“แกว่าอะไรนะเควิน” เจ้าพ่อใหญ่ตวาดกร้าวราวกำลังเกรี้ยวกราดอย่างสุดแสน
เควิน เมดิสัน ผู้เป็นทั้งคนสนิทและมือขวาของ ดิเอโก เค เวนนิส เจ้าพ่อบ่อนคาสิโนผู้ยิ่งใหญ่ ได้แต่ยืนก้มหน้าสงบนิ่งอย่างยอมรับความผิดพลาดในงานที่ได้รับมอบหมาย ดวงตาสีน้ำทะเลภายใต้แว่นกันแดดสีดำสนิทมองผ่านเลนส์แว่นนั้นจับจ้องที่ผืนพรมนิ่งไม่ไหวติง
“มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง” ดิเอโกเค้นเสียงถามอย่างหงุดหงิดใจเมื่อลูกน้องคู่ใจเอาแต่สงบเงียบ เจ้าพ่อใหญ่หัวเสียกับสิ่งที่ได้รับรู้เมื่อแรกอรุณของวันใหม่ ทั้งที่เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนอิ่มเอมใจ หญิงสาวแสนบริสุทธิ์ผู้เร่าร้อนทำให้กระทิงถึกอย่างเขาคึกคะนองจนแทบไม่ได้หลับนอนตลอดทั้งคืน
“เจ๊ใหญ่บอกว่าผู้หญิงที่เจ๊ส่งตัวมาเกิดหลงทางเลยมาถึงที่นัดหมายช้ากว่ากำหนด แล้วแบตเตอรี่มือถือก็หมดเลยทำให้ติดต่อกันไม่ได้ครับ ดิเอโก”
“แล้วผู้หญิงที่นายพามาเป็นใคร” เจ้าพ่อใหญ่ขมวดคิ้วมุ่นยามตวัดสายตาคมกล้าจับจ้องลูกน้องคนสนิทอย่างคาดคั้น เขาไว้วางใจให้เควินทำงานให้นับครั้งไม่ถ้วนทั้งงานใหญ่งานเล็ก เควินไม่เคยผิดพลาด แต่ทว่าครั้งนี้เควินกลับพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย
“ไม่ทราบครับ ผมเห็นผู้หญิงคนนี้ยืนอยู่ตรงจุดนัดหมาย รูปพรรณสัณฐานการแต่งกายก็ตรงกับที่เจ๊ใหญ่นัดแนะกับเราไว้ ผมก็เลยเข้าใจว่าเป็นคนที่เจ๊ส่งตัวมาครับดิเอโก” เควินรายงานตามความเป็นจริง ภารกิจที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบครั้งนี้ไม่ใช่ไม่เคยทำแต่เขาทำเป็นประจำจนเป็นกิจวัตรเรื่องผิดพลาดควรน่าจะเป็นศูนย์ แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้
“บัดซบ! ใครบังอาจเล่นตลกกับฉัน” ดิเอโกสบถอย่างหัวเสียนัยน์ตาสีสนิมวาวโรจน์ราวมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ในนั้น
“ผมให้คนของเราตามสืบเรื่องอยู่ครับ”
“ดี! ได้เรื่องแล้วรีบรายงานฉันด่วน ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครหน้าไหนมันพยายามมาลูบคมฉัน”
“ครับ! เอ่อ... แล้วผู้หญิงคนนั้นดิเอโกจะให้ผมจัดการยังไงครับ” เควินเอ่ยถามก่อนหลุบหลบสายตาคมกร้าวของเจ้านายหนุ่มเตรียมพร้อมรอรับคำบัญชา
“ไม่ต้อง! นายไปตามสืบเรื่องเถอะ เรื่องผู้หญิงคนนี้ฉันจัดการเอง” คำตอบที่ได้รับทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มต้องเงยหน้าขึ้นมองเจ้าพ่อใหญ่พร้อมขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย
“นายสงสัยอะไรเควิน” ดิเอโกเลิกคิ้วขณะถามเมื่อเห็นสีหน้างุนงงของลูกน้องคนสนิท
“เปล่าครับดิเอโก ผมแค่แปลกใจ” เควินตอบพร้อมลอบอมยิ้มด้วย รู้ว่าเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาเจ้านายใหญ่กับสาวน้อยที่ถูกพามาคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว และเจ้านายของเขาคงพอใจสาวเจ้าไม่ใช่น้อยถึงไม่มีทีท่าเคืองโกรธสักนิดยามเอ่ยถึง แม้จะรับรู้ว่าเกิดเหตุการณ์ผิดฝาผิดตัวเกิดขึ้น
“ตกลงจะยืนยิ้มอีกนานไหม หรือต้องให้ฉันได้ออกกำลังก่อนถึงจะหยุดยิ้มแล้วออกไป”
“ขอโทษครับดิเอโก ลาล่ะครับ” เควินหุบยิ้มฉับแล้วโค้งคำนับก่อนพาร่างสูงใหญ่ถอยห่างออกไปแทบทันที
เควิน เมดิสัน สนิทสนมกับเจ้าพ่อใหญ่มากกว่าเจ้านายลูกน้องธรรมดา เรียกได้ว่ารักกันเสียยิ่งกว่าพี่น้องสายเลือดเดียวกันด้วยซ้ำ เขาสามารถตายแทนดิเอโกได้ทุกเมื่อ เพราะหากไม่ได้ดิเอโกช่วยเหลือไว้ เขาคงกลายเป็นคนจรจัดไม่มีที่ซุกหัวนอนหรือไม่ก็ตายอย่างอนาถท่ามกลางหิมะที่แสนเหน็บหนาวในค่ำคืนนั้น
บอดี้การ์ดหนุ่มทุ่มเทและภักดีต่อดิเอโกเสมอมา งานที่เขาได้รับมอบหมายน้อยครั้งมากที่จะผิดพลาด เขาไม่คิดว่าจะเกิดกับเรื่องที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้านายหนุ่มเช่นนี้ แม้เขาจะเบาใจได้เปลาะหนึ่งเพราะไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงกับดิเอโกตามที่คิดกังวล แต่ก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้หากยังไม่รู้ความเป็นจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุบังเอิญหรือถูกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งส่งมาเป็นนางนกต่อหวังลูบคมเจ้านาย
ดิเอโกมองตามร่างสูงใหญ่ของมือขวาคนสนิทที่เขาไว้ใจมากที่สุดไป เมื่อร่างนั้นหายลับออกจากห้องเจ้าพ่อใหญ่ก็ตวัดสายตาจ้องมองไปที่ประตูห้องนอนด้านใน เขายอมรับว่าติดใจรสสวาทสาวพรหมจรรย์ที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงกว้างหลังประตูบานนั้น แต่หากเธอเป็นนางนกต่อที่ศัตรูหวังส่งมาลูบคม เขาคงยอมไม่ได้ เจ้าหล่อนจะต้องได้รับการลงทัณฑ์อย่างสาสม
เจ้าพ่อใหญ่เดินดุ่มๆ ตรงไปกระชากเปิดประตูห้องนอนออกด้วยแรงโทสะที่เริ่มคุกรุ่นขึ้น ดวงตาสีสนิมคล้ายมีเปลวไฟลุกโชติช่วงยามจับจ้องไปยังเรือนร่างที่นอนสงบนิ่งภายใต้ผ้าห่มผืนหนา
“ดิเอโก” สุพิชญาอุทานตกใจเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วสายตาสบเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ข้างเตียง หญิงสาวผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างเมื่อรับรู้ว่ายามนี้เรือนกายไร้อาภรณ์ใดๆ ห่อหุ้ม ดวงตาคู่หวานหลุบต่ำลงไม่กล้าสบตาเพราะรู้สึกว่าดวงตาสีสนิมที่วาววับคล้ายกำลังขุ่นเคืองคู่นั้นช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน
“คุณเป็นใคร” เสียงทุ้มห้าวตวาดถามด้วยเสียงดังกึกก้องราวต้องการข่มขวัญให้อีกฝ่ายหวาดผวา สุพิชญาสะดุ้งตกใจเล็กน้อยก่อนแหงนเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของคำถาม เธอต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายถามว่าเขาเป็นใคร และเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ไม่ใช่เขา!
“ผมถามว่าคุณเป็นใคร ใครส่งคุณมา”
“โอ๊ย! ปล่อยนะ! ฉันเจ็บ! ” สุพิชญาอุทานลั่นเมื่อฝ่ามือใหญ่ขยุ้มท่อนแขนบอบบางแน่นก่อนกระชากเข้าหาเรือนร่างแข็งแกร่ง หญิงสาวทั้งตกใจและหวาดกลัวกับการกระทำและคำถามนั้น พยายามดิ้นรนขัดขืนฝืนตัวออกจากพันธนาการที่รึงรัดแน่นเสียจนร้าวระบมไปตลอดทั้งแขน
“ถ้าเจ็บก็บอกมาว่าใครส่งคุณมาฮะ!” ดิเอโกแสร้งตวาดเสียงดังลั่นเพื่อข่มขวัญหวังเพิ่มดีกรีความน่ากลัวให้อีกฝ่ายหลุดเผยความจริงออกมา แต่ทว่าสุพิชญากลับตวาดแว้ดกลับมาจนดิเอโกชะงักอึ้ง
“ฉันจะรู้ไหมเล่า” หญิงสาวหยุดหายใจหอบถี่หลังจากตวาดกลับไปสุดเสียง ดวงตาคู่หวานวาววับด้วยความขุ่นเคืองใจชายหนุ่มแปลกหน้าที่บอกแต่เพียงว่าชื่อ ดิเอโก
เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายจับตัวเธอมาใช้เล่ห์มารยาหลอกล่อพรากพรหมจรรย์ไปจากเธอ แล้วยังจะมีหน้ามาถามว่าเธอเป็นใคร ยิ่งคิดสุพิชญาก็ยิ่งแค้นใจที่ปล่อยตัวปล่อยใจเผลอไผลไปกับรสสวาทที่เขาปรนเปรอให้
“ตื่นมาก็เจอผู้ชายบ้ากามแถมยังโมโหร้ายอย่างคุณที่นี่ ฉันต่างหากที่ต้องถามว่าคุณเป็นใครไปจับฉันมาต้องการอะไร” สุพิชญาร่ายยาวเหยียดเมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงักค้าง หญิงสาวแทบอยากควักดวงตาคู่สนิมที่ฉายแววงุนงงสงสัยราวไม่รู้เรื่องนั้นออกมาขย้ำให้แหลกละเอียดให้สาแก่ใจ
“ว่าไงนะ” ดิเอโกเลิกคิ้วมองหญิงสาวตรงหน้าที่หาญกล้าว่าเขาเป็นผู้ชายบ้ากามและโมโหร้ายอย่างไม่เกรงกลัว แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านหรืองุนงงเท่ากับสิ่งที่หญิงสาวกล่าวหาว่าเขาเป็นฝ่ายลักพาตัวเธอมา“นี่คุณ! หูตึงรึไง ฉันถามคุณว่า คุณจับตัวฉันมาทำไม ฉันไม่มีเงินมากพอขนาดที่จะเรียกค่าไถ่ได้หรอกนะ” สุพิชญาสบถด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ดวงตาคู่งามวาววับอย่างไม่คิดเกรงกลัวสักนิด เจ้าพ่อหนุ่มถึงกับตะลึงอึ้งอีกครั้งกับวาจากล่าวหานั้น“ผมเนี่ยนะจับคุณมาเรียกค่าไถ่”“ถ้าไม่ใช่ แล้วคุณจะจับฉันมาทำไม ฉันไปทำอะไรให้คุณ” สุพิชญา ตวาดกลับเสียงขุ่น หญิงสาวจับจ้องผู้ชายที่ทำหน้าเหรอหราราวกับไม่รู้เรื่องใดๆ อย่างหมายมาดเอาเรื่องให้จงได้ผู้ชายบ้า! หน้าไม่อาย ข่มเหงรังแกฉันแล้วยังมีหน้ามาทำไม่รู้เรื่อง อย่าให้ฉันหลุดรอดออกไปได้นะ ฉันจะลากคอนายเข้าตะรางแน่ นายดิเอโก!ดิเอโกจ้องตอบอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาสีสนิมแปรเปลี่ยนเป็นเรืองรองยามหลุบต่ำจ้องมองเนินอกที่โผล่พ้นผ้าห่มผืนหนา อาการหายใจแรงๆ ทำให้เนินอกกระเพื่อมเคลื่อนไหววับๆ แวมๆ ล่อตาล่อใจให้อยากโน้มใบหน้าไปฝากฝังปลายจมูกซุกไซ้เฉกเช่นที่เคยสัมผัสมาเมื่อค่ำคืน“
“ดิเอโก! นี่คุณ!” สุพิชญาอุทานขานนามชายหนุ่มที่เธอรู้จักเพียงชื่อเขาอย่างตื่นตะลึง ดวงตาคู่งามเบิกกว้างจ้องมองเจ้าพ่อใหญ่อย่างไม่อยากเชื่อในคำพูดนั้น“ผมชื่อ ดิเอโก เค เวนนิส เจ้าพ่อบ่อนคาสิโนที่ใครๆ ก็ยอมสยบแทบเท้า ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธผม จำไว้!” ดิเอโกเหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน เขาไม่จำเป็นต้องต่อล้อต่อเถียงหรือพะเน้าพะนอเอาใจใคร ในเมื่ออะไรที่เขาต้องการเขาต้องได้เสมอเธอไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่เขาขึ้นเตียงด้วย แม้จะติดใจในรสสวาท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องสยบแทบเท้าและปล่อยให้เธอแผลงฤทธิ์ใส่เขาอย่างไม่กลัวเกรงสุพิชญายิ่งตะลึงหนักขึ้นเมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวเองเสียเต็มยศ คำว่า ‘เจ้าพ่อบ่อนคาสิโน’ กระตุกใจดวงน้อยได้ดีทีเดียว แต่ทว่าคนอย่างสุพิชญาหรือจะยอมลงให้ใครง่ายๆ หากเธอถูกระรานเธอก็จะต่อต้านสุดฤทธิ์เช่นกัน“คุณไม่กล้าแน่ดิเอโก ฉันไม่ใช่คนจรจัดที่คุณจะจับมัดมือขายทอดตลาดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย หากฉันหายไป คนที่บ้านฉันเขาต้องแจ้งความและตามหา อีกไม่นานคุณก็จะถูกตำรวจจับแน่นอน”เมื่อเอ่ยวาจาท้าทายไปแล้วหญิงสาวก็ต้องกล้ำกลืนก้อนแข็งๆ ที่แล่นขึ้นมาจุกแน่นตรงลำคอ ความจริงที่เธอรู้ดี ไม
ทางเดินด้านหน้าเป็นถนนเส้นยาวที่ไกลสุดหูสุดตาไม่อาจคาดเดาได้ว่าปลายทางไปบรรจบลงตรงที่ใด สองข้างทางถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกสีขาวจางที่พอรวมตัวกันทำให้มองรอบข้างได้ไม่ชัดเจนนัก หญิงสาวพยายามเพ่งมองไปข้างหน้าตามเส้นทางที่พอมองเห็นเลือนลาง เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ที่ใดแล้วใครๆ หายไปไหนกันหมด หญิงสาวพยายามเปล่งเสียงเพื่อตะโกนเรียกหาใครสักคนแต่กลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา สุพิชญารู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาในใจลึกๆ พลันสายตาก็เริ่มมองเห็นใครคนหนึ่งเดินอยู่ด้านหน้าไม่ไกลนัก หญิงสาวพยายามวิ่งตามแต่ไม่รู้เรี่ยวแรงหายไปไหน ภาพเบื้องหน้าค่อยๆ ไกลออกไปแต่กลับยิ่งชัดเจนในดวงตาคู่งาม‘พี่ติ’สุพิชญาส่งเสียงเรียกชายหนุ่มตรงหน้าแผ่วเบาแต่เหมือนเขาจะได้ยินเสียงเรียกนั้น เขาหันกลับมามองเธอ ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน คล้ายกับว่าเขากำลังพูดอะไรสักอย่างกับเธอ หญิงสาวพยายามตั้งใจฟัง เสียงที่ลอยมาแผ่วเบาแต่เธอรู้สึกเหมือนมันดังก้องอยู่ในหัว‘พิชชา... พี่รักเธอ’ได้ยินเท่านั้นพลันสุพิชญาก็รู้สึกราวถูกตีอย่างแรงที่หัว ความรู้สึกหมุนคว้างดังกำลังตกจากที่สูง แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป เธอก็รู้สึกสะดุ้งสุดตัวแกร๊
เสียงปรบมือกับเสียงโห่ร้องดังกึกก้องกังวานจนสุพิชญารู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งใจ ยามนี้หญิงสาวรู้สึกดวงตาทั้งสองข้างพร่ามัวไปด้วยธารน้ำตาที่เอ่อล้นจนแทบจะไหลริน มือน้อยขย้ำผ้าปูแสนสวยแน่นเมื่อตระหนักถึงชะตากรรมที่กำลังเผชิญ เวรกรรมใดหนอถึงนำพาให้เธอต้องเจอแต่ความเจ็บแค้นแสนสาหัสเช่นนี้“เชิญครับคุณผู้หญิง” เสียงทุ้มกังวานของบุรุษเพศเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อมฉุดดึงให้สุพิชญาหลุดออกจากห้วงความคิด หญิงสาวรีบกระพริบเปลือกตาขับไล่น้ำตาแห่งความรันทดให้ไหลคืนกลับสู่ภายใน เธอไม่ต้องการเรียกร้องความเห็นใจใด และไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เป็นที่น่าสังเวชในสายตาของคนพวกนี้“คุณจะพาฉันไปไหน” สุพิชญาถามด้วยเสียงห้วนสั้นออกกร้าวกระด้างเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำยืนตระหง่านอยู่ด้านหน้าคนพวกนี้อีกแล้ว ทำไมพวกจิตใจทรามต่ำช้าถึงต้องสวมใส่ชุดสูทเหล่านี้ให้มันเสื่อมเสียด้วยนะ คิดจะทำชั่วแต่กลัวถูกตราหน้ารึไงถึงต้องมาสวมใส่สูทให้มันดูดี! สุพิชญาคิดอย่างแค้นเคืองในใจ ตั้งแต่เธอตื่นขึ้นมาเมื่อเช้าวันใหม่เธอเจอแต่คนในสูทสีดำจนมันดูกราดเกลื่อนไปหมด“เดฟให้พวกเรามาเชิญคุณไปที่ เดอะลัส!” หนึ่งในสองคนเอ่ยขึ้นด้วยเ
“ดิเอโกคะ แล้วโจว์” เฮเลนถามขึ้นหลังจากที่เควินก้าวออกไปแล้ว เจ้าพ่อใหญ่ตวัดสายตามองโจว์ที่ยืนก้มหน้านิ่งเพียงนิดก็เอ่ยปากสั่งการบอดี้การ์ดสาว“ให้คนไปส่งที่สนามบิน” น้ำเสียงนั้นราบเรียบไม่บ่งบอกว่ารู้สึกอย่างไร แต่กลับสร้างความหนักใจให้กับบอดี้การ์ดสาวที่ตามติดรับใช้ใกล้ชิดเจ้าพ่อใหญ่ อะไรบางอย่างในตัวของโจว์ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาไม่น่าไว้วางใจ“แต่ว่า...ดิเอโก” เฮเลนพยายามท้วงติงให้เขาไตร่สวนโจว์ให้มากกว่านี้ แต่ทว่าดิเอโกกลับตวาดด้วยเสียงดุกร้าวจนเธอไม่อาจทัดทานได้“ทำตามที่ฉันสั่ง เฮเลน”“ค่ะดิเอโก” เฮเลนจำใจน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี เมื่อเจ้านายตวาดกร้าวพร้อมกำกับด้วยสายตาดุเข้ม บอดี้การ์ดสาวถอยฉากพลางผายมือเชื้อเชิญชายหนุ่มนามว่าโจว์เพื่อพาเขาไปส่งยังจุดหมายตามคำสั่งการ“ขอบคุณครับดิเอโก ผมรู้สึกละอายใจ” โจว์ก้มศีรษะเพียงนิดยามเอ่ยคำ ดิเอโกมองคนที่เอ่ยสำนึกผิดก่อนเอ่ยตัดบท เพราะยามนี้เขามีสิ่งที่ต้องทำมากกว่ามาคาดคั้นเอาความผิดใคร“ช่างเถอะ! สิ่งผิดพลาดฉันจะแก้ไขด้วยตัวฉันเอง นายไปได้แล้วโจว์”“ครับดิเอโก” โจว์รับคำก่อนโค้งคำนับแล้วถอยหลังก่อนเดินตามเฮเลนออกไป ชายหนุ่มคล้ายจะกระตุกยิ้
สุพิชญาสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงม่านโมบายดังขึ้นบ่งบอกว่าเจ้าพ่อผู้น่าเกรงขามได้ก้าวผ่านเข้ามายังตัวห้องด้านในแล้ว หญิงสาวเฝ้าภาวนาขอให้เขาเห็นใจและฟังคำร้องขอจากเธอ“อยู่นี่เองรึสาวน้อย คุณทำให้ผมเสียเวลาตามหารู้ไหม” เสียงทุ้มดูน่าฟังดังขึ้นด้านหลังขณะที่สุพิชญายืนนิ่งตัวเกร็งด้วยความหวาดหวั่น หากเป็นยามปกติเธอคงหลงใหลไปกับน้ำเสียงชวนอบอุ่นนั้น แต่ทว่าไม่ใช่ยามนี้ที่น้ำเสียงนั้นช่างดุจดั่งเสียงของราชสีห์ที่จ้องตระครุบเหยื่อในความรู้สึกของสุพิชญา“ไหนขอมองคุณใกล้ๆหน่อยสิ อยากรู้ว่าจะสวยเหมือนตอนที่อยู่บนเวทีไหม” เดฟช่างทอดเสียงทุ้มได้นุ่มนวลน่าฟังนักยามเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ จนแผงอกกว้างใต้เสื้อคลุมตัวโคร่งแทบแนบชิดแผ่นหลังบอบบางของสุพิชญา“ว้าว! สวยมาก!” เสียงนั้นบ่งบอกความตื่นตาตื่นใจยิ่งนักยามเมื่อ ฝ่ามือร้อนผ่าวเกาะกุมไหล่บอบบางแล้วเหนี่ยวรั้งหมุนร่างของสุพิชญาให้หันมาเผชิญหน้า“สวยจนไม่อยากเชื่อว่าดิเอโกจะขายคุณได้ลงคอ” น้ำเสียงติดจะเยาะหยันอยู่ในทีเมื่อปลายนิ้วแกร่งเชยคางมนของสุพิชญาให้แหงนเงยใบหน้าหวานล้ำขึ้นเพื่อเขาจะได้ชื่นชมความงามบนใบหน้านั้นอย่างเต็มตาสุพิชญาลอบกลื
“สวัสดีครับคุณดิเอโก... รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้ต้อนรับคุณที่นี่ฮ่าๆๆ” เดฟหัวเราะเสียงดังลั่นเมื่อยามปรากฏกายตรงเชิงบันไดของตัวตึก เสียงนั้นฉุดให้ดิเอโกและเควินที่ยืนจังก้าอยู่กลางโถงมีลูกน้องของเดฟห้อมล้อมเป็นด่านกักกั้นโดยรอบต่างพากันหันไปมองทันทีเดฟส่งสัญญาณให้ลูกน้องกระจายตัวออกแล้วก้าวลงมายืนเผชิญหน้ากับดิเอโกอย่างไม่หวั่นเกรง“ฉันมารับตัวผู้หญิงของฉันคืน” ดิเอโกเอ่ยทันที เจ้าพ่อใหญ่เช่นเขาไม่เคยเกรงกลัวคนอย่างเดฟแม้แต่นิด และไม่เคยคิดจะล้ำเส้นให้เขม่นกันมากกว่าที่เป็นอยู่ แม้ตลอดเวลาเดฟจะคอยตั้งท่าหาเรื่องอยู่เนืองนิตย์“โอ๊ว... ว้าว! ผู้หญิงของคุณ ใครไม่ทราบครับคุณดิเอโก ที่นี่มีแต่ผู้หญิงของผมเท่านั้น! ฮ่าๆๆ” เดฟยังคงหัวเราะร่าราวกับว่ากำลังพูดคุยเรื่องขบขัน แต่น้ำเสียงและสีหน้าท่าทางแสดงอาการเย้ยหยันดิเอโกสุดใจ“นี่เงินของนายเอาคืนไปแล้วส่งตัวผู้หญิงของฉันคืนมา” ดิเอโกโยนกระเป๋าในมือออกไปตรงหน้าเดฟ ลูกน้องที่รุมล้อมระวังภัยขยับหมายเข้าชาร์ตตัวฝ่ายตรงข้ามแต่เดฟยกมือสั่งห้ามไว้“ฮะ ฮะ ฮ่า มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ ฉันอุตส่าห์ลงแข่งประมูลกว่าจะได้มา แต่นายกลับจะมาโยนเงินนี่ใส่
“กรี๊ดดด... ดิเอโก! อย่าเข้ามา ได้โปรด... ออกไป” เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนพร้อมเสียงตะโกนก้องร้องห้ามเขาดังไปทั่วบริเวณ ดิเอโกแทบถลาเข้าหาเจ้าของเสียงนั้น แต่ทว่ากลับมีกรงเหล็กขวางกั้นทำให้เขาไม่อาจเข้าไปหาคนที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญได้“ดาราเดล! รอหน่อยนะฉันจะช่วยเธอเอง” ดิเอโกตะโกนก้องบอกคนที่กำลังร้องไห้อย่างเสียขวัญ รอบกายถูกพันธนาการด้วยสายไฟระโยงระยางไปหมด นั่นไม่ร้ายเท่ามีระเบิดเวลาผูกติดแน่นอยู่กับตัวเธอจนเขาร้อนรนแทบทนไม่ได้ดิเอโกทำทุกวิถีทางที่จะเข้าช่วยหญิงสาว ทั้งทุบทั้งงัดกรงเหล็กที่ขวางกั้นจนมือแตกเลือดไหลอาบมือเต็มไปหมด แต่ทว่า...บึ้ม! ตูม!!“ดาราเดล! ม่ายยยยย!! ” ดิเอโกตะโกนก้องร้องเรียกหญิงสาวที่รักด้วยหัวใจที่แตกสลายเมื่อได้เห็นเปลวไฟลุกทั่วร่างท่ามกลางเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินยามโขกศีรษะกับกรงเหล็กอย่างบ้าคลั่ง ท้ายสุดก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดสิ้น เขาก็รู้สึกราวศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง“ดาราเดล!” ดิเอโกตะโกนก้องก่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกคล้ายหล่นวูบลงไปในหุบเหวลึกเจ้าพ่อใหญ่ลืมตาโพลงทันทีอย่างตกใจ เรือนกายแกร่งผุดลุกขึ้นนั่งทันควันเมื่อพบว่าเ