่ตะปปอย่างหนักหน่วง พร้อมกับดึงกระชากเพนตี้ตัวจิ๋วของเธอออก เนินเนื้ออวบอูมถูกนิ้วแกร่งลากไล้เข้าไปตรงร่องแก่นกลางทันที เรียวขาสวยหนีบเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ แต่ทว่าก็ยังช้ากว่ามือใหญ่นัก! “ร้องไปสิ ร้องดังๆ ผมชอบนะ มันกระตุ้นอารมณ์ผมได้ดีสุดๆ อึ้มมม์ วันนี้คุณหนี
[อีกด้านหนึ่ง ณ คฤหาสน์เฮมสวอร์ธ] ร่างอันบอบบางกำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความยากลำบาก ความบอบช้ำจากการโดนกระทำอันโหดร้ายและป่าเถื่อนของมาเฟียโหดเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ ทำให้เธอแทบทรงตัวไม่ไหวจนเกือบจะล้มลง หมับ! ร่างเล็กถูกรับเอาไว้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะล้มลงบนพื้น สายตาคมดุจับจ้องไปที่ใบหน้างามฉายแววตำหนิอย่างชัดเจน “ระวังสิ!” น้ำเสียงห้วนดุคนที่อยู่ในอ้อมแขนทันที “กะ-แก!” ทันทีที่รู้ว่าเป็นเขา ร่างบางก็ออกแรงขืนตัวเองออกจากอ้อมแขนนั้น แต่มันก็เป็นไปได้ยาก เมื่อเรี่ยวแรงของเธอนั้นหลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด “หยุดด่าฉันสักพักได้มั้ย ดูสภาพของเธอสิ” “นั่นมันเป็นเพราะแกไง ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้” “เธอเลิกคิดที่จะไปจากฉันได้แล้ว เพราะฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่ พ่อของเธอมาเมื่อไหร่ ฉันจะตกลงด้วยข้อเสนอที่ทำให้พ่อเธอปฏิเสธฉันไม่ได้”เงินเท่านั้นที่เป็นทางออกของลูคัสตอนนี้ เขาเสนอเงินที่มากกว่า พร้อมกับสารภาพกับนายก้องภพไปตรงๆ ว่าเขาขอแลกกับตัวเธอ “น้าก้องไม่ใช่พ่อของฉัน เพราะฉะนั้นแกอย่าเอาเรื่องนี้มาอ้าง แกมันไม
[วันต่อมา...ณ คฤหาสน์หลังใหญ่] บรรยากาศตอนสายๆ ของการนัดหมายในคฤหาสน์หลังใหญ่เกิดขึ้น อดัมพ่อบ้านประจำคฤหาสน์กำลังเตรียมการและดูแลความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเหล่าบอร์ดี้การ์ด การอำนวยความสะดวก รวมไปถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้มันเป็นครั้งแรกของพ่อบ้านอย่างเขา เหล่าสาวใช้ที่ต้องคอยเสิร์ฟอาหาร ดูแลความเรียบร้อย อีกทั้งประมุขของบ้านเองก็ต้องเตรียมรับสิ่งนี้เช่นกัน “มาเรีย...เธอไปดูนายหญิงทีว่าเธอเรียบร้อยแล้วหรือยัง” “เรียบร้อยแล้วค่ะ เธอตื่นตั้งแต่เช้าแต่งตัวรอแล้วค่ะ คุณอดัมไม่ต้องห่วงค่ะ เด็กนั่นอยากจะเจอเพื่อนและพ่อของเธอใจจะขาดแล้วค่ะ” “แล้วเธอได้พูดอะไรกับนายหญิงหรือเปล่า”อดัมเปลี่ยนสรรพนามเรื่องเด็กสาวคนนั้นทันที เมื่อรู้ว่าคุณลูคัสนั้นไม่ยอมที่จะปล่อยเด็กนั่น จะเป็นอะไรไปไม่ได้หรอกนอกจากผู้หญิงคนนี้จะทำให้นายของอดัมเปลี่ยนไป อืม และเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีด้วยสิ อีกหน่อยคฤหาสน์หลังนี้จะไม่เงียบเหงาอีกต่อไป เสียงเด็กๆ คงปลุกอดัมทุกเช้าสินะ “ก็พูดนิดหน่อยค่ะคุณอดัม ส่วนใหญ่ก็จะสอนเธอแหละค่ะ อยากให้เ
[โต๊ะอาหารเวลายามเย็นคฤหาสน์เฮมสวอร์ธ] “วันนี้ลุงอดัมจัดเมนูพิเศษต้อนรับพวกคุณเลยนะคะ อาหารไทยหลายอย่างจากเชฟคนไทย ที่คุณอดัมคัดสรรเป็นพิเศษ คุณทั้งสามคนคงคิดถึงอาหารไทยมากๆ เลยใช่ไหมคะ”เสียงของไรลีย์ที่กำลังเปิดบทสนทนาบนโต๊ะอาหารในฐานะเจ้าของบ้านใหญ่ ซึ่งรับหน้าที่ภารกิจนี้แทนพี่ชายเธอทั้งสองคน พี่ลูคัสกับพี่เบนจามินออกไปทำงานที่คลับและในคาสิโน มอบหมายให้ไรลีย์ดูแลคนของตระกูลเฮมสวอร์ธ “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ พวกเราทานได้ค่ะ เกรงใจคุณลุงนะคะที่จะต้องเป็นธุระจัดการค่ะ”ศลิษามองอาหารไทยหลายอย่างบนโต๊ะ เธอย้ายเข้ามาพักอยู่ในบ้านหลังนี้เรียบร้อย โดยในตอนแรกเธอขอพักอยู่ห้องเดียวกับเมธิตา แต่ทว่าลุงพ่อบ้านกลับไม่ยอม เลยจัดที่พักให้เธออยู่ห้องตรงข้ามกับเพื่อนของเธอ ระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ศลิษาต้องพักอยู่ที่นี่ จนกว่าจะครบกำหนดตามที่ทุกคนได้ตกลงกันไว้ “ไม่เป็นไรค่ะคุณตอง เราคนกันเองแล้วนะคะ ไรลีย์อยากให้ทุกคนอยู่ที่นี่อย่างสบายใจนะคะ อีกอย่างไรลีย์จะได้มีเพื่อนไงคะ เป็นผู้หญิงคนเดียวของบ้านเหงามากเลยค่ะ” “ได้ข่าวว่าคุณไรลีย์กำลังจะเปิดร้านใช่มั้ยคะ อืม
“ไม่นะ! ฉันไม่ได้เป็นเมียคุณ และไม่อยากเป็น!” “ไม่อยากเป็น คุณก็ต้องเป็น ต่อจากนี้คุณจะเป็นเพิ่มอีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นแม่ของลูกผมนะเบบี๋ รู้หรือเปล่าว่าผมไม่มีวันที่จะปล่อยคุณไปหรอก ระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้ผมจะพิสูจน์ให้ดู” “ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไป เราไม่รู้จักกัน และจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง และอีกอย่างคุณก็มีผู้หญิงมากมาย ในตอนนั้นถ้าฉันหมดความสำคัญกับคุณ และคุณก็อาจจะ...” “อาจจะทิ้งคุณงั้นเหรอ คุณกลัวว่าผมจะทอดทิ้งคุณไป อืม ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงไทยถึงได้เป็นคนคิดมากขนาดนี้ วัฒนธรรมบ้านคุณคงทำให้คุณเป็นแบบนี้สินะ” “ไม่เกี่ยวกับวัฒนธรรมอะไรของบ้านฉันเลย เราเจอกันแค่ไม่กี่วัน และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คุณจะให้ฉันตกลงปลงใจที่จะอยู่กับคุณตลอดไปเลยงั้นเหรอคะ” “ถ้าคุณไม่รู้จักผม หรือเราอยากทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ คุณก็ลองเปิดใจดูสิ ตอนนี้ทั้งคุณและผม เราอาจจะยังไม่ได้รักกัน แต่ถ้าเราลองคบหาดูใจกันไป เราก็อาจจะรักกันได้นะ คุณเล่นปิดผมทุกทางแบบนี้ แล้วเราจะไปต่อความสัมพันธ์แบบอื่นได้ยังไง คุณลองคิดดูสิ” “...” ศลิษาคิดตามในสิ่งที่เข
บทนำ[ลาสเวกัส รัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา] ลาสเวกัส ฉายา ‘เมืองคนบาป (Sin City)’ การได้ชื่อนี้มาก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด เพราะลาสเวกัสนั้นเป็นแหล่งรวมความบันเทิงของผู้ใหญ่อย่างถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น บ่อน คาสิโน สล็อต แม้กระทั่งการค้าประเวณีก็เป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่ผู้หญิงคนไหนอยากจะประกอบอาชีพนี้ก็ต้องมีใบอนุญาตถึงจะทำงานนี้ได้ นอกจากความเป็นเมืองคนบาปแล้ว ลาสเวกัสก็ยังเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวกว่าครึ่งค่อนโลกก็ต้องการมาหาความสำราญ ความหรูหรา เมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของแสงสีเสียงสุดตระการตา และที่หลายคนรู้จักเมืองๆ นี้ก็เพราะคาสิโน หากจะบอกว่าลาสเวกัสว่าเป็นแหล่งบันเทิงระดับโลกก็คงไม่ผิด อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีโรงแรมสวยๆ ที่เลียนแบบแลนด์มาร์คสำคัญของโลกตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ภายในโรงแรมก็มีที่เที่ยวตั้งอยู่ในโรงแรมเลย ดังนั้นหากใครชอบย่ำราตรี ชอบความหรูหรา ชอบชมโชว์ และสนุกไปกับการเล่นเกมส์ลุ้นรางวัล การมาเที่ยวลาสเวกัสในรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นช่างตอบโจทย์อย่างที่สุด ตระกูลเฮมสวอร์ธ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตระกูลที่เก่าแก่และมีอำนาจมากที่สุดในแถบย่านธุรกิจสีเทา
[คฤหาสน์หลังใหญ่...ประเทศไทย] “คุณแม่ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ พี่เติ้ลกับพ่อคงไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ตองคิดว่าพี่เติ้ลอาจจะกำลังหาทางอยู่นะคะ พี่เติ้ลไปตามพ่อไม่กี่วันเองนะคะแม่”‘ศลิษา’ ปลอบผู้เป็นแม่ พ่อของเธอขาดการติดต่อไปนานนับเดือน พี่ชายของเธอ (ศรากร) รับภารกิจจากผู้เป็นแม่ออกตามหาพ่อตามข้อมูลที่พ่อของเธอเคยให้ไว้ นั่นก็คือประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง “นี่มันเข้าวันที่สามแล้วนะตอง ที่พี่เติ้ลของลูกขาดการติดต่อไป...โธ่...จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ แม่เป็นห่วงพี่ของลูกมากรู้มั้ย”เสียงอันสั่นเครือระบายความทุกข์ใจกับผู้เป็นลูกสาวของ ‘สายไหม’ หญิงวัย 49 ปีที่มีบุตรสองคนชายหญิง “งั้น ให้ตองไปตามมั้ยคะแม่” “นั่นสิคะ น้าไหม ให้มดไปเป็นเพื่อนตองก็ได้นะคะ”‘มด’ หรือ ‘เมธิตา’ เธอคือสมาชิกคนหนึ่งของบ้านหลังนี้ โดยที่เธอนั้นได้รับอุปการะจากน้าสายไหม ผู้มีพระคุณที่รับเธอมาเลี้ยงตั้งแต่เธออายุได้เพียงเจ็ดขวบ แม่ของเมธิตาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เธอไม่เหลือใครแล้ว นอกจากเพื่อนของแม่คนนี้เท่านั้น “ไม่ได้ แม่จะให้มดกับตองไปไม่ได้เด็ดขาด ลูกทั้งสองเป็นผู้หญิง มันอ
“ไม่นะ! ฉันไม่ได้เป็นเมียคุณ และไม่อยากเป็น!” “ไม่อยากเป็น คุณก็ต้องเป็น ต่อจากนี้คุณจะเป็นเพิ่มอีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นแม่ของลูกผมนะเบบี๋ รู้หรือเปล่าว่าผมไม่มีวันที่จะปล่อยคุณไปหรอก ระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้ผมจะพิสูจน์ให้ดู” “ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไป เราไม่รู้จักกัน และจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง และอีกอย่างคุณก็มีผู้หญิงมากมาย ในตอนนั้นถ้าฉันหมดความสำคัญกับคุณ และคุณก็อาจจะ...” “อาจจะทิ้งคุณงั้นเหรอ คุณกลัวว่าผมจะทอดทิ้งคุณไป อืม ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงไทยถึงได้เป็นคนคิดมากขนาดนี้ วัฒนธรรมบ้านคุณคงทำให้คุณเป็นแบบนี้สินะ” “ไม่เกี่ยวกับวัฒนธรรมอะไรของบ้านฉันเลย เราเจอกันแค่ไม่กี่วัน และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คุณจะให้ฉันตกลงปลงใจที่จะอยู่กับคุณตลอดไปเลยงั้นเหรอคะ” “ถ้าคุณไม่รู้จักผม หรือเราอยากทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ คุณก็ลองเปิดใจดูสิ ตอนนี้ทั้งคุณและผม เราอาจจะยังไม่ได้รักกัน แต่ถ้าเราลองคบหาดูใจกันไป เราก็อาจจะรักกันได้นะ คุณเล่นปิดผมทุกทางแบบนี้ แล้วเราจะไปต่อความสัมพันธ์แบบอื่นได้ยังไง คุณลองคิดดูสิ” “...” ศลิษาคิดตามในสิ่งที่เข
[โต๊ะอาหารเวลายามเย็นคฤหาสน์เฮมสวอร์ธ] “วันนี้ลุงอดัมจัดเมนูพิเศษต้อนรับพวกคุณเลยนะคะ อาหารไทยหลายอย่างจากเชฟคนไทย ที่คุณอดัมคัดสรรเป็นพิเศษ คุณทั้งสามคนคงคิดถึงอาหารไทยมากๆ เลยใช่ไหมคะ”เสียงของไรลีย์ที่กำลังเปิดบทสนทนาบนโต๊ะอาหารในฐานะเจ้าของบ้านใหญ่ ซึ่งรับหน้าที่ภารกิจนี้แทนพี่ชายเธอทั้งสองคน พี่ลูคัสกับพี่เบนจามินออกไปทำงานที่คลับและในคาสิโน มอบหมายให้ไรลีย์ดูแลคนของตระกูลเฮมสวอร์ธ “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ พวกเราทานได้ค่ะ เกรงใจคุณลุงนะคะที่จะต้องเป็นธุระจัดการค่ะ”ศลิษามองอาหารไทยหลายอย่างบนโต๊ะ เธอย้ายเข้ามาพักอยู่ในบ้านหลังนี้เรียบร้อย โดยในตอนแรกเธอขอพักอยู่ห้องเดียวกับเมธิตา แต่ทว่าลุงพ่อบ้านกลับไม่ยอม เลยจัดที่พักให้เธออยู่ห้องตรงข้ามกับเพื่อนของเธอ ระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ศลิษาต้องพักอยู่ที่นี่ จนกว่าจะครบกำหนดตามที่ทุกคนได้ตกลงกันไว้ “ไม่เป็นไรค่ะคุณตอง เราคนกันเองแล้วนะคะ ไรลีย์อยากให้ทุกคนอยู่ที่นี่อย่างสบายใจนะคะ อีกอย่างไรลีย์จะได้มีเพื่อนไงคะ เป็นผู้หญิงคนเดียวของบ้านเหงามากเลยค่ะ” “ได้ข่าวว่าคุณไรลีย์กำลังจะเปิดร้านใช่มั้ยคะ อืม
[วันต่อมา...ณ คฤหาสน์หลังใหญ่] บรรยากาศตอนสายๆ ของการนัดหมายในคฤหาสน์หลังใหญ่เกิดขึ้น อดัมพ่อบ้านประจำคฤหาสน์กำลังเตรียมการและดูแลความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเหล่าบอร์ดี้การ์ด การอำนวยความสะดวก รวมไปถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้มันเป็นครั้งแรกของพ่อบ้านอย่างเขา เหล่าสาวใช้ที่ต้องคอยเสิร์ฟอาหาร ดูแลความเรียบร้อย อีกทั้งประมุขของบ้านเองก็ต้องเตรียมรับสิ่งนี้เช่นกัน “มาเรีย...เธอไปดูนายหญิงทีว่าเธอเรียบร้อยแล้วหรือยัง” “เรียบร้อยแล้วค่ะ เธอตื่นตั้งแต่เช้าแต่งตัวรอแล้วค่ะ คุณอดัมไม่ต้องห่วงค่ะ เด็กนั่นอยากจะเจอเพื่อนและพ่อของเธอใจจะขาดแล้วค่ะ” “แล้วเธอได้พูดอะไรกับนายหญิงหรือเปล่า”อดัมเปลี่ยนสรรพนามเรื่องเด็กสาวคนนั้นทันที เมื่อรู้ว่าคุณลูคัสนั้นไม่ยอมที่จะปล่อยเด็กนั่น จะเป็นอะไรไปไม่ได้หรอกนอกจากผู้หญิงคนนี้จะทำให้นายของอดัมเปลี่ยนไป อืม และเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีด้วยสิ อีกหน่อยคฤหาสน์หลังนี้จะไม่เงียบเหงาอีกต่อไป เสียงเด็กๆ คงปลุกอดัมทุกเช้าสินะ “ก็พูดนิดหน่อยค่ะคุณอดัม ส่วนใหญ่ก็จะสอนเธอแหละค่ะ อยากให้เ
[อีกด้านหนึ่ง ณ คฤหาสน์เฮมสวอร์ธ] ร่างอันบอบบางกำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความยากลำบาก ความบอบช้ำจากการโดนกระทำอันโหดร้ายและป่าเถื่อนของมาเฟียโหดเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ ทำให้เธอแทบทรงตัวไม่ไหวจนเกือบจะล้มลง หมับ! ร่างเล็กถูกรับเอาไว้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะล้มลงบนพื้น สายตาคมดุจับจ้องไปที่ใบหน้างามฉายแววตำหนิอย่างชัดเจน “ระวังสิ!” น้ำเสียงห้วนดุคนที่อยู่ในอ้อมแขนทันที “กะ-แก!” ทันทีที่รู้ว่าเป็นเขา ร่างบางก็ออกแรงขืนตัวเองออกจากอ้อมแขนนั้น แต่มันก็เป็นไปได้ยาก เมื่อเรี่ยวแรงของเธอนั้นหลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด “หยุดด่าฉันสักพักได้มั้ย ดูสภาพของเธอสิ” “นั่นมันเป็นเพราะแกไง ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้” “เธอเลิกคิดที่จะไปจากฉันได้แล้ว เพราะฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่ พ่อของเธอมาเมื่อไหร่ ฉันจะตกลงด้วยข้อเสนอที่ทำให้พ่อเธอปฏิเสธฉันไม่ได้”เงินเท่านั้นที่เป็นทางออกของลูคัสตอนนี้ เขาเสนอเงินที่มากกว่า พร้อมกับสารภาพกับนายก้องภพไปตรงๆ ว่าเขาขอแลกกับตัวเธอ “น้าก้องไม่ใช่พ่อของฉัน เพราะฉะนั้นแกอย่าเอาเรื่องนี้มาอ้าง แกมันไม
แคว่ก!! เสียงชุดเดรสสวยถูกกระชากจนขาดวิ่น ร่างอวบอิ่มปรากฎแก่สายตาของมาเฟียหนุ่มทันที แววตาคมดุอ่อนแสงลงเมื่อเห็นเนินเนื้ออวบของเธอ “กรี๊ดดดด!!! ปล่อยนะ! ฮึก!! ไม่!”ศลิษาทั้งดิ้นและร้องในคราวเดียวกัน มือบางพยายามยกขึ้นมาปิดทรวงอกของเธอที่ถูกเปลือยด้วยฝีมือของชายที่นั่งคร่อมอยู่เหนือร่างของเธอ “ปล่อยเหรอ! มันสายไปแล้วเบบี๋! ผมเสนอทางเลือกให้คุณไปแล้ว เพราะฉะนั้นต่อจากนี้คุณจะได้เจอของจริงเสียที!”พูดจบมาเฟียหนุ่มก็โฉบวูบลงไปที่ปากบางทันที จูบร้อนถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วง ริมฝีปากบางเม้มสนิท ไม่ยอมเปิดปากให้ลิ้นเขากดแทรกเข้าไปได้ มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มออกมา ‘นี่เธอคงยังไม่รู้จักคนอย่างนายเบนจามินดีสินะ’ “ฮึก! กรี้ดดดดด!!!” ศลิษาร้องเสียงหลง เมื่อส่วนล่างของเธอจุดที่อ่อนไหวที่สุดนั้น ถูกมือใหญ่ตะปปอย่างหนักหน่วง พร้อมกับดึงกระชากเพนตี้ตัวจิ๋วของเธอออก เนินเนื้ออวบอูมถูกนิ้วแกร่งลากไล้เข้าไปตรงร่องแก่นกลางทันที เรียวขาสวยหนีบเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ แต่ทว่าก็ยังช้ากว่ามือใหญ่นัก! “ร้องไปสิ ร้องดังๆ ผมชอบนะ มันกระตุ้นอารมณ์ผมได้ดีสุดๆ อึ้มมม์ วันนี้คุณหนี
[ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองลาสเวกัส...ในเวลาต่อมา] “เชิญคุณคุยเรื่องของคุณได้เลยค่ะ ฉันพร้อมรับฟังแล้วค่ะ”ศลิษานั่งลงบนโซฟาใหญ่กลางห้อง หลังจากที่เขาบอกเธอว่าจะขอคุยกับเธอก่อนที่เขาจะพาศลิษาไปเจอเพื่อนของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองบริเวณรอบๆ ห้องขนาดใหญ่ ความหรูหราและราคาคงไม่ต้องพูดถึง พวกมาเฟียมีกินมีใช้เสียจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร สิ่งนี้คงเป็นเรื่องเล็กสำหรับเขาสินะ “โอเค นี่คุณรีบขนาดนั้นเลยเหรอ ความจริงรับเครื่องดื่มสักแก้วก่อนก็ได้นะ น้ำเปล่าก็ได้ เผื่อคุณจะคอแห้ง”เบนจามินมองดวงหน้านวลเนียนของอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม หญิงไทยน่ารักก็จริง แต่พวกเธอมักจะคิดมาก และดูจะเคร่งกับวัฒนธรรมของตัวเอง ถ้าตัดสิ่งนี้ไป เขาคงเข้าถึงตัวเธอได้มากกว่านี้เป็นแน่ “ฉันไม่ต้องการค่ะ คุณพูดมาเลยค่ะว่าเรื่องอะไร” “โอเค! เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน เมื่อเช้าผม พี่ชาย และน้องสาวของผมได้คุยกันแล้วถึงเรื่องทั้งหมด คุณอาจจะสงสัยสินะ ว่าน้องสาวของผมมาเกี่ยวเรื่องนี้ทำไม” “ค่ะ” ศลิษาจ้องไปที่เขาด้วยความลุ้นระทึกอยู่พอสมควร มีตัวละครเพิ่มมาคือน้องสาวของเขางั้นเหรอ
“คุณชาร์ลอตต์ครับ พอเถอะครับ”เดม่อนดึงร่างของหญิงสาวมา ก่อนที่เธอนั้นจะถลาเข้าไปทำร้ายผู้หญิงของนาย ในเมื่อเธอจำคืนก่อนนั้นไม่ได้ เดม่อนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรื้อความจำของเธอขึ้นมา ไม่ใช่ว่าเขาจะกลัวหรอกนะ บางทีให้เธอคิดว่าเป็นความฝันก็น่าจะดีที่สุด “แก! ปล่อยฉันนะ! กล้าดียังไงมาจับตัวฉันไว้ ปล่อย!” “คุณก็หยุดดิ้นสิครับ...เอายังไงครับนาย”เดม่อนหันไปขอความเห็นจากผู้เป็นนาย “นายก็จัดการไปสิ จะถามฉันอีกทำไม”คนที่เบนจามินสนใจไม่ใช่ชาร์ลอตต์มาตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมเบนจามินจะต้องแคร์เธอด้วย ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวกับพ่อของเธอล่ะก็ เบนจามินก็ไม่คิดที่จะสนใจอยู่แล้ว แต่ที่เบนจามินไม่ได้ขัดอะไร นั่นก็เป็นเพราะไม่อยากหักหน้าของเธอก็เท่านั้นเอง ถึงได้ยอมมาตลอด “เบน! คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงคะ ชาร์ลอตต์รักคุณนะคะ เราคบกันมาหลายปีแล้ว ทำไมคะ! ทำไมคุณไม่เคยรักชาร์ลอตต์เลยหรือคะ” “คุณรู้ดีชาร์ลอตต์ว่าความเป็นจริงมันเป็นยังไง ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ เราไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างที่คุณพูดเลย ลองทบทวนดีๆ สิ ว่าระหว่างคุณกับผมมันเกิดขึ้นตอนไหน ถ้าเรื่องนี้เป็นจร
[ณ คลับหรูคาสิโนตระกูลเฮมสวอร์ธ] “สาวๆ ที่นี่อิจฉาเธอทั้งนั้นเลยนะ ที่เมื่อวานคุณเบนไปส่งเธอ...รู้มั้ย...หนึ่งในนั้นก็มีฉันนี่แหละที่อิจฉาเธอที่สุด ได้ไปกับคุณเบนจามิน น้องชายเจ้าของธุรกิจที่รวยเป็นหมื่นล้านแสนล้านอย่างคุณลูคัส...ฉันคิดว่าวันนี้หล่อนจะไม่มาทำงานซะอีก...ทำไมยังมาอยู่อีกล่ะ อย่าบอกนะว่าหล่อนปฏิเสธคุณเบนจามิน” “อีกไม่กี่วันฉันก็จะได้กลับบ้านแล้ว ฉันไม่มัวมาสนใจเรื่องพวกนี้หรอก”ศลิษาตอบกลับโมนิซ่าด้วยท่าทีที่ไม่สนใจเรื่องของอีกฝ่ายพูดมา ทำไมศลิษาจะต้องสนใจเขาด้วย เรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ เขาก็เป็นคนทำ เธอไม่คิดที่จะเอาเรื่องของเขาไปใส่ใจหรอกนะ อีกไม่กี่วันพ่อของเธอก็จะกลับมาพร้อมเงินเพื่อใช้หนี้ เรื่องร้ายๆ นี่จะได้จบสิ้นเสียที “เธอนี่เล่นตัวจังเลยนะ เป็นฉันหน่อยไม่ได้” “ทำไมคุณไม่เสนอเขาไปล่ะ เผื่อเขาจะสนใจคุณ” “ถ้าคุณเบนสนใจฉันล่ะก็ ฉันคงไม่มายืนขาแข็งทำงานอยู่นี่หรอกย่ะ ป่านนี้คงนอนสบายอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ไปแล้ว บ้าจริง! เธอนี่ มีโอกาสไม่คว้าไว้ เสียดายสุดๆ” “เสียใจด้วยนะที่ฉันไม่ได้คิดอย่างคุณ”
“ใช่ค่ะ ความรักเท่านั้นที่ผู้หญิงต้องการ แต่ว่าพี่เองก็ต้องใช้เวลานะคะ ถ้าหากว่าพี่ถูกใจเธอจริงๆ เพราะฉะนั้นไรลีย์เชื่อว่าพี่สองคนทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ปล่อยเธอสองคนกลับประเทศของเธอไปเถอะนะคะ” “พี่ไม่คิดจะทำแบบที่เราพูดอยู่แล้วไรลีย์”ลูคัสมั่นใจว่าเขาจะใช้อำนาจบังคับให้เธออยู่กับเขาให้ได้ โดยที่ไม่ต้องใช้ความรักนั่นเลยด้วยซ้ำ “แล้วพี่ลูคัสจะทำยังไงคะ ไรลีย์คิดว่าพ่อแม่และพี่ชายของเธอก็ต้องห่วงเธอสองคนเหมือนกัน อย่างที่พี่ลูคัสกับพี่เบนห่วงไรลีย์นะคะ พี่ลูคัสลองคิดดีๆ สิคะ ผู้หญิงมีตั้งมากมาย พี่จะใช้เงินซื้อกี่คนก็ได้นี่คะ ถ้าพี่ไม่ได้ชอบเธอจริงๆ และไม่ยอมที่จะใช้ความรักกับเธอล่ะก็ ไรลีย์ขอร้องค่ะ ปล่อยเธอไปเถอะนะคะ” “พี่มีวิธีของพี่ก็แล้วกันไรลีย์ ส่วนของนายล่ะเบน นายจะทำยังไง พี่รู้ว่านายก็จัดการเธอไปแล้วเหมือนกันนี่” “นั่นมันเป็นเพราะพี่ ที่ทำอะไรไม่เคยบอกผมเลย แต่ผมคงต้องกลับไปคุยกับเธอก่อน วันนั้นผมเองก็ไม่ได้ป้องกัน บางทีเธออาจจะท้องกับผมก็ได้นะครับ”เบนจามินก็ไม่ต่างกันกับพี่ชายของเขาเลย เขาก็ถูกใจหญิงชาวไทยคนนั้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว