กายสาวกระตุกเฮือกราวหวาดผวาเมื่อยอดดอกบัวงามสัมผัสถึงความร้อนชื้นในโพรงปากนุ่มที่เข้าครอบครองดื่มด่ำราวกำลังหิวกระหายหลังจากฝ่ามือร้อนระอุบรรจงสรรค์สร้างให้ก้อนเนื้อนุ่มกลายเป็นดอกบัวคู่งามชูชันแข่งกันอวดโฉมรอเหล่าภมรมาคลอเคล้า
เสียงหวีดร้องขัดขืนแปรเปลี่ยนเป็นครวญครางกระเส่าด้วยรู้สึกเร่าร้อนไปทั้งกายและใจยามทั้งมือและอุ้งปากที่เต็มไปด้วยธารน้ำอุ่นซ่านสลับสับกันคลึงเคล้าด้วยท่วงทำนองที่สอดประสานกันราวกำลังบรรจงสรรค์สร้างดอกบัวคู่งามให้เป็นงานศิลป์อันตระการตา
แรงขัดขืนค่อยๆ ลดน้อยถอยลงจนแทบมลายหายไปสิ้น ทั้งที่ใจอยากต่อต้านแต่กายกลับไหวสะท้านสั่นระริกไปกับสัมผัสแปลกใหม่จากชายแปลกหน้าชนิดที่หญิงสาวผู้รักนวลสงวนตัวอย่าง สุพิชญา นาฏดิลก ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้
เรียวแขนอันงดงามผวาเข้ากอดรัดต้นคอแกร่งแน่นอย่างหวาดผวา เพราะเพียงฝ่ามือใหญ่ปลดปล่อยข้อมือน้อยทั้งสองข้างให้หลุดออกจากพันธนาการ เรือนร่างบอบบางก็ถูกผลักให้นอนราบทาบทับลงไปกับเตียงกว้าง ทุกการกระทำช่างรวดเร็วเสียจนหญิงสาวไม่มีโอกาสดึงสติให้กลับมาสมบูรณ์พร้อม เพียงเธอผวาเกาะกอด เรือนกายแข็งแกร่งก็โน้มทาบทับลงมาและเริ่มรุกเร้าอย่างย่ามใจด้วยฝ่ามือใหญ่ที่แสนเร่าร้อน
ใบหน้าคมซบซุกไม่ห่างจากทรวงอกนุ่มหยุ่นยามฝ่ามืออันร้อนระอุทั้งสองข้างกอบกุมดอกบัวคู่งามส่งมอบสัมผัสอันซาบซ่านให้เรือนกายแสนบริสุทธิ์ ท่อนขาแข็งแกร่งขยับเบี่ยงให้เรียวขางามเป็นอิสระเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการ เจ้าพ่อใหญ่ผู้ช่ำชองในท่วงทำนองรักขยับแทรกเข้าระหว่างกลางเรียวขางามทันทีที่เรียวขาข้างหนึ่งตั้งชันขึ้นราวต้องการถีบตัวส่งให้หลุดพ้นจากสัมผัสรัญจวนใจ
ดิเอโก เค เวนนิส เจ้าพ่อใหญ่แห่งคาสิโนอันดับต้นๆ ของโลก ผู้โชกโชนในทุกสนามโดยเฉพาะสนามรัก เขาเปรียบประดุจกระทิงถึกที่คึกคะนองยิ่งได้คู่ประลองที่ถูกใจก็ยิ่งลิงโลดโผดโผน เจ้าพ่อหนุ่มแทบอยากกระโจนเข้าใส่เมื่อร่างน้อยดิ้นทุรนทุรายราวแทบจะขาดใจเมื่อเขารุกไล่ส่งมอบสัมผัสหวามไหวไปทั่วทุกตารางนิ้วบนเรือนร่าง เสียงหวานที่ครวญครางอย่างลืมอายยามถูกกระตุ้นจุดกระสัน เจ้าพ่อหนุ่มก็ยิ่งโรมรันอย่างย่ามใจ
“เป็นอะไรไปล่ะครับ ทำไมไม่ตบผมอีกล่ะครับคนเก่ง” เสียงทุ้มแหบห้าวสั่นพร่ากระซิบชิดกลีบปากอวบอิ่มที่เผยอแย้มระบายความหวามไหวซาบซ่านที่อัดแน่นภายในกาย ดวงตาคู่สีสนิมจับจ้องดวงตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยประกายแห่งไฟปรารถนายามปรือตาขึ้นจับจ้องเจ้าของเสียงทุ้ม เจ้าพ่อหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างพอใจในผลงาน
“มองผมแบบนี้หมายความว่าไงครับ” เสียงทุ้มกระซิบกระซาบริมใบหู ลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดสร้างความรู้สึกประหลาดล้ำจนหญิงสาวต้องกระถดถอยเบี่ยงศีรษะหนี แต่กลายเป็นเปิดช่องให้คนที่ช่ำชองกว่าฝากฝังปลายจมูกโด่งลงตรงซอกคอกรุ่น ตามติดด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวส่งมอบจุมพิตพร่างพรมไปทั่วลำคอระหงและหยุดจุมพิตเนิ่นนานตรงแอ่งชีพจร
กายสาวดิ้นเร่ากับสัมผัสแสนวาบหวามสุดใจนั้นจนไม่อาจสะกดกลั้นอารมณ์ปรารถนาอีกต่อไป หลังจากถูกจุดไฟจนเพลิงพิศวาสลุกโชนจนยากดับได้ ยามนี้หญิงสาวสิ้นไร้ความเขินอายบิดกายแอ่นอกเข้าบดเบียดเสียดสีกับแผงอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อหนาแน่นราวต้องการให้อาการรุ่มร้อนทุเลาลง แต่ก็เพียงช่วยผ่อนคลายให้เบาบางลงเพียงชั่วขณะ
“คะ...คุณ! ฉะ...ฉัน! อื้อ... ” เสียงหวานออกอาการตะกุกตะกักเมื่อใจหนึ่งอยากให้เขาหยุดการกระทำ แต่อีกใจหนึ่งกลับอยากให้เขาเดินหน้าต่อเพื่อดับเพลิงพิศวาสที่กำลังแผดเผาเธอเสียจนรุ่มร้อนไปทั้งกายและใจ แต่เพียงแค่เขาผละออกห่างเรือนร่างบอบบางก็ผวาเข้าบดเบียดแนบแน่นราวกลัวอีกฝ่ายหลุดลอยหายไป แล้วเธออาจขาดใจตายด้วยความทุกข์ทรมานแสนหวานนี้
“ผมชื่อดิเอโก” เจ้าพ่อหนุ่มกระซิบบอกชื่อของตัวเองราวกับเป็นเรื่องสำคัญเสียเหลือเกินในยามนี้ ทั้งที่เขาควรรุดหน้าต่อไปให้ถึงฝั่งฝันโดยเร็ว ในเมื่ออีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งไฟปรารถนา แต่ทว่าเขาต้องการให้ทุกช่วงจังหวะดำเนินไปอย่างช้าๆ เพราะเขายังไม่อยากให้ช่วงเวลาแสนหวานนี้จบสิ้นเร็ว
เจ้าพ่อหนุ่มยอมรับว่าตั้งแต่เขามีสัมพันธ์สวาทแนบแน่นกับสาวงามมากหน้าหลายตา ไม่มีคนไหนที่เขารู้สึกติดใจเพียงแค่ได้สัมผัสคลึงเคล้าคลอเคลียเช่นนี้ เขาอยากดื่มด่ำกับความหอมหวานทั่วเรือนร่างให้นานเท่านานมากกว่าสอดประสานให้เป็นหนึ่งเดียว
“คุณดะ...ดิเอโก” สุพิชญาเอ่ยขานนามนั้นด้วยกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความหวามไหว แม้ใจอยากผลักไสอยากต่อต้านแต่เรือนกายกลับเรียกร้องอยากให้เขาสัมผัสแนบแน่นยิ่งขึ้น
“เรียกผมว่า ดิเอโกที่รัก สิครับยาหยี แล้วผมจะทำให้คุณหายทรมาน” เจ้าพ่อหนุ่มกระซิบสั่งด้วยเสียงสั่นพร่าเมื่อเรือนร่างแสนงดงามตรงหน้าบิดเร่าราวกำลังทุกข์ทรมาน
“ฉะ...ฉัน มะ...ไม่” สุพิชญาส่ายหน้าไปมาราวต้องการสกัดกลั้นอารมณ์ปรารถนาที่กำลังล้นทะลักจนกลายเป็นความทรมานที่แสนหวาน สติส่วนลึกย้ำเตือนให้ต่อต้านและยับยั้งสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นให้จบลง เขาเป็นใครมาจากไหนเธอจะปล่อยให้ไฟราคะมาเผาผลาญจนขาดสามัญสำนึกเช่นนี้ไม่ได้
“ทำไมล่ะครับ หรือคุณอยากให้ผมหยุด” เจ้าพ่อหนุ่มหรี่ตามองอาการกระสับกระส่ายของคนใต้เรือนร่างอย่างพอใจ เขารู้ว่าหญิงสาวพยายามขัดขืนฝืนความรู้สึก แต่คนมากด้วยประสบการณ์อย่างเขาหรือจะยอมให้ง่ายๆ ฝ่ามือใหญ่ผละออกจากดอกบัวตูมที่ตื่นตัวเต็มที่ด้วยฝีมือจิตรกรเอกเช่นเขา ฝ่ามือนั้นค่อยๆ ลากเลื่อนต่ำลงไปตามเอวคอดและเข้าครอบครองลูบไล้ผิวเนียนนุ่มของสะโพกกลมมนแล้วลากไล้ไปวนกระตุ้นจุดที่ไวต่อสัมผัสจนกายสาวไหวสะท้านสั่นระริกกับสัมผัสแสนรัญจวนใจนั้น
“ดิเอโกขา... อย่า!” สุพิชญาพยายามออกปากห้ามแต่กลายเป็นขานนามนั้นด้วยเสียงหวานปนสั่นพร่าอย่างลืมตัวเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มรัวปลายนิ้วกระตุ้นจุดกระสันที่ชูชันพลิ้วไหวตอบรับด้วยความหวามไหว
“หืม... เรียกผมว่าไงนะครับ” เจ้าพ่อใหญ่ทอดสายตามองผลงานที่จิตรกรเอกอย่างเขาเฝ้าปั้นแต่งด้วยความพึงพอใจ ยิ่งได้ยินเสียงเอ่ยขานนามเขาราวจะขาดใจทำให้เขามั่นใจว่าเจ้าของเรือนกายแสนงดงามนี้จะยินยอมพร้อมใจไปกับเขามากกว่าจะคิดต่อต้าน
“ดะ...ดิเอโกที่รัก ได้โปรด... ”
“ได้สิครับ ผมตามใจคุณยาหยี” เจ้าพ่อหนุ่มกระซิบตอบรับทันทีที่ได้ยินวาจาออดอ้อนวอนขอนั้นด้วยรู้ทันทีว่าหญิงสาวต้องการให้เขาทำสิ่งใด
“ดิเอโกคะ ฉะ...ฉัน ไม่เคย” สุพิชญาหลุบหลบตายามเอ่ยบอกเขาด้วยเสียงตะกุกตะกักอย่างขัดเขิน มือน้อยเหนี่ยวรั้งต้นคอแกร่งมั่นเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มขยับจะถอยห่างเพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจตามคำขอ
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณรับแขกต่างชาติแบบผม มันไม่ต่างกันหรอกผมรับรองว่าเราจะเข้ากันได้ดี”
“คุณ! ฉันไม่!” สุพิชญาอุทานตาโตเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มเข้าใจไปอีกทาง มือน้อยผละออกจากต้นคอแกร่งมาทาบทับแผงอกกว้างพยายามผลักไส เรือนกายหนาแน่นให้ออกห่าง แต่อีกฝ่ายกลับเข้าใจว่าหญิงสาวเกิดอาการหวาดผวากับสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากวินาทีนี้
“ชู่ว! อย่ากลัวสิครับ”
“ดิเอโกคะ ฉัน อุ๊ย!” สุพิชญาเว้าวอนเมื่อเจ้าพ่อหนุ่มรวบมือน้อยแล้วดึงรั้งต่ำลงไปด้านล่าง ท้ายประโยคหญิงสาวอุทานอย่างตกใจดวงตาที่เบิกกว้างอยู่แล้วยิ่งเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อมือน้อยถูกบังคับให้สัมผัสจับต้องชิ้นส่วนของร่างกายที่ผงาดกล้าอวดความยิ่งใหญ่อย่างอหังการ์
“เห็นไหม... มันก็เหมือนๆ กับที่คุณเคยสัมผัส มันอาจจะใหญ่กว่าแต่ผมสัญญาว่าคุณกับมันจะเข้ากันได้ดี” ดิเอโกกระซิบปลอบประโลมดวงตา สีสนิมจับจ้องดวงตาคู่หวานราวต้องการถ่ายทอดความอบอุ่นไปให้“ดะ...ดิเอโก ฉันไม่” สุพิชญาพยายามทักท้วงว่าเขากำลังเข้าใจผิด แต่สติแทบหลุดเมื่ออีกฝ่ายจับกุมมือน้อยของเธอไว้มั่นไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังบังคับให้ขยับเขยื้อนลูบคลำส่วนนั้นของร่างกายที่กำลังตื่นตัวตอบรับสัมผัสจากเธออย่างเริงร่า“ปะ...ปล่อย! ได้โปรด... ” สุพิชญาพยายามวิงวอนอีกครั้ง ใจดวงน้อยทั้งหวาดหวั่นและหวามไหว ใจหนึ่งใคร่อยากรู้อยากเห็นอยากลิ้มลองสัมผัสแสนวาบหวามนี้ต่อไปไม่สิ้นสุด แต่ใจหนึ่งยื้อยุดให้ตระหนักถึงศีลธรรมอันดีงาม ยามนี้ไฟราคะกำลังปะทะกับสำนึกฝ่ายดีจนหญิงสาวแทบอยาก กรีดร้องระบายความอึดอัดที่แสนทรมานนั้นให้หมดไป“มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้ผมถอยง่ายๆ ได้ไงยาหยี” เจ้าพ่อใหญ่กระซิบด้วยเสียงแหบพร่า ปล่อยมือน้อยให้เป็นอิสระแล้วเปลี่ยนเป้าหมายลากไล้ทักทายจุดกระสันเพื่อสร้างความซาบซ่านให้อีกฝ่ายทันที“ดะ...ดิเอโก อย่า... อื้อ!” เสียงหวานขยับจะทักท้วงแต่เพียงแค่เอ่ยห้ามปลายเสียงก็กลับกลายเป็นครวญครางเมื่อเจ้
“แกว่าอะไรนะเควิน” เจ้าพ่อใหญ่ตวาดกร้าวราวกำลังเกรี้ยวกราดอย่างสุดแสนเควิน เมดิสัน ผู้เป็นทั้งคนสนิทและมือขวาของ ดิเอโก เค เวนนิส เจ้าพ่อบ่อนคาสิโนผู้ยิ่งใหญ่ ได้แต่ยืนก้มหน้าสงบนิ่งอย่างยอมรับความผิดพลาดในงานที่ได้รับมอบหมาย ดวงตาสีน้ำทะเลภายใต้แว่นกันแดดสีดำสนิทมองผ่านเลนส์แว่นนั้นจับจ้องที่ผืนพรมนิ่งไม่ไหวติง“มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง” ดิเอโกเค้นเสียงถามอย่างหงุดหงิดใจเมื่อลูกน้องคู่ใจเอาแต่สงบเงียบ เจ้าพ่อใหญ่หัวเสียกับสิ่งที่ได้รับรู้เมื่อแรกอรุณของวันใหม่ ทั้งที่เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนอิ่มเอมใจ หญิงสาวแสนบริสุทธิ์ผู้เร่าร้อนทำให้กระทิงถึกอย่างเขาคึกคะนองจนแทบไม่ได้หลับนอนตลอดทั้งคืน“เจ๊ใหญ่บอกว่าผู้หญิงที่เจ๊ส่งตัวมาเกิดหลงทางเลยมาถึงที่นัดหมายช้ากว่ากำหนด แล้วแบตเตอรี่มือถือก็หมดเลยทำให้ติดต่อกันไม่ได้ครับ ดิเอโก”“แล้วผู้หญิงที่นายพามาเป็นใคร” เจ้าพ่อใหญ่ขมวดคิ้วมุ่นยามตวัดสายตาคมกล้าจับจ้องลูกน้องคนสนิทอย่างคาดคั้น เขาไว้วางใจให้เควินทำงานให้นับครั้งไม่ถ้วนทั้งงานใหญ่งานเล็ก เควินไม่เคยผิดพลาด แต่ทว่าครั้งนี้เควินกลับพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย“ไม่ทรา
“ว่าไงนะ” ดิเอโกเลิกคิ้วมองหญิงสาวตรงหน้าที่หาญกล้าว่าเขาเป็นผู้ชายบ้ากามและโมโหร้ายอย่างไม่เกรงกลัว แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านหรืองุนงงเท่ากับสิ่งที่หญิงสาวกล่าวหาว่าเขาเป็นฝ่ายลักพาตัวเธอมา“นี่คุณ! หูตึงรึไง ฉันถามคุณว่า คุณจับตัวฉันมาทำไม ฉันไม่มีเงินมากพอขนาดที่จะเรียกค่าไถ่ได้หรอกนะ” สุพิชญาสบถด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ดวงตาคู่งามวาววับอย่างไม่คิดเกรงกลัวสักนิด เจ้าพ่อหนุ่มถึงกับตะลึงอึ้งอีกครั้งกับวาจากล่าวหานั้น“ผมเนี่ยนะจับคุณมาเรียกค่าไถ่”“ถ้าไม่ใช่ แล้วคุณจะจับฉันมาทำไม ฉันไปทำอะไรให้คุณ” สุพิชญา ตวาดกลับเสียงขุ่น หญิงสาวจับจ้องผู้ชายที่ทำหน้าเหรอหราราวกับไม่รู้เรื่องใดๆ อย่างหมายมาดเอาเรื่องให้จงได้ผู้ชายบ้า! หน้าไม่อาย ข่มเหงรังแกฉันแล้วยังมีหน้ามาทำไม่รู้เรื่อง อย่าให้ฉันหลุดรอดออกไปได้นะ ฉันจะลากคอนายเข้าตะรางแน่ นายดิเอโก!ดิเอโกจ้องตอบอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาสีสนิมแปรเปลี่ยนเป็นเรืองรองยามหลุบต่ำจ้องมองเนินอกที่โผล่พ้นผ้าห่มผืนหนา อาการหายใจแรงๆ ทำให้เนินอกกระเพื่อมเคลื่อนไหววับๆ แวมๆ ล่อตาล่อใจให้อยากโน้มใบหน้าไปฝากฝังปลายจมูกซุกไซ้เฉกเช่นที่เคยสัมผัสมาเมื่อค่ำคืน“
“ดิเอโก! นี่คุณ!” สุพิชญาอุทานขานนามชายหนุ่มที่เธอรู้จักเพียงชื่อเขาอย่างตื่นตะลึง ดวงตาคู่งามเบิกกว้างจ้องมองเจ้าพ่อใหญ่อย่างไม่อยากเชื่อในคำพูดนั้น“ผมชื่อ ดิเอโก เค เวนนิส เจ้าพ่อบ่อนคาสิโนที่ใครๆ ก็ยอมสยบแทบเท้า ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธผม จำไว้!” ดิเอโกเหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน เขาไม่จำเป็นต้องต่อล้อต่อเถียงหรือพะเน้าพะนอเอาใจใคร ในเมื่ออะไรที่เขาต้องการเขาต้องได้เสมอเธอไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่เขาขึ้นเตียงด้วย แม้จะติดใจในรสสวาท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องสยบแทบเท้าและปล่อยให้เธอแผลงฤทธิ์ใส่เขาอย่างไม่กลัวเกรงสุพิชญายิ่งตะลึงหนักขึ้นเมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวเองเสียเต็มยศ คำว่า ‘เจ้าพ่อบ่อนคาสิโน’ กระตุกใจดวงน้อยได้ดีทีเดียว แต่ทว่าคนอย่างสุพิชญาหรือจะยอมลงให้ใครง่ายๆ หากเธอถูกระรานเธอก็จะต่อต้านสุดฤทธิ์เช่นกัน“คุณไม่กล้าแน่ดิเอโก ฉันไม่ใช่คนจรจัดที่คุณจะจับมัดมือขายทอดตลาดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย หากฉันหายไป คนที่บ้านฉันเขาต้องแจ้งความและตามหา อีกไม่นานคุณก็จะถูกตำรวจจับแน่นอน”เมื่อเอ่ยวาจาท้าทายไปแล้วหญิงสาวก็ต้องกล้ำกลืนก้อนแข็งๆ ที่แล่นขึ้นมาจุกแน่นตรงลำคอ ความจริงที่เธอรู้ดี ไม
ทางเดินด้านหน้าเป็นถนนเส้นยาวที่ไกลสุดหูสุดตาไม่อาจคาดเดาได้ว่าปลายทางไปบรรจบลงตรงที่ใด สองข้างทางถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกสีขาวจางที่พอรวมตัวกันทำให้มองรอบข้างได้ไม่ชัดเจนนัก หญิงสาวพยายามเพ่งมองไปข้างหน้าตามเส้นทางที่พอมองเห็นเลือนลาง เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ที่ใดแล้วใครๆ หายไปไหนกันหมด หญิงสาวพยายามเปล่งเสียงเพื่อตะโกนเรียกหาใครสักคนแต่กลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา สุพิชญารู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาในใจลึกๆ พลันสายตาก็เริ่มมองเห็นใครคนหนึ่งเดินอยู่ด้านหน้าไม่ไกลนัก หญิงสาวพยายามวิ่งตามแต่ไม่รู้เรี่ยวแรงหายไปไหน ภาพเบื้องหน้าค่อยๆ ไกลออกไปแต่กลับยิ่งชัดเจนในดวงตาคู่งาม‘พี่ติ’สุพิชญาส่งเสียงเรียกชายหนุ่มตรงหน้าแผ่วเบาแต่เหมือนเขาจะได้ยินเสียงเรียกนั้น เขาหันกลับมามองเธอ ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน คล้ายกับว่าเขากำลังพูดอะไรสักอย่างกับเธอ หญิงสาวพยายามตั้งใจฟัง เสียงที่ลอยมาแผ่วเบาแต่เธอรู้สึกเหมือนมันดังก้องอยู่ในหัว‘พิชชา... พี่รักเธอ’ได้ยินเท่านั้นพลันสุพิชญาก็รู้สึกราวถูกตีอย่างแรงที่หัว ความรู้สึกหมุนคว้างดังกำลังตกจากที่สูง แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป เธอก็รู้สึกสะดุ้งสุดตัวแกร๊
เสียงปรบมือกับเสียงโห่ร้องดังกึกก้องกังวานจนสุพิชญารู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งใจ ยามนี้หญิงสาวรู้สึกดวงตาทั้งสองข้างพร่ามัวไปด้วยธารน้ำตาที่เอ่อล้นจนแทบจะไหลริน มือน้อยขย้ำผ้าปูแสนสวยแน่นเมื่อตระหนักถึงชะตากรรมที่กำลังเผชิญ เวรกรรมใดหนอถึงนำพาให้เธอต้องเจอแต่ความเจ็บแค้นแสนสาหัสเช่นนี้“เชิญครับคุณผู้หญิง” เสียงทุ้มกังวานของบุรุษเพศเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อมฉุดดึงให้สุพิชญาหลุดออกจากห้วงความคิด หญิงสาวรีบกระพริบเปลือกตาขับไล่น้ำตาแห่งความรันทดให้ไหลคืนกลับสู่ภายใน เธอไม่ต้องการเรียกร้องความเห็นใจใด และไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เป็นที่น่าสังเวชในสายตาของคนพวกนี้“คุณจะพาฉันไปไหน” สุพิชญาถามด้วยเสียงห้วนสั้นออกกร้าวกระด้างเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำยืนตระหง่านอยู่ด้านหน้าคนพวกนี้อีกแล้ว ทำไมพวกจิตใจทรามต่ำช้าถึงต้องสวมใส่ชุดสูทเหล่านี้ให้มันเสื่อมเสียด้วยนะ คิดจะทำชั่วแต่กลัวถูกตราหน้ารึไงถึงต้องมาสวมใส่สูทให้มันดูดี! สุพิชญาคิดอย่างแค้นเคืองในใจ ตั้งแต่เธอตื่นขึ้นมาเมื่อเช้าวันใหม่เธอเจอแต่คนในสูทสีดำจนมันดูกราดเกลื่อนไปหมด“เดฟให้พวกเรามาเชิญคุณไปที่ เดอะลัส!” หนึ่งในสองคนเอ่ยขึ้นด้วยเ
“ดิเอโกคะ แล้วโจว์” เฮเลนถามขึ้นหลังจากที่เควินก้าวออกไปแล้ว เจ้าพ่อใหญ่ตวัดสายตามองโจว์ที่ยืนก้มหน้านิ่งเพียงนิดก็เอ่ยปากสั่งการบอดี้การ์ดสาว“ให้คนไปส่งที่สนามบิน” น้ำเสียงนั้นราบเรียบไม่บ่งบอกว่ารู้สึกอย่างไร แต่กลับสร้างความหนักใจให้กับบอดี้การ์ดสาวที่ตามติดรับใช้ใกล้ชิดเจ้าพ่อใหญ่ อะไรบางอย่างในตัวของโจว์ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาไม่น่าไว้วางใจ“แต่ว่า...ดิเอโก” เฮเลนพยายามท้วงติงให้เขาไตร่สวนโจว์ให้มากกว่านี้ แต่ทว่าดิเอโกกลับตวาดด้วยเสียงดุกร้าวจนเธอไม่อาจทัดทานได้“ทำตามที่ฉันสั่ง เฮเลน”“ค่ะดิเอโก” เฮเลนจำใจน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี เมื่อเจ้านายตวาดกร้าวพร้อมกำกับด้วยสายตาดุเข้ม บอดี้การ์ดสาวถอยฉากพลางผายมือเชื้อเชิญชายหนุ่มนามว่าโจว์เพื่อพาเขาไปส่งยังจุดหมายตามคำสั่งการ“ขอบคุณครับดิเอโก ผมรู้สึกละอายใจ” โจว์ก้มศีรษะเพียงนิดยามเอ่ยคำ ดิเอโกมองคนที่เอ่ยสำนึกผิดก่อนเอ่ยตัดบท เพราะยามนี้เขามีสิ่งที่ต้องทำมากกว่ามาคาดคั้นเอาความผิดใคร“ช่างเถอะ! สิ่งผิดพลาดฉันจะแก้ไขด้วยตัวฉันเอง นายไปได้แล้วโจว์”“ครับดิเอโก” โจว์รับคำก่อนโค้งคำนับแล้วถอยหลังก่อนเดินตามเฮเลนออกไป ชายหนุ่มคล้ายจะกระตุกยิ้
สุพิชญาสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงม่านโมบายดังขึ้นบ่งบอกว่าเจ้าพ่อผู้น่าเกรงขามได้ก้าวผ่านเข้ามายังตัวห้องด้านในแล้ว หญิงสาวเฝ้าภาวนาขอให้เขาเห็นใจและฟังคำร้องขอจากเธอ“อยู่นี่เองรึสาวน้อย คุณทำให้ผมเสียเวลาตามหารู้ไหม” เสียงทุ้มดูน่าฟังดังขึ้นด้านหลังขณะที่สุพิชญายืนนิ่งตัวเกร็งด้วยความหวาดหวั่น หากเป็นยามปกติเธอคงหลงใหลไปกับน้ำเสียงชวนอบอุ่นนั้น แต่ทว่าไม่ใช่ยามนี้ที่น้ำเสียงนั้นช่างดุจดั่งเสียงของราชสีห์ที่จ้องตระครุบเหยื่อในความรู้สึกของสุพิชญา“ไหนขอมองคุณใกล้ๆหน่อยสิ อยากรู้ว่าจะสวยเหมือนตอนที่อยู่บนเวทีไหม” เดฟช่างทอดเสียงทุ้มได้นุ่มนวลน่าฟังนักยามเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ จนแผงอกกว้างใต้เสื้อคลุมตัวโคร่งแทบแนบชิดแผ่นหลังบอบบางของสุพิชญา“ว้าว! สวยมาก!” เสียงนั้นบ่งบอกความตื่นตาตื่นใจยิ่งนักยามเมื่อ ฝ่ามือร้อนผ่าวเกาะกุมไหล่บอบบางแล้วเหนี่ยวรั้งหมุนร่างของสุพิชญาให้หันมาเผชิญหน้า“สวยจนไม่อยากเชื่อว่าดิเอโกจะขายคุณได้ลงคอ” น้ำเสียงติดจะเยาะหยันอยู่ในทีเมื่อปลายนิ้วแกร่งเชยคางมนของสุพิชญาให้แหงนเงยใบหน้าหวานล้ำขึ้นเพื่อเขาจะได้ชื่นชมความงามบนใบหน้านั้นอย่างเต็มตาสุพิชญาลอบกลื