Home / รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 23 สาสน์แต่งงาน

Share

ตอนที่ 23 สาสน์แต่งงาน

last update Last Updated: 2025-02-07 21:27:22

สิบเหมันต์ผันผ่านไป

ความสัมพันธ์ระหว่างอู๋เยว่ชิงและองค์ชายเจ็ดแน่นแฟ้นขึ้น สายตาของคนนอกต่างมองว่าพวกเขาเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก

“บุตรสาวเจ้าถึงวัยออกเรือนแล้ว ข้าเห็นว่านางสนิทสนมกับองค์ชายเจ็ดพอสมควร วันนี้จึงมาปรึกษา” ฮองเฮารับหน้าที่เป็นแม่สื่อให้อีกฝ่ายหนึ่ง

อู๋ฮูหยินขมวดคิ้วมีสีหน้าครุ่นคิดแล้วตอบสหายสนิทไปว่า “เรื่องของหัวใจ หม่อมฉันว่าปล่อยให้เด็ก ๆ เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อนจะดีกว่า”

“กังวลเรื่องใดอยู่หรือ ข้านึกว่าเจ้าจะตอบตกลงทันทีที่ข้าเอ่ยปากเสียอีก” นางนึกสงสัยว่าเป็นเพราะเหตุใด

“หม่อมฉันไม่แน่ใจนัก” สายตาของนางมองไปที่บุตรสาว เวลานี้อู๋เยว่ชิงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลาอีกฝั่งหนึ่งอยู่เพียงลำพัง

ครั้นผ่านไปหนึ่งชั่วยาม อู๋เยว่ชิงจึงออกไปเดินเล่นทางสวนดอกไม้ฝั่งวังหลวงบ้างเหมือนเช่นเคย โดยไม่ลืมถือของฝากไปให้องค์ชายเจ็ดที่ตำหนักของเขา

บ่อยครั้งจึงมักสวนทางกับหลินซีเวย แม้นางจะยิ้มให้อีกฝ่ายหรือทำท่าเอ่ยปากทักทายแต่องค์ชายสามผู้เคร่งขรึมก็มักจะเบือนหน้าหนีอย่างไม่ใยดีทำให้นางรู้สึกเศร้าใจโดยไม่รู้ตัว

เมื่อมาถึงตำหนักของหลินมู่หลง เขาจึงปลอบใจนางยกใหญ่ ไม่นานนักรอยยิ้มสดใสของอู๋เยว่ชิงก็ผุดขึ้นมาตามเดิมราวกับลืมไปแล้วว่าเมื่อครู่เพิ่งได้รับการปฏิบัติแย่ ๆ จากผู้ใดมาก่อน

“ขอบพระทัยเพคะ” นางรับภาพวาดที่เขาตั้งใจรังสรรค์อยู่หลายวันมาดูรายละเอียด สีหน้าชื่นชมของอู๋เยว่ชิงทำให้หลินมู่หลงอมยิ้มดีใจไม่น้อย นางบอกเขาว่า “สวยงามมากเพคะ”

“ข้าตั้งใจวาดเพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลย เยว่ชิง” น้ำเสียงอบอุ่นของเขาแตกต่างจากใครบางคนอย่างเห็นได้ชัด

“ภาพวาดเช่นนี้ ทรงสอนหม่อมฉันได้หรือไม่” อู๋เยว่ชิงออดอ้อนคนตรงหน้าเพราะอยากเรียนรู้จากจิตรกรผู้มีพรสวรรค์มากที่สุดในเมืองไท่หยาง

“ข้าก็สอนเจ้ามาตลอดแต่ว่า...” องค์ชายเจ็ดได้ทีหยอกล้อนางพลางหยิบพู่กันยื่นให้คนตรงหน้า

“หม่อมฉันรู้เพคะว่าฝีมือเทียบไม่ได้ แต่ว่าทรงเบื่อที่จะสอนหม่อมฉันแล้วหรือ” อู๋เยว่ชิงหยิบพู่กันนั้นมาถือไว้ก่อนจะหันไปสบประสานดวงตาสีน้ำตาลอีกครั้งหนึ่ง

“เจ้าเห็นข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ” เขาเอื้อมมือมาจับมือข้างที่นางถือพู่กันเอาไว้ “ตั้งใจเรียนดี ๆ เล่า อย่าให้อาจารย์เสียชื่อ”

“เพคะ” นางพยักหน้าอมยิ้มเพราะรู้ดีว่าเขามักจะทำตามที่นางขออยู่เสมอ ทั้งใจอ่อนและอบอุ่นเกินกว่าผู้ใด

การกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของหลินซีเวยทั้งหมด แล้วแผนการของเขาจึงได้เริ่มต้นขึ้น ในเมื่อเขาไม่สามารถทำลายนางได้ด้วยพลังมารเพราะฉะนั้นวิธีการแยกนางจากคนที่รักจนนางตรอมใจตายอาจเป็นหนทางที่ดีก็เป็นได้

“มนุษย์นั้นอ่อนแอเพราะความรัก ไม่แน่ว่านางอาจจะเจ็บปวดจนพลังที่ปกป้องนางอยู่เสื่อมถอยขอรับ” โจวเหวินหลงเอ่ยปากย้ำอีกครั้งให้จอมมารเจ้าวางแผนมั่นใจ อย่างน้อยเขาก็หาหนทางมาเสนออยู่บ่อยครั้งเพื่อไม่ให้เจ้านายจับได้ว่างานที่มอบหมายไปยังไม่อาจได้คำตอบ

“ข้าทำตามที่เจ้าบอกก็จริง แต่ใช่ว่าข้าลืมที่สั่งให้เจ้าหาจุดอ่อนนาง” หลินซีเวยปรายหางตามองลูกน้องทั้งสอง พลังมารสีดำหมุนวนอยู่รอบมือของเขาราวกับข่มขู่

“ข้าจะรีบทำตามที่สั่งขอรับ” เฉินซือหยางพยักหน้าแล้วหายตัวไปจากที่นั่นก่อนจะโดนเจ้านายเลือดร้อนระบายอารมณ์พลางบ่นงุบงิบกับโจวเหวินหลงว่า “นอกจากนายท่านจะเป็นจอมมารผู้เหี้ยมโหดไร้เทียมทานแล้ว ยังคงต้องยกรางวัลจอมมารผู้มีความพยายามเป็นเลิศให้ด้วยกระมัง”

“ในเมื่อนางเป็นผู้ที่สามารถสังหารนายท่านได้ เป็นเจ้าจะปล่อยผ่านไปง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ” โจวเหวินหลงหรี่ตามองคนข้างกาย “ครั้นจะให้พวกเราสังหารนางจนตายจากก็เกรงว่าร่องรอยของนางจะหายไปยามที่ต้องเกิดใหม่ คงใช้เวลานานเหมือนที่ผ่านมาอีก”

เฉินซือหยางเห็นด้วย หากไม่ใช่ว่านางมีอะไรบางอย่างผูกโยงกับเจ้านายของตนอย่างครั้งนี้แล้วล่ะก็คงจะไม่มีทางหานางเจอได้ง่าย ๆ แน่นอน “แล้วเจ้าว่านางจะเป็นทุกข์จนพลังอ่อนแอได้จริงหรือ”

“ทั้งเจ้าและข้าล้วนผ่านเรื่องราวพวกนั้นมานับไม่ถ้วน ลึก ๆ แล้วสัตว์อสูรกับปีศาจอย่างพวกเราก็ยังคงเจ็บปวดเพราะความรักได้มิใช่หรือ”

เฉินซือหยางนึกถึงวันวาน เมื่อสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปทำให้เขาเกิดบ้าคลั่งขึ้นมาจนถูกมารปีศาจกัดกิน “เวลานั้นนายท่านคงจะใช้พลังมารค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในแก่นวิญญาณของนางแล้วบีบทำลายจนสลายไป”

“คงต้องเป็นเช่นนั้น” โจวเหวินหลงถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วกลายร่างเป็นมังกรดำบินหายไปในหมู่ก้อนเมฆ

จากนั้นไม่นาน ฮ่องเต้เมืองไท่หยางได้มีรับสั่งเรียกองค์ชายเจ็ดเข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับกิจการบ้านเมืองตามคำยุยงของหลินซีเวยผู้เป็นโอรสคนโปรด

“เสด็จพ่อทรงหมายถึงอันใดหรือ” หลินมู่หลงทวนซ้ำเพราะคิดว่าได้ยินไม่ชัดและไม่เคยคาดมาก่อนว่าเขาจะต้องทำเช่นนั้นจริง ๆ

“เจ้าจำองค์หญิงสือหลิวได้หรือไม่” เขากล่าวนำก่อนจะเข้าเรื่อง “นางเคยมาที่วังหลวงกับพระสนมเมืองหมิงเหวินเมื่อวัยเยาว์”

“จำได้พ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายเจ็ดไม่เคยลืมเด็กน้อยในวันนั้นเพราะนางคือรักแรกของเขา

การปกครองของราชวงศ์เมืองหมิงเหวินไม่เหมือนกับเมืองอื่น ๆ ที่แห่งนั้นสตรีสามารถขึ้นเป็นใหญ่เหนือผู้ใดได้หากนางมีความสามารถในการนำทัพออกรบ

องค์หญิงสือหลิวจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ที่มีสิทธิ์ครองบัลลังก์ แต่ฮ่องเต้เมืองหมิงเหวินมีเงื่อนไขว่านางจะต้องอภิเษกก่อนวันขึ้นครองราชย์

“ข้าเพิ่งได้รับสาสน์จากฮ่องเต้เมืองหมิงเหวิน” ผู้เป็นบิดาทำหน้าหนักใจอยู่ครู่หนึ่งเพราะรู้ดีว่าองค์ชายเจ็ดมีใจให้ผู้ใด “องค์หญิงต้องการอภิเษกกับเจ้าเพียงผู้เดียว”

ฮ่องเต้มิได้คาดหวังว่าบุตรชายของตนต้องตอบรับเพราะไม่เคยต้องบังคับใจของลูกคนใด แม้ว่าฝั่งนั้นจะเป็นเมืองที่เก่งกาจด้านการรบเพียงใด แต่เขาก็พร้อมจะปฏิเสธหากบุตรชายไม่ตกลง

“ลูกจะแต่งกับองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ” หลินมู่หลงตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่าหากไม่ชอบพอ เจ้าจะปฏิเสธไปย่อมได้” ฮ่องเต้ไม่คาดคิดมาก่อนว่าองค์ชายเจ็ดจะตอบตกลงอย่างง่ายดายเพียงนี้ ไม่แม้แต่จะขอเวลาคิดทบทวนเสียด้วยซ้ำ

“เสด็จพ่อ ลูกมีอะไรจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายเจ็ดเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฮ่องเต้เมืองไท่หยางฟัง คนเป็นพ่อได้แต่ตกใจที่ตนเองและฮองเฮาเดาผิดไปทั้งหมด

“เป็นเช่นนั้นหรือ” น้ำเสียงไม่แน่ใจของฮ่องเต้ทำให้หลินมู่หลงอมยิ้ม

“พ่ะย่ะค่ะ” รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้าหล่อเหลา ความสุขล้นปรี่ไม่คิดว่าจะได้ยินข่าวดีเร็วเช่นนี้พลางคิดในใจ ไม่นึกว่าเจ้าจะจำสัญญาระหว่างเราได้ องค์หญิงสือหลิว

สัญญาเมื่อวัยเยาว์ตอนที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรก องค์หญิงเมืองหมิงเหวินไล่ตามองค์ชายเจ็ดอย่างไม่ลดละเพียงเพื่อบอกว่าเขาคือผู้ชายที่นางจองตัวเอาไว้

เวลานั้นหลินมู่หลงถึงกับหลุดหัวเราะออกมาไม่คิดว่าองค์หญิงจากต่างแดนจะมีทีท่าแก่นแก้วและไม่ปิดบังความรู้สึกของตนเองอย่างสตรีชั้นสูงในเมืองไท่หยาง

“องค์ชาย ทรงรับปากกับหม่อมฉันเร็วเข้า อย่าทรงอภิเษกกับผู้ใดนะเพคะ” สีหน้าจริงจังของนางทำให้เขาต้องรีบรับปากโดยเร็ว

“อืม กระหม่อมจะรอจนกว่าจะถึงวันนั้นพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง” เขาตอบรับพลางยื่นของขวัญชิ้นสำคัญให้นางในวันที่ทั้งคู่ต้องแยกจากกันไปทำหน้าที่ของตน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 24 ดวงชะตากำราบมาร

    ครั้นได้ยินข่าวลือจากในวังหลวงว่าหลินมู่หลงจะต้องอภิเษกกับองค์หญิงต่างเมือง อู๋เยว่ชิงก็รีบวิ่งไปถามความจริงจากอีกฝ่ายในทันทีสายตาของใครบางคนที่แอบอยู่ด้านหลังต้นหลิวมองทั้งคู่ด้วยความเจ้าเล่ห์ ยิ่งเห็นว่านางร้องไห้ฟูมฟาย น้ำตานองหน้าก็ยิ่งสะใจจนอดไม่ได้ยิ้มร้ายออกมาอู๋เยว่ชิงไม่มีโอกาสได้ทำใจมากกว่านั้นเพราะช่วงเวลาที่หลินมู่หลงจะต้องเดินทางไปยังเมืองหมิงเหวินมาถึงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้มาก“เหตุใดจะต้องเร่งไปถึงเพียงนี้ หม่อมฉันยังทำใจจากองค์ชายไปไม่ได้เลย” นางเม้มปากพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้เอ่อไหล“ข้าสัญญาว่าจะเขียนจดหมายมาหาเจ้าบ่อย ๆ” องค์ชายเจ็ดสวมกอดนางปลอบโยนด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่ให้เวลานางได้ทำใจสักหน่อย “เห็นเจ้าร้องไห้เช่นนี้แล้ว ข้าควรทำอย่างไรดีเยว่ชิง”“จะทำอย่างไรได้ รีบไปเสียทีสิ” เสียงของใครบางคนไม่สบอารมณ์ปรายตามองทั้งสองคนอยู่อีกมุมหนึ่งโดยไม่สนว่าบรรยากาศในที่แห่งนั้นกำลังเศร้าสร้อยนับตั้งแต่หลินมู่หลงไม่อยู่ในวังหลวงแห่งนี้แล้ว อู๋เยว

    Last Updated : 2025-02-09
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 25 แก้เคล็ด

    สายตาของทุกคนหันไปมองอู๋เยว่ชิงอย่างพร้อมเพรียงกัน นึกสงสัยว่าเหตุใดนางจึงมีดวงชะตากำราบมาร ครั้นเมื่อฟังสิ่งที่นักพรตชรากล่าวแล้วจึงเข้าใจในที่สุดแม้วิธีแก้เคล็ดนั้นจะไม่ถูกใจหลินซีเวยแต่เวลานี้เขาไม่มีแรงมากพอที่จะคัดค้านสิ่งใด ทั้งยังไม่สามารถใช้พลังมารบังคับคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นหรือโน้มน้าวตามใจตัวเองได้เพราะเสี่ยงที่นักพรตจะจับได้ในทันทีว่าตัวเขาคือจอมมารที่แฝงอยู่ในร่างของมนุษย์การโดนกำจัดไม่ได้ยุ่งยากหรือลำบากจอมมารนัก อย่างไรเสียเขาสามารถฟื้นคืนขึ้นมาใหม่ทุกครั้งที่พลังมารมากพออยู่แล้ว แต่เป็นเพราะเกรงว่าจะตามหาตัวผู้มีดวงกำราบมารไม่ทันการจนส่งผลเสียต่อตัวเขาเองมากกว่าจึงต้องยั้งมือเอาไว้แล้วค่อยหาทางแก้ในคราวหลัง“ท่านนักพรตหมายความให้ข้าน้อยแต่งงานกับองค์ชายสามหรือเจ้าคะ” อู๋เยว่ชิงไม่เชื่อหูตนเอง สายตาของนางเหลือบมองหลินซีเวยที่หลับนิ่งอยู่บนเตียงเมื่อนักพรตชราพยักหน้า ฮองเฮาจึงเดินมากุมมืออู๋เยว่ชิงไว้พลางขอร้องให้ช่วยบุตรชายของนาง ไม่ว่าจวนแม่ทัพต้องการสิ่งใด นางจะหามาให้ทั้งหมดเพื่อเป็นการ

    Last Updated : 2025-02-13
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 26 ความรักคือสิ่งใด

    ในวันต่อมาหลินซีเวยยังคงปฏิบัติกับอู๋เยว่ชิงเหมือนเดิม ทั้งพูดจาไม่เข้าหู ปัดถ้วยโอสถกระเด็น และอีกสารพัดที่นึกอยากจะทำเพื่อให้อีกฝ่ายไปให้พ้นหน้าทว่า อู๋เยว่ชิงยังคงอดทนทำให้เขาตามที่นักพรตชราสั่งเอาไว้ไม่ขาดตกบกพร่องจนกระทั่งผ่านพ้นวันต้องห้าม“องค์ชาย ทรงเป็นอย่างไรบ้าง” ฮองเฮาเข้ามาเยี่ยมบุตรชายทันทีที่พ้นฤกษ์ยาม เวลานี้สีหน้าของหลินซีเวยดีขึ้นเล็กน้อย นางจึงเชื่อว่าการทำพิธีแต่งงานกับอู๋เยว่ชิงจะช่วยปัดเป่าไอมารปีศาจจากองค์ชายสามได้“ข้าไม่เป็นอันใด” เขาตอบอย่างขอไปที “รีบให้นางออกไปจากตำหนักของข้าได้แล้ว”“เจ้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกน้องสาม” ไท่จื่อส่ายหน้าแล้วอธิบายว่า “ท่านนักพรตบอกว่าดวงชะตาของพวกเจ้าผูกพันกัน เพราะมีนางอยู่ข้างกาย เจ้าจึงไม่ถูกไอมารปีศาจครอบงำ”“เสี่ยวเยว่ชิงตั้งใจดูแลองค์ชายเป็นอย่างดี พ่อว่าไม่มีใครเหมาะสมกับเจ้าไปมากกว่านางอีกแล้ว” ฮ่องเต้พูดขึ้นมา สีหน้าพึงพอใจและกำลังคิดบางอย่างอยู่ “เจ้าและนางก็ถึงวั

    Last Updated : 2025-02-15
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 27 ลองทำดี

    เมื่อได้ยินดังนั้นหลินซีเวยจึงถามต่ออีกว่า “หากนางรักข้า ข้าควรทำเช่นไรให้นางรักจนยอมตายเพื่อข้าได้เล่า”เรียวคิ้วของเฉินซือหยางขมวดชนกัน “ข้าเป็นปีศาจอาจจะไม่สามารถล่วงรู้ความรู้สึกของมนุษย์ได้แน่ชัด นายท่านลองอ่านหนังสือพวกนั้นดูเถิดขอรับ”เขาชี้ไปที่ตู้ไม้มุมห้อง ในนั้นมีหนังสือเขียนเกี่ยวกับมนุษย์มากมายให้ค้นหา หลินซีเวยกวาดสายตามองแต่ไกลเพื่อเลือกหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง“ไม่เห็นจะมีอันใดน่าสนใจ” เขาส่ายหน้าแล้วร่ายพลังเผามันทิ้งอย่างไม่ใยดีเฉินซือหยางคิดหนักกว่าเดิมแล้วบอกให้เจ้านายรออยู่ครู่หนึ่งก่อนกลับมาพร้อมหนังสือกองใหญ่ “นายท่านลองอ่านพวกนี้ดูก่อนขอรับ ข้าเห็นมนุษย์หลายคนชอบอ่านยิ่งนัก”จอมมารผู้อ่อนต่อโลกสุ่มหยิบเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิดอ่าน ในเวลาหนึ่งก้านธูปเขากลับอ่านหนังสือเล่มหนาได้จนจบเล่ม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จึงผุดขึ้นมาในทันทีแล้วหยิบหนังสือเล่มอื่น ๆ มาอ่านต่อโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างคืนนั้น จอมมารอ่านหนังสือกองพะเนินจนครบทุกเล่มโดยไม่หลับไม่นอนพลั

    Last Updated : 2025-02-17
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 28 อธิษฐาน

    ผ่านไปสามวันหลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองดีขึ้นจากแต่เดิมอยู่มาก แม้กระทั่งฮ่องเต้และฮองเฮายังรู้สึกแปลกใจที่จู่ ๆ บุตรชายเปลี่ยนไปมากเพียงนั้นกระนั้นก็ทำให้พวกเขาทั้งคู่พอจะวางใจไปได้บ้างเพราะสุดท้ายแล้วการแต่งงานแก้เคล็ดในครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าแรกเริ่มที่พวกเขาได้ยินจากปากของอู๋ฮูหยินว่าบุตรสาวของนางแอบรักองค์ชายสามมานานแล้วก็ได้แต่คิดว่าอู๋เยว่ชิงช่างน่าสงสารที่ถูกบุตรชายของตนผลักไสไล่ส่งยิ่งต้องให้นางช่วยผูกดวงชะตาเพื่อรักษาอาการของเขาแล้วก็ยังรู้สึกว่าละอายใจไม่น้อยที่ต้องขอให้ช่วยเช่นนี้ แต่อู๋เยว่ชิงกลับรับปากและบอกว่านางจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขาอย่างสุดความสามารถคราวนี้ได้เห็นว่าความรักของนางได้รับการตอบแทนกลับมาบ้างแล้วจึงโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกหากแต่เรื่องราวลับคมคมในนี้มีเพียงแค่ฝ่ายจอมมารเท่านั้นที่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่สักวันหลินซีเวยจะหักหลังอู๋เยว่ชิงและสังหารนางอย่างเจ็บปวดการถูกหักหลังจากคนที่รักและไว้ใจที่สุดจะเป็นอย่างไร หลินซีเวยแทบรอที่จะได้เห็นสี

    Last Updated : 2025-02-19
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 29 ความรู้สึกเปลี่ยนไป

    หนึ่งเดือนผ่านไปราวกับว่ากำลังใจจากอู๋เยว่ชิงเป็นโอสถชั้นดี ร่างกายของหลินซีเวยจึงดีขึ้นเป็นลำดับแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง เวลานี้จึงพอที่จะเดินเล่นนอกตำหนักได้บ้างแล้วนับเป็นครั้งแรกที่เหล่าขันทีและนางในได้เห็นองค์ชายสามและชายาประทับอยู่ในสวนดอกไม้ สายตาทุกคู่เห็นพ้องต้องกันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาราวกับคนรักกันก็มิปานการกระทำของหลินซีเวยไม่มีปิดบัง การแสดงออกของเขาทำให้หลายคนได้ตระหนักว่าองค์ชายสามผู้นี้ก็มีด้านที่อบอุ่นและอ่อนโยนเช่นกัน“เทศกาลชมจันทร์ใกล้เข้ามาแล้ว เจ้าอยากไปเที่ยวชมหรือไม่เยว่ชิง” หลินซีเวยเอ่ยปากชวนนาง สีหน้าคาดคั้นหวังว่านางจะตอบรับคำขอ“เพคะ” รอยยิ้มบางของนางถือเป็นคำตอบ อู๋เยว่ชิงไม่เคยปฏิเสธคำขอของเขาสักครั้ง“เช่นนั้นเจ้าเตรียมตัวไว้ให้ดีเถิด” เขาบอกกล่าวอย่างมีเลศนัยพลางเอื้อมมือมากุมมือสองข้างของนางไว้ “ขอบคุณที่ดูแลข้ามาตลอด”“หม่อมฉันเต็มใจเพคะ” อู๋เยว่ชิงยิ้มให้เขา “หม่อมฉันไม่หวังสิ่งใดไปมากกว่านี้แ

    Last Updated : 2025-02-21
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 30 ปีศาจอย่างข้า

    หลายวันต่อมาจู่ ๆ หลินซีเวยอารมณ์ดีนึกชวนอู๋เยว่ซินไปขอพรที่วัดบนเขา ทั้งสองจึงตระเตรียมข้าวของไปสักการะตามธรรมเนียม“เสด็จพี่ ทรงคิดถึงสิ่งใดอยู่หรือเพคะ” นางเอ่ยปากถามคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ หลินซีเวยหลับตาคิ้วขมวดราวกับครุ่นคิดบางอย่างพลันรอยยิ้มมุมปากเชิดขึ้นเพราะได้ยินนางเรียกเขาเช่นนั้น“ขอพรให้มีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับเราสองคนอย่างไรเล่า” เขากระซิบข้างหู “หากมีเจ้าตัวเล็กวิ่งเล่นอยู่ในตำหนักจันทราคงจะดีไม่น้อย”แก้มสองข้างของอู๋เยว่ชิงแดงระเรื่อรู้ดีว่าเขาหมายถึงสิ่งใด ครั้นนึกถึงช่วงเวลาที่จะทำให้เกิดเจ้าตัวเล็กอย่างที่ว่าก็ไม่วายเขินอายอยู่ร่ำไปจึงต้องรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เขาจะแกล้งนางไปมากกว่านี้หลังจากใช้เวลาอันสงบนิ่งบนเขาอยู่พักหนึ่ง เจ้าอาวาสประจำวัดก็เดินออกมาพบทั้งคู่ สายตามองหลินซีเวยราวกับค้นหาบางอย่างที่ซ่อนอยู่แล้วถอนหายใจฝ่ายองค์ชายสามเห็นดังนั้นรู้ดีว่าคนตรงหน้ามองเห็นไอมารจาง ๆ ในตัวเขาจึงกล่าวไม่ให้ผู้ใดคลางแคลงใจ มารโดยกำเนิดอย่างเขาไม่ว

    Last Updated : 2025-02-23
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 31 หึงหวง

    ผ่านไปสองเดือนฮ่องเต้เมืองไท่หยางได้จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการอภิเษกขององค์ชายสามกับบุตรสาวแม่ทัพอย่างยิ่งใหญ่เพื่อแสดงความยินดีกับทั้งคู่อย่างเป็นทางการเจ็ดวันเจ็ดคืนนอกจากนั้นยังเป็นการจัดงานรื่นเริงอวยพรให้องค์ชายสามมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงอีกด้วยวังหลวงถูกประดับตกแต่งด้วยผ้าหลากสีสัน ห้อยโยงระย้าสวยงาม ทั้งยังมีโคมไฟลวดลายต่าง ๆ ห้อยไว้อยู่ทุกหนแห่ง ยามค่ำคืนดวงไฟนั้นจะส่องแสงสว่างสะท้อนภาพบนกระดาษที่ใช้ทำโคมไฟสิ่งที่ทำให้อู๋เยว่ชิงตื่นเต้นมากที่สุดคือการมาเยือนของหลินมู่หลงสหายรักของนางที่เดินทางกลับมายังเมืองไท่หยางพร้อมชายาของตนครั้นได้พบหน้ากัน อู๋เยว่ชิงจึงอดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งไปหาเขาด้วยความคิดถึง รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นมา ทั้งยังท่าทางสนิทสนมระหว่างคนทั้งคู่ก็ทำให้ใครบางคนนิ่วหน้าในทันที“องค์หญิงสือหลิว ยินดีด้วยเพคะ” อู๋เยว่ชิงกล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเป็นกันเองก่อนหน้านี้ได้อ่านจดหมายจากองค์ชายเจ็ดจึงพอได้รู้แล้วว่าองค์หญิงสือหลิวกำลังทรงพระครรภ์ นางจึงพลอยดีใจ

    Last Updated : 2025-02-25

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 40 โกลาหล

    หลินซีเวยสัมผัสได้ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วเขาจึงปลุกให้อู๋เยว่ชิงตื่นจากหลับฝัน เสียงอึกทึกครึกโครมดังมาถึงตำหนักจันทราจนทำให้นางอกสั่นขวัญแขวนไปด้วยดวงตาสีฟ้ามองอีนั่วที่กำลังหลับแล้วสบตากับหลินซีเวย “ไม่จริงใช่หรือไม่เพคะ ไม่ใช่ฝีมือของลูก”เขาส่ายหน้าปิดบังความจริง “อย่ากังวลไปเลย ลูกเราไม่มีทางทำอันใดเช่นนั้นได้หรอก เชื่อข้าเถอะนะเยว่ชิง”“เพคะ หม่อมฉันเชื่อ ไม่ว่าอย่างไรอีนั่วก็เป็นลูกของเรา ไม่มีทางเป็นมารปีศาจอย่างแน่นอน”ใบหน้าของหลินซีเวยซีดเผือดเพราะพลังมารของอีนั่ว เขาจึงหลบหน้าชายาตนเองเพราะไม่อยากให้เป็นห่วงก่อนจะอุ้มอีนั่วขึ้นมา “เยว่ชิง วังหลวงคงไม่ปลอดภัยแล้ว เรารีบหนีออกไปหลบอยู่ที่จวนแม่ทัพใหญ่สักพักเถิด”

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 39 มารปีศาจอาละวาด

    เช้าวันต่อมาองครักษ์ส่งข่าวให้ทุกคนในวังหลวงได้รับรู้ว่านักพรตชราผู้นั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ความสิ้นหวังจึงมาเยือนคนในตำหนักจันทรายิ่งนักอู๋เยว่ชิงกอดอีนั่วเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเพราะนางสัมผัสได้ว่ายามที่อีนั่วอยู่กับนาง อาการทรมานจะไม่แสดงออกมา หากแต่เมื่อใดที่นางเผลอหลับใหล พลังมารของอีนั่วกลับปะทุขึ้นมาทีละนิดจนมิอาจกลั้นนับวันยิ่งควบคุมไม่ได้ อู๋เยว่ชิงอดนอนฝืนตัวเองดูแลอีนั่วจนหลินซีเวยรู้สึกเป็นห่วงนางไม่แพ้กัน แต่เขากลับโทษตัวเองที่ทำอันใดเพื่อช่วยคนที่เขารักทั้งสองคนไม่ได้เลย“หม่อมฉันไม่เป็นอันใดเพคะ” นางลูบใบหน้าซูบเซียวของหลินซีเวยทั้งที่มือของนางแทบไม่มีแรงเหลือเขาแนบใบหน้ากับฝ่ามืออบอุ่นนั้น สายตาห่วงใยฉายชัดแต่ก็จำต้องแอบให้นางดื่มสมุนไพรเพื่อพัก

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 38 ปีศาจน้อย

    “องค์ชายสาม ไม่ได้พบพระองค์มานานพระวรกายแข็งแรงดีแล้วใช่หรือไม่” นักพรตผู้นั้นถามไถ่แล้วมองมารน้อยที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มไร้เดียงสาหลินซีเวยท่าทางนอบน้อม “เรื่องครั้งนั้น ข้ารู้สึกขอบคุณท่านเป็นอย่างมาก เวลานี้อาการเจ็บป่วยไม่รู้สาเหตุจึงหายเป็นปลิดทิ้ง”ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่พึมพำว่า “ดีแล้ว” จากนั้นจึงยื่นมือมาหามารน้อยบ้าง อีนั่วผู้เป็นมิตรกับทุกคนจึงวางมือลงบนฝ่ามือของนักพรตชราอย่างไม่คิดระแวงครั้นคนตรงหน้าสัมผัสได้ว่าพลังมารแฝงอยู่ในแก่นวิญญาณจึงคิดไปว่าอาจจะเป็นผลทำให้อีนั่วต้องเจ็บป่วยเหมือนอย่างที่หลินซีเวยเคยประสบพบเจอ แต่พอได้ยินเสียงหง่าวดังมาจากด้านล่างจึงเข้าใจได้ว่าครั้งนี้คงจะไม่เกิดเหตุซ้ำรอยอย่างแน่นอน“แมวน้อยตัวนี้มาจากที่ใดหรือ” เขาเอ่ยถามอู๋เยว่ชิงเพราะสัมผัสไ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 37 เหตุใดไม่กอดข้าบ้าง

    หลายวันต่อมาบรรดาปู่ย่าตายายของอีนั่วมาหาหลานพร้อมของรับขวัญเต็มไม้เต็มมือ ทั้งกำไลหยก กำไลเงิน แผ่นทองคำ จี้ทองและอีกสารพัดจนกล่องของขวัญในตำหนักจันทรากองพะเนินญาติสนิทมิตรสหายหลั่งไหลมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย แม้กระทั่งคนที่อยู่ไกลอย่างหลินมู่หลงยังส่งจดหมายมาแสดงความยินดีกับอู๋เยว่ชิงเจ้าตัวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยามที่อ่านจดหมายทางไกลนั้น เรียกความอิจฉาเล็กน้อยจากเจ้าของตำหนักอย่างยิ่ง อู๋เยว่ชิงพลันรู้สึกได้ว่าสายตาใครบางคนมองนางมาตั้งแต่เมื่อครู่จึงค่อย ๆ หันกลับไป คลี่ยิ้มบางเรียกอีกฝ่ายเสียงหวาน “เสด็จพี่เพคะ”หลินซีเวยได้ยินนางเรียกรีบเดินเข้ามาหา “เจ้าคิดว่าทำเช่นนี้แล้วข้าจะปล่อยไปง่าย ๆ หรือ”“ทรงก้มลงมาใกล้ ๆ หม่อมฉันได้หรือไม่เพคะ”

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 36 ลูกพ่อ... อยากมีน้องสาวหรือไม่

    ผ่านไปสามเดือนอู๋เยว่ชิงรับรู้ได้ว่าลูกน้อยในท้องกำลังอารมณ์ดีเพราะได้ออกมาเดินเล่นในสวนดอกไม้ข้างนอกบ้างหลังจากต้องอุดอู้อยู่ในตำหนักหลายวันเพราะนางต้องคอยดูแลหลินซีเวยที่จู่ ๆ ก็เจ็บออดแอดขึ้นมา“เจ็บมากหรือไม่เพคะ” อู๋เยว่ชิงถามไถ่อาการของเขาด้วยความเป็นห่วง หลายวันมานี้ใบหน้าของหลินซีเวยซีดเผือดไปมากนัก นางนึกว่าอาการแพ้ท้องจะหายไปแล้วแต่เขากลับเป็นหนักกว่าเดิมจนได้“อย่ากังวลเลย ยิ่งเจ้าทำหน้าขมวดคิ้วชนกันอย่างนี้แล้วเดี๋ยวอีนั่วจะพลอยเป็นห่วงเจ้าไปอีกคน” องค์ชายสามลูบใบหน้านางแผ่วเบาพลางจิ้มนิ้วยืดคิ้วที่ขมวดเป็นปมออกแล้วบอกคนตรงหน้าว่า “เจ้านั่งเล่นกับลูกอยู่ตรงนี้สักพักหนึ่งเถอะ ข้าขอไปนอนงีบรออยู่ข้างในตำหนัก”“หม่อมฉัน...” อู๋เยว่ชิงคิดจะตามไปดูแลเขาด้วยแต่อีนั่วน้อยคงไม่ยอม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 35 สุสานเทพเซียน

    วันต่อมาหลังจากฮ่องเต้ฟ่านเจียรุ่ยหารือกับเหล่าขุนนางในท้องพระโรงร่วมกับองค์ชายและคณะทูตเกือบทั้งวันจึงได้เชิญชวนให้ทุกคนอยู่ร่วมงานต้อนรับในค่ำคืนนั้นด้วยการแสดงร่ายรำจากสตรีงามดึงดูดใจคณะทูตต่างเมืองจนพากันพูดเป็นเสียงเดียวว่ายอดเยี่ยมยิ่งนัก นางกำนัลหลายร้อยคนนำเหล้าสุรารสเลิศที่หมักบ่มเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ รวมถึงอาหารพื้นเมืองประจำแคว้นทยอยออกมาวางบนโต๊ะยาวเพื่อรับรองแขกบรรยากาศรื่นเริงเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเองเพราะคนในแคว้นอันซีต่างเป็นมิตรกันทั้งนั้นหลินมู่หลงมองไปยังฮ่องเต้และบรรดาชายาสนมเอกของเขาแล้วยิ้มออกมา “หากข้ามีสนมมากมายเช่นนั้น สือหลิวคงจะทุบหลังข้าหักเป็นสองท่อนแน่ ๆ เลยพี่สาม”“วันหนึ่งเจ้าต้องกลายเป็นฮ่องเต้เมืองหมิงเหวิน อย่าง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 34 ห่างไกลกัน

    หนึ่งเดือนต่อมา ณ ตำหนักจันทรา“เยว่ชิง เจ้าดูนี่สิ วันนี้ข้าสั่งให้คนนำดอกไม้ที่เจ้าชอบมาปลูกในสวน ถึงวันที่เจ้าคลอดเมื่อใด ดอกไม้พวกนี้คงจะบานสะพรั่งพอดี” หลินซีเวยเอ่ยปากบอกพลางกุมมืออู๋เยว่ชิงที่กำลังลูบท้องของตนเอง“พระวรกายดีขึ้นแล้วหรือเพคะ ไม่กี่วันก่อนยังทรงพระอาเจียนอยู่เลย” นางยังคงนึกเป็นห่วงอาการแพ้ท้องแทนของหลินซีเวยเหมือนทุกครั้ง แต่คนข้าง ๆ ก็ยังตื่นเต้นกับการจะได้เป็นพ่อคนครั้งแรกจึงไม่สนใจร่างกายของตนเอง“เจ้าอย่าได้กังวลเรื่องนั้นเลย เห็นเจ้ากับลูกสบายดี ข้าก็โล่งใจมากแล้ว” มือหนาลูบเรือนผมของนางอย่างแผ่วเบา “ข้ามีของขวัญอีกหนึ่งชิ้นให้เจ้า”หลินซีเวยหยิบปิ่นหยกเขียวบริสุทธิ์ออกมาให้นางดู ตรงด้ามสลักคำว่า รักมั่นนิรันดร์ ก่อนจะปักปิ่นบนเรือนผมให้ชายาของตนเอง“ขอบพระทัยเพคะ” อู๋เยว่ชิงยิ้มกว้างและรู้สึกขอบคุณความเอาใจใส่ดูแลของหลินซีเวยยิ่งนัก หนึ่งเดือนมานี้เขาตั้งหน้าตั้งตาทำทุกอย่างให้นางจนนางแทบไม่ต้องแตะต้องอันใดเลย แม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 33 แพ้ท้องแทน

    คืนนั้น ข่าวคราวของชายาองค์ชายสามแพร่สะพัดไปทั่ววังหลวง ปีนี้นับว่ามีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาจนใครหลายคนพากันขอบคุณสวรรค์หลังจากหมอหลวงกลับออกไป หลินซีเวยยิ่งตัวติดกับอู๋เยว่ชิงไม่ห่างมากกว่าเดิม คอยประคบประหงมดูแลยิ่งกว่าไข่ในหิน“หม่อมฉันดื่มเองได้เพคะ” นางรีบรับถ้วยยามาถือไว้เพราะเกรงใจคนตรงหน้าที่ไม่เคยต้องปรนนิบัติดูแลใครอย่างใกล้ชิดมาก่อน“ข้าอยากดูแลเจ้าเหมือนครานั้นที่เจ้าดูแลข้า ไม่ได้หรือ” หลินซีเวยไม่ยอมปล่อยถ้วยยานั้น อู๋เยว่ชิงไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรจึงได้แต่ทำตามโดยปริยายเช้าวันต่อมาฮ่องเต้และฮองเอาจึงมาแสดงความยินดีกับทั้งสองคนพร้อมอวยพรให้สุขภาพร่างกายของอู๋เยว่ชิงและเด็กน้อยในท้องแข็งแรง ไร้โรคภัยเบียดเบียนไท่จื่อกับชายารวมถึงหลินมู่หลงและองค์หญิงสือหลิวก็มาพร้อมหน้ากัน หากแต่ปฏิกิริยาของหลินซีเวยดูแตกต่างไปจากตอนที่บิดาของเขามาเยี่ยมนักบุรุษใดนอกเหนือจากที่เขาคิดอย่าได้ย่างกรายเข้ามาใกล้นางเป็นอันขาด“พี่สาม ข้าจะขอพบนางสักครู่ไม่ได้หรือ” หลินม

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 32 ท้อง

    เสด็จพี่ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้หรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงถามหลินซีเวยทันทีที่เห็นหน้า“นั่นสิพี่สาม วังหลวงออกจะกว้างใหญ่ บังเอิญจริง ๆ ที่ได้เห็นท่านที่นี่” หลินมู่หลงพูดเบา ๆ แต่อีกฝ่ายกลับตอบว่า “บังเอิญอย่างยิ่งที่มืดค่ำป่านนี้แล้วเจ้ายังไม่กลับตำหนักของตนแต่มาอยู่กับนาง”“พระพักตร์ไม่สบอารมณ์ พระสุรเสียงหงุดหงิด ท่าทางฉุนเฉียว” เสียงขององค์หญิงสือหลิวลอยมาแต่ไกลพลางมองคนของตนเองราวกับจะบอกว่า “เห็นไหมเล่า เป็นอย่างที่ข้าบอกจริง ๆ ด้วย”“เป็นอย่างไรหรือเพคะ” อู๋เยว่ชิงถามนางบ้าง“การกระทำเช่นนี้ องค์ชายสามคงจะตกไหน้ำส้มกระมัง” องค์หญิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา แล้วหันไปบอกกับหลินมู่หลงว่า “เราสองคนขอตัวกลับกันก่อนดีกว่า” แล้วคล้องแขนดึงคนข้าง ๆ ไปทันที“เอ่อ...” หลินมู่หลงกำลังจะเอ่ยปากแต่ทำได้แค่ยกมือโบกลาอู๋เยว่ชิงเท่านั้นดวงตาสีม่วงแดงของหลินซีเวยขุ่นเคืองไม่น้อยจนอู๋เยว่ชิงนึกถึงคำที่องค์หญิงบอกเมื่อครู่ “เสด็

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status